ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『Kimetsu no yaiba』Twin Demons〚Oc〛

    ลำดับตอนที่ #1 : ข้าคามาโดะ นัตสึกิ

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 63



    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ kamado family death








         หิมะสีขาวร่วงโปรยปรายแม้ในยามที่อาทิตย์สาดส่อง บ้านหลังเล็กบนภูเขาแห่งหนึ่ง มีครอบครัวขายถ่านที่อบอุ่นจนบางครอบครัวนั้นอิจฉากับความสัมพันธ์นี้ 

         
         อีกไม่นานก็จะถึงวันปีใหม่แล้ว คามาโดะ ทันจิโร่พี่ชายคนโตของบ้านเผาไม้ให้กลายเป็นก้อนถ่านเพื่อลงไปขายในเมือง ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้น้องๆได้อิ่มท้องกัน


         "แม่ครับอาการของนัตสึกิเป็นยังไงบ้าง" ทันจิโร่เอ่ยถามถึงน้องคนที่สามของบ้านด้วยความเป็นห่วง








         คามาโดะ นัตสึกิเป็นลูกคนที่สามของบ้านและเป็นฝาแฝดชายของเนซึโกะอีกด้วย 



         แฝดชายหญิงเสมือนลางร้ายที่คนเขาถือกัน แต่บ้านเรานั้นไม่ทิ้งใครคนหนึ่งแน่นอน



         และด้วยเหตุนี้จึงเหมือนเป็นคำสาป.....



         ฝาแฝดคนน้องนั้นมีร่างกายที่ป่วยง่ายแม้ลมหนาวยังมิพัดผ่าน ถึงนอนป่วยเป็นผักแต่ด้วยความดื้อรั้นของน้องคนนี้ ยามที่หายป่วยก็จะออกจากบ้านเพื่อไปหาสมุนไพร และปรุงมันขึ้นมาจนการเป็นยาชั้นเลิศแม้ใช้สมุนไพรเพียงแค่ไม่กี่ชนิด


         จนคนในหมู่บ้านลือกันว่าคามาโดะ นัตสึกินั้นเป็นหมอเทวดา 




         และอย่างที่ใครบางคนเคยพูดไว้ว่าของดีนั้นมีน้อย

         
         แม้ราคาจะสูงกว่ายาทั่วไป แต่คนนั้นยอมจ่ายเพื่อได้ยาที่ดีกว่าและหายอย่างแน่นอน เมื่อผลตอบแทนดีในยามป่วยนัตสึกิจึงฝืนลุกจากฟูกเพื่อมาบดยาไปขายจนโดนแม่ดุอยู่บ่อยครั้ง








         "ยังตัวร้อนเหมือนเดิม แต่อาการไอน้อยลงแล้ว ...เฮ้อ" ขนาดคนเป็นแม่ยังถอนหายใจกับอาการป่วยที่เป็นมานาน รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายเสียที ขนาดทานยาที่ตัวเองปรุงเองก็ยังไม่หายขาด




         นี่สินะสิ่งที่เรียกว่าคำสาป




         "พี่ทันจิโร่ไม่ต้องเป็นห่วง! พวกข้าจะดูแลพี่นัตสึกิเอง!" 


         "ใช่ ๆ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้นะ!"

         
         เหล่าน้อง ๆ พยายามไม่ให้พี่ชายคนโตเป็นห่วง เพื่อให้เดินทางเข้าเมืองได้อย่างสบายใจมากขึ้น ฤดูหนาวหากใจลอยไม่ดูทางอาจเกิดอันตรายได้


         "ขอบใจพวกเจ้ามากนะ งั้นข้าไปก่อนนะ" มือหยาบจากการทำงานลูบศีรษะน้อง ๆ แต่ละคนเพื่อเป็นรางวัลและกำลังใจ 


         







         "เดี๋ยวก่อนพี่ทันจิโร่!"  


         ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเท้าออกจากที่เดิม เสียงเรียกชื่อพี่ชายคนโตได้ดังขึ้นจากด้านในบ้านตามด้วยเสียงไอค่อกแค่ก ทุกคนที่ได้ยินจึงรู้ทันทีเลยว่าต้องเป็นฝาแฝดชายหัวดื้อของบ้านอย่างแน่นอน


         "แค่ก ข้าฝากยานี่ไปขายในเมืองด้วย"


         เมื่อเสียงพูดที่แหบแห้งหายไป ก็ปรากฎร่างของเด็กชาย ผิวสีขาวซีดที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้านั้นขึ้นสีแดงเป็นริ้วๆ มือข้างหนึ่งเกาะขอบประตูไว้เพื่อเป็นที่ยึดร่างกายไม่ให้ล้ม ส่วนอีกข้างหนึ่งถือห่อยาที่เพิ่งทำเสร็จพร้อมยื่นไปด้านหน้าเพื่อให้พี่ชายเอาไปขายในเมือง


         "นัตสึกิ!!??" 


         "พี่นัตสึกิ!? พี่ออกมาทำไมครับ/คะ!!??"


         "ตายแล้ว! นี่ลูกแอบปรุงยาอีกแล้วหรอ!?"


         เหล่าคนในครอบครัวกรีดร้องด้วยความตกใจ รีบปรี่มาช่วยพยุงร่างที่ใกล้จะล้มตรงหน้า 

         
         "ลูกออกมาแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นหนักกว่าเดิมหรอก" คนเป็นแม่ดุลูกสุดดื้อคนนี้ แม้น้ำเสียงจะแข็งแต่มืออุ่นของเธอนั้นลูบหัวเบาๆแล้วไล่ลงมาตามกรอบหน้าเพื่อวัดอุณหภูมิ


         "ข้าแค่อยากช่วยครอบครัวบ้างนี่ สักนิดก็ยังดี" คนป่วยนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ดวงตาสีม่วงสว่างเริ่มส่องแสงวิบวับจากน้ำตาที่เคลือบอยู่ 



         
         ฟุบ ฟุบ


         มือหยาบกร้านของพี่ชายคนโตลูบกลุ่มผมสีดำสนิทเบา ๆ 


         "แค่นี้เจ้าก็ช่วยเรามากแล้ว แต่ถ้าหากเจ้ายิ่งอาการแย่ลงทุกคนจะยิ่งเป็นห่วงนะ" น้ำเสียงอันอบอุ่นช่วยให้จิตใจนั้นยิ่งพองโต จนคนรอบข้างสัมผัสถึงออร่าแห่งความสุขที่แผ่ออกมาจากคนป่วย


         "อ๊ะ พี่นัตสึกิอารมณ์ดีขึ้นแล้ว" ฮานาโกะร้องขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่ชายตัวเองไม่มีประกายเศร้าที่ดวงตาแล้ว


         "จริงด้วย ๆ พี่หน้าแดงกว่าเดิมอีก" 


         "ขะ ข้าเปล่าหน้าแดงนะ! เป็นเพราะไข้ต่างหาก!" ใบหน้าของคนป่วยรีบก้มลงเพื่อปกปิดความจริง ทำให้คนอื่นๆหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู


         "ฮ่าฮ่าฮ่า" 


         "งั้นข้าไปล่ะ ส่วนยานี่ข้าจะนำไปขายด้วยไม่ต้องห่วง" ทันจิโร่กระชับตะกร้าก่อนที่จะหยิบห่อยาจากมือน้องชายไป ทุกคนโบกมือลาพร้อมอวยพรขอให้การเดินทางราบรื่น


         "โชคดีนะ!"


         "ไปดีมาดีนะคะ!"  



         ทันจิโร่โบกมือลาเช่นกัน เขาคุยกับเนซึโกะ พี่สาวฝาแฝดของนัตสึกิที่กำลังกล่อมโรคุตะ น้องชายคนเล็กให้หลับ พี่ชายคนโตบอกลาก่อนที่จะลงจากเขาไป



         "นัตสึกิลูกเข้าไปนอนพักเถิด เดี๋ยวอาการจะแย่ลงถ้ามาตากลมหนาวอยู่อย่างนี้" หลังมือของแม่ทาบตามกรอบหน้าอีกครั้ง ก่อนที่จะพยุงร่างของลูกคนที่สามเข้าบ้านไปโดยที่มีน้อง ๆ ช่วยดูแลอีกแรง

         

         ด้วยความเหนื่อยล้าจากการปรุงยาและฝืนร่างกาย ทันทีที่ร่างนั้นอยู่ใต้ผ้าห่มเปลือกตาค่อย ๆ ปิดลงอย่างง่ายดาย 


         
         















         กรี๊ด!!!


         อ๊าก!!!


         โครม!





         อย่าทำอะไรเขานะ! ข้าขอร้อง!


         กรี๊ด!!!



         "เฮือก!" เสียงดังโครมครามปลุกให้คนป่วยที่กำลังนอนหลับตื่นขึ้น 


         

         ความฝัน? ไม่สิ เสียงมัน สมจริงเกินไป


         หนาว.... ทำไมมันหนาวกว่าปกติ? แม่ปิดประตูไม่สนิทเหรอ?




         สายตากวาดไปรอบๆก็เจอแต่ความมืดมิด เมื่อตั้งสติได้ ความหนาวเย็นจากลมหนาวด้านนอกเริ่มคืบคลานเข้ามา มือทั้งสองข้างลูบแขนตัวเองเพื่อสร้างความอบอุ่น ร่างที่หนักอึ้งค่อยๆลุกขึ้น มืออันสั่นเทาค่อยๆเปิดประตูออกช้าๆ




         ครืด....




         "อะ  อะ" ดวงตากลมเบิกกว้าง แสงของดวงจันทร์ส่องเข้ามาทำให้เห็นภาพของเลือด ร่างของคนในครอบครัวที่นอนในท่าทางน่าสยดสยอง เลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วส่งกลิ่นจนอยากอาเจียนออกมา



         ไม่จริงใช่ไหม


         ไม่..... ไม่จริง


         ทุกคน....



         น้ำตาไหลสีใสออกมาอย่างไม่รู้ตัว ขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง แต่ไม่ทันที่ร่างจะกระทบพื้นก็มีแขนของใครบางคนประคองเอวเอาไว้



         ฟุบ!



         "คุณนี่เอง เด็กที่ถูกคำสาป" เสียงเย็นยะเยือกกระซิบข้างๆคนในอ้อมแขน


         ใบหน้าหันไปตามต้นเสียง ดวงตาสีม่วงสว่างสบกับดวงตาสีแดงลูกพลัม นัยน์ตาดำหรี่เล็กเหมือนดวงตาของแมว ใบหน้าของบุรุษตรงหน้าเกลี้ยงเกลา เส้นผมหยักศกที่ปิดทับด้วยหมวกสีขาวของชาวตะวันตกยิ่งทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าดูดีมีฐานะไม่น้อยเลยทีเดียว



         แต่สัญชาตญาณในใจของนัตสึกินั้นบอกให้เขาหนีไปให้ไกล คนตรงหน้า.....อันตราย 



         "อ่า.. คุณช่างน่าสนใจ เด็กชายที่โดนคำสาปแต่กลับซุกซ้อนสิ่งวิเศษเอาไว้" นิ้วทั้งห้าลูบตามกรอบหน้าอ่อนเยาว์ เล็บของเขานั้นกรีดผิวจนมีเลือดไหลซิบออกมา

         "ฮึก! ปล่อยข้านะ!" มือเล็กพยายามดันคนตรงหน้าให้ออกไป แต่กลับไม่สะเทือนเลยสักนิดราวกับโดนลมพัดผ่านก็ไม่เชิง



         แผล่บ



         "เลือดคุณหอม หวาน แถมร้อนรุ่มเหมือนผมกำลังโดนแผดเผาเลย ผมชักถูกใจแล้ว" ลิ้นของบุรุษตรงหน้าเลียตามแผลราวกับเด็กที่ไม่รู้จักพอ มุมปากเหยียดยิ้มอย่างพึงพอใจ

         ผิดจากนัตสึกิที่หลบการกระทำอันน่าขยะแขยง น้ำตาไหลริน ความรู้สึกต่างๆตีกันจนเขาแทบรับไม่ไหว การที่มาโดนทำอะไรแบบนี้ ต่อหน้าทุกคน ช่างหน้าอาย จนไม่น่าให้อภัยได้


         "หืม.. ดวงตาของคุณเหมือนดอกฟูจิที่ผมเกลียดนัก แต่ผมให้อภัย เพราะคุณจะต้องมารับใช้ผมในฐานะอสูร"



         อสูร? 


         มันมีจริง ๆ งั้นเหรอ 


         ถ้างั้น!!!  
          


         "เจ้าหมายความว่- อื้อ!!"
     

         นิ้วชี้และนิ้วกลางได้ล้วงเข้าไปในลำคอของเด็กตรงหน้า กลั่นเลือดตัวเองแบ่งให้ในปริมาณที่สามารถแปลงเป็นอสูรที่ยอดเยี่ยมได้ เมื่อนำนิ้วออกจากโพรงปากได้มีน้ำลายสีใสและเลือดสีสดปะปนอยู่ ดวงตาสีแดงหรี่ลงเล็กน้อยมองภาพตรงหน้าอย่างพอใจ

         มือเล็กที่จิกลงแขนของเขายิ่งลงแรงมากขึ้น เพื่อระบายความทรมานที่ก่อตัว ดวงตาสีม่วงสว่างเริ่มเปลี่ยนสี เข้มขึ้นราวกับโดนความมืดกลืนกิน
         


         "อัก! แค่ก! แค่ก!" 


         ทรมาน...


         เหมือนตายทั้งเป็น


         ช่วยด้วย


         พี่ทันจิโร่... พี่เนซึโกะ... ทุกคน..  









    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ musan gif




    -TALK-

         สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน! หนีมาเปิดเรื่องใหม่ 55555 เรื่องนี้ไรเตอร์คิดไว้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว แต่เพิ่งมาเริ่มเขียนเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง 

         เพราะเรื่องนี้มีที่อ้างอิงที่เยอะกว่าเลยเขียนลื่นกว่าค่ะ แฮะๆ ยังไงก็ขอฝากเรื่องใหม่ไว้ด้วยนะคะ 


         อย่าลืมคอมเมนต์และกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคะ


         


         รักทุกคนนนนนนนนนนน~<3

     

          
       


          
         

         

         
          
           

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×