คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 4 : กลีบดอกซากุระ
ยามเช้ามืด น่านน้ำจักรวรรดิซากุระ
100 กม. ห่างจากเเผ่นดินใหญ่
เวลา 4: 30
คลื่นลมในเวลานี้ก็สงบพอสมควรเรือประจัญบานมอนทาน่า ได้เปิดไฟในทุกจุดที่เปิดได้ของเรือเพื่อหวังจะให้มีเรือของจักรวรรดิซากุระสักลำมาตรวจเจอเธอ ส่วนปืนใหญ่ก็ยกขึ้น45องศาราวกับว่าไม่ต้องการสู้รบกัน
"สวยจังน่ะ..."
มอนทาน่านอนหงายบนป้อมปืนที่สอง มองไปยังดวงดาวบนท้องฟ้า พลางนึกถึง.... อา เธอคิดถึงเพื่อนอีกเเล้ว
มอนทาน่าเริ่มหลั่งน้ำตาออกมาเล็กๆ เพราะในอีเกิลยูเนียนมีเพียงเเค่สี่คนเท่านั้นที่เธอไว้ใจเเละเชื่อใจที่สุด ... ไอโอวา วิซคอนซินส์ มิซซูรี่ กับนิวเจอร์ซี่ ทั้งสี่คนเสมือนกับเป็นพี่น้องของมอนทาน่า ด้วยความใกล้เคียงกันของคลาสเรือ ที่มอนทาน่าต่อยอดมาจากเรือชั้นไอโอวา ยังไม่รวมถึงน้องสาวของเธออย่างโอไฮโอ ที่ถูกยกเลิกการสร้างตั้งเเต่ยังไม่ทันได้วางกระดูกงู มันทำให้เธอเศร้ามากเช่นกัน
เธอเคยคิดจะหวังพึ่งเลือดเหล็กในการสร้างน้องสาวของเธอขึ้นมา เเต่เธอก็ไม่มีโอกาสได้ทำ
มอนทาน่าค่อยๆลุกขึ้นมานั่งเเละจุดบุหรี่อีกครั้ง
"ฟู้ว.... ชักติดใจเเล้วสิ"
ฉันมองไปข้างหน้าเรือ ฉันเห็นว่ามีจุดเเสงสามจุดที่กระพริบอยู่ข้างหน้า ก็พอจะมองเห็นรูปลักษณ์ของเเผ่นดินได้อยู่หละน่ะ
มอนทาน่าสูดควันของบุหรี่เข้าไปอีกครั้ง เธอไม่เคยสูบถี่ขนาดนี้มาก่อน ตั้งเเต่ที่เธอพบความจริงที่อีเกิลยูเนียนจะทำกับเธอ เธอก็สูบบุหรี่เยอะขึ้นมาก
พับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!
เฟี้ยววววว
ในตอนนั้นเอง เครื่องซีโร่สีเขียวเข้ม3ลำได้บินวนอยู่เหนือหัวของมอนทาน่า ราวกับตรวจสอบเรือของเธอ ก่อนจะบินออกไป
ปิ๊ง
ปิ๊ง
เรดาห์ของมอนทาน่าตรวจจับสาวเรือได้6คนที่กำลังมุ่งตรงมา ซึ่งมอนทาน่าก็ยังไม่เเน่ใจว่ามีใครบ้าง เเต่น่าจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินซักลำเเน่ๆ...ขอเเค่ไม่ใช่อาคากิก็พอ นึกเเล้วเสียวสันหลัง
" มอนทาน่า ประจัญบาน"
ทันทีที่พูดจบ เรือรบขนาดใหญ่ได้เรือเเสงสีฟ้าก็จะเเตกกลายเป็นก้อนลูกบากศ์ เข้ามารวมตัวที่มอนทาน่าจนกลายเป็นคันเซนขนาดใหญ่ของเธอ
(เเบบนี้เลยครับ มีปืนใหญ่สองป้อมด้านบน กับด้านล่างสองป้อม เเละปืน127มม.เพิ่มมา4ป้อม ส่วนตัวละครก็เป็นOCของผมที่ข้อมูลเบื้องต้นครับ ใช้ของไอโอวาเป็นพื้นฐาน)
"ฟู้ว...."
มอนทาน่าสูดควันรสขมเข้าไปอีกครั้งก่อนจะพ้นมันออกมาพร้อมกับมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
มอนทาน่ามองไปยังสาวเรือทั้ง6คนที่อยู่ตรงหน้า
" หื้ม?.."
นั่น ทาคาโอะ อาทาโกะ โซริว ฮิริว ยูกิคาเซะ ฟุบูกิ นี่หน่า ถึงฉันจะไม่ได้รู้จักพวกเธอเท่าไหร่หรอก หวังว่าจะเป็นไปได้ด้วยดีหละน่ะ
ไฟสปอร์ตไลท์จากสาวเรือทั้งหกได้สาดมายังมอนทาน่า
ทันทีที่สาวเรือซากุระทั้งหกคนได้เห็นรูปร่างของคันเซนที่เข้ามาในน่านน้ำของซากุระ ก็เเสดงท่าทางถึงความประหลาดใจ เเละตกใจเช่นเดียวกัน
เพราะไม่คิดว่าเรือรบขนาดใหญ่จากอีเกิลยูเนียนจะมาไกลถึงขนาดนี้
ทาคาโอะไม่พูดอะไรมาก ชัดดาบคาตานะเเละหันปืนใหญ่ไปทางมอนทาน่า
ชิ้งงงง!!
"เรือประจัญบานอีเกิลยูเนียนมาทำอะไรทีนี่กัน?"
ทาคาโอะกล่าว พร้อมๆกับชี้ดาบไปหามอนทาน่า สาวเรือคนอื่นก็เเสดงท่าทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
"เเหม่~ คุณมอนทาน่าลากตัวมาไกลขนาดนี้มีอะไรกันน่ะ~" อาทาโกะพูดพร้อมๆกับจ้องมองไปที่มอนทาน่า
" ยังไงก็ตาม... ในครั้งนี่ไม่ใช่งานสัมพันธไมตรี...มาดูกันสิว่าพวกคุณจะมาไม้ไหน คุณเรือประจัญบานมอนทาน่า..." สาวเรือบรรทุกเครื่องบินหูกระต่ายสีขาวอย่างฮิริวพูดออกมา
"หืม" โซริวไม่ได้พูดอะไรเพียงเเค่ดันเเว่นราวกับดูสถานการณ์
"ยูกิคาเซะผู้นี้จะจมเธอเองด้วยตอปิโดห์อันทรงพลังของฉันถ้าเธอเล่นตุกติก! วะฮ่าๆๆๆๆ!" ยูกิคาเซะบิดติดไปมาพร้อมกับความมั่นใจเต็มเปี่ยม
" ฉ..ฉันก็พร้อมยิงเหมือนกันน่ะ" ฟุบุกิพูดเเบบสั่นๆเพราะกลัวมอนทาน่า
"......"
มอนทาน่ายืนคาบบุหรี่เงียบๆอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพ้นควันบุหรี่ออกมา ก่อนจะดีดมวนบุหรี่ลงพื้นน้ำ
" ฟู้ว.... ฉันมาที่นี่เพื่อยอมเเพ้ จะจับฉันเลยก็ได้..อีเกิลยูเนียนหนะ ของเเบบนั้นหนะฉันไม่ได้อยู่เเล้วหละ.... "
มอนทาน่ากล่าวขึ้น พร้อมกับใบหน้าอันเรียบนิ่งเเละนัยตามีเเต่ความเศร้าโศก ราวกับคนที่ไม่มีอะไรในชีวิต
สาวๆฝั่งจักรวรรดิซากุระได้เเต่ประหลาดใจเเละสับสน มอนทาน่าที่มั่นใจในตัวเองกับสุภาพเรียบร้อยคนนั้นหายไปไหน? เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?
" อ..อา งั้นเองสิน่ะ เอาหละในตอนนี้เธอ! คือเชลยศึกของจักรวรรดิซากุระเเล้ว! ดังนั้นตามเรามาส่ะ อย่าเล่นตุกติกหละ" ทาคาโอะกล่าว
"เข้าใจเเล้วหละ...ว่าเเต่ ฉันขอสูบบุหรี่ต่อได้ไหม...?" มอนทาน่าพูดเเละได้เคลื่อนที่ตามกองเรือซากุระไป
สถานที่เเห่งหนึ่งใน อีเกิล ยูเนียน
ตึก ตึก ตึก
เสียงกระทบของรองเท้าหนังจากชายคนหนึ่งดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาเป็นชายวัย20ต้นๆ สวมชุดสีขาวเเละเป็นคนควบคุมสาวเรืออย่างผู้บัญชาการ
เขาจับทรงปีกหมวกเดินไปยังห้องๆหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าห้องไป
"เเหม่ๆ~ ดูสินี่ใคร? มนุษย์ที่ทรยศหนิ~"
เสียงของหญิงสาวได้ดังขึ้น เธอเป็นหญิงสาวผมเทา สีผิวซีด เเละดวงตาสีเขียว ซึ่งรู้จักในชื่อของสิ่งมีชีวิตต่างมิติอย่างไซเรน
" เงียบไปซ่ะ ออฟเซอรฟ์เฟอร์ อัลฟ่า ไอเรื่องภาพเสมือนอะไรนั่น ได้ผลรึเปล่าหละ" ผู้การได้พูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด
"อาา~ ดูเหมือนจะใช้งานได้ดีเลยหละ ไอดวงตานั่นที่เจ้าอ้อนวอนให้ใส่ไปในสาวเรือคนใหม่ของนายสิน่ะ~ ใช้งานได้ดีจนดูฝั่งตัวเองเป็นไซเรนจนยิงทิ้งไปสองคนเลยสิน่ะ~ " ออฟเซอรฟ์เฟอร์พูดก่อนจะมองไปที่ผู้การ
"อา ถึงจะเสียดายสองคนนั่น เเต่ดูเหมือนตั้งระบบไว้จะใช้งานได้ กับการที่มองฝั่งตัวเองเป็นไซเรนอย่างพวกเเก"
"อุมุ~ เเต่ก็ผิดเเผนใช่ไหมหละ~ ที่นังนั่นระเบิดฐานทิ้งส่ะก่อนเเละดูเหมือนว่าจะหงุดหงิดไม่เบาเลยสิน่ะ~ เเถมสะกดรอยตามไปก็ไม่เจอสิน่ะ~" ออฟเซอรฟ์เฟอร์กล่าวพร้อมนั่งลอยเท้าคาง
"อย่าพูดถึงเรื่องนั่น!! ถึงจะผิดเเผน ...เเต่เเผนการของฉันก็ยังคงเดิม!" ผู้การตะโกนกลับไป
"หึหึ~~ ช่างโง่เขลาจริงๆน่ะ เเต่จะว่าไป~ หมอกของสาวเรือนั่นน่าสนใจไม่เบา ที่ตรวจจับของข้างในไม่ได้ ใช้เครื่องตรวจจับความร้อนก็ไม่เห็น น่าสนใจจริงๆ...หึหึหึ"
ออฟเซอร์ฟเฟอร์พูดออกมาเป็นภาษาไซเรนก็ที่จะเปิดประตูมิติกลับไป
ทิ้งให้ผู้การคนนั้นหงุดหงิดอยู่ที่นั่นต่อไป
"ชิ!!"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
*เสริม*
หมอกควันของมอนทาน่าที่ปล่อยออกมา เธอไม่สามารถควบคุมได้ มันจะปล่อยออกมาตามอารมณ์ รวมถึงความหนาหรือบางของหมอกเช่นกัน เช่นถ้ามอนทาน่ารู้สึกดี เรือจะไม่ปล่อยหมอกออกมา ถ้ารู้สึกเศร้าเเบบดิ่งขั้นสุด หมอกที่ปล่อยออกมาจะหนาจนมองไม่เห็นเท้า
เเละหมอกของมอนทาน่ามีความสามารถในการดูดซับเรดาห์เเละคลื่นทุกชนิด ทำให้ตรวจจับสิ่งที่อยู่ข้างในไม่ได้ เเต่กลับกันด้านในหมอก มอนทาน่าจะใช้งานเรดาห์ โซน่า เเละระบบอื่นๆได้ตามปกติ เเต่สาวเรือฝั่งอื่นที่อยู่ในหมอก จะใช้อุปกรณ์ ได้เเค่ครึ่งเดียว หรือใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ การสะท้อนเเละดูดซับคลื่น จะดีไม่ดีอยู่ที่ความหนาของหมอก
เเละสุดท้าย หมอกสามารถอำพรางจากการใช้อินฟาเรดหรือก็คือหลบการตรวจจับความร้อนได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความหนาบางของหมอก
ความคิดเห็น