ตอนที่ 12 : - 12 : 정류장 | shownu x hyungwon 。
정류장 | SHOWNU x HYUNGWON
au / pg – 15 / drama-romantic
이대로 영원히 있을 수만 있다면
오 그대여 그대여서 고마워요.
ถ้าเราสามารถมีกันแบบนี้ได้ตลอดไป
โอ้ ที่รักของฉัน ขอบคุณที่เป็นเธอคนนี้ …
ยี่สิบเอ็ดนาฬิกา สามสิบสองนาที ...
ไม่รู้ว่าทำไม พอก้มลงมองเวลาที่ปรากฏบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนสวยทุกครั้งก็มักจะเป็นเวลานี้ เป็นเวลาที่ ซนฮยอนอู อยู่บนรถโดยสารประจำทางคันสีเขียวสายที่สี่คันนี้ทุกครั้ง ฮยอนอูกลับบ้านดึกทุกวันและนี่ก็คงเป็นครั้งที่เก้าพันสองร้อยสิบเก้าที่เขาเลือกจะกลับบ้านในเวลานี้ก็เห็นจะได้ ไม่รู้สิ่ ก็แค่ไม่เคยนับมันว่าทำแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว ทำแบบนี้ไปทำไม ไม่เคยสนใจด้วยว่าทำไมถึงต้องกลับบ้านดึกในเมื่องานที่ทำก็เลิกประมาณหนึ่งทุ่มด้วยซ้ำ
ถ้าไม่ใช่ว่าซนฮยอนอูคนนี้กำลังคาดหวังอะไรบางอย่างอยู่ในเวลานี้อยู่ทุกวัน
ร่างหนาหย่อนตัวนั่งอยู่บนเก้าอี้บนรถโดยสารประจำทางตั้งแต่ต้นสาย ฮยอนอูเลือกที่จะนั่งตรงที่นั่งที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่างด้านขวาเกือบหลังสุด ฮยอนอูก็คงตอบไม่ได้อีกว่าไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นที่นั่งตรงนี้ แต่ที่เขาคิดได้อยู่อย่างหนึ่งคือ เพราะที่นั่งตรงนี้อาจจะมีความทรงจำบางอย่างที่เมื่อหวนคิดแล้วก็รู้สึกดีเสมอ ... แม้มันจะไม่มีอีกแล้วก็ตาม
สายลมยามพลบค่ำพัดผ่านกระทบผิวให้รู้สึกเย็นสบายจนนานเข้ากลายเป็นความหนาวเหน็บ เงยใบหน้ามองกลุ่มแมกไม้ที่ตั้งเรียงรายตามข้างทางถนนที่กำลังผลัดใบจากสีเขียวชอุ่มสดใสกลับกลายเป็นสีแดงส้มน้ำตาลสลับปนกันไป มันตัดกับท้องฟ้าที่กลายเป็นสีเข้มสนิททำให้ใบไม้ดูโดดเด่นในสายตาเสมอ สิ่งเหล่านี้เตือนใจอยู่ทุกครั้งว่า นี่คือฤดูใบไม้ร่วง เรากำลังก้าวสู่ความรู้สึกที่หนาวเย็นมาครึ่งทางแล้ว ซนฮยอนอูทำอะไรกับมันไม่ได้ ไม่ว่าจะสั่งให้ใบไม้กลายเป็นสีเขียวแบบเดิม หรือจะหยุดสายลมที่พัดกระทบใบหน้าและผิวสีเข้มนี้
ซนฮยอนอูก็ได้แค่มองมันเหมือนคนโง่เท่านั้น
มองมันด้วยแววตาความเจ็บปวดที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อหนึ่งปีก่อน ...
‘ เราเลิกกันเถอะพี่ฮยอนอู ’
เสียงใสเอ่ยดังขึ้นมาพร้อมกับร่างโปร่งของ แชฮยองวอน ที่ยืนอยู่ตรงหน้าป้ายจอดรถโดยสารปลายสาย ฮยอนอูที่เพิ่งหย่อนเท้าทั้งสองข้างลงจากรถโดยสารประจำทางถึงกับเงยมองใบหน้าหวานนั้นด้วยแววตาสับสนและงุนงง
‘ ท .. ทำไมล่ะ ? พี่ไม่เข้าใจ .. ฮยองวอนอ่า ’
‘ ผมว่าเราควรจบกันแค่นี้ดีกว่า พี่ก็รู้ตัวดีว่าพี่ทำอะไรผิด ผมอดทนมามากพอแล้ว มันสิ้นสุดความอดทนของผมแล้ว ’
‘ ... แค่พี่มาช้าไปแค่ห้านาทีเท่านี้น่ะเหรอ ? ’
‘ เท่านี้ ? พี่ก็พูดได้สิ่ ถ้าไม่ใช่ว่าทุกๆครั้งที่เรานัดกันพี่จะเป็นคนมาสายตลอดแบบนี้น่ะ ’
‘ นายก็รู้ว่าพี่ทำงาน พี่พยายามมาให้ไวแล้ว ’
‘ แต่มันก็ยังไวไม่สมใจผมอยู่ดี ’
‘ พี่ว่านายพูดมาตรงๆดีกว่า พี่รู้สึกได้ว่านี่อาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักจริงๆ ... ’
‘ ... ’
‘ นายยังลืมวอนโฮไม่ได้ พี่รู้แล้วล่ะ ... ’
‘ ... ’
‘ พี่ขอโทษที่เป็นเหมือนวอนโฮไม่ได้ ขอโทษที่พี่มาถึงก่อนเวลาห้านาทีเหมือนที่วอนโฮทำไม่ได้ ... พี่คงจะไม่รั้งให้เราอยู่ต่อ ’
‘ ... ’
‘ ฮยองวอนไปเถอะ ... ’
‘ ... อืม ขอบคุณที่ปล่อยผมนะ ’
คิดถึงเหตุการณ์นี้ก็รู้สึกไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
แน่นอนว่าฮยอนอูยังคงลืมฮยองวอนไม่ได้ .. ไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว
ฮยอนอูรู้สึกว่าโลกใบนี้มันช่างโหดร้ายเสียเหลือเกินที่ทำร้ายจิตใจที่มั่นคงและซื่อตรงเพื่อคนรักมาตลอดแบบนี้ แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านไปหนึ่งปีแล้ว .. ใช่ เหตุการณ์นั้นมันเกิดขึ้นเมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงและเวลาประมาณนี้ แต่เขากลับยังคงวนเวียนอยู่กับชีวิตเดิมๆที่รอให้ถึงเวลานั้นในทุกๆวัน เพื่อที่บางทีอาจจะเห็นร่างโปร่งของคนที่รักมากที่สุดกำลังยืนรอรับเหมือนทุกๆวันแบบเมื่อก่อนอยู่ก็ได้
หวังอะไรลมๆแล้งๆไปได้นะ ซนฮยอนอูคนโง่
เพราะเขาหวังอะไรลมๆแล้งๆแบบนี้นั่นแหละ ความคาดหวังที่เป็นตัวแปรต้นทั้งหมดมันอยู่ที่นั่น
นัยน์ตาเรียวคมมองไปตรงหน้าก็พบว่าอีกไม่ถึงแปดร้อยเมตร รถโดยสารคันนี้จะจอดลงตรงป้ายจอดรถ นั่นเท่ากับว่าป้ายจอดรถโดยสารอีกแปดร้อยเมตรตรงหน้านี้จะเป็นป้ายสุดท้ายที่รถโดยสารประจำทางคันนี้จะจอด ก่อนที่จะกลับรถย้อนกลับไปเริ่มใหม่ที่ต้นสายอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย
ฮยอนอูได้แต่ถอนหายใจออกมาพลางกวาดสายตามองที่นั่งบนรถโดยสารประจำทางที่ว่างเปล่าไร้ผู้คนเหมือนตอนขึ้นมาจากต้นสาย ในเวลานี้คงไม่มีใครโดยสารมาถึงป้ายสุดท้ายเหมือนเขาแน่นอน หนึ่งปีที่แล้วเป็นอย่างไร ... ทุกวันนี้ก็เป็นแบบนั้น
ร่างหนาในชุดลำลองสบายยืนขึ้นเต็มความสูงเมื่อมองเห็นป้ายจอดรถประจำทางอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แม้ว่าทุกวันเขาคาดหวังว่าคนที่รักสุดหัวใจจะมายืนรอเหมือนทุกๆวัน แต่ความจริงก็คือความจริง ไม่อาจหนีพ้นมันไปได้ เหลือเพียงแค่เวลาเยียวยาหัวใจให้หายดีเท่านั้น ก่อนที่รถโดยสารประจำทางคันสีเขียวสายที่สี่จะจอดลงที่ป้ายจอดรถโดยสารป้ายสุดท้ายที่เป็นสถานีปลายทางของรถโดยสารสายนี้ พร้อมกับเสียงของคุณลุงคนขับรถที่เอ่ยดังขึ้นมาเรียกสติของฮยอนอู
“ ถึงปลายทางของสายแล้วนะพ่อหนุ่ม ”
“ ขอบคุณครับ ”
ฮยอนอูเดินผ่านคุณลุงคนขับรถโดยสารพร้อมโค้งศีรษะขอบคุณเล็กน้อยที่พาเขามาส่งถึงปลายทางด้วยความปลอดภัยมาตลอดหนึ่งปี คุณลุงได้แต่ยกยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเด็กหนุ่มตัวโตก่อนจะเอ่ยพูดคุยเหมือนทุกๆวัน ประโยคสนทนาเดิมๆแต่มันทำให้ทั้งคนฟังและคนพูดรู้สึกว่ามันแผ่รังสีความอบอุ่นจางๆออกมาเสมอ
คุณลุงคนขับรถกับซนฮยอนอูไม่ได้เป็นญาติกัน แต่แล้วทำไมบทสนทนาเพียงไม่กี่ประโยคกลับเชื่อมความสัมพันธ์แสนดีที่เรียกว่าความผูกพันได้หนาแน่นจนน่าประหลาดใจ
“ กลับบ้านดีๆล่ะ ตอนนี้มันดึกแล้ว ระมัดระวังตัวเองด้วยนะ ”
“ แน่นอนครับลุง คุณลุงก็กลับบ้านดีๆนะครับ แล้วผมจะกลับมาขึ้นรถของคุณลุงใหม่ในวันพรุ่งนี้ ผมสัญญา ”
ประโยคเดิมๆ สัญญาเดิมๆที่ซนฮยอนอูทำมันทุกๆวันและมันทำให้คุณลุงคนขับรถโดยสารยกยิ้มอย่างอ่อยโยนอีกครั้ง เป็นคำสัญญาที่เขาต้องทำให้ได้ทุกครั้งเพราะฮยอนอูไม่ใช่คนไม่รักษาคำสัตย์ โดยเฉพาะกับผู้อาวุโสและคนที่เขารัก
ฮยอนอูเดินลงมาจากรถโดยสารประจำทางเพียงสามก้าว ในที่สุดก็ผ่านไป .. รถโดยสารประจำทางคันประจำก็สตาร์ทตัวออกจากป้ายจอดรถโดยสารประจำทางออกไปแล้ว เหลือเพียงร่างหนาที่ยืนอยู่ตรงป้ายโดยสารเพียงลำพัง ก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่งตรงที่รอรถโดยสารราวกับว่ารออะไรบางอย่างอย่างมีความหวัง
ไม่มีทาง ... แชฮยองวอนไม่มีทางมารอคนโง่อย่างเขาหรอก ...
ควรถอดใจได้แล้ว ...
ร่างหนากำลังลุกยืนหลังจากนั่งอยู่บนม้านั่งอยู่นานพอสมควรเพื่อเดินกลับบ้าน ก้มมองเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาอีกครั้ง พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆเหมือนทุกๆวันที่ความคาดหวังนั้นพังแบบทุกครั้ง ทว่าเงยหน้าจากนาฬิกาข้อมือของตนเองเพียงชั่วอึดใจเดียว ท่อนขาแกร่งทั้งสองข้างก็หยุดชะงักการก้าวขาลงเมื่อพบว่าร่างหนึ่งแสนคุ้นเคยปรากฏอยู่ตรงหน้าราวกับว่าเป็นปาฏิหาริย์ให้คนที่เพิ่งถอดใจกลับมามีความหวังอีกครั้ง รอยยิ้มที่เพิ่งผุดขึ้นมาหลังจากพูดคุยกับคุณลุงคนขับรถโดยสารก็จางหายไปเมื่อพบกับใครบางคนตรงหน้า
ซนฮยอนอูและฮยองวอนอยู่ห่างกันเพียงหนึ่งเมตร ...
เมตรเดียวเท่านั้น ...
นัยน์ตาเรียวคมยังคงทอดมองร่างบอบบางในชุดนักศึกษาผิดระเบียบที่เขาเคยซื้อให้เพราะถูกคนสวมใส่คะยั้นคะยอให้ซื้อ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เจ้าของก็ยังคงทำตัวผิดระเบียบอยู่ทุกครั้ง กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนราวกับคาราเมลหอมหวานที่เข้ากับใบหน้าหวานน่ารักเสมอ เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นกับกางเกงยีนส์ฟอกสีซีดนั้นยังคงเหมือนเดิมทุกระเบียบนิ้ว ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้ายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปจากใจของซนฮยอนอูได้
“ ฮ .. ฮยองวอน ... ? ”
“ มาช้าทุกครั้งเลยสิ่นะ พี่น่ะ ”
สาบานได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่ภาพซ้อนหรือภาพที่เกิดจากการสร้างจิตมโนใดๆ ร่างบอบบางของแชฮยองวอนยืนอยู่ตรงหน้าเขาจริงๆ และเพราะเป็นฮยองวอนตัวจริง ซนฮยอนอูก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้มากกว่านี้ ทำให้ร่างบางเอี้ยวตัวหันหลังกลับทางเดิมที่เดินมาพร้อมขยับเท้าทั้งสองข้างเตรียมตัวจะเดินจากไป แต่ทว่าเสียงทุ้มเอ่ยดังขึ้นมาขัดการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย
“ ... วอนโฮล่ะ ? ”
“ … ”
“ นายกับวอนโฮ ... ไม่ได้คบกันอยู่เหรอ ? ”
และเท้าทั้งสองข้างของฮยองวอนกำลังขยับอีกครั้ง ..
ฮยอนอูไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลยหลังจากได้รับคำตอบคือความเงียบงันเช่นนั้น เขาไม่สามารถเดาทางของคำตอบได้เลยสักนิด สิ่งที่ซนฮยอนอูทำได้ในเวลานี้มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือการที่ทำลายระยะห่างเพียงหนึ่งเมตรเพื่อที่จะเข้าไปใกล้และเอื้อมมือหนาจับมือบางน่าทะนุถนอมเอาไว้แน่น ฮยองวอนหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดินอีกครั้งพร้อมหันหน้ามามองเจ้าของความอบอุ่นบนมือที่แผ่ซ่านเข้ามาภายในหัวใจอันเหน็บหนาวและเย็นชามาตลอดหนึ่งปี ก่อนจะเบิกตาขึ้นเมื่อเห็นว่าร่างสูงที่ดูเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งสำหรับใครๆได้กลับกลายเป็นสายลมแสนอ่อนแออย่างที่แชฮยองวอนไม่เคยเห็นมาก่อน
ราวกับว่าเมื่อถึงจุดพีคที่สุดแล้ว ทุกอย่างจะทะลักออกมาเพื่อรักษาความสมดุล ... ความรู้สึกของฮยอนอูก็เช่นกัน
พี่ฮยอนอูแสนเข้มแข็งราวกับต้นไม้ต้นใหญ่กำลังร้องไห้ออกมาอย่างคนไร้เรี่ยวแรงต่อหน้าแชฮยองวอน ...
“ พ .. พี่ฮยอนอู ”
“ … ”
“ พี่ร้องไห้ทำไม ไม่ร้องไห้สิ่พี่ ไม่ร้องนะ ”
“ นายกับวอนโฮ .. ยังคบกันอยู่ใช่ไหม ? ”
ฮยอนอูพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ เพียงแค่เขาปล่อยน้ำตาของคนอ่อนแอออกมาให้คนตรงหน้าเห็นมันก็แย่เต็มทนแล้ว แถมมันยังน่าอายยิ่งกว่าเมื่อมือบางของฮยอนวอนเอื้อมมาเช็ดหยดน้ำใสที่ไหลรินออกมาไม่หยุดหย่อนของเขาอย่างไม่นึกรังเกียจเหมือนหนึ่งปีที่ผ่านมา
“ ... ”
“ … ”
“ ... ผมกับพี่วอนโฮเราเลิกกันเมื่อครึ่งปีที่แล้ว ”
“ อืม ”
“ ไม่รู้สิ่ ผมว่าผมกับพี่เขาเข้ากันไม่ได้มากกว่าพวกเราอีกน่ะ ถึงแม้ว่าเขาจะมารอผมก่อนห้านาทีก็เถอะ ... มันไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่ ”
“ … ”
“ ตอนผมบอกเลิก ผมอยากมารอพี่ที่นี่ทุกครั้ง แต่เพราะผมไม่กล้าเจอหน้าพี่ ผมทำผิดกับพี่เอาไว้เยอะมาก ... ผมเลยไม่กลับมาพี่ในตอนนั้น ”
“ … ”
“ ตอนนี้ผมไม่มีใคร มันน่าแปลกมากนะพี่ ว่าไหม ? ”
“ … ”
“ ผมพยายามอย่างมากที่จะเดินตามที่หัวใจผมเคยเรียกร้องเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว แต่ว่าพอได้ลองทำเข้าจริงๆมันกลับรู้สึกไม่ใช่ ”
“ .. ยังไงล่ะ ? ”
“ ผมลืมพี่ไม่ได้หลังจากวันนั้น ... มันไม่ได้เป็นเพราะความรู้สึกผิดแน่นอนผมสาบานได้ ”
เพียงเท่านั้น ท่อนแขนแข็งแรงขอบคนที่เพิ่งเสียน้ำตาไปหมาดๆก็ดึงแขนเรียวเล็กของคนเป็นรุ่นน้องเข้ามาใกล้พร้อมกอดอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยอ้อมกอดอันอ่อนโยนโดยที่ฮยองวอนก็ยกมือขึ้นกอดตอบพร้อมซบหน้าลงบนบ่าแกร่งด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน ฮยอนอูกอดอีกฝ่ายแน่นด้วยความคิดถึง แม้ว่าจะห่างกันไปหนึ่งปีราวกับว่าทุกอย่างถูกลบทิ้งไปหมด แต่ลึกๆแล้วทั้งสองต่างมีความต้องการกันและกันที่ไม่มีที่สิ้นสุดไม่ว่าสถานะจะเป็นอย่างไร
“ ขอบคุณนะฮยองวอน ขอบคุณที่เป็นนาย ”
“ หืม ? ”
“ ขอบคุณที่นายยังกลับมาหาพี่ ... พี่คิดถึงนายมาตลอด คิดถึงและยังรักเสมอ ”
“ อื้ม .. ผมก็คิดถึงพี่นะ ”
ไม่ว่ามันจะเป็นความฝันหรือความจริงก็ตาม เขาก็อยากขอบคุณ ขอบคุณที่พระเจ้าส่งแชฮยองวอนกลับคืนมาให้เขาอีกครั้ง ส่งให้คนที่เขารักมากที่สุดมายืนอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
ขอบคุณจากใจจริง ...
END.
หลังจากดองฟิคไปสองเดือนกว่า เรื่องนี้ดองไปห้าสิบวัน 55555555555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่ค่อยมีคู่นี้ให้อ่านเลย ฮืออ แต่ในที่สุดก็เจอล้าววววววววว
ละมุนละไมอยู่ในตัวอักษร พินูคนชอบสาย แต่สุดท้ายน้องแชก็กลับมาหาเนอะะะ
คึคึคึ
ดีใจจริงๆที่ฮยองวอนกลับมาหาชยอนู
ฮืออออออ
เหมือนกับว่าตัวเองพี่พี่ชยอเลย 555555
ความรู้สึกหลายๆอย่างมันวิ่งเข้ามาแบบ เล่นเอาปวดใจหนึบๆ
ตอนที่ฮยองวอนบอกเลิกนี่แบบ ฮยองวอนอาา ทำไมทำงี้ สงสารอะสงสารพี่ชยอมาก ยิ่งไปกว่านั้น การที่พี่ชยอยังมีความหวังยังคงรอแชมาตลอด มันยิ่งทำให้เรารู้สึกด้วยว่าคงรักมากๆ
แล้วตอนที่เห็นฮยองวอนกลับมา ตอนนี้หัวใจคนอ่านนี่วูบวาบมาก อยากจะร้องไห้ตามพี่ชยอเลยคะ
ฮือออออ มันอบอุ่นมากจริงๆนะคะ เรื่องนี้มันค่อนข้างจะเศร้าก็จริง แต่มันก็มีความสุขนะ งื้ออ
ขอบคุณสำหรับฟิคดีๆนะคะ ^^
พี่หมีน่ารักมากแต่ไม่คุ้นกับบทขี้แยเลยถึงจะมีคนแต่งให้พี่เซนซิทีฟก็เถอะะ
ยัยแชอย่าทำพี่หมีอีกนะคนหุ่นหมีๆมึนๆมีคนเดียวนะหายากนะบอกเลยย tt' 555555
ขอบคุณที่แต่งให้อ่านนะถึงจะไม่ใช่บททีรีเควสก็เถอะ,,,ฮ่อก