ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชีวิตเหมือนตกนรกเมื่อโดนอัญเชิญไปต่างโลก

    ลำดับตอนที่ #2 : หัวหน้าอัศวินคารอส อาร์ค

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 58


    ผมหัวหน้าอัศวินคารอส อาร์ค ถึงจะเป็นหัวหน้าอัศวินแต่ก็ไม่ได้ภูมิใจเลยสักนิด การมาเป็นอัศวินของที่ประเทศนี้มันทำให้วิถีอัศวินต้องเสื่อมเสีย วิธีอัศวินของผมคือ 'ยึดถือในความถูกต้อง ทำเพื่อประชาชน สร้างความน่าเกรงขามด้วยความสง่าผ่าเผยและมีศักดิ์ศรี' ราชาของประเทศนี้มีแต่คิดถึงเรื่องของตัวเอง ความทะเยอทะยานที่มากเกินไป ถ้ามีความทะเยอทะยานสูงแต่ดูแลประชาชนมากกว่านี้สักนิด ต่อให้ต้องการโลกทั้งใบผมก็จะเอามาให้ สิ่งแรกที่ผมเห็นตอนที่เป็นอัศวินใหม่ๆคือวิธีการซ้อมที่ให้ฆ่ากันไปเรื่อยๆ เหมือนกับกำลังจะสร้างเครื่องจักรสังหารที่พร้อมทำตามคำสั่งของตนเองให้ได้ อันนี้คงเป็นครั้งแรกที่ทำให้ตัวของผมพยายามผลักดันตัวเองให้เป็นหัวหน้าอัศวินให้ได้ หลังจากฝึกมา 1 ปีเต็มผมก็ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าอัศวิน ความหวังของผมเริ่มถูกเติมเต็มแต่กลับถูกดับลงง่ายๆเพียงแค่ราชาส่งคนมาดูทุกวันทำให้ผมแก้ไขอะไรไม่ได้เลยสักนิด ทุกอย่างที่ผมทำอยู่ตอนนี้มันเป็นใจชวนให้ผมอยากออกจากที่แห่งนี้แต่การทำแบบนั้นมันเท่ากับการทรยศคำสัตย์สาบานที่ผมให้ไว้กับราชา แล้วที่สำคัญหากผมออกไปจากที่นี่ผมจะปกป้องคนอื่นๆไม่ได้อีกต่อไป บางทีคนที่ทำให้วิถีอัศวินของผมแปดเปื้อนอาจจะไม่ใช่คนอื่นนอกจากตัวของผมเองเพียงแค่อ้างคนอื่นเพื่อให้ตัวเองสบายใจขึ้น ความรู้สึกนี้ยังคงอยู่จนกระทั่งตอนนี้ ตอนนี้ราชากำลังจะอัญเชิญคนจากโลกอื่นมาที่นี่ จนถึงตอนนี้ผมยังไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่ต้องอัญเชิญคนบริสุทธิ์มาใช้ให้ทำงานเลยสักนิดเดียว ถ้าพูดถึงพวกปีศาจที่โลกนี้ก็มีอยู่บ้างแต่ก็ไม่ใช่มีอำนาจขนาดทำอะไรประเทศสักประเทศเดียวได้เลยด้วยซ้ำ พวกที่อันตรายที่สุดในโลกนี้ก็มีเพียงแค่สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า 'มนุษย์' นั่นล่ะ รวมทั้งตัวผมเองที่ถึงจะคิดแบบนี้แต่กลับไม่ได้คัดค้านราชาออกไปสักนิดเพียงแค่หวังว่าถ้าเขามาจริงอาจจะช่วยเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของประเทศนี้ได้ ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ผมสมเพชในความโง่ของตัวเอง คนที่โดนอัญเชิญมาโลกนี้เป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้นพอมีกล้ามเนื้ออยู่บ้างแต่ก็พอๆกับอัศวินฝึกหัดนั่นล่ะ ก่อนอื่นที่เขามาที่นี่ส่วนนึงก็เป็นเพราะความผิดของผมเอง ผมต้องรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างน้อยก็ต้องให้เขาไปอยู่ในเมืองที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วผมค่อยหาทางส่งเขากลับโลกเดิม ปัญหาตอนนี้คือราชางี่เง่านี่จะทำยังไงดีหรือให้ทำให้นึกว่าไร้ประโยชน์ดี

    "ฝ่าบาทครับ ชายคนนี้เป็นเพียงแค่คนธรรมดาผมเห็นว่าทางเราไม่ควรเอามาอยู่ด้วย เอามาอยู่ด้วยก็มีแต่ทำให้การรบเสียรูปขบวนนะครับ"

    "งั้นก็เอามาเป็นโล่มนุษย์ไม่ก็เอาเป็นหุ่นให้คนในที่นี่ลองท่าก็ได้"

    ชิ ไม่ยอมเสียอะไรไปง่ายๆเลยนะแต่ยังอยู่ในจุดที่คาดไว้อยู่คงพอไปไหวเพราะนี่คือหนึ่งในสาเหตุที่ผมเลือกพูดเรื่องไร้ประโยชน์ได้ การอัญเชิญคนมาไม่มีทางไม่เสียอะไรอยู่แล้ว น่าจะเสียมากด้วยซ้ำ ถ้าเป็นคนปกติคงจะโดนบอกประมาณว่า 'ไร้ประโยชน์ก็ให้ฆ่าทิ้ง' อย่างน้อยการมีอยู่ในเมืองหรือให้อยู่ที่นี่ก็คงไม่ต้องฝึกเพื่อปิดบังพลังเอาไว้ แค่การมีตัวตนอยู่ก็เพียงพอที่จะเอาไปขู่อีกฝ่ายได้แล้ว

    "ผมคาดว่าหากเอาเป็นโล่มนุษย์มีแต่จะวิ่งหนีเท่านั้นนะครับ"

    "งั้นมาทดสอบเป็นยังไง ถ้าเจ้าฟาดดาบลงไปแล้วเจ้านั่นไม่หลบถือว่าข้าชนะแล้วเก็บไว้เป็นโล่มนุษย์ เป็นการพิสูจน์ว่าไม่มีทางหนีทัพ"

    "ครับ"

    ผมยิ้มเล็กน้อยก่อนที่ตอบรับไป การเดิมพันครั้งนี้ผมชนะก่อนที่จะเริ่มด้วยซ้ำ การตัดสินใจเรื่องการสู้จากคนที่ไม่เคยผ่านสงครามมาเลยสักนิดก็คงได้แค่นี้ล่ะนะ ถ้าเห็นว่าต้องตายยังไงคนเราก็พยายามดิ้นรนเอาตัวรอดอยู่แล้ว เอาล่ะไปปลดปล่อยคนบริสุทธิ์กันเถอะ ครั้งนี้ผมเชื่อมั่นว่าตัวเองทำถูกต้องเลยสามารถใช้ดาบได้โดยไม่มีความลังเลเหมือนที่ผ่านมาเล็งไปให้อยู่ข้างหน้าให้คิดว่าโดนก็พอ หลังจากที่ดาบปักลงไปบนพื้น ผมก็แปลกใจจนเผลอพูดสิ่งที่คิดไว้ออกมา

    "ท...ท..ทำไมไม่หลบ"

    พอหันกลับไปหาราชาก็พบกับรอยยิ้มที่มั่นใจในชัยชนะของตัวเอง พอเปรียบเทียบกับสถานการณ์ตอนนี้มันก็ชวนให้รู้สึกว่าเป็นรอยยิ้มที่มีมาตั้งแต่ผมเดินไปจับดาบแล้ว เหมือนกับกำลังจะพยายามบอกทุกอย่างผ่านการกระทำว่า 'ถ้าอยากให้ผลลัพธ์เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นมาก็ต้องทำสิ่งที่เป็นเป็นไม่ได้ขึ้นมาก่อน' หากเป็นแบบนั้นจริงผมก็คงต้องยอมรับความผิดที่ไปสงสัยในตัวราชา ไม่สิ อย่าเพิ่งมาสงสัยเรื่องนี้ ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดคือผู้ที่มาจากต่างโลก 

    "ให้ทำอะไรกับชายคนนี้ดีครับ"

    "ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น"

    คำพูดสั้นๆที่แสนปกติกลายเป็นคำพูดที่แสนน่ากลัวเพียงแค่ออกมาจากชายคนนี้ คนที่เพื่อให้เป้าหมายตัวเองสำเร็จจะเสียลูกน้องไปหรือทำให้ใครเดือดร้อนก็ได้ ไม่ต้องทำอะไร สำหรับเขาไม่ใช่ว่าไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษแต่มันหมายความว่าแบบนั้นจริงๆ ไม่ต้องให้ที่พัก อาหาร หรือแม้แต่เครื่องดื่ม แต่อย่างน้อยถ้าแค่ลากไปไกลๆราชาเพื่อให้ไม่มีอะไรแย่กว่านี้โดยอ้างว่าพาไปฝึกก็คงได้

    "ผมขอตัวพาชายคนนี้ไปฝึกก่อนนะครับ"

    ผมไม่ได้รอคำตอบเลยสักนิด รีบเดินไปหาชายคนนั้นแล้วก็ลากไปที่ฝึกทันทีระหว่างทางก็มีดิ้นเรื่อยๆ ความจริงก็อยากอธิบายสถานการณ์อยู่หรอกนะแต่ดูแล้วคงคุยไม่รู้เรื่องแน่ๆ เดี่ยวภาษาค่อยสอนทีหลังโดยการใช้ท่าทางหรือใช้ของจริงอธิบายก็คงได้คงต้องเป็นช่วงกลางคืนที่ไม่มีคนมาเฝ้า คืนนี้ปล่อยให้นอนไปก่อนแล้วกัน  

    "เอาล่ะต่อไปก็การฝึก"

    ผมพูดกับตัวเองหลังจากที่มั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว 

    "เบส เดรฟ"

    ผมขานชื่อของคนที่ดูเหนื่อยออกมาให้สู้กับผมโดยที่จะพยายามใช้รูปแบบถ่วงเวลาให้ได้พักมากที่สุด หลังการฝึกสิ้นสุดผมก็รีบตรงกลับไปที่ห้องพักโดยข้ามอาหารมื้อเย็นไปเพื่อหาวิธีสอนภาษาและหาทางหนีให้กับชายคนนี้

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×