แนะนำนักร้องสากลเสียงสบายหู ฟังแล้วฮู้ววว หลับสบายแน่นอน - แนะนำนักร้องสากลเสียงสบายหู ฟังแล้วฮู้ววว หลับสบายแน่นอน นิยาย แนะนำนักร้องสากลเสียงสบายหู ฟังแล้วฮู้ววว หลับสบายแน่นอน : Dek-D.com - Writer

    แนะนำนักร้องสากลเสียงสบายหู ฟังแล้วฮู้ววว หลับสบายแน่นอน

    10 นักร้องเสียงเพราะ ฟังสบาย

    ผู้เข้าชมรวม

    391

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    391

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 พ.ค. 65 / 14:08 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

     


     การฟังเพลงนอกจากจะช่วยผ่อนคลายความเครียดและสร้างความเพลิดเพลินแล้ว ยังได้เสพสิ่งที่ศิลปิน ถ่ายทอดออกมาเป็นเสียงเพลงอีกด้วย เคยเป็นไหมคะ เวลาที่รอรถ หรือนั่งรถเพื่อไปที่ไหนสักแห่ง จะมีไอเท็มคู่ใจอย่างหูฟังเพื่อฟังเพลง หรือฟังทุกครั้งก่อนนอน เชื่อว่าหลายๆ คนคงเป็นกัน

    วันนี้เราจึงจะมาแนะนำศิลปินเสียงเพราะสบายหูและเพลงของพวกเขาที่เหมาะแก่การฟังเพลินๆ เหมาะกับบรรยากาศตลอดจนห้วงอารมณ์ต่างๆ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ 

    มาเริ่มกันที่คนแรกเลยคือ อารี สเตแพรนส์ เลฟฟ์ หรือที่เรารู้จักกัน Lauv เขาเกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1994 เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์เพลง ชาวอเมริกัน อาศัยอยู่ที่เมืองลอสแอนเจลิส แนวเพลงของเขาหลักๆ เป็นแนวเพลง Pop 

    เพลงของเขาเหมาะแก่การฟังในช่วงที่เหงาหรือเศร้าใจ แนวเพลงหลักๆ ของ lauv นั้นจะเป็นเพลงป๊อป มีบ้างที่เป็นอิเล็กโทรป๊อป เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเพลงของเขามามากพอสมควร และเราจะขอแนะนำมาประมาณนี้

    -  Paris in the rain เพลงที่เหมาะแก่การฟังตอนฝนตก ทั้งทำนอง ดนตรี เนื้อหาของเพลงมีความโรแมนติกเป็นอย่างมาก เนื้อเพลงพูดว่า การอยู่กับคุณนั้นก็เหมือนอยู่ในปารีสท่ามกลางฝนตก

    Never Not เพลงนี้พูดถึงความรักที่เคยสวยงาม ไม่มีทางลบเลือนได้ แม้จะผ่านมาแล้วก็ตาม ตราบใดที่ยังมีความรัก ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ฉันก็จะไม่ลืมเธอ

    - I like me better เพลงนี้หลายๆ คนคงรู้จักกันดี ด้วยทำนองที่ติดหูฟังเพลิน ตัวเพลงพูดถึงการที่ได้อยู่กับใครสักคนหนึ่งแล้วรู้สึกดี และชอบตัวเองเมื่อได้อยู่กับคนๆ นั้นมากกว่า

    Enemies เพลงนี้พูดถึงคนรักที่เลิกรากันแล้วและมองหน้ากันไม่ติด สุดท้ายก็กลายเป็นศัตรูกัน เพราะไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้ แต่ฝ่ายชายซึ่งก็คือคนร้องเองพูดว่า การที่เราเลิกรากันไปแล้ว มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกลียดขี้หน้ากันจนกลายเป็นศัตรูกันได้นะ

    - Lonely Eyes เพลงนี้เราแนะนำให้เปิดตอนที่เศร้าเลย โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าเพลงนี้เหมือนเป็นการพูดให้กำลังใจคนๆ หนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้กล่าวออกมาโดยตรงก็ตาม เพลงนี้พูดถึงผู้หญิงที่มีหัวใจแตกสลายคนหนึ่ง เธอเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจเพื่อหลีกหนีจากความคิดในหัว สายตาของเธอโดดเดี่ยว ซึ่งก็เหมือนกับชื่อเพลงนี้ และท่อนถัดไปน่าจะเปรียบเปรยให้เราเห็นว่าเจ้าของเพลงกำลังพูดคุยหรือบอกกับเธอคนนั้น ที่ทัชใจมากๆ ก็คือท่อนที่บอกว่า 

    " I don't mean to be rude . There's things in myself that I see in you" ( ประมาณว่า : ผมไม่ได้ตั้งใจจะหยาบคายนะ แต่มันมีบางอย่างในตัวผมที่ผมเห็นในตัวคุณ) 

    ท่อนนี้เหมือนผู้แต่งกำลังจะบอกกับผู้หญิงคนนั้นว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของคุณ เพราะเขาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน และพอถึงท่อนฮุคก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นแบบนั้น เราแนะนำให้ลองไปฟังเองนะคะ เพลงนี้ซึ้งมากจริงๆ ยิ่งฟังช่วงที่เศร้าใจมันเหมือนกับมีใครสักคนอยู่ข้างๆ เนื้อเพลงที่เหมือนกับเขากำลังพูดกับผู้หญิงคนนั้น มันก็เหมือนกับเขาพูดอยู่กับเราเช่นกัน



    NIKI ชื่อของเธอคือ นิโคล เซฟานย่า เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ.1999 เธอเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์เพลงชาวอินโดนีเซีย ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา แนวเพลงของเธอคือ R&B/Soul , Hip-hop/Rap , Folk

    เสียงนุ่มใสเป็นเอกลักษณ์ของเธอ ผสมผสานกับดนตรีและเนื้อเพลงที่มีเนื้อหาสละสลวย มันก็ไม่ยากเลยที่ทำให้ใครหลายๆ คนหลงในเพลงของเธอ

    - Lowkey เพลงนี้เป็นเพลงเบาๆ ฟังเพลินสบายหู เนื้อเพลงพูดถึงความรักที่ควรเก็บไว้เป็นความลับจะดีกว่า ไม่มีใครต้องรู้ มีแค่เราสองคน 

    Every Summertime เพลงนี้เราว่ามีความคลั่งรัก ดนตรีฟุ้งๆ และเสียงเพราะๆ เนื้อหาเพลงพูดถึงการตกหลุมรักคนๆ หนึ่งซ้ำๆ ในช่วงหน้าร้อน และเมื่อฤดูร้อนนั้นกลับมาอีกครั้ง ฉันก็ตกหลุมรักคุณอีกครั้ง

    - La La Lost you เพลงนี้พูดถึงคนรักที่เลิกรากันไปแล้ว ฝ่ายชายนั้นไปเริ่มต้นใหม่ที่นิวยอร์ก ฝ่ายหญิง ซึ่งก็คือคนร้องได้แต่หวังว่าสถานที่แห่งนั้นจะโอบกอดเขา เหมือนกับที่เธอเคยโอบกอด ในเนื้อเพลงจะพูดถึงสถานที่ต่างๆ และความทรงจำที่ยังคงหลอกหลอนราวกับปีศาจร้าย

    - URS ตัวเพลงพูดถึงความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งต้องคอยคาดเดาใจอีกฝ่ายตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่กับเธอต่อไหม และถ้าอยู่ด้วยกันแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่เธอนั้นก็ให้ใจเขาไปจนหมดแล้ว มันเหมือนความสัมพันธ์ที่มีฝ่ายนึงรู้สึกมากกว่าอีกฝ่าย เขาจะมาหาเธอก็ตอนที่เธอเอ่ยชวนเท่านั้น เนื้อเพลงหมองๆ หม่นๆ แต่ดนตรีคือฟังเพลินมาก

    - Vintage เพลงนี้พูดถึงคนรักที่เคยจบกันไปแล้ว และกลับมาเจอกันอีกครั้ง พอเจอกันอีกฝ่ายนั้นดูดีมากๆ ถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าต่างคนต่างอยู่มันดีแล้ว แต่พอมาดูรูปเก่าๆ แล้วหัวเราะด้วยกันก็เริ่มไม่แน่ใจ เนื้อเพลงเปรียบเปรยว่าพวกเขาเป็นเหมือนของวินเทจ ซึ่งของวินเทจในที่นี้หมายถึงของเก่าที่ยังมีความดีงาม แค่เห็นก็ยังรู้สึกชื่นชม 



    Keshi เขามีชื่อจริงว่า เคซีย์ ลูวอง เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ.1994 เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์สัญชาติอเมริกัน แต่พ่อและแม่ของเขาเป็นชาวเวียดนาม แนวเพลงของ keshi คือ Lo-fi Hip Hop/ Alternative/ R&B/ Easy Listening

    เพลงของเขาฟังสบายมาก เหมาะแก่การเปิดฟังตอนนั่งทำงาน อาจจะด้วยแนว Lo-fi อยู่แล้วด้วย เพลงของเขาที่น่าสนใจและไปหาฟังได้ก็จะมี

    - 2 soon เป็นเพลงหม่นๆ ที่มีเนื้อหาตอบโจทย์คนอกหัก แม้จะมีเพื่อนฝูงมากมาย เปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อยๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้น ยังคงคิดถึงเธอ ได้แต่หัวเราะและสมเพชตัวเอง

    - Like i need u เพลงที่เหมาะกับคนอกหักอีกเช่นกัน ทำนองและดนตรีเหมาะแก่การฟังช่วงดึกๆ มาก ไม่จมดิ่งแต่ฟูมฟาย เนื้อเพลงพูดถึงการที่อีกฝ่ายไม่ต้องการเรา ต่างจากเราที่ต้องการเขาและยังคงรอเขาอยู่

    - B.Y.S. เพลงนี้พูดถึงความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายลังเล ไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์ แต่อีกคนกลับยังอยู่ไม่จากไปไหน ถึงกลัวว่าจะให้ใจเขาไปแล้วจะเจ็บ แต่ก็ยังไม่สนใจ อีกทั้งยังพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างแม้ว่ากังวลว่าเขาจะหมดรักก็ตาม

    - Somebody เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความยาวแค่ 2 นาทีกว่าๆ แต่ก็ทำเอาเขินเป็นชั่วโมงได้ ทำนองดนตรีสนุก ฟังได้เพลิน ส่วนเนื้อหาก็คือ ทำไมต้องลังเลในเมื่อเราก็รู้สึกเหมือนกัน เธอต้องการมากกว่านี้ ฉันรู้สึกได้นะ ถ้าเธอเองก็ต้องการใครสักคน ให้มันเป็นฉันได้ไหม 



    Troye Sivan ทรอย ซีวาน เมลเล็ต เกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 1995 เป็นชาวแอฟริกาใต้ สัญชาติออสเตรเลีย เขาโด่งดังจากการโชว์ความสามารถเป็นนักแสดงและนักร้องบนยูทูบ พออายุได้ 15 ปี เขาสารภาพกับครอบครัวของเขาว่าตนเองเป็นเกย์ ก่อนจะประกาศต่อสาธารณชนในยูทูบในสามปีถัดมา แนวเพลงของเขาเป็นแนวอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์และ pop 

    โดยส่วนตัวแล้วเรามองว่าเพลงของทรอยให้ความรู้สึกหลากหลายในแต่ละเพลงเลย MV ก็เช่นกัน เพลงที่เราจะแนะนำก็จะมี

    Strawberries & Cigarettes เพลงนี้เราชอบมาก และคิดว่าคนส่วนใหญ่ต้องเคยฟังมาแล้วบ้าง เพลงนี้ให้ความรู้สึกฟุ้งๆ เหมือนอยู่ในห้วงภวังค์ชวนเคลิ้ม และเพลงนี้ก็ใช้ประกอบภาพยนต์เรื่อง Love , Simon โดยเนื้อเพลงหลักๆ กล่าวถึงรสจูบของคนๆ หนึ่งที่มีรสเหมือนกับสตรอเบอร์รีและบุหรี่ ถึงเนื้อเพลงจะไม่ได้บอกเราตรงๆ แต่ก็เดาได้เลยจากท่อนที่ร้องว่า "But strawberries and cigarettes always taste like you"

    แต่ถึงเนื้อเพลงนี้จะชวนเคลิ้มแค่ไหน มันก็ยังเป็นความรักที่รักอยู่แค่ฝ่ายเดียวอยู่นะคะ ต่อให้จะหวังว่าความสัมพันธ์จะเปลี่ยนแปลงไป แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ราวกับมีแค่เราที่คิดไปเองคนเดียว คิดถึง โหยหาเขาอยู่แค่ฝ่ายเดียว

    - Talk me down เพลงนี้คือตีความได้หลายอย่างมาก หากดู MV ไปด้วย เพลงนี้หม่นๆ เทาๆ อ้างว้าง เศร้าแบบที่ว่ากำลังจะจมดิ่ง เนื้อเพลงเหมือนกำลังขอร้องให้ใครสักคนช่วยปลอบโยน มาหาและเกลี้ยกล่อมไม่ให้ทำเรื่องแย่ๆ (ซึ่งในที่นี้น่าจะหมายถึงการฆ่าตัวตาย) 

    - For him เพลงนี้พูดถึงคนสองคนเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน เนื้อหาเพลงน่ารักมากเลยนะ ทำให้เราจินตนาการตามได้เลย คนสองคนที่เข้ากันได้ดี สิ่งไหนที่ฉันขาดหายไปเธอก็มาทดแทนได้หมด และท่อนที่โดนใจมากๆ เลยคือท่อนที่บอกว่า "You don't have to say I love you to say I love you" (คุณไม่จำเป็นต้องพูดว่า "ฉันรักคุณ" เพื่อบอกว่าคุณนั้นรักฉันก็ได้นะ)



    Billie Eilish บิลลี ไอลิช ไพเรต เบร์ด โอคอนเนลล์ เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ.2001 เป็นนักร้อง-นักแต่งเพลง ชาวอเมริกัน แนวเพลงของเธอคือ alternative indie 

    เสียงของเธอเป็นเอกลักษณ์มาก รวมถึงเพลงที่ถ่ายทอดออกมา ทั้งดนตรีและเนื้อเพลงมีความเป็นเธอมากๆ เพลงส่วนใหญ่หลายคนอาจฟังแล้วหลอนๆ หน่อย แต่บางเพลงก็มีเสน่ห์ลุ่มลึกชวนฝันมากๆ

    Ocean Eyes เพลงนี้พูดถึงดวงตาที่มีเสน่ห์ลึกล้ำราวกับทะเลค่ะ แบบที่ว่าไม่สามารถหยุดมองดวงตานั้นได้ ยิ่งมองก็ยิ่งหลงจนเกิดตกหลุมรักอย่างรุนแรง และด้วยดนตรีเพลงนี้เองก็ทำให้เรารู้สึกตามเนื้อเพลงได้ไม่ยาก เราแนะนำให้ฟังเลย

    - Lovely เพลงนี้เศร้ามาก เนื้อหาและท่วงทำนองเรียกได้ว่าจมดิ่ง เป็นเพลงประกอบซีรีย์เรื่อง 13 Reasons Why และยังได้ Khalid มาร้องร่วมด้วย หากวิเคราะห์ดูแล้วเพลงนี้น่าจะพูดถึงโรคซึมเศร้า เนื้อหาเพลงพูดประมาณว่า คิดว่าเจอทางออกแล้ว แต่ก็ยังไม่ไปไหนสักที ได้แต่หวังว่าสักวันจะออกจากที่นี่ได้สำเร็จ แม้ว่ามันจะใช้เวลาทั้งคืนหรือร้อยปีก็ตาม

    idontwannabeyouanymore เพลงนี้ต้องใช้การตีความ เหมือนจะสื่อถึงความไม่อยากเป็นตัวเอง ความเจ็บปวดของการเป็นตัวเอง แบบว่า ฉันไม่อยากจะเป็นแบบเธออีกต่อไปแล้ว (เธอในที่นี้น่าจะหมายถึงตัวเองในกระจก) โดยรวมแล้วเพลงนี้แสดงถึงความแตกสลายเป็นอย่างมากค่ะ 


    __________


    ก็หมดกันไปแล้วนะคะกับ 5 ศิลปิน ยังมีศิลปินคนอื่นๆ อีกมากมายที่เราไม่ได้กล่าว และเนื่องด้วยทั้ง 5 คนนี้มาจากความชอบส่วนตัวของเรา อาจจะมีอีกหลายคนเลยที่ไม่ได้นำเสนอ ส่วนศิลปินทั้ง 5 คนนี้เราอยากให้ทุกคนลองฟังเพลงของพวกเขาดูค่ะ มีหลายเพลงเลยที่เข้ากับบรรยากาศและความรู้สึกของคนเรา ณ ขณะนั้น ยังไงก็ขอตัวลาไปก่อนนะคะ หวังว่าเสียงเพลงจะเป็นเพื่อนแก้เหงาใจ ขอให้ดนตรีโอบกอดคุณจากความรู้สึกหลายๆ อย่างนะคะ บ๊ายบายยย~



    .

    .

    .


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหานิยายได้ เนื่องจากเจ้าของเรื่องปิดการเข้าถึง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×