ตอนที่ 1 : - 01 : just pretend | shownu x kihyun 。
JUST PRETEND | SHOWNU x KIHYUN
pg – 17 / romantic
คำนิยามสั้นๆที่ยูกีฮยอนมีต่อซนฮยอนอู ... ก็แค่อึดอัดใจ
คำนิยามสั้นๆที่ซนฮยอนอูมีต่อยูกีฮยอน ... ก็แค่ไม่อยากร่วมงานด้วย
‘ คือผมก็สนิทกับทุกคนนะ แต่ ... ผมรู้สึกอึดอัดกับ ... พี่ชยอนู ? ’
เสียงทุ้มนุ่มที่มักจะได้ยินบ่อยจากการร้องเพลงเอ่ยขึ้นมาหลังจากทางทีมงานสัมภาษณ์ถามถึงความรู้สึกของเมนโวคอลหมายเลขหนึ่งอย่าง ยูกีฮยอน ที่ได้ร่วมงานกับคู่แข่งที่มีความสามารถด้านการเต้นอย่าง ซนฮยอนอู หรือที่ทุกคนเรียกว่า พี่ชยอนู
แม้ว่าเขาจะมีนิสัยเข้าหาคนอื่นได้ง่าย เพียงเจอหน้าไม่กี่นาทีก็สามารถพูดคุยได้สบายๆ แต่ทว่ากับพี่ใหญ่ร่างโตที่แสนสุขุมนั้น เขาไม่สามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะพยายามมากเท่าไหร่ แต่เพราะความกลัวที่เห็นใบหน้าหล่อนิ่งขรึมนั่นเขาก็ไม่อยากจะเข้าไปทักทายเสียเท่าไหร่
... ยิ่งอยู่ห่างกันมากเท่าไหร่ มันก็ดีมากเท่านั้น ...
“ คัท ! โอเคครับ เชิญคุณไปพักผ่อนได้ ” เสียงจากหนึ่งในทีมงานที่เป็นมือกล้องเอ่ยตัดฉากเมื่อถ่ายทำฉากได้พึงพอใจกับความต้องการแล้ว และกีฮยอนก็ไม่รอช้าที่จะลุกขึ้นโค้งขอบคุณทีมงานทุกคนก่อนจะเดินออกจากห้องถ่ายทำไป ราวกับว่ารีบไปไหนสักที่
ร่างเล็กที่เดินพ้นจากห้องถ่ายทำก็แทบถอนหายใจไม่ทัน พรั่งพรูลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ มือเล็กยกขึ้นจับเสื้อกันหนาวแขนยาวสีดำที่สวมใส่พร้อมพัดมันเข้าออกราวกับไล่อารมณ์ที่อัดอั้นให้ออกไป เหมือนว่าเมื่อพูดถึงพี่ใหญ่ของทีมแล้วรู้สึกอึดอัดแปลกๆ นัยน์ตาเรียวคมทอดมองห้องซ้อมร้องเพลงประจำที่หลังจากได้มิชชั่นแบทเทิลแบบหนึ่งต่อหนึ่ง เขาก็สิงตัวอยู่ในนั้นกับใครอีกคนมาตลอด
... ใครอีกคนที่เขาเพิ่งบอกไปอยู่ไม่ขาดปากว่าเป็นคนที่ทำให้ยูกีฮยอนคนนี้อึดอัดมากที่สุด ...
“ กลับมาแล้วเหรอ ” เสียงทุ้มแสนคุ้นหูดังขึ้นภายในห้องซ้อมขนาดเล็กที่สามารถจุคนได้ประมาณสองคน พร้อมกับใบหน้าหล่อสุขุมที่มัวแต่สนใจกับหน้าจอไอแพดสีขาวสะอาดที่วางตรงหน้า ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองคนที่เข้ามาใหม่สักนิด นัยน์ตาคมเหลือบไปเห็นกล้องตัวหนึ่งภายในห้องซ้อมกำลังอัดคลิปรายการอยู่ก็ถึงกับร้องอ๋ออยู่ภายในใจ
“ ครับ ”
“ สัมภาษณ์อะไรมาล่ะ ? ”
“ ก็เรื่องทั่วไป ว่าแต่ฮยองทำอะไรอยู่ ? ” ว่าแล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างกายหนาของคนเป็นพี่ใหญ่พลางมองในสิ่งที่แสดงอยู่บนหน้าจอไอแพด
“ ก็หาเพลงที่เราน่าจะร้องร่วมกันได้ อย่างน้อยคนละครึ่งทางก็ยังดี ”
“ อ๋อ .. ”
“ เพลงนี้เป็นไงบ้างล่ะ ? ” ชยอนูเอ่ยถามคนเป็นน้องในขณะที่นิ้วเรียวยาวแตะสัมผัสที่หน้าจอไอแพดพร้อมกับเสียงเพลงที่ดังขึ้นมาหลังจากที่สัมผัสหน้าจอเพลงปลายนิ้ว กีฮยอนหลับตาลงแล้วฟังบทเพลงที่พี่ใหญ่เลือกเพื่อใช้แข่งขันสักพัก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆตอบกลับไป
“ ก็น่าจะเข้าท่าอยู่นะ ”
“ โอเค ”
และทุกอย่างก็เข้าสู่บรรยากาศที่เงียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายในห้องซ้อมร้องเพลงแห่งนี้ มีเพียงแค่เสียงลมหายใจที่พรั่งพรูออกมาเป็นจังหวะเท่าที่สามารถยืนยันได้ว่าภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กนี้มีสิ่งมีชีวิตอยู่ ทั้งกีฮยอนและชยอนูต่างใช้เวลาภายในห้องไปกับการท่องโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อหาเพลงที่พวกเขาสามารถแสดงบนเวทีแข่งขันด้วยกันได้โดยไม่ปริปากเอ่ยถามอะไรอีก
... เรียกได้ว่าเป็นคู่ที่อึดอัดที่สุด แทนที่จะเป็นคู่ที่ดีที่สุดอย่างที่น้องๆในทีมเคยบอกไว้ ...
จนเมื่อกล้องที่ตั้งอยู่ภายในห้องซ้อมร้องเพลงหยุดทำงานลง ไฟสีแดงที่เคยกระพริบเป็นสัญญาณการเตือนว่ากำลังถ่ายอยู่หายไปแล้ว ไม่มีการอัดรายการใดๆสำหรับคู่ของพวกเขา เพียงแค่สิ้นสุดสัญญาณการถ่ายทำรายการ มือหนาที่เคยสัมผัสหน้าจอเลื่อนดูข้อมูลในไอแพดกลับผละลงพร้อมเอื้อมมือหนาไปแตะที่ต้นขาของใครอีกคนที่นั่งอยู่ข้างกายที่กำลังเขียนอะไรบางอย่างในกระดาษ
" อ .. อะไรพี่ ? " ใบหน้าน่ารักหันมามองพี่ใหญ่ของทีมที่ทอดมองมาทางตนเองด้วยสายตาดูนึกคิดอย่างหนักอยู่ตลอดเวลาด้วยความสงสัย เรียวปากเม้มเข้าหากันด้วยความชั่งใจที่จะเดาใจคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเต้นของทีม
" เล่นบทแบบนี้เบื่อบ้างไหม ? "
" ก็สนุกดีนะ .. ทำตัวอึดอัดใส่พี่น่ะ สนุกดี " กีฮยอนเผยรอยยิ้มหวานยกขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาคมที่หยีลงตาม ทำเอาคนมองได้แต่โคลงหัวไปมาอย่างไม่เห็นด้วย
" แต่พี่ไม่สนุกด้วยหรอกนะ "
" ทำไมอ่ะ ? โอ๋ๆๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ่ " ไม่ว่าเปล่า มือเล็กนิ่มที่เคยจับดินสอเขียนอะไรเรื่อยเปื่อยก็เอื้อมไปจับแก้มสากของชยอนูพร้อมบีบยืดมันออกเพื่อทำให้อีกฝ่ายยิ้ม
" หยุดยืดหน้าพี่หน่า กีฮยอน "
" ยิ้มหน่อยสิ่ยิ้มหน่อยยยยย "
" หยุดเลยกีฮยอน หยุดเลยย " ชยอนูโวยวายใส่คนเป็นรุ่นน้องที่ตอนนี้กำลังสนุกสนานกับการทำลายใบหน้าของตนเอง ทว่ามีแต่เสียงหัวเราะสดใสและรอยยิ้มกว้างเท่านั้น ดีที่ว่าห้องนี้เป็นห้องเก็บเสียง ทางทีมงานจึงไม่รู้ว่าพวกเขากำลังหัวเราะหรือทำอะไรอยู่
" ฮ่าๆๆๆ ถ้าผมไม่หยุดแล้วจะทำไมล่ะ ? "
" ไม่หยุดเดี๋ยวพี่จูบนายเดี๋ยวนี้ล่ะ "
ชยอนูจับสองมือที่เล่นแก้มของเขาเอาไว้พร้อมกระชับมันอยู่ภายในฝ่ามืออันอบอุ่นนั้น นัยน์ตาเรียวสะท้อนแววตาจริงจังเหมือนตอนคิดจริงจังในเรื่องการแสดงส่งมอบให้นัยน์ตาคมที่มองลึกเข้ามาในดวงตา คนๆนี้มีเพียงแต่ความจริงจังและจริงใจในทุกสิ่งอย่าง สายตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกที่จริงจังไม่ล้อเล่นต่อความรู้สึกของตนเองและอีกฝ่ายนั้นยิ่งทำให้พวงแก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อได้ไม่ยาก รวมถึงพลังทั้งหมดแทบหมดไปเพราะสายตาที่จริงจังและทรงพลังของชยอนู
จากเสียงหัวเราะที่ดังไปทั่วห้องกลับกลายเป็นห้องที่เงียบสงัดอีกครั้ง เรียวปากเล็กเม้มลงเป็นเส้นตรง ก่อนที่จะก้มหน้าหลบซ่อนอาการเห่อร้อนและริ้วสีระเรื่อบนใบหน้าให้พ้นจากสายตาร่างหนา มือเล็กพยายามผละออกจากพันธะอันแข็งแกร่งของพี่ใหญ่ของทีมแต่ทว่ามันแน่นเกินกว่าจะผละออกได้ ครั้นเสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อเขาอยากแผ่วเบาจนทำให้เผลอเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่ทันตั้งตัว นัยน์ตาคมที่ช้อนมองเบิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อใบหน้าหล่อของคู่แข่งกำลังเลื่อนเข้ามาใกล้จนแทบจะไร้ช่องทางให้อากาศผ่าน เพียงแค่หน้าผากสัมผัสกัน ยูกีฮยอนเกลียดก้อนเนื้อภายในอกที่เต้นระรัวเหมือนคนบ้าคลั่งกำลังนั่งฟังเสียงกลองอย่างไรอย่างนั้น
... เกลียดที่หัวใจมันเต้นรัวไม่เป็นเวล่ำเวลา ...
... เกลียดที่มันจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความรู้สึกของเขาโดยไม่รู้ตัว ...
" ด ... เดี๋ยวน้องๆมาเห็นเข้านะ .. " เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาเมื่อริมฝีปากหนาเฉียดผ่านเรียวปากของเขาเพียงนิดเดียวเท่านั้น น้ำเสียงที่เปล่งออกมามันช่างแผ่วเบาเหมือนเสียงกระซิบด้วยลมเท่านั้น
" แล้วไงล่ะ "
“ ไม่เอานะ ... ”
“ กีฮยอนอ่า ”
" ไม่ .. ไม่เอาหน่า ! " ร่างเล็กกว่ากลั้นใจใช้แรงที่หลงเหลือทั้งหมดผละออกจากทุกพันธนาการจนสำเร็จ ก่อนจะลุกขึ้นพรวดเต็มความสูงจ้องมองร่างสูงที่นั่งกุมขมับพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างชัดเจน
" ออกไปเถอะกีฮยอน ..."
" ... "
" เดี๋ยวทุกคนก็รู้หรอกว่าเราเป็นอะไรกัน "
" พี่ชยอนู ... "
" .. อย่าลืมสิ่ว่าเราอยู่ด้วยกันแล้วเป็นคู่ที่อึดอัดที่สุดนะ " ชยอนูเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าน่ารักที่มองมาด้วยแววตาไหววูบเพียงชั่วครู่ ก่อนจะหันไปสนใจเรื่องการเลือกเพลงต่อโดยที่ไม่สนใจเสียงปิดประตูที่ดังลั่นกระแทกแก้วหูเลยสักนิด
... เพราะเราเป็นคู่ที่อึดอัดที่สุดในทีม ต้องสำนึกไว้ตลอด .. สิ่นะ ...
.
" เป็นอะไรไป กีฮยอนนา ? "
เสียงใสของเพื่อนในทีมที่อายุเท่ากันอย่าง อีมินฮยอก เอ่ยดังขึ้นมากระทบโสตประสาทของคนตัวเล็กให้เงยขึ้นมามองร่างโปร่งที่ไม่ได้รับเชิญที่เดินขึ้นมาบนดาดฟ้าด้วยรอยยิ้มสดใส ก่อนที่จะเบือนหน้าหนีเพื่อนวัยเดียวกันไปมองทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้า ในเวลานี้เขาต้องการอยู่คนเดียวเพื่อคิดเรื่องอะไรหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแข่งขันที่จวนจะเข้ามาอีกไม่กี่วันข้างหน้า รวมถึงเรื่องส่วนตัว แต่ในเมื่อเพื่อนสนิทของเขาเข้ามาแบบนี้ จะไล่ให้ออกไปก็ดูจะเสียมารยาทไปหน่อยจริงๆ
" เปล่า ฉันสบายดี แล้วคิดไงถึงขึ้นมาบนดาดฟ้าล่ะ ? "
" ก็ฉันตามหานายทั่วห้องซ้อมแล้วไม่เจออ่ะ ก็เลยคิดว่านายน่าจะขึ้นมาที่นี่ "
" ตามหาฉัน ? ตามหาทำไม ? " กีฮยอนถามมินฮยอกที่หย่อนตัวนั่งลงตรงที่ว่างของม้านั่งที่เขานั่งอยู่ก่อนหน้านี้ คิ้วสวยขมวดลงเล็กน้อยเมื่อไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนพูด
“ จูฮอนถามหาน่ะ สงสัยเห็นว่าพี่ชยอนูโดนสัมภาษณ์รายการมั้ง ”
“ เหรอ ? สัมภาษณ์ว่าไงล่ะ .. พี่เขาได้บอกไหม ? ” กีฮยอนเอ่ยถามมินฮยอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนเพื่อนหน้าหวานที่ได้ตำแหน่งหน้าตาของทีมต้องหันหน้ามามอง
“ ทำไมล่ะกีฮยอนนา มีอะไรรึเปล่า ปกตินายก็ไม่สนใจเรื่องของพี่ชยอนูอยู่แล้วนี่ คิดไงถามล่ะ ? ”
“ เปล่า .. ก็แค่อยากรู้ในฐานะคู่แข่งไง อย่าลืมสิ่ว่าฉันพยายามชนะพี่เขาแทบตายนะ ”
“ เห็นจูฮอนบอกว่าพี่เขาให้สัมภาษณ์เรื่องการทำงานกับนายอ่ะ พี่ชยอนูบอกว่าถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะร่วมงานกับนายที่สุด ”
“ อือ ”
… พี่ชยอนูบอกไม่อยากทำงานกับเขา ก็พอๆกับที่เขาให้บอกกับทีมงานไปว่าพี่ชยอนูอยู่ด้วยแล้วอึดอัดที่สุดนั่นแหละ ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก ...
“ ดูนายซึมๆนะกีฮยอน เครียดอะไรรึเปล่า ? ” มินฮยอกเอ่ยถามเพื่อนที่ดูซึมๆไม่เป็นตัวของตัวเอง ถึงยูกีฮยอนจะเป็นคนเงียบๆแต่ก็ไมได้เงียบมากขนาดนี้ ยิ่งกับเพื่อนสนิทอย่างเขาแล้ว เพื่อนคนนี้ไม่มีทางเป็นแบบนี้แน่ๆ
“ ... เครียดหลายเรื่องน่ะ เรื่องซ้อมกับการแสดงอีกไม่กี่วันคือประเด็นหลัก ”
“ จริงเหรอ ? ปกติฉันไม่เห็นนายเครียดมากแบบนี้นะ ถ้านายเครียดเรื่องพวกนี้นายจะเข้าห้องซ้อมไปพยายามซ้อมร้องเพลงจนคอพังนี่ ”
“ สงสัยฉันคงเหนื่อยมากไปมั้ง ”
“ เอางี้ดีกว่า ฉันควรเปลี่ยนคำถามเป็น ... นายกับพี่ชยอนูเป็นอะไรกันรึเปล่า ? ” เพียงแค่คำถามมีตัวแปรเพิ่มขึ้นมา ใบหน้าน่ารักที่ก้มมองพื้นตลอดเวลาถึงกับเงยขึ้นมองใบหน้าหวานของมินฮยอกด้วยแววตาตกใจจนปิดบังไม่มิด เรียวฟันสวยเผลอขบเม้มริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว และนั่นก็ยิ่งทำให้เพื่อนสนิทที่พอจะรู้ใจในระดับหนึ่งถึงกับยิ้มออกมาไม่ยาก
“ น .. นาย ”
“ แค่นี้ฉันก็ดูออกหน่ากีฮยอนนา ไงล่ะ จะบอกเองหรือว่าจะให้ฉันต้อนนายต่อ ? ”
“ มันไม่มีทางเป็นไปมากกว่านั้นหรอก มินฮยอกอ่า ” กีฮยอนเอ่ยพร้อมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ ทำไมล่ะ ? ”
“ เพราะเราเป็นคู่ที่อึดอัดที่สุดไงล่ะ อยู่ด้วยกันก็รู้สึกแย่เปล่าๆ ”
“ ถึงว่าล่ะที่พี่เขาให้สัมภาษณ์แบบนั้น พวกนายดูไม่ค่อยเข้าหากันเท่าไหร่เลยอ่ะ บางทีความอึดอัดอาจจะหายไปถ้านายลองคุยกับพี่เขาดีๆนะ ลองเปิดใจดูสิ่ ” มินฮยอกแนะนำในสิ่งที่อาจจะทำให้คู่แบทเทิลแสนอึดอัดผ่อนคลายลงบ้าง เพราะเขาเองก็ไม่สบายใจถ้าคนในทีมดูไม่เข้าหากันแบบนี้ งานทำงานในอนาคตมันจะลำบากมากขึ้นไปอีกถ้าไม่เริ่มเข้าหากันตั้งแต่วันนี้
“ ไว้ฉันจะลองทำก็แล้วกัน ”
.
การแข่งขันแบทเทิลจบไปแล้ว ...
ยูกีฮยอนชนะซนฮยอนอู .. ในที่สุดเขาก็ชนะพี่ชยอนูตามที่คาดหวังเอาไว้ตลอดตั้งแต่เริ่มรายการมา แถมยังชนะที่หนึ่งในสายโวคอลและได้อัดเพลงร่วมกับรุ่นพี่โซยูและรุ่นพี่กิริบอย แต่นั่นไม่ได้ทำให้กีฮยอนรู้สึกดีใจมากเท่าไหร่ เพราะจากคอมเมนต์ของกรรมการในรอบนี้ที่บอกว่าพวกเขาเป็นคู่แข่งที่แย่ การทำงานเป็นคู่ไม่ได้เรื่อง แสดงเหมือนแบ่งเวทีแล้วโชว์ของใครของมันจนรุ่นพี่เควิลโมโหตวาดใส่พวกเขา และเพราะเหตุการณ์นี้ก็ทำให้พี่ชยอนูพ่ายแพ้ไปอีก เขาไม่สามารถดีใจกับชัยชนะที่พยายามได้เลยแม้แต่นิดเดียว ทุกคนภายในทีมก็ถามคำถามทำนองเดียวกันแทบทุกคนที่ว่า ‘ ทำไมเข้าคู่กันไม่ดีเอาเสียเลย ? ’
กีฮยอนรู้ตัวดีว่าผิดที่ไม่ปรับตัวเข้าหาอีกฝ่าย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขายอมรับผิดเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เสียหน่อย ในเมื่อพี่ใหญ่คู่แข่งของเขาก็ไม่ยอมเข้าหาเขาเช่นกัน ไหนชอบทำหน้านิ่งๆบึ้งๆเวลาซ้อมด้วยกันอีกเลยทำให้เขาทำงานไม่สะดวกใจด้วยเสียเท่าไหร่ แต่พอคิดไปคิดมา ตัวเขาเองก็รู้สึกผิดมากกว่าที่ไม่ได้ทำตามที่มินฮยอกเคยบอกไว้ แต่ก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อยที่พี่ชยอนูไม่ได้โดนคัดออก
... เพราะถ้าเป็นแบบนั้นยูกีฮยอนคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆ ...
“ นี่มันอะไรกันเนี่ยยยยยย ทำไมเหมือนมีรังสีอึดอัดอยู่ในหอแบบนี้ล่ะ ” จู่ๆหนึ่งในคู่หูแร็พเปอร์อย่างกอนฮี หรือ ชยัปกอน ก็พูดขึ้นมาหลังจากที่เดินเข้ามาในหอเป็นคนสุดท้ายแล้วรู้สึกได้ว่าเหมือนหอพักแห่งนี้มีรังสีอะไรบางอย่างที่ไม่เข้าท่า ด้วยความที่เขามีนิสัยพูดตามในสิ่งที่คิด ชยัปกอนจึงพูดออกมาโดยไมได้สนใจคนในทีมที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเท่าไหร่
“ รังสีอะไรวะ ? ” จูฮอน หนึ่งในคู่หูแร๊พเปอร์ถามกลับมา และเพื่อนสนิทที่สุดก็วิ่งไปนั่งข้างพร้อมกระซิบให้ได้ยินเพียงสองคน
“ รังสีมาคุไง มันอึดอัดอย่างเห็นได้ชัดเลยนะเว่ย ”
“ สงสัยเป็นเพราะคู่นั้นล่ะมั้ง ” จูฮอนเอ่ยพลางพยักเพยิดไปที่คู่ของพี่ใหญ่ของทีมที่ตอนนี้พี่ใหญ่ร่างโตนั่งเบือนหน้าหนีคู่แข่งที่คว้าชัยชนะไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ในขณะที่คู่แข่งร่างเล็กกำลังนั่งมองพื้นพลางเขี่ยพื้นอย่างคนหมดหวัง
ตั้งแต่กลับมาที่ห้องพัก ไม่มีเสียงพูดคุยจากเมนโวคอลแสนร่าเริงอย่างยูกีฮยอน หรือแม้แต่เสียงทุ้มๆของซนฮยอนอูเลย มีเพียงแค่ความเงียบที่ตั้งแง่ใส่กันแปลกๆ ในตอนแรกทุกคนยังไม่เอะใจอะไร สมาชิกพูดคุยกันปกติเหมือนทุกๆวัน แต่ว่าพอผ่านไปเพียงสิบนาทีเท่านั้น รังสีอะไรบางอย่างก็แผ่ออกมาตามที่ชยัปกอนรู้สึก และเจ้าตัวก็เป็นมนุษย์เสี่ยงตายกล้าพูดความคิดของสมาชิกในทีมออกมาโดยไม่รู้ตัว
จากที่ได้ฉายาว่าเป็นคู่ที่อึดอัดที่สุดในทีม ก็ยิ่งจะตอกย้ำฉายาจนสมาชิกในทีมคนอื่นแทบหยุดหายใจเพราะกลัวและอึดอัดตาม แม้ว่าคนที่พ่ายแพ้มายังทำใจได้ไว แต่กับพี่ใหญ่คนนี้ให้ทำใจคงลำบาก เป็นเพราะเขาคาดหวังว่าจะชนะด้วยการแสดงที่มั่นใจ แต่ทว่าการแสดงครั้งนี้เขาทำออกมาไม่เต็มที่ กลายเป็นว่าจากคำชมที่เคยได้รับเมื่อสัปดาห์ก่อนก็กลายเป็นคำติเตียนมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการทำงานแสดงบนเวทีเป็นคู่ เลยทำให้เขาทำพลาดไปหลากหลายอย่าง และพ่ายแพ้คนเป็นน้องที่ไมได้มีความสามารถด้านการเต้นที่โดดเด่นเท่าการร้องเพลงอย่างยูกีฮยอนด้วย
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกแย่ รู้สึกแย่ตั้งแต่วันนั้น เขาไม่พูดคุยกับกีฮยอนเลย พูดด้วยก็แทบนับคำได้จนถึงวันนี้ รู้ว่าการกระทำเหล่านี้มันอึดอัด แต่ในเมื่อเขาทำอะไรไม่ได้เพราะตัวเขาก็เป็นแบบนี้ และเพราะความรู้สึกที่ไม่คงที่แม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม
... เขาโดนยูกีฮยอนปั่นหัวใจเล่นฟรีๆแบบนั้น จะไม่ให้รู้สึกอะไรเลยได้อย่างไรล่ะ ...
“ ฉันขอตัวไปอาบน้ำนะ ” ชยอนูเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในห้อง สมาชิกทุกคนหันไปมองพี่ใหญ่ที่เดินออกจากห้องไป ยกเว้นแต่คู่กรณีที่ยังก้มหน้าไม่สบสายตาของคนพูดที่ทอดมองลงมา จนร่างหนาเดินลับออกจากห้องนั่งเล่นไป ใบหน้าน่ารักถึงจะยอมเงยหน้ามองสมาชิกในทีมทุกคน
“ สรุปพวกนายทะเลาะอะไรกัน ? ” พี่ใหญ่สุดอย่าง วอนโฮ เอ่ยถามกีฮยอนทันทีที่สบโอกาส
“ เปล่าสักหน่อย ”
“ มาปล่งมาเปล่าอะไรล่ะ เรื่องก็เห็นๆอยู่เนี่ย ” ชยัปกอนเอ่ยขึ้นมาทันที เรียกให้คนที่นั่งข้างอย่าง แชฮยองวอน ตวัดสายตาไปมองรุ่นน้องที่พูดจาไม่ดูกาลเทศะ
“ กอนฮี กีฮยอนเป็นพี่นายนะ อายุเยอะกว่า จะทำอะไรก็ระมัดระวังปากด้วย ” และจูฮอนเพื่อนซี้ชยัปกอนก็รีบยื่นมือมาปิดปากเพื่อนทันทีหลังจากได้ยินฮยองวอนตักเตือนด้วยน้ำเสียงเรียบๆแบบนั้น
“ ฉันบอกนายเมื่อวันนั้นแล้วไม่ใช่เหรอกีฮยอนนา ” มินฮยอกทำหน้าเหนื่อยใจกับนิสัยที่ไม่ชอบทำตามที่บอกของเพื่อนสนิท ก่อนจะถอนหายใจกับผลลัพธ์ที่ได้
“ ฉันขอตัวนะ ” กีฮยอนลุกขึ้นยืนพร้อมขอตัวออกไปจากห้องนั่งเล่นเพราะเขาคงทนฟังคำต่อว่าของเพื่อนๆในทีมไม่ได้
ไม่ได้มีแค่เขาที่เป็นฝ่ายผิดคนเดียวเสียหน่อย ทำไมต้องต่อว่าเขาคนเดียวด้วยล่ะ ?
“ พี่คิดว่าไง ? ” ฮยองวอนเอ่ยถามวอนโฮที่แชร์ห้องนอนด้วยกัน ราวกับว่าล่วงรู้ในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ และเขาก็คาดว่าพี่ใหญ่สุดก็คงจะรู้เหมือนกัน
“ คืนนี้คงลำบากถ้าจะนอนในห้อง พี่จะนั่งแต่งทำนองเพลงที่เอาไว้ใช้แข่งรอบหน้า เราจะอยู่เป็นเพื่อนพี่ไหมล่ะ ? ”
“ เปลี่ยนจากอยู่เป็นเพื่อนเป็นนอนหลับเฝ้าแทนได้ไหมพี่ ฮ่าๆๆๆ ”
.
ร่างเล็กยืนอยู่หน้าห้องนอนเล็กๆของตัวเองที่แชร์ร่วมกับฮยองวอน พี่วอนโฮ และคนที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดอยู่ถึงวันนี้มาเป็นระยะเวลาเกือบสิบห้านาที เขากำลังชั่งใจว่าจะเดินเข้าไปในห้องนอนทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรดีหรือจะยืนรอให้คนเป็นพี่เดินออกมาเอง หรือว่าเขาต้องเคาะประตูให้อีกฝ่ายที่อยู่ในห้องมาเปิดประตู ได้แต่ยืนม้วนนิ้วไปมาอย่างใช้ความคิด จะให้เสียฟอร์มไปขอโทษแล้วยอมรับผิดทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ ในเมื่อคนผิดมันคือคนตัวโตในห้องนั่นต่างหาก แต่แล้วกีฮยอนแทบสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงจากในห้องนอนที่เขาคิดว่าล็อกกลอนอยู่ดังขึ้นมากระทบโสตประสาท มันดังพอที่จะทำให้เขาดึงสติกลับมา
“ เข้ามาสิ่ ไม่ได้ล็อกห้อง ”
บานประตูเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กที่เดินเข้ามาเงียบๆ นัยน์ตาเรียวเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าภาพร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเปลือยท่อนบนพาดเสือยืดตัวใหญ่ไว้บนบ่ากว้าง เหลือเพียงกางเกงวอร์มสีเข้มที่ใส่นอนเป็นประจำ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่สมส่วนตามประสาคนชอบออกกำลังกายและผิวสีเข้มที่ยิงทำให้ร่างกายดูมีเสน่ห์มากขึ้น กลุ่มผมที่สั้นเปียกชื้นจนเห็นได้ชัดว่าเพิ่งสระผมมาถูกผ้าขนหนูสีเข้มปกคลุมอยู่ ใบหน้าหล่อหันมามองร่างเล็กแสนคุ้นเคยที่ยืนนิ่งเผยใบหน้าน่ารักที่ขึ้นสีระเรื่ออย่างเห็นได้ชัดพร้อมเม้มเรียวปากแดงฉ่ำจนเป็นเส้นตรงอยู่ตรงหน้า พร้อมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“ ... ”
“ มีอะไรรึเปล่ากีฮยอน ? ” เสียงทุ้มดังขึ้นภายในห้องขนาดเล็ก เรียกสติให้เมนโวคอลหมายเลขหนึ่งที่ยืนนิ่งต้องเงยหน้ามองพี่ใหญ่ร่างโตตรงหน้า
“ .. ผม ”
“ ... ”
หมับ !
“ ผมขอโทษ .. ” ไม่ว่าเปล่า กีฮยอนเดินเข้าไปสวมกอดพี่ใหญ่ที่ยังคงเปลือยท่อนบนอยู่ทันทีจนลืมท่าทีเคอะเขินที่เกิดขึ้นเมื่อห้านาทีก่อน ใบหน้าน่ารักซบลงแผงอกแกร่งที่หายใจสะดุดอยู่หลายครั้ง และอาการเคอะเขินก็กลับมาอีกครั้งเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ได้ยินชัดเจนมากขึ้นเมื่อไม่มีเสื้อผ้าบดบัง
... ยูกีฮยอนเผลอได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวจนเป็นจังหวะเดียวกันกับเขาเสียแล้วสิ่ ...
“ ขอโทษเรื่องอะไร ? ”
“ ทุกเรื่อง ”
“ ... ”
“ เรื่องที่ผมชนะพี่วันนี้ เรื่องที่ผมทำให้พี่ต้องโดนหลายๆคนต่อว่า เรื่องที่ผมทำให้พี่แพ้ เรื่องที่ผมไม่ยอมเข้าหาพี่แล้วฟอร์มคู่แบทเทิลให้ดีๆ ” เสียงหวานเอ่ยอู้อี้อยู่กับหน้าอกของชยอนู กีฮยอนไม่ยอมเงยหน้ามองเจ้าของอ้อมกอดที่เริ่มยกมือขึ้นกอดตอบอย่างอ่อนโยนสักนิด ซ้ำยังฝังใบหน้าลงจนแทบจะจมเข้ากับแผ่นอกกว้างเสียให้ได้
“ ไม่เป็นไร เพราะพี่ชะล่าใจและพยายามน้อยเกินไปเอง ไม่ผิดที่นายหรอก ”
เอาเข้าจริงๆ หลังจากที่เขาใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายและความเหนื่อยล้าไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง แทนที่จะยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์วันนี้จนไม่อยากพูดกับใครต่อ ทว่าความรู้สึกของเขาก็เริ่มดีขึ้น เขาเริ่มทำใจได้มากขึ้นและตอกย้ำให้นำเอาเหตุการณ์ในวันนี้มาสร้างแรงกระเพื่อมให้พยายามมากขึ้น เขาไม่ควรจะชะล่าใจแบบครั้งนี้อีก การแข่งขันครั้งนี้ให้บทเรียนอะไรมากมายกับซนฮยอนอูคนนี้จริงๆ
“ ขอโทษ .. ”
“ หืม ? ” ชยอนูที่คิดว่าร่างเล็กของรุ่นน้องจะเอ่ยคำขอโทษหมดแล้วกลับแสดงความงุนงงอีกครั้งเมื่อได้ยินคำขอโทษจากเรียวปากเล็ก
“ ... ข .. ขอโทษที่วันนั้น .. ไม่ยอมให้พี่จูบ ” ยิ่งพูดออกมา เสียงหวานก็ยิ่งแผ่วเบาลง แรงกอดรัดรอบเอวหนาก็เพิ่มมากขึ้น มันเป็นเรื่องที่น่าอายที่จะพูดอะไรแบบนี้ออกมาตรงๆ และกีฮยอนก็ไม่พร้อมจะมองหน้าร่างหนาตรงหน้ามากขึ้นอีก
“ กำลังจะปั่นหัวพี่อีกแล้วรึไง ยูกีฮยอน ”
“ เปล่านะ ”
“ อย่าโกหกแล้วแกล้งปั่นหัวพี่ แค่นี้พี่ก็ไม่เป็นตัวของตัวเองพอแล้วนะ ”
“ เปล่าจริงๆนะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะปั่นหัวพี่ด้วย ”
“ ไหนว่านายบอกว่าอยู่กับพี่แล้วอึดอัดไง เราเป็นคู่ที่อึดอัดที่สุดไม่ใช่เหรอ ? ” ชยอนูผละร่างเล็กให้ออกจากอ้อมกอดเพื่อที่จะมองใบหน้าน่ารักที่ขึ้นสีแดงก่ำ แม้กีฮยอนจะยอมผละออกจากอ้อมกอด แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่เงยหน้ามองอีกฝ่ายเลย
“ นั่นมันก็แค่เสแสร้ง ... ”
“ เสแสร้ง ? ”
“ ความจริงผมไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรอกนะที่อยู่กับพี่น่ะ ... ” นัยน์ตาคมเสมองไปทางเตียงนอนของพี่ใหญ่สุดของทีมอย่างวอนโฮเพื่อวางสายตาไม่ให้คนตรงหน้ามองเห็นแววตาไหวระริกของตน
“ ... ”
“ ... รู้สึกดีมากกว่าด้วยซ้ำ ” กีฮยอนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน ดีที่ว่าภายในห้องช่างเงียบสงัดมากพอที่ชยอนูจะได้ยินใส่สิ่งที่เมนโวคอลตัวเล็กเอ่ยออกมาจากเรียวปาก
“ ว่าอะไรนะกีฮยอนอ่า พี่ไม่ได้ยิน ”
“ ไม่พูดแล้ว ”
“ กีฮยอน ... ”
และคำตอบที่ได้รับมันช่างเกินคาดสำหรับซนฮยอนอูคนนี้มากทีเดียว เมื่อจู่ๆ ริมฝีปากของเขาได้สัมผัสกับเรียวปากเล็กที่แดงเรื่อจนเขาอยากลองสัมผัสมันสักครั้ง กีฮยอนเขย่งปลายเท้าเล็กน้อยจนใบหน้าน่ารักห่างจากใบหน้าหล่อเพียงไม่กี่เซนติเมตร ก่อนที่จะประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากหนาของชยอนูอย่างแผ่วเบาพร้อมหลุบตาลงเมื่อได้รับสัมผัสตอบกลับจากเจ้าของริมฝีปากหนานั้น
ความนุ่มหยุ่นราวกับเยลลี่ยิ่งทำให้ร่างหนาติดใจมันจนแทบโงหัวไม่ขึ้น เขาอยากจะละเลียดชิมมันไปเรื่อยๆนานๆ แต่ก็ต้องสงสารคนเป็นรุ่นน้องที่จะขาดอากาศหายใจเพราะไม่ทันต่อความต้องการของตนเอง ท้ายที่สุดริมฝีปากของชยอนูก็ผละออกอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าของกีฮยอนแดงซ่านมากกว่าเดิม มือเล็กทั้งสองข้างจับเข้าที่ไหล่กว้างเพื่อเป็นที่พยุงให้ร่างที่แทบจะล้มทั้งยืนยังคงยืนได้
“ พอใจแล้วใช่ไหม ? ไม่ต้องถามผมซ้ำสองแล้วนะ ”
“ พอใจแล้วล่ะ ”
ชยอนูคว้าร่างของกีฮยอนเข้ามาในอ้อมกอดอบอุ่นแม้จะยังไม่ได้สวมใส่เสื้อยืดที่เตรียมจะใส่ และร่างเล็กก็ยินยอมที่จะอยู่ในอ้อมกอดของร่างหนาไปเรื่อยๆพร้อมกับมือเล็กที่กอดตอบอีกฝ่าย รอยยิ้มกว้างและดวงตาหยีลงอย่างที่เกิดขึ้นเป็นประจำผุดขึ้นบนใบหน้าน่ารัก ในขณะเดียวกัน รอยยิ้มที่หาได้ยากสำหรับช่วงสัปดาห์นี้ก็ประดับบนใบหน้าหล่อของชยอนูเช่นกัน เมื่อเขาเข้าใจตรงกันแล้ว มีอะไรที่จะเรียกว่าความอึดอัดอีก
“ กีฮยอนอ่า ”
“ หือ ? ”
“ หลังจากนี้ไปนายช่วยเลิกเสแสร้งเป็นคู่อึดอัดกับพี่จะได้ไหม ? ”
“ ได้อยู่แล้ว ” ศีรษะทุยพยักขึ้นลงเป็นสัญญาณตอบรับในคำขอของพี่ใหญ่และนั่นก็ทำให้รอยยิ้มที่มีความสุขของชยอนูเผยขึ้นมาอย่างเต็มที่จริงๆ
“ กีฮยอนอ่า .. ”
“ อะไรเหรอพี่ชยอนู ? ” กีฮยอนเงยหน้าช้อนตามองชยอนูตามเสียงเรียกชื่อรอบที่สองพร้อมยกยิ้มกว้างมอบให้อีกฝ่ายอย่างจริงใจ
“ พรุ่งนี้ถ่ายเอ็มวีแล้ว .. สู้ๆนะ ”
END.
ขอต้อนรับกับฟิคเรื่องแรกที่เรื่องแต่งของทีมโนเมอร์ซี่นะคะ เย้
เรื่องแรกขอประเดิมกับฟิคคู่คนแก่ไลน์
พี่ชยอนูกับกีฮโยนี อิอิอิอิอิ
ดัดแปลงจากโมเม้นคู่แบทเทิล 1:1 ฮือ เห็นแล้วก็เขินและฟินเอ่าะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฮืออออ อะไรจะฟินปานนั้น
เขินแรงมากกกกกกกกกกกก
ตอนแรกนี่อารมณ์แบบอึดอัดมาก ยิ่งต่างฝ่ายต่างประชดกัน รู้สึกบีบหัวใจมาก อยากร้องไห้
ฮื้อออ มันจุกๆ
แต่สุดท้าย กีฮยอนก็ยอมพี่เขาสินะ แอร๊ยยย
น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบมากเลย
ขอบคุณสำหรับฟิคน่ารักๆนะคะ ><
อยากโดนกีฮยอนนากอดแบบนี้บ้างงงง ><
พี่ชยอนู น้องกีฮยอน เคมีเข้าคู่กันมาก ดีมาก ฟินมาก
แล้วพอมาเจอฟิคที่ซัพพอร์ตโมเม้นท์ได้ดีงามแบบนี้ โฮฮฮฮฮฮ อยากร้องไห้ ;;________;;
ฟิคดีมากกกกกกกกกก
น่ารักมากกกก แงงงง พี่ชยอนูเกิดมาเพื่อรับบทพระเอกจริงๆสินะคะ หล่อมากก อบอุ่นมาก ฮอตมากก
ส่วนกีฮยอนนี่แบบ แงงงง หวานนนน ดีงามมมม
ตกลงคือที่อึดอัดเพราะอะไร เพราะแอบมีใจให้กันสินะ
แล้วพี่ชยอนูคืออัลไล ตอบ! จะมาขโมยจูบเค้าตั้งแต่ในห้องซ้อม คนไม่ดี ฮื่ออออ
แน่จิงทำไมไม่ทำต่อหน้ากล้องเลย #ผิด
ชอบโมเม้นท์ที่น้องมาง้อ มายืนรอหน้าห้อง แงงง น่ารักกก #ไบแอส
ในที่สุดก็โดนจนได้สินะยูกีฮยอน #โดนจูบ -///-
ชอบคู่นี้มากๆเลยค่ะ
ชยอนูเวลาอยู่กับกีฮยอนนี่ น่ารักมากๆเลยค่ะ
แต่งคู่นี้อีกนะคะ จะรออ่านค่ะ