NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    AZUR LANE : นกอินทรีผู้ทรยศ

    ลำดับตอนที่ #6 : บทพิเศษ 1: ราชอาณาจักรสยาม

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 67


    ความทรงจำที่ไม่คิดที่จะลืมมัน...

     


     


     


     


     


     


     


     

     


     


     


     


     


     


     


     


     


     

    《ปี 19## หลายปีก่อนที่มอนทาน่าจะก่อวินาศกรรม》

    [ภารกิจเดินทางเจริญสัมพันธไมตรี]

    [จุดหมายเเรก: ราชอาณาจักรสยาม]


     


     


     


     


     


     

    {เวลา10.00น.}

    ห่างจากเเผ่นดินใหญ่ 60 กิโลเมตร น่านน้ำราชอาณาจักรสยาม 


     


     


     


     


     


     

    หลังจากที่มอนทาน่าถูกสร้างขึ้น นี่นับเป็นการเดินทางไกลครั้งเเรกที่มอนทาน่าเคยเดินทาง

     

    ด้วยจุดมุ่งหมายอย่างเสริมสร้างสัมพันธไมตรีที่หมายเเรกที่ใกล้ที่สุดคือสยาม


     

    กองเรือนี้ประกอบไปด้วยเรือประจัญบานมอนทาน่า ซึ่งเป็นเรือธง เเละเรือคุ้มกันอย่างเรือประจัญบานไอโอวา ,นิวเจอร์ซีย์, วิซคอนซิน ,มิซซูรี่  เเละเรือลาดตระเวน บัลติมอร์ ,บอสตัน รวมถึงเรือพิฆาตชั้นเฟลชเชอร์อีกสามลำ

    รวมเเล้วกองเรือนี้ใหญ่พอสมควรเเต่กลับไม่มีเรือบรรทุกเครื่องบินเลย  เพราะด้วยความมั่นใจของปืนต่อต้านอากาศยานที่เเข็งเเกร่ง เลยเชื่อว่าจะไม่มีเครื่องบินไซเรนลำไหนจะรอดไปได้


     


     


     

     

    บนเรือมอนทาน่า



     

     

     

     

    สาวๆเรือประจัญบานทั้ง5คน(รวมมอนทาน่า) ต่างพากันถอดเสื้อนอกของตัวเองออกจนเหลือเเต่เสื้อกล้ามของตัวเองออกเเละนั่งตากพัดลมกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

     

     

     

    " ค..โคตรร้อนเลย เเฮ่ก เเฮ่ก" มิซซูรี่พูดพร้อมๆกับนั่งหอบอย่างสลดใจ

     

     

    " อ๊าาาาา! ร้อนกว่าที่ฮาวายอีก! อ....อยากได้ไอติมสักเเท่งจัง...TT" วิซคอนซินนอนตัวเหลวอยู่กับมิซซูรี่น้องเธอ เเรงเเทบจะไม่มีในการขยับตัวด้วยซ้ำ

     

     

    "ร...ร้อนสุดๆเลยอะพี่วิซ...เเต่พี่ไอโอกับมอนทาน่าไม่ร้อนกันเลยรึไง!?" นิวเจอร์ซีย์ตะโกนออกมาดังๆพร้อมกับความงงงวยที่พี่สาวของเธอกับมอนทาน่าไม่ออกอาการอะไรสักนิดเลย!

     

     

    " พวกน้องนี้อ่อนเเอจังน่ะ~ อากาศเเบบนี้มันเหมาะกับการอาบเเดดสุดๆเลยน่ะรู้ไหม? เนอะมอนทาน่า" ไอโอวาพูดอย่างสบายๆขณะนอนบนเตียงชายหายบนดาดฟ้าของมอนทาน่า พร้อมกับเช็ดเหงื่อเล็กน้อย

     

     

    มอนทาน่ายิ้มเเห้งเเละยกกระติกน้ำเเข็งขึ้นมา

    ไม่ว่าท่าทางกิริยาเเบบไหนเธอก็ยังคงความสุภาพกับความสง่างามไว้ตลอดหละน่ะ

     

     

    "ฮะๆ ก็เหมาะจริงๆเเหละคะรุ่นพี่ไอโอวา เเต่เเบบนี้มันก็...ร้อนเกินไปจริงๆนั้นเเหละคะ" 

     

    มอนทาน่าเช็ดเหงื่อชุ่มๆของตัวเองเล็กน้อย เธอในตอนนี้เรียกว่าสามารถตกผู้ชายกับผู้หญิงได้เลย ผิวขาวใส เสื้อกล้ามชุ่มเหงื่อ ร่างกายอันเซ็กซ์ซี่ ไฟหน้าอวบอิ่ม (ใหญ่มากๆ)

     

     

    "มอนทาน่า ฉันเคยบอกเเล้วเนอะว่าให้เรียกฉันว่าพี่หนะ ไม่ใช่รุ่นพี่สะหน่อย เธอหนะเป็นเหมือนน้องสาวของฉันน่ะมอนทาน่า" ไอโอวาพูดพร้อมกับมองมอนทาน่าที่เดินมาหาด้วยรอยยิ้มเล็กๆ

     

     

    " เห้อ~~ ก็ได้ค่า พี่ไอโอวา"

     

    มอนทาน่าพูดเเบบไม่เต็มใจเเละเขินหน่อยๆทำให้ไอโอวาได้เเต่เอ็นดูกับหญิงร่างสูงตรงหน้า

     

    ไม่นานนักมอนทาน่าก็เปิดฝ่ากระติกน้ำเเข็งเเล้วหยิบขวดเเก้วที่บรรจุน้ำอัดลมสีน้ำตาลเข้มออกมา

     

     

    "อันนี้ของพี่ไอโอวาคะ" 

     

    มอนทาน่ายื่นน้ำโซดาชื่อดังอย่างโคล่าให้กับไอโอวาผู้ที่เธอนับถือเป็นรุ่นพี่เเละพี่สาวของเธอ

     

     

    " อา~ ขอบคุณน่ะมอนทาน่า~" ไอโอวารับโคล่ามาจากมอนทาน่า ก่อนจะใช้นิ้วโป้งดีดฝาขวดโคล่าออก

     

     

    เเป๊ก!


     

    ซ่าาาาา~


     


     

    " อึก! อึก!  ฟุฮ่าห์! นี่เเหละรสชาติของเสรีภาพ!" หลังจากที่ไอโอวาได้กระดกโคล่าก็พูดออกมาอย่างติดตลก

     

     

    " ฮะๆ ชอบก็ดีคะ ตอนเเรกคิดว่ามันจะหายซ่าส่ะเเล้ว"

     

    มอนทาน่าพูดพร้อมกับมองไปยังทิศทางที่กำลังมุ่งตรงไปคิดกับตัวเองในใจด้วยความไม่เข้าใจ

     

     

    ตั้งเเต่เข้ามาในน่านน้ำสยาม(อ่าวไทย)ทำไมถึงไม่เห็นเรือไซเรนสักลำเลยหละ? ผิดปกติมาก น้ำก็นิ่ง ไม่มีกลิ่นดินปืนด้วย เเปลกจริงๆ 


     


     

    เเต่ความคิดของมอนทาน่าก็ถูกขัดขว้าง

     

    มีร่างสามร่างที่กำลังวิ่งมาหาเธอ

     

     

     

    " " " มอนทาน่า! มีโคล่าก็ไม่บอก! " " "

     

    วิซคอนซิน มิซซูรี่ เเละนิวเจอซีย์ พากันลืมความร้อนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เเละวิ่งมาหยิบโคล่ามากรอกใส่ปากตัวเองอย่างกระหายที่สุด

     

     

    " ฮะๆ พวกเธอนี่ก็"

     

    มอนทาน่าหัวเราะเบาๆกับท่าทีของเพื่อนสาวทั้งสามคนของเธอ เเย่งน้ำกินอย่างกะวันสิ้นโลกเลย

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

     

     

    1 ชม.ต่อมา 

    40 กิโลเมตร ห่างจากเเผ่นดินใหญ่ราชอาณาจักรสยาม


     


     


     


     

    " รุ่นพี่..อะ..พี่ไอโอวา เหมือนว่าฉันจะเห็นเรือสองลำกำลังมุ่งตรงมาคะ"

     

    มอนทาน่าได้ใช้ กล้องส่องทางไกลบนเรือมองไปยังเเผ่นดินของสยาม พร้อมๆหันลงมามองเรือรบของสยามทั้งสองลำ

     

     

    "ลำเล็กจังเลยน่ะ ถ้าไม่มองดีๆก็คงคิดว่าเป็นเรือสินค้าไปเเล้วหละ"ไอโอวากล่าวพร้อมกับหันไปมองมอนทาน่า

     

     

    " ก็จริงน่ะคะ เเต่เอาเข้าจริง เเค่เรือรบลำเเค่นั้น..จะป้องกันไซเรนได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย" 

     

    มอนทาน่าเเอบสงสารชาวสยามอยู่เล็กน้อย ก่อนที่เธอจะมองไปยังเรือรบทั้งสองลำของสยามที่ค่อยๆตีเลี้ยวเข้ามาประกบเรือของเธอ

     

    ซึ่ง....ขนาดต่างกันเเบบสุดขั่วเลย มอนทาน่านั้นยาว281เมตร เเต่เรือชาวสยามนั้น มีขนาดเเค่...76เมตรเท่านั้น  เเละการออกเเบบของเรือก็เเปลกตาพอสมควร ที่มีป้อมปืนเเค่สองป้อม 

     

    จากนั้นร่างหญิงสาวสองคนก็ลอยมาเหยียบพื้นดาดฟ้าเรือมอนทาน่า 

    เเละเเน่นอนมอนทาน่าเเละสาวเรือชั้นไอโอวาก็ลงไปต้อนรับ

     

    หญิงสาว สาวเรือชาวสยามทั้งสองคนนั้นมีหน้าตาเหมือนกันราวกับเเกะ เเละมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามราวกับเทพธิดา 

    ก่อนที่เธอทั้งสองจะยิ้มราวกับไม่หวาดกลัวพวกมอนทาน่า ก่อนที่พวกเธอจะพนมมือมาไว้ที่กลางอกก่อนจะก้มลงมา

     

    นี่คงเป็นการทำความเคารพของชาวสยามเเน่นอน

     

     

     

    " สวัสดียามสายเจ้าคะ เเขกทั้งหลาย

     

    https://pin.it/1XZcaVVkW

    //รูปภาพหญิงสาวทั้งสอง ร่างคันเซนคือมีป้อมปืนใหญ่203มม.สี่กระบอกสองป้อมติดอยู่ข้างกาย เเละหอบังคับการ ที่อยู่ข้างหลัง//




    หญิงสาวคนเเรกได้เริ่มพูดเป็นภาษาที่พี่น้องไอโอวาไม่เข้าใจ เเละเเน่นอนว่า มอนทาน่านั้นเข้าใจเป็นอย่างดี เพราะเธอได้ศึกษาภาษาไทยมานิดหน่อย ก่อนที่เธอจะตอบรับโดยการพนมมือเเละไหว้หญืงสาวทั้งสองคนอย่างสวยงาม ทางฝั่งสาวๆพี่น้องไอโอวาก็ทำตามมอนทาน่า

     

     

    " สวัสดีเช่นกันคะ ท่านหญิงทั้งสอง ดิชั้นมีนามว่า มอนทาน่าคะ"

     

    มอนทาน่าได้กล่าวเป็นภาษาไทย หรือก็คือภาษาของชาวสยาม

    หญิงสาวทั้งสองก็ตกใจเเละยิ้มเล็กน้อย

    หญิงสาวคนที่สองก็เริ่มพูดขึ้น

     

     

    "ช่างเป็นกิริยาท่าทางที่งดงามอะไรเยี่ยงนี้ ข้าค่อนข้างตกใจเสียเชียวหละ ที่ท่านมอนทาน่าพูดภาษาไทยได้เเม่นยำเเละชัดเจนเพียงนี้" หญิงสาวคนที่สองได้กล่าวก่อนจะมองไปที่หญิงสาวคนเเรก

    เเละหญิงคนนั้นก็ตอบรับโดนการพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเเละพูดขึ้น

     

    " ข้าขอกล่าวเเนะนำตัวเสียหน่อย ข้ามีนามว่าธนบุรี ส่วนหญิงสาวข้างๆข้านางมีนามว่าศรีอยุธยา นางเป็นน้องสาวฝาเเฝดของข้าเอง พวกข้าทั้งคู่เป็นเรือปืนยามฝั่ง เเละอย่าโปรดได้ดูถูกพวกข้าเสียหละ "ธนบุรีกล่าวออกมาด้วยเสียงอันไพเราะเสนาะหู 

     

     

    " เเน่นอนคะ พวกเราไม่มีเจตนาจะดูถูกอะไร เรามาเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับอีเกิล ยูเนียน เเละสยาม ยังไงหละคะ"

     

    มอนทาน่ากล่าวอย่างเป็นมิตร ก่อนที่จะเเนะนำคนในกองเรือนี้ให้รู้จักทุกคน ทำให้สาวเรือสยามทั้งสองได้รู้จักสาวเรือในกองเรือนี้

     

    ธนบุรีได้เริ่มพูดอีกครั้ง

     

     

    " เเม้ว่าข้าจะพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งเสียเท่าไร เเต่ว่า....Welcome to Kingdom of Siam "

     

     

     

    หลังจากนั้นกองเรืออีเกิลยูเนียนทั้งสิบ ก็ได้เริ่มเคลื่อนที่เป็นเเถวตอนลึกหนึ่งเเถว นำหน้าสุดโดยธนบุรีเเละศรีอยุธยาที่เคลื่อนที่เคียงข้างกัน 

    พากองเรือของอีเกิลยูเนียน สู่ปากเเม่น้ำเจ้าพระยา

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

    ณ เเม่น้ำเจ้าพระยา

    วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร


     


     

    https://youtu.be/XbyMy5SZKvQ?si=pz3znwy6DthLyBGX


     


     

    สาวเรืออีเกิลยูเนียนในตอนนี้ต่างไม่เชื่อสายตาที่ตัวเองเห็น ความสงบสุขของบ้านเมืองสยามนี้

     เพลงเเจ๊ซที่ไพเราะก็ลอยตามลมมาให้พวกเธอได้ยิน

     

    มอนทาน่าก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ

     

    เป็นไปไม่ได้สิ! บ้านเมืองสงบสุขราวกับไม่เคยถูกไซเรนโจมตี ชาวเมืองไม่ตื่นตระหนกอะไรเลย! ไม่หวาดระเเวงไซเรน! ทั้งที่เเผ่นดินใหญ่ทั่วโลกถูกไซเรนทำลายไปหมดจนราบเป็นหน้ากลองหมดเลยน่ะ!? 


     


     

    ธนบุรีที่เห็นปฎิกิริยาของสาวเรือต่างชาติเหล่านี้ก็ได้เเต่ยิ้มเเบบมีความลับบางอย่าง

     

    " สงสัยอย่างงั้นรึ? ท่านมอนทาน่า" ธนบุรีที่ยังอยู่บนเรือของมอนทาน่ากล่าวพร้อมๆกับมองเด็กๆเเละชาวเมืองที่ออกมาดูเรือของอีเกิลยูเนียน เเละศรีอยุธยาน้องเธอก็ลงไปเล่นกับเด็กๆที่ท่าเรือเเล้ว

     

    "ใช่คะ ฉัน...สงสัยมากๆเลยคะคุณธนบุรี "

     

    มอนทาน่าหันไปมองธนบุรีด้วยสายตาอันเด็จเดี่ยวรางกับต้อองการรู้ทุกสิ่ง

    ธนบุรีที่เห็นดังนั้นก็คลียิ้มอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้น

     

     

    " ยามค่ำคืนนี้ท่านกรุณามาที่วัดอรุณกับข้าได้หรือไม่ ข้าจะเล่าให้ท่านฟังเอง บัดนี้ท่านก็ควรไปเดินเที่ยวให้สนุก ข้าจะนำท่านดูกรุงเทพมหานครเเห่งนี้เอง" ธนบุรีพูดจบก็เดินลงจากเรือไป มอนทาน่าก็ตามไปติดๆเช่นกัน 

     

    ท่าเรือช่างคึกคัก เรือประมง เรือชาวบ้าน เรือขายของ รวมถึงเรือรบของสยามหลายๆลำก็จอดอยู่เช่นกัน สาวเรืออีเกิลยูเนียนก็เกาะกลุ่มกันไปเที่ยวอย่างสนุกสนาน

     

    ในระหว่างทางมอนทาน่า ก็พบสิ่งใหม่ๆเช่นกัน อย่างความเป็นมิตรของชาวสยาม รวมถึงความรู้สึกอยู่ที่บ้าน

    ธนบุรีก็พูดได้เลยว่า เธอเป็นเปรียบเสมือนเเม่ ที่พาลูกสาวเที่ยว ด้วยความอ่อนโยน เเละมีระเบียบ สุภาพ มันทำให้มอนทาน่ารู้สึกปลอดภัย..

     

     

     

    ตลาดน้ำ


     

     

    " อ่าวๆ ชาวต่างชาติดอกรึ? นี่ๆ ข้าให้เจ้าน่ะ เเม่สาวน้อย" ยายคนหนึ่งที่นั่งขายมะม่วงได้พูดขึ้นพร้อมมองมอนทาน่า

     

    " อะ ขอบพระคุณมากคะคุณยาย "

     

    มอนทาน่ากล่าวขอบคุณยายคนนั้น 

    เเต่ก็น่ะของซื้อของขายคงต้องรับเเต่น้ำใจ--

     

    " รับเสียเถอะ ท่านมอนทาน่า หากท่านไม่รับมันเป็นการเสียมารยาทน่ะ" ธนบุรีกล่าวพร้อมๆกับจับมือมอนทาน่าเป็นนัยว่า รับไปเถอะ


     


     

    "เเหม่ เเม่สาวน้อย พูดภาษาไทยเก่งจังเน่อ" ยายคนนั้นก็ได้ยื่นมะม่วงให้มอนทาน่า

     

    " ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกคะ คุณยาย"

     

    มอนทาน่าก็รับมะม่วงลูกนั้น พร้อมกับอวยพรให้ยายคนนั้นเล็กน้อยก่อนจะเดินต่อ

     

     

    "งั้ม ! อร่อยจัง" 

     

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    19:00 น.


     

    ลานหน้าวัดอรุณ


     


     


     

    " โห้~~"

     

    มอนทาน่าที่ใส่ชุดของสาวสยามมองไปยังวัดอรุณ หรือก็คล้ายๆกับโบสท์ของอีเกิลยูเนียนหละน่ะ จากตรงนี้เธอสามารถเห็นรูปลักษณ์ของกองเรืออีเกิลยูเนียนได้อย่างเต็มตา พื้นหลังที่เต็มไปด้วยเเสงสีเเละถนนที่ราวกับว่าคนจะไม่น้อยลงเลย

     

     

    " ใช่ไหมหละ วัดอรุณเเห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์เเห่งสยาม เสียเชียวหละ" ธนบุรีกล่าวพร้อมกับกินขนมบัวลอยไปด้วย

     

     

    ที่ลานกว้างนั้น ถูกจอดเรียงรายไปด้วย ยานเกราะเบาType -95 HA-GO ของจักรวรรดิซากุระเเละรถหุ้มเกราะจากหลายๆประเทศ 

    ราวกับว่าสยามนั้นไม่เคยต่อสู้กับไซเรนเเม้เเต่ครั้งเดียว  ผู้คนต่างสัญจรกันไปมาอย่างสงบสุข เป็นกันเอง เเละเป็นครอบครัวเดียวกัน

     

     

    "ท่านมอนทาน่า บัดนี้ข้าว่าเราควรเข้าไปในวัดอรุณเพื่อทำธุระของพวกเราจริงรึไม่?" ธนบุรียิ้มเบาๆ ก่อนจะเดินนำมอนทาน่าไป  

     

    " ! "

     

     

    มอนทาน่าที่ได้ยินเเบบนั้นก็รีบตามไปในทันที ก็เพราะความสงสัยมันครอบงำเธอยังไงหละ

    .

    .

    .

    .

     

     " ว้าว..." 


    นี่มัน...สวยสุดๆ



    มอนทาน่าเงยหน้ามองสถาปัตยกรรมที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามธนบุรีเเละสำรวจรอบๆ 


    ธนบุรีค่อยๆเดินอย่างไม่รีบร้อนก่อนจะมาหยุดที่ศาลาริมน้ำที่มองเห็นทิวทัศน์เเละเรือรบของสยามได้อย่างชัดเจน 


    " นี่มัน?"



    " ศาลาริมน้ำ ที่ประจำของข้าเองท่านมอนทาน่า" ธนบุรีกล่าวพร้อมยิ้มเเละเดินไปในศาลา ก่อนจะเชิญให้มอนทาน่ามานั่ง


    "อะ คะ"


    มอนทาน่าเดินไปนั่งตรงข้ามกับธนบุรี ในร่ะหว่างนั้นธนบุรีก็หันไปมองเเม่น้ำเจ้าพระยา ที่ถ้ามองไปจะเห็น ร.ล.ธนบุรี เเละ ร.ล.ศรีอยุธยา จอดเคียงข้างกัน ถัดไปอีกก็จะเป็นเรือประจัญบานของอีเกิลยูเนียนที่จอดกันเป็นเเนวยาวอย่างมีระเบียบ


    มอนทาน่าก็เริ่มถามในสิ่งที่เธอสงสัยอย่างทันท่วงที


    " ทำไมตั้งเเต่ที่กองเรือของฉันเข้ามาในภูมิภาคนี้...ถึงไม่มีไซเรนสักลำโผล่มาเลยหละค่ะ? คุณธนบุรี"


    มอนทาน่าจ้องมองไปยังธนบุรีที่หันหน้ามองเเม่น้ำด้วยสายตาจริงจรัง 

    ธนบุรีได้หัวเราะขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะหันมามองมอนทาน่า เเละยิ้มขึ้นมา

    รอยยิ้มเป็นรอยยิ้มที่มอนทาน่าไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าสาวเรือตรงหน้าคิดอะไรอยู่



    " ท่านรู้จักสิ่งที่เรียกเมืองลับเเลรึไม่?" ธนบุรี


    "เมือง...ลับเเล?" 



    " เมืองลับเเลนั้น เป็นเมืองที่ปิดกั้นคนภายนอกไม่ให้ผู้ใดเข้ามา หากเเต่เข้ามาเเล้วก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ออกไปจากเมืองลับเเลได้" ธนบุรีกล่าวขึ้นขณะที่มองตามอนทาน่าราวกับคิดอะไรบางอย่าง


    " !?! นั่นหมายความว่า?!"


    มอนทาน่าตาเบิกกว้างขึ้นเเละมองไปที่ธนบุรีด้วยความกลัวลึกๆ



    " ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดหรอก ท่านมอนทาน่า... เเดนสยามเเห่งนี้เป็นเมืองลับเเลสำหรับไซเรนเเละเหล่าคนที่ไม่หวังดี เเละเเน่นอนสิ่งศักดิสิทธ์ก็คอยปกป้องดินเเดนเเห่งนี้จากผู้บุกรุกเช่นกัน อีกอย่างท่านมอนทาน่าก็สามารถออกไปได้ตามปกติเสียเเน่นอน" ธนบุรีกล่าว พร้อมๆกับมองชาวบ้านที่ภายเรืออย่างสงบบนเเม่น้ำเจ้าพระยา



    " อย่างงั้นเองหรอคะ"


    มอนทาน่าใจหายเล็กน้อย ก่อนจะคุมสติเเละคิดอีกครั้ง


    สิ่งศักดิสิทธ์หรอ? 



    มอนทาน่าคิดอย่างสงสัย เป็นเเบบเทพธิดาหรือพระเจ้าของศาสนาคริสต์รึเปล่าน่ะ?

    มอนทาน่ารู้สึกถึงลมเย็นเเปลกๆพัดเข้ามาที่หลังของเธอ เเละเริ่มมีกลิ่นเเปลกๆลอยมา กลิ่นมันคล้ายกับเทียนหอม เเต่..เป็นเอกลักษณ์เเละน่าพิศวงกว่ามาก



    " นัยตาของท่านนั้นจงระวังไว้ให้ดี อย่าให้ความโศกเเละพิโรธ เข้าควบคุมร่างกายของท่าน เพราะทางข้างหน้า มิใช่เส้นทางที่ท่านควรเดิน" ธนบุรีกล่าวขึ้นพร้อมเเสยะยิ้มสยดสยองพร้อมๆกับตาที่เรืองเเสงส่องสว่าง


    " คุณหมายถึง?อะ....ไร...."



    ไม่นานนักมอนทาน่าก็รู้สึกถึงสิ่งประหลาดรูปร่างมนุษย์จางๆอยู่รอบตัวก่อนที่ภาพรอบๆจะเบลอเเละดับลง ราวกับโดนอะไรสักอย่างที่มองไม่เห็นเล่นงาน




    ในเช้าวันต่อมานั้น มอนทาน่าก็ตื่นขึ้นมาในห้องพักของตัวเองเสียเเล้ว เเละลืมสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันนั้นไปจนหมดอย่างน่าประหลาด


    ก่อนที่กองเรืออีเกิลยูเนียนจะดึงสม่อเรือขึ้นเเละออกเดินทางไปที่จุดหมายต่อไปอย่างจักรวรรดิซากุระ

    .

    .

    .

    .

    .

    ริมเเม่น้ำเจ้าพระยา

    ป้อมพระจุลจอมเกล้า




    "ท่านพี่เห็นอะไรในตัวของท่านมอนทาน่าหรือค่ะ?" ศรีอยุธยาได้ถามธนบุรีผู้เป็นพี่ ในขณะที่ลูบหัวเด็กสาวเรือฟรีเกตนาม เเม่กลอง ที่นอนตักเธออยู่


    " พี่ก็บอกอะไรมิได้เยอะดอก... เเต่ช่างเป็นเส้นทางที่น่าเศร้ายิ่ง.... สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ มะอะอุ..."


    ธนบุรีได้สวดบทสวดอวยพรให้เเคล้วคลาดปลอดภัยในศาสนาพุทธของเธอก่อนจะมองกองเรืออีเกิลยูเนียนที่ค่อยๆลับสายตาไป ด้วยรอยยิ้มอันเเปลกประหลาด

    .

    .

    .

    .

    .

    .







    จบบทพิเศษ





    รู้สึกว่าตอนนี้เเต่งเเปลกๆเเหะ คอมเมนท์เเนะนำ เเก้ไข หรือถามก็ได้น่ะครับ เเต่ถ้าถามเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง คงบอกได้นิดๆหน่อยๆ

    บทต่อไปจะดำเนินเนื้อเรื่องหลักต่อครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×