คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : การเรียนฉบับUA
"ขอโทษที่ทำให้รอนะฮิโตชิคุง"
"ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ"
"อื้อ"
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนมัธยมปลายUA บรรยากาศสดชื่นของฤดูใบไม้ผลินั้นยิ่งทำให้นักเรียนทุกคนที่กำลังจะเดินทางไปโรงเรียนตื่นเต้นและกระตือรือร้นเป็นพิเศษ
ชินโซ ฮิโตชิและมิทสุฮิดะ โออิคิได้เดินทางไปโรงเรียนด้วยกันเหมือนอย่างปกติ แต่ละหว่างทางนั้นต่างคนต่างเงียบไม่มีใครเอ่ยปากคุยอะไรสักคำ
เพราะอะไรน่ะเหรอ?
ไม่ค่อยมั่นใจเลย..... ฮิโตชิคุงเงียบมาตลอดทางตั้งแต่เราเดินออกมาจากบ้าน นี่เราใส่ชุดนี้แล้วดูแย่ขนาดนั้นเลยหรอ!? แต่ฮิโตชิคุงใส่ชุดนี้แล้วดูดีจังเลย เอ๊ะ!? นะ..นี่เราคิดอะไรอยู่เนี่ย!
เด็กสาวมีคำถามมากมายอยู่ในหัวตนตีกันมั่วไปหมด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างลืมตัว ใบหน้าที่เอาแต่ก้มมองพื้นถนนขึ้นสีจาง ๆ เมื่อเผลอคิดอะไรแปลก ๆ ออกไป
ยัยนี่.... ใส่ชุดนี้แล้วดูดีกว่าที่คิด ถึงจะแอบหงุดหงิดที่กระโปรงมันสั้นจนเห็นขาอ่อนของเธอก็เถอะ แต่ก็ยังดีที่เธอใส่ถุงน่องสีดำยาว แต่ดูเหมือนว่ามันจะช่วยส่งเสริมให้น่ามองมากว่าเดิมอีก
แอบเสียดายนิด ๆ แหะ
เด็กหนุ่มคิดในใจ สายตาเสมองไปทางอื่นพยายามไม่ไปมองเด็กสาวมากนักเพราะเขายังไม่อยากสติหลุดเพราะแอบมองคนข้าง ๆ หรอกนะ
แต่ที่ว่าน่าเสียดายเนี่ย
มันหมายความว่ายังไงนะ?
"แล้วเจอกันตอนพัก เดี๋ยวฉันจะส่งข้อความไปหา"
"อืม แล้วเจอกันนะคะ"
ภายในอาคารของโรงเรียนUAนั้นมีนักเรียนเดินกันอยู่ยังไม่เยอะมากนัก เพราะทั้งสองคนมาถึงค่อนข้างเร็วนักเรียนจึงยังไม่หนาแน่นมากนัก
ฮิโตชิเดินมาส่งเด็กสาวถึงหน้าห้อง ทั้งสองคนคุยกันสอง-สามประโยคก่อนบอกลากัน
โออิคิสูดหายใจลึก กลั้นใจเปิดประตูด้วยความตื่นเต้น
ครืด......
ภายในห้องสี่เหลี่ยมนั้นมีนักเรียนที่มาก่อนเธอแล้วเกือบสิบคน ทุกคนมีสีหน้าตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด โออิคิเลยคาดเดาได้ว่าพวกเขาน่าจะตื่นเต้นมากแน่ ๆ ถึงมาโรงเรียนเช้ามาก
ทุกคนในห้องที่ได้ยินเสียงเปิดประตู พวกเขาหยุดการกระทำทุกอย่างหันมามองเด็กสาวเป็นตาเดียว จนคนถูกมองเริ่มทำตัวไม่ถูก
คุยกันต่อสิคะ! ไม่ต้องสนใจเรา!!!
"เอ่อ.. อรุณสวัสดิ์ค่ะ" เด็กสาวเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนรีบเดินไปนั่งที่ตัวเอง
ที่นั่งของเธอนั้นอยู่ด้านในสุดและท้ายสุดของแถว และยังเป็นโต๊ะที่นั่งคนเดียวด้วย เพราะเธอนั้นเป็นเศษของห้องเนื่องจากปีนี้รับเด็กทั้งหมด37คน ทำให้มีเศษอย่างช่วยไม่ได้
เพื่อไม่ทำให้ตัวเองรู้สึกกดดันและสติแตก เด็กสาวจึงหยิบหนังสือนิยายที่อ่านค้างไว้มาอ่านเพื่อผ่อนคลายอารมณ์
"อรุณสวัสดิ์ ฉันอีดะ เท็นยะ" เสียงหนักแน่นที่คุ้นเคยเอ่ยทักดังขึ้นมา เมื่อมองไปยังต้นเสียงก็พบร่างสูงของเด็กหนุ่มสวมแว่นคนหนึ่งมาอยู่ข้างโต๊ะเธอ มือข้างหนึ่งเขายื่นออกมาเพื่อจับทักทาย
คนนี้.... คนเดียวกับตอนเข้าสอบนี่นา
"อะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ มิทสุฮิดะ โออิคิค่ะ" เธอโค้งหัวเล็กน้อย มือเล็กยื่นออกไปจับมือหนาของเขา แก้มกลมขึ้นสีเล็กน้อยด้วยความไม่เคยชิน
เขาชะงักไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันทำอะไรต่อก็มีเพื่อนร่วมห้องคนใหม่เปิดประตูเข้ามา
อีดะเดินเข้าไปทักทาย ราวกับเขาเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้อย่างนั้นเลย
ผ่านไปสักพักใหญ่คนอื่นเริ่มเข้ามาที่ห้องเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ฮางาคุเระ โทรุได้เข้ามาทักทายโออิคิและพูดเรื่องต่าง ๆ ด้วยความตื่นเต้น เธอนั้นตั้งคำถามเกี่ยวกับอาจารย์ไว้ต่าง ๆ นานาว่านิสัยจะเป็นยังไง หน้าตาแบบไหน อัตลักษณ์อะไร บทสนทนานี้ทำให้มีเพื่อนคนอื่น ๆ ให้ความสนใจและมาร่วมวงสนทนาด้วย โออิคิจึงได้รู้จักกับคนในห้องมาขึ้นแม้จะยังไม่ครบก็เถอะ
เวลาผ่านไปจนใกล้ถึงเวลาใกล้เข้าคาบ ทุกคนกลับมานั่งที่ตัวเองอย่างเรียบร้อยเพื่อรออาจารย์ประจำชั้น แต่ก็ไม่วายมีเรื่องเอะอะก่อนถึงเวลาเรียนแค่ไม่กี่นาที
เรื่องมันเกิดจากมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมีเส้นผมสีฟางชี้ขึ้น ท่าทางเหมือนนักเลงการแต่งตัวไม่เรียบร้อย เขาเดินเข้ามานั่งที่ก่อนจะยกเท้าขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ และนั่นทำให้อีดะ เท็นยะไม่พอใจเป็นอย่างมาก
"นี่นายน่ะ! เอาเท้าลงเดี๋ยวนี้นะ! นายไม่รู้สึกผิดต่อรุ่นพี่หรือผู้สร้างโต๊ะนี้เลยรึไง!?"
"ไม่รู้สึกเฟ้ยของแบบนั้น! แล้วแกมาจากไหน ไอ้ตัวประกอบ" เขาทำหน้าตายียวนตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวนประสาท
"ผะ- ฉันมาจากโรงเรียนมัธยมต้นโซเมย์ ชื่ออีดะ เท็นยะ" อีดะแนะนำตัวพร้อมยื่นมือเพื่อเป็นการทักทาย
"หา!? โรงเรียนคุณหนูนี่หว่า ค่อยเหมาะกับการฆ่าทิ้งหน่อย"
"ฆ่าทิ้ง!? โหดร้ายจริง นี่นายอยากเป็นฮีโร่แน่หรอ" คำตอบของเขาทำให้เด็กหนุ่มสวมแว่นตาผงะถอยหลังทันที
"ชิ! หือ?" เขาเดาะลิ้นก่อนสายตาจะไปสะดุดกับเด็กหนุ่มหัวเขียวที่ยืนอยู่ตรงประตูห้อง
ทุกคนมองตามสายตาของคนผมสีฟางทำให้คนตรงประตูตกเป็นเป้าสายตาอย่างง่ายดาย
"อะ เอ่อ..." เขามีท่าทีลนลาน เขินอายที่ตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งห้อง
รู้สึกว่าคนที่เราเคยเห็นหน้าจะมาอยู่ห้องนี้หมดเลย จะเรียกว่าโชคดีไหมนะ
ไม่นานหลังจากอีดะเดินเข้าไปทักทายมิโดริยะ(รู้จากการแนะนำตัวเมื่อกี้) ได้มีเด็กสาวเรือนผมสีน้ำตาลสั้นเข้ามาทักอีกคน เธอดูดีใจมากที่มิโดริยะได้เข้ามาเรียนที่เดียวกันและห้องเดียวกัน
โออิคิมองเหตุการณ์หน้าประตู ในใจก็คิดว่าเพื่อนห้องนี้นี่คึกคักกันดีจังเลยนะ แต่ทำไมอาจารย์ยังไม่มาอีกล่ะเนี่ย
.
.
.
.
.
.
"ถ้าจะมาเล่นล่ะก็ ช่วยไปที่อื่นเลยไป" เสียงเนือย ๆ เอื่อย ๆ ดังมาจากทางหน้าประตู
"เฮือก!" ทั้งสามที่ยืนอยู่บริเวณนั้นมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด
อ่า.... เรียกว่าเหวอไปเลยน่าจะดีกว่า
"ที่นี่คือสาขาฮีโร่นะ ซู้ด"
พรึ่บ
หวื๊ด.......
เจ้าของเสียงเนื่อยใกล้หลับเต็มทีได้ปรากฏตัวขึ้น เขาออกมาจากถุงนอนสีเหลือง ชายร่างสูงโปร่งสวมชุดสีดำทั้งตัวมีผ้าพันคอยาวคลุมตั้งแต่คางถึงไหล่ ผมยาวสีดำดูกระเซอะกระเซิงไม่เรียบร้อย ใบหน้าซีดมีหนวดเคราเหมือนคนไม่ค่อยดูแลตัวเอง
"กว่าจะเงียบได้ใช้เวลาตั้ง8วิ เวลาน่ะมีจำกัด พวกเด็กนี่ไม่มีตรรกะเอาซะเลย"
เขาเป็นอาจารย์เหรอ? แต่เหมือนเคยเห็นที่ไหนเลยแหะ.....
โออิคิคิดกับตัวเองก่อนจะฟังชายคนนั้นพูดต่อ
"ฉันคืออาจารย์ประจำชั้น ชื่อไอซาวะ โชตะ ยินดีที่ได้รู้จัก"
"หือ!?"
"อาจารย์ประจำชั้น!?"
นักเรียนในห้องถึงกับอุทานออกมาเพราะพวกเขาไม่คิดว่าจะมีอาจารย์ที่ไหนดูโทรมขนาดนี้มาก่อน
"อาจจะเร็วไปหน่อย แต่ใส่นี่แล้วลงไปที่สนามซะ" เขาหยิบชุดออกมาจากถุงนอน ซึ่งมันเป็นชุดพละของโรงเรียนนนี้
แม้จะไม่เข้าใจแต่พวกนักเรียนในห้องก็ยอมทำตามแต่โดยดี ห้อง1-Aได้ลงสนามตั้งแต่วันแรก คาบแรกของการเรียน
สมกับเป็นUA
"ทดสอบดูอัตลักษณ์!?" ทุกคนทวนคำพูดของอาจารย์อีกครั้ง
"แล้วพิธีปฐมนิเทศกับการชี้แจงล่ะคะ?" เด็กสาวผมสั้นสีน้ำตาลพูดแย้งขึ้นมา
"ถ้าอยากเป็นฮีโร่ล่ะก็ ไม่มีเวลาไปทำกิจกรรมพรรค์นั้นหรอก" เขาเดินออกห่างจากกลุ่มนักเรียน2-3ก้าวก่อนหันหน้ากลับมา
"ที่นี่มีอิสระเป็นจุดขาย อาจารย์เองก็เช่นกัน....... พวกเธอคงทำแบบนี้มาตั้งแต่สมัยม.ต้นแล้วใช่ไหม" เขาหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง หน้าจอขึ้นลิสท์รายการทดสอบต่าง ๆ
"การทดสอบสมรรถภาพร่างกายโดยห้ามใช้อัตลักษณ์ จนป่านนี้ประเทศเรายังคงไม่ให้ใช้อัตลักษณ์ในการเก็บผลลัพท์แบบเดิม ๆ อยู่ ซึ่งมันเป็นความไม่ใส่ใจของรัฐบาลญี่ปุ่น..." เขาร่ายยืดยาวด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ ของเขา
"นายบาคุโกที่สอบได้ที่หนึ่งภาคปฏิบัติสินะ ตอนม.ต้นขว้างซอฟต์บอลได้กี่เมตร" อาจารย์ไอซาวะหันไปถามเด็กหนุ่มผมสีฟาง ทุกคนเองก็เช่นกัน เพราะเขาได้ที่หนึ่งในการสอบภาคปฏิบัติเลยนะ
"67เมตร"
"ดี งั้นลองขว้างใหม่โดยใช้อัตลักษณ์ของเธอด้วย"
บาคุโกเดินไปในวงกลมที่มีเส้นแบ่งระยะทางทอดไกลจนมองหาปลายไม่เจอ
"จะทำอะไรก็ตามใจ แต่อย่าออกนอกวงพอ"
สิ้นประโยค บาคุโกเริ่มวอร์มแขนเพื่อให้พร้อม ไม่นานเขาได้ขว้างลูกบอลพร้อมกับการใช้อัตลักษณ์ระเบิดของเขา
"ตายซะ!!!!!!!!"
ตู้ม!!!!!!
ตาย?
"ก่อนอื่นต้องรู้ขีดจำกัดของตัวเอง" ไอซาวะพูดออกมาก่อนมองหน้าจอวัดระยะ
ปิ๊บ
"นี่แหละคือวิธีการที่ดีในการสร้างพื้นฐานฮีโร่" เขาชูหน้าจอให้พวกนักเรียนดู ทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก
"705.2!!!!"
"ดูท่าทางน่าสนุกจัง!"
"ใช้อัตลักษณ์ได้เต็มที่เลยหรอ สมแล้วที่เป็นสาขาฮีโร่"
เด็กนักเรียนในห้องดูตื่นเต้นกันใหญ่
"น่าสนุกงั้นหรอ?" แต่แล้วเสียงของอาจารย์ก็ขัดขึ้นมา
"เอ๊ะ?"
"ในช่วงเวลาสามปีเพื่อการเป็นฮีโร่ คิดว่าจะผ่านไปด้วยความคิดแบบนั้นจริง ๆ หรอ?" เขาพูดออกมาให้ทิ่มใจเล่น ผู้ชายคนนี้พูดตรงได้เจ็บดีชะมัด เขายิ้มเหี้ยมก่อนเอ่ยประโยคน่าตกใจออกมา
"หึ ถ้าใครได้คะแนนต่ำสุดในการทดสอบ ฉันจะถือว่าไร้ความสามารถและไล่ออกทันที"
"หา!?"
ทุกคนกรีดร้องสุดเสียง นี่พวกเขามีสิทธิ์โดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกเลยเหรอ!!!!!!!
"อิสระของฉันคือ มีสิทธิ์จัดการนักเรียนยังไงก็ได้..... ยินดีต้อนรับสู่สาขาฮีโร่โรงเรียนม.ปลายUA" มือขาวซีดยกขึ้นเสยผมตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มมารของเขา
สมกับเป็นUA.......จริง ๆ
.
.
.
"เดี๋ยวสิคะ ที่บอกว่าได้คะแนนน้อยที่สุดจะไล่ออกนี่เรื่องจริงหรอคะ!? วันนี้เพิ่งเป็นวันแรกของการเปิดเรียนนะคะ!" เด็กสาวผมสีน้ำตาลคนเดิมเอ่ยแย้งขึ้นอีกครั้ง
"ภัยพิบัติ อุบัติเหตุใหญ่ วิลเลินที่บ้าคลั่ง ญี่ปุ่นตอนนี้มันเต็มไปด้วยความไม่ยุติธรรม ถ้าคิดว่าหลังเลิกเรียนแล้วจะไปสุขสันกับเพื่อนที่คาเฟ่ล่ะก็ เสียใจด้วย เพราะหลังจากนี้อีก3ปี UAจะทำทุกอย่างทำให้พวกเธอพบเจอความยากลำบากอีกมาก" คำพูดของเขาเหมือนเป็นบทเรียนแรกของการเรียนสาขาฮีโร่ เกี่ยวกับอนาคตที่พวกเรานั้นจะต้องเจอ รอยยิ้มนั้นยังคงประดับอยู่บนใบหน้า เขายกมือขึ้นมาก่อนกวักนิ้วชี้เพื่อเป็นการท้าทาย
"PLUS ULTRA จงผ่านบททดสอบนี้แล้วไปอยู่จุดสูงสุดซะ"
ทุกคนคิดกับตัวเอง การที่มาเรียนที่UA โรงเรียนปั่นฮีโร่ลำดับต้น ๆ ของประเทศนั้นย่อมมีอุปสรรคมากมายอยู่แล้ว มันถือเป็นแบบทดสอบว่าพวกเขาจะสามารถผ่านมันไปได้หรือไม่
"โออิคิจัง เรามาพยายามด้วยกันเถอะ!" โทรุที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยื่นมือมาวางบนไหล่เล็ก
"ค่ะ โทรุจังเองก็พยายามเข้านะคะ" เธอหันไปยิ้มบาง ๆ ให้กับเพื่อนล่องหนของเธอ
"ก่อนหน้าถือว่าเป็นการสาธิต หลังจากนี้เป็นของจริง"
.
.
.
.
.
.
การทดสอบที่1 : วิ่ง50เมตร
การทดสอบนี้จะทำกันเป็นคู่เรียงตามเลขที่ โออิคิเป็นเศษทำให้เธอต้องวิ่งคนเดียว เด็กสาวแอบเศร้าใจนิด ๆ
ร่างเล็กดูเพื่อนในห้องวิ่งไปจนเกือบหมดแล้ว คนที่เร็วที่สุดตอนนี้เป็นอีดะคุง3.04วินาที เขามีอัตลักษณ์เอนจิ้น หลังขาเขานั้นจะมีท่อไอเสียอยู่ทำให้เขานั้นวิ่งเร็วสุด ๆ
"มิทสุฮิดะ โออิคิ" เสียงของไอซาวะทำให้เด็กสาวหลุดจากภวังค์
"ค่ะ"
"สู้ ๆ นะโออิคิจัง!" โทรุตะโกนเชียร์จนทำให้โออิคิรู้สึกเขินขึ้นมา
"เข้าที่..... ระวัง...."
ปัง!
โออิคิที่ไม่รู้ว่าจะใช้อัตลักษณ์ช่วยยังไงดี เธอเลยวิ่งด้วยกำลังที่เธอมีอย่างสุดกำลัง
ปิ๊บ
"05.02วินาที"
ถือว่าเป็นตัวเลขตามปกติที่เธอทำได้ในตอนม.ต้น เธอจึงไม่ตื่นเต้นอะไรมากนักแต่ดูเหมือนว่าจะเร็วขึ้นนิดหน่อย ผิดกับเพื่อนคนอื่น ๆ ที่เข้ามาหาเธอด้วยความชื่นชม
"มิทสุฮิดะจังสินะ วิ่งเร็วจัง ฉันยังได้แค่6วิเลย" เด็กหนุ่มผมสีแดงตั้งขึ้นดูแหลม ๆ เข้ามาทักเด็กสาวเป็นคนแรก เขาเข้ามาพร้อมรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันคมแหลมตามแบบของเขา เด็กหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าคิริชิมะ เออิจิโร่
"วิ่งเร็วสุด ๆ ไปเลย! สุดยอด!" เด็กสาวที่มีร่างกายสีชมพูและเส้นผมสีชมพูเธอดูตื่นเต้นเป็นเด็ก ๆ นั่นทำให้เธอดูเป็นคนร่าเริง สดใสเป็นอย่างมาก และชื่อของเธอคืออาชิโดะ มินะ
"ขะ ขอบคุณค่ะ ทุกคนเองก็ทำได้ดีมาก ๆ เลยนะคะ" โออิคิเผลอยิ้มไม่รู้ตัว พวงแก้มขึ้นสีจาง ๆ จากการโดนชม ทำให้คนที่เห็นนั้นชะงักไป
"เอ้า อย่ามัวแต่คุย ต่อไปจะไปที่โรงยิม" อาจารย์ไอซาวะพูดขัดทำลายบรรยากาศสีชมพูที่ก่อตัวขึ้น
"ไปกันเถอะ!"
"เอ๊ะ เดี๋ยวสิคะโทรุจัง"
โทรุที่เห็นว่าอาจารย์ให้ไปที่โรงยิมเธอจึงลากแขนเด็กสาวออกจากตรงนั้น โดยปล่อยให้คนที่เหลือยืนนิ่งอย่างนั้น
การทดสอบที่2 : วัดแรงบีบมือ
การทดสอบนี้เป็นการวัดพละกำลังของมือ ซึ่งคนที่ทำได้มากที่สุดคือโชจิ เมโซ ด้วยอัตลักษณ์อวัยวะจำลองของเขาทำให้เขาได้มากถึง540kgw
โออิคินั้นไม่ค่อยมีพละกำลังการบีบมือเท่าไหร่นักจึงทำได้เพียง28kgwเท่านั้น ซึ่งเป็นมาตรฐานของผู้หญิงในห้องทั่วไป เผลอ ๆ อาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ
การทดสอบที่3 : กระโดดไกล
ส่วนใหญ่กระโดดข้ามกันทั้งนั้น แน่นอนว่าโออิคิก็เช่นกัน เธอใช้อัตลักษณ์เป็นแรงส่งเพื่อให้กระโดดได้ไกลมากยิ่งขึ้น
โทรุจังเข้ามางอแงเสียใจที่ตัวเองกระโดดได้ไม่ไกลนัก เด็กสาวจึงลูบหลังปลอบอยู่ข้าง ๆ
การทดสอบที่4 : กระโดดสลับข้าง
การทดสอบนี้โออิคิทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะเธอนั้นมีความคล่องแคล่วสูง แต่คนที่ได้คะแนนเยอะที่สุดคงไม่พ้นมิเนตะ มิโนรุ ด้วยอัตลักษณ์ลูกบอลเด้งดึ๋งแต่เหนียวหนึบของเขาทำให้เขานั้นทำคะแนนได้โดยที่ถ้าหากไม่ใช้กล้องตรวจจับล่ะก็ ไม่มีทางนับทันแน่นอน
การทดสอบที่5 : ขว้างบอล
ทุกคนนั้นตกใจเป็นอย่างมากที่เด็กสาวผมสีน้ำตาลอุรารากะ โอชาโกะทำได้INFINITYหรือไม่มีที่สิ้นสุด
แต่เมื่อมาถึงตามิโดริยะ อิสุกุ อาจารย์ได้ลบอัตลักษณ์ของเขาออกและนั่นทำให้ทุกคนได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา
อีเรเซอร์เฮด คือชื่อฮีโร่ของเขา
ที่แท้เขาคือรุ่นน้องที่น้ามินากะพูดถึงบ่อย ๆ นี่เอง ก็ว่าทำไมรู้สึกคุ้นจังเลย
โออิคินึกออกในทันทีที่ได้ยินชื่อฮีโร่ของเขา น้าของเธอนั้นชอบมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคนนี้ให้ฟัง แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องที่น้าไปแกล้งเขาซะมากกว่า
นักเรียนในห้องต่างซุบซิบกัน ในขณะนั้นดวงตาภายใต้เส้นผมได้เหลือบไปเห็นร่าง ๆ หนึ่งที่ชะโงกหน้า(และตัว)ออกมาจากกำแพงของโรงยิม เส้นผมสีเหลืองสว่างที่ชี้ขึ้นเป็นเอกลักษณ์และใบหน้าที่เก๊กเข้มตลอดเวลาทำให้รู้ได้ทันทีว่าเขาคือใคร
ออลไมต์นั่นเอง
เด็กสาวสะดุ้งเล็กน้อย เพราะเขากำลังแอบมองพวกเราอยู่ เมื่อฮีโร่อันดับหนึ่งรู้ตัวว่ามีนักเรียนรู้ถึงตัวตนของเขา ออลไมต์จึงยกนิ้วชี้มาแตะที่ริมฝีปากเป็นสัญญาณบอกให้เธอเงียบ เด็กสาวพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจสถานการณ์ตรงหน้า
แม้จะมีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อย สรุปแล้วเรื่องก็จบลงด้วยดี มิโดริยะคุงมีอาการบาดเจ็บที่นิ้วชี้เท่านั้น อาจารย์เองก็ดูพอใจไม่น้อย การทดสอบยังคงดำเนินต่อไปจนถึงตาของเด็กสาวเรือนผมยาวสองสีคนนี้
"มิทสุฮิดะ โออิคิ"
อาจารย์ไอซาวะเรียกชื่อเธอ เด็กสาวเดินเข้าไปอยู่ในวงกลม ในมือนั้นถือลูกบอลวัดระยะ เธอผ่อนลมหายใจเข้า-ออกช้า ๆ เพื่อนในห้องเองก็ลุ้นเหมือนกันว่าเธอนั้นจะทำได้ไกลขนาดไหน
จนถึงตอนนี้โออิคิเองก็หนักใจไม่น้อยเพราะถ้าตัวเองไม่ทำคะแนนให้ดี ๆ ล่ะก็ตัวเธอนั้นมีสิทธิ์โดนไล่ออกอย่างที่เขาว่าจริง ๆ แน่ เพราะทุกคนเองก็ทำสุดความสามารถเพื่อให้หลุดพ้นจากลำดับสุดท้าย
เพื่อจะเป็นฮีโร่ที่ทุกคนยอมรับ....
จะมายอมแพ้ไม่ได้!!!
ฟุบ!
"หา!?"
"โยนขึ้นงั้นหรอ!?"
แทนที่เด็กสาวจะเหวี่ยงแขนขว้างบอลไปด้านหน้าแต่เธอนั้นกลับโยนมันขึ้นด้านบนอย่างเต็มแรงแทน ทุกคนต่างงงงวยและตั้งคำถามกับสิ่งที่เธอทำ
ปับ!!!!
แต่เมื่อลูกบอลกำลังจะตกลงมาได้มีเงามือโผล่มาจากช่องมิติด้านหลังตบลูกจนกระเด็นไปไกล แรงกระทบนั้นทำให้เกิดลมพัดแรงราวกับลมพายุเลยทีเดียว
ฟิ้ว~
ปิ๊บ
780.6
เมื่อเด็กสาวเห็นตัวเลขเธอนั้นหลุดกรี๊ดในใจ ตัวเธอไม่คิดว่าการใช้พลังอัตลักษณ์เต็มที่จะทำได้ถึงขนาดนี้ โออิคิแท็กมือกับอัตลักษณ์ของตัวเอง แต่ก่อนที่มันจะกลับเข้ามิติ เงามือได้โบกมือให้พวกนักเรียนที่เหลือที่กำลังตกตะลึงอยู่
"จะ.....780.6เมตร!!!"
"สุดยอด! อัตลักษณ์อะไรกัน!?"
"มันโบกมือให้เราด้วย!?"
"โออิคิจังสุดยอด!"
เพื่อนในห้องต่างตกตะลึกกับตัวเลขที่ปรากฏ คนที่สนใจในตัวเธอต่างกรูเข้ามาพูดคุยกับเธอเรื่องอัตลักษณ์กันยกใหญ่
คำถามมากมายจนนับไม่ไหวนั้น ทำให้เด็กสาวเลือกที่ตอบไม่ถูกและเกิดอาการตาลายขึ้นมาด้วยความไม่เคยชินกับการพูดคุยกับผู้คนเยอะ ๆ
"ดะ เดี๋ยวสิคะ" โออิคิถึงกับเหงื่อตก
และสุดท้ายอาจารย์ไอซาวะต้องออกมาสงบสถานการณ์จนได้
การทดสอบที่6 : ลุกนั่ง(SIT-UP)
หลังจากความวุ่นวายก่อนหน้านี้ยังทำให้โออิคิมีอาการมึนหัวอยู่นิดหน่อย เธอจึงได้คะแนนไม่เยอะนัก โทรุจังที่เป็นคนกดเท้าให้จึงบอกให้พอ เพราะโทรุจังไม่อยากเห็นเพื่อนของเธอนั้นเป็นลมไปก่อนจะจบคาบเรียนหรอกนะ
การทดสอบที่7 : วัดความอ่อนตัว
การทดสอบนี้ถือว่าง่ายมากสำหรับโออิคิ เธอนั้นมีตัวที่อ่อนมากจึงทำได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ดูเหมือนว่ามิโดริยะคุงแสดงอาการเหนื่อยล้าออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เด็กสาวที่เห็นสีหน้าของเขาเริ่มซีดลงจึงทำให้ความรู้สึกเป็นห่วงมันตีขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
เด็กสาวจึงรวบรวมความกล้าอยู่สักพัก ก่อนเดินเข้าไปถามเจ้าตัวระหว่างเดินไปที่สนามวิ่ง
"เอ่อ... ขอโทษนะคะ มิโดริยะคุง...."
"ครับ!?" มิโดริยะสะดุ้งโหยงเมื่อมีผู้หญิงมาทัก ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนแมวเจอแตงกวาล่ะนะ เขาหันกลับไปทางต้นเสียงทั้งที่ใบหน้ายังแดงอยู่ "มะ มีอะไรรึเปล่าครับ"
"คือ ฉันเห็นว่าหน้าคุณซีดมาก ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ แล้วนิ้ว...." ร่างเล็กเดินเข้าใกล้เด็กหนุ่มผมเขียวอย่างลืมตัว สายตานั้นมองไปยังนิ้วชี้ที่ม่วงช้ำน่ากลัว
"ไม่ ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ! คะ แค่นี้สบายมาก!" เมื่อเห็นว่าระยะห่างของเขากับเด็กสาวเริ่มน้อย ใบหน้าแต้มกระเริ่มขึ้นสีแดงจัด มิโดริยะรีบถอยห่างแล้วตอบเด็กสาวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ก่อนที่จะหายไปรวมตัวกับอีดะคุงและอุรารากะจัง ปล่อยทิ้งเด็กสาวเอาไว้อย่างนั้น
แปลกคนจัง ว่าแต่มันไม่เป็นอะไรจริง ๆ น่ะเหรอ?
โออิคิคิดในใจ แม้จะยังเป็นห่วงอยู่แต่ถ้าเจ้าตัวว่าอย่างนั้นเธอก็จะไม่ไปเซ้าซี้ถามอีก
การทดสอบที่8 : วิ่งระยะไกล
"มาแข่งกันยัยผีโอคิคุ!!!!"
คะ?
คำถามนี้เด้งขึ้นมาบนหัวเมื่อโดนคำท้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวอยู่ที่สนามจู่ ๆ บาคุโก คัตสึกิเด็กหนุ่มที่มีนิสัยรุนแรงเหมือนกับอัตลักษณ์ของเขาได้เอ่ยปากท้าเด็กสาวแข่ง เสียงที่ดังอยู่แล้ว พูดปกติก็เหมือนตะโกนของเขานั้นทำให้เพื่อน ๆ ในห้องได้ยินกันหมดทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย
"คะ คัตจังท้ามิทสึฮิดะซัง!?"
"โออิคิจังโดนบาคุโกคุงท้าแข่งหรอ?"
"มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า"
"เอ๊ะ? อะไรนะคะ?" ดวงตาภายใต้เส้นผมมองเด็กหนุ่มผมสีฟางอย่างไม่เข้าใจ เกิดคำถามร้อยแปดล้านคำมากมายจนนับไม่ไหวในใจเด็กสาว
ทำไมจู่ ๆ เขาถึงมาท้าแข่งล่ะ!? แล้วที่เรียกผีโอคิคุนี่มันอะไรกันคะ!?
"เตรียมตัว..... ระวัง....."
ความสงสัยและคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบนั้นถูกเก็บเอาไว้ เสียงของหุ่นยนต์จับเวลาดังขึ้น ทำให้เธอนั้นต้องเตรียมตัววิ่งโดยที่ยังไม่เข้าใจเด็กหนุ่มข้าง ๆ เลยสักนิด
ปัง!
สัญญาณการวิ่งได้เริ่มขึ้น นักเรียนทุกคนต่างใช้อัตลักษณ์ของตัวเองในการทำเวลา เด็กสาวได้วิ่งตามแบบปกติของเธอเพราะอัตลักษณ์ไม่ค่อยช่วยอะไรได้เท่าไหร่นัก
แต่คนที่จะผิดแปลกจากปกติก็คือคนที่ท้าเธอแข่งนี่แหละ......
บาคุโกไม่ยอมใช้อัตลักษณ์ตัวเองเหมือนกับตอนวิ่ง50เมตร หลังรู้ว่าเด็กสาวร่างเล็กเองก็ไม่ได้ใช้อัตลักษณ์ช่วยในการวิ่ง เขาอยากวิ่งแข่งกับเธอจริง ๆ ทั้งคู่วิ่งตีคู่กันมาตลอดระยะทางไม่มีใครแรงตกหรือแซงอีกคนหนึ่งเลย
เหลืออีก100เมตร
.
.
50เมตร
.
.
10เมตร
.
.
3เมตร
.
.
2เมตร
.
.
1เมตร
.
.
ปิ๊บ ปิ๊บ
"มิทสึฮิดะ โออิคิ 4นาที34วินาที"
"บาคุโก คัตสึกิ 4นาที35วินาที"
เสียงเครื่องตัวจับเวลาทำให้ทั้งสองคนนั้นลืมเหนื่อยไปในทันที โออิคิลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างลำบาก เมื่อรับรู้ถึงรังสีแปลก ๆ ของเด็กหนุ่มผมสีฟางที่ยืนทำหน้าตาน่ากลัวอยู่ข้าง ๆ
"อะแฮ่ม" อาจารย์ไอซาวะกระแอ่มเสียงในลำคอเพื่อเตือนสติของเด็กหนุ่มไม่ให้ทำอะไรวู้วามเหมือนกับตอนของมิโดริยะ
"ชิ" ดวงตาสีแดงสดเหลือบมองอาจารย์ที่จ้องเขาเขม็ง ก่อนจะเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์
ตู้ม!
เขาจุดระเบิดที่มือตัวเองจนเด็กสาวสะดุ้งโหยงถอยห่างจากเขา ดวงตาสีแดงสดมองมายังคนตัวเล็กก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
"ครั้งหน้าฉันจะชนะเธอยัยผีโอคิคุ!!!" เด็กหนุ่มเดินกระฟัดกระเฟียดจากไปทิ้งไว้เพียงเด็กสาวให้ยืนตัวซีดเอาไว้อย่างนั้น
"ค่ะ......" เธอตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบา เพราะกลัวว่าจะยิ่งทำให้เขาอารมณ์ระเบิดไปมากกว่านี้ น้ำตาของเธอนั้นแทบจะไหลรินออกมาขอบตา
บาคุโกคุง.... น่ากลัว......... (┬┬﹏┬┬)
สุดท้ายเธอนั้นก็ไม่ได้คำตอบจากเขา แถมถ้าไปถามคงได้โดนระเบิดใส่แน่
และเมื่อรู้ตัวอีกทีเธอก็ได้ชื่อเรียกจากเขาว่าผีโอคิคุไปเรียบร้อยแล้ว
.
.
.
.
.
การทดสอบทั้งหมดจบลงครบทั้ง8อย่าง ทุกคนมายืนรวมตัวอยู่บริเวณหน้าโรงยิมอีกครั้ง
"งั้นจะประกาศผลล่ะนะ"อาจารย์ไอซาวะพูดขึ้น นั่นทำให้ใจทุกคนยิ่งสั่นรัว
"ผลรวมคือการเอาคะแนนประเมินของแต่ละรายการมารวมกัน ....ถ้าจะให้พูดแจกแจงชาตินี้ก็ไม่เสร็จเพราะงั้นก็จะประกาศทีเดียว" เขาหยิบมือถือเครื่องเดิม กดปุ่มทำให้เกิดภาพโฮโลแกรมที่เรียงลำดับเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ปิ๊บ
เด็กสาวกวาดสายตามองไล่ลำดับ จนไปสะดุดกับชื่อของตัวเองที่อยู่ในลำดับที่3 และเมื่อกดสายตาลงมาก็เป็นชื่อของเด็กหนุ่มอัตลักษณ์ระเบิดคนนั้น
อึก
จู่ ๆ โออิคิก็เกิดอาการเสียวสันหลังวาบ เธอนั้นรู้ดีว่าเกิดจากอะไรและเธอจะไม่มองไปทางต้นเหตุแน่ ๆ
ด้านของมิโอริยะ อิสุกุนั้นเขารู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมากเพราะตัวเขาเองทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่โดยเฉพาะการทดสอบวิ่งระยะไกล ถึงจะมีคะแนนขว้างบอลช่วยแต่คะแนนของการทดสอบอื่นฉุดลงจนแทบจะช่วยอะไรไม่ได้เลย
"อ้อ ลืมบอกไปว่าเรื่องไล่ออกน่ะ......โกหก"
"..........เอ๊ะ?"
ปิ๊บ
"มันเป็นวิธีที่จะทำให้พวกเธอดึงพลังออกมาได้มากที่สุดยังไงล่ะ" จบประโยค อาจารย์ไอซาวะแสยะยิ้มกว้างเมื่อเห็นสีหน้าของนักเรียนที่กำลังเหวอสุดขีด
"หา!!!!!!!!!!!!!"
คนที่กรีดร้องดังที่สุดก็น่าจะเป็นมิโดริยะเพราะเขานั้นได้อันดับสุดท้ายของการทดสอบ ตัวของเขาซีดจนลายเส้นเปลี่ยนไปเลย
"พวกนายนี่นะ ถ้าคิดตามหน่อยก็น่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องโกหก" เด็กสาวเรือนผมสีดำมัดทรงสูงนั้นพูดออกมา นั่นทำให้พวกเขาเริ่มเอะใจ
ลืมคิดไปเลยแฮะ.....
โออิคิถอนหายใจเบา ๆ เธอรู้สึกโล่งใจที่ไม่มีใครโดนไล่ออกในวันแรกของการเรียน
"เฮ้อ นึกว่าจะต้องโดนไล่ออกซะแล้ว" โทรุถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม้เธอจะไม่ได้อันดับสุดท้าย แต่เธอนั้นก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจเพราะเธอนั้นได้อันดับล่าง ๆ นี่สิ
"ดีแล้วล่ะค่ะที่เป็นเรื่องโกหก" โออิคิพูดปลอบใจเด็กสาวล่องหน เพราะเธอนั้นกลัวแทบตายว่าตัวเองจะถูกไล่ออก
"วันนี้พอแค่นี้ กลับไปที่ห้องจะมีเอกสารประกอบการเรียนวางไว้อยู่ ช่วยดูผ่าน ๆ ตาด้วยล่ะ" อาจารย์ไอซาวะเดินหันหลังกลับไป แต่ก่อนจากไปเขาได้นำเอาใบเอกสารเข้าห้องพยาบาลให้กับมิโดริยะคุง
"อ่าใช่ มิทสุฮิดะอย่าเพิ่งไปไหน" เขาชะงักฝีเท้าแล้วหันมาหาเด็กสาว
"มะ มีอะไรรึเปล่าคะ?"
"เธอต้องไปห้องอาจารย์ใหญ่ เรามีเรื่องต้องคุยกัน"
ร่างสูงโปร่งพูดทิ้งระเบิดเอาไว้ให้เด็กสาว ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองโออิคิ ที่ตอนนี้ตัวแข็งเป็นหินไปเรียบร้อยแล้ว
"มิทสุฮิดะจังก่อนหน้านี้ไปทำอะไรมารึเปล่า" ยาโอโยโรซุ โมโมะเอ่ยถามเพื่อนร่วมห้องด้วยความสงสัย
"ไม่นะคะ...." เด็กสาวส่ายหน้าปฏิเสธ
"หรือว่ารู้จักกับอาจารย์ใหญ่" คามินาริ เดนกิ เด็กหนุ่มผู้มีอัตลักษณ์ไฟฟ้าถามต่อ
"ไม่เคยเจอกันเลยค่ะ แล้วฉันเองก็ไม่รู้จักด้วย" เธอพยายามนึกถึงผู้คนที่ตัวเองรู้จัก แต่ก็ไม่มีใครที่เธอรู้จักเป็นเจ้าของโรงเรียนเลยสักคน
"อืม.... อาจจะเป็นการขอคุยเรื่องส่วนตัวรึเปล่า" อีดะ เทนยะลูบคางตัวเองพร้อมนึกถึงความเป็นไปได้
"อาจจะเป็นที่อีดะคุงว่าก็ได้ ผ่อนคลายเข้าไว้โออิคิจัง อาจจะไม่น่ากลัวอย่างที่คิดก็ได้" อุรารากะ โอชาโกะตบบ่าเธอเบา ๆ เพื่อให้กำลังเพื่อนร่วมชั้น
"ขอบคุณค่ะ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง ขอตัวก่อนนะคะ" เจ้าของเรือนผมสีดำยาวก้มหัวขอบคุณและขอโทษ ก่อนจะวิ่งจากตรงนั้นไปเพื่อไปยังห้องอาจารย์ใหญ่
เมื่อเด็กสาวผู้มีอัตลักษณ์ที่น่าทึ่งหายลับไป ทุกคนเองก็อดพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไม่ได้
"หวังว่าเธอคงไม่โดนไล่ออกหรอกนะ อัตลักษณ์ของเธอแข็งแกร่งจะตาย" เด็กหนุ่มผมแดงคิริชิมะพูดเปิดขึ้นมา
"ใช่ ๆ โออิคิจังน่ะเท่มาก! เธอไม่ถูกไล่ออกหรอก!" โทรุพยักหน้า(ที่ไม่มีใครเห็น)เห็นด้วยทันที
"แล้วโทรุจังรู้จักกับโออิคิจังได้ยังไงหรอ?" อุรารากะถามโทรุที่ดูจะชอบคนที่กำลังเป็นหัวข้อสนทนามาก ๆ
"ใช่ ๆ ฉันเองก็อยากรู้!" อาชิโดะยกมือขึ้นเธอมีท่าทางตื่นเต้นเหมือนเด็กที่กำลังจะได้ฟังนิทาน
ทุกคนในบริเวณนั้นที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาแม้จะทำเป็นไม่สนใจแต่ก็เงียบหูฟังอย่างตั้งใจไม่รู้ตัว
"ก็ฉันได้สนามสอบเดียวกับโออิคิจัง แล้วพอดีฉันโดนพวกเศษอาคารจากวิลเลิน0point กระแทกใส่จนเกิดเสียหลักล้มลง ฉันที่กำลังโดนเจ้านั่นเล่นงาน จู่ ๆ ก็มีคนมาช่วยฉันออกมาจากตรงนั้น นั่นก็คือโออิคิจังนั่นเอง!! ทั้งที่เราทั้งคู่สูงไล่เลี่ยกัน แต่โออิคิจังอุ้มฉันได้สบาย ๆ !!! แถมเธอยังช่วยฉันเก็บแต้มด้วย ตอนนั้นโออิคิจังเท่มาก ๆ เหมือนฮีโร่เลยล่ะ!" โทรุเล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ฟัง เธอเล่าไปพร้อมออกท่าทางไปด้วย
"แล้วตอนที่เราเป็นเพื่อนกันโออิคิจังดูดีใจมาก ๆ เลยด้วย เธอยิ้มให้ฉัน ฮางาคุเระ โทรุคนนี้สาบานเลยว่าไม่เคยเจอใครยิ้มน่ารักแบบนี้มาก่อนเลย!!" เด็กสาวล่องหนยกนิ้ว(ที่ไม่มีใครเห็น)สาบาน และกำลังล่องลอยไปกับความทรงจำในอดีตที่เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีดำยิ้มให้เธอ
"เธอฟังแล้วเหมือนฮีโร่จริง ๆ เลยแฮะ แล้วก็เรื่องรอยยิ้มนั่นไม่เถียง" เข้าของอัตลักษณ์สายฟ้าพยักหน้าเห็นด้วย
"ใช่ ๆ " คนที่ฟังที่เหลือเองก็เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ที่เด็กสาวเรือนผมสีดำยาวนั้นเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ออกมา มันทำให้พวกเขาลืมความกดดันไปชั่วขณะ ราวกับว่าโลกนี้มันช่างสดใสไร้มลทินเสียเหลือเกิน จากเด็กสาวที่ดูมืดมนกลับกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ไปในทันที
"ชิ" บาคุโก คัตสึกิส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าอาคารไป
ทุกคนเองก็เดินกลับเข้าอาคารเพื่อเปลี่ยนเสื้อ ระหว่างทางก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน และสิ่งที่ติดอยู่ในใจของนักเรียนห้อง1-Aคือ ดวงตาภายใต้เส้นผมของมิทสุฮิดะ โออิคิ
-TALK-
สวัสดีค่ะทุกคนนนนน หายไปหลายวันเลย ตอนนี้ไรต์แต่งหลายวันมากเพราะคิดคำมาใช้ไม่ค่อยออก และตอนแรกจะมีเนื้อเรื่องต่อยาวกว่านี้ แต่มันจะยาวเกินไปเลยตัดไปลงตอนหน้าแทน
ตอนนี้รู้สึกเหมือนกับว่าจะมีเรือลำน้อย ๆ ออกจากท่าเรือมาแล่นอยู่ในน่านน้ำเดียวกับชินโซคุงแล้วนะคะเนี่ย
เรือไหนจะสามารถตีคู่กับชินโซคุงได้ต้องติดตามตอนต่อๆไปนะคะะะะะ <3
อย่าลืมกดหัวใจและคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
รักทุกคนนนนนนนนนนน~<3
ความคิดเห็น