คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : คริสต์ นิกายออร์ธอดอกซ์
นิกาย ออร์ธอดอกซ์ ( Orthodox )
ความเป็นมาของนิกายนี้สืบย้อนไปถึงศตวรรษแรกในคริสตศาสนา อันเป็นช่วงระยะเวลาที่จักรวรรดิโรมันถูกแบ่งแยกออกเป็นสองอาณาจักร คือ โรมันตะวันตก มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงโรม ใช้ภาษาลาตินเป็นภาษากลาง ส่วนโรมันตะวันออก ซึ่งนิยมเรียกกันว่า ไบแซนทีน ( Byzantine ) มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุง คอนสแตนติโนเปิล ( Constantinople ) มีสหมิตรที่เป็นแนวร่วมเดียวกันคือเมือง อเล็กซานเดรีย ( Alexandria ) อันติอ็อค ( Antioch ) และเยรูซาเล็ม ( Jerusalem ) ใช้ภาษากรีกเป็นภาษากลางสื่อสารทั่วไปอาณาจักรทั้งสองนี้ มีการแข่งขันกันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นด้านศาสนา ศิลปและวัฒนธรรม การเมือง แม้นว่าจะนับถือศาสนาคริสต์เหมือนกัน แต่มุมมองในด้านความเชื่อต่างกัน เช่น ฝ่ายนิกายออร์ธอดอกซ์ ไม่บังคับในเรื่องการถือโสดของนักบวช ไม่บังคับในเรื่องการอดอาหาร การไว้หนวดเครา ปฏิเสธการไถ่บาปของบาทหลวงคาธอลิก เพราะเห็นว่าไม่จำเป็น การไม่ยอมรับในอำนาจของพระสันตะปาปา กลุ่มออร์ธอดอกซ์ได้ถือโอกาส ประกาศตนเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อกรุงโรมแล้วเรียกกลุ่มของตนว่า “ ออร์ธอดอกซ์ “ ( Orthodox ) ซึ่งมีความหมายว่า “ หลักธรรมที่เที่ยงตรง “ หรือ “ หลักธรรมที่ถูกต้อง “ ทั้งนี้เพราะพวกออร์ธอดอกซ์ เชื่อว่าหลักคำสอนที่พวกตนปฏิบัติอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มีเหตุผลไม่งมงาย พิธีกรรมความเชื่อต่างๆ ล้วนได้รับอิทธิพลจากกรีก อันเป็นแหล่งที่มาของความเชื่อที่ถูกต้องเป็นเหตุเป็นผล
ศาสนจักรของโรมันตะวันออกเจริญรุ่งโรจน์อยู่นาน จนกระทั่งอาณาจักรโรมันตะวันตกล่มสลายตกเป็นของพวกอนารยชนในระยะเวลาหนึ่ง อาณาจักรโรมันตะวันออกก็สูญเสียให้กับพวกเตอร์ก ในปี ค.ศ. 1453 นับแต่นั้นมาศาสนาอิสลามได้เข้าไปมีบทบาทแทน
ปัจจุบันนี้นิกายออร์ธอดอกซ์ มีอิสรภาพในด้านความเชื่อและการปกครองตนเอง โดยไม่ต้องขึ้นต่อสำนักวาติกันของโรม มีปาตริอาร์คเป็นประมุข แต่ก็มีออร์ธอดอกซ์บางกลุ่มที่ยังขึ้นต่อสำนักวาติกัน เรียกว่า ออร์ธอดอกซ์คาธอลิก พวกนี้มีพิธีกรรมต่างๆ เป็นแบบตะวันตกแต่ระบบการปกครองอยู่ภายใต้การชี้นำของสำนักวาติกัน ประเทศที่นับถือนิกายออร์ธอดอกซ์ ส่วนมากเป็นยุโรปตะวันออก เช่น โรมาเนีย ฮังการี บัลแกเรีย โปแลนด์ ยูโกสลาเวีย และรัสเซีย ฯลฯ
อย่างไรก็ตามแม้นว่านิกายออร์ธอดอกซ์โดยทั่วไป จะปฏิเสธระบบการปกครองและรูปแบบพิธีกรรมของศาสนจักรคาธอลิก แต่ก็ยังคงยอมรับในศีลศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 7 ข้อ เป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิตตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย ทั้งๆ ที่ระเบียบปฏิบัตินั้นอาจแตกต่างกันในส่วนปลีกย่อย แต่ในด้านแก่นหรือเนื้อแท้ของพิธีกรรมยังคงเป็นแบบเดียวกัน
พิธีกรรมและแนวความเชื่อของนิกายออร์ธอดอกซ์
นิกายออร์ธอดอกซ์ มีแนวความเชื่อที่แตกต่างจากนิกายโรมันคาธอลิกบางประการตามที่ฮอฟฟ์ได้จำแนกไว้ดังนี้ คือ
1. การรับศีลล้างบาปของนิกายออร์ธอดอกซ์ ยังคงกระทำกับทารก และใช้วิธีการดำน้ำ ส่วนนิกายคาธอลิกนี้ใช้วิธีการปะพรมน้ำ และอาจจะกระทำต่อเด็กซึ่งโตพอรู้หลักธรรม ไม่จำเป็นที่จะต้องกระทำต่อทารกเท่านั้น ( เด็กที่โตพอรู้ความนั้นอาจจะมีอายุประมาณ 12-14 ปี )
2. การรับศีลมหาสนิทของนิกายออร์ธอดอกซ์ใช้ขนมปังและเหล้าไวน์ ส่วนนิกายคาธอลิกใช้แต่ขนมปังอย่างเดียว ส่วนเหล้าไวน์นั้นบาทหลวงผู้กระทำพิธีเท่านั้นที่ได้ดื่ม และระยะเวลาของการกระทำพิธีศีลมหาสนิทของนิกายออร์ธอดอกซ์ก็ใช้เวลาที่ยาวนานกว่ากัน
3. นิกายออร์ธอดอกซ์ยอมให้นักบวชของตนสามารถแต่งงานได้ก่อนบวช ส่วนนิกายคาธอลิกผู้ที่จะบวชได้จะต้องเป็นโสด ไม่มีพันธะทางครอบครัวมาก่อน
4. นักบวชและนักคิดของทางตะวันออกมีอิทธิพลต่อนิกายออร์ธอดอกซ์ ทำให้มีลักษณะเป็นเทววิทยาและลึกลับมากกว่า คาธอลิก ฉะนั้นจึงเน้นในความศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสต์ทำให้ห่างจากความเป็นมนุษย์ และเชื่อในเรื่องตรีเอกานุภาพว่าไม่แยกบุคคล
สลักรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เลย และไม่เชื่อในเรื่องไฟชำระวิญญาณของผู้ตายจะรออยู่พร้อมกันจนถึงวันพิพากษาโลก
6. นิกายออร์ธอดอกซ์ ส่งเสริมชีวิตประชาชนให้ดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย โดยเฉพาะนักบวชนั้นจะต้องไม่ฟุ้งเฟ้อ มีความอดทน กล้าหาญ ไม่อาลัยในความสุข ละความรักแบบโลกๆ แต่เคร่งครัดศรัทธาในศาสนาอย่างจริงจัง นักบวชออร์ธอดอกซ์ หลายคนสละชีวิตทางโลกไปเป็นนักพรตถือศีลภาวนาตามถ้ำและทะเลทรายไม่น้อย
7. นิกายออร์ธอดอกซ์ใช้ภาษากรีก และถือว่าเป็นภาษาที่ต้องให้ความเคารพคล้ายกับที่พระพุทธศาสนาให้ความสำคัญกับภาษาบาลี
สรุปได้ว่า นิกายออร์ธอดอกซ์เป็นนิกายแรกที่แยกตัวออกมาเป็นอิสระจากสำนักวาติกันในกรุงโรม โดยมีสาเหตุใหญ่ที่สำคัญที่สุดคือ การปฏิเสธในอำนาจของพระสันตะปาปา ประกอบมีพื้นภูมิประเทศที่ห่างไกลจากอำนาจของโรมันตะวันตก จึงเป็นการง่ายที่จะตั้งตนเป็นอิสระ และปฏิบัติพิธีกรรมความเชื่อไปตามวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนผสมผสานกับความเชื่อในคริสตศาสนา ดังนั้น นิกายออร์ธอดอกซ์ จึงมีลักษณะที่ค่อนข้างแปลกแยกจากพวกคาธอลิกและพวกโปรเตสแตนต์
อย่างไรก็ตาม ผู้นับถือนิกายออร์ธอดอกซ์นี้มีศรัทธาที่เหนียวแน่นในศาสนามาก เราจะเห็นได้ว่าแม้ประเทศทางแถบยุโรปตะวันออกหลายประเทศ ได้เปลี่ยนการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์และประชาชนประเทศตุรกีเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม ผู้นับถือนิกายออร์ธอดอกซ์หลายคนยังคงมีศรัทธาที่เหนียวแน่นและปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด ไม่ถูกหลอมเหลาได้ง่ายจากสภาพแวดล้อมจวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ยังคงมีผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์ธอดอกซ์ ในบริเวณที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นจำนวนไม่น้อย ทั้งๆ ที่น่าจะถูกทำลายจนหมดสิ้นโดยผู้รุกราน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Credit :: หนังสือ นิกายต่างๆในศาสนาคริสต์
ความคิดเห็น