ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『Boku no hero academia』ฉันเข้ามาอยู่ในร่างบาคุโก คัตสึกิ!? เดี๋ยวนะ ขอคีพลุคแป๊บ [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #1 : เข้ามาอยู่ในร่างของคัตสึกิตัวน้อยล่ะ

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 63



     --------------------------------------
    *นิยายเรื่องนี้มีคำหยาบคายนะคะ*
    --------------------------------------

    mendedikasikan diri, untuk mencintaimu layaknya bintang di langit mal… #fiksipenggemar # Fiksi Penggemar # amreading # books # wattpad


         ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมขนาดเล็กตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่กลับมีเฟอร์นิเจอร์มากมายอัดอยู่ในห้องเดียวทั้งเตียง ตู้ โต๊ะคอมพิวเตอร์ เก้าอี้ คอมพิวเตอร์สเปคสูง ทีวี วิดิโอเกม ชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือมังงะที่จัดวางอย่างสวยงามผิดกับหนังสือเรียนที่วางกองเอาไว้กับพื้นข้าง ๆ กระเป๋าเป้สีดำของสถาบัน

     


         แกรก แกรก แกรก


     

         เสียงแป้นพิมพ์ดังกึกก้องไปทั่วห้องอย่างต่อเนื่อง ร่างของเจ้าของห้องนั่งขัดสมาธิอยู่บนเก้าอี้ตัวนุ่ม เส้นผมตัดสั้นของเธอคลอเคลียกับแก้มกลมจนเจ้าตัวรู้สึกรำคาญใจแต่ก็ไม่คิดที่จะปัดมันออก ตอนนี้จิตใจเธอนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมของเธอที่กำลังขึ้นหน้าเขียนนิยายของเว็บนิยายสุดโด่งดัง

     


         แต๊ก!

     


         "ในที่สุด!!! ก็เขียนเสร็จสักที!" สิ้นเสียงกดแป้นตัวสุดท้ายเด็กสาวชูแขนขึ้นอย่างดีใจยิ่งกว่าวันสอบเสร็จซะอีก


     

         เขียนเสร็จสักทีTT ฉากนี้เขียนยากฉิบหายกว่าจะอธิบายได้

     


         "ได้เวลาหารูปประกอบนิยาย จะเอารูปไหนดีนะ" ปลายนิ้วเลื่อนเมาส์เพื่อกดเข้าเว็ปไซต์ต่าง ๆ เพื่อหารูป

     

         เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววการอัปนิยายของเด็กสาวเลย ภายในห้องที่เงียบกริบตอนนี้กลับมามีเสียงเพลงของAnimeอย่างMy hero academiaเปิดอยู่ หัวกลมที่ตั้งตรงเริ่มขยับตามจังหวะเพลงพร้อมเสียงฮัมเพลงในลำคอที่เริ่มดังแข่งกับเสียงเพลงเข้าไปทุกที ดวงตาภายใต้แว่นสี่เหลี่ยมหนาเตอะไล่ดูรูปอย่างตั้งใจ

     

         "ทำไมรู้สึกว่าเจ้าหมาบ้านี่มันน่ารักจังวะ โคตรน่าแกล้ง" 

     

         เธอพูดกับตัวเองเมื่อหารูปของบาคุโก คัตสึกิเด็กหนุ่มผมสีฟางที่ตั้งตรงชี้ตลอดเวลา ทำนิสัยนักเลงหาเรื่องคนไปทั่ว ซึ่งเธอเองก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หรอกนะ แต่พอคิดว่าโดนแกล้งจะน่ารักขนาดไหนก็อดที่จะคิดดีไม่ได้เลยสักครั้ง 

     


         แม่งเอ๊ย! ยิ่งตอนเด็กยิ่งน่ารัก ต้าวน้องงงงง

     


          หลังมโนเพ้อพบเสร็จเธอเลือกที่จะเก็บมันเอาไว้ในใจก่อน เพราะเวลาตอนนี้ค่อนข้างดึกมากพอสมควรแล้ว

     

         แค่ตี4เอง....

     

         "อัปลงแล้ว~ ได้เวลานอนสักทีพรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย จะรอดไหมวะเนี่ย...." เมื่อตรวจทานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เด็กสาวได้กดปิดการใช้งานคอมพิวเตอร์ก่อนจะปิดไฟและกระโดดลงเตียงนุ่มที่เต็มไปด้วยตุ๊กตา

     

         ร่างบนเตียงกลิ้งไปอยู่ตรงกลางก่อนขุดตัวเองอยู่ใต่ผ้าห่ม มือโผล่ออกมาเพื่อถอดแว่นตาออกก่อนจะคว้าตุ๊กตาจระเข้มากอดด้วยความเคยชิน

     


         แปลกจัง... ปกติจะต้องมามโนต่อนี่นา แต่ทำไมวันนี้มันถึงได้.....ง่วง....



    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

         ง่วงไม่ไหวแล้ว แต่มีเรียนเช้านะ...... มี เรียน เช้า.........



         "เฮือก!" เปลือกตาเปิดออกอย่างฉับพลันทำให้แสงสีขาวที่สะท้อนจากเพดานสีเดียวกัน มันกระทบกับดวงตาจนทำให้เด็กสาวต้องรีบหลับตาลงด้วยความแสบ ก่อนจะกระพริบตาอย่างช้า ๆ เพื่อให้ชินกับแสง



         ติ๊ด     ติ๊ด



         เสียงของเครื่องอะไรสักอย่างดังอยู่ตลอดเวลา ดวงตาที่เริ่มชินแสงเปิดขึ้นอย่างเต็มตาก็พบกับเพดานสีขาว ความรู้สึกตกใจเข้าแทรกแทนที่ความงุนงง เด็กสาวเริ่มเกิดอาการวิตกกังวลเพราะเพดานห้องของเธอไม่ได้สูงขนาดนี้ ดวงตาเริ่มสำรวจรอบข้างเพื่อความแน่ใจ แต่หัวของเธอมันหนักจนแทบจะขยับไม่ได้จึงทำได้เพียงกรอกตามเท่านั้น เมื่อมองไปยังข้างลำตัวก็พบกับสายอะไรสักอย่างที่เชื่อมต่อจากมือเธอไปยังเสาน้ำเกลือ 



         โรงพยาบาล?



         ความวิตกกังวลเริ่มมากขึ้นเพราะเธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไรไประหว่างนอนหลับรึเปล่า เธอเองก็ไม่ได้ไปตรวจสุขภาพเลยนับตั้งแต่ขึ้นม.ปลายมาและก็ไม่ได้ออกกำลังกายหรือสุขภาพดีอะไรขนาดนั้น 


         ดวงตากวาดมองรอบข้างอีกครั้งเพื่อปลอบใจตัวเองให้ใจเย็นลง ก่อนจะเริ่มสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง



         ทำไมเราตัวเล็กลงแถมหน้าอกก็แบนลงจนแถบไม่มี.......แล้วผมฉันมันต้องตกมาอยู่ข้างแก้มสิ แต่นี่รู้สึกว่าทำไมมันสั้นลงล่ะ....  


         

         และที่สำคัญฉันสายตาสั้นมาก ๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ภาพตรงหน้าจะชัดเจนขนาดนี้ 


        

         หัวใจยิ่งเต้นระรัวเมื่อทุกสิ่งมันแปลกไปหมด เธอจึงตัดสินใจยกแขนข้างที่ไม่ได้เจาะสายน้ำเกลือขึ้นมา ปรากฏว่ามือที่เคยเรียวยาวได้สั้นและเล็กลงราวกับมือเด็กอายุ6-7ขวบ เธอจำมือเล็ก ๆ แบบนี้ได้เพราะเธอมีหลานชายอยู่ที่บ้านขนาดมือใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก


         "อะไรเนี่ย!?" เธอตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เสียงที่เปร่งออกมามันแหบแห้งซะจนเจ็บคอก่อนจะไอออกมา


         "แค่ก แค่ก"


         

         นี่เราทะลุมิติเหรอ? ของแบบนี้ไม่น่าเป็นไปได้หรือว่าเราตายแล้วเลยมาอยู่ในร่างนี้? 



         แล้วที่นี่คือโลกไหนล่ะ?


         

         เด็กสาวคิดกับตัวเองอย่างสับสน น้ำตาสีใสไหลลงมาเสียดื้อ ๆ ถึงแม้เธอจะอ่านนิยายแนวแบบนี้มาเยอะขนาดไหนแต่พอมาเจอกับตัวเองมันไม่สนุกอย่างที่คิดน่ะสิ 


         

         ยังไม่อยากตาย...... ชีวิตก่อนยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย...... 


         

         ไม่เอาแบบนี้สิ.....  



     

         ครืด.....



         "อ๊ะ!? คนไข้ฟื้นแล้ว!" เสียงเปิดประตูดังขึ้น เสียงหวานใสของใครสักคนพูดขึ้นอย่างตกใจก่อนที่จะมันจะหายไปพร้อมกับเสียงรองเท้าของเธอ


         "อึก...."


         เด็กสาวพยุงตัวเองขึ้นนั่งอย่างลำบากแต่ก็จะได้สำรวจรอบกายได้ง่ายขึ้น แขนเล็กรีบเช็ดน้ำตาอย่างลวก ๆ ถึงแม้มันจะยังหลงเหลือคราบอยู่ก็ตาม เธอพยายามปั้นหน้าให้ปกติที่สุด จนสายตาไปสะดุดกับป้ายชื่อที่ติดอยู่ตรงข้อแขนเล็ก 


         ตัวอักษรขีดหลายเส้นคล้ายกับภาษาจีนที่เธอเรียน เมื่อมองอ่านดูดี ๆ มันกลับไม่ใช่ภาษาจีนอย่างที่เธอคิด


         

         บาคุโก.......คัต...สึกิ? บาคุโก.......



         "อะ.....อะ...." สมองหยุดการประมวลไปชั่วขณะเมื่อชื่ออันแสนคุ้นเคยมาอยู่บนข้อมือของเธอ



         นี่มันเหี้ยอะไรวะเนี่ย!!!!!



         เด็กสาวกรีดร้องในใจ เธอตกใจเรื่องที่กลายเป็นเด็กไม่พอแต่ตอนนี้เธอได้เข้ามาอยู่ในโลกของอนิเมะอย่างMy hero academiaอีกด้วย!! 



         แถมกลายเป็นบาคุโก คัตสึกิอีก!



         เวรเอ๊ย!!! จะเป็นตัวละครOCก็ไม่ได้! ความบัดซบ!!!!



         "ให้ตาย.......ปวดหัว" มือเล็กทั้งสองข้างยกขึ้นกุมหัวตัวเอง ทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัสก็พบว่าหัวของเธอมีผ้าพันแผลอยู่



         ผ้าพันแผล?



         "ในที่สุดก็ฟื้นสักทีนะบาคุโกคุง" เสียงทุ้มดังมาจากตรงประตู เมื่อหันมองไปยังต้นเสียงก็พบกับร่างของคุณหมอคนหนึ่งที่มาพร้อมกับพยาบาลซึ่งคาดเดาว่าน่าจะเป็นคนเดียวกับตอนแรกที่เปิดประตูเข้ามา


         เด็กสาวในร่างของบาคุโก คัตสึกิมองทั้งสองคนด้วยความงุนงงและไม่คุ้นชิน สีหน้าของเธอแสดงออกไปอย่างชัดเจนจนคุณหมอเอ่ยทัก


         "ดูเหมือนว่าจะยังงงอยู่สินะ งั้นหมอจะขอถามอะไรเราหน่อย" คุณหมอเดินตรงมาหยุดอยู่ข้างเตียง พยาบาลสาวเองก็ถือที่แฟ้มพร้อมลงมือจดอะไรสักอย่างลงไป


         "เราจำชื่อตัวเองได้ไหม?" เขาเริ่มถามอย่างใจเย็น


         "บาคุโก คัตสึกิ......มั้งนะ" เสียงแหบตอบกลับด้วยความไม่มั่นใจ เพราะถึงจะมีป้ายชื่อแต่เธอเองก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี 


         "อืม.... แล้วครอบครัวล่ะ"


         คำถามนี้ทำให้เด็กสาวเริ่มคิดหนักเพราะเธอคิดว่าจะตอบไปดีไหม เธอเองก็เพิ่งมาติดตามอนิเมะนี้ได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่ได้อ่านลงรายละเอียดลึกอะไรขนาดนั้นแต่ก็แอบหาข้อมูลในการประกอบนิยายบ้างนิดหน่อย



         ถ้าแกล้งความจำเสื่อมจะดีไหมนะ....



         "......ไม่" เด็กชายส่ายหน้าเบา ๆ สีหน้าดูเศร้าสร้อยเมื่อตัวเองไม่สามารถให้คำตอบได้ 


         "ไม่เป็นไร ก่อนที่จะมาอยู่ที่นี่.....เรื่องราวก่อนหน้านี้จำได้ไหม ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ นึก" คุณหมอพูดปลอบเด็กชายตัวน้อย เขารู้สึกว่าเด็กชายตรงหน้าเริ่มผ่อนคลายและมีอาการเกร็งน้อยลง

         

         เด็กสาวปิดเปลือกตาลงพยายามค้นความทรงจำของเจ้าของร่างก่อนหน้านี้ ภายในความดำมืดนั้นก็ไม่พบอะไรเลยราวกับว่ามันถูกลบไปทั้งหมด เธอลืมตาขึ้นก่อนจะส่ายหน้าอีกครั้ง


         "หืม...... งั้นหมอจะไม่ถามอะไรเราต่อแล้วล่ะ พักผ่อนให้เยอะ ๆ นะบาคุโกคุง เดี๋ยวทางเราจะติดต่อพ่อแม่ของเธอให้" คุณหมอส่งยิ้มให้เพื่อไม่ให้คนไข้รู้สึกแย่ไปมากกว่านี้ เขาหยิบแฟ้มจากพยาบาลก่อนจะเดินออกจากห้องไปในห้องจึงเหลือตัวเขาและพยาบาลสาว



         ถ้างั้นหลังจากนี้เราต้องเปลี่ยนวิธีการพูดใหม่หมดเลยสินะ...... จะเผลอหลุดไหมเนี่ย



         "รู้สึกยังไงบ้างจ๊ะ บาคุโกคุง" เธอพูดเสียงหวานในขณะที่รินน้ำใส่แก้วให้เด็กน้อย


         "มึนหัวนิดหน่อยครับ แต่ผมว่าผมคงนอนไม่หลับแล้วล่ะ" มือเล็กรับแก้วน้ำจากพยาบาลก่อนจะดื่มมันด้วยความกระหาย


         "งั้นเดี๋ยวพี่จะปรับเตียงให้นะ ดูทีวีหรือจะเอาอะไรไหมจ๊ะ" เธอยิ้มก่อนจะปรับเตียงให้สามารถนั่งพิงได้


         "เปิดทีวีก็ได้ครับแค่นั้นก็พอแล้ว ขอบคุณนะครับ" เด็กชายเอ่ยขอบคุณพร้อมยิ้มกลับให้หญิงสาวที่มาดูแลเขา


         พยาบาลสาวทำตามที่เด็กชายบนเตียงขอก่อนจะขอตัวกลับไปช่วยงานคุณหมอคนเมื่อกี้ต่อ เมื่อเธอออกไปภายในห้องจึงมีเพียงเสียงทีวีที่ดังอยู่เท่านั้น เด็กสาวในร่างของเด็กชายเริ่มจมอยู่ในความคิดตัวเองอีกครั้ง



         ถ้านี่เป็นร่างของบาคุโก คัตสึกิจริงล่ะก็มันต้องพิสูจน์ได้สิ.... แล้วจะทำยังไงดีล่ะ....


         โลกนี้ต่างจากโลกของเรามาก มีอัตลักษณ์ใช้........



         "จริงสิ! อัตลักษณ์ไง!" ร่างบนเตียงยิ้มกว้างอย่างดีใจที่นึกไอเดียออกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อติดปัญหาอยู่หนึ่งอย่าง


         "ว่าแต่มันใช้อัตลักษณ์ยังไงอ่ะ" น้ำตาแทบไหลรินลงมาเมื่อเธอไม่รู้จักวิธีใช้มัน



         อัตลักษณ์ของเขาคือระเบิดสินะ...... ตอนนี้ดูจากรูปร่างร่างกายแล้วคัตสึกิน่าจะมีอัตลักษณ์ปรากฏแล้ว 


         ต้องใช้เหงื่อในการใช้สร้างระเบิด ถ้างั้นต้องลองกำมือให้เหงื่อมันออกก่อนแล้วกัน



         คิดได้ดังนั้นฝ่ามือจึงกำแน่นทันที ให้ขับเหงื่อออกมาเพื่อทดลองว่าเป็นไปตามที่คิดหรือไม่



         เท่านี้น่าจะพอแล้วมั้ง?



         เด็กสาวสัมผัสได้ถึงความชื้นบนฝ่ามือ ก่อนจะแบออกและลองจินตนาการถึงภาพระเบิดในอนิเมะที่เธอได้ดู



         ฟู่........


         

         "!!!!" 


         ฝ่ามือที่เปียกชื้นมีควันลอยออกมากลิ่นไหม้ลอยแตะจมูก แม้จะยังไม่ถึงกับมีประกายของระเบิดออกมาแต่แค่นี้เด็กสาวก็ตื่นเต้นจนยิ้มกว้างไม่รู้ตัว


         "เจ๋ง! เท่านี้ก็รู้วิธีใช้แล้ว เหลือแค่ต้องพัฒนาต่อมเหงื่อเหมือนในเรื่อง!" เด็กสาวหัวเราะคิกคักกับความสำเร็จนี้ ถ้าไม่ติดว่ามีสายน้ำเกลือหรือว่าบาดเจ็บอยู่ล่ะก็เธอคงจะกระโดดโลดเต้นไปแล้ว ร่างเล็กเอนตัวพิงเตียงดวงตาสีแดงเป็นประกายในหัวคิดวางแผนพัฒนาอัตลักษณ์อย่างต่อเนื่อง


         ["ข่าวต่อไปจะนำเสนอเกี่ยวกับการจับกุมวิลเลิน----"]


         "เอ๊ะ......" ร่างบนเตียงหลุดอุทานออกมาหลังเสียงของข่าวในทีวีเข้าสู่โสตประสาท


         ["โดยผู้นำกลุ่มคือไนฟ์แจ็ค อดีตพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งของเมือง---"]

         

         เด็กสาวกลับมานั่งหลังตรงอีกครั้งก่อนจะเขยิบตัวเองไปปลายเตียง ดวงตาจ้องมองไปยังตัวหนังสือภาษาญี่ปุ่นที่ขึ้นประกอบอยู่บนหน้าจอไม่ขาด และเสียงของผู้ประกาศข่าวเองทำให้ตัวของเธอนึกเอะใจได้หนึ่งอย่าง


         มันไม่ใช่เรื่องของวิลเลินที่ก่อเหตุหรอก



         ทำไมถึงอ่านภาษาญี่ปุ่นออกล่ะ? แถมฟังได้ไม่มีสะดุดด้วย


         งั้นที่เราตอบหมอไปก่อนหน้านี้ก็ญี่ปุ่นล้วนอ่ะสิ!? เพราะเข้ามาร่างนี้งั้นหรอ!!??

           

         

         มือเล็กยกขึ้นทาบใบหน้าก่อนจะกรีดร้องแบบไร้เสียง นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว! ไม่คิดว่าทะลุมิติหรืออะไรก็ตามแต่มันจะมีอะไรเยอะแยะขนาดนี้!  


         "ว่าแต่ทำไมคัตสึกิถึงเข้าโรงพยาบาลล่ะ? เนื้อเรื่องตอนเด็กก็ไม่เห็นมีเรื่องอะไรที่ทำให้ถึงขั้นนอนโรงพยาบาลเลยนี่...." ด้วยความที่เธอเป็นคนที่คิดอะไรเยอะจึงตั้งคำถามกับสิ่งเหล่านี้มากมาย


         "แล้วถ้าเรามาอยู่ในร่างของเขา แล้วเจ้าตัวจริง ๆ ของเขาจะไปอยู่ไหนล่ะ? แล้วเนื้อเรื่องจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย!" เด็กสาวเริ่มสติแตกความคิดมากของเธอทำให้จิตใจเธอตอนนี้เริ่มไม่โอเคอีกครั้ง



         ฮึ่ม....... ถ้างั้นเราต้องถนอมร่างกายนี้ให้มากที่สุด เผื่อสักวันหนึ่งเจ้าของร่างกลับมาจะได้ไม่โดนด่ามาก......... 


         มั้งนะ...


         ต้องคีพลุคไหมเนี่ย เนื้อเรื่องจะได้ไม่เปลี่ยน....


         แต่ฉันเชื่อว่าต้องเผลอหลุดแน่ ๆ เลย ยังไงก็ต้องขอโทษล่วงหน้านะคะคัตสึกิคุง

         


         เหงื่อไหลลงตามกรอบหน้าไม่รู้ตัวมือเล็กประกบเข้าหากัน พนมมือไหว้ขอโทษเจ้าของร่างล่วงหน้า 



         ขอยืมใช้ร่างก่อนนะคะ.........


    .


    .


    .


    .


    .


    .


    .


         เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปนานแล้ว ร่างเล็กบนเตียงพยาบาลกำลังหลับพักผ่อนจากการใช้ความคิดมากเกินไป บวกกับร่างกายและวัยที่ยังเป็นเด็กจึงต้องการพักผ่อนเยอะเป็นพิเศษ

         

         

         ครืด.....



         "คัตสึกิ...." เสียงหวานติดห้าวอันแผ่วเบาพูดชื่อเด็กชายบนเตียง สายตาทอดมองด้วยความรู้สึกเศร้าสร้อย มือสวยไร้รอยเหี่ยวย่นลูบเส้นผมสีฟางอย่างเบามือ


         มิสึกิและมาซารุรีบมาโรงพยาบาลหลังได้รับการติดต่อกลับมา พวกเขาได้รับฟังผลจากคุณหมอหลังจากลูกชายสุดดื้อคนนี้ฟื้นหลังจากการโดนลูกหลงในเหตุการณ์ก่อการร้าย 


         หัวใจทั้งคู่แทบหยุดเต้นเมื่อรายชื่อคนบาดเจ็บมีชื่อของเจ้าลูกชายอยู่ในนั้น คัตสึกิได้รับบาดเจ็บที่หลังศีรษะจากการโดนกระแทกอย่างแรงจากเศษซากอาคาร


         คุณหมอบอกว่าศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนส่งผลให้ความทรงจำนั้นหายไป แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ไม่มีอาการเลือดคลั่งในสมองหรืออาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่น่าเหลือเชื่อมากกว่านั้นคือตัวของเด็กชายเองมีการฟื้นอย่างเร็วกว่าที่ควรจะเป็นอย่างน่าตกใจ คุณหมอจึงแนะนำวิธีการรักษาเรื่องความทรงจำเสื่อมและวิธีกระตุ้นความจำ


         ตอนนี้ทั้งคู่ได้เข้ามาเยี่ยมดูลูกชายที่กำลังหลับพักผ่อนอยู่ ร่างเล็กที่กำลังนอนอยู่ได้ค่อย ๆ ลืมตาตื่น สองสามีภรรยาตกใจเล็กน้อยก่อนจะช่วยพยุงให้ร่างนั้นลุกขึ้นนั่งดี ๆ 


         "....คัตสึกิ....." หญิงสาวรวบกอดด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย น้ำเสียงของเธอตอนนี้ช่างฟังดูอ่อนแรงเหลือเกิน ความรู้สึกเปียกชื้นที่ลาดไหล่เล็กทำให้รู้ว่าเธอกำลังร้องไห้ ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ตรงหน้าน้ำตาสีใสไหลออกมาจากดวงตาของร่างที่อยู่บนเตียง  


         "...ฮึก.....ผมขอโทษ... ขอโทษ..."


         เด็กสาวไม่เคยเห็นด้านอ่อนแอของบาคุโก มิสึกิเลยสักครั้ง แม้เธอเองจะไม่ได้มีสัมพันธ์กับหญิงสาวมาก่อน.....


         แต่ไม่รู้ทำไมในใจเธอถึงบอกว่าให้ขอโทษออกไปนะ....... 




         ผ่านไปสักพักหญิงสาวได้ผละกอดมือไร้รอยเหี่ยวย่นยกขึ้นปาดน้ำตาให้เด็กชาย ก่อนจะเริ่มแนะนำตัวเอง


         "นี่แม่เองนะ มิสึกิส่วนนี่พ่อมาซารุ" หญิงสาวพูดกับลูกชายตัวเองด้วยน้ำเสียงที่ต่างจากปกติ ไม่แข็งและตะคอกเหมือนอย่างทุกทีเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นคืนความทรงจำ


         "อ่า... ครับ" ใบหน้าอ่อนเยาว์พยักหน้าเข้าใจก่อนจะยิ้มให้กับทั้งสองเพื่อไม่ให้เขารู้สึกอึดอัดหรือกังวลใจไปมากกว่านี้


         บรรยากาศผ่อนคลายลง สองสามีภรรยาชวนลูกชายพูดคุย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องชีวิตประจำวันและเรื่องที่เกี่ยวกับโลกนี้เหมือนเป็นการเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่ตั้งแต่ศูนย์

         

         เด็กสาวพยายามจำรายละเอียดให้มากที่สุดเพื่อตัวของเธอเองและเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 





         เวลาผ่านไปนางพยาบาลคนเดิมได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับอุปกรณ์เช็ดตัวคนไข้ พร้อมกับบอกผู้ปกครองว่าหมดเวลาเยี่ยมแล้ว


         หลังจากที่พ่อและแม่ในโลกนี้กลับไปแล้วพยาบาลสาวได้เข้ามาเช็ดตัว เธอได้บอกข่าวดีกับเด็กน้อยบนเตียง


         พรุ่งนี้เธอจะได้กลับบ้านโดยที่ไม่ต้องปิดผ้าพันแผลแล้ว




         การเริ่มต้นของเราในร่างของคัตสึกิคุง........


         การเริ่มต้นในโลกแห่งอัตลักษณ์......


         จะเป็นยังไงบ้างนะ........




         

         




         ชักรู้สึกกังวลใจมากกว่าตื่นเต้นแฮะ........_ _); 

         


    ❝one strawberry cheesecake and a coffee, please?❞ ✒ in which cowo… #fanfiction #Fanfiction #amreading #books #wattpad



         -TALK-


         สวัสดีค่ะทุกคนนนนน เปิดเรื่องทิ้งไว้ซะนานเลย555 เพราะช่วงท้ายเดือนไรเตอร์ยุ่งสุดๆ ต้องย้ายมาหอพักและอะไรหลายๆอย่างมันยังไม่ลงตัวเท่าไหร่และมีปัญหาอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว

         เนื้อเรื่องค่อนข้างคล้ายไดอารี่เป็นการอธิบายความคิดของตัวละครอย่างละเอียด บางจุดอาจใช้คำแทนตัวละครแบบงงๆก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ

         และถ้ามีเรื่องไหนไม่เข้าใจสามารถถามได้เลย! ไรเตอร์จะมาตอนในตอนถัดไปมุมคุยกันตรงนี้เลย


         อย่าลืมกดหัวใจและคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคะ



         รักทุกคนนนนนนนนนนน~<3

     


         



         




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×