ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jujutsu Kaisen | โดนรถอีแต๋นชนสู่โลกไสยเวท OC

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : สู่การเป็นนักอาคม

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 66


     

    โอ้ย…ปวดหัวฉะมัด ร่วงหรอร่วงมาไกลขนาดไหนกันแน่เนี่ย ส่งเกิดใหม่หรอ มันไม่มีวิธีส่งที่ดีกว่านี้แล้วหรือไงนะเอ๊ะ…แปลกๆ แฮะ ไม่สิแปลกมากๆเลยด้วย ทำไมมันมืดแบบนี้

    ผมเริ่มพยามยาม ขยับร่างกายส่วนต่างๆ “เจ็บ” นั้นคือความรู้สึกที่ได้จากลองพยายามขยับร่างกาย ไม่สิไม่ใช่แค่นั้น “หายใจไม่ออก” อะไรเนี่ยทำไมมันแน่นในอกแบบนี้ เหมือนมีอะไรกดอกไว้เลย แย่แฮะ…แบบนี้

    สติของผมมันค่อยๆหายไป พร้อมกับเสียงบางอย่างคล้ายๆไซเรนที่ไกลเข้ามา แต่กลับเรื่อนรางลงทุกที

     

    …ในตอนที่สติกลับมาอีกครั้งสิ่งที่เห็น ณ วินาทีแรกคือเพดานสีขาว ผมลุกขึ้นมานั่งและมองไปรอบๆ ห้องคนไข้? 
    ดูเหมือนก่อนหน้านี้ เราจะโดนอะไรสักอย่างจนต้องโดนหามส่งโรงบาลสินะ ผมมองลงและดูที่ร่างของตัวเอง 

    เล็กมาก!…ตัวเราเล็กมาก เด็กหรอ นี่อายุเท่าไหร่เนี่-

    ก่อนจะสิ้นความคิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรงปะทุขึ้นที่หัว จนต้องฟุบลงและบีบหัวตัวเองอย่างรุนแรงเพื่อหวังจะบรรเทาความปวดที่เกิดขึ้น ความเจ็บปวดบีบให้ต้องร้องออกมากอย่างสุดเสียงจน จนสุดท้ายมันก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวจนสลบไป

    จนเมื่อฟื้นขึ้นมาทุกอย่างพร่าไปหมด แต่สิ่งแรกที่เห็นคือหมอและพยาบาลที่ล้อมเตียงผมเอาไว้ด้วยท่าทีเป็นกังวล

    อย่างที่สองคือ สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวคือความทรงจำต่างๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งไม่ค่อยประติดประต่อ สิ่งที่เข้าใจเลยคือ เราชื่อ ทามามะ เมตะ ปัจจุบันอายุ 5 ขวบ ไม่แปลกที่ความทรงจำจะแปลกๆ เพราะเป็นของเด็กนี่เอง 

    ถึงความทรงจำจะงงๆ แต่อย่างน้อยสิ่งสุดท้ายที่จำได้คือ เรานั่งอยู่ในรถกับพ่อแม่ รถกำลังขับไปเรื่อยๆในหุบเขาและจู่ๆก็มีบางอย่างอธิบายรูปร่างไม่ได้ กระโดดลงมาทุบและจับรถเขวี้ยงอย่างรุนแรงจนเราอยู่ในสภาพก่อนหน้า

    เอาละ…เข้าใจเรื่องเบื้องต้นแล้ว…………แล้วจะเอายังไงกับหมอและพยาบาลตรงนี้ดี

    ในตอนนั้นก็มีพี่สาวพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้แล้วค่อยๆก้มลง และถามออกมา

    “หนูเป็นอะไรมั้ยจ๊ะ เจ็บมากมั้ย?”

    ทั้งๆที่พี่สาวพยาบาลคนนี้พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นแต่กลับเข้าใจได้ทั้งหมด คงเป็นผลจากการได้รับความทรงจำด้วยสินะ หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ตอบกลับไป

    “คุณพ่อ…คุณแม่…อยู่ไหน?”

    ถ้าตอบกลับไปว่า เจ็บหรือไม่เจ็บ คงจะโดนถามอาการต่อแน่ว่าที่ร้องเมื่อกี้คืออะไร ถามสวนดีกว่า

    ในตอนที่ถามออกไปพวกพี่พยาบาล และหมอทำสีหน้าลำบากใจในทันที ถ้าเป็นเด็กละก็ไม่เข้าใจหรอกแต่ 
    เราสามารถเข้าใจได้ในทันที

    อ่าห์…ไม่ได้คาดหวังคำตอบแบบนี้เลยแหะ….ไม่รู้จะทำตัวยังไงเลย....เอาจริงๆ เรานะไม่ได้รู้สึกเศร้าเท่าไหร่ ก็ถึงจะได้ความทรงจำมาแล้ว แต่สำหรับเราสองคนนั้นก็คือคนอื่นอยู่ดี แล้วต้องเอาไงต่อจากนี้ดีละ…ชีวิตเกิดใหม่ของเรา

    ในขณะที่กำลังคิดเรื่องต่างๆ พี่สาวพยาบาลคนนั้นก็พูดขึ้น

    “พวกท่าน…ได้ไปสวรรค์แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงจ๊ะ พวกท่านต้องกำลังเฝ้าดูหนูอยู่จากบนฟ้าแน่นอน”

    หลังจบคำพูดนั้น พวกหมอและพยาบาลก็เริ่มตรวจร่างกายและอาการของเรา หลังเสร็จก็เดินออกจากห้องของเราไป ทิ้งเราให้อยู่เพียงลำพัง

    ลำพัง? ปกติต้องมีญาติดิ? ไอเด็กนี่มันไมีญาติหรอ ความทรงจำของเด็ก 5 ขวบ นี่ก็ไม่ได้ช่วยเลยสักนิด  

    หลังจากนั้นเราก็พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไปราวๆ 1 อาทิตย์ แต่ตลอดนั้นก็ไม่ได้มีญาติหรือคนรู้จักโพล่มา มีแค่พี่สาวพยาบาลเข้ามาเท่านั้น 

    เรารักษาตัวจนดีขึ้น สามารถลุกขึ้นเดินได้ พี่พยาบาลจึงอนุญาตให้เราออกจากห้องได้ ภาพแรกที่เห็นหลังออกจากห้องคือ วิญญาณคำสาป ที่เต็มโถงทางเดิน

    ที่ว่า โรงเรียน หรือ โรงพยาบาล เนี่ยเป็นสถานที่่ ที่ความรู้สึกด้านลบจะมารวมตัวจนเกิดเป็นวิญญาณคำสาปเนี่ย คืออย่างนี้เองสินะ

    วิญญาณคำสาป? ไอเด็กนี่เห็น? อืม…จากที่ในเรื่องบอก คนที่มีความสามารถในฐานะผู้ใช้อาคมจะเริ่มเห็นหรือรู้สึกถึง คำสาป ตอนอายุ 4-6 ขวบสินะ 

    ถ้างั้นลอง…..ปัดเป่า? ทำไม่เป็นอะ- ตอนนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้มากด้วย คงต้องอยู่ไปเรื่อยๆก่อน

    เราเดินหาที่ไปสักที่ จนจบที่ขึ้นไปจนถึงชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล นั่งลงที่ม้านั่งและเริ่มคิด “เวิ้งว้างชะมัด”

    อุตส่าห์ได้เกิดใหม่ทั้งที! ในโลกอนิเมะที่ตัวเองชอบ! แต่ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย! ก่อนหน้านี้ก็มีแต่เรื่องไม่ดีเกิดขึ้น จนรู้สึกแย่ไปหมด เส็งเคร็งจริงๆ!

    อืม….เอางี้! ก่อนอื่นตั้งเป้าหมายในโลกนี้สำหรับเราก่อน! ไม่ว่าอะไรก็ตามก็ต้องเริ่มจากตั้งเป้าหมาย! เอาละคิดสิเป้าหมายของเราที่เราจะทำและจะเป็น อืม…ประมาณนี้มั้ง

    1.เป็นผู้ใช้อาคมให้ได้ และต้องเก่งด้วย
    2.ช่วยตัวละครให้ได้เยอะๆ ทางที่ดีก็ไม่อยากให้ใครต้องตายหรอก
    3.สนุก

    ใช่แล้ว! การเกิดใหม่ในโลกอนิเมะน่ะ มันต้องประมาณนี้! อืมๆ เอาละเริ่มจากเป้าหมายแรกกันก่อนเลย ก่อนอื่นต้องหาข้อมูล!

    หลังจากสลัดความคิดแย่ๆออกจากหัวหลังจากนั้นก็เริ่มทำตามเป้าหมายพร้อมรอยยิ้มหลังจากนั้นราวๆ 1 สัปดาห์สิ่งที่เราได้คือ นี่คือปี 2005 กล่าวคือ 1 ปีก่อนหน้า โกโจปะทะกับโทจิ หมายความว่าเราอายุรุ่นๆ พวกตัวเอก และที่ๆเราอยู่คือตอนนี้คือ จังหวัดกุนมะ..

    อืม…ถึงจะรู้แล้วแต่ต้องยังไงต่อหว่า? ชีวิตนักคุณไสยของเราจะต้องเริ่มก้าวแรกยังไง? ถ้าตามปกติก็คือมีคนมาชวน เหมือน โทโด หรือ มิวะ

    หมายความว่าต้องหาสักคนที่พาเราเข้าวงการได้ อืม...อยู่ไปสักพักเดี๋ยวก็มีคนมาหาเองแหละมั้ง? ตอนนี้คงทำได้แค่ฝึกตามที่ อ.โกโจให้ยูจิฝึก ดูหนังไงละ! แล้วก็ต้องออกกำลังกายด้วย!

    หลังจากนั้นผมก็เริ่มดูหนังโดยพยายามให้อารมณ์คงที่อยู่ตลอดเวลาจนเริ่มจะพอรู้สึกถึงพลังเวทในตัว และออกกำลังกายประจำทุกวัน ทุกอย่างกำลังดูจะไปได้สวยจน ผมที่อยู่โรงพยาบาลครบ 1 เดือน ในวันนั้นก็มีพี่สาวพยาบาลเดินเข้ามาในห้องและพูดกับผมด้วยท่าทีเป็นกังวล

    “คือตอนนี้หนูหายดีแล้ว กำลังจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วดีใจด้วยจ๊ะ ว่าแต่หนูมีญาติบ้างมั้ยจ๊ะ? คนรู้จักก็ได้?”

    “ไม่รู้ครับ”

    เราตอบกลับไปแทบจะในทันที ก็มันไม่รู้จริงๆนี่หว่า ที่ถามแบบนี้อย่าบอกนะว่าถ้ามันไม่มี เราต้องไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าน่ะ

    แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ในอีก 1 อาทิตย์เราถูกส่งไปบ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งในจังหวัด เรียกได้ว่าดูธรรมดามาก แทบจะไม่ได้ดูโทรมหรือดูดี ธรรมดาเกินไปจนน่ากลัว สุดท้ายผู้ดูแลก็ออกมารับเราและพาเราไปแนะนำกับเด็กคนอื่นๆ

    “สวัสดีนะ เราชื่อ ทามามะ เมตะ ฝากตัวด้วยนะ”

    จากที่ดูแล้วที่มีมีเด็กราวๆ 20 กว่าคน และจากที่ดูมีประมาณ ¾ที่ดูอายุไล่เลี่ยกันกันเรา ส่วนที่เหลือดูจะโตกันแล้วเลยไม่ค่อยสนใจ

    “ยังไงก็ดูแล และแนะนำเค้าด้วยนะ”

    หลังพูดจบพี่เลี้ยงก็เดินออกไป ทิ้งเราไว้กับเด็กที่เหลือ ส่วนใหญ่ก็เข้าหาเราด้วยเจตนาดีนะ ซึ่งดูน่ารักมากจนกระทั่ง เด็กกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา มีประมาณ3-4คน ในตอนที่เข้ามาเด็กคนอื่นก็ถอยออกหมด ขาใหญ่ที่นี่สินะ จากที่ดูเด็กโตดูจะไม่สนใจเลย แล้วคนที่ตัวใหญ่ที่สุดดูอายุน่าจะประมาณ 7 ขวบ ดูแล้วคล้ายไจแอน ก็พูดออกมา

    “นายรู้เปล่า ที่นี่นะเราคุม นายต้องเอาขนมมาให้เราทุกวันรู้เปล่า ไม่งั้นนายไม่มีสิทธิ์เล่นแถวนี้”

    “กินจนอ้วนแล้ว กินอีกนี่กลายเป็นหมูแล้วมั้ง?”

    เราตอบกลับด้วยความมั่นใจ ไม่มีเหตุผลให้เราต้องกลัว

    “เดี๋ยวเถอะ พูดแบบนี้คงต้องโดน สักทีแล้ว”

    ไอไจแอนก็ยกแขนขึ้นแล้วก็พูด

    “คินิคุ พั-”

    ในจังหวะนั้น เราก็ตั้งท่าและออกหมัดขวาไปที่ลิ้นปี่ให้แรงที่สุดเท่าที่แรงเด็ก 5 ขวบพอจะมี เห็นแบบนี้แต่ชาติก่อนเราก็อ่านมังงะต่อสู้มาเยอะมากๆนะ

    ไอไจแอนล้มลงไปกุมลิ้นปี่พร้อมไอออกมา สภาพเริ่มดูรุนแรงจนพวกเด็กโตต้องเข้ามาห้าม

    หลังจาก ผ่านไป 3 เดือน ชีวิตที่นี่ก็ดูสบายดีนะ ได้ไปโรงเรียนแถมไม่ค่อยมีใครมาแกล้งหรืออะไรแล้วด้วย แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีเพื่อนคงเพราะ ไม่ได้เล่นแบบเด็กคนอื่นเลยละนะ

    ส่วนการใช้ไสยเวทก็พัฒนาขึ้นมากใน ตอนนี้ สามารถตรวจจับพลังงานคำสาป กับปล่อยพลังไสยเวทออกมาระดับหนึ่ง และสามารถปัดเป่าพวก “โยโท” ได้แล้วด้วย ถือว่าทำได้ดีมากในฐานะเด็ก 5 ขวบละนะ เรานี่มันอัจฉริยะจริงๆ

    ในวันนี้เองผู้ดูแลก็เดินเข้ามาในห้องที่พวกเด็กๆเล่นกันอยู่

    “เอ้าเด็กๆ วันนี้คุณ นาโอโตะ มาเยี่ยมนะ ออกไปทักทายเค้าหน่อย”

    “ครับ/ค่า”

    ทุกคนพากันวิ่งกรูออกไปอย่างรวดเร็วทิ้ง เรานั่งงงว่านาโอโตะเนี่ยใครกัน จนผู้ดูแลเดินเข้ามาและดันหลังเรา

    “คุณนาโอโตะ เค้าเป็นคนใจดีนะ จะชอบบริจาคเงินให้เราและซื้อของมาให้พวกเธอด้วย”

    งั้นหรอ ก็น่าจะประมาณ ดาเตะ ในเรื่องหน้าเสือรึเปล่านะ ด้วยความสงสัยเราจึงเดินตามเด็กคนอื่นออกไป จนเจอกับ พี่ชายคนหนึ่งอายุประมาณวัยกลางคน ตัวสูง ใส่ชุดสูท ดูๆแล้วคล้ายนานามินแต่แก่กว่า 

    คุณนาโอโตะกำลังยืนทักทายโดยมีเด็กๆล้อม ด้วยความดีใจที่เค้ามา “โอ๊ะ…หยิบของเล่นกับขนมขึ้นมาแจกด้วย” ดูๆแล้วเป็นคนดีนี่นา เรายืนดูสักพักจนคุณนาโอโตะ สังเกตเห็นเราแล้วเรียก

    “เธอหน่ะ ยืนทำอะไรอยู่คนเดียว มานี่เร็วมาเอาของเร็ว”

    จริงๆเราก็ไม่ได้อยากได้อะไรเท่าไหร่แต่มันเป็นมารยาทละนะ เราเดินเข้าไปหาคุณนาโอโตะและรับขนมที่เค้ายื่นให้มา จากนั้นคุณนาโอโตะก็พูดกับเรา

    “สวัสดีนะ ผมชื่อนาโอโตะ ผมมาเยี่ยมที่นี่บ่อยๆนะ พึ่งเคยเจอกันเลยนะ เธอชื่ออะไรงั้นหรอ?”

    โอ๊ะ!?…เลี่ยงคำถามที่ทำให้ลำบากใจ แล้วทักทายอย่างเป็นมิตร นี่นะเหรอการทักทายที่ผู้ใหญ่ดีๆเค้าทำกัน

    “ชื่อ เมตะ ครับ”

    “งั้นหรอ เมตะคุงนี่เอง ผมมาเยี่ยมที่นี่นานๆครั้งจากนี้ฝากตัวด้วยนะ”

    โห….เป็นคนดีมากเลยแฮะ นี่มัน ดาเตะ จากหน้ากากเสือชัดๆ

    หลังเวลาล่วงเลยไปสักพักจนตอนนี้เริ่มจะเย็น 

    คุณนาโอโตะ ก็เริ่มบอกลาพวกเด็กๆ ดูเหมือนจะกลับแล้วสินะ งั้นเราก็เข้าข้างในได้แล้วละ

    ในขณะเราที่กำลังเดินกลับไปที่ห้องรอเรียกกินข้าว เราก็เหลือบเห็น คุณนาโอโตะเดินไปที่สนามเด็กเล่นข้างบ้านเด็กกำพร้า ผ่านหน้าต่าง ที่ตรงนั้นมีวิญญาณคำสาปที่ดูแข็งแกร่งระดับหนึ่ง น่าจะระดับ 3 ได้

    ในตอนนั้นเองคุณนาโอโตะ ก็ตั้งมือเหมือนท่าสับ พลังเวทพุ่งขึ้น และไหลมาที่มือก่อนที่จะฟัน วิญญาณคำสาปนั้นหายในทีเดียว

    “ปัดเป่า!?”

    คุณนาโอโตะเป็นผู้ใช้อาคม!? นี่แหละหนทางเข้าวงการของเรา!

    เรารีบวิ่งเต็มแรงเพื่อออกไปข้างนอก ออกด้านข้างฝั่งสนามเด็กเล่น และวิ่งไปหาคุณนาโอโตะแบบสุดแรง โดยในขณะนั้นเองคุณนาโอโตะก็กำลังเดินออกมาเช่นกัน

    “แฮก-! แฮก-!”

    เราหอบอย่างแรง เพราะเราตื่นเต้นมากที่ในที่สุดก็ได้เจอผู้ใช้อาคมคนอื่นเลยเผลอวิ่งแบบสุดแรง คุณนาโอโตะที่เห็นผมหอบอยู่นั้นก็ทักขึ้น

    “อ่าว เมตะคุง มาทำอะไรตรงนี้ครับ ได้เวลาอาหารเย็นแล้วนะ รีบไปหาทุกคนเถอะ เดี่ยวทุกคนจะเป็นห่ว-”

    “รับฉันทีสิ”

    คุณนาโอโตะ นิ่งสักพักก่อนจะตอบกลับมา

    “ผมรับคุณเป็นลูกบุญธรรมไม่ได้หรอก ผมรักเด็กๆนะแต่ไม่ได้คิดจะมีลูก แล้วอีกอย่า-”

    “ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น-”

    เราพูดสวนกลับไปแบบไม่ปล่อยให้คุณนาโอโตะพูดจบ

    “เห็นแล้วนะ ที่จัดการไอตัวนั้นที่สนามเด็กเล่น ที่ว่าให้รับนะหมายถึง ช่วยรับเป็นศิษย์หน่อย”

    คุณนาโอโตะนิ่งเงียบ ทำท่าทางครุ่นคิดก่อนจะคอบกลับมาด้วยท่าทางจริงจัง

    “สิ่งที่ เมตะคุงเห็นนะ คือ วิญญาณคำสาป และผู้ที่ใช้พลังงานคำสาปได้ เรียกว่าผู้ใช้อาคม”

    “ผู้ใช้อาคม มีทั้งนักไสยเวท ที่ใช้พลังเพื่อช่วยคน และ นักสาปแช่งที่ใช้พลังในทางไม่ดี ผมคืออย่างหลังนะ เมตะคุงรับเรื่องนั้นได้มั้ยละ”

    นักสาปแช่ง? ผิดจากที่คิดไว้หน่อย แต่ก็เป็นเส้นทางที่น่าสนใจนะ ถ้าคนอื่นๆได้เกิดใหม่ก็ ไม่น่าเลือกทางนี้กันด้วย หมายความว่า เรามันโคตรเท่เลย!

    “อืม-คุณเป็นผู้ใช้อาคมคนแรกที่ผมเคยเจอนอกจากตัวเอง ถ้าไม่ใช่คุณ ก็ไม่รู้จะหาคนอื่นจากไหนแล้วครับ”

    หลังจากที่คุณนาโอโตะฟังเสร็จ ก็ยิ้มนิดๆที่มุมปาก แล้วก็พูด

    “ก็ได้ครับ ไปเก็บของได้เลย เดี๋ยวผมคุยกับผู้ดูแลให้ บอกก่อนเลยนะว่าผมเคี่ยว”

    “จัดมาเลยครับ”


    ช่วงท้ายเผื่อใครจำไม่ได้ว่า โยโท คืออะไร

    โยโท คือวิญญาณคำสาปหัวแมลงวัน ที่กระจอกมากไม่จัดว่าเป็น ระดับ 4 ด้วยซ้ำ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×