ตอนที่ 4 : - 04 : plump | shownu x kihyun 。
PLUMP | SHOWNU x KIHYUN
AU / pg – 15 / romantic
... คนมันจะอ้วนแล้วมันไปหนักหัวใครวะ ? ...
เวลาที่เดินผ่านเพื่อนๆหรือรุ่นพี่ภายในมหาวิทยาลัย ใครต่อใครมักชอบพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ยูกีฮยอน เป็นคนอ้วน กินไม่เจียมหุ่น กินจนมีแต่ผลในแนวราบไม่มีผลในแนวดิ่ง หลับไม่ยอมออกกำลังกาย ไม่เคยคิดจะลดหุ่น ไขมันเละเทะ แม้ว่าเขาค่อนข้างจะเป็นคนที่โด่งดังในมหาวิทยาลัยพอสมควร แต่เรื่องที่ดังกว่าหน้าตาและความน่ารักของเขาก็คือความอ้วนนี่แหละที่เอาชนะได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องฉาวมากแค่ไหน ถ้าใครเปลี่ยนบทสนทนาเป็นเรื่องหุ่นของเขาทุกอย่างก็เกมโอเวอร์
แล้วไงวะ ?
บางทีกีฮยอนคนนี้ก็คิดนะว่าเขาจะกินแล้วเขาผิดอะไร ไม่ได้ยืมเงินใครมาซื้อกินเสียหน่อย ทุกอย่างที่กินเข้าไปล้วนใช้เงินตัวเองทั้งนั้น มีความสุขที่จะทำอะไรก็ทำไป อะไรที่มันทุกข์นักก็ไม่ต้องทำ และอีกอย่างคือหุ่นที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้คืออวบ ไม่ใช่อ้วน ไม่ใช่ท้วม และไม่ได้อืดตายเหมือนที่หลายๆคนพูดกันสนุกปาก บางครั้งเดินผ่านเพื่อนในเอกที่ยังนินทาเรื่องหุ่นของเขาก็แทบอยากจะชำแหละไขมันยัดปากเสียเหลือเกิน แต่ด้วยความเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคมเลยได้แต่ทำใจแล้วตอบรับอย่างดูดีไปเท่านั้น
ถึงจะมีหลายคนที่ชอบเอาเรื่องหุ่นของเขาไปพูดอย่างสนุกปาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครที่เลี่ยงจะพูดเรื่องนี้นะ อย่างน้อยก็มีส่วนหนึ่งก็แล้วกัน ...
“ กินเยอะๆนะลูก จะได้โตไวๆ ” ประโยคแสนดีที่ทำให้เขามีความสุขกับการกินจากคุณแม่
“ นอนหลับพักผ่อนเยอะๆ เราต้องใช้สมองอีกมาก ” นี่ก็ประโยคแสนน่ารักเอาอกเอาใจจากคุณพ่อ
“ กินๆไปเหอะ ตายไปก็ไม่ได้กินหรอกเชื่อดิ่ ” ส่วนนี่ก็ประโยคให้กำลังใจจากเพื่อนสุดน่ารักที่คบกันมานานเกือบครึ่งชีวิตอย่าง อีมินฮยอก
แต่ก็นั่นล่ะ ... คนที่เข้าใจเขาก็มีแค่นั้น ส่วนที่เหลือก็เป็นเปอร์เซ็นต์มากที่เยาะเย้ยกับความอ้วนของเขา ที่หนักสุดของการนินทามันมาจากปากผู้หญิงคนหนึ่งในคณะที่พูดลอยๆกระทบไขมันเขาจนบาดเจ็บหนักมากถึงมากที่สุด
‘ อ้วนแบบนี้จะมีคนชอบเรอะ ไม่มีทางล่ะ ... ใครๆเขาก็ชอบคนหุ่นดีทั้งนั้น ’
งานเจ็บขอให้บอก ถึงเห็นว่าเขาเป็นคนอวบแบบนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีหัวใจรักใครเลย ใครจะไปรู้ว่ายูกีฮยอน คนน่ารักประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์น่ะก็มีคนที่แอบชอบอยู่ในใจเหมือนกันนะ แต่ก็ได้แค่แอบชอบอยู่ในใจแค่นั้นแหละ เพราะระยะความห่างไกลของเขากับคนที่แอบชอบมันน้อยจนเรียกได้ว่าใกล้กันเกินไป บวกกับตำแหน่งของคนที่เขาแอบชอบเป็นถึงเดือนคณะ เลยทำให้ฐานะของเขาเป็นได้มากสุดก็เพียงแค่เพื่อนเท่านั้น และแย่หน่อยที่ดันมีคนที่แอบชอบเป็นรูมเมทร่วมกันไปอีกสามปีเพราะการจับฉลากบ้าบอของรุ่นพี่ คนที่ลำบากไม่ใช่คนนั้น แต่เป็นยูกีฮยอนคนนี้ต่างหาก
ลำบากที่ต้องทนเก็บความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจไม่บอกออกไป ...
.
“ อยากกินชูว์ครีมอ่ะ ”
เสียงหวานเอ่ยขึ้น ในขณะที่นอนเท้าคางมองเพื่อนสนิทตัวหนาที่ครอบครองสถานะความเป็นรูมเมทร่วมด้วยอย่าง ซนฮยอนอู หรือที่หลายคนในคณะเรียกกันจนชินปากว่า ชยอนู กำลังนั่งร่างแบบแปลนตึกส่งอาจารย์ที่โต๊ะทำงานอยู่ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สนใจเสียงงอแงราวกับเด็กน้อยอยากให้คนตามใจเลยสักนิด
“ … ”
“ ชูว์ครีม ชูว์ครีม ชูว์ครีมมมมมมมม ”
“ ตอนสองทุ่มเนี่ยนะ ? ” ใบหน้าหล่อหันมามองร่างอวบที่นอนกลิ้งไปมาบนเตียงด้วยความงุนงง
“ ฮือ อยากกินอ่ะอยากกิน ”
“ แต่นี่มันดึกแล้วนะ เดี๋ยวก็อ้วนหรอก ” ชยอนูเอ่ยออกมาอย่างเป็นห่วง บางทีเขาก็ไม่ค่อยสบายใจมากเท่าไหร่ที่เดินผ่านเพื่อนในคณะแล้วมีแต่คนพูดถึงเพื่อนของเขาแบบเสียๆหายๆเช่นนั้น
“ มันก็ไม่ได้ผอมลงไปเร็ววันนักหรอก ” กีฮยอนเบะปากออกมาเล็กน้อยด้วยความน้อยใจ
“ คือยังไงก็จะกินให้ได้ว่างั้น ยูกีฮยอน ” ร่างสูงถอนหายใจเสียงดังหนึ่งเฮือก ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วเดินไปหยิบเสื้อสเวตเตอร์ตัวหนามาสวมทับเสื้อยืดสีเทาอีกชั้น
“ ฉันอยากกินชูว์ครีมอ่ะ อยากกินอยากกิน ” ไม่ว่าเปล่า ร่างอวบเล็กกระเด้งตัวลุกมานั่งบนเตียงพร้อมส่งสายตาปริบๆออดอ้อนไปให้เพื่อนสนิทที่ยืนโคลงศีรษะไปมาอยู่ที่ปลายเตียงของเขา
“ อยากกินก็ลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จะได้พาไปกินชูว์ครีม ”
ร่างเล็กที่ได้ยินคำตอบรับกลายๆของเพื่อนสนิทก็ส่งเสียงร้องดีใจลั่นห้อง กระโดดลงจากเตียงยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อสเวตเตอร์สีดำและกางเกงยีนส์สีเข้ม กีฮยอนยืนฉีกรอยยิ้มให้เพื่อนสนิทตัวโตที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้อง
รอยยิ้มหวานที่ส่งมอบให้ทำเอารอยยิ้มอ่อนโยนยกประดับบนเรียวปากหนาของรูมเมททันที มือหนาเอื้อมไปโยกศีรษะทุยของคนตัวเล็กไปมาก่อนจะพาร่างของทั้งคู่ออกจากห้องพักเพื่อพาไปกินขนมชูว์ครีมเจ้าอร่อยที่กีฮยอนเคยพร่ำบอกหนักหนาว่าแป้งชูวครีมนุ่มอร่อย พอๆกับเนื้อครีมคัสตาร์ดที่นุ่มลิ้นน่าลองมาก ชยอนูได้ยินกีฮยอนบ่นให้ฟังมาสามสี่วันแต่ด้วยเวลาที่ไม่ค่อยมีเพราะต้องทำโปรเจ็กต์ส่งอาจารย์เลยต้องเลื่อนไปเรื่อยๆ และวิธีเลื่อนที่แสนเชยของซนฮยอนอูคือ การทำหูทวนลมไม่สนใจ
และวันนี้ก็ถึงวันที่ต้องพาเพื่อนสนิทตัวอวบมากินตามที่เจ้าตัวต้องการ
“ ดูดิ่ฮยอนอู ชูว์ครีมน่ากินเนอะๆ ”
นิ้วอวบชี้ไปที่ตู้กระจกที่เรียงชูว์ครีมสีเหลืองทองก้อนโตเป็นแถวยาวอยู่ในถาด ไม่เพียงแต่มีแค่สีเหลืองทองรสคัสตาร์ดรสเดียวเท่านั้น ยังมีชูว์ครีมก้อนสีน้ำตาลเข้มรสช็อกโกแลต สีเขียวรสชาเขียวมัทฉะ สีชมพูรสสตรอเบอรี่ และสีขาวรสนมอีกด้วย บรรดาก้อนชูว์ครีมที่เรียงอยู่ในตู้กระจกกำลังทำให้แววตาประกายของยูกีฮยอนประกายมากขึ้นสองเท่า มือเล็กเอื้อมไปที่เสื้อสเวตเตอร์ตัวหนาพลางสะกิดให้ร่างสูงก้มลงมาดูด้วยกัน
มีเพียงกีฮยอนเท่านั้นที่เรียกชื่อของชยอนูแตกต่างจากคนอื่นๆ ในขณะที่ทุกคนเรียกเขาว่าชยอนู แต่กีฮยอนกลับเรียกเขาด้วยชื่อเล่นจริงๆ และก็มีเพียงคนเดียวด้วยถ้าไม่นับพ่อและแม่ของเขา ขนาดเพื่อนสนิทในกลุ่มทำงานโปรเจ็กต์หรือจะเพื่อนวัยมัธยมก็ยังไม่เคยเรียกเช่นนี้
แต่เขาก็ไม่รู้สึกหงุดหงิดที่คนตัวเล็กข้างกายเรียกชื่อเขาแบบนั้นเลยสักนิด ...
“ กินตอนนี้ฉันว่ามันไม่เห็นจะเวิร์คตรงไหนเลย ” ชยอนูผู้รักในสุขภาพยักไหล่ไม่ใส่ใจกับสรรพคุณที่กีฮยอนร่ายถึงชูว์ครีมรสอร่อยเสมือนเป็นแอมบาสเดอร์ให้เจ้าของร้าน
“ นายสังเกตไหมว่าทำไมร้านอาหารที่อร่อยๆ ส่วนมากถึงเปิดตอนกลางคืน ? ” กีฮยอนถามคำถามที่น่าประหลาดใจสำหรับชยอนู ถึงแม้ว่าเขาจะเรียนเก่งมากในระดับหนึ่ง แต่คำถามประหลาดที่ไม่มีในหลักสูตรการเรียนการสอนกลับทำให้คนโดนถามถึงกับยืนนิ่งแสดงสีหน้าสงสัยออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ ทำไมอ่ะ ? ”
“ เพราะของอร่อยกินตอนดึกๆมันยิ่งอร่อยไงล่ะ ฮ่าๆๆ … เอาชูว์ครีมคัสตาร์ดสี่ก้อนครับบ ” กีฮยอนตอบในสิ่งที่ตนมั่นใจในคำตอบพลางหัวเราะออกมาอย่างสดใส ก่อนจะหันหน้าไปสั่งออเดอร์กับพนักงานสาวที่ยืนอยู่ตรงแคชเชียร์แล้วเดินลากเพื่อนสนิทออกมานั่งที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้าน
“ นายคงชอบของกินมากสิ่นะ ”
“ มันอร่อยนี่ กินๆไปเถอะ เดี๋ยวแก่มาก็ไม่ได้กินแล้ว ” เสียงใสตอบกลับมาในขณะที่กำลังใช้มือบีบเนื้อแป้งชูว์ครีมที่พนักงานเพิ่งเสิร์ฟถึงโต๊ะออกเป็นสองส่วน เผยให้เห็นไส้ครีมคัสตาร์ดที่ดูอัดแน่นอยู่ในแป้ง
“ มองโลกแง่ดีไปไหมเนี่ยหืม ? ” เดือนคณะคนหล่อนั่งเท้าคางมองเพื่อนตัวเล็กที่ยังคงละเลียดชิมชูว์ครีมรสอร่อยตรงหน้า พวงแก้มย้วยนิ่มพองขึ้นมาหลังจากที่จับชูว์ครีมครึ่งหนึ่งเข้าปากไป สาบานได้ว่าเขาไม่ชอบกินอาหารมื้อดึกหลังหกโมงเย็นด้วยความที่เป็นคนรักสุขภาพ แต่พอเห็นร่างเล็กกินอย่างเอร็ดอร่อยก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มตาม
“ ก็จริงนี่นา อ้วนแบบนี้ไม่ดีตรงไหนล่ะ หน้าหนาวก็ไม่ต้องใส่เสื้อหนาวมากเหมือนคนผอมๆเขาทำกันนี่ ”
“ แต่ถ้าผอมอีกหน่อยก็จะมีคนชอบนายมากขึ้นนะ ปกตินายก็น่ารักอยู่แล้ว ถ้าผอมอีกหน่อยฉันว่านายขายออกชัวร์ ”
“ ใครสนล่ะ ?! ” ร่างเล็กเถียงออกมาทันทีที่ได้ยินถ้อยคำเชิงปฏิเสธแบบนั้น นัยน์ตาเรียวจ้องโครงหน้าหล่อเขม็ง ก่อนจะหยิบชูว์ครีมชิ้นที่สองเข้าปากตามชิ้นแรกไป
“ กินเลอะอีกแล้วนะ ”
ไม่เพียงแค่พูดเท่านั้น นิ้วหนาเอื้อมไปตรงใบหน้าน่ารักของกีฮยอนก่อนจะเกลี่ยเช็ดทำความสะอาดครีมคัสตาร์ดออกจากมุมปากเล็กนั้นอย่างอ่อนโยนตัดกับแววตาที่ดูจริงจังเมื่อยามดูแลเพื่อนสนิท และการกระทำนี้ก็ส่งผลกระทบต่อหัวใจของยูกีฮยอนถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ สาบานได้ว่านั่งเฉยๆเขาก็ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรัวจนเป็นบ้า ใบหน้าน่ารักขึ้นสีระเรื่อโดยเฉพาะที่พวงแก้มนิ่ม นัยน์ตาเรียวคมหลุบลงไม่สบตากับอีกฝ่ายกลัวว่าจะรับรู้สึกความรู้สึกภายในใจ มืออวบทั้งสองข้างดูเกะกะน่ารำคาญจนหาที่วางไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องหยิบชูว์ครีมมาไว้ในมือแก้เขิน
“ อ .. อ่ะ ขอบใจนะ ”
“ ฮ่ะๆ ไม่เป็นไรหรอก ดูเถียงเข้า เดี๋ยวชูว์ครีมก็ติดคอหรอก ” ไม่ว่าเปล่า ชยอนูก็หยิบแก้วน้ำเปล่าที่วางอยู่ตรงหน้าให้อีกฝ่ายได้จิบ
“ ถามจริงดิ่ ”
“ หืม ? ”
“ ชอบคนผอมเหรอ ? ” กีฮยอนจดจ้องใบหน้าหล่อของเพื่อนสนิทด้วยแววตาไหววูบ บางทีการที่ชยอนูพูดแบบนั้นแสดงว่าเจ้าตัวคงจะไม่ชอบคนอวบอ้วนเสียเท่าไหร่ แต่จะให้เขาเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เขาทำมันมาตลอดชีวิตก็คงเป็นไปได้ยาก
“ ก็ไม่เชิงหรอก ... ”
“ ชอบมากไหมล่ะ ? ”
“ ก็ .. คนอวบก็ได้คนผอมก็ได้ ฉันไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ”
“ เหอะ .. แต่ก็ชอบคนผอมกว่าอยู่ดี ”
ว่าจบยูกีฮยอนก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเท่าที่มีของตัวเอง ก่อนจะหยิบชูว์ครีมอีกสองลูกไว้ในมือแล้วเดินหนีออกจากร้านไป ทิ้งให้ร่างสูงหนาของชยอนูนั่งอยู่ในร้านเพียงลำพัง รอยยิ้มจางผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเล็กน้อยหลังจากที่ใช้เวลาทบทวนความคิดของตัวเองมาสักพัก
เอาตามตรง สเป็กของเขามันไม่ค่อยตายตัวเท่าไหร่ จะคนรูปร่างหน้าตาแบบไหนก็ได้ขอให้อยู่ด้วยแล้วสบายใจ และยูกีฮยอนก็เป็นหนึ่งในนั้น ติดแต่ตรงที่ว่าร่างอวบน่ะเซนซิทีฟกับเรื่องน้ำหนักเอามากๆ และเขาจะบอกตรงๆเลยว่าต่อให้อ้วนแค่ไหนเขาก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างรูมเมทตัวเล็กอยู่ดี แล้วที่พูดออกไปเมื่อกี้มันก็แค่การลองใจสังเกตปฏิกิริยาของคนตัวอวบ และมันก็เข้าทางเขาทุกอย่างจริงๆ
ที่พูดมาทั้งหมดนี่ แสดงว่าผมชอบรูมเมทตัวอวบเข้าแล้วสิ่นะ ...
ชยอนูลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะมุ่งตรงไปยังที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ด้านหน้าร้านก่อนจะเอ่ยสั่งออเดอร์เดิมแต่เพิ่มปริมาณแบบเทคโฮม พอได้กล่องชูว์ครีมขนาดปานกลางแล้ว ร่างหนาก็จ่ายเงินพร้อมกับค่าชูว์ครีมสี่ชิ้นก่อนแล้วเดินออกจากร้านไป โดยที่ไม่ลืมแวะซื้อพิซซ่าถาดใหญ่ มันฝรั่งทอดกรอบถุงโตและน้ำอัดลมขวดสองลิตรติดไม้ติดมือไปด้วย
จะง้อคนชอบของกินก็ต้องซื้อของกินไปง้อถึงจะถูกตามหลัก
ลำบากที่ต้องทนเก็บความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในใจไม่บอกออกไป ...
.
“ กีฮยอน เปิดประตูให้ฉันหน่อย ” แต่ทว่าทางกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อชยอนูเดินกลับมาที่หอพักแล้วแต่ประตูห้องกลับล็อก แล้วเขาก็ดันนึกขึ้นได้ว่ากุญแจอยู่ที่ร่างอวบที่อยู่ด้านในห้อง เท่ากับว่าเขาถูกขังไว้นอกห้องอย่างชัดเจนเลยทีเดียว
“ ... ”
“ กีฮยอนอ่า .. เปิดประตูให้ทีสิ่ ” แม้มือหนาจะทำหน้าที่เคาะประตูอย่างดี แต่เสียงมันช่างไม่เป็นใจให้คนในห้องมาเปิดประตูเลยสักนิด
“ ... ไม่ให้เข้า ! ”
“ เฮ้ ! อย่าใจร้ายกับฉันนักสิ่ ฉันต้องทำโปรเจ็กต์ส่งอาจารย์อยู่นะ ”
“ ฮึก ... ไม่ให้เข้ามา ไม่ได้ยินรึไง !! ” เสียงสะอื้นหลุดออกมาปะปนกับเสียงหวานของกีฮยอนนั้นกลับทำให้หัวใจของชยอนูหวั่นวูบไป สันนิฐานได้ว่า ยูกีฮยอนกำลังร้องไห้อยู่ เขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะทำให้จิตใจที่มั่นคงและร่าเริงกับทุกเรื่องของกีฮญอนต้องสั่นคลอนพันครืนได้แบบนี้
“ กีฮยอนครับ ... ”
“ ... ”
“ ฉันซื้อขนมมาฝากนายเยอะแยะเลย เปิดประตูให้ฉันเถอะนะ ”
กริ๊ก ...
ถ้าหูเขาไม่ได้แย่ไป ร่างสูงได้ยินเสียงปลดล็อกประตูห้องและไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า มือหนารีบกำลูกบิดประตูพร้อมหมุนมันเพื่อเปิดประตูบานกว้างทันที เพียงเปิดประตูก็พบว่า ร่างอวบตัวเล็กที่มักจะนั่งแกะซองขนมกินอยู่ที่พื้นห้องทุกครั้ง ในตอนนี้กลับไปมุดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาพร้อมคลุมโปงเสียมิดชิดจนเขารู้สึกหวั่นใจว่าคนในผ้าห่มจะหายใจออกหรือไม่ ชยอนูได้แต่ส่ายหน้าไปมากับความเปิ่นไร้เดียงสาของรูรูมเมทของเขา
สองมือที่หอบของโปรดของกีฮยอนปล่อยวางข้าวของลงกับพื้นห้องอย่างเป็นระเบียบ ถาดพิซซ่าถูกวางไว้ก่อน ตามมาด้วยกล่องชูว์ครีม ขนมถุงและน้ำอัดลม วางเรียบร้อยแล้วก็ถึงจะเดินเข้าไปใกล้เตียงขนาดเล็กที่มีผ้าห่มผืนโตที่ยับย่นจนเป็นก้อน ร่างหนาเจ้าของหุ่นกำยำดูมีสุขภาพดีค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงข้างๆเตียงอย่างแผ่วเบา เพื่อไม่ให้เจ้าของเตียงรู้ตัวได้
“ กีฮยอนอ่า ”
“ อ .. อย่าเข้ามานะ ! ” กีฮยอนแหวใส่แม้ร่างจะอยู่ในผ้าห่ม ไม่พอยังจะเขยิบตัวพร้อมผ้าห่มไปอีกฝั่งของเตียงอีกต่างหาก
“ ทำไมล่ะ ? ”
“ เพราะฉัน .. ฉันมันไม่ผอม .. ฮึก ... หุ่นไม่ดีไงล่ะ ”
“ … ”
“ ใช่ .. ฉันชอบนาย ... ฮึกก .. แต่มันก็เป็นไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ” ชยอนูไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับคำสารภาพความในใจของกีฮยอนเท่าไหร่ เพราะตัวเขานั้นรู้อยู่แล้วตั้งแต่ที่ร่างอวบของเพื่อนสนิทแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว และนั่นมันก็ทำให้เขาสามารถยืนยันกับความรู้สึกของตัวเองได้ ต่างจากคนตัวเล็กที่ไม่เคยรู้อะไรเลยสักนิด
“ … ”
“ ก็ฉันมันอ้วนนี่ ฮืออออออออออออ ”
ฟูกหนายวบลงไปมากขึ้นเมื่อร่างหนากำยำเขยิบตัวเข้าไปหาร่างในผ้าห่มที่ร้องไห้สะอื้นตัวโยนพร้อมยกท่อนแขนแข็งแรงโอบกอดร่างนั้นทันที ร่างเล็กหยุดร้องไห้ทันทีเพราะความตกใจในการกระทำแสนร้ายกาจ เขาพยายามดิ้นขลุกขลักอยู่ในผ้าห่มและพยายามที่จะออกจากพันธนาการแข็งแรงที่ทำให้หัวใจอ่อนยวบยาบ แต่ทว่าทุกอย่างดูไม่เป็นจตั้งแต่ผ้าห่มผืนหนาที่พันกันจนหาทางหายใจไม่ได้ ไหนจะวงแขนแกร่งที่ปิดทับอากาศหายใจของเขาอีก
... ยูกีฮยอนนี่มันซื่อบื้อของซื่อบื้อเสียจริง ...
“ ป .. ปล่อยนะ ! ” เสียงหวานตะโกนออกมาเพื่อสั่งให้รูมเมทผละออกจากร่างของตนเอง
“ ไม่ปล่อย ฉันจะไม่ยอมปล่อยนายไปไหนแน่ๆ ”
“ ฮืออ จะปล่อยไม่ปล่อยอะไรยังไงก็ช่างเถอะ ตอนนี้ก็ปล่อยฉันก่อนนนนนน ” ยิ่งพูด กีฮยอนก็ยิ่งดิ้นหนักขึ้น ดิ้นมากจนคิ้วเรียวของชยอนูขมวดลงด้วยความสงสัย
“ เป็นอะไรไป ? ”
“ ฉันหารูให้อากาศเข้ามาไม่เจอ ช่วยหน่อยสิ่ ”
เพียงแค่คนตัวเล็กเผยท่าทีติงต๊องน่ารักออกมา ชยอนูถึงกับหลุดหัวเราะเสียงดังและยอมช่วยร่างเล็กแต่โดยดี มือใหญ่สลัดผ้าห่มผืนหนาออก เผยให้เห็นคนตัวเล็กอวบที่นอนแน่นิ่งไม่หันหน้ามองเขา พวงแก้มเนียนที่แดงระเรื่อจนติดจะแดงก่ำ นัยน์ตาเรียวคมบวมช้ำเพราะผ่านการร้องไห้มาเมื่อสักครู่ ไหนจะจมูกโด่งรั้นที่แดงก่ำและริมฝีปากเล็กที่บวมช้ำเนื่องจากขบเม้มกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ ในตอนนี้กีฮยอนอยู่ในชุดนอนลายหมีสีชมพูเหมือนตอนก่อนจะออกไปตามล่าหาชูว์ครีม และเมื่ออุปสรรคชิ้นโตอย่างผ้าห่มถูกสลัดไปแล้ว ชยอนูก็สวมกอดร่างอวบจากด้านหลังอีกครั้งหนึ่ง
ซนฮยอนอูคนนี้สาบานได้ว่าตัวของยกีฮยอนไม่ได้อ้วนเทอะทะน่าเกลียดอย่างที่ใครๆเขาเล่าลือกันมา ไม่ได้อวบท้วนอะไรมากเท่าไหร่ เพียงแค่มีน้ำมีนวลเพราะการกินเท่านั้น มือแตะสัมผัสตรงไหนก็เจอแต่ความนิ่มหยุ่นน่าสัมผัส บวกกับกลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนดอกไม้แล้วก็ยิ่งทำให้เขาอยากรัดและฟัดคนตัวเล็กผู้เป็นรูมเมทของเขาเสียจริงๆ
“ นายนี่จะติงต๊องไปถึงไหนนะ ? ”
“ ป .. ปล่อยเลยนะ ปล่อยยยยย ! ”
“ เลิกร้องไห้เป็นเด็กขี้แยได้แล้ว ยูกีฮยอน ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกกับคนในอ้อมกอดที่กำลังจะเบะปากร้องไห้อีกหน แต่ทว่าครั้งนี้กลับหยุดการร้องไห้ได้สนิทจริงๆ โครงหน้าน่ารักรีบเบือนหนีใบหน้าหล่อของเพื่อนสนิททันที
“ กอดฉันทำไม ? ”
“ ก็อยากกอด อยากลงโทษคนดื้อแถวนี้ไม่ยอมฟังฉันพูดให้จบ ” คนดื้อที่ว่าตวัดสายตาขวางมามองร่างหนาหนึ่งทีก่อนจะลงมือบิดกล้ามเนื้อแขนแรงๆอีกหนึ่งหน
“ พูดบ้าพูดบออะไร ! ก็เห็นๆอยู่ว่านายเป็นคนหุ่นดี เป็นถึงเดือนคณะ จะแปลกตรงไหนถ้าจะชอบคนหุ่นดีเหมือนกันเล่า !! ”
“ ก็แล้วฟังฉันพูดให้จบรึยังล่ะ ”
“ ก็ .. ! ”
“ ยูกีฮยอน อย่าเถียง ” ชยอนูเอ่ยเสียงเคร่งเครียดจนคนอยากจะเถียงให้ตัวเองชนะได้ถึงกับสะบัดหน้าหนีร่างหนาอย่างหงุดหงิดทันที
“ ฮึ่ย ! ”
“ ฉันไม่บอกสักหน่อยว่าฉันชอบคนหุ่นดีมาก ฉันไม่ได้บอกว่าฉันชอบคนผอม ”
“ … ”
“ ฉันน่ะไม่ได้มีสเป็กที่ตายตัว แต่จะว่าไปแล้ว ... ”
“ ... !!! ”
ทิ้งระยะไว้เล็กน้อยก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเข้าใกล้ใบหน้าน่ารัก พร้อมใช้จมูกโด่งช่วงชิงความหอมละมุนจากพวงแก้มนิ่มของเพื่อนสนิทตัวอวบฟอดใหญ่จนเจ้าของถึงกับเบิกตาโต และดวงตาเรียวกลมแทบถลนออกมา เมื่อไม่เพียงแต่ถูกช่วงชิงความหอมจากแก้มเนียนแดงปลั่งไปแล้ว กลับถูกช่วงชิงความหอมหวานจากโพรงปากเล็กนิ่มหยุ่นของคนในอ้อมกอดอีกด้วย ริมฝีปากหนาประกบทับลงมาบนเรียวปากเล็กนิ่มนั้น ความหอมหวานคละคลุ้งกับความหอมอ่อนของชูว์ครีมที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในโพรงปากนั้น กีฮยอนหลับตาลงรับสัมผัสจูบแสนละมุนที่ไม่ทันได้ตั้งตัว แต่กลับทำให้สติของยูกีฮยอนเตลิดไปไกลต่อไหนดีเสียเหลือเกิน
“ คนอวบแบบนาย ฉันเองก็ชอบนะ ไม่สิ่ ... ฉันชอบนายเลยล่ะ ยูกีฮยอน ”
END.
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่ชยอนูก็ไม่ได้บอกว่าชอบคนหุ่นดี
พี่เค้าชอบแบบอวบๆอย่างหนูต่างหาก
น่ารักมากๆเลยค่ะ ชอบๆ
ชอบอะ ตลกกับตวามเอาแต่ใจของกีมากๆ พี่ชยอนูก็อบอุ่นไปดิ
โอยยย น่ารักอะ น่ารักมากกกก ยิ่งตอนจบก็ยิ่งน่ารัก อะไรคือ
การเอาของกินมาง้อ ตอนแรกกีไม่เปิดแต่พอรู้ว่าเป็นของกิน
งี้รีบเชียว เปิดประตูแบบแทบจะทันที 555555 ชอบมากกอะ xD