ตอนที่ 6 : - 06 : please (O1/O2) | shownu x kihyun 。
PLEASE | SHOWNU x KIHYUN ft.CHANGKYUN
AU / pg – 15 / romantic
... โปรดรักฉันรักฉันเถอะนะ จะไม่ทำให้เธอเสียใจ
รู้ฉันสู้เขาไม่ไหว เทียบกับใครที่เธอมี ...
“ ขอร้องล่ะ .. ”
“ … ”
“ ให้โอกาสฉันได้เข้าไปดูแลนายแทนเด็กคนนั้นจะได้ไหม ? ”
ทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แก่ใจแต่เขาก็อยากจะขอร้องสักครั้ง ... แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
เพียงครั้งแรกที่ได้รู้จักชายหนุ่มหน้าหวานร่างเล็ก ยูกีฮยอน ความรู้สึกที่ก่อเกิดอยู่ภายในหัวใจของ ซนฮยอนอู ก็เรียกได้ว่าเขายอมเสี่ยงเทความรู้สึกที่มีหมดหน้าตักให้กับคนๆนี้อย่างไม่คิดว่าจะเสียเปรียบเต็มๆพร้อมรับความเจ็บปวดมาเป็นของปลอบใจแม้แต่นิดเดียว
แม้ว่าสถานะที่เป็นได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ก็เพียงแค่ ... เพื่อนสนิทที่รู้ใจที่สุด
ซนฮยอนอูและยูกีฮยอนรู้จักกันเมื่อตอนเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆ ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมกลุ่มผู้ชายทั่วไปเท่านั้น แต่เพราะพวกเขาต้องผ่านปัญหาอุปสรรคต่างๆนานามาด้วยกันมากมายเลยทำให้ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ที่จะเลื่อนขั้นกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน จากที่ต่างคนต่างไม่เคยสนใจอีกฝ่าย ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่โดยไม่ได้เหลียวมองเพื่อนคนใด กลายเป็นว่าพวกเขาไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ไม่เคยห่างกันแม้แต่ครั้งไหนๆก็ตาม พวกเขาทั้งสองต่างรู้เรื่องของอีกฝ่ายเป็นอย่างดีมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆในเซคชั่น
ฮยอนอูชอบรอยยิ้มของกีฮยอนยามที่เจ้าตัวเจอเรื่องราวดีๆหรือเรื่องสนุกๆแล้วมาแบ่งปันกัน เขาพยายามที่จะทำให้เพื่อนสนิทที่มีเพียงแค่คนเดียวมีความสุขให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เมื่ออยู่ด้วยกัน แค่เห็นกีฮยอนยิ้มตัวเขาก็รู้สึกดีเหมือนมีใครมาสูบลมให้หัวใจพองโต แล้วเขาก็เห็นถึงความจริงใจที่กีฮยอนมอบกลับมาให้ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทโดยไม่มีความรู้สึกอื่นแทรกเข้ามาในการกระทำนั้นๆ
จะมีเพียงซนฮยอนอูคนนี้เท่านั้นที่กำลังคิดไม่ซื่อต่อสถานะความเป็นเพื่อนที่เหนียวแน่นนี้
จนเมื่อพวกเขาเลื่อนขึ้นมาเรียนชั้นปีที่สอง กำแพงล่องหนที่มีชื่อว่า ความห่างเหิน เริ่มแทรกตัวเข้ามากั้นพวกเขาเอาไว้โดยไม่รู้ตัว คาบเรียนที่เริ่มไม่ตรงกันเพราะลงเรียนคนละตัว เวลาว่างเริ่มไม่ตรงกันเพราะถูกเวลาเรียนและเวลาทำโปรเจ็กต์ทับซ้อนกัน ฮยอนอูต้องปั่นงานที่โถมเข้ามาต่างๆนานา ส่วนกีฮยอนก็ต้องเคลียร์งานของรายวิชาที่ตนเองลง ยิ่งทำให้พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันอย่างที่เคยเป็น จากที่เคยพบเจอกันก็จะทักทายพูดคุยกันยาวๆ กลายเป็นว่าเขาทำได้แค่ยกยิ้มทักทายร่างเล็กเมื่อยามเดินสวนทางกันเท่านั้น เพราะว่าเวลาที่วุ่นวายเหมือนปมด้ายที่มัดกันจนยากที่จะแก้ปม ทำให้เขาไม่ได้รับรู้ข่าวสารจากกีฮยอนเลยแม้แต่น้อย
และก็ไม่ได้รู้ด้วยเช่นกันว่า เพื่อนสนิทที่เขารู้สึกพิเศษด้วยเพิ่งคบกับเด็กรุ่นน้องปีหนึ่งไปได้ไม่นานมานี้ … ถ้าไม่ได้ยินจากปากเจ้าตัวเองกับหูทั้งสองข้างนี้
‘ ฮยอนอู .. ’
‘ หืม ? ’
‘ คือ .. ’
‘ ดูทำหน้าเข้า มีอะไรรึเปล่ากีฮยอน ? ’
‘ เรา .. มีแฟนแล้วนะ ’
‘ ... ใคร ? ’
‘ .. เราคบกับชางกยูนเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ’
‘ … ’
‘ ขอโทษที่เพิ่งมาบอก … ’
‘ อืม ไม่เป็นไร ’
‘ เราไปแล้วนะ ไว้เจอกัน ’
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจ ถ้าจะเปรียบเทียบก็คงจะพูดได้ว่าเหมือนโดนคนที่แอบชอบมานานเดินคว้าไปเอาไม้เบสบอลมาตีแสกหน้าถึงสามครั้งรวดกะจะตีโฮมรันทำคะแนน และก็ทำสำเร็จด้วย ตอนนี้คงจะบรรยายใบหน้าที่แสดงความรู้สึกออกมาได้ไม่ถูกแน่ๆว่ากำลังแสดงสีหน้าอะไรออกมาให้อีกฝ่ายเห็น รู้แค่ว่าความเจ็บปวดหนึบในใจมันแล่นวนไปทั่วจนร่างแทบจะทรุดลงไปแต่เขาก็ยังฝืนยืนส่งคนตัวเล็กกว่าอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งเด็กหนุ่มรุ่นน้องคนที่ได้ครอบครองหัวใจของเพื่อนสนิทเดินเข้ามาพร้อมพาร่างเล็กออกไปจากจุดที่ยืนอยู่ เขาถึงจะทรุดนั่งลงที่ม้าหินอ่อนด้วยความหมดแรงและอ่อนล้าทั้งกายและหัวใจ
ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ได้ยินชื่อ อิมชางกยูน จากปากของเพื่อนตัวเล็ก เด็กหนุ่มคนรักของกีฮยอนคนนั้นเป็นรุ่นน้องคณะเดียวกันกับพวกเขาทั้งคู่ ฮยอนอูรับรู้ตั้งแต่ช่วงเทศกาลรับน้องแล้วว่ารุ่นน้องคนนี้หมายจะจีบเพื่อนสนิทของเขา คนที่ดันมาเล็งเป้าหมายเดียวกัน แค่มองตาเพียงปราดเดียวก็รู้ถึงความคิดความอ่านของคนเป็นรุ่นน้องได้ไม่ยาก แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ที่รุ่นน้องร่างสูงจะรุกหนักจนเพื่อนสนิทของเขาตกลงปลงใจด้วยอย่างง่ายดายแบบนี้ ถ้าหากเขาลองรุกหนักแบบนั้นบ้างตั้งแต่แรก คงไม่ต้องมานั่งเสียใจอย่างนี้แน่ๆ
และที่ผ่านมาเขาจะถนอมน้ำใจกีฮยอนเสียตั้งนานไปเพื่ออะไรถ้าไม่ใช่เพราะกลัวอีกฝ่ายอึดอัด ?
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ...
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ เรียกให้เจ้าของห้องที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงขนาดกว้างปานกลางต้องเหลือบสายตาคมไปมองบานประตูห้องที่เป็นต้นกำเนิดเสียงเคาะนั้น ฮยอนอูถอนหายใจออกมาเบาๆเพื่อไล่ความรู้สึกปวดหนึบในใจที่มันค้างคาไว้ไม่จางหายไปตั้งแต่สามเดือนที่แล้ว ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วเดินไปเปิดประตูห้องเพื่อต้อนรับแขกที่มายืนอยู่หน้าห้อง แต่แล้วก็ทำได้แค่ยืนนิ่งไม่เอ่ยทักทายแขกไม่ได้รับเชิญที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้องเท่านั้น
“ ... ”
“ ฮ .. ฮึก ” ร่างเล็กที่แสนคุ้นตาและคุ้นเคยกันดียืนอยู่ตรงหน้าโดยมีประตูห้องกั้นพวกเขาเอาไว้ หากแต่การมาเยือนครั้งนี้เขากลับไม่ชอบเอาเสียเลย ใบหน้าน่ารักที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตาสีใส จมูกโดงรั้นขึ้นสีแดงระเรื่อ ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นที่จะเริ่มจะติดขัดจนหายใจไม่ทัน ร้อนให้คนเคยเป็นเพื่อนสนิทต้องคว้าร่างเล็กเข้ามาในห้องพร้อมโอบร่างเข้าสู่อ้อมกอดแกร่งนั้นทันทีที่เห็นภาพที่บาดตาบาดใจตรงหน้า
... คงจะยังไม่เคยบอกไปว่า ซนฮยอนอูไม่ชอบเวลาที่ยูกีฮยอนร้องไห้แบบนี้เลยจริงๆ ...
“ เป็นอะไรไป ร้องไห้ทำไม กีฮยอน ? ”
“ ฮึก .. ฮยอนอู ... ฮืออออออออ ” กีฮยอนปล่อยน้ำตาร้องไห้เสียยกใหญ่ ใบหน้าซบลงกับแผงอกแกร่งพร้อมยกมือกำอกเสื้อยืดตัวโคร่งของเพื่อนสนิทเอาไว้แน่น การกระทำเช่นนี้ยิ่งทำให้อีกฝ่ายถึงกับร้อนใจมากขึ้นไปอีก
“ เป็นอะไรไปกีฮยอน ใครทำอะไรนาย บอกฉันมาสิ่ ”
“ ฮึกกกก ... ป .. เปล่า .. ” ศีรษะทุยส่ายไปมาปฏิเสธที่เล่าเรื่องราวสาเหตุที่เขาร้องไห้ออกมา คิ้วเข้มเริ่มขมวดลงมา จะให้เขาสบายใจได้อย่างไรในเมื่อยังไม่รู้สาเหตุที่เพื่อนสนิทตัวเล็กร้องไห้แบบนี้
“ นายคงจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนโกหกไม่เนียน บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น ”
“ .. ฮึกกก .. อ .. อึก ”
“ กีฮยอน ” ฮยอนอูเอ่ยเสียงทุ้มเย็นเป็นการกดดันให้ร่างเล็กเอ่ยออกมาเสียที และวิธีการนี้ก็ยังคงได้ผลอยู่เสมอ กีฮยอนเริ่มเปิดปากตอบในสิ่งที่เขาค้างคาใจได้เสียที
“ ฮยอนอู .. ฮึกกก ”
“ ... ”
“ ฉ .. ฉันทะเลาะกับชางกยูน ... ฮือออออ ”
“ เรื่อง ? ” พอได้รู้ถึงสาเหตุที่เพื่อนคนน่ารักของเขาต้องเสียน้ำตา ความโกรธเริ่มปะทุอยู่ภายในอก มือหนากำเข้าหากันแน่น ถ้าไม่ติดว่าคนตัวเล็กยังคงกอดร่างของเขาเอาไว้อยู่แบบนี้ ป่านนี้เขาอาจจะวิ่งไปเอาเลือดเลวๆออกจากหัวเจ้าเด็กนั่นไปแล้ว
“ เด็กนั่นมันแอบมีคนอื่น … ฮึกกก .. แล้วฉันก็จับได้ ”
“ ไอ่เลวนั่นมันอยู่ที่ไหน ? ”
“ ฮึก .. ม .. ไม่นะ ... อย่าไปทำอะไรชางกยูนเลยนะ ฉันขอร้องล่ะ ” กีฮยอนยังคงรั้งร่างหนาเอาไว้ไม่ยอมให้อีกฝ่ายขยับตัวออกไปจากเขตประตูห้อง แต่นั่นก็ไม่เจ็บใจเท่าการที่คนที่เขารักสุดหัวใจกลับยังคงปกป้องคนที่ทำร้ายจิตใจคนที่เขารักมากแบบนี้
“ ทั้งๆที่มันทำกับนายแบบนี้เนี่ยนะ ! นายยังจะปกป้องมันอีกรึไง ?! ”
“ ฮือออ ... ”
“ ถ้ารู้ว่าฉันจะต้องไปเอาเลือดออกจากหัวของมันตั้งแต่แรกที่ได้ยินเรื่องนี้ แล้วนายจะมาร้องไห้ให้ฉันเห็นแบบนี้ทำไม ? ”
“ ... ฮึก ”
“ ฉันไม่ควรปล่อยให้นายเดินแยกไปจากฉันเลย ให้ตายสิ่ ”
“ ฮืออ .. ข ... ขอโทษ ”
“ นายกำลังทำให้ฉันสูญเสียความเป็นตัวเองอยู่นะรู้รึเปล่า ”
ทั้งๆที่รู้ว่าเขาคงจะรู้สึกแย่มากที่ดูแลเพื่อนสนิทได้ไม่ดีจนต้องเสียน้ำตาแบบนี้ คนตรงหน้าก็ยังจะทำมันลงไป แม้ว่าเจ้าตัวจะรับรู้ว่าเขาเองก็เจ็บปวดอยู่ไม่น้อยแท้ๆ ร่างหนาทรุดตัวลงไปนั่งปลอบเพื่อนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังนั่งร้องไห้อยู่หน้าประตูห้องที่ถูกปิดสนิท มือหนาเอื้อมออกไปซับหยดน้ำตาที่ไหลไม่หยุดอย่างแผ่วเบาราวกับว่าใบหน้าน่ารักตรงหน้าเป็นแก้วใสที่ร้าวเป็นรอยกว้างพร้อมจะแตกสลายไปอยู่ตลอดเวลา ฮยอนอูยกมือลูบศีรษะเล็กเพื่อปลอบประโลมจิตใจของกีฮยอนแม้ว่าเขาจะไม่ชอบยิ้มแต่ก็พยายามทำให้เพื่อนสบายใจเท่าที่จะทำได้ จนผ่านไปสักพักใหญ่ ร่างเล็กก็เริ่มหยุดร้องไห้ได้เสียที ความเบาใจก็เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น
“ ตอนนี้ ... ฉันกับชางกยูนเรากำลังอยู่ในระหว่างที่ห่างๆกันน่ะ ” จู่ๆ คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีประเด็น เรียกให้คนฟังเบนสายตาที่มองไปรอบห้องให้มามองต้นเสียงอย่างช่วยไม่ได้
“ … ”
“ ฉันน่าจะเชื่อนายให้มากกว่านี้สักหน่อย ไม่น่าหลงคารมคำหยอดหวานๆนั่นเลย ”
“ อืม ... แล้วจะเอายังไงต่อ ”
“ ก็ไม่เอาไงหรอก ... ” ได้แต่พูดและยกยิ้มสมเพชให้กับตัวเอง มือเล็กกุมเข้าหากันแน่นอย่างไร้ที่พึ่งพา
“ … ”
“ ฉันก็แค่อยากขอเวลาพักใจให้มันนานกว่านี้หน่อย ที่ผ่านมาฉันเหนื่อยมากเกินไป ”
“ ช่วงนี้นายก็พักๆเรื่องของเด็กนั่นไปก็ดีนะ หาอะไรที่รู้สึกว่าทำแล้วสบายใจบ้าง ” หากแต่สายตาเรียวกลมที่ยังคงจดจ้องใบหน้าคมหล่อของคนข้างกายดันสบเข้าตรงกับจังหวะที่คนตัวโตกว่าหันหน้ามามองใบหน้าน่ารักที่ไร้รอยยิ้มสดใสด้วยความบังเอิญ และทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง
สาบานได้ว่าในแววตาของกีฮยอนที่สะท้อนออกมานั้นมันกำลังทำให้หัวใจของฮยอนอูรู้สึกพองโตสลับกับฟีบแบน นัยน์ตากลมทอดมองเขาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด ต้องการที่พึ่งพา ต้องการรักษาบาดแผลในหัวใจ หากแต่กลับลังเลที่จะให้เขาเป็นผู้รักษาบาดแผลฉกรรจ์นั้น แน่นอนว่าซนฮยอนอูไม่มีทางปฏิเสธที่จะเป็นผู้รักษาบาดแผลนั้น แต่เพราะเขารู้ว่าอีกฝ่ายคงรู้อยู่แล้วว่าตัวเขาเองนั้นคิดและรู้สึกเช่นไรกับเจ้าตัว หากแต่ทุกครั้งที่เกิดปัญหา บุคคลแรกที่ถูกนึกถึงก็หนีไม่พ้นเพื่อนสนิทที่สุด ฮยอนอูเชื่อว่ากีฮยอนสามารถมั่นใจได้ว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็จะพยายามสร้างรอยยิ้มให้เหมือนเมื่อก่อนไม่มีเปลี่ยนได้ นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าคนตัวเล็กจะเปิดใจรับได้มากสักแค่ไหน
“ แล้วจะให้ฉันทำอะไรล่ะหือ ? ” นัยน์ตากลมช้อนมองเพื่อนสนิทที่ยังคงปั้นหน้านิ่งตามฉบับของเจ้าตัวด้วยแววตาสงสัย
“ … อยากไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนรึเปล่าล่ะ ยูกีฮยอน ” และคำเชิญชวนที่คนตัวเล็กอยากได้ยินที่สุดหลังจากที่ไม่ได้ยินมานานหลายเดือนก็เปล่งออกมา นัยน์ตาเรียวกลมหยีลงเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนประดับบนในหน้านั้นทำให้เขารู้สึกโล่งใจที่เอ่ยชวนอีกฝ่ายทำให้สิ่งที่ไม่ได้ทำมานานนั้น
“ ก็ดีนะ ไม่ได้ไปเที่ยวกับนายมานานมากแล้วเหมือนกัน ”
โอกาสของเขาที่จะขอพื้นที่เล็กๆในหัวใจที่บอบช้ำของคนที่เขารักนั้นจะเพิ่มความเป็นไปได้ขึ้นมาบ้างหรือไม่นะ ?
TBC.
ห่างหายจากโลกฟิคชั่นมานานมากจริงๆ /ร้องไห้แรง/
เชื่อว่าหลายคนคงรอไม่ไหวและไม่รอไปแล้ว อย่าเพิ่งทำร้ายจิตใจเรา T_T
เรากลับมาพร้อมกลับฟิคกึ่งดราม่ากึ่งโรแมนติกแบ้วนะแง
คราวนี้เป็นตาพี่ชยอนูคนหล่อเจ็บปวดหัวใจเพราะแอบชอบเพื่อนสนิทตัวเองที่มีแฟนแล้ว
ฟิคเรื่องนี้ถือว่าหน่วงในระดับหนึ่งแต่จะพยายามทำให้มันไม่หน่วงมาก
และจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งฟรุ้งฟริ้งสไตล์เรานะก้ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไรท์คัมแบคพร้อมคู่ที่เรารอคอย
กรี๊กกกกกก
ตื่นเต้นนนนน ชอบง่ะ งืออออ
ไม่ต้องม่ามากนะ สงสาร พชน นางแก่แล้ว
555555555