คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 : บอส da*k soul
10 ปีต่อมา
ตอนนี้ ทามามะ เมตะ คนนี้อายุ 15 ปีแล้ว ตัวสูงใช้ได้ แถมยังค่อนข้างมั่นใจว่าหน้าตาดีพอตัว
หลังจากวันนั้นคุณนาโอโตะ ก็พาเรามาอยู่ด้วยที่ จังหวัด โทยามะ และฝึกเรามาตั้งแต่ตอนนั้น
เริ่มด้วย ของพื้นฐานอย่าง การฝึกร่างกาย และ การเพิ่มปริมาณกับการเอาท์พุตพลังเวท อีกทั้งยังมี เทคนิคการต่อสู้ด้วยมือเปล่า เทคนิคการใช้อาวุธต่างๆ อาคมพื้นฐาน-ระดับสูง ไปจนถึง อาคมตามกำเนิด และ เทคนิคต่อต้านอาณาเขต
ถึงแม้จะไม่มี อาคมย้อนกลับ แต่แค่นี้ก็สุดๆแล้ว
คุณนาโอโตะบอกเราว่า เรามันเป็นคนมีพรสวรรค์ มีปริมาณพลังเวทที่สูงมาก อีกทั้งยังเรียนรู้อาคมได้เร็ว แบบว่าเรามันอัจฉริยะละนะ แต่ก็มีพูดเหมือนกันว่าเราเรียนรู้ยาก ต้องได้เห็นของจริงก่อนเท่านั้นถึงจะเข้าใจ
ส่วนในเรื่องของคุณนาโอโตะ ชื่อเต็มเค้าคือ นาโอโตะ ดาเตะ สุดท้ายก็ชื่อเหมือน หน้ากากเสือจริงๆ
เป็นนักสาปแช่งที่เก่งพอตัว เทียบกับนักคุณไสยแล้วก็อยู่ประมาณระดับ 1 ถึงจะใช้ทำว่านักสาปแช่งแต่สิ่งที่ทำจริงๆคงต้องบอกว่าไม่เชิง
เพราะสิ่งที่คุณนาโอโตะทำคือ การรับเงินจากผู้ว่าจ้างแล้วล่าเฉพาะ พวกนักสาปแช่งด้วยกัน ไม่ได้ปัดเป่าคำสาปเป็นหลัก นี่แหละคือจุดต่างของคุณนาโอโตะ ไม่ใช่ทั้งนักไสยเวทและนักสาปแช่ง
เหมือน…จะเคยพูดว่าจบจากโรงเรียนไสยเวทนะ แต่ก็ไม่ค่อยพูดอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ คงไม่อยากพูด
เอาละและนี่คือเรื่องราวทั้งหมดในตอนนี้ และอีก 2 ปี ก็กำลังจะเริ่มเนื้อเรื่องหลักฉันจะใช้ 2 ปีนี้ไปให้ถึงระดับพิเศษให้ดู แต่ตอนนี้คงตอนอยู่กับปัจจุบันก่อนละนะ
ในตอนนี้เองเองที่เสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากนอกห้องและเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น
"ครืด!"
“เมตะคุง เตรียมตัวครับเรากำลังจะออกทำงานกันแล้ว”
“คร้าบ~”
นาโอโตะ เดินเข้ามาและสั่งให้เตรียมตัวให้พร้อมกับการออกงาน และเดินออกไปในทันที
เราเองก็เดินไปแต่งตัวและหยิบพวกอุปกรณ์ต่างๆก่อนจะออกไปที่โรงรถ และนาโอโตะก็รออยู่ในรถแล้ว
เราเปิดประตูรถและนั่งลงบนเบาะ ก่อนจะปิดประตู ทันทีที่เราปิดประตูรถ คุณนาโอโตะก็เริ่มออกรถทันที
“งานครั้งนี้คืออะไรครับ”
เราถามออกไปเหมือนทุกครั้งที่เราออกทำงาน
“ครั้งนี้คือ นักสาปแช่งที่ชื่อว่า ยามาดะ ไซ ครับ เค้าเป็นเจ้าลัทธิแห่งหนึ่งครับ มีสาวกที่เป็นคนธรรมดาประมาณ 50คน และ ยืนยันแล้วว่าพรรคพวกที่เป็นนักสาปแช่งประมาณอีก 3 คน”
“เป็นกลุ่มลัทธิเล็กๆที่ขูดรีดเงินจากพวกสาวก ผู้ว่าจ้างต้องการให้เราสังหารพวกนักสาปแช่ง แค่นั้นก็มากพอจะทำให้สาวกที่เหลือกลุ่มแตกแล้วครับ”
หลังจากที่เราฟังดูแล้วก็เหมือนว่า จะง่ายๆแต่ก็ไม่ค่อยมั่นใจถึงระดับความเก่งของพวกนั้นสักเท่าไหร่ และยังมีเรื่องสงสัย เราจึงถามออกไป
“แล้วระดับของพวกนักสาปแช่ง กับตัวตนของผู้ว่าจ้างละ”
“จากการประเมินจะมี ระดับ 3 สองคน ระดับ 2 หนึ่งคน ส่วนเจ้าลัทธิ อยู่ระดับ 1 ครับ ส่วนตัวผู้ว่าจ้างคือผู้หญิงที่ชื่อว่า ซุดะ มานามิ ครับ เจ้าตัวอ้างว่าเป็นเหยื่อของลัทธิ แต่ผมคาดว่าเธอน่าจะมาจากลัทธิอื่นมากกว่า ผมส่งข้อมูลทั้งหมดให้ในมือถือแล้ว”
ซุดะ? ซุดะ มานามิ?คุ้นๆแฮะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น เลขาของ เกะโท สินะ จากนั้นเราก็เปิดมือถือขึ้นมาและดูข้อมูลที่นาโอโตะส่งมาให้
ทันทีที่เราเห็นหน้าตาก็สามารถยืนยันได้ว่าไม่ผิดแน่นอน คงจะบาดหมางกันระหว่างลัทธิ แต่ไม่อยากลงมือกำจัดอีกฝ่ายทิ้งเองเลยจ้างคนนอกดีกว่างั้นสิ
อืมม….จะยังไงก็ช่างไม่ใช่เรื่องของเราหรอก แล้วเราในตอนนี้ก็ไม่มีปัญญาไปสู้ เกะโท สุงุรุ คนนั้นหรอก เพราะงั้นครั้งนี้แค่รับงาน รับเงินก็พอ
หลังจากนั้นเราก็หยิบมือถือ ใส่หูฟัง และเปิดเพลง เพื่อฆ่าเวลาจนกว่าจะถึง ที่หมาย
….5ชั่วโมงต่อมา
มันใช้เวลานานเพราะอยู่คนละเขต คล้ายขับข้ามจังหวัด แต่ในตอนนี้เราก็มาถึงที่หมายแล้ว
คุณนาโอโตะจอดรถที่หน้าสถานที่ๆเหมือนวัดแห่งหนึ่ง และเราทั้งคู่ก็ลงจากรถ
“ที่นี่แหละครับ ผมให้คนตรวจสอบแล้วว่า จะไม่มีสาวกอยู่หลัง 1ทุ่มครับ”
เราจึงเปิดมือถือขึ้นมา และตอนนี้เวลา 19.02 น เราจึงพูดออกไป
“ก็คือตอนนี้สินะครับ”
“ครับ เริ่มกางม่านได้เลย”
หลังจากที่คุณนาโอโตะพูดจบเราก็ ยกมือขึ้นและกำนิ้วนางกับก้อยลง จนเป็นท่า มุทรา
“ปรากฏตัวจากความมืดดำสนิทยิ่งกว่าความมืด จงชำระล้างปัดเป่ามลทินนั้น”
ม่านได้กางออก คลุมบริเวณวัดทั้งหมด และเปลี่ยนท้องฟ้าที่มืดอยู่แล้ว ให้มืดกว่าเดิม มันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องกางม่านเพื่อไม่ให้คนด้านนอกรู้เห็น และม่านนี่ยังมีผลในการกักขัง กับตัดสัญญาณโทรศัพท์จากภายนอก
“เรียบร้อย~ลุยเลยมั้ยครับ”
คุณนาโอโตะพยักหน้าเป็นสัญญาณให้เริ่มได้ จากนั้นเราทั้งคู่ก็บุกเข้าไปในวัดอย่างเงียบเชียบที่สุด และในตอนที่เรามาถึงด้านหน้า ก็มีนักสาปแช่ง 3 คนยืนเตรียมพร้อมอยู่
คุณนาโอโตะหันมาที่เรา และทำสัญญาณมือให้เราเข้าไปข้างในแล้วเค้าจะจัดการด้านหน้าเอง
หลังสิ้นสัญญาณ เราก็แยกกันในทันที คุณนาโอโตะพุ่งตัวใส่นักอาคมที่ด้านหน้า ส่วนตัวเราก็วิ่งไปที่ตัววัดและปีนเข้าทางหน้าต่างชั้น 2
หลังเข้ามาแล้ว เราก็หันมองไปรอบๆ เรียกได้ว่าที่นี่สะอาดสะอ้านมาก ถ้าเทียบกับที่อื่นๆที่เราเคยไป
เอาละ…หยุดคิดฟุ้งซ่านแล้วเริ่มทำงาน สิ้นความคิดเราก็เริ่มเพ่งสมาธิไปที่การตรวจจับพลังงานคำสาป ที่อยู่ในตัวอาคาร
แล้วหลังจากที่เราพบจุดแล้วก็ เดินตรงดิ่งไปที่ตรงนั้นในทันที
เราเปิดเข้าไปในประตู ที่เราสัมพัสได้ว่าเบื้องหลังมีพลังงานคำสาปอยู่ และในตอนที่เราเปิดเข้าไปสิ่งที่เราพบคือ ห้องโถงขนาดใหญ่คล้ายหอประชุม และอีกฟากก็มีคนยืนอยู่
คนๆนั้นคือชาย อายุราว 30 สูงประมาณ 160 ซม. หัวโล้นและใส่ชุดนักบวชคล้ายพระ สามารถยืนยันจากหน้าตาว่าคือ ยามาดะ ไซ โดยข้อมูลที่ นาโอโตะส่งมาให้ จากนั้นเราก็พูดออกไป
“อยากจะเป็นบอสเกม da*k soul หรือไง ถึงได้ยืนแอ็คกลางห้องแบบนี้”
“แกควรแอบเข้ามามากกว่ากางม่าน แบบนี้นะไอหนู…”
สิ้นคำพูดพวกเราจ้องหน้ากันชั่วครู่ ก่อนจะเริ่มการต่อสู้โดย ไซ เป็นฝ่ายบุกเข้ามาก่อน
ไซ วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วเต็มที่ ก่อนจะหยิบดาบที่ซ่อนอยู่ข้างหลังออกมาฟันด้วยมือซ้าย เป็นดาบคมด้านเดียว ไม่ยาวมาก ทรงเหมือนดาบจีน
แน่นอนว่ามันไม่ได้หลบยาก แต่ถึงอย่างนั้น ไซ ก็ยังคงโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นราว 4 การโจมตี เราก็เริ่มสวนกลับ ด้วยการหลบการดาบที่ฟันลงมา ออกด้านขวาแล้วก็ใช้แขนซ้ายล็อกแขนข้างที่ถือดาบของ ไซ เอาไว้ แล้วก็เค้นพลังเวทออกมาที่หมัดขวา และใช้หลังมือต่อยเข้าไปที่ไปหน้าอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากใบหน้าคือจุดที่รวมจุดตายไว้มากกว่า 10 จุด และไม่สามารถฝึกฝนได้ ไซ ที่โดนการโจมตีเข้าไป ก็ผงะชั่วครู่ เราจึงอาศัยจังหวะนั้น ใช้มือซ้ายจับข้อมือ และใช้มือขวาจับบริเวณ ข้อศอกและกดตัวไซลง ท่านี้มันคือท่า ikkyo ของไอกิโด แต่ในทันใดที่เรากดตัวไซลง แขนข้างที่เราจับไว้ของ ไซ ก็มีพลังเวทไหลมารวม ก่อนที่แขนข้างนั้นจะเริ่มบิดเบี้ยว
เรารู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จึงตัดสินใจปล่อยแขนข้างนั้นและกระโดดออกมา ก่อนที่แขนข้างนั้นจะขยายตัวด้วยความเร็วสูงจนผิดรูป แขนมากมายงอกออกมาจากแขนอีกที กระดูกทิ่มแทงออกมามั่วซั่วไปหมด
อาคมย้อนกลับ!?…ไม่สิไม่ใช่ น่าจะเป็นอาคมตามกำเนิดของเจ้าตัวมากกว่า..
ในตอนนั้น ไซ ก็ใช้มือขวาจับดาบขึ้น ก่อนจะใช้มันตัดแขนข้างที่บิดเบี้ยวนั้นทิ้ง แล้วในตอนนั้นแขนที่ถูกตัดไปก็งอกใหม่ จนกลับมาเป็นเหมือนเดิม การงอกครั้งนี้มีพลังงานด้านบวกแผ่ออกมาไม่เหมือนครั้งก่อน อาคมย้อนกลับ?
ไซ ที่พึ่งงอกแขนเสร็จ ก็พูดออกมา
“อาคมของฉันคือ การเจริญเติบโต สามารถทำให้เป้าหมาย เติบโตขึ้นจนผิดปกติ”
เผยอาคม….ใช้ข้อผูกมัดทำให้อาคมรุนแรงขึ้นสินะ จากที่ฟังหมอนี่พูด คงจะทำให้ร่างเติบโตเพื่อใช้โจมตี ก่อนจะตัดทิ้งและใช้อาคมย้อนกลับเพื่อคืนสภาพเดิม ไม่แน่ใจว่าใช้ได้กับแค่ตัวเองหรือคนอื่นด้วย อันตรายแฮะ… ส่วนดาบที่ถือมีพลังเวทแผ่ออกมาด้วยตัวเอง คงเป็นอาวุธไสยเวท ไม่แน่ใจอาคม คงต้องระวังตัว
หลังการคิด เราก็ตัดสินใจที่จะปลดอาวุธก่อน เพราะยังไงก็คงทำอะไรกับอาคมไม่ได้อยู่แล้ว
การต่อสู้เริ่มต่อทันที การจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุดคงจะดีที่สุด ในตอนที่อีกฝ่ายง้างดาบขึ้น เราตัดสินใจพุ่งเข้าหาไซด้วยความเร็วจนประชิดตัว ตั้งท่าเอาเท้าซ้ายนำและเหยียบพื้นลงให้มั่นคงที่สุด ก่อนจะอัดพลังเวทไปที่หมัดขวา แล้วต่อยด้วยหมัดแนวตั้งไปที่ลิ้นปี่แบบเต็มแรง จนเกิดประกายสีดำ
โคคุเซน(ประกายทมิฬ)
ไซ กระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง ตำแหน่งที่ต่อยคือลิ้นปี่ ส่งผลให้ระบบหายใจขัดข้อง และเกิดอาการจุกอย่างรุนแรง ทำให้ร่างกาย ไซ ไม่มีแรงและปล่อยดาบออก
ในจังหวะนั้นเราก็คว้าดาบของ ไซ แล้วฟันตั้งแต่หัวไหล่ขวาไปจนสุดเอวซ้าย จากนั้นก็จับดาบให้พลิกลงและแทงไปที่ต้นขาทั้งสองข้าง ปิดท้ายด้วยกลับมาจับดาบแบบปกติ และฟันไปที่คอของ ไซ เต็มแรงจนหัวขาดกระเด็น
ร่างไร้หัวของ ไซ ร่วงลงพื้นในท่าคุกเข่า
เราเอามือซ้ายขึ้นมาและเช็ดเลือดที่กระเด็นมาติดที่หน้า และพูดออกมา
“ก็ไม่เห็นเก่งเท่า บอส da*k soul นี่หว่า”
ความคิดเห็น