ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『 Boku no hero academia 』 A Dream|ตื่นจากฝันร้าย [OC]

    ลำดับตอนที่ #5 : การเรียนฉบับUA

    • อัปเดตล่าสุด 6 มิ.ย. 63


    I can be the one to show you -Soft Eddie -punk Richie •Eddie Ka… #fanfiction #Fanfiction #amreading #books #wattpad

     

     

     

         "ขอโทษที่ทำให้รอนะฮิโตชิคุง"

     

         "ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ"

     

         "อื้อ"

          

     

         วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนมัธยมปลายUA บรรยากาศสดชื่นของฤดูใบไม้ผลินั้นยิ่งทำให้นักเรียนทุกคนที่กำลังจะเดินทางไปโรงเรียนตื่นเต้นและกระตือรือร้นเป็นพิเศษ

     

         ชินโซ ฮิโตชิและมิทสุฮิดะ โออิคิได้เดินทางไปโรงเรียนด้วยกันเหมือนอย่างปกติ แต่ละหว่างทางนั้นต่างคนต่างเงียบไม่มีใครเอ่ยปากคุยอะไรสักคำ




         เพราะอะไรน่ะเหรอ?


     






     

         ไม่ค่อยมั่นใจเลย..... ฮิโตชิคุงเงียบมาตลอดทางตั้งแต่เราเดินออกมาจากบ้าน นี่เราใส่ชุดนี้แล้วดูแย่ขนาดนั้นเลยหรอ!? แต่ฮิโตชิคุงใส่ชุดนี้แล้วดูดีจังเลย เอ๊ะ!? นะ..นี่เราคิดอะไรอยู่เนี่ย!

     

         เด็กสาวมีคำถามมากมายอยู่ในหัวตนตีกันมั่วไปหมด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างลืมตัว ใบหน้าที่เอาแต่ก้มมองพื้นถนนขึ้นสีจาง ๆ เมื่อเผลอคิดอะไรแปลก ๆ ออกไป

     




         ยัยนี่.... ใส่ชุดนี้แล้วดูดีกว่าที่คิด ถึงจะแอบหงุดหงิดที่กระโปรงมันสั้นจนเห็นขาอ่อนของเธอก็เถอะ แต่ก็ยังดีที่เธอใส่ถุงน่องสีดำยาว แต่ดูเหมือนว่ามันจะช่วยส่งเสริมให้น่ามองมากว่าเดิมอีก

     

         แอบเสียดายนิด ๆ แหะ

     

         เด็กหนุ่มคิดในใจ สายตาเสมองไปทางอื่นพยายามไม่ไปมองเด็กสาวมากนักเพราะเขายังไม่อยากสติหลุดเพราะแอบมองคนข้าง ๆ หรอกนะ

     



         แต่ที่ว่าน่าเสียดายเนี่ย

     




         มันหมายความว่ายังไงนะ?

     

     

     



         

         "แล้วเจอกันตอนพัก เดี๋ยวฉันจะส่งข้อความไปหา"


         "อืม แล้วเจอกันนะคะ" 


         ภายในอาคารของโรงเรียนUAนั้นมีนักเรียนเดินกันอยู่ยังไม่เยอะมากนัก เพราะทั้งสองคนมาถึงค่อนข้างเร็วนักเรียนจึงยังไม่หนาแน่นมากนัก 


         ฮิโตชิเดินมาส่งเด็กสาวถึงหน้าห้อง ทั้งสองคนคุยกันสอง-สามประโยคก่อนบอกลากัน 


         




         โออิคิสูดหายใจลึก กลั้นใจเปิดประตูด้วยความตื่นเต้น



         ครืด......



         ภายในห้องสี่เหลี่ยมนั้นมีนักเรียนที่มาก่อนเธอแล้วเกือบสิบคน ทุกคนมีสีหน้าตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด โออิคิเลยคาดเดาได้ว่าพวกเขาน่าจะตื่นเต้นมากแน่ ๆ ถึงมาโรงเรียนเช้ามาก 


         ทุกคนในห้องที่ได้ยินเสียงเปิดประตู พวกเขาหยุดการกระทำทุกอย่างหันมามองเด็กสาวเป็นตาเดียว จนคนถูกมองเริ่มทำตัวไม่ถูก



         คุยกันต่อสิคะ! ไม่ต้องสนใจเรา!!!



         "เอ่อ.. อรุณสวัสดิ์ค่ะ" เด็กสาวเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนรีบเดินไปนั่งที่ตัวเอง 


         ที่นั่งของเธอนั้นอยู่ด้านในสุดและท้ายสุดของแถว และยังเป็นโต๊ะที่นั่งคนเดียวด้วย เพราะเธอนั้นเป็นเศษของห้องเนื่องจากปีนี้รับเด็กทั้งหมด37คน ทำให้มีเศษอย่างช่วยไม่ได้


         เพื่อไม่ทำให้ตัวเองรู้สึกกดดันและสติแตก เด็กสาวจึงหยิบหนังสือนิยายที่อ่านค้างไว้มาอ่านเพื่อผ่อนคลายอารมณ์


         "อรุณสวัสดิ์ ฉันอีดะ เท็นยะ" เสียงหนักแน่นที่คุ้นเคยเอ่ยทักดังขึ้นมา เมื่อมองไปยังต้นเสียงก็พบร่างสูงของเด็กหนุ่มสวมแว่นคนหนึ่งมาอยู่ข้างโต๊ะเธอ มือข้างหนึ่งเขายื่นออกมาเพื่อจับทักทาย



         คนนี้.... คนเดียวกับตอนเข้าสอบนี่นา



         "อะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ มิทสุฮิดะ โออิคิค่ะ" เธอโค้งหัวเล็กน้อย มือเล็กยื่นออกไปจับมือหนาของเขา แก้มกลมขึ้นสีเล็กน้อยด้วยความไม่เคยชิน


         เขาชะงักไปเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันทำอะไรต่อก็มีเพื่อนร่วมห้องคนใหม่เปิดประตูเข้ามา


         อีดะเดินเข้าไปทักทาย ราวกับเขาเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้อย่างนั้นเลย



         


         ผ่านไปสักพักใหญ่คนอื่นเริ่มเข้ามาที่ห้องเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ฮางาคุเระ โทรุได้เข้ามาทักทายโออิคิและพูดเรื่องต่าง ๆ ด้วยความตื่นเต้น เธอนั้นตั้งคำถามเกี่ยวกับอาจารย์ไว้ต่าง ๆ นานาว่านิสัยจะเป็นยังไง หน้าตาแบบไหน อัตลักษณ์อะไร บทสนทนานี้ทำให้มีเพื่อนคนอื่น ๆ ให้ความสนใจและมาร่วมวงสนทนาด้วย โออิคิจึงได้รู้จักกับคนในห้องมาขึ้นแม้จะยังไม่ครบก็เถอะ


         เวลาผ่านไปจนใกล้ถึงเวลาใกล้เข้าคาบ ทุกคนกลับมานั่งที่ตัวเองอย่างเรียบร้อยเพื่อรออาจารย์ประจำชั้น แต่ก็ไม่วายมีเรื่องเอะอะก่อนถึงเวลาเรียนแค่ไม่กี่นาที


         เรื่องมันเกิดจากมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมีเส้นผมสีฟางชี้ขึ้น ท่าทางเหมือนนักเลงการแต่งตัวไม่เรียบร้อย เขาเดินเข้ามานั่งที่ก่อนจะยกเท้าขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ และนั่นทำให้อีดะ เท็นยะไม่พอใจเป็นอย่างมาก


         "นี่นายน่ะ! เอาเท้าลงเดี๋ยวนี้นะ! นายไม่รู้สึกผิดต่อรุ่นพี่หรือผู้สร้างโต๊ะนี้เลยรึไง!?" 


         "ไม่รู้สึกเฟ้ยของแบบนั้น! แล้วแกมาจากไหน ไอ้ตัวประกอบ" เขาทำหน้าตายียวนตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวนประสาท


         "ผะ- ฉันมาจากโรงเรียนมัธยมต้นโซเมย์ ชื่ออีดะ เท็นยะ" อีดะแนะนำตัวพร้อมยื่นมือเพื่อเป็นการทักทาย


         "หา!? โรงเรียนคุณหนูนี่หว่า ค่อยเหมาะกับการฆ่าทิ้งหน่อย" 


         "ฆ่าทิ้ง!? โหดร้ายจริง นี่นายอยากเป็นฮีโร่แน่หรอ" คำตอบของเขาทำให้เด็กหนุ่มสวมแว่นตาผงะถอยหลังทันที


         "ชิ! หือ?" เขาเดาะลิ้นก่อนสายตาจะไปสะดุดกับเด็กหนุ่มหัวเขียวที่ยืนอยู่ตรงประตูห้อง


         ทุกคนมองตามสายตาของคนผมสีฟางทำให้คนตรงประตูตกเป็นเป้าสายตาอย่างง่ายดาย


         "อะ เอ่อ..." เขามีท่าทีลนลาน เขินอายที่ตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งห้อง



         รู้สึกว่าคนที่เราเคยเห็นหน้าจะมาอยู่ห้องนี้หมดเลย จะเรียกว่าโชคดีไหมนะ

       


         ไม่นานหลังจากอีดะเดินเข้าไปทักทายมิโดริยะ(รู้จากการแนะนำตัวเมื่อกี้) ได้มีเด็กสาวเรือนผมสีน้ำตาลสั้นเข้ามาทักอีกคน เธอดูดีใจมากที่มิโดริยะได้เข้ามาเรียนที่เดียวกันและห้องเดียวกัน


         โออิคิมองเหตุการณ์หน้าประตู ในใจก็คิดว่าเพื่อนห้องนี้นี่คึกคักกันดีจังเลยนะ แต่ทำไมอาจารย์ยังไม่มาอีกล่ะเนี่ย


    .


    .


    .


    .


    .


    .


         "ถ้าจะมาเล่นล่ะก็ ช่วยไปที่อื่นเลยไป" เสียงเนือย ๆ เอื่อย ๆ ดังมาจากทางหน้าประตู 

         

         "เฮือก!" ทั้งสามที่ยืนอยู่บริเวณนั้นมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด



         อ่า.... เรียกว่าเหวอไปเลยน่าจะดีกว่า



         "ที่นี่คือสาขาฮีโร่นะ ซู้ด" 


         

         พรึ่บ 

         

         หวื๊ด.......



         เจ้าของเสียงเนื่อยใกล้หลับเต็มทีได้ปรากฏตัวขึ้น เขาออกมาจากถุงนอนสีเหลือง ชายร่างสูงโปร่งสวมชุดสีดำทั้งตัวมีผ้าพันคอยาวคลุมตั้งแต่คางถึงไหล่ ผมยาวสีดำดูกระเซอะกระเซิงไม่เรียบร้อย ใบหน้าซีดมีหนวดเคราเหมือนคนไม่ค่อยดูแลตัวเอง 


         "กว่าจะเงียบได้ใช้เวลาตั้ง8วิ เวลาน่ะมีจำกัด พวกเด็กนี่ไม่มีตรรกะเอาซะเลย"



         เขาเป็นอาจารย์เหรอ? แต่เหมือนเคยเห็นที่ไหนเลยแหะ.....



         โออิคิคิดกับตัวเองก่อนจะฟังชายคนนั้นพูดต่อ


         "ฉันคืออาจารย์ประจำชั้น ชื่อไอซาวะ โชตะ ยินดีที่ได้รู้จัก"


         "หือ!?" 


         "อาจารย์ประจำชั้น!?"


         นักเรียนในห้องถึงกับอุทานออกมาเพราะพวกเขาไม่คิดว่าจะมีอาจารย์ที่ไหนดูโทรมขนาดนี้มาก่อน


         "อาจจะเร็วไปหน่อย แต่ใส่นี่แล้วลงไปที่สนามซะ" เขาหยิบชุดออกมาจากถุงนอน ซึ่งมันเป็นชุดพละของโรงเรียนนนี้ 


         แม้จะไม่เข้าใจแต่พวกนักเรียนในห้องก็ยอมทำตามแต่โดยดี ห้อง1-Aได้ลงสนามตั้งแต่วันแรก คาบแรกของการเรียน



         สมกับเป็นUA




         







         "ทดสอบดูอัตลักษณ์!?" ทุกคนทวนคำพูดของอาจารย์อีกครั้ง


         "แล้วพิธีปฐมนิเทศกับการชี้แจงล่ะคะ?" เด็กสาวผมสั้นสีน้ำตาลพูดแย้งขึ้นมา


         "ถ้าอยากเป็นฮีโร่ล่ะก็ ไม่มีเวลาไปทำกิจกรรมพรรค์นั้นหรอก" เขาเดินออกห่างจากกลุ่มนักเรียน2-3ก้าวก่อนหันหน้ากลับมา


         "ที่นี่มีอิสระเป็นจุดขาย อาจารย์เองก็เช่นกัน....... พวกเธอคงทำแบบนี้มาตั้งแต่สมัยม.ต้นแล้วใช่ไหม" เขาหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง หน้าจอขึ้นลิสท์รายการทดสอบต่าง ๆ 


         "การทดสอบสมรรถภาพร่างกายโดยห้ามใช้อัตลักษณ์ จนป่านนี้ประเทศเรายังคงไม่ให้ใช้อัตลักษณ์ในการเก็บผลลัพท์แบบเดิม ๆ อยู่ ซึ่งมันเป็นความไม่ใส่ใจของรัฐบาลญี่ปุ่น..." เขาร่ายยืดยาวด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ ของเขา 


         "นายบาคุโกที่สอบได้ที่หนึ่งภาคปฏิบัติสินะ ตอนม.ต้นขว้างซอฟต์บอลได้กี่เมตร" อาจารย์ไอซาวะหันไปถามเด็กหนุ่มผมสีฟาง ทุกคนเองก็เช่นกัน เพราะเขาได้ที่หนึ่งในการสอบภาคปฏิบัติเลยนะ


         "67เมตร"


         "ดี งั้นลองขว้างใหม่โดยใช้อัตลักษณ์ของเธอด้วย" 



         บาคุโกเดินไปในวงกลมที่มีเส้นแบ่งระยะทางทอดไกลจนมองหาปลายไม่เจอ


         "จะทำอะไรก็ตามใจ แต่อย่าออกนอกวงพอ"


         สิ้นประโยค บาคุโกเริ่มวอร์มแขนเพื่อให้พร้อม ไม่นานเขาได้ขว้างลูกบอลพร้อมกับการใช้อัตลักษณ์ระเบิดของเขา



         "ตายซะ!!!!!!!!" 



         ตู้ม!!!!!!



         ตาย?



         "ก่อนอื่นต้องรู้ขีดจำกัดของตัวเอง" ไอซาวะพูดออกมาก่อนมองหน้าจอวัดระยะ



         ปิ๊บ


         

         "นี่แหละคือวิธีการที่ดีในการสร้างพื้นฐานฮีโร่" เขาชูหน้าจอให้พวกนักเรียนดู ทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างมาก



         "705.2!!!!"


         "ดูท่าทางน่าสนุกจัง!"


         "ใช้อัตลักษณ์ได้เต็มที่เลยหรอ สมแล้วที่เป็นสาขาฮีโร่" 


         

         เด็กนักเรียนในห้องดูตื่นเต้นกันใหญ่



         "น่าสนุกงั้นหรอ?" แต่แล้วเสียงของอาจารย์ก็ขัดขึ้นมา


         "เอ๊ะ?"


         "ในช่วงเวลาสามปีเพื่อการเป็นฮีโร่ คิดว่าจะผ่านไปด้วยความคิดแบบนั้นจริง ๆ หรอ?" เขาพูดออกมาให้ทิ่มใจเล่น ผู้ชายคนนี้พูดตรงได้เจ็บดีชะมัด เขายิ้มเหี้ยมก่อนเอ่ยประโยคน่าตกใจออกมา


         "หึ ถ้าใครได้คะแนนต่ำสุดในการทดสอบ ฉันจะถือว่าไร้ความสามารถและไล่ออกทันที"



         "หา!?" 


         ทุกคนกรีดร้องสุดเสียง นี่พวกเขามีสิทธิ์โดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกเลยเหรอ!!!!!!!


         "อิสระของฉันคือ มีสิทธิ์จัดการนักเรียนยังไงก็ได้..... ยินดีต้อนรับสู่สาขาฮีโร่โรงเรียนม.ปลายUA" มือขาวซีดยกขึ้นเสยผมตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มมารของเขา 



         สมกับเป็นUA.......จริง ๆ


    .


    .


    .


         "เดี๋ยวสิคะ ที่บอกว่าได้คะแนนน้อยที่สุดจะไล่ออกนี่เรื่องจริงหรอคะ!? วันนี้เพิ่งเป็นวันแรกของการเปิดเรียนนะคะ!" เด็กสาวผมสีน้ำตาลคนเดิมเอ่ยแย้งขึ้นอีกครั้ง 


         "ภัยพิบัติ อุบัติเหตุใหญ่ วิลเลินที่บ้าคลั่ง ญี่ปุ่นตอนนี้มันเต็มไปด้วยความไม่ยุติธรรม ถ้าคิดว่าหลังเลิกเรียนแล้วจะไปสุขสันกับเพื่อนที่คาเฟ่ล่ะก็ เสียใจด้วย เพราะหลังจากนี้อีก3ปี UAจะทำทุกอย่างทำให้พวกเธอพบเจอความยากลำบากอีกมาก" คำพูดของเขาเหมือนเป็นบทเรียนแรกของการเรียนสาขาฮีโร่ เกี่ยวกับอนาคตที่พวกเรานั้นจะต้องเจอ รอยยิ้มนั้นยังคงประดับอยู่บนใบหน้า เขายกมือขึ้นมาก่อนกวักนิ้วชี้เพื่อเป็นการท้าทาย


         "PLUS ULTRA จงผ่านบททดสอบนี้แล้วไปอยู่จุดสูงสุดซะ"


         ทุกคนคิดกับตัวเอง การที่มาเรียนที่UA โรงเรียนปั่นฮีโร่ลำดับต้น ๆ ของประเทศนั้นย่อมมีอุปสรรคมากมายอยู่แล้ว มันถือเป็นแบบทดสอบว่าพวกเขาจะสามารถผ่านมันไปได้หรือไม่


         "โออิคิจัง เรามาพยายามด้วยกันเถอะ!" โทรุที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยื่นมือมาวางบนไหล่เล็ก 


         "ค่ะ โทรุจังเองก็พยายามเข้านะคะ" เธอหันไปยิ้มบาง ๆ ให้กับเพื่อนล่องหนของเธอ


         "ก่อนหน้าถือว่าเป็นการสาธิต หลังจากนี้เป็นของจริง"


    .


    .


    .


    .


    .


    .


         การทดสอบที่1 : วิ่ง50เมตร



         การทดสอบนี้จะทำกันเป็นคู่เรียงตามเลขที่ โออิคิเป็นเศษทำให้เธอต้องวิ่งคนเดียว เด็กสาวแอบเศร้าใจนิด ๆ 


         ร่างเล็กดูเพื่อนในห้องวิ่งไปจนเกือบหมดแล้ว คนที่เร็วที่สุดตอนนี้เป็นอีดะคุง3.04วินาที เขามีอัตลักษณ์เอนจิ้น หลังขาเขานั้นจะมีท่อไอเสียอยู่ทำให้เขานั้นวิ่งเร็วสุด ๆ   


         "มิทสุฮิดะ โออิคิ" เสียงของไอซาวะทำให้เด็กสาวหลุดจากภวังค์


         "ค่ะ"


         "สู้ ๆ นะโออิคิจัง!" โทรุตะโกนเชียร์จนทำให้โออิคิรู้สึกเขินขึ้นมา



         "เข้าที่..... ระวัง...."


         

          ปัง!



         โออิคิที่ไม่รู้ว่าจะใช้อัตลักษณ์ช่วยยังไงดี เธอเลยวิ่งด้วยกำลังที่เธอมีอย่างสุดกำลัง



         ปิ๊บ



         "05.02วินาที" 


         ถือว่าเป็นตัวเลขตามปกติที่เธอทำได้ในตอนม.ต้น เธอจึงไม่ตื่นเต้นอะไรมากนักแต่ดูเหมือนว่าจะเร็วขึ้นนิดหน่อย ผิดกับเพื่อนคนอื่น ๆ ที่เข้ามาหาเธอด้วยความชื่นชม


         "มิทสุฮิดะจังสินะ วิ่งเร็วจัง ฉันยังได้แค่6วิเลย" เด็กหนุ่มผมสีแดงตั้งขึ้นดูแหลม ๆ เข้ามาทักเด็กสาวเป็นคนแรก เขาเข้ามาพร้อมรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันคมแหลมตามแบบของเขา เด็กหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าคิริชิมะ เออิจิโร่  


         "วิ่งเร็วสุด ๆ ไปเลย! สุดยอด!" เด็กสาวที่มีร่างกายสีชมพูและเส้นผมสีชมพูเธอดูตื่นเต้นเป็นเด็ก ๆ นั่นทำให้เธอดูเป็นคนร่าเริง สดใสเป็นอย่างมาก และชื่อของเธอคืออาชิโดะ มินะ


         "ขะ ขอบคุณค่ะ ทุกคนเองก็ทำได้ดีมาก ๆ เลยนะคะ" โออิคิเผลอยิ้มไม่รู้ตัว พวงแก้มขึ้นสีจาง ๆ จากการโดนชม ทำให้คนที่เห็นนั้นชะงักไป


         "เอ้า อย่ามัวแต่คุย ต่อไปจะไปที่โรงยิม" อาจารย์ไอซาวะพูดขัดทำลายบรรยากาศสีชมพูที่ก่อตัวขึ้น


         "ไปกันเถอะ!" 


         "เอ๊ะ เดี๋ยวสิคะโทรุจัง" 


         โทรุที่เห็นว่าอาจารย์ให้ไปที่โรงยิมเธอจึงลากแขนเด็กสาวออกจากตรงนั้น โดยปล่อยให้คนที่เหลือยืนนิ่งอย่างนั้น 




         การทดสอบที่2 : วัดแรงบีบมือ



         การทดสอบนี้เป็นการวัดพละกำลังของมือ ซึ่งคนที่ทำได้มากที่สุดคือโชจิ เมโซ ด้วยอัตลักษณ์อวัยวะจำลองของเขาทำให้เขาได้มากถึง540kgw 


         โออิคินั้นไม่ค่อยมีพละกำลังการบีบมือเท่าไหร่นักจึงทำได้เพียง28kgwเท่านั้น ซึ่งเป็นมาตรฐานของผู้หญิงในห้องทั่วไป เผลอ ๆ อาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ




         การทดสอบที่3 : กระโดดไกล



         ส่วนใหญ่กระโดดข้ามกันทั้งนั้น แน่นอนว่าโออิคิก็เช่นกัน เธอใช้อัตลักษณ์เป็นแรงส่งเพื่อให้กระโดดได้ไกลมากยิ่งขึ้น


         โทรุจังเข้ามางอแงเสียใจที่ตัวเองกระโดดได้ไม่ไกลนัก เด็กสาวจึงลูบหลังปลอบอยู่ข้าง ๆ 




         การทดสอบที่4 : กระโดดสลับข้าง



         การทดสอบนี้โออิคิทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะเธอนั้นมีความคล่องแคล่วสูง แต่คนที่ได้คะแนนเยอะที่สุดคงไม่พ้นมิเนตะ มิโนรุ ด้วยอัตลักษณ์ลูกบอลเด้งดึ๋งแต่เหนียวหนึบของเขาทำให้เขานั้นทำคะแนนได้โดยที่ถ้าหากไม่ใช้กล้องตรวจจับล่ะก็ ไม่มีทางนับทันแน่นอน



         

         การทดสอบที่5 : ขว้างบอล



         ทุกคนนั้นตกใจเป็นอย่างมากที่เด็กสาวผมสีน้ำตาลอุรารากะ โอชาโกะทำได้INFINITYหรือไม่มีที่สิ้นสุด


         แต่เมื่อมาถึงตามิโดริยะ อิสุกุ อาจารย์ได้ลบอัตลักษณ์ของเขาออกและนั่นทำให้ทุกคนได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา



         อีเรเซอร์เฮด คือชื่อฮีโร่ของเขา

        




         ที่แท้เขาคือรุ่นน้องที่น้ามินากะพูดถึงบ่อย ๆ นี่เอง ก็ว่าทำไมรู้สึกคุ้นจังเลย

         

         โออิคินึกออกในทันทีที่ได้ยินชื่อฮีโร่ของเขา น้าของเธอนั้นชอบมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคนนี้ให้ฟัง แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องที่น้าไปแกล้งเขาซะมากกว่า


         นักเรียนในห้องต่างซุบซิบกัน ในขณะนั้นดวงตาภายใต้เส้นผมได้เหลือบไปเห็นร่าง ๆ หนึ่งที่ชะโงกหน้า(และตัว)ออกมาจากกำแพงของโรงยิม เส้นผมสีเหลืองสว่างที่ชี้ขึ้นเป็นเอกลักษณ์และใบหน้าที่เก๊กเข้มตลอดเวลาทำให้รู้ได้ทันทีว่าเขาคือใคร 


         

         ออลไมต์นั่นเอง 

         


         เด็กสาวสะดุ้งเล็กน้อย เพราะเขากำลังแอบมองพวกเราอยู่ เมื่อฮีโร่อันดับหนึ่งรู้ตัวว่ามีนักเรียนรู้ถึงตัวตนของเขา ออลไมต์จึงยกนิ้วชี้มาแตะที่ริมฝีปากเป็นสัญญาณบอกให้เธอเงียบ เด็กสาวพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจสถานการณ์ตรงหน้า


         แม้จะมีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อย สรุปแล้วเรื่องก็จบลงด้วยดี มิโดริยะคุงมีอาการบาดเจ็บที่นิ้วชี้เท่านั้น อาจารย์เองก็ดูพอใจไม่น้อย การทดสอบยังคงดำเนินต่อไปจนถึงตาของเด็กสาวเรือนผมยาวสองสีคนนี้


         "มิทสุฮิดะ โออิคิ"


         อาจารย์ไอซาวะเรียกชื่อเธอ เด็กสาวเดินเข้าไปอยู่ในวงกลม ในมือนั้นถือลูกบอลวัดระยะ เธอผ่อนลมหายใจเข้า-ออกช้า ๆ เพื่อนในห้องเองก็ลุ้นเหมือนกันว่าเธอนั้นจะทำได้ไกลขนาดไหน


         จนถึงตอนนี้โออิคิเองก็หนักใจไม่น้อยเพราะถ้าตัวเองไม่ทำคะแนนให้ดี ๆ ล่ะก็ตัวเธอนั้นมีสิทธิ์โดนไล่ออกอย่างที่เขาว่าจริง ๆ แน่ เพราะทุกคนเองก็ทำสุดความสามารถเพื่อให้หลุดพ้นจากลำดับสุดท้าย



         เพื่อจะเป็นฮีโร่ที่ทุกคนยอมรับ....



         จะมายอมแพ้ไม่ได้!!!




         ฟุบ!


         

         "หา!?"



         "โยนขึ้นงั้นหรอ!?"


         

         แทนที่เด็กสาวจะเหวี่ยงแขนขว้างบอลไปด้านหน้าแต่เธอนั้นกลับโยนมันขึ้นด้านบนอย่างเต็มแรงแทน ทุกคนต่างงงงวยและตั้งคำถามกับสิ่งที่เธอทำ 



         ปับ!!!!



         แต่เมื่อลูกบอลกำลังจะตกลงมาได้มีเงามือโผล่มาจากช่องมิติด้านหลังตบลูกจนกระเด็นไปไกล แรงกระทบนั้นทำให้เกิดลมพัดแรงราวกับลมพายุเลยทีเดียว



         ฟิ้ว~



         ปิ๊บ



         780.6


         เมื่อเด็กสาวเห็นตัวเลขเธอนั้นหลุดกรี๊ดในใจ ตัวเธอไม่คิดว่าการใช้พลังอัตลักษณ์เต็มที่จะทำได้ถึงขนาดนี้ โออิคิแท็กมือกับอัตลักษณ์ของตัวเอง แต่ก่อนที่มันจะกลับเข้ามิติ เงามือได้โบกมือให้พวกนักเรียนที่เหลือที่กำลังตกตะลึงอยู่


         "จะ.....780.6เมตร!!!" 

         

         "สุดยอด! อัตลักษณ์อะไรกัน!?"


         "มันโบกมือให้เราด้วย!?"


         "โออิคิจังสุดยอด!"


         

         เพื่อนในห้องต่างตกตะลึกกับตัวเลขที่ปรากฏ คนที่สนใจในตัวเธอต่างกรูเข้ามาพูดคุยกับเธอเรื่องอัตลักษณ์กันยกใหญ่


         คำถามมากมายจนนับไม่ไหวนั้น ทำให้เด็กสาวเลือกที่ตอบไม่ถูกและเกิดอาการตาลายขึ้นมาด้วยความไม่เคยชินกับการพูดคุยกับผู้คนเยอะ ๆ 


         "ดะ เดี๋ยวสิคะ" โออิคิถึงกับเหงื่อตก


         และสุดท้ายอาจารย์ไอซาวะต้องออกมาสงบสถานการณ์จนได้




         การทดสอบที่6 : ลุกนั่ง(SIT-UP)



         หลังจากความวุ่นวายก่อนหน้านี้ยังทำให้โออิคิมีอาการมึนหัวอยู่นิดหน่อย เธอจึงได้คะแนนไม่เยอะนัก โทรุจังที่เป็นคนกดเท้าให้จึงบอกให้พอ เพราะโทรุจังไม่อยากเห็นเพื่อนของเธอนั้นเป็นลมไปก่อนจะจบคาบเรียนหรอกนะ




         การทดสอบที่7 : วัดความอ่อนตัว



         การทดสอบนี้ถือว่าง่ายมากสำหรับโออิคิ เธอนั้นมีตัวที่อ่อนมากจึงทำได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัย 


         แต่ดูเหมือนว่ามิโดริยะคุงแสดงอาการเหนื่อยล้าออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เด็กสาวที่เห็นสีหน้าของเขาเริ่มซีดลงจึงทำให้ความรู้สึกเป็นห่วงมันตีขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่


         เด็กสาวจึงรวบรวมความกล้าอยู่สักพัก ก่อนเดินเข้าไปถามเจ้าตัวระหว่างเดินไปที่สนามวิ่ง



         "เอ่อ... ขอโทษนะคะ มิโดริยะคุง...." 


         "ครับ!?" มิโดริยะสะดุ้งโหยงเมื่อมีผู้หญิงมาทัก ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนแมวเจอแตงกวาล่ะนะ เขาหันกลับไปทางต้นเสียงทั้งที่ใบหน้ายังแดงอยู่ "มะ มีอะไรรึเปล่าครับ"


         "คือ ฉันเห็นว่าหน้าคุณซีดมาก ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ แล้วนิ้ว...." ร่างเล็กเดินเข้าใกล้เด็กหนุ่มผมเขียวอย่างลืมตัว สายตานั้นมองไปยังนิ้วชี้ที่ม่วงช้ำน่ากลัว


         "ไม่ ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ! คะ แค่นี้สบายมาก!" เมื่อเห็นว่าระยะห่างของเขากับเด็กสาวเริ่มน้อย ใบหน้าแต้มกระเริ่มขึ้นสีแดงจัด มิโดริยะรีบถอยห่างแล้วตอบเด็กสาวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ก่อนที่จะหายไปรวมตัวกับอีดะคุงและอุรารากะจัง ปล่อยทิ้งเด็กสาวเอาไว้อย่างนั้น



         แปลกคนจัง ว่าแต่มันไม่เป็นอะไรจริง ๆ น่ะเหรอ? 



         โออิคิคิดในใจ แม้จะยังเป็นห่วงอยู่แต่ถ้าเจ้าตัวว่าอย่างนั้นเธอก็จะไม่ไปเซ้าซี้ถามอีก




         การทดสอบที่8 : วิ่งระยะไกล



         "มาแข่งกันยัยผีโอคิคุ!!!!"


         

         คะ? 


         

         คำถามนี้เด้งขึ้นมาบนหัวเมื่อโดนคำท้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวอยู่ที่สนามจู่ ๆ บาคุโก คัตสึกิเด็กหนุ่มที่มีนิสัยรุนแรงเหมือนกับอัตลักษณ์ของเขาได้เอ่ยปากท้าเด็กสาวแข่ง เสียงที่ดังอยู่แล้ว พูดปกติก็เหมือนตะโกนของเขานั้นทำให้เพื่อน ๆ ในห้องได้ยินกันหมดทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย


         "คะ คัตจังท้ามิทสึฮิดะซัง!?"


         "โออิคิจังโดนบาคุโกคุงท้าแข่งหรอ?"


         "มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า" 


         "เอ๊ะ? อะไรนะคะ?" ดวงตาภายใต้เส้นผมมองเด็กหนุ่มผมสีฟางอย่างไม่เข้าใจ เกิดคำถามร้อยแปดล้านคำมากมายจนนับไม่ไหวในใจเด็กสาว



         ทำไมจู่ ๆ เขาถึงมาท้าแข่งล่ะ!? แล้วที่เรียกผีโอคิคุนี่มันอะไรกันคะ!?

         

         

         "เตรียมตัว..... ระวัง....."


         ความสงสัยและคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบนั้นถูกเก็บเอาไว้ เสียงของหุ่นยนต์จับเวลาดังขึ้น ทำให้เธอนั้นต้องเตรียมตัววิ่งโดยที่ยังไม่เข้าใจเด็กหนุ่มข้าง ๆ เลยสักนิด



         ปัง!



         สัญญาณการวิ่งได้เริ่มขึ้น นักเรียนทุกคนต่างใช้อัตลักษณ์ของตัวเองในการทำเวลา เด็กสาวได้วิ่งตามแบบปกติของเธอเพราะอัตลักษณ์ไม่ค่อยช่วยอะไรได้เท่าไหร่นัก 


         แต่คนที่จะผิดแปลกจากปกติก็คือคนที่ท้าเธอแข่งนี่แหละ......


         บาคุโกไม่ยอมใช้อัตลักษณ์ตัวเองเหมือนกับตอนวิ่ง50เมตร หลังรู้ว่าเด็กสาวร่างเล็กเองก็ไม่ได้ใช้อัตลักษณ์ช่วยในการวิ่ง เขาอยากวิ่งแข่งกับเธอจริง ๆ ทั้งคู่วิ่งตีคู่กันมาตลอดระยะทางไม่มีใครแรงตกหรือแซงอีกคนหนึ่งเลย



         เหลืออีก100เมตร


         .


         .


         50เมตร


         .


         .


         10เมตร


         .


         .


         3เมตร


         .


         .


         2เมตร


         .


         .


         1เมตร


         .


         .


         

         ปิ๊บ     ปิ๊บ


         "มิทสึฮิดะ โออิคิ 4นาที34วินาที"


         "บาคุโก คัตสึกิ 4นาที35วินาที"

         

         เสียงเครื่องตัวจับเวลาทำให้ทั้งสองคนนั้นลืมเหนื่อยไปในทันที โออิคิลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างลำบาก เมื่อรับรู้ถึงรังสีแปลก ๆ ของเด็กหนุ่มผมสีฟางที่ยืนทำหน้าตาน่ากลัวอยู่ข้าง ๆ


         "อะแฮ่ม" อาจารย์ไอซาวะกระแอ่มเสียงในลำคอเพื่อเตือนสติของเด็กหนุ่มไม่ให้ทำอะไรวู้วามเหมือนกับตอนของมิโดริยะ 


         "ชิ" ดวงตาสีแดงสดเหลือบมองอาจารย์ที่จ้องเขาเขม็ง ก่อนจะเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์



         ตู้ม!


         

         เขาจุดระเบิดที่มือตัวเองจนเด็กสาวสะดุ้งโหยงถอยห่างจากเขา ดวงตาสีแดงสดมองมายังคนตัวเล็กก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดังลั่น


         "ครั้งหน้าฉันจะชนะเธอยัยผีโอคิคุ!!!" เด็กหนุ่มเดินกระฟัดกระเฟียดจากไปทิ้งไว้เพียงเด็กสาวให้ยืนตัวซีดเอาไว้อย่างนั้น


         "ค่ะ......" เธอตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบา เพราะกลัวว่าจะยิ่งทำให้เขาอารมณ์ระเบิดไปมากกว่านี้ น้ำตาของเธอนั้นแทบจะไหลรินออกมาขอบตา 



         บาคุโกคุง.... น่ากลัว......... (┬┬﹏┬┬)



         สุดท้ายเธอนั้นก็ไม่ได้คำตอบจากเขา แถมถ้าไปถามคงได้โดนระเบิดใส่แน่






         และเมื่อรู้ตัวอีกทีเธอก็ได้ชื่อเรียกจากเขาว่าผีโอคิคุไปเรียบร้อยแล้ว

         


    .



    .



    .



    .



    .



         การทดสอบทั้งหมดจบลงครบทั้ง8อย่าง ทุกคนมายืนรวมตัวอยู่บริเวณหน้าโรงยิมอีกครั้ง 


         "งั้นจะประกาศผลล่ะนะ"อาจารย์ไอซาวะพูดขึ้น นั่นทำให้ใจทุกคนยิ่งสั่นรัว


         "ผลรวมคือการเอาคะแนนประเมินของแต่ละรายการมารวมกัน ....ถ้าจะให้พูดแจกแจงชาตินี้ก็ไม่เสร็จเพราะงั้นก็จะประกาศทีเดียว" เขาหยิบมือถือเครื่องเดิม กดปุ่มทำให้เกิดภาพโฮโลแกรมที่เรียงลำดับเอาไว้เรียบร้อยแล้ว



         ปิ๊บ



          เด็กสาวกวาดสายตามองไล่ลำดับ จนไปสะดุดกับชื่อของตัวเองที่อยู่ในลำดับที่3 และเมื่อกดสายตาลงมาก็เป็นชื่อของเด็กหนุ่มอัตลักษณ์ระเบิดคนนั้น


         

         อึก



         จู่ ๆ โออิคิก็เกิดอาการเสียวสันหลังวาบ เธอนั้นรู้ดีว่าเกิดจากอะไรและเธอจะไม่มองไปทางต้นเหตุแน่ ๆ



         ด้านของมิโอริยะ อิสุกุนั้นเขารู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมากเพราะตัวเขาเองทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่โดยเฉพาะการทดสอบวิ่งระยะไกล ถึงจะมีคะแนนขว้างบอลช่วยแต่คะแนนของการทดสอบอื่นฉุดลงจนแทบจะช่วยอะไรไม่ได้เลย


         "อ้อ ลืมบอกไปว่าเรื่องไล่ออกน่ะ......โกหก"



         "..........เอ๊ะ?"



         ปิ๊บ


         

         "มันเป็นวิธีที่จะทำให้พวกเธอดึงพลังออกมาได้มากที่สุดยังไงล่ะ" จบประโยค อาจารย์ไอซาวะแสยะยิ้มกว้างเมื่อเห็นสีหน้าของนักเรียนที่กำลังเหวอสุดขีด



         "หา!!!!!!!!!!!!!"

         


         คนที่กรีดร้องดังที่สุดก็น่าจะเป็นมิโดริยะเพราะเขานั้นได้อันดับสุดท้ายของการทดสอบ ตัวของเขาซีดจนลายเส้นเปลี่ยนไปเลย 


         "พวกนายนี่นะ ถ้าคิดตามหน่อยก็น่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องโกหก" เด็กสาวเรือนผมสีดำมัดทรงสูงนั้นพูดออกมา นั่นทำให้พวกเขาเริ่มเอะใจ



         ลืมคิดไปเลยแฮะ.....




         โออิคิถอนหายใจเบา ๆ เธอรู้สึกโล่งใจที่ไม่มีใครโดนไล่ออกในวันแรกของการเรียน 


         "เฮ้อ นึกว่าจะต้องโดนไล่ออกซะแล้ว" โทรุถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม้เธอจะไม่ได้อันดับสุดท้าย แต่เธอนั้นก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจเพราะเธอนั้นได้อันดับล่าง ๆ นี่สิ


         "ดีแล้วล่ะค่ะที่เป็นเรื่องโกหก" โออิคิพูดปลอบใจเด็กสาวล่องหน เพราะเธอนั้นกลัวแทบตายว่าตัวเองจะถูกไล่ออก


         "วันนี้พอแค่นี้ กลับไปที่ห้องจะมีเอกสารประกอบการเรียนวางไว้อยู่ ช่วยดูผ่าน ๆ ตาด้วยล่ะ" อาจารย์ไอซาวะเดินหันหลังกลับไป แต่ก่อนจากไปเขาได้นำเอาใบเอกสารเข้าห้องพยาบาลให้กับมิโดริยะคุง


         "อ่าใช่ มิทสุฮิดะอย่าเพิ่งไปไหน" เขาชะงักฝีเท้าแล้วหันมาหาเด็กสาว


         "มะ มีอะไรรึเปล่าคะ?" 


         "เธอต้องไปห้องอาจารย์ใหญ่ เรามีเรื่องต้องคุยกัน"  


         ร่างสูงโปร่งพูดทิ้งระเบิดเอาไว้ให้เด็กสาว ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองโออิคิ ที่ตอนนี้ตัวแข็งเป็นหินไปเรียบร้อยแล้ว 


         "มิทสุฮิดะจังก่อนหน้านี้ไปทำอะไรมารึเปล่า" ยาโอโยโรซุ โมโมะเอ่ยถามเพื่อนร่วมห้องด้วยความสงสัย


         "ไม่นะคะ...." เด็กสาวส่ายหน้าปฏิเสธ


         "หรือว่ารู้จักกับอาจารย์ใหญ่" คามินาริ เดนกิ เด็กหนุ่มผู้มีอัตลักษณ์ไฟฟ้าถามต่อ


         "ไม่เคยเจอกันเลยค่ะ แล้วฉันเองก็ไม่รู้จักด้วย" เธอพยายามนึกถึงผู้คนที่ตัวเองรู้จัก แต่ก็ไม่มีใครที่เธอรู้จักเป็นเจ้าของโรงเรียนเลยสักคน


         "อืม.... อาจจะเป็นการขอคุยเรื่องส่วนตัวรึเปล่า" อีดะ เทนยะลูบคางตัวเองพร้อมนึกถึงความเป็นไปได้


         "อาจจะเป็นที่อีดะคุงว่าก็ได้ ผ่อนคลายเข้าไว้โออิคิจัง อาจจะไม่น่ากลัวอย่างที่คิดก็ได้" อุรารากะ โอชาโกะตบบ่าเธอเบา ๆ เพื่อให้กำลังเพื่อนร่วมชั้น


         "ขอบคุณค่ะ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง ขอตัวก่อนนะคะ" เจ้าของเรือนผมสีดำยาวก้มหัวขอบคุณและขอโทษ ก่อนจะวิ่งจากตรงนั้นไปเพื่อไปยังห้องอาจารย์ใหญ่



         






         เมื่อเด็กสาวผู้มีอัตลักษณ์ที่น่าทึ่งหายลับไป ทุกคนเองก็อดพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไม่ได้


         "หวังว่าเธอคงไม่โดนไล่ออกหรอกนะ อัตลักษณ์ของเธอแข็งแกร่งจะตาย" เด็กหนุ่มผมแดงคิริชิมะพูดเปิดขึ้นมา


         "ใช่ ๆ โออิคิจังน่ะเท่มาก! เธอไม่ถูกไล่ออกหรอก!" โทรุพยักหน้า(ที่ไม่มีใครเห็น)เห็นด้วยทันที


         "แล้วโทรุจังรู้จักกับโออิคิจังได้ยังไงหรอ?" อุรารากะถามโทรุที่ดูจะชอบคนที่กำลังเป็นหัวข้อสนทนามาก ๆ 


         "ใช่ ๆ ฉันเองก็อยากรู้!" อาชิโดะยกมือขึ้นเธอมีท่าทางตื่นเต้นเหมือนเด็กที่กำลังจะได้ฟังนิทาน


         ทุกคนในบริเวณนั้นที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาแม้จะทำเป็นไม่สนใจแต่ก็เงียบหูฟังอย่างตั้งใจไม่รู้ตัว



         "ก็ฉันได้สนามสอบเดียวกับโออิคิจัง แล้วพอดีฉันโดนพวกเศษอาคารจากวิลเลิน0point กระแทกใส่จนเกิดเสียหลักล้มลง ฉันที่กำลังโดนเจ้านั่นเล่นงาน จู่ ๆ ก็มีคนมาช่วยฉันออกมาจากตรงนั้น นั่นก็คือโออิคิจังนั่นเอง!! ทั้งที่เราทั้งคู่สูงไล่เลี่ยกัน แต่โออิคิจังอุ้มฉันได้สบาย ๆ !!! แถมเธอยังช่วยฉันเก็บแต้มด้วย ตอนนั้นโออิคิจังเท่มาก ๆ เหมือนฮีโร่เลยล่ะ!" โทรุเล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ฟัง เธอเล่าไปพร้อมออกท่าทางไปด้วย


         "แล้วตอนที่เราเป็นเพื่อนกันโออิคิจังดูดีใจมาก ๆ เลยด้วย เธอยิ้มให้ฉัน ฮางาคุเระ โทรุคนนี้สาบานเลยว่าไม่เคยเจอใครยิ้มน่ารักแบบนี้มาก่อนเลย!!" เด็กสาวล่องหนยกนิ้ว(ที่ไม่มีใครเห็น)สาบาน และกำลังล่องลอยไปกับความทรงจำในอดีตที่เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีดำยิ้มให้เธอ 


         "เธอฟังแล้วเหมือนฮีโร่จริง ๆ เลยแฮะ แล้วก็เรื่องรอยยิ้มนั่นไม่เถียง" เข้าของอัตลักษณ์สายฟ้าพยักหน้าเห็นด้วย 


         "ใช่ ๆ " คนที่ฟังที่เหลือเองก็เช่นกัน

         

         ก่อนหน้านี้ที่เด็กสาวเรือนผมสีดำยาวนั้นเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ออกมา มันทำให้พวกเขาลืมความกดดันไปชั่วขณะ ราวกับว่าโลกนี้มันช่างสดใสไร้มลทินเสียเหลือเกิน จากเด็กสาวที่ดูมืดมนกลับกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ไปในทันที



         "ชิ" บาคุโก คัตสึกิส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าอาคารไป



         ทุกคนเองก็เดินกลับเข้าอาคารเพื่อเปลี่ยนเสื้อ ระหว่างทางก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน และสิ่งที่ติดอยู่ในใจของนักเรียนห้อง1-Aคือ ดวงตาภายใต้เส้นผมของมิทสุฮิดะ โออิคิ






         

         -TALK-


         สวัสดีค่ะทุกคนนนนน หายไปหลายวันเลย ตอนนี้ไรต์แต่งหลายวันมากเพราะคิดคำมาใช้ไม่ค่อยออก และตอนแรกจะมีเนื้อเรื่องต่อยาวกว่านี้ แต่มันจะยาวเกินไปเลยตัดไปลงตอนหน้าแทน 


         ตอนนี้รู้สึกเหมือนกับว่าจะมีเรือลำน้อย ๆ ออกจากท่าเรือมาแล่นอยู่ในน่านน้ำเดียวกับชินโซคุงแล้วนะคะเนี่ย


         เรือไหนจะสามารถตีคู่กับชินโซคุงได้ต้องติดตามตอนต่อๆไปนะคะะะะะ <3 

              




         อย่าลืมกดหัวใจและคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคะ



         รักทุกคนนนนนนนนนนน~<3

     

         

         

         

         

         

        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×