คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทพิเศษ 1: ราชอาณาจักรสยาม
ความทรงจำที่ไม่คิดที่จะลืมมัน...
《ปี 19## หลายปีก่อนที่มอนทาน่าจะก่อวินาศกรรม》
[ภารกิจเดินทางเจริญสัมพันธไมตรี]
[จุดหมายเเรก: ราชอาณาจักรสยาม]
{เวลา10.00น.}
ห่างจากเเผ่นดินใหญ่ 60 กิโลเมตร น่านน้ำราชอาณาจักรสยาม
หลังจากที่มอนทาน่าถูกสร้างขึ้น นี่นับเป็นการเดินทางไกลครั้งเเรกที่มอนทาน่าเคยเดินทาง
ด้วยจุดมุ่งหมายอย่างเสริมสร้างสัมพันธไมตรีที่หมายเเรกที่ใกล้ที่สุดคือสยาม
กองเรือนี้ประกอบไปด้วยเรือประจัญบานมอนทาน่า ซึ่งเป็นเรือธง เเละเรือคุ้มกันอย่างเรือประจัญบานไอโอวา ,นิวเจอร์ซีย์, วิซคอนซิน ,มิซซูรี่ เเละเรือลาดตระเวน บัลติมอร์ ,บอสตัน รวมถึงเรือพิฆาตชั้นเฟลชเชอร์อีกสามลำ
รวมเเล้วกองเรือนี้ใหญ่พอสมควรเเต่กลับไม่มีเรือบรรทุกเครื่องบินเลย เพราะด้วยความมั่นใจของปืนต่อต้านอากาศยานที่เเข็งเเกร่ง เลยเชื่อว่าจะไม่มีเครื่องบินไซเรนลำไหนจะรอดไปได้
บนเรือมอนทาน่า
สาวๆเรือประจัญบานทั้ง5คน(รวมมอนทาน่า) ต่างพากันถอดเสื้อนอกของตัวเองออกจนเหลือเเต่เสื้อกล้ามของตัวเองออกเเละนั่งตากพัดลมกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
" ค..โคตรร้อนเลย เเฮ่ก เเฮ่ก" มิซซูรี่พูดพร้อมๆกับนั่งหอบอย่างสลดใจ
" อ๊าาาาา! ร้อนกว่าที่ฮาวายอีก! อ....อยากได้ไอติมสักเเท่งจัง...TT" วิซคอนซินนอนตัวเหลวอยู่กับมิซซูรี่น้องเธอ เเรงเเทบจะไม่มีในการขยับตัวด้วยซ้ำ
"ร...ร้อนสุดๆเลยอะพี่วิซ...เเต่พี่ไอโอกับมอนทาน่าไม่ร้อนกันเลยรึไง!?" นิวเจอร์ซีย์ตะโกนออกมาดังๆพร้อมกับความงงงวยที่พี่สาวของเธอกับมอนทาน่าไม่ออกอาการอะไรสักนิดเลย!
" พวกน้องนี้อ่อนเเอจังน่ะ~ อากาศเเบบนี้มันเหมาะกับการอาบเเดดสุดๆเลยน่ะรู้ไหม? เนอะมอนทาน่า" ไอโอวาพูดอย่างสบายๆขณะนอนบนเตียงชายหายบนดาดฟ้าของมอนทาน่า พร้อมกับเช็ดเหงื่อเล็กน้อย
มอนทาน่ายิ้มเเห้งเเละยกกระติกน้ำเเข็งขึ้นมา
ไม่ว่าท่าทางกิริยาเเบบไหนเธอก็ยังคงความสุภาพกับความสง่างามไว้ตลอดหละน่ะ
"ฮะๆ ก็เหมาะจริงๆเเหละคะรุ่นพี่ไอโอวา เเต่เเบบนี้มันก็...ร้อนเกินไปจริงๆนั้นเเหละคะ"
มอนทาน่าเช็ดเหงื่อชุ่มๆของตัวเองเล็กน้อย เธอในตอนนี้เรียกว่าสามารถตกผู้ชายกับผู้หญิงได้เลย ผิวขาวใส เสื้อกล้ามชุ่มเหงื่อ ร่างกายอันเซ็กซ์ซี่ ไฟหน้าอวบอิ่ม (ใหญ่มากๆ)
"มอนทาน่า ฉันเคยบอกเเล้วเนอะว่าให้เรียกฉันว่าพี่หนะ ไม่ใช่รุ่นพี่สะหน่อย เธอหนะเป็นเหมือนน้องสาวของฉันน่ะมอนทาน่า" ไอโอวาพูดพร้อมกับมองมอนทาน่าที่เดินมาหาด้วยรอยยิ้มเล็กๆ
" เห้อ~~ ก็ได้ค่า พี่ไอโอวา"
มอนทาน่าพูดเเบบไม่เต็มใจเเละเขินหน่อยๆทำให้ไอโอวาได้เเต่เอ็นดูกับหญิงร่างสูงตรงหน้า
ไม่นานนักมอนทาน่าก็เปิดฝ่ากระติกน้ำเเข็งเเล้วหยิบขวดเเก้วที่บรรจุน้ำอัดลมสีน้ำตาลเข้มออกมา
"อันนี้ของพี่ไอโอวาคะ"
มอนทาน่ายื่นน้ำโซดาชื่อดังอย่างโคล่าให้กับไอโอวาผู้ที่เธอนับถือเป็นรุ่นพี่เเละพี่สาวของเธอ
" อา~ ขอบคุณน่ะมอนทาน่า~" ไอโอวารับโคล่ามาจากมอนทาน่า ก่อนจะใช้นิ้วโป้งดีดฝาขวดโคล่าออก
เเป๊ก!
ซ่าาาาา~
" อึก! อึก! ฟุฮ่าห์! นี่เเหละรสชาติของเสรีภาพ!" หลังจากที่ไอโอวาได้กระดกโคล่าก็พูดออกมาอย่างติดตลก
" ฮะๆ ชอบก็ดีคะ ตอนเเรกคิดว่ามันจะหายซ่าส่ะเเล้ว"
มอนทาน่าพูดพร้อมกับมองไปยังทิศทางที่กำลังมุ่งตรงไปคิดกับตัวเองในใจด้วยความไม่เข้าใจ
ตั้งเเต่เข้ามาในน่านน้ำสยาม(อ่าวไทย)ทำไมถึงไม่เห็นเรือไซเรนสักลำเลยหละ? ผิดปกติมาก น้ำก็นิ่ง ไม่มีกลิ่นดินปืนด้วย เเปลกจริงๆ
เเต่ความคิดของมอนทาน่าก็ถูกขัดขว้าง
มีร่างสามร่างที่กำลังวิ่งมาหาเธอ
" " " มอนทาน่า! มีโคล่าก็ไม่บอก! " " "
วิซคอนซิน มิซซูรี่ เเละนิวเจอซีย์ พากันลืมความร้อนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เเละวิ่งมาหยิบโคล่ามากรอกใส่ปากตัวเองอย่างกระหายที่สุด
" ฮะๆ พวกเธอนี่ก็"
มอนทาน่าหัวเราะเบาๆกับท่าทีของเพื่อนสาวทั้งสามคนของเธอ เเย่งน้ำกินอย่างกะวันสิ้นโลกเลย
.
.
.
.
.
.
1 ชม.ต่อมา
40 กิโลเมตร ห่างจากเเผ่นดินใหญ่ราชอาณาจักรสยาม
" รุ่นพี่..อะ..พี่ไอโอวา เหมือนว่าฉันจะเห็นเรือสองลำกำลังมุ่งตรงมาคะ"
มอนทาน่าได้ใช้ กล้องส่องทางไกลบนเรือมองไปยังเเผ่นดินของสยาม พร้อมๆหันลงมามองเรือรบของสยามทั้งสองลำ
"ลำเล็กจังเลยน่ะ ถ้าไม่มองดีๆก็คงคิดว่าเป็นเรือสินค้าไปเเล้วหละ"ไอโอวากล่าวพร้อมกับหันไปมองมอนทาน่า
" ก็จริงน่ะคะ เเต่เอาเข้าจริง เเค่เรือรบลำเเค่นั้น..จะป้องกันไซเรนได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย"
มอนทาน่าเเอบสงสารชาวสยามอยู่เล็กน้อย ก่อนที่เธอจะมองไปยังเรือรบทั้งสองลำของสยามที่ค่อยๆตีเลี้ยวเข้ามาประกบเรือของเธอ
ซึ่ง....ขนาดต่างกันเเบบสุดขั่วเลย มอนทาน่านั้นยาว281เมตร เเต่เรือชาวสยามนั้น มีขนาดเเค่...76เมตรเท่านั้น เเละการออกเเบบของเรือก็เเปลกตาพอสมควร ที่มีป้อมปืนเเค่สองป้อม
จากนั้นร่างหญิงสาวสองคนก็ลอยมาเหยียบพื้นดาดฟ้าเรือมอนทาน่า
เเละเเน่นอนมอนทาน่าเเละสาวเรือชั้นไอโอวาก็ลงไปต้อนรับ
หญิงสาว สาวเรือชาวสยามทั้งสองคนนั้นมีหน้าตาเหมือนกันราวกับเเกะ เเละมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามราวกับเทพธิดา
ก่อนที่เธอทั้งสองจะยิ้มราวกับไม่หวาดกลัวพวกมอนทาน่า ก่อนที่พวกเธอจะพนมมือมาไว้ที่กลางอกก่อนจะก้มลงมา
นี่คงเป็นการทำความเคารพของชาวสยามเเน่นอน
" สวัสดียามสายเจ้าคะ เเขกทั้งหลาย"
//รูปภาพหญิงสาวทั้งสอง ร่างคันเซนคือมีป้อมปืนใหญ่203มม.สี่กระบอกสองป้อมติดอยู่ข้างกาย เเละหอบังคับการ ที่อยู่ข้างหลัง//
หญิงสาวคนเเรกได้เริ่มพูดเป็นภาษาที่พี่น้องไอโอวาไม่เข้าใจ เเละเเน่นอนว่า มอนทาน่านั้นเข้าใจเป็นอย่างดี เพราะเธอได้ศึกษาภาษาไทยมานิดหน่อย ก่อนที่เธอจะตอบรับโดยการพนมมือเเละไหว้หญืงสาวทั้งสองคนอย่างสวยงาม ทางฝั่งสาวๆพี่น้องไอโอวาก็ทำตามมอนทาน่า
" สวัสดีเช่นกันคะ ท่านหญิงทั้งสอง ดิชั้นมีนามว่า มอนทาน่าคะ"
มอนทาน่าได้กล่าวเป็นภาษาไทย หรือก็คือภาษาของชาวสยาม
หญิงสาวทั้งสองก็ตกใจเเละยิ้มเล็กน้อย
หญิงสาวคนที่สองก็เริ่มพูดขึ้น
"ช่างเป็นกิริยาท่าทางที่งดงามอะไรเยี่ยงนี้ ข้าค่อนข้างตกใจเสียเชียวหละ ที่ท่านมอนทาน่าพูดภาษาไทยได้เเม่นยำเเละชัดเจนเพียงนี้" หญิงสาวคนที่สองได้กล่าวก่อนจะมองไปที่หญิงสาวคนเเรก
เเละหญิงคนนั้นก็ตอบรับโดนการพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเเละพูดขึ้น
" ข้าขอกล่าวเเนะนำตัวเสียหน่อย ข้ามีนามว่าธนบุรี ส่วนหญิงสาวข้างๆข้านางมีนามว่าศรีอยุธยา นางเป็นน้องสาวฝาเเฝดของข้าเอง พวกข้าทั้งคู่เป็นเรือปืนยามฝั่ง เเละอย่าโปรดได้ดูถูกพวกข้าเสียหละ "ธนบุรีกล่าวออกมาด้วยเสียงอันไพเราะเสนาะหู
" เเน่นอนคะ พวกเราไม่มีเจตนาจะดูถูกอะไร เรามาเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับอีเกิล ยูเนียน เเละสยาม ยังไงหละคะ"
มอนทาน่ากล่าวอย่างเป็นมิตร ก่อนที่จะเเนะนำคนในกองเรือนี้ให้รู้จักทุกคน ทำให้สาวเรือสยามทั้งสองได้รู้จักสาวเรือในกองเรือนี้
ธนบุรีได้เริ่มพูดอีกครั้ง
" เเม้ว่าข้าจะพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งเสียเท่าไร เเต่ว่า....Welcome to Kingdom of Siam "
หลังจากนั้นกองเรืออีเกิลยูเนียนทั้งสิบ ก็ได้เริ่มเคลื่อนที่เป็นเเถวตอนลึกหนึ่งเเถว นำหน้าสุดโดยธนบุรีเเละศรีอยุธยาที่เคลื่อนที่เคียงข้างกัน
พากองเรือของอีเกิลยูเนียน สู่ปากเเม่น้ำเจ้าพระยา
.
.
.
.
.
.
.
ณ เเม่น้ำเจ้าพระยา
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
https://youtu.be/XbyMy5SZKvQ?si=pz3znwy6DthLyBGX
สาวเรืออีเกิลยูเนียนในตอนนี้ต่างไม่เชื่อสายตาที่ตัวเองเห็น ความสงบสุขของบ้านเมืองสยามนี้
เพลงเเจ๊ซที่ไพเราะก็ลอยตามลมมาให้พวกเธอได้ยิน
มอนทาน่าก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
เป็นไปไม่ได้สิ! บ้านเมืองสงบสุขราวกับไม่เคยถูกไซเรนโจมตี ชาวเมืองไม่ตื่นตระหนกอะไรเลย! ไม่หวาดระเเวงไซเรน! ทั้งที่เเผ่นดินใหญ่ทั่วโลกถูกไซเรนทำลายไปหมดจนราบเป็นหน้ากลองหมดเลยน่ะ!?
ธนบุรีที่เห็นปฎิกิริยาของสาวเรือต่างชาติเหล่านี้ก็ได้เเต่ยิ้มเเบบมีความลับบางอย่าง
" สงสัยอย่างงั้นรึ? ท่านมอนทาน่า" ธนบุรีที่ยังอยู่บนเรือของมอนทาน่ากล่าวพร้อมๆกับมองเด็กๆเเละชาวเมืองที่ออกมาดูเรือของอีเกิลยูเนียน เเละศรีอยุธยาน้องเธอก็ลงไปเล่นกับเด็กๆที่ท่าเรือเเล้ว
"ใช่คะ ฉัน...สงสัยมากๆเลยคะคุณธนบุรี "
มอนทาน่าหันไปมองธนบุรีด้วยสายตาอันเด็จเดี่ยวรางกับต้อองการรู้ทุกสิ่ง
ธนบุรีที่เห็นดังนั้นก็คลียิ้มอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้น
" ยามค่ำคืนนี้ท่านกรุณามาที่วัดอรุณกับข้าได้หรือไม่ ข้าจะเล่าให้ท่านฟังเอง บัดนี้ท่านก็ควรไปเดินเที่ยวให้สนุก ข้าจะนำท่านดูกรุงเทพมหานครเเห่งนี้เอง" ธนบุรีพูดจบก็เดินลงจากเรือไป มอนทาน่าก็ตามไปติดๆเช่นกัน
ท่าเรือช่างคึกคัก เรือประมง เรือชาวบ้าน เรือขายของ รวมถึงเรือรบของสยามหลายๆลำก็จอดอยู่เช่นกัน สาวเรืออีเกิลยูเนียนก็เกาะกลุ่มกันไปเที่ยวอย่างสนุกสนาน
ในระหว่างทางมอนทาน่า ก็พบสิ่งใหม่ๆเช่นกัน อย่างความเป็นมิตรของชาวสยาม รวมถึงความรู้สึกอยู่ที่บ้าน
ธนบุรีก็พูดได้เลยว่า เธอเป็นเปรียบเสมือนเเม่ ที่พาลูกสาวเที่ยว ด้วยความอ่อนโยน เเละมีระเบียบ สุภาพ มันทำให้มอนทาน่ารู้สึกปลอดภัย..
ตลาดน้ำ
" อ่าวๆ ชาวต่างชาติดอกรึ? นี่ๆ ข้าให้เจ้าน่ะ เเม่สาวน้อย" ยายคนหนึ่งที่นั่งขายมะม่วงได้พูดขึ้นพร้อมมองมอนทาน่า
" อะ ขอบพระคุณมากคะคุณยาย "
มอนทาน่ากล่าวขอบคุณยายคนนั้น
เเต่ก็น่ะของซื้อของขายคงต้องรับเเต่น้ำใจ--
" รับเสียเถอะ ท่านมอนทาน่า หากท่านไม่รับมันเป็นการเสียมารยาทน่ะ" ธนบุรีกล่าวพร้อมๆกับจับมือมอนทาน่าเป็นนัยว่า รับไปเถอะ
"เเหม่ เเม่สาวน้อย พูดภาษาไทยเก่งจังเน่อ" ยายคนนั้นก็ได้ยื่นมะม่วงให้มอนทาน่า
" ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกคะ คุณยาย"
มอนทาน่าก็รับมะม่วงลูกนั้น พร้อมกับอวยพรให้ยายคนนั้นเล็กน้อยก่อนจะเดินต่อ
"งั้ม ! อร่อยจัง"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
19:00 น.
ลานหน้าวัดอรุณ
" โห้~~"
มอนทาน่าที่ใส่ชุดของสาวสยามมองไปยังวัดอรุณ หรือก็คล้ายๆกับโบสท์ของอีเกิลยูเนียนหละน่ะ จากตรงนี้เธอสามารถเห็นรูปลักษณ์ของกองเรืออีเกิลยูเนียนได้อย่างเต็มตา พื้นหลังที่เต็มไปด้วยเเสงสีเเละถนนที่ราวกับว่าคนจะไม่น้อยลงเลย
" ใช่ไหมหละ วัดอรุณเเห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์เเห่งสยาม เสียเชียวหละ" ธนบุรีกล่าวพร้อมกับกินขนมบัวลอยไปด้วย
ที่ลานกว้างนั้น ถูกจอดเรียงรายไปด้วย ยานเกราะเบาType -95 HA-GO ของจักรวรรดิซากุระเเละรถหุ้มเกราะจากหลายๆประเทศ
ราวกับว่าสยามนั้นไม่เคยต่อสู้กับไซเรนเเม้เเต่ครั้งเดียว ผู้คนต่างสัญจรกันไปมาอย่างสงบสุข เป็นกันเอง เเละเป็นครอบครัวเดียวกัน
"ท่านมอนทาน่า บัดนี้ข้าว่าเราควรเข้าไปในวัดอรุณเพื่อทำธุระของพวกเราจริงรึไม่?" ธนบุรียิ้มเบาๆ ก่อนจะเดินนำมอนทาน่าไป
" ! "
มอนทาน่าที่ได้ยินเเบบนั้นก็รีบตามไปในทันที ก็เพราะความสงสัยมันครอบงำเธอยังไงหละ
.
.
.
.
" ว้าว..."
นี่มัน...สวยสุดๆ
มอนทาน่าเงยหน้ามองสถาปัตยกรรมที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามธนบุรีเเละสำรวจรอบๆ
ธนบุรีค่อยๆเดินอย่างไม่รีบร้อนก่อนจะมาหยุดที่ศาลาริมน้ำที่มองเห็นทิวทัศน์เเละเรือรบของสยามได้อย่างชัดเจน
" นี่มัน?"
" ศาลาริมน้ำ ที่ประจำของข้าเองท่านมอนทาน่า" ธนบุรีกล่าวพร้อมยิ้มเเละเดินไปในศาลา ก่อนจะเชิญให้มอนทาน่ามานั่ง
"อะ คะ"
มอนทาน่าเดินไปนั่งตรงข้ามกับธนบุรี ในร่ะหว่างนั้นธนบุรีก็หันไปมองเเม่น้ำเจ้าพระยา ที่ถ้ามองไปจะเห็น ร.ล.ธนบุรี เเละ ร.ล.ศรีอยุธยา จอดเคียงข้างกัน ถัดไปอีกก็จะเป็นเรือประจัญบานของอีเกิลยูเนียนที่จอดกันเป็นเเนวยาวอย่างมีระเบียบ
มอนทาน่าก็เริ่มถามในสิ่งที่เธอสงสัยอย่างทันท่วงที
" ทำไมตั้งเเต่ที่กองเรือของฉันเข้ามาในภูมิภาคนี้...ถึงไม่มีไซเรนสักลำโผล่มาเลยหละค่ะ? คุณธนบุรี"
มอนทาน่าจ้องมองไปยังธนบุรีที่หันหน้ามองเเม่น้ำด้วยสายตาจริงจรัง
ธนบุรีได้หัวเราะขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะหันมามองมอนทาน่า เเละยิ้มขึ้นมา
รอยยิ้มเป็นรอยยิ้มที่มอนทาน่าไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าสาวเรือตรงหน้าคิดอะไรอยู่
" ท่านรู้จักสิ่งที่เรียกเมืองลับเเลรึไม่?" ธนบุรี
"เมือง...ลับเเล?"
" เมืองลับเเลนั้น เป็นเมืองที่ปิดกั้นคนภายนอกไม่ให้ผู้ใดเข้ามา หากเเต่เข้ามาเเล้วก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ออกไปจากเมืองลับเเลได้" ธนบุรีกล่าวขึ้นขณะที่มองตามอนทาน่าราวกับคิดอะไรบางอย่าง
" !?! นั่นหมายความว่า?!"
มอนทาน่าตาเบิกกว้างขึ้นเเละมองไปที่ธนบุรีด้วยความกลัวลึกๆ
" ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดหรอก ท่านมอนทาน่า... เเดนสยามเเห่งนี้เป็นเมืองลับเเลสำหรับไซเรนเเละเหล่าคนที่ไม่หวังดี เเละเเน่นอนสิ่งศักดิสิทธ์ก็คอยปกป้องดินเเดนเเห่งนี้จากผู้บุกรุกเช่นกัน อีกอย่างท่านมอนทาน่าก็สามารถออกไปได้ตามปกติเสียเเน่นอน" ธนบุรีกล่าว พร้อมๆกับมองชาวบ้านที่ภายเรืออย่างสงบบนเเม่น้ำเจ้าพระยา
" อย่างงั้นเองหรอคะ"
มอนทาน่าใจหายเล็กน้อย ก่อนจะคุมสติเเละคิดอีกครั้ง
สิ่งศักดิสิทธ์หรอ?
มอนทาน่าคิดอย่างสงสัย เป็นเเบบเทพธิดาหรือพระเจ้าของศาสนาคริสต์รึเปล่าน่ะ?
มอนทาน่ารู้สึกถึงลมเย็นเเปลกๆพัดเข้ามาที่หลังของเธอ เเละเริ่มมีกลิ่นเเปลกๆลอยมา กลิ่นมันคล้ายกับเทียนหอม เเต่..เป็นเอกลักษณ์เเละน่าพิศวงกว่ามาก
" นัยตาของท่านนั้นจงระวังไว้ให้ดี อย่าให้ความโศกเเละพิโรธ เข้าควบคุมร่างกายของท่าน เพราะทางข้างหน้า มิใช่เส้นทางที่ท่านควรเดิน" ธนบุรีกล่าวขึ้นพร้อมเเสยะยิ้มสยดสยองพร้อมๆกับตาที่เรืองเเสงส่องสว่าง
" คุณหมายถึง?อะ....ไร...."
ไม่นานนักมอนทาน่าก็รู้สึกถึงสิ่งประหลาดรูปร่างมนุษย์จางๆอยู่รอบตัวก่อนที่ภาพรอบๆจะเบลอเเละดับลง ราวกับโดนอะไรสักอย่างที่มองไม่เห็นเล่นงาน
ในเช้าวันต่อมานั้น มอนทาน่าก็ตื่นขึ้นมาในห้องพักของตัวเองเสียเเล้ว เเละลืมสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันนั้นไปจนหมดอย่างน่าประหลาด
ก่อนที่กองเรืออีเกิลยูเนียนจะดึงสม่อเรือขึ้นเเละออกเดินทางไปที่จุดหมายต่อไปอย่างจักรวรรดิซากุระ
.
.
.
.
.
ริมเเม่น้ำเจ้าพระยา
ป้อมพระจุลจอมเกล้า
"ท่านพี่เห็นอะไรในตัวของท่านมอนทาน่าหรือค่ะ?" ศรีอยุธยาได้ถามธนบุรีผู้เป็นพี่ ในขณะที่ลูบหัวเด็กสาวเรือฟรีเกตนาม เเม่กลอง ที่นอนตักเธออยู่
" พี่ก็บอกอะไรมิได้เยอะดอก... เเต่ช่างเป็นเส้นทางที่น่าเศร้ายิ่ง.... สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ มะอะอุ..."
ธนบุรีได้สวดบทสวดอวยพรให้เเคล้วคลาดปลอดภัยในศาสนาพุทธของเธอก่อนจะมองกองเรืออีเกิลยูเนียนที่ค่อยๆลับสายตาไป ด้วยรอยยิ้มอันเเปลกประหลาด
.
.
.
.
.
.
จบบทพิเศษ
รู้สึกว่าตอนนี้เเต่งเเปลกๆเเหะ คอมเมนท์เเนะนำ เเก้ไข หรือถามก็ได้น่ะครับ เเต่ถ้าถามเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง คงบอกได้นิดๆหน่อยๆ
บทต่อไปจะดำเนินเนื้อเรื่องหลักต่อครับ
ความคิดเห็น