ตอนที่ 27 : หลอก
มู่หลานพาร์ท
เพียงผมได้เปิดประตูเข้าไปเสียงอืออึงจากไอลุงนั้นก็ดังขึ้นด้วยความสงสัย ประตูที่เปิดออกกลับไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้นเลยพูดง่ายๆลุงนั้นมองไม่เห็นผมจึงเกิดอาการสงสัยว่าประตูเปิดออกได้ยังไง
“ใครเปิดประตู เปิดทำเหี้ยไรกูตกใจหมด”เสียงของนัทดังขึ้น
หึ แบบนี้แกล้งสักนิดหน่อยดีกว่าผมจัดการเดินเข้าไปใกล้ๆลุงนั้นแล้วเป่าลมใส่หูของมันบรรยากาศรอบตัวผมที่คงพูดได้ว่าเย็นจัดทำให้มันตกใจขนลุกทันที
“อากาศแม่งเย็นไปป่าวว่ะ..รีบจัดการเด็กนั้นก่อนดีกว่าจะได้กลับๆ”
!!!จะทำร้ายร่างนั้นหรอไม่มีวันหรอก ผมถีบเก้าอี้ที่มันนั่งอยู่อย่างแรงจนเก้าอี้และร่างของไอลุงบ้าลงไปนอนกอดพื้น แต่แค่นี้ยังไม่พอหรอกผมขึ้นไปนั่งทับตัวมันดูสิจะลุกยังไงถึงจะมองไม่เห็นสัมผัสผมไม่ได้แต่ถ้าผมทำแบบนี้ก็ลุกออกไม่ได้เหมือนกันพูดไปก็อยากเป็นผีมากกว่าเป็นคนสะอีก
“เชี้ย!เอ้ยทำไมลุกไม่ขึ้นว่ะ”นัทพูดขึ้นทันทีพลางเริ่มคิดในใจว่านี้มันแปลกๆแล้ว
“เหอะ!ผีสางนางไม้ที่ไหนมันมาทับกู อย่าคิดว่ากูจะกลัวแค่นี้ทำอะไรกูไม่ได้หรอกเว้ย”
//ทำไรไม่ได้หรองั้นก็ลองลุกขึ้นให้ได้ก่อนสิค่อยมาพูด//
แต่เดี๋ยวนะนี้มันผ่านมากี่นาทีแล้วถึง30รึยังโอ้ยก็อยากแกล้งทับไอลุงนี้ต่ออยู่หรอกแต่จะให้ร่างสลายไปมันไม่ได้เว้ยยต้องกลับเข้าร่างแล้วมาจัดการลุงนี้แทน ผมรีบล่องลอยไปที่ร่างของอินที่นอนอยู่ก่อนที่จะตั้งสมาธิแล้วกลับเข้าไปภายในร่างนั้นทันที
“หึ!ผีก็ทำอะไรคนแบบกูไม่ได้พูดแค่นี้ผีก็ไปแล้วฮาๆๆ”นัทจัดการเดินเข้าใกล้ร่างของเด็กน้อยทันทีมือหนาชักปืนจอมาที่ร่างของเด็กน้อยทันที
“ขอโทษนะ กูไม่ได้อยากทำร้ายเด็กแต่พ่อมึงทำกับกูไว้เจ็บมากลาก่อน”มือหนากำลังจะเหนี่ยวไกปืนแต่กลับว่าร่างเล็กที่นอนสลบอยู่เมื่อกี้ตื่นขึ้นและจับล็อกมือไว้
“ไม่อยากฆ่าก็ไม่ต้องฆ่าสิ!”ผมพูดขึ้นหลังจากที่ลุกขึ้นล็อกมือของลุงบ้าได้
“ปล่อยกู!”
“ใครจะไปปล่อย!ปล่อยมีหวังตายแน่ๆ”
“จะไม่ปล่อยใช่มั้ย!ได้!”
ไอลุงบ้าใช้แรงทำให้หลุดออกจากตัวผมก่อนที่จะผลักผมออกไปเต็มแรงปืนที่ตกพื้นตอนที่ล็อกมือก็ถูกเก็บขี้นมา แบบนี้แย่แน่ๆผมคิดในใจก่อนที่จะขยับเท้าเล็กป้อมๆวิ่งผ่านทางระหว่างขาทั้งสองของลุงนั้นไปตอนนี้ต้องเอาชีวิตให้รอดหนีตำรวจยังหนีได้กะอีแค่ลุงคนนึงทำไมจะหนีไม่ได้ว่ะ ผมสับขาวิ่งด้วยความเร็วแสงแต่ด้วยว่าเท้ามันสั้นลุงคนนั้นจึงตามไล่ยิงผมมาติดๆถ้ารักษาชีวิตนี้ไม่ได้ก็ไม่มีชีวิตอื่นอีกแล้วยังไงก็ต้องรอด!
“ไอเด็กบ้า!หยุดนะ”
ปัง
ปัง
“โถ่เว้ย!วิ่งเร็วเป็นบ้าเลย!”นัทมองสังเกตุมาตลอดทางกลับเห็นว่าลูกน้องที่อยู่ด้านนอกตายจนหมดแปลกมันแปลกเกินไป
“เลิกตามสักทีเถอะเว้ยยจะวิ่งไม่ไหวแล้วเหนื่อย”ผมพูดออกมาเบาๆเพราะเริ่มไม่มีแรงแล้วร่างเล็กๆแบบนี้จะวิ่งได้สะแค่ไหน ยิ่งหนีก็ยิ่งตามจะบ้าตายขอร้องละใครก็ได้ช่วยทีแต่แล้วความพยายามทุกอย่างก็จบลงด้วยตอนนี้วิ่งมาจนทางตันทางด้านหน้าตอนนี้คือหน้าตึกสูง10ชั้นหากวิ่งไปต่อคงได้ตกตึกตายแน่ๆ
“หึ!หมดทางหนีแล้วสินะ ยอมตายสะดีๆเถอะสัญญาจะไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย”
“ป๊า..อินขอโทษ..”
ตุบ ปัง!
—————————-
ตัดแบบคนหล่อ
วันนี้จะมาอธิบายเกี่ยวกับเนื้อหาเล็กน้อยในตอนที่แล้ว
อิน คือ คนที่ถึงเวลาต้องตายแล้ว
มู่หลาน คือ คนที่ยังไม่ถึงเวลาตาย
ด้วยความผิดพลาดลงบัญชีตายผิดของยมทูตจึงทำให้
อิน เป็นคนที่รอด
มู่หลาน กลายเป็นคนที่ต้องตาย
แต่ด้วยคนที่ต้องตายยังไงก็ต้องตาย ถึงแม้จะเกิดข้อผิดพลาดแต่เมื่อถึงเวลาวิญญาณก็จะหลุดออกจากร่างอยู่ดี ซึ่งในเวลานั้นเองอินก็ได้มาพบกับยมทูตพร้อมกับวิญญาณของมู่หลานที่กำลังล่องลอยอยู่ในนรกฃ
อินได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับมู่หลานและความผิดพลาดเบื้องต้นจึงตัดสินใจทำสัญญากับยมทูตแลกกับข้อเสนอบางอย่างที่เท่าเทียม โดยร่างของอินจะมาเป็นร่างสถิตของมู่หลานนั้นเอง
เอาง่ายๆคือ มู่หลานยังไม่ถึงเวลาตายแต่ดันมาตายจึงได้ร่างของอินมาครอบครองแทน
ไรท์อธิบายไม่ถูกอะแต่เอาเป็นว่าแบบนั้นแล้วกันนะ
หลังจากตอนนี้อ่านได้ในธัญวลัยนะครับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ใจหายวูบเลย
บางคนเขาก็ขัญอ่อนนะ
มาทำแบบนี้ไม่สนุกเลย
ปล.1 : แค่แนะนำนะ จะปรับแก้หรือไม่แล้วแต่ไรท์เลย แค่รู้สึกว่าอยากให้ตัวเอกดูฉลาดให้สมกับมีความทรงจำที่เคยเป็นนักฆ่ามา1ชาติหน่อยน่ะ แบบนี้มันดูโง่ไป แล้วพาทำให้ไม่ชวนน่าติดตามเท่าไหร่น่ะ
ปล.2 : แต่ก็เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะ ขัดเกลางานเขียนให้ดีขึ้นเรื่อยๆ สู้ๆจ้า
อ้าว!? ต้องไปตามอ่านอีกเว็บหรอ? แล้วตัดจบอย่างค้างอ่ะ!
ค้างคะค้าง