ตอนที่ 8 : - CHAPTER 8 : การพบกันอย่างเป็นทางการ 。
- CHAPTER 8 : การพบกันอย่างเป็นทางการ 。
... ถ้ารู้ว่ามันปวดหัวแบบนี้แล้วจะจัดเรื่องมันขึ้นมาทำไม ? ...
มาร์คเดินทางมามหาวิทยาลัยด้วยจิตใจที่เหม่อลอย เขาครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าอยู่ตลอดเวลา บวกกับสภาพร่างกายที่ยังไม่พร้อมเต็มที่ เขายังรู้สึกเจ็บระบมที่ช่องทางด้านหลังอยู่จึงทำให้การเดินดูแปลกตาไปแต่ก็พยายามจะปรับให้เหมือนเดิมมากที่สุด
ตั้งแต่เมื่อเช้าที่เขากำลังแอบลงจากห้องนอนหลังจากที่รีบตื่นเช้าทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว แต่ทว่าก็ยังช้ากว่าประธานชเวผู้เป็นพ่อของเขาที่ยืนดักรอหน้าประตูบ้าน เหมือนว่าพ่อของเขาต้องการคุยอะไรสักอย่างและเหมือนว่าจิตสัมผัสเราเข้าถึงกันจึงทำให้เขาเดินเข้าไปในห้องทำงานของพ่อเขาทันที
' มาร์ค .. '
' ครับพ่อ '
' ช่วงที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างลูกกับแจบอมใช่ไหม ? ' ประธานชเวเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่อ้อมค้อมและนั่นก็ทำให้เขารู้สึกตกใจไม่น้อยที่พ่อของเขารับรู้เรื่องต้องห้ามเหล่านั้น
' ... '
' บอกพ่อมาเถอะ .. พ่อไม่ว่าลูกหรอก '
' ... '
' จริงๆ พ่อสัญญา พ่อจะเก็บเป็นความลับด้วย ' ประธานชเวมักจะมีคนพูดถึงไปในแง่ที่ว่าเป็นคนพูดจริง พูดแล้วไม่คืนคำ สัญญาอะไรไว้ก็จะเป็นแบบนั้น จึงทำให้มาร์คยอมบอกความจริงไปเพราะเชื่อว่าพ่อของเขาจะไม่บอกความลับนี้ออกไปให้ใครรับรู้
' ... ครับ '
' ว่าไงล่ะ '
' มีเรื่องเกิดขึ้นระหว่างผมกับแจบอมครับ '
' เพราะเรื่องนี้ใช่ไหมเลยใส่เสื้อหนาขนาดนี้ ' สายตาคมมองร่างของลูกชายที่สวมเสื้อผ้าหนาและมิดชิดเสมือนคนขี้หนาวแต่ทว่ามันไม่ใช่เป็นเช่นนั้นเลย ลูกชายของเขากำลังปกปิดอะไรบางอย่างซึ่งคนเป็นพ่อก็รู้ดีแต่จะไม่ก้าวก่ายให้มากนัก
' ... ครับพ่อ '
' พ่อถามลูกหน่อยจะได้ไหมมาร์ค ? '
' ... '
' เมื่อสามปีที่แล้ว .. ที่ลูกทำให้แจบอมยอมเรียนมหา’ลัยขนาดนั้น มันไม่ใช่เพราะพ่อแม่ ... แต่เป็นเพราะความรู้สึกของลูกที่รักน้องมากกว่าที่ควรจะเป็นใช่ไหม ? '
' ... '
' แต่มาร์คอย่าลืมนะว่าลูกกับแจบอมไม่มีทางเป็นไปได้ ลูกรู้เหตุผลใช่ไหม ? '
‘ … ’
‘ อย่างแรกคือแจบอมไม่ชอบคนโกหก ในเมื่อลูกโกหกไปแบบนั้นแล้วแน่นอนว่าถ้าความลับมันเปิดออกแจบอมคงรับไม่ได้ และสอง ... พ่อว่าลูกคงรู้ดีในเรื่องภูมิหลังของลูกเอง ’
' ไม่ต้องห่วงครับพ่อ .. ผมคบกับซึงฮุนอยู่ครับ ส่วนแจบอมคบกับยองแจ .. รุ่นน้องของแจบอม '
' ลูกคบกับอีซึงฮุนจริงๆเหรอ ? '
' ครับพ่อ .. ผมลองคบหาดูใจกับเขา ' มาร์คตอบพลางก้มหน้าลงหลบซ่อนสายตาไหววูบของตน เขาไม่อยากโดนพ่อจับได้ว่าแม้จะคบกับซึงฮุนอยู่แต่ใจของเขาไม่ได้อยู่ที่ชายหนุ่มคนนั้นเลยจริงๆ
' เพราะเรื่องนั้นใช่ไหม ? '
' ผมพยายามแล้วครับพ่อ ... '
' อืม แจบอมมันยังไม่รู้อะไรใช่ไหม ? '
' ครับ '
' ทั้งสามเรื่องเลยนะ '
' ครับ '
“ เฮ้มาร์ค ! นายเหม่ออะไรน่ะ ? ” เสียงทุ้มของใครบางคนเรียกสติที่เหม่อลอยของมาร์คได้เป็นอย่างดี ใบหน้าหวานหันไปมองต้นเสียงด้านหลังพบว่าร่างสูงโปร่งที่คุ้นตา คนที่เขาแอบอ้างไปเมื่อเช้านี้กำลังเดินก้าวเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มสดใสเฉกเช่นทุกวันจนบางทีเขาก็แอบคิดอยู่ว่าจะลองไม่ยิ้มบ้างจะเป็นอะไรไหม
“ ห .. หือ ? สวัสดีตอนเช้านะซึงฮุนอ่า ”
“ ฮ่ะๆๆ นายนี่ชอบเดินเหม่อจริงๆนะ ถ้าไม่ทักป่านนี้นายคงเดินชนเสาไฟไปแล้ว ” ไม่ว่าเปล่า นิ้วเรียวใหญ่ชี้ไปทางด้านหลังของเขาจึงร้อนให้อีกฝ่ายหันไปมองตาม และมันก็จริงอย่างที่เจ้าตัวบอก คนซุ่มซ่ามได้แต่ยกมือเขกศีรษะทุยของตัวเองเบาๆไปหนึ่งที
... อีกสามก้าวใบหน้าหล่อน่ารักของมาร์คต้วนจะแนบเข้ากับเสาไฟฟ้าจริงๆ ...
“ โทษทีๆ ฉันคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ ขอบคุณนะที่เตือน ” มาร์คยิ้มแหยๆให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินเลี่ยงเสาไฟแล้วออกตัวเดินต่อไปโดยที่มีซึงฮุนเดิมตามติดๆ
“ ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่คิดอะไรอยู่ล่ะถึงไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนั้นน่ะ ? ”
“ อ่า .. ก็เรื่อง .. ”
“ เรื่อง ? ”
“ เรื่องเรื่อยเปื่อยน่ะ ” สุดท้ายแล้วก็วกมาประโยคเดิม มันก็แค่เรื่องเรื่อยเปื่อยที่ไม่มีใครอยากจะรับฟัง ไม่มีใครอยากรับรู้หรอก ขนาดเขาเองก็ยังไม่อยากรับรู้ ถ้าเลือกที่จะไม่สนใจได้ก็เลือกจะทำมัน เป็นไปได้ก็ขอเลือกไม่สนใจจะดีกว่า
... เพราะมันเป็นเพียงแค่ ‘ เรื่องเรื่อยเปื่อย ’ …
“ นายติงต๊องอีกแล้วนะมาร์คอ่า ” ซึงฮุนเอ่ยพลางยกมือยีกลุ่มผมนิ่มสีเทาควันบุหรี่เบาๆ คนโดนรังแกก็ได้แต่ปัดป่ายงอแงใส่อีกฝ่ายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากเมื่อแรงของเขาเทียบไมได้กับแรงของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ
“ นายก็อย่ามาแกล้งฉันมากนักเซ่ ”
“ ก็นายน่าแกล้งนี่นา ”
“ สรุปฉันมันน่าแกล้งหรือน่าปกป้องกันแน่หือ อีซึงฮุน ? เดี๋ยวเถอะคนกลับกลอก ” ว่าแล้วก็ตีลงไปที่มือหนาหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้และก็ได้รับเสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายมาแทนเสียงร้องเจ็บปวด
“ สวัสดีครับอาจารย์ซึงฮุน ” เสียงหัวเราะก็ต้องหยุดลงเมื่อจู่ๆมีใครบางคนเดินเข้ามาขัดจังหวะเสียอย่างนั้น นัยน์ตากลมหันไปมองต้นเสียงก็พบว่าไม่ใช่ใครที่ไหน มีคนเดียวที่ชอบเข้ามาขัดจังหวะคนอื่นไม่ว่ามาร์คจะไปคุยกับใครที่ไหนก็ตาม มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ...
“ สวัสดี คุณมีธุระอะไรกับผมรึเปล่า คุณอิมแจบอม ? ”
“ อ๋อเปล่าครับ ผมไม่มีธุระอะไรกับอาจารย์หรอก พอดีได้ยินเสียงหัวเราะร่าเริงก็เลยเขามาทักทาย .. ว่าแต่ อาจารย์มาร์คได้บอกอาจารย์รึยังครับว่าพ่อแม่ของอาจารย์เขาอยากพบอาจารย์น่ะ ” นัยน์ตาคมตวัดมามองร่างบอบบางเพียงสักพักก็หันหน้าไปประชันกับอาจารย์ร่างสูงโปร่งด้วยสายตาไม่ยอมใคร
“ หือ ? พ่อแม่นายอยากเจอฉันเหรอ ? ” ดวงตาเรียวมองร่างเล็กข้างกายด้วยแววตาไม่อยากเชื่อในคำพูดของเด็กหนุ่มตรงหน้าหากไม่มีการยืนยันจากคนที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นคนรักแม้จะในนามเท่านั้น
“ อ่ะ .. อืม เมื่อเช้าพ่อกับแม่บอกว่าอยากเจอนายน่ะ ”
“ พวกท่านนัดวันไหน ? ”
“ วันนี้แหละ ตอนเย็นๆ ” มาร์คตอบตามที่อีกฝ่ายถาม เขาก็เพิ่งนึกได้ว่าต้องเชิญชวนให้ซึงฮุนไปบ้าน ไม่ใช่ให้น้องชายมาเชิญชวนเช่นนี้ เขาต้องโทษในความขี้ลืมและไม่มีสติของตัวเองที่ทำเรื่องพลาดไป แม้มันจะเล็กน้อยก็ตาม
“ อ๋อ .. โอเคเลยมาร์ค ”
“ ขอโทษนะพอดีฉันลืมบอกน่ะ ”
“ ไม่เป็นไรหรอกหน่าแค่นี้เอง ... เอาเป็นว่าผมรับรู้เรื่องที่คุณจะบอกผมแล้ว เชิญคุณไปห้องเรียนได้แล้วล่ะ ” ซึงฮุนพูดกับร่างเล็กเสร็จก็หันไปบอกตอบรับเรื่องที่แจบอมบอกเขาก่อนจะเชิญให้นักศึกษาไปเรียนตามรายวิชาของตนเองแต่ทว่าร่างหนากลับไม่ขยับไปไหนราวกับกำลังเล่นสงครามประสาทกับอีซึงฮุนอยู่ ด้วยความกังวลใจ มือหนารีบคว้าจับไปที่มือเรียวบางของมาร์คไว้แน่นจนเจ้าของมือต้องเงยหน้ามองด้วยความสงสัย
“ … ”
“ ทำไมคุณไม่ไปเรียน คุณจะยืนอยู่ตรงนี้ทำไม คุณจะยืนมองหน้าผมเหรอ ? ”
" หึ .. ผมจะไปเรียนได้ไงในเมื่ออาจารย์ที่สอนผมตอนเช้าคืออาจารย์คนที่ยืนให้คุณจับมืออยู่ตรงหน้าผมนี่ไง "
xx.
การพบปะสังสรรค์เป็นการที่คนหลากหลายที่มาพบกัน แลกเปลี่ยนพูดคุยสนุกสนานเฮฮากันไป มีกินเลี้ยงนิดๆหน่อยๆให้ดูผ่อนคลายจากภาระงานที่หนักอึ้งในแต่ละวัน แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่กรณีของบ้านอิมแจบอมและมาร์คต้วน อาจจะเป็นเพราะครอบครัวนี้ไม่รู้จักวิธีการสร้างสรรค์บรรยากาศให้ดูรื่นเริงก็เป็นได้ การพบปะสังสรรค์ของบ้านนี้มีเพียงแค่การนั่งรับประทานมื้อเย็นด้วยกันเพียงเท่านั้น ไม่มีมากไปกว่านี้หรือน้อยไปกว่านี้ หากต้องการกินเลี้ยงสังสรรค์อื่นๆก็จะต้องจัดหลังจากที่รับประทานอาหารร่วมกันและหลังจากที่พ่อแม่ของสองพี่น้องมาร์คแจบอมแยกย้ายเข้าไปในห้องนอนเรียบร้อยแล้ว
นั่นก็บ่งบอกได้ว่ากว่าเวลาแห่งการสังสรรค์จะมาถึงก็ค่อนข้างดึกมาก
ทันที่ชเวยองแจได้เข้ามาในบ้านของอิมแจบอม ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือรู้สึกอึ้งกับสภาพบ้านที่ดูใหญ่ผิดหูผิดตา ผิดแปลกจากที่จินตนาการไว้ว่ามีครอบครัวอยู่แค่สี่คนแต่บ้านกลับใหญ่และหรูหราเอามากๆ สังเกตได้จากรถคันสวยนับสิบคันที่จอดเอาไว้หน้าบ้าน แต่ที่อึ้งกว่าคือการที่เจออาจารย์คู่อริที่เขาไม่ชอบใจอยู่ภายในบ้านหลังนี้ ในคราแรกยองแจแทบจะพุ่งถลาเข้าไปกระชากคอเสื้อของมาร์คแล้วถามอย่างหาเรื่องว่าทำไมถึงมาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ แถมยังต่อว่าอย่างไร้มารยาทของความเป็นแขกรับเชิญในบ้าน ดีที่แจบอมเข้ามารั้งเอาไว้ทัน ไม่งั้นอาจจะเกิดมวยเล็กๆในบ้านได้ แต่เพียงแค่ได้ยินคำตอบที่แสนซื่อและก็เจ็บแสบของมาร์คก็ยิ่งทำให้ยองแจหน้าหงิกไม่พอใจทันที
‘ ก็ผมเป็นพี่ชายของอิมแจบอมแล้วทำไมผมจะอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้ เป็นพี่ชายแจบอมแต่ผมต้องไปอยู่บ้านคุณรึไง ? คุณอย่าโง่ไปหน่อยเลยหน่า ’
ต่างกับอีซึงฮุนที่เข้ามาในบ้านด้วยความรู้สึกปกติไม่มีการตอบสนองใดๆ เนื่องจากว่าตนเคยเข้ามาในบ้านหลังนี้ครั้งหนึ่งแล้ว ตอนที่มาร์คไม่สบายจึงทำให้รู้สึกคุ้นชินไวกว่ายองแจที่เพิ่งเข้ามาครั้งแรกแต่เขาก็ยังไม่โอเคกับสายตาที่มองมาด้วยความไม่พอใจของลูกชายคนเล็กของบ้านที่มองมาเป็นระยะๆเหมือนกัน
บนโต๊ะอาหารขนาดปานกลางถูกจัดที่นั่งไว้อย่างเหมาะสม ประธานชเวนั่งตรงหัวโต๊ะรับประทานอาหาร ส่วนคุณนายอิมนั่งทางด้านขวามือ ตามมาด้วยลูกชายคนเล็กและคนโต ส่วนทางด้านตรงกันข้ามนั้นมีชเวยองแจและอีซึงฮุนนั่งอยู่ การรับประทานอาหารในมื้อนี้ช่างเงียบจนรู้สึกน่ากลัว ไม่มีใครเอ่ยอะไรบนโต๊ะอาหาร ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารของตนไป
“ หนูยองแจไปรู้จักแจบอมได้ยังไงเหรอ ? ลองเล่าให้น้าฟังหน่อยซิ ” สตรีหนึ่งเดียวภายในบ้านเอ่ยถามถึงว่าที่ลูกสะใภ้ของลูกชายคนเล็กพลางตักอาหารใส่จานให้เด็กหนุ่มผมบลอนด์เพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัด
“ ฮ่ะๆ ผมเจอพี่แจบอมตอนงานรับน้องน่ะครับ ผมเดินผ่านตึกเศรษฐศาสตร์พอดีเลยเห็นพี่แจบอมเดินผ่าน ” เด็กหนุ่มยกยิ้มให้คุณนายอิมก่อนจะก้มหน้าทานข้าวไปอีกหนึ่งคำอย่างสุภาพ
“ อ๋อออ แล้วซึงฮุนล่ะจ้ะ รู้จักมาร์คได้ยังไงเหรอ ? ” ไม่ว่าเปล่า คุณนายอิมก็ตักอาหารใส่จานของอาจารย์หนุ่มร่างสูงโปร่งเพื่อไม่ให้ตนถูกกล่าวหาว่ากระทำการที่ลำเอียง
“ ผมเจอมาร์คตั้งแต่ตอนที่มาร์คสมัครมาเป็นอาจารย์สอนในมหา’ลัย แต่ผมไม่กล้าทักน่ะครับ เพิ่งมาทักตอนงานเลี้ยงอาจารย์ใหม่นี่เอง ”
“ นานเลยสิ่นะที่แอบมองลูกของพ่อแบบนี้น่ะ ” ประธานชเวเอ่ยขึ้นมาเสริมซึ่งคนตอบได้แต่เพียงแค่ยิ้มแหยๆเท่านั้น
“ แล้วแจบอมไปชอบน้องได้ยังไงล่ะลูก ? ” เพียงแค่คำถามธรรมดาๆกลับทำให้บุคคลถึงสามคนที่นั่งก้มหน้าทานข้าวถึงกับหันมาสนใจทันที ไม่ใช่มีเพียงแค่ยองแจที่สงสัย แต่มาร์คต้วนและอีซึงฮุนเองก็สงสัยเช่นกัน
“ ก็ ... ” หากตอบว่าก็ไม่รู้ครับ ทุกคนก็อาจจะไม่พอใจกับคำตอบโดยเฉพาะคนที่ถูกพาดพิงอย่างชเวยองแจที่ตอนนี้จ้องมองนัยน์ตาคมไม่วางตาแถมยังส่งสายตาราวกับว่าหากตอบผิดมีงอนแน่มาให้อีกต่างหาก
“ ก็อะไรเหรอครับพี่แจบอม ”
“ ก็ .. ชอบตอนงานเลี้ยงอาจารย์ใหม่น่ะครับแม่ ” แจบอมตอบอย่างอ้อมแอ้มไปก่อนจะเหลือบมองปฏิกิริยาของคนข้างกายที่ตอนนี้ยังคงนิ่งราวกับไมได้สนใจฟังคำตอบของเขา คนเป็นแม่ก็ได้แต่พยักหน้ารับรู้ ในขณะที่ยองแจยิ้มแทบเรียวปากจะฉีกพร้อมทำทีเหนียมอายเมื่อได้ยินคำตอบ มือเล็กรีบตักอาหารใส่จานคนที่นั่งตรงข้ามกับตนทันที
“ พี่แจบอมกินเยอะๆนะครับ จะได้แข็งแรง อุ้มผมได้ ”
“ แล้วมาร์คล่ะ ? เราไปชอบซึงฮุนตอนไหน ” คนเป็นพ่อเอ่ยถามลูกชายคนโตที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา
“ อ่ะ .. อ๋ออ ” ก่อนจะตอบออกไป นัยน์ตากลมสบเข้ากับเรียวตาคมที่มองมาทางเขาก่อนหน้านี้พร้อมพยักหน้าเบาๆเป็นการบอกโดยนัยว่าอยากตอบว่าอะไรก็ตอบไป ไม่ต้องสนใจว่าคนถูกพาดพิงจะรู้สึกอย่างไร
“ … หืม ? ” คุณนายอิมหันหน้ามามองลูกชายคนโตที่นั่งด้านเดียวกับเธอเพื่อรอคำตอบ
“ ผมจะชอบซึงฮุนตอนไหนมันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรเลยนี่ครับ ” เพราะซึงฮุนรู้ดีว่ามาร์คไม่เคยมองเขามากกว่าเพื่อน หรือเทียบเท่ากับสถานะที่มองอีกฝ่าย มาร์คก็ยังคงมองว่าอีซึงฮุนคนนี้เป็นเพียงแค่เพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น เมื่อคำตอบเอ่ยจบไป ซึงฮุนมองเห็นรอยยิ้มแสยะที่มุมปากจากร่างที่นั่งข้างกายมาร์คเพียงชั่วครู่ก่อนจะเบือนสายตาไปมองทางอื่นแทน
“ หึ ไม่ได้ชอบอาจารย์ซึงฮุนก็บอกสิ่ครับอาจารย์ ” เสียงหวานของเด็กหนุ่มผมบลอนด์เอ่ยออกมาพลางเบะปากใส่ ร้อนให้คนที่ชอบเงียบอยู่ตลอดเวลาต้องออกโรงบ้าง
“ ก็แล้วใครจะพูดว่าชอบว่ารักแต่ลับหลังกลับไปไล่อ่อยคนไปทั่ว ตอนที่น้องชายผมไม่อยู่เหมือนคนแถวนี้ล่ะครับ ? ”
“ อาจารย์อย่ามากล่าวหาผมพล่อยๆนะ ! ”
“ เดี๋ยวนะ ผมยังไม่ได้เอ่ยชื่อคุณเลย คุณชเวยองแจ คุณจะร้อนตัวไปทำไม บ้างทีผมอาจจะหมายถึงซึงฮุนก็ได้ จริงไหมซึงฮุนอ่า ? ”
“ ฮ่ะๆ ก็จริงนะ ” ซึงฮุนได้แต่ส่ายศีรษะให้กับความแสบเงียบของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนแค่ในนามเบาๆ บางทีเขาเองต้องมองมาร์คใหม่เสียแล้วว่าเห็นเงียบๆเช่นนี้แต่ก็ร้ายไม่ใช่น้อย ในขณะที่ยองแจกำลังปั้นหน้าหงุดหงิดโมโหอาจารย์สลับกับมองหน้าคนรักที่ไม่ออกโรงปกป้องเขาด้วยความไม่พอใจ
กริ๊งก่อง ... กริ๊งก่อง ...
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นมาเสมือนว่าเป็นเสียงสวรรค์ที่ทำลายสงครามประสาทบนโต๊ะอาหาร เหมือนว่ามีคนมาเป็นแขกรับเชิญเพิ่ม ก่อนที่คุณนายอิมจะเป็นคนลุกไปดูว่าแขกเป็นใคร อิมแจบอมกลับเป็นคนชิงลุกก่อน เขารำคาญกับสงครามบนโต๊ะอาหารมากพอสมควร เป็นการดีด้วยที่เขาจะหนีสงครามดังกล่าวเพื่อไปเปิดประตูบ้านให้แขกเข้ามา และเมื่อเปิดประตูบ้านก็พบว่าแขกที่มาเพิ่มคือร่างโปร่งที่คุ้นเคยอยู่ทุกวันของเพื่อนสนิทอย่าง ปาร์คจินยอง และร่างหนากำยำของคนรักของเพื่อนสนิทที่เป็นคู่อริของเขา แจ็คสันหวัง มือหนาของแจบอมแทบอยากจะยกตบหน้าผากตัวเองแรงๆหนึ่งที
... ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกอีกแล้ว ...
“ จินยอง .. นี่มึงจะมาบ้านกูทำไมวะ แล้วลากอาจารย์แจ็คสันมาทำไม ? กูบอกแล้วว่าไม่ต้องมาหากูหรอก ”
“ โทษทีมึง กูไม่ได้มาหามึง กูกับพี่แจ็คสันมาหาพี่มาร์ค ไมได้มาหามึงเลยแจบอม อย่าสำคัญตัวผิดไป ”
“ แล้วทำไมไม่ห้ามแฟนว่าไม่ต้องมาบ้านผมวะ’จารย์ ? ”
“ แล้วนายกล้าห้ามไม่ให้ยองแจเข้าบ้านเวลาโดนตื๊อมากๆไหมล่ะ ? ถามแค่นี้แหละ ”
จินยองตอบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยก่อนจะเดินแทรกตัวผ่านเจ้าของบ้านเพื่อเข้าไปในบ้านพร้อมของกินที่ซื้อมาเยี่ยมพี่ชายของเขา พร้อมกับแจ็คสันที่ยกยิ้มมุมปากราวกับผู้ชนะพลางเดินแทรกตัวแจบอมเข้าไปในบ้านตามคนรักเข้าไป แจบอมแทบหัวเสียอย่างรุนแรง เจอยองแจทะเลาะกับมาร์คไม่พอ ต้องมาเจอจินยองเสริมโรงอีก และตบท้ายด้วยเจอหน้าตากวนประสาทของแจ็คสัน หายใจเข้าออกสองสามทีก่อนจะปิดประตูบ้านแล้วเดินตามแขกทั้งสองคนเข้าไปภายในบ้าหลังกว้าง
... สาบานได้ว่าวันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดของอิมแจบอมแล้วใช่ไหม ? ...
“ คุณลุงชเว คุณน้าอิม สวัสดีครับบบบบบบ ” จินยองเอ่ยทักทายคุณพ่อและคุณแม่ของเพื่อนสนิทด้วยท่าทางคุ้นเคยกับคนในบ้าน เพียงแค่ชเวยองแจเห็นใบหน้าของรุ่นพี่คู่อริอีกรายเดินเข้ามาในบ้านก็แทบอยากจะเอาศีรษะโขกลงกับโต๊ะทันที
“ อ้าวจินยองสวัสดีจ้ะ แจ็คสันด้วยนะจ้ะ ”
“ สวัสดีครับคุณน้าอิม คุณลุงชเว ” แจ็คสันโค้งทักทายผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่กลางโต๊ะอาหาร
“ เอ้าเด็กๆไปนั่งที่สิ่ เดี๋ยวแม่จะเอาจานอาหารมาเพิ่มให้ ” คุณนายอิมกล่าวชวนให้แขกรับเชิญเพิ่มเติมอีกสองรายนั่งที่ให้เรียบร้อยก่อนที่เธอจะเดินไปในห้องครัวเพื่อหยิบชุดจานมาอีกสองชุด ก่อนจะมานั่งประจำที่พร้อมกับแจบอมที่เดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหารและนั่งประจำที่ของตนทันที
“ นายมาทำอะไรที่นี่แจ็คสัน ” มาร์คเอ่ยกระซิบเพื่อนสนิทที่หย่อนตัวนั่งลงข้างเพื่อนสนิท
“ จินยองมันอยากมา มันรู้ว่าเด็กยองแจนั่นมันจะมารังแกนายนั่นแหละ ” นัยน์ตากลมมองหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะหันไปมองคนรักของเพื่อนสนิทที่ยืนยิ้มแป้นแล้นอย่างร้ายกาจก่อนจะสะกิดให้อาจารย์ซึงฮุนไปนั่งอีกที่โดยที่ตนเองจะนั่งคั่นกลางระหว่างยองแจและซึงฮุน
“ อาจารย์ครับ ผมขอนั่งตรงกลางได้รึเปล่า ? ”
“ ทำไมล่ะปาร์คจินยอง ? ”
“ คืองี้นะ’จารย์ ผมอ่ะไม่ชอบนั่งริม มันรู้สึกโล่งแปลกๆ ผมอ่ะชอบนั่งตรงกลางเวลามีอะไรจะได้ หยิบ จับ ตะปบ เอาไว้ได้ทันทีไงอาจารย์ ” จินยองเอ่ยเหตุผลพลางเน้นข้อความแล้วหันไปทางเด็กหนุ่มยองแจที่กำลังมองด้วยสายตาค้อนก่อนจะหันมายิ้มให้ซึงฮุนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ โอเคๆ อาจารย์เข้าใจแล้ว ”
และในที่สุด ปาร์คจินยองก็ได้นั่งตรงกลางระหว่างชเวยองแจและอีซึงฮุนตามที่ต้องการทันที ประธานชเวเห็นแด็กแสบจินยองก็ได้แต่ส่ายศีรษะพร้อมรอยยิ้มบางๆประดับบนมุมปาก ใช่ว่าคนเป็นพ่อของสองหนุ่มจะไม่รู้ฤทธิ์เดชของปาร์คจินยองเสียเมื่อไหร่ เรื่องความแสบต้องยกให้ปาร์คจินยองมากกว่าชเวยองแจหรือมาร์คต้วนเสียอีก ไม่ว่างานไหนถ้ามีจินยอง มีแต่ปวดหัวและปวดหัวแน่นอน
“ พี่แจบอมครับ กินปลาเยอะๆนะครับ มันมีประโยชน์มากนะ ” ดวงตาเรียวของยองแจเหลือบมองมาร์คที่นั่งเงียบด้วยแววตาหมั่นไส้ ก่อนที่มือเล็กจะค่อยๆตักเนื้อปลาวางใส่จานของคนรักเพื่อทำคะแนน แต่กลับโดนเพื่อนสนิทของคนรักตักแย่งไปเสียก่อน จินยองยิ้มแหยๆใส่ยองแจหนึ่งทีก่อนจะตีหน้าเรียบเฉยใส่
“ แจบอมมันไม่ชอบกินปลาชนิดนี้ มันกินแล้วอยากอ้วกกกกกน่ะ ”
“ จริงเหรอพี่แจบอม ? โธ่ปลาตัวนี้อร่อยมากนะครับ งั้นกินผักนี่ดูนะ ” ไม่ว่าเปล่า ยองแจก็เอื้อมไปตักผัดผักให้คนรักอีกครั้ง แต่ก็โดนจินยองแย่งไปอีกครั้ง แจบอมมองหน้ายองแจสลับกับจินยองก่อนจะยกมือกุมขมับด้วยความปวดศีรษะ
“ โทษๆนะยองแจ คือแจบอมน่ะไม่กินผัก หมอนี่น่ะเกลียดผักพอๆกับคนขี้อ่อยเลยล่ะ ”
“ ย๊า !! ” ยองแจกระแทกช้อนลงบนโต๊ะเสียงดังและเผลอตวาดกลางโต๊ะอาหารด้วยความโมโห
“ อะไรเด็กบ้า ! ”
“ ใครคนอ่อย พูดให้มันดีๆนะ !! ”
“ แล้วฉันพูดชื่อแกรึยังวะถึงได้มาตวาดใส่ฉันนะ !! ร้อนตัวทำซากอะไร !? ”
“ เอ่อเด็กๆจ้ะ .. พ่อกับแม่ขอตัวไปข้างนอกก่อนนะ พอดีว่ามีธุระด่วนน่ะจ้ะ ตามสบายเลยนะลูก ”
ก่อนที่สงครามกลางโต๊ะอาหารจะเกิดขึ้น คุณนายอิมเอ่ยขัดขึ้นมาพร้อมกับร่างของผู้เป็นสามีที่ลุกขึ้นยืนตาม ก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากบ้านไปทำธุระตามที่บ้าน เหลือทิ้งไว้เพียงลูกชายสองคนและแขกอีกสี่คนภายในบ้าน เพียงบานประตูบ้านปิดตัวลง สงครามกลางโต๊ะอาหารก็เริ่มขึ้นอย่างจริงจังโดยมีซึงฮุนและแจ็คสันคอยห้ามปรามทั้งยองแจและจินยองเป็นระยะ ในระหว่างที่เกิดสงครามขนาดย่อม มือเรียวของร่างบางก็เอื้อมไปตักผัดเปรี้ยวหวานใส่จานของน้องชายที่กำลังกุมศีรษะด้วยความหงุดหงิด
“ กินสิ่แจบอม ชอบผัดเปรี้ยวหวานไม่ใช่เหรอ ? ”
“ อือ .. ขอบคุณนะ ”
“ เป็นอะไรไป ? ปวดหัวเหรอ ? ” มาร์คเอียงคอมองหน้าน้องชายที่ปั้นหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“ อือ ปวดหัวกับเจ้าบ้าพวกนี้เนี่ยสิ่ ”
“ ก็ถ้ารู้ว่ามันปวดหัวแบบนี้แล้วจะจัดเรื่องมันขึ้นมาทำไม ? ” คนเป็นพี่ชายเอ่ยถามน้องชายตัวต้นเหตุที่อยากจะจัดงานพบปะแนะนำตัวคนรักขึ้นมาทั้งๆที่เขารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าเรื่องมันจะต้องวุ่นวายมากกว่านี้แน่ๆ
“ ... เลิกตอกย้ำกันได้รึยัง มาร์คต้วน ” ใบหน้าหล่อคมคายยื่นเข้ามาใกล้ใบหน้าหวานเพียงไม่กี่คืบก่อนจะผละออกเมื่อนึกได้ว่ามีแขกอยู่มากมายภายในบ้าน
“ ก็พี่พูดความจริง ”
“ เลิกพูดได้แล้ว ก่อนที่ผมจะจูบปิดปากพี่ ” นัยน์ตาคมตวัดมามองพี่ชายที่ใบหน้าน่ารักขึ้นสีระเรื่อจากประโยคคำขู่ที่พรั่งพรูออกมาจากปากของตนเอง ก่อนจะหันไปมองข้าวในจานพร้อมตักกินไม่สนใจสงครามโต๊ะอาหารที่เริ่มหยิบอาหารแห้งที่เป็นขนมขบเคี้ยวมาปาใส่กัน
xx.
หลังจากที่จบสงครามโต๊ะอาหารเป็นที่เรียบร้อย ยองแจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างราบคราบ สังเกตจากเสื้อผ้าหน้าผมที่มีแต่เศษขนมเกาะเต็มตัว ในขณะที่ปาร์คจินยองแทบไม่มีอะไรติดที่ตัวเลยแม้แต่น้อย ทุกคนก็ช่วยกันทำความสะอาดทั้งโต๊ะอาหารที่สกปรกด้วยเศษอาหารจากการทำสงครามและจานชามที่ใช้แล้วในห้องครัว และลงท้ายด้วยแจ็คสันลากจินยองเข้าไปสั่งสอนในห้องน้ำข้างห้องครัวเพียงสองคนโดยใช้เวลาไปประมาณสิบห้านาที ก่อนที่ทั้งสองจะออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ร่างหนายกยิ้มอย่างอารมณ์ดี ส่วนร่างโปร่งที่ตอนแรกดูฤทธิ์เยอะกลับหงอเหมือนแมวน้อยโดนทำโทษทันตา ใบหน้าน่ารักแต่แอบร้ายขึ้นสีระเรื่อจัด ดวงตาเรียวกลมไม่ยอมสบตาร่างหนาข้างกายแม้แต่น้อย มือเรียวยกขึ้นมาปกปิดเรียวปากที่บวมช้ำ ส่วนมือข้างที่ว่างอีกด้านก็จัดแจงเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยให้เรียบร้อย ทุกคนที่เหลือก็รับรู้โดยทันทีว่าสั่นสอนกันอย่างไร
“ เฮ้ทุกคน ! ” แจ็คสันเอ่ยขึ้นหลังจากที่หย่อนตัวนั่งลงกลางห้องนั่งเล่นที่มีอีกสี่คนนั่งรออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
“ มีอะไรของนายแจ็คสัน มาเฮ้อะไรล่ะ ” มาร์คเอ่ยขึ้นมาด้วยความสงสัย เพราะอีกไม่นานเขาก็เริ่มจะเข้าสู่ห้วงนิทราแล้วถ้าไม่ตกใจเสียงเฮ้จากแจ็คสันเสียก่อน
“ เรามาเล่นเกมกันเถอะ ! ”
“ เกมอะไรของอาจารย์วะ ”
“ True Or Dare ? เอาไหมล่ะ ” เพียงได้ยินชื่อเกม แจบอมก็แทบจะยกยิ้มไม่ทัน เพราะเกมนี้อาจจะทำให้เขารู้อะไรมากขึ้นจากพี่ชายที่เขารักก็ได้ ในขณะที่ใบหน้าหวานของมาร์คต้วนแสดงท่าทีวิตกอย่างเห็นได้ชัดโดยมีซึงฮุนคอยนั่งจับมือให้กำลังใจอยู่ด้านข้าง
“ เอาอะไรเป็นบทลงโทษ ? ”
“ เบียร์กระป๋องเป็นไง ฉันหอบเบียร์กระป๋องมาเยอะเลยนะ ” ไม่ว่าเปล่า มือหนาก็เทถุงสีดำที่บรรจุเบียร์กระป๋องมามากกว่าสิบกระป๋องลงกลางวงพร้อมรอยยิ้มอย่างเริงร่า ในขณะที่ทุกคนที่เหลือต่างปั้นสีหน้าเหยเกทันทีที่เห็นกระป๋องเบียร์มากกว่าสิบกระป๋องกลิ้งออกมาจากถุงสีดำ
“ โห .. อาจารย์กะจะฆ่าพวกผมเลยเหรอไงกัน ? ” ยองแจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว แน่นอนว่ายองแจไม่กล้าแตะมันแน่ๆเพราะเพียงแค่แก้วเดียวเขาก็คออ่อนพับแล้ว
“ แค่นี้ไม่ตายหรอกเด็กบ้า ทำมาเป็นพูดอย่างกับไม่เคยแตะ ” จินยองเอ่ยแซะพร้อมตวัดสายตามองค้อนไปทางเด็กหนุ่มผมบลอนด์ที่กำลังกอดแขนแกร่งของเพื่อนสนิทไว้แน่นหนึ่งทีก่อนจะหันไปทางมาร์คต้วนพร้อมยกยิ้มแป้นแล้นให้อีกครั้ง
“ ไม่ได้ฆ่าหรอกหน่า แค่ล้างคอนิดๆหน่อยๆเอง ”
“ … ”
“ ถ้าเลือกจริง ก็ตอบคำถามที่โดนถามตามตรงและด้วยความสัตย์จริง แต่ถ้าเลือกท้า ก็เบียร์หนึ่งกระป๋องรวดห้ามหยุดพัก โอเคไหมเพื่อน ? ”
To Be Cont.
- งู่ยๆ อะโลฮ่าตอนที่แปดครัชชชชช !!!
ตอนแรกว่าจะลงตอนนี้เมื่อวาน
แต่เมื่อวานไมเกรนอิสคัมแบ็ค T_T
เอาเป็นว่าอัพวันนี้ไม่ช้าไปโน้ะ อยู่ในเดธไลน์อยู่อิสอิส
งานปวดหัวเป็นต้องมา
ได้เห็นชเวยองแจกับปาร์คจินยองกัดกันแล้วๆๆๆ
นี่แค่น้ำจิ้ม ทั้งสองบอกว่าเห็นแก่พ่อแม่พี่มาร์คและแจบอมเลยทำไม่เยอะ 5555555555
ที่น่าลุ้นสุดคงเป็นตอนต่อจากนี้ ทรูออร์แดร์ครัชแหม่ !!!
ตอนหน้าพบกับเรื่องเล่าผ่านเกมความจริง จะเผยปมปริศนาหรือไม่ต้องรอดูนะคะ
ติดตามและให้กำลังใจได้เสมอน้า ได้ทั้งทางคอมเม้นต์ ทวิตเตอร์ และแฮชแท็กอิสอิส
ทักมาคุยกันทางทวิตเตอร์ได้เช่นกันน้า
ไว้เจอกันกับตอนที่เก้าค่ะ !
อย่าลืมคอมเม้นต์ ติดแท็กให้กำลังใจหรือบอกฟีดแบ็คหลังการอ่านด้วยน้าอิ้อิ้
ขอบคุณค่ะ :-} !
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จินยองนี่แสบจริงๆ ชอบอ่ะ อย่างยองแจต้องเจอแบบนี้แหละ
แต่คนแสบก็ต้องโดนลงโทษไปตามระเบียบเนาะ อิๆๆ
แอบสงสารยองแจ โดนทั้งพี่มาร์ค ทั้งจินยอง พี่บีก็ไม่ช่วยน้อง
ตอนนี้ดูเป็นยองแจไม่สู้คนเลอ(จริงๆแล้วสู้ไม่ไหว กำ)
พี่บีนี่ควรโดนตีสุด เป็นผู้นำความวุ่นวายงี้
แอบเจ็บหน่อยๆตรงคำตบพี่มาร์คว่าไปรักพี่ตี๋ตอนไหนง่ะ ; -;
คือก็ยังไม่รักแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะรักเมื่อไหร่ โฮ
ปล.ภูมิหลัง? ภูมิหลังอะไรรร แง
รู้สึกว่าตอนนี้วุ่นวายมากเลย แต่ชอบ สนุกเวอร์ 555555555
รู้สึกว่าตอนนี้วุ่นวายมากเลย แต่ชอบ สนุกเวอร์ 555555555
แทบไม่อยากให้จบ หมั่นไส้ยองแจจังค่ะ จินยองมาปราบได้ โอ้ยยยย ดีงาม
แล้วจินยองกับแจ็คไปทำไรกัน... -_- กลับมาสภาพแบบนั้น 5555555555
ตอนนี้ไม่ค่อยดราม่า แต่สงครามมาก จิกกัดกันสุด อยากรู้ความลับของเอินแล้ว
เครียดมากเลยว่าเอินเป็นอะไรแน่ เป็นเด็กกำพร้าที่เก็บมาเลี้ยง ? เป็นลูกศัตรู ? เป็นโรค
อดีตอะไรทำไมรู้แล้วแจบอมต้องเกลียด ฮึก เครียดจังค่ะ แต่สนุก ชอบมาก
ชอบๆๆๆๆ เอาอีกดิ 555555 -..-
ตอนอ่านชื่อตอนนี่แบบนี่เตรียมม่าแล้วเห็นไรท์บอกตอนนู่นแต่ก้ไม่ม่านี่อ้าวว ขรรมคุณจินยองแทน 5555
พี่มาร์คดูน่าปกป้องมากเลย
อิมเจบอมจะเอาแต่ใจไปไหน
เรื่องนี้แจ็คเนียร์น่ารักไปอีก ขอบคุณไรท์เตอร์