ตอนที่ 17 : - 17 : jealous | mingyu x wonwoo ft.eunwoo of ASTRO 。
JEALOUS | MINGYU x WONWOO ft. EUNWOO of ASTRO
pg – 15 / romantic
... ใครบอกว่าจอนวอนอูเป็นคนด้านชาไร้ความรู้สึก
ถ้าไม่มาเห็นตอนนี้ก็ไม่รู้สิ่นะว่าจอนวอนอูก็หงุดหงิดเป็น ! …
แม้ว่าตารางงานทุกอย่างของ จอนวอนอู ในช่วงนี้จะถูกยกเลิกไปด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ทางสังกัดต้องการให้เขาพักผ่อนและรักษาตัวให้หายไวๆ แต่ด้วยความดื้อรั้นของตัวเองในช่วงแรกเขาพยายามบอกกับทุกๆคนว่าทุกอย่างโอเค ขอขึ้นไปแสดงบนสเตจกับเมมเบอร์ แต่ก็โดนปฏิเสธแถมต้องทนฟังคำดุด่าทั้งจากเมมเบอร์ด้วยกันเองและคนในบริษัท สุดท้ายวอนอูคนดื้อแพร่งก็ต้องมานั่งจุมปุ๊กอยู่แต่ในห้องนั่งเล่นของหอพักที่มีเพียงแค่โซฟาเบาะนุ่มสีเทากับโทรทัศน์จอแบนสี่สิบสองนิ้วเครื่องใหญ่เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ด้วยความที่วอนอูมีเวลาว่างมาตลอดทั้งวัน เขาก็คิดอยู่ว่าควรจะทำอะไรดีในเมื่อตอนนี้ก็ว่างมากแต่ก็ไม่มีอารมณ์อยากแต่งเนื้อเพลงแร็พอะไรทั้งนั้น จะลุกไปทำความสะอาดหอก็เพิ่งนึกได้ว่าเมื่อเช้าก็เพิ่งทำไป หรือควรจะนอนหลับแต่ก็เพิ่งตื่นได้ไม่นานนี่เอง จนสุดท้ายก็ต้องมาจบลงที่การนั่งดูโทรทัศน์ที่โซฟาหลังใหญ่พร้อมขนมกรุบกรอบในมืออีกหนึ่งถุงและน้ำโซดาขวดใหญ่อีกหนึ่งขวด ทั้งๆที่รู้ดีแก่ใจว่าตัวเองเพิ่งมีปัญหาเรื่องกระเพาะและลำไส้มาหมาดๆ
ป่วยไม่เจียมนั้นไซร้คือจอนวอนอู
เขาจำได้แม่นว่าช่วงเวลาหกโมงกว่าๆจนถึงหนึ่งทุ่มครึ่งโดยประมาณ ช่องรายการเพลงอย่างเอ็มเคาท์ดาวน์กำลังออกอากาศอยู่แน่นอน และวอนอูก็เดาไม่ผิดเมื่อนิ้วเรียวกดปุ่มหมายเลขช่องโทรทัศน์ที่คุ้นเคยกันดี และพบว่ารายการยังคงออกอากาศอยู่ แผ่นหลังเล็กพิงพนักโซฟาอย่างสบายใจ แน่นอนว่าเขากำลังตั้งใจรอดูวงของตัวเองอย่าง เซเว่นทีน ขึ้นแสดงบนเวทีอยู่แล้ว แต่ทว่าเมื่อมองนาฬิกาที่เข็มชี้บนหน้าปัดว่าในเวลานี้ปาไปเกือบหนึ่งทุ่มครึ่งแล้ว เขาทำได้แค่ถอนหายใจด้วยความเซ็งที่มาเปิดโทรทัศน์ดูการแสดงของเพื่อนร่วมวงช้าเกินไปเพียงเพราะกำลังนั่งคิดนอนคิดว่าจะทำอะไรดี
ในเวลานี้รายการเพลงอย่างเอ็มเคาท์ดาวน์กำลังฉายการประกาศผลคะแนนเพลงติดชาร์ตอันดับหนึ่งในสัปดาห์นี้ระหว่างรุ่นพี่วันเดอร์เกิร์ลสและรุ่นพี่ยอจาชินกูว่าวงไหนจะชนะที่หนึ่งไป นัยน์ตาเรียวยังคงจ้องมองจอผลคะแนนที่กำลังรันอยู่บนจอโทรทัศน์ แน่นอนว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องคะแนนเหล่านั้นหรอกในเมื่อทั้งสองวงนั้นวอนอูเองก็นับถือในความสามารถอยู่แล้ว จนเมื่อประกาศผลรางวัลว่ายอจาชินกูเป็นผู้ชนะในสัปดาห์นี้ วอนอูก็เผลอยกมือขึ้นมาปรบแสดงความยินดีด้วยความเคยชิน มือเรียวหยิบขนมออกมาจากถุงหนึ่งชิ้นก่อนจะหยิบส่งเข้าไปในปากแล้วเคี้ยวกร้วมบดมัน แน่นอนว่าจอนวอนอูก็ยังคงรอดูจนจบรายการ ขอแค่ให้เขาได้เห็นเพื่อนร่วมวงยังยืนอยู่บนเวที แค่เศษเสี้ยวเขาก็ดีใจแล้ว แต่ทว่าเพียงภาพตัดไปในช่วงอังกอร์ปิดท้ายเท่านั้น แผ่นหลังเล็กที่พิงพนักจนได้ที่ก็รีบเด้งตัวขึ้นนั่งตัวตรง นัยน์ตาเรียวเล็กหรี่ลงมอง พอเห็นว่าภาพตรงหน้ามันชัดเจนอย่างที่คิด คิ้วสวยกลับกระตุกด้วยความหงุดหงิด มือเรียววางถุงขนมในมือลงบนโต๊ะทันที
ตอนนี้จอนวอนอูเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเป็นเท่าตัวโดยไม่รู้ว่าทำไมถึงควบคุมอารมณ์ได้ยากกว่าทุกครั้ง กรอบสายตายังคงจับจ้องโทรทัศนจอแบนกว้างที่กำลังฉายภาพที่พิธีกรหนุ่มหน้าใหม่ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมวงของเขากำลังเดินโค้งทักทายรุ่นพี่บนเวที แต่แล้วก็ต้องหยุดเมื่อพิธีกรหนุ่มเห็นว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่าง ชาอึนอู แห่งวงแอสโทรเดินเข้ามาทักทายด้วยความสนิทสนม ซ้ำร้ายฝ่ามือเล็กข้างขวากลับแตะบนสะโพกแกร่งของคนตัวสูงเบาๆโดยไม่รู้ตัว อาจจะเป็นเพราะความสนิทสนมหรืออะไรก็ตาม ตอนนี้ภาพนั้นยังคงวนเวียนอยู่ภายในสมองแม้ว่าคนตัวโตจะกวักมือเรียกพี่รองในวงที่เป็นพิธีกรเช่นเดียวกันลงจากเวทีไปแล้ว ทุกอย่างจบลงภายในไม่ถึงห้าวินาที แต่สิ่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่คือ อารมณ์ขุ่นมัวของจอนวอนอู
เขาหงุดหงิดที่ คิมมินกยู ยังคงยืนคุยอย่างไม่รู้สึกรู้สาแถมยังส่งยิ้มไปในเพื่อนรุ่นเดียวกันแบบนั้น
มันคือความหงุดหงิดที่ไร้เหตุผลเมื่อย้อนกลับไปมองว่า ทำไมถึงหงุดหงิดกับเรื่องแบบนี้ ....
มือเรียวเอื้อมไปหยิบรีโมทที่วางใกล้ๆตัวก่อนจะกดปุ่มปิดโทรทัศน์พร้อมกับฟุบหน้าลงบนหมอนอิงใบใหญ่ พร้อมถอนหายใจออกมาอีกเฮือก มือเรียวยังคงกำแน่นไม่คลายจนฝ่ามือมีแต่รอยเล็บ ในตอนนี้ห้องนั่งเล่นขนาดกว้างกลับไม่มีเสียงรบกวนใดๆ มีเพียงความเงียบและเสียงถอนหายใจราวกับคนอึดอัดในใจเท่านั้น
แม้จะพยายามควบคุมสติอารมณ์ตัวเองมากแค่ไหน แต่ความจริงบางอย่างที่เกิดขึ้นมาในใจกลับยิ่งทำให้รู้สึกแย่เหมือนเดิม …
x.
“ วอนอู ! ”
“ … ”
“ จอนวอนอู ! ”
“ … ”
“ จอนวอนอู มากินข้าวได้แล้ว ! ”
เสียงทุ้มของลีดเดอร์ประจำวงอย่าง ชเวซึงชอล ดังขึ้นตรงหน้าประตูห้องนอนที่คนป่วยนอนอยู่ถึงสามครั้งสามครา แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้าของชื่อจะโผล่หน้าออกมาจากห้องแล้ววิ่งไปหาของกินเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวัน นัยน์ตากลมโตเหลือบไปเห็นถุงขนมที่เปิดปากถุงไว้อยู่ถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะพร้อมกับขวดน้ำโซดาก็ได้แต่ถอนหายใจ ปกติแล้วจอนวอนอูจะเป็นคนที่รักความสะอาดพอสมควร เมื่อกินขนมเสร็จแล้วเจ้าตัวมักจะเอาไปเก็บไว้ในตู้ขนมหรือไม่ก็ในตู้เย็น แต่ครั้งนี้กลับวางทิ้งไว้แบบนั้น จะว่าลืมเก็บก็คงไม่ใช่เพราะถุงขนมก็ใหญ่กระแทกตาคนเอาเรื่อง มันผิดวิสัยเกินไปจริงๆแล้วล่ะ
วอนอูเป็นอะไรวะ ...
“ มีอะไรเหรอพี่ซึงชอล ? ” เด็กหนุ่มร่างสูงหล่อเดินเข้ามาถามพลางปลดผ้ากันเปื้อนของตนเองที่เพิ่งใส่ตอนทำอาหารออก ตั้งแต่ที่ คิมมินกยู กลับมาถึงหอเขาก็ไม่ได้เข้าไปในห้องไหนเลยนอกจากเลี้ยวเข้าไปในห้องครัวเพื่อทำอาหารมื้อเย็นให้ทุกคน จึงไม่รู้ถึงความเป็นไปในวันนี้ของพี่ชายที่ป่วยอยู่
“ วอนอูไม่ยอมออกมากินข้าว ก็รู้แล้วนะว่ากินขนมเยอะแต่ก็ต้องกินข้าวด้วยดิ่ ปวดท้องขึ้นมาอีกจะทำยังไง ”
“ อ๋า พี่เขาคงง่วงรึเปล่า ? ”
“ จะยังไงก็เถอะ เข้าไปปลุกพี่นายเลยไป ” ว่าจบ ซึงชอลก็เดินออกห่างจากประตูห้องของคนเจ้าปัญหาเพื่อเดินไปดูเด็กๆกินข้าวเย็นในห้องทานข้าว เหลือก็เพียงแต่ร่างสูงโปร่งยังคงยืนอยู่หน้าห้องนอนของพี่ชายคนรองในทีมฮิปฮอปที่ไม่มีท่าทีว่าบานประตูจะถูกเปิดออกแต่อย่างใด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ พี่วอนอู ”
“ ... ”
“ พี่วอนอู ผมขอเข้าไปนะ ”
ไม่รอฟังคำขออนุญาตใดๆจากเจ้าของห้อง ร่างหนาถือวิสาสะหมุนลูกบิดประตูเพื่อเปิดประตูห้องนอน ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในห้องและล็อกประตูห้องทันที สองขายาวเดินตรงไปที่เตียงหลังเล็กที่มีร่างของใครบางคนกำลังซุกตัวอยู่ในผ้าห่มสีฟ้าผืนหนาหมายจะเอื้อมไปแตะเพื่อปลุกให้คนเป็นพี่ตื่นไปทานอาหารมื้อเย็นร่วมกับทุกคน แต่ทว่ายังไม่ทันที่ปลายนิ้วจะแตะถึงไหล่บาง เสียงทุ้มต่ำเอ่ยดังขึ้นให้คนถือวิสาสะเข้ามาในห้องต้องชะงัก
“ หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ”
“ ไปกินข้าวกันเถอะพี่วอนอู ผมทำอาหารอร่อยๆไว้เยอะเลยนะ ”
“ ไม่อยากกิน ”
“ พี่เป็นอะไรรึเปล่า ? ” ถึงมินกยูจะไม่ได้เห็นกับตาว่าตอนนี้ร่างเพรียวกำลังแสดงท่าทางและหน้าตาออกมาแบบไหน แต่เขาจับน้ำเสียงของอีกฝ่ายได้ว่ากำลังไม่พอใจหรือแถวบ้านเรียกว่า น้อยใจ อยู่แน่ๆ พอนึกแบบนั้น รอยยิ้มกว้างก็ยกขึ้นมาประดับบนใบหน้าหล่อทันที
.. เขามีสิทธิดีใจได้ไหมนะที่คิมมินกยูคนนี้ทำให้จอนวอนอูคนซึนน้อยใจได้แบบนี้น่ะ
ร่างสูงโปร่งก้าวเข้าไปใกล้เตียงที่มีคนจับจองพื้นที่อยู่ก่อนหน้า แล้วค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงตรงขอบเตียง มือหนายกขึ้นมาแตะสะโพกมนของคนเป็นพี่ ก่อนจะถูกมือเรียวฟาดลงมาที่หลังมือจังๆ วอนอูตวัดสายตามามองด้วยแววตาขุ่นเคือง และนั่นก็ทำให้มินกยูต้องตั้งคำถามขึ้นมาในใจอีกแล้วว่า คนตรงหน้าเกิดอารมณ์ฉุนจากอะไรมา อันที่จริงมินกยูไม่ใช่คนใจเย็นขนาดที่ว่ายอมปล่อยผ่านทุกอย่างเพื่อความสบายใจของตัวเอง เรื่องนี้เขาต้องการเคลียร์กับคนตรงหน้าจริงๆ
ไม่อย่างนั้น จอนวอนอูจะไม่ยอมกินข้าวเย็นวันนี้ที่เขาอุตส่าห์ตั้งใจทำ
แล้ว คิมมินกยูคนนี้ ก็จะเป็นห่วง ...
“ … ”
“ ... ไม่น่ารักเลย อย่าดื้อสิ่พี่ ลุกไปหาอะไรกินกันเถอะ ”
“ ฉันไม่ใช่คนน่ารักแบบอึนอูหรอก ฉันรู้ตัวดี ”
ใบหน้าหวานสะบัดหนีคนเป็นน้องที่มองอยู่ทันที แต่บางทีวอนอูก็อาจจะลืมไปว่าตัวเองนั้นไม่ได้มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรมากนัก แค่ทำนิสัยแบบนี้มันก็เกินไปแล้วจริงๆ ริมฝีปากบางได้แต่ขบเม้มมันด้วยความหงุดหงิดที่เผลอแสดงท่าทีที่มากเกินไปให้รุ่นน้องตัวโตเห็น
เพียงไม่กี่วินาที มินกยูก็สามารถประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นอย่างไร และนั่นก็ยิ่งทำให้คนเป็นรุ่นน้องยกยิ้มกว้างขึ้นมาอีก ร่างสูงขยับตัวขึ้นคร่อมร่างเพรียวที่หันข้างหนี พอคนใต้ร่างเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังคร่อมตัวเขาอยู่ก็แทบจะหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าทันที แต่ก็ยังช้ากว่าคนตัวโตที่ดึงผ้าห่มออกได้ทัน นัยน์ตาคมสบมองใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสีระเรื่อไม่วางตา และสายตาที่ดูจริงจังกลับทำให้ใบหน้าของวอนอูต้องเสหลบไปด้านข้าง
“ พี่หึงผมเหรอ หืม ? ”
“ หึงอะไร ? ”
“ พี่พูดถึงอึนอูขนาดนี้แสดงว่าพี่เห็นมันสิ่นะ ”
มินกยูก็พอจะรู้บ้างแล้วว่าเหตุผลที่ร่างเพรียวแสดงท่าทีแบบนี้มันเป็นเพราะเมื่อตอนเย็นที่เพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างอึนอูเผลอมาแตะสะโพกตอนที่เจอกันบนเวที อันที่จริงก็แค่ทักทายทั่วๆไปตามประสาเพื่อน เขาก็ไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว แต่ทว่าอีกคนกลับไม่คิดแบบนั้นนี่สิ่ แถมยังทำท่าทางน่าฟัดแบบนี้อีก ยิ่งเห็นนัยน์ตาเรียวมองค้อน จมูกโด่งรั้นได้รูปและริมฝีปากเรียวเล็กที่เบ้ลงระคนน้อยใจแบบนี้ มินกยูเองก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนหรอกนะ
... ใครบอกว่าจอนวอนอูไร้ความรู้สึก คงต้องชวนมาดูในหอแล้วล่ะว่าจอนวอนอูแสดงความรู้สึกเยอะกว่าที่คิดอีก แต่ก็ไม่ให้ดูหรอกนะ เพราะเขาหวง !
“ ก็ถ้าไม่อยากให้เห็น วันหลังก็ไปแอบทำหลังเวทีโน่น ”
“ แอบทำหลังเวทีผมไว้ทำกับคนที่อยากทำดีกว่า ” ไม่ว่าเปล่า ใบหน้าหล่อยิ่งโน้มลงมาจนจมูกโด่งสวยแทบจะชิดติดกับอวัยวะเดียวกันของคนใต้ร่าง สายตาของทั้งคู่อยู่ใกล้กันมากขึ้น มากจนสามารถมองเห็นว่าในดวงตานั้นมีเพียงแค่อีกฝ่ายอยู่ในสายตาเท่านั้น
“ ก็ไปบอกอึนอูโน่น ไม่ต้องมาลงกับฉัน ”
“ แต่ผมกับอึนอูไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ” สิ้นคำพูดจากคนเป็นรุ่นน้อง วอนอูก็ถึงกับหันมามองมินกยูที่ยังคงมองหน้าเขาไม่เลิก ราวกับยกภูเขาลูกโตออกจากอก วอนอูรู้สึกว่าหายใจคล่องมากขึ้นกว่าเมื่อตอนเย็นมาก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่วางใจอยู่ดี
“ ... แต่อึนอูชอบนายนี่ ”
“ แต่ผมไม่ได้ชอบอึนอู ”
“ … ”
“ ผมมีคนที่ชอบแล้ว ”
… ตบหัวแล้วลูบหลัง คำเปรียบเปรยนี้คงใช้ได้ดีในสถานการณ์นี้เลยก็ว่าได้
ใบหน้าของวอนอูชาวาบขึ้นมาหลังจากที่เพิ่งโล่งใจไปไม่ถึงหนึ่งนาที อยู่ๆสายตาก็พร่ามัวอย่างไร้เหตุผล คงเป็นเพราะหยดน้ำใสที่อยู่ๆก็กลั่นตัวออกมาจากดวงตาก็เป็นได้ ใบหน้าหวานรีบหลบหน้าอีกฝ่ายที่ดูเหมือนว่าจะไหวตัวทันแล้วว่าเขากำลังจะร้องไห้ มือหนายกประคองใบหน้าของคนเป็นพี่ที่พยายามเสหลบก่อนใช้ข้อนิ้วเกลี่ยหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาอย่างแผ่วเบาพร้อมยกรอยยิ้มบางๆให้ การกระทำแสนอ่อนโยนยิ่งทำให้ภายในอกของวอนอูยิ่งเจ็บมากกว่าเดิม
“ … ”
“ ไม่ร้องไห้นะพี่วอนอู ”
“ นายต้องการอะไรกันแน่ .. มินกยู ”
“ ผมต้องการพี่ไง พี่วอนอู ”
ใบหน้าหล่อของมินกยูโน้มหน้าลงมาประทับริมฝีปากเรียวของวอนอูเพื่อเป็นการยืนยันในคำพูดและความรู้สึก พื้นว่างนั้นจะถูกปิดสนิทจนไร้ช่องว่างใดๆจะเข้ามาแทรก มือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นมาประคองใบหน้าเรียวของคนใต้ร่างเอาไว้อย่างทะนุถนอม ส่วนอีกข้างนั้นยกขึ้นคว้ามือเรียวของคนเป็นพี่มาแตะลงบนสะโพกของตนข้างที่เป็นประเด็นให้หึงหวง ปล่อยให้นิ้วเรียวจิกลงไปบนสะโพกของตนเพื่อระบายอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่นขึ้นมา
สาบานได้ว่าคิมมินกยูคงติดใจรสจูบของจอนวอนอูไปอีกนาน เพราะความนุ่มหยุ่นราวกับเยลลี่นิ่มที่มักเห็นวอนอูกินแทบทุกวัน ผสมกับความหวานหอมในโพรงปากที่หาสาเหตุไม่ได้ว่าเหตุใดถึงช่างหวานจนไม่อยากผละออก ขนาดที่ว่าใช้ลิ้นหนากวาดต้อนความหวานทั่วโพรงจนแล้วจนเล่า ความหวานหอมนั้นก็ยังไม่หมดไป จนมินกยูต้องจำใจค่อยๆผละออกจากริมฝีปากนุ่มอย่างอ้อยอิ่ง วอนอูที่ได้โอกาสกอบโกยลมหายใจก็รีบสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ
“ ยังไม่รู้อีกเหรอว่าผมชอบพี่ .. คนที่ผมชอบ คือจอนวอนอู ”
“ … ” พอได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของวอนอูก็รู้สึกถึงความเห่อร้อนแปลกๆ และก็ยิ่งทำให้นัยน์ตาเรียวเสมองไปทางอื่นด้วยความเขินอาย
“ ผมรู้ ว่าพี่เองก็ชอบผมมากเหมือนกัน ใช่ไหมล่ะ หืม ? ”
“ ... ทำมาเป็นพูดดีไป ”
“ สะโพกของผม ผมยกให้พี่เลย ไม่ใช่แค่สะโพกนะ ทั้งตัวและหัวใจเลย ฉะนั้นเลิกหึงนะครับ ”
มินกยูประคองใบหน้ามนให้หันมามอง แต่แล้วหัวใจของคิมมินกยูก็แทบกระตุกวูบเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาเรียวที่ช้อนมองด้วยแววตาไหววูบคลอน้ำใสระคนถูกจุดไฟบางอย่างจนเส้นความอดทนของเขาขาดสะบั้นลง มือหนาเริ่มซุกซนลูบไล้ผิวเรียนนิ่มของคนใต้ร่างผ่านสาปเสื้อจนวอนอูครางอือเสียงแผ่ว
... ข้าวเย็นคงไม่ต้องกินแล้วล่ะนะ
“ อ .. อื้อ ”
“ พี่ช่วยลบรอยมืออึนอูให้ผมหน่อยสิ่ ให้เป็นรอยมือพี่นะ ”
และปฏิบัติการลบรอยมือของชาอึนอูบนสะโพกเพื่อแทนที่ด้วยรอยมือของจอนวอนอูก็เริ่มขึ้นทันที ...
FIN.
- 160725 -
สวัสดีตอนที่สิบเจ็ดค่ะ
นี่คือฟิคชั่ววูบของเราเอง แง ถ้ากากไปขอโทษนะคะ T_T
อยู่ๆก็อยากแต่งเพราะเห็นโมเม้นต์มินกยูอึนอูเฉยเลย แหง่ะ
ส่วนเรื่องสเปเดี๋ยวขอคิดดูก่อนนะอิอิ หลอกให้อยากแล้วก็จากไปปปปปปปป
เอาเป็นว่าขอขอบคุณที่เสียเวลาเข้ามาอ่านด้วยน้า อย่าลืมคอมเม้นต์ให้กำลังใจกันหน่อยนะฮึก
ติดตามและให้กำลังใจกันได้เสมอ
ทั้งทางคอมเม้นต์ แฮชแท็ก #pnn17fic
หรือว่าจะเมนชั่นมาคุยก็ได้นะครัชชช ; w ;
เจอกันตอนถัดไป สวัสดีค่ะ !
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

และมินกยูคนนิสัยเฟรนด์ลี่ ขอบคุณพระเจ้าที่พูดตรงๆแบบไม่กั๊กนะคะ รู้สึกสดชื่นมาก ๆ ฮื่ออออออ
ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะ:)