ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ...ใครๆก็ไปญี่ปุ่น!!!!...

    ลำดับตอนที่ #5 : ...ก้าวแรก...สำหรับคนที่จะไปญี่ปุ่นด้วยทุนส่วนตัว...

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 51



    ก้าวแรก... เตรียมตัวเรียนต่อญี่ปุ่น

    ทำไมถึงมาเรียนที่ญี่ปุ่น คำถามยอดฮิตที่ฉันเจอบ่อยที่สุด แน่นอนว่าถ้าคุณเป็นเด็กนักเรียนทุน หรือเป็นเด็กนักเรียนที่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นวิชาเอกแล้ว คนถามก็คงจะหมดข้อสงสัยไปได้เยอะทีเดียว แต่ถ้าคุณเป็นนักเรียนทุนส่วนตัวแล้ว ฉันรับรองได้เลยว่า ต้องคุยกันอีกยาว เพราะสมัยนี้ หากคุณสามารถมาเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาได้แล้ว ทำไมไม่เลือกไปอเมริกา อังกฤษ หรือออสเตรเลีย ที่ซึ่งมีสถาบันการศึกษาที่เมื่อเอ่ยชื่อ คนเค้าก็รู้จักกัน ผิดกับสถาบันการศึกษาในญี่ปุ่น ซึ่งแม้จะมีสถาบันที่มีชื่อเสียงอยู่มากมายเช่นกัน แต่คุณต้องเป็นคนที่สนใจเรื่องราวของญี่ปุ่นพอสมควรถึงจะได้ยินชื่อสถาบันเหล่านั้น เกริ่นมาถึงตรงนี้ ก็เพื่อที่จะชี้ให้เห็นว่า การเลือกมาเรียนที่ญี่ปุ่นนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยังแปลกใหม่ในสายตาของคนส่วนมาก ทำให้เกิดคำถามมากมายถึงการมาเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ก็นั่นแหละ แต่ละคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง มีมุมมองของตนเอง ซึ่งเมื่อคุณได้ฟังแล้ว ฉันรับรองได้เลยว่า ไม่ยากเลยที่คุณจะเข้าใจว่า ทำไมพวกเค้าจึงตัดสินใจมาเรียนที่ญี่ปุ่น ประเทศที่ซึ่งค่าครองชีพสูงติดอันดับ ประเทศที่ซึ่งภาษาของคนที่นี่คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่คุ้นเคย (เมื่อเทียบกับภาษาอังกฤษ) ฯลฯ

    ทีนี้ เราลองมาดูกันดีกว่าว่า ทำไม ยังได้มีนักเรียนไทยบางกลุ่มหันมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ซึ่งจากที่ฉันเคยได้ยินได้ฟังมา ก็มีเหตุติดอันดับซึ่งพอจะแจกแจงได้ เป็นต้นว่า
    "มาเรียนญี่ปุ่นเพราะไม่เก่งภาษาอังกฤษ ยังง้าย ยังไงก็สอบโทเฟิลไม่ถึงตามเกณฑ์ซักที เลยมาเริ่มใหม่กับภาษาญี่ปุ่นดีกว่า"
    "มาเรียนญี่ปุ่น เพราะ เคยทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น และได้เรียนรู้ว่า การรู้ภาษาญิ่ปุ่น จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคต"
    "มาเรียนญี่ปุ่น เพราะเชื่อว่า ปริญญาโทที่ไหนก็ไม่ต่างกัน มาเรียนที่นี่แล้ว นอกจากปริญญาโทจะได้กลับไปแล้ว ยังได้ภาษาอีกด้วย สุดคุ้ม"
    "มาเรียนญี่ปุ่นเพราะ เบื่อละ ภาษาอังกฤษ เรียนมาสิบกว่าปี ใคร ๆ ก็พูดได้เหมือนเรา มาเรียนที่ญี่ปุ่นดีกว่า ได้ภาษาซึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งที่สำคัญในโลกเศรษฐกิจปัจจุบัน"

    แน่นอน ฉันเชื่อว่า ยังคงมีอีกหลายเหตุผลที่ฉันยังไม่เคยได้ยิน แต่อย่างไรก็ตาม เหตุผลส่วนใหญ่ของเด็กนักเรียนไทยที่มาด้วยทุนส่วนตัวนั้น ย่อมมีประเด็นหลักประเด็นหนึ่งที่สำคัญ นั่นก็คือ ภาษาญี่ปุ่น นั่นเอง คงปฏิเสธไม่ไม่ได้เลยว่า การรู้ภาษาญี่ปุ่นในบ้านเรานั้น ย่อมหมายถึง โอกาสการทำงานในอนาคตที่มากกว่า เพราะบริษัทญี่ปุ่นในเมืองไทยนั้น มีมากมายนับไม่ถ้วน และตลาดงานยังต้องการคนที่มีความรู้ทางด้านภาษาญี่ปุ่นอยู่มาก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ คนที่รู้ภาษาญี่ปุ่นในบ้านเรานั้น ยังมีอยู่น้อย เมื่อเทียบกับความต้องการของบริษัทต่าง ๆ ที่ต้องการบุคลลากรที่มีความรู้ ความสามารถทางด้านภาษาญี่ปุ่น อ่านมาถึงตรงนี้ เหตุผลเหล่านั้น ก็อาจจะตรงกับใจใครหลาย ๆ คนที่กำลังคิดมาเรียนต่อญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งคนที่ยังมองไม่ออกว่าทำไมถึงต้องมาเรียนที่ญี่ปุ่น ก็คงมองภาพกันออกบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อย? ทีนี้เมื่อเพื่อน ๆ เริ่มมีเป้าหมายในการศึกษาที่ชัดเจน และเริ่มคิดที่จะมาเรียนต่อที่ญี่ปุนแล้ว ลองมาดูกันดีกว่าว่า จะเริ่มต้นกันอย่างไร และจะต้องเตรียมตัวอย่างไร

    จริง ๆ แล้ว การมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่นสำหรับนักเรียนทุนส่วนตัวนั้น ก็สามารถทำได้หลายทาง แต่ฉันเองก็อยากจะแนะนำนิดนึงว่า สำหรับเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนเลยจริง ๆ นั้น ก็สามารถไปเริ่มต้นได้ที่ ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น ชั้น10 อาคารเสริมมิตร ถ.อโศก ซึ่งศูนย์นี้เป็นองค์กรที่ดำเนินงานโดยไม่มีผลกำไร ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสมาคมการศึกษานานาชาติแห่งประเทศญี่ปุ่น (Association of International Education, Japan) < ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นองค์การสนับสนุนการศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น JASSO > ที่ศูนย์นี้มีข้อมูลทางด้านการศึกษาอยู่มากมาย และให้คำปรึกษาโดยไม่คิดค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหากเพื่อน ๆ มีคำถามก็สามารถไปคุยกับพี่ ๆ เค้าที่นี่ได้ ซึ่งตัวฉันเองก็เคยทำมาแล้ว  

    สำหรับนักเรียนไทยทุนส่วนตัวส่วนใหญ่ที่ฉันเจอในญี่ปุ่นนั้น จะเป็นเด็กที่ตั้งใจจะมาเรียนต่อปริญญาโทที่นี่ โดยเริ่มจาก การสมัครเรียนคอร์สภาษาที่โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ หนี่งปีครึ่ง จนถึงสองปี จากนั้นถึงจะเข้ามหาวิทยาลัยเป็นอันดับต่อไป การจะสมัครโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นนั้น ฉันเองอยากจะย้ำ กับเพื่อน ๆ ว่า ควรจะเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะที่นี่ โรงเรียนสอนภาษาส่วนใหญ่จะเปิดคอร์สสอนเพียง 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น คือ ช่วงเดือนเมษายน และเดือนตุลาคม (อาจมีบางโรงเรียนที่เปิดคอร์สในช่วงเดือนกรกฏาคม แต่มีไม่มากนัก) ส่วนการสมัครนั้น จะต้องสมัครก่อนหน้านั้นประมาณ 4 ถึง 5 เดือน เช่น หากเพื่อน ๆ คิดจะมาเรียนภาษาในเดือน ตุลาคม ปี 2002 เพื่อน ๆ จะต้องเริ่มหาโรงเรียน และสมัคร ส่งเอกสารทุกอย่างให้พร้อมก่อนสิ้นเดือนเมษายน หรืออย่างช้าสุดคือ กลางเดือนพฤษภาคม ปี 2002 (กำหนดเวลาที่แน่นอนขอให้เพื่อน ๆ ไปเช็คกับโรงเรียนภาษาอีกทีให้แน่นอนนะคะ เพื่อความมั่นใจ)

    เนื่องจากการเปิดสอนของโรงเรียนภาษาที่นี่โดยส่วนใหญ่จะมีเพียง 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น และการสมัครจะต้องใช้เวลานาน กว่าในที่สุดจะได้มาเรียนที่ญี่ปุ่น ดังนั้น ฉันจึงขอย้ำว่า เรื่องนี้ เพื่อน ๆ จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม และวางแผนการการศึกษาต่อให้ดี เพราะถ้าพลาดไป หรือส่งเอกสารไม่ทันแล้ว อาจจะต้องรอไปอีก 6 เดือนข้างหน้า ส่วนเรื่องการหาโรงเรียนสอนภาษานั้น นักเรียนทุนส่วนตัวก็อาจทำได้โดยการไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อประเทศญี่ปุ่น หรือที่ Jeducation ก็มีโรงเรียนสอนภาษาที่ได้รับการรับรอง ที่พร้อมจะให้คำแนะนำและข้อมูลแก่เพื่อน ๆ ในด้านการศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายอยู่เหมือนกัน อย่างไรเพื่อน ๆ ลองดูละกันนะคะ เพราะข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการใช้ตัดสินใจวางแผนการศึกษาต่อของเพื่อน ๆ ต่อไปในอนาคตนั่นเอง

    มีหลายคนสงสัยว่า ทำไมถึงต้องสมัครเรียนโรงเรียนภาษา จะเข้ามหาลัยที่ญี่ปุ่น และเรียนต่อเลยไม่ได้หรือ คำตอบสำหรับนักเรียนที่ไม่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นเลยก็คือ ได้ค่ะ แต่มีเงื่อนไขคือ จะต้องสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยที่เค้าเปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ซึ่งมีอยู่ไม่มากนักในญี่ปุ่น แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการจะเข้ามหาลัยที่สอนเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้ว จำเป็นมากค่ะ ที่จะต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่น เพราะตั้งแต่การสอบเข้าจนถึงการเรียนก็ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ฉันแนะนำว่า ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเข้ามหาลัยแบบไหนก็ตาม ความรู้ภาษาญี่ปุ่นจำเป็นมากค่ะ สำหรับการดำเนินชีวิตประจำวันที่นี่ เพราะคนที่ญี่ปุ่นไม่นิยมใช้ภาษาอังกฤษ ตามสถานที่ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว ดังนั้นฉันจึงขอย้ำว่า ภาษาญี่ปุ่นมากนะคะ หากคิดจะมาใช้ชีวิตที่นี่แล้ว ควรจะมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นไม่มากก็น้อย แต่ถ้ายิ่งมากก็จะยิ่งดีค่ะ

    เอาหล่ะค่ะ ถึงตอนนี้ คิดว่าเพื่อน ๆ คงเริ่มมีไอเดียกันว่าจะเริ่มต้นกันตรงไหน อย่างไรบ้าง หากคิดจะมาเรียนที่ญี่ปุ่น คราวหน้าหากเพื่อน ๆ อยากรู้ว่า นักเรียนทุนส่วนตัวเมื่อมาเรียนที่ญี่ปุ่นแล้ว เค้ามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร ต้องประหยัดแค่ไหน มีการทำงานพิเศษกันบ้างไม๊ ฉันจะเขียนมาเล่าให้ฟังกันคราวหน้านะคะ รับรองเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ ที่คิดจะมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่นด้วยทุนส่วนตัวแน่นอนค่ะ


    นอกจากจะเตรียมตัวในการหาข้อมูลสถาบันการศึกษาแล้ว ปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับนักเรียนทุนส่วนตัวก็คือ " เงินทุน " นั่นเองนะคะ การไปเรียนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่นจะใช้เงินมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เราก้าวต่อไปกันเลยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×