-พวงมาลัย-(ชื่อชั่วคราว) - นิยาย -พวงมาลัย-(ชื่อชั่วคราว) : Dek-D.com - Writer
×

    -พวงมาลัย-(ชื่อชั่วคราว)

    พิมพ์ลภัสกำลังย้ายบ้าน ไปเริ่มชีวิตใหม่หลังจากที่พ่อเธอถูกฟ้องร้องจนล้มละลาย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เธอจะต้องเริ่มชีวิตในร่างใหม่ที่ชื่อคุณกรรณิการ์เช่นนี้!

    ผู้เข้าชมรวม

    877

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    877

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    34
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  28 มี.ค. 61 / 21:29 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       ความเอยความรัก
    ผูกสมัครชั้นต้น ณ หนไหน 
    เริ่มเพาะเหมาะกลางหว่างหัวใจ
    หรือเริ่มในสมองตรองจงดี
    แรกจะเกิดเป็นไฉนใครรู้บ้าง
    อย่างอำพรางตอบสำนวนให้ควรที่
    ใครถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงรตี
    ผู้ใดมีคำตอบขอบใจเอย...-เวนิสวานิช


                   







       “พวงมาลีร้อยช่อละออหวล
        กลิ่นรัญจวนอวลอบตลบไหน
        กลีบกุหลาบร้อยรักปักดวงใจ
        คล้องมือไว้ให้ประจักษ์รักนิรันดร์”

         น้ำเสียงนุ่มนวลของหญิงสาวเอื้อนเอ่ยเป็นทำนองราวดนตรี บทกลอนที่เจ้าหล่อนเพิ่งด้นสดทำให้ชายหนุ่มข้างๆยิ้มกริ่ม เขาสูดหายใจยาวเหยียดพลางจ้องมองใบหน้างามที่เรื่อด้วยความคิดว่าตนเองต้องชนะ บทกลอนคือสิ่งที่เจ้าหล่อนรักและเก่งกาจยิ่งกว่าใครในวังนฤบดินทร์แห่งนี้ บทกลอนวรรคทองในวรรณคดีเธอจำได้หมด นับประสาอะไรกับการแข่งแต่งกลอนด้นสดกับชายหนุ่มเย็นชาผู้นี้!

       ชานนท์จ้องมองดอกไม้รอบๆสวน ดอกไม้เบ่งบานส่งกลิ่นหอมเป็นเพราะฝนตกเมื่อคืน เขาจ้องมองไปมาแต่ยังหาดอกไม้ที่โดนใจไม่ได้สักที พลันหญิงสาวตรงหน้ากลับเอ่ยเบาๆเปรยว่าต้องยอมแพ้เธอเสียดีกว่า มิเช่นนั้นจะขายหน้าเสียเปล่าๆ

       เมื่อหาดอกไม้แต่งกลอนไม่ได้ เขาก็จะใช้ชื่อเจ้าหล่อนที่เป็นดอกไม้ก็แล้วกัน!

       “กรรณิการ์ไม้ดอกออกริมรั้ว
        งามดุจตัวเจ้าของชื่อคือไฉน
        กลีบหกแฉกแจกกลิ่นขจรไกล
        ยามราตรียิ่งหอมไปใจคำนึง
        อันดอกไม้ยามเช้าก็หล่นร่วง
        เหลือแต่ดวงจิตพี่ยังคิดถึง
        ถึงตัวน้องกรรณิการ์ข้ารำพึง
        ยิ่งคะนึงถึงน้องแล้วแก้วฤทัย
        อันความรักนั้นคือกระไรหนอ
        ที่มีพอจักเรียกรักได้ฤๅไม่
        ความคิดถึงความเป็นห่วงดุจดวงใจ
        พออยู่ไกลก็ฝันหาใช่รักฤๅ”

       รอยยิ้มแบบผู้ชนะเลือนหายไปจากใบหน้างาม มีเพียงสีแดงระเรื่อเข้ามาแทนที่ ริมฝีปากรูปกระจับเม้มแน่น พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแบบคนเหนื่อยล้า

       “กรรณ์บอกว่าแต่งจากแค่ดวงไม้ในสวนนี้นี่คะ? แล้วดอกกรรณิการ์มาจากไหน?”
       “พี่ไม่ได้หมายถึงกรรณิการ์ที่เป็นดอกไม้...”

       ชานนท์กล่าวทิ้งช่วง ยิ่งทำให้ใจของหญิงสาวเต้นไม่เป็นเป็นจังหวะ

       “พี่หมายถึงกรรณิการ์ที่อยู่ตรงหน้าพี่นี่ไง”






     
        
       ชีวิตแบบคุณหนูต้องจบลง เมื่อพ่อของพิมพ์ลภัสถูกฟ้องร้องจนต้องล้มละลาย ทรัพย์สินทุกอย่างของครอบครัวต้องสูญหาย รวมทั้งบ้าน...บ้านที่พ่อเธอรักมากที่สุด บ้านที่เป็นศูนย์รวมความทรงจำทุกอย่างตั้งแต่เด็กของพิมพ์ลภัส บ้านที่สืบทอดมาจากต้นตระกูลวรลักษณ์ต้องกลายเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว สิ่งของเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นทวดเริ่มหายไปจากบ้าน เหลือเพียงกระเบื้อง ผนัง และหลังคาที่เธอเคยอาศัยอยู่ภายในอ้อมกอดอันอบอุ่นของพ่อและแม่ บัดนี้เธอไม่เหลืออะไรเลย พ่อต้องติดคุก ส่วนแม่ก็ต้องรีบขนของหนีภายในเวลาไม่เกินสามวันนี้ นามสกุลวรลักษณ์ที่เคยใช้ก็ต้องเปลี่ยนเป็นไพรสณฑ์อันเป็นนามสกุลก่อนแต่งงานของแม่ พวกเธอกำลังจะไปอยู่กับป้าที่เชียงใหม่ เริ่มชีวิตใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก...


       ในห้องเก่าๆฝุ่นฟุ้งอวลไปรอบห้องยามที่เท้าของพิมพ์ลภัสกระแทกเข้ากับพื้นกระเบื้องสีอิฐ ผ้าม่านกำมะหยี่สีไวน์แดงสะบัดตามแรงลมจากช่องลมพัดโบกเข้ามา แสงจากหน้าต่างเผยให้เห็นเตียงเก่าๆหลังหนึ่งที่มีแต่ฝุ่นจับราวกับไม่เคยมีใครมานอนนานนับหลายปีแล้ว บนหัวเตียงคือรูปถ่ายขาวดำของหญิงสาวในชุดไทยรัชกาลที่7ที่กำลังยิ้มอยู่อย่างเป็นสุข ข้างกันนั้นคือชายหนุ่มรูปร่างสง่างามกำลังยืนโอบเอวหญิงสาว ใบหน้าของชายหนุ่มเรียบเฉยแต่เปี่ยมด้วยความรักกับสตรีข้างกาย พิมพ์ลภัสหยิบภาพลงกระเป๋า อย่างน้อยเธอก็ไม่อยากให้ทั้งคู่อยู่ในห้องที่มีแต่ฝุ่นจับเขลอะ และอยู่อย่างโดดเดี่ยวภายในบ้านที่ไม่มีแม้แต่ความสุขอีกต่อไป

       มือเรียวของพิมพ์ลภัสดึงลิ้นชักไม้สักเก่าๆเต็มแรงเพราะความฝืดของมัน พลันมันก็ออกมาทั้งอัน รูปถ่ายเล็กๆเก่าๆแผ่นหนึ่งพร้อมพวงมาลัยกรอบแห้งกระจัดออกหล่นลงพื้นเขลอะฝุ่น หญิงสาววางลิ้นชักลง พลางหยิบรูปถ่ายขาวดำบนพื้นขึ้นมามอง หญิงสาวคนละคนกับภาพแรกกำลังยิ้มมุมปากเเบบเหยียดหยัน คิ้วเข้มโก่งสูง หญิงสาวหยิบรูปลงใส่กระเป๋าอีกใบหนึ่ง พลางตบเท้าก้าวออกไป เหลือเพียงพวงมาลัยกรอบแห้งพวงนั้นวางอยู่กลางห้องราวกับจงใจวางทิ้งเอาไว้กับเตียงฝุ่นจับหลังนั้น...


                                                                  อักษรารินทร์...




        เปิดเรื่องใหม่อีกแล้วฤๅ เรื่องเก่ายังฆ่ากันไม่เสร็จเลยนะ 555 อักษ์เป็นพวกประเภทคิดพล็อตไวราวกับสายลมค่ะ  แค่มองเห็นตุ๊กแกตีบนเพดานก็นึกพล็อตออกแล้ว (เอากับเขาสิ) แต่จะเข็นเขียนจนจบทั้งสองเรื่องนั้นก็ขึ้นอยู่กับกำลังใจจากผู้อ่านทุกท่าน และทุกคอมเม้น(ที่ยังไม่มี) แต่อย่างไรก็เถอะค่ะ อักษ์จะพยายามเขียนให้ดีที่สุดสุดฝีมือของอักษ์ เม้นได้นะคะแค่อย่าด่าเลย หนูกลัววว 555

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น