ตอนที่ 14 : - CHAPTER 14 : คิดถึง 。
- CHAPTER 14 : คิดถึง 。
... ผมยอมคุณทุกอย่างแล้ว ขอแค่อย่าหายไปจากชีวิตของผมอีกครั้งก็พอ ...
" มึง ... "
“ อะไรวะ ... ”
“ ... เห้ออ ”
" อะไรของมึงเนี่ยไอบ้า เรียกสั้นๆแล้วเงียบไปแบบนี้กูก็เสียวสันหลังเป็นนะเว่ย " จินยองแหวใส่เพื่อนสนิทตัวหนาที่จู่ๆเรียกตัวเขาให้หันไปมองแต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่พูด ในขณะที่สายตาเรียวตวัดมองหน้าหญิงสาวร่างอรชรกำลังเอาะเซาะซบแขนแกร่งของเพื่อนสนิทอย่างหงุดหงิด
ทั้งๆที่รู้ว่าเพื่อนของเขาเล่นด้วยไม่นานแถมในเวลานี้ยังกลายเป็นผู้ชายที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าในแต่ละวัน แต่ ยูจีอา สาวสวยที่ครองตำแหน่งดาวคณะบริหารธุรกิจก็ยังยอมที่จะเป็นของเล่นแก้เหงาสำหรับเพื่อนสนิทเขา แถมยังจะตามมาตื๊อมาแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเสมือนเป็นแฟนตัวจริง ทั้งๆที่คนที่ครอบครองหัวใจของอิมแจบอมเพื่อนรักของเขากลับไม่ได้อยู่ที่นี่ในเวลานี้
ถ้าหากลองให้อาจารย์เศรษฐศาสตร์ตัวบางอยู่วนเวียนในมหาวิทยาลัยสิ่ อย่าหวังว่าผู้หญิงเหล่านี้จะได้เข้าใกล้หนุ่มหล่อของคณะเศรษฐศาสตร์แม้แต่น้อย แม้ว่าพี่มาร์คจะไม่ค่อยแสดงท่าทีอะไรออกมาอย่างชัดเจนว่ารู้สึกอย่างไร แต่เห็นได้ชัดว่าแจบอมค่อนข้างแคร์อีกฝ่ายมากแค่ไหน แม้เมื่อก่อนหน้านี้จะควงเด็กน้อยผู้น่าสงสารอย่างชเวยองแจมาบ่อยๆก็ตาม
... แต่นั่นมันก็แค่เคยน่ะนะ ...
“ … ”
" ถามจริงดิ่ .. " จินยองถามแจบอมที่กำลังนั่งเท้าคางเล่นโทรศัพท์มือถือโดยไม่สนใจสตรีที่น่ารำคาญกำลังเกาะแกะท่อนแขนด้านขวาของตัวเองพลางหยิบขนมกรุบกรอบเข้าปาก
" ว่า ? "
“ มึงจะคั่วผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนวะ ? ”
“ แล้วมึงยุ่งอะไรด้วยวะ ? ”
“ กูก็ไม่ได้อยากยุ่งเท่าไหร่หรอกนะ ถ้าไม่ใช่เมื่อสามวันก่อนมึงเพิ่งจะควงน้องเยรินเด็กศิลปกรรมฯคนน่ารักจีบยากไปหมาดๆ ไหนจะเมื่อหกวันก่อนมึงก็เพิ่งสอยน้องมินอาเด็กคหกรรมฯไปเนี่ย ”
“ แล้วยังไง ? ”
“ ไม่ยังไงเว่ย แค่มึงไม่เคยเป็นคนแบบนี้ ปกติมึงเป็นคนหวงเนื้อหวงตัวจะตาย ใครจะเข้ามาชอบทียังลำบากใจ ”
“ กูไม่ผิดที่ทำแบบนี้ คนที่ทำให้กูเป็นแบบนี้ไม่ใช่ตัวกูเองหรอกนะ ” แจบอมยังคงตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆพลางเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงสแล็คหลังจากที่สาวสวยข้างกายเริ่มก้าวกายเรื่องส่วนตัว
“ อ่องั้นเหรอ แล้วเมื่อไหร่มึงจะหยุดทำแบบนี้สักทีล่ะ ? ”
“ จนกว่ามาร์คจะกลับมา ”
เพียงแค่คำตอบแสนห้วนนั้นกลับทำให้คิ้วสวยของจินยองกระตุกหนึ่งที แต่นั่นไม่ถึงการกระทำที่สะดุดกึกของหญิงสาวข้างกายเมื่อได้ยินคำตอบ มือสวยผละออกจากท่อนแขนแกร่งของแจบอมแล้วนั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวทันที
ใช่ว่าสาวเจ้าจะไม่รู้จัก มาร์ค ที่อิมแจบอมได้กล่าวออกมา หากแต่เธอรู้ดีว่าไม่มีทางที่จะเทียบอะไรกับอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ที่เลื่องชื่อในมหาวิทยาลัยได้ต่างหาก
“ อะโหหหหหหห ”
“ โหอะไรของมึง ? ”
“ ถึงเขาจะไม่ใช่พี่แท้ๆของมึง แต่เขาอายุเยอะกว่ามึงก็ควรจะเรียกว่าพี่เหมือนเดิมนะ ”
“ เออ ”
" ขอย้ำอีกครั้งเผื่อมึงตอบอย่างไม่เต็มใจ ช่วยเรียกพี่เขาว่าพี่ด้วย กูขอร้องในฐานะรุ่นน้องของพี่มาร์ค ”
“ เออรู้แล้วหน่า แล้วช่วงนี้แฟนมึงพูดถึง ... พี่มาร์คบ้างไหมวะ ? "
แจบอมถามคำถามที่ค้างคาใจมาตลอดหนึ่งเดือน ตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง ไม่ว่าจะในคาบเรียนหรือที่บ้านเขาก็ไม่เคยได้พบเจอคนตัวเล็กที่เขาเฝ้ามองหาอีกเลย ในช่วงสัปดาห์แรกก็เข้าใจอยู่ว่าอาจจะพยายามหลบหน้าเขา แต่นี่มันมากกว่าหลบหน้าเมื่อเขาลองเข้าเรียนในคาบของคนตัวเล็กแล้วกลับไม่เจอเจ้าของวิชา กลับเจออาจารย์คังซึงยูนที่เข้ามาสอนแทนเสียอย่างนั้น
... ใช่ อิมแจบอมไม่เจอหน้ามาร์คต้วนมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว ...
" ก็ไม่นะ ทำไมวะ ? "
" มึงไม่ได้โกหกกูใช่ไหม ? " แจบอมหรี่ตามองเพื่อนรักที่ยังคงปั้นหน้านิ่งตามที่พูดด้วยความรู้สึกไม่ไว้วางใจ
" กูจะโกหกมึงทำไม ก็พี่แจ็คสันไม่พูดถึงแล้วกูจะรู้ไหมล่ะ ก็เรื่องของผู้ใหญ่นี่ ? " จินยองยกเหตุผลเป็นกลางขึ้นมาสู้กับเพื่อนสนิท ซึ่งคำตอบที่ได้กลับมาคือการถอนหายใจออกมาของอิมแจบอมเท่านั้น
“ แล้วไม่คิดจะถาม ? ”
“ อ่าวไอนี่ เห็นกูเป็นคนชอบอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้านนักรึไงวะ ? ”
" กูรู้แล้วว่ามึงคงไม่ยอมบอกกูเพราะมันสมควรกับสิ่งที่กูทำลงไปใช่ไหมล่ะ " แจบอมถอนหายใจหนักออกมาอีกเฮือกก่อนจะฟุบหน้าลงท่อนแขนแกร่งของตัวเอง
“ กูเปล่านะ กูไม่รู้เรื่องจริงๆ ”
“ ช่างเหอะ ... ”
“ แต่เหมือนพี่แจ็คสันเคยบอกว่าพี่มาร์คเขาลาพักยาวไปที่บ้านเกิดของพี่เขานะ ... กูช่วยมึงได้แค่นี้แหละ ”
xx.
“ เด็กๆครับ นั่งประจำที่ได้แล้วนะ ”
เสียงทุ้มหวานเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางห้องเรียนของเด็กประถมที่มักจะมีเสียงจอแจดังอยู่ตลอดเวลา แต่ดีตรงที่เมื่อใดที่เสียงคุณครูคนน่ารักดังขึ้น เด็กตัวน้อยตัวใหญ่ก็จะรีบวิ่งไปนั่งประจำที่อย่างเรียบร้อยทันที จะเหลือเพียงแค่ ปาร์คซังกยุน เด็กชายตัวน้อยที่พิการที่ขาข้างซ้ายจากอุบัติเหตุครั้งใหญ่ในชีวิต จำเป็นต้องยืนรอให้คุณครูแสนใจดีจูงไปนั่งประจำที่เพราะเพื่อนที่จูงเจ้าตัวออกมาดันวิ่งไปนั่งประจำที่เสียแล้ว
มาร์คต้วนใช้เวลาพักร้อนยาวสามเดือนที่ยื่นคำร้องขอไปทางมหาวิทยาลัยหลังจากที่ไม่เคยได้ขอเพื่อมาพักสงบจิตใจที่ฟุ้งซ่านของตัวเองที่บ้านเกิดซึ่งก็คือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ตนเคยจากมาเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก โดยที่ไม่ได้ทำเพียงแค่พักผ่อนเท่านั้น แต่ยังอาสาเป็นคุณครูสอนเด็กนักเรียนชั้นประถมที่อาศัยอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้อีกด้วย เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มสดใสของเด็กตัวน้อยๆเขาก็รู้สึกดีและรู้สึกมีความสุขทุกครั้ง
และพาลให้คิดถึงสมัยที่เขายังสามารถมองเห็นรอยยิ้มสดใสของคนเคยเป็นน้องชายของเขาแทบทุกวัน ...
เอาเข้าจริงๆ เขากลับคิดอยู่ลึกๆภายในใจว่าถ้าเกิดเรื่องทั้งหมดที่เป็นความลับดันถูกเปิดออกมา จะดีหรือไม่ที่เขาจะปลีกตัวมาอยู่สถานที่แห่งเดิมในฐานะคุณครูสอนเด็ก ไม่ต้องสนใจใคร ไม่ต้องคอยกังวลอะไรอีก แต่อีกใจกลับคิดว่าใครบางคนที่เขายังคงรักจะรู้สึกอย่างไร จะตามหาตัวของเขาพบหรือไม่ หรืออาจจะรู้สึกดีกว่าที่เขาจากไปแบบนี้ เรียกได้ว่านี่ไม่ใช่การลาพักร้อนเพื่อพักผ่อนเสียแล้วเมื่อมีตัวแปรตัวสำคัญที่เข้ามาวนเวียนในความคิด
... อิมแจบอมควบคุมความคิดของมาร์คต้วนไปทุกสัดส่วนไปเสียแล้ว ...
“ ไหนใครนั่งที่เรียบร้อยแล้วบ้าง ยกมือขึ้นซิ ” สิ้นเสียง เด็กๆทั้งห้องต่างพากันยกมือขึ้นสุดแขนทั้งสองข้างพร้อมแย่งกันตอบคุณครูที่ยืนอยู่ด้านหน้า
“ ผมครับ ! / หนูค่ะ ! ”
“ เก่งมากเลยเด็กๆ งั้นวันนี้เรามาเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษกันนะ ” มาร์คยกยิ้มหวานให้เด็กน้อยที่นั่งมองคุณครูอย่างตั้งใจ ก่อนที่ใบหน้าน่ารักจะหันไปทางกระดานไวท์บอร์ดสีขาวสะอาดพร้อมเปิดปอกปากกามาร์เกอร์สีน้ำเงินและจรดหัวปากกาลงบนไวท์บอร์ดเพื่อเขียนคำศัพท์ที่จะสอนเด็กๆ
“ … ”
“ จำได้ไหมว่าคุณครูให้การบ้านไปท่องศัพท์อะไรมาบ้าง ? ”
“ จำได้คร้าบบบบบ / จำได้ค่าาาาาา ”
“ งั้นใครเป็นคนเก่งบ้างครับ ลองสะกดคำศัพท์ที่คุณครูเขียนบนกระดานให้ฟังหน่อย ” มาร์คยังคงเขียนคำศัพท์บนกระดานไปเรื่อยๆพลางรอฟังเสียงสะกดคำจากเด็กๆภายในห้อง
“ … ”
“ … P-I-N-E-A-P-P-L-E ”
“ คุณครูค้าาาาาา คุณลุงหน้าแก่เขาแย่งจีมินตอบค่าาาาา นิสัยไม่ดีเลยยยยยยยย ”
ทว่าเสียงทุ้มต่ำที่ชวนให้คิดถึงกลับดังเข้าโสตประสาทแทนที่จะเป็นเสียงใสๆของเด็กนักเรียนภายในห้อง ใบหน้าหวานที่ยังหันหน้าเข้ากระดานไวท์บอร์ดแสดงท่าทีตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นัยน์ตาเรียวกลมเบิกขึ้นกว้างขึ้น มือเล็กที่ถือปากกาจรดอยู่บนกระดานถึงกับสั่นเล็กน้อย พยายามคิดในใจว่าอาจจะเพราะอาการหูแว่ว เขาไม่อยากเชื่อว่าใครบางคนลงทุนออกมาตามหาเขาถึงที่ แม้จะแอบนึกถึงอยู่บ่อยครั้งก็จริง
มาร์คค่อยๆตั้งสติกลับหลังหันไปทางที่นั่งของเด็กนักเรียนภายในห้องเรียนขนาดเล็กเพื่อกลับไปมองสภาพความเป็นจริงภายในห้อง และความฝันที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าจริงๆ
… เขาจะอ่อนแอแบบเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้ว จะไม่มีวันทำแบบนั้นอีก ...
ร่างสูงแกร่งแสนคิดถึงกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือของซังกยุนที่ตั้งอยู่ตรงหลังห้องพลางเท้าคางมองมายังคุณครูที่ยืนอยู่หน้ากระดาน ใบหน้าหล่อคมคายที่ยังตีนิ่งสนิทติดตรึงอยู่ในดวงตาของเขาพอๆกับนัยน์ตาเรียวคมจดจ้องมองไม่วางตายิ่งทำให้คนเป็นคุณครูทำอะไรไม่ถูก เหลือบสายตาไปมองเด็กพิการตัวน้อยที่ยืนกระโดดขาเดียวอยู่ข้างๆพลางเกาะที่มุมโต๊ะของตนก็ยิ่งอดสงสารไม่ได้ที่ดันมาเจอคนไม่ชอบเด็กอย่างอิมแจบอม
“ จ .. แจบอม ”
“ ? ” เพียงน้ำเสียงที่สั่นไหวเพียงชั่ววูบกลับมลายหายไปพร้อมกับแววตาไหววูบที่ฉายอยู่ในนัยน์ตาเรียวกลมนั้น และแววตานิ่งสนิทพร้อมน้ำเสียงที่แสดงถึงความเฉยฉากลับเข้ามาแทนที่ทันที
“ แย่งที่นั่งเด็กแบบนั้นมันแย่นะรู้ไหม ? ยิ่งเด็กคนนั้นเป็นเด็กพิการแล้วด้วยเนี่ย แย่มาก ”
“ รู้ ผมก็บอกให้เจ้าเด็กนี่นั่งตักผมแล้วแต่เจ้าตัวไม่ยอมเอง ”
แจบอมยังคงเถียงคนตัวเล็กพลางยกมือประสานที่ท้ายทอยเอนหลังพิงพนักอย่างสบายใจด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบเด็กเลยไม่ได้สนอกสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอะไรมากนัก ต่างกับซังกยุนที่เริ่มจะเบ้หน้าเพราะอยากนั่งที่ของตัวเอง มือเล็กต่อยเข้าที่แขนของคนแปลกหน้าแต่ทว่าแรงเพียงน้อยนิดกลับไม่ได้ทำให้แจบอมสะทกสะท้านแต่อย่างใด มาร์คเดินเข้าไปหาเด็กพิการตัวน้อยพลางอุ้มขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดอย่างทุกลักทุเล มือเรียวลูบหลังปลอบใจเด็กตัวน้อยที่เริ่มจะร้องไห้ออกมาอย่างใจเย็น
“ ซังกยุนอ่า โอ๋ๆ ไม่ร้องไห้นะครับ ”
“ ทำไงได้ เจ้าเด็กนี่มันอ่อนแอเองช่วยไม่ได้ ”
“ เงียบไปเลยนะ ! ”
“ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!! ”
“ เอ้าก็มันจริง ” ร่างสูงยังคงบ่นอย่างไม่สนใจเด็กน้อยที่เริ่มน้ำตาคลอเพราะพูดจากระทบจิตใจที่อ่อนแอเป็นทุนเดิม ร้อนให้คุณครูอาสาสมัครต้องรีบพาเด็กน้อยออกมาจากห้องเรียนทันที
“ เด็กๆ ท่องคำศัพท์บนกระดานที่คุณครูเขียนไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวครูมานะครับ ”
“ ค่าาาาา / คร้าบบบบบบ ”
“ ส่วนนาย แจบอม .. ดูแลเด็กในห้องไป ไม่ต้องคิดจะตามพี่มาด้วย ถ้าไม่อยากโดนไล่ออกจากที่นี่ตอนนี้ ”
“ … ”
“ ฮึก .. ” หลังจากที่คุณครูตัวบางเดินออกมาจากห้องเรียนเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องนอนรวมของเด็กๆ ซังกยุนร้องไห้ออกมาพลางยกมือเล็กป้อมขึ้นมาเช็ดน้ำตาของตัวเองลวกๆ ในขณะที่มือเรียวของมาร์คค่อยๆเช็ดหยดน้ำตาสีใสออกจากใบหน้าอย่างแผ่วเบา
“ ซังกยุนอ่า ไม่ร้องนะไม่ร้อง ”
“ ฮืออ ... แงงงงงงงงงงงง ”
“ โอ๋ๆๆ ไม่ร้องสิ่ซังกยุนอ่า ” คุณครูคนน่ารักสวมบทบาทเป็นพี่เลี้ยงเด็กแสนใจดีอย่างที่เคยเป็น เขามักจะใจเย็นกับคนที่อายุอ่อนกว่าเสมอ โดยเฉพาะยิ่งอ่อนมากจนเรียกว่าเป็นเด็กมากเท่าไหร่ มาร์คก็ใจเย็นมากเท่านั้น
“ พี่หน้าแก่นั่น .. ฮึก ... ว่าผมอ่อนแอ ฮืออออออออ ”
“ ซังกยุนไม่ได้อ่อนแอหรอกนะ แต่ซังกยุนน่ะเข้มแข็งมากเลย รู้รึเปล่า ? ”
“ ฮึก .. ไม่จริงใช่ไหมครับคุณครู .. ”
“ จริงสิ่ รู้ไหม ตอนครูยังเด็กครูก็มาอยู่ที่นี่เหมือนเราเลยนะ แต่ครูเข้มแข็งน้อยกว่าซังกยุน ขนาดว่าครูมีทุกอย่างครบส่วนนะแต่ครูอ่อนแอมากเลยล่ะ เราน่ะเข้มแข็งกว่าครูหลายอย่างเลย โดยเฉพาะตรงนี้ ” ไม่ว่าเปล่า นิ้วเรียวของมาร์คแตะลงบนหน้าอกเล็กของเด็กชายพร้อมกับยกยิ้มอ่อนโยนส่งมอบให้
“ ครับบ ? ”
“ หัวใจของซังกยุนเข้มแข็งมากเลยนะที่จะเผชิญบนโลกกว้างแบบนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว .. ฉะนั้น เราไม่ต้องสนใจใครที่ว่าเราอ่อนแอเพียงเพราะเราไม่แข็งแรงแล้วนะรู้ไหม ” เพราะนิสัยที่รักเด็กและคอยปลอบโยนเด็กอยู่เสมอจึงทำให้เด็กน้อยที่ร้องไห้หนักมากเมื่อสักครู่กลับยิ้มตอบกลับให้เขาได้ไม่ยาก
“ ข .. ขอบคุณครับคุณครู ”
“ งั้นซังกยุนนอนพักผ่อนก่อนแล้วกันเนอะ เดี๋ยวเพื่อนๆก็จะมานอนตามเรานะ ” มาร์คค่อยๆวางเด็กชายลงบนที่นอนประจำที่เป็นฟูกหลังหนึ่งจากฟูกทั้งหมดที่เรียงยาวเป็นสามแถว ก่อนจะลูบศีรษะเล็กสองสามทีเพื่อกล่อมให้เด็กน้อยเข้าสู่ห้วงนิทราไป รอยยิ้มบางๆเผยขึ้นบนใบหน้าน่ารักอย่างไม่รู้ตัว
ปาร์คซังกยุนเป็นเด็กที่เข้มแข็งมากกว่าใครๆอย่างที่เขาเคยบอกไป เด็กน้อยวัยแปดปีที่ต้องสูญเสียครอบครัวจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่อายุห้าขวบและยังต้องสูญเสียอวัยวะที่สำคัญอย่างขาด้านขวาไปอีก เป็นใครก็ต่างทำใจยอมรับมันไม่ได้ ไม่มีจิตใจจะต่อสู้ หากแต่เด็กน้อยคนนี้กลับเลือกที่จะต่อสู้กับโลกอันโหดร้ายใบนี้เพียงลำพังด้วยอวัยวะเพียงสามสิบเอ็ดชิ้นเท่านั้น ต่างจากเขาที่มีอวัยวะครบทุกส่วนแต่จิตใจกลับอ่อนแอกว่าเด็กน้อยคนนี้ แต่ก็อย่างว่า ยิ่งโตขึ้นมา โลกใบนี้ก็จะแสดงความร้ายกาจของมันขึ้นมากขึ้น ให้ได้รับรู้ว่าโลกใบนี้ไม่ได้สวยงามเหมือนที่เคยวาดฝันไว้
มาร์คคาดหวังว่าซังกยุนจะยังคงเข้มแข็งแบบนี้จนเติบโตขึ้นเพื่อเผชิญกับโลกอันโหดร้ายใบนี้ได้
“ ปลอบเด็กเสร็จแล้วช่วยมาปลอบผมแบบตัวต่อตัวด้วย มาร์คต้วน ”
xx.
“ ป .. ปล่อยได้แล้วแจบอม .. อืออออ ”
“ ไม่ ”
“ พี่บอกให้นายปล่อยพี่ได้แล้ว .. อ้ะ ! ” มือเล็กพยายามดันแผ่นอกแกร่งของคนฉวยโอกาสที่กำลังซุกไซร้ซอกคอขาวราวกับโหยหามานานแสนนาน แม้ว่าเขาจะพยายามหลบเลี่ยงกับสัมผัสวาบหวามนั้น ยิ่งหลบเลี่ยง สัมผัสนั้นก็ยิ่งพุ่งตรงเข้าหาเสมือนเป็นการจู่โจมที่รุนแรงและควบคุมทุกสัดส่วนของจิตใจ
“ หึ สาบานได้ว่าพี่อยากให้ผมปล่อย ? ” ไม่ว่าเปล่า มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตสีอ่อนตัวบางเพื่อสัมผัสแผ่นอกบางพร้อมละเลงขยี้เม็ดสีทับทิมสวยที่กำลังชูตั้งขึ้นมาราวกับเชิญชวนอย่างเต็มที่ นัยน์ตาเรียวกลมหลุบลงไม่สบสายตาคมดั่งนกเหยี่ยวของแจบอม เรียวปากแดงฉ่ำขบเม้มเข้าหากันอย่างสกัดกั้นอารมณ์ที่ถูกคนเคยเป็นน้องชายปลุกปั้นมันขึ้นมา มือเล็กที่พยายามผลักไสกลับกำมือเข้าหากันแน่น
“ ม .. ไม่เอานะ ! นี่มัน .. อื้ออ ... ในห้องน้ำ ... อ้ะะ ! ”
“ แต่ร่างกายพี่กำลังต้องการผมแบบนี้พี่จะยอมหยุดเหรอ หืม ? ”
“ อื้ออออ ... ” จมูกโด่งฉกฉวยความหอมจากพวงแก้มเนียนนิ่มของมาร์คเสียฟอดใหญ่ ก่อนจะเริ่มบรรจงจูบลงบนเรียวปากเล็กแสนหวาน และกำลังจะเริ่มละเลงบทเพลงรักแสนโหยหา แต่ทว่า ...
พลั่กกกกก !!
“ พอได้แล้ว ! ” มาร์ครวบรวมแรงทั้งหมดเพื่อผลักร่างหนาของแจบอมออกห่างอย่างเต็มแรง ร่างบางหายใจหอบจนตัวโยน ใบหน้าน่ารักขึ้นสีแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด มือเรียวเล็กยกขึ้นลูบหน้าตัวเองไล่อารมณ์คุกรุ่นให้มลายหายไปเบาๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่บานประตูห้องน้ำเด็กชายที่ไม่ได้ล็อกกลอนประตูถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างของเด็กชายวัยประถมตัวอวบที่ยืนเกาศีรษะแสดงท่าทีงุนงงเมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ไหนห้องน้ำถึงสองคน
“ คุณครูมาร์คคคคคค ผมอยากเข้าห้องน้ำ ”
“ ชิท .. ! ” แจบอมสบถออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แต่ก็ต้องเงียบไปเมื่อเจอสายตาโกรธที่มาร์คตวัดมอง ก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตาหงุดหงิดนั่น
“ อ .. อ๋อ มินโฮอยากเข้าห้องน้ำใช่ไหมครับ ? โอเคๆ คุณครูเข้าเสร็จแล้วล่ะ มาเข้าต่อเลย ” ร่างเล็กอุ้มร่างเด็กชายตัวอวบให้เข้ามาในห้องน้ำ ส่วนตัวเขาก็เดินถอยหลังออกจากห้องน้ำแทน
“ คุณครูครับ ? ”
“ ครับผม ? ”
“ ทำไมถึงเข้าห้องน้ำสองคนล่ะครับ พี่หน้าแก่คนนั้นปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำมากเลยสิ่นะครับ ? ” ว่าจบ นิ้วอวบอ้วนก็ชี้ไปทางร่างหนาที่ปั้นสีหน้าหงุดหงิดเต็มประดา ร้อนให้คนถูกถามถึงกับต้องรีบตัดบทสนทนาลงทันที
“ อ่อใช่ครับ แต่ไม่เป็นไรนะ มินโฮเข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวครูจะพาคนๆนี้ไปเข้าห้องน้ำข้างนอกเอง ” มาร์คคว้าท่อนแขนแกร่งของน้องชายที่ยืนอยู่ข้างๆพร้อมดึงให้เดินตามตนเองออกไปจากโรงเรียนขนาดย่อมในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า มุ่งตรงไปที่สนามเด็กเล่นขนาดเล็กที่สามารถบรรจุเด็กได้ประมาณเกือบห้าสิบคนที่ตั้งอยู่ข้างๆห้องเรียนแทน ก่อนจะปล่อยมือออกจากท่อนแขนแข็งแรงนั้น
“ ทำไมนายถึงรู้ว่าพี่อยู่ที่นี่ ? ”
“ ก็ ... ถามแจ็คสัน ” พอได้ยินคำตอบ นัยน์ตาเรียวกลมก็กรอกไปมาราวกับไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนสนิทของเขากล้าหักหลังเขาบอกที่หลบซ่อนตัวเขา
“ … ปกติแจ็คสันไม่ใช่คนทรยศเพื่อนอย่างพี่ .. รู้รึเปล่า ? ”
“ ... ”
“ แล้วนายจะมาที่นี่ทำไม ? ”
“ … ”
“ นายเป็นคนบอกพี่เองไม่ใช่รึไงว่าไม่อยากเจอหน้าพี่ .. แล้วนาย ... ”
“ ... ”
“ ฮึก ... ตามพี่มาที่นี่ทำไม ” เพียงแค่นึกก็รู้สึกเกลียดตัวเองที่ยอมอ่อนข้อให้กับคนตรงหน้าอีกครั้ง ทั้งๆที่พยายามทำใจเข้มแข็งเสียตั้งนาน เขาไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเองแม้แต่น้อยว่าตัวเองกำลังจะเป็นคนสำคัญสำหรับใครๆ ทุกอย่างกลับพังไม่เป็นท่าเมื่อรู้ว่าคนที่เขารักมาตลอดกลับตามหาเขาจนเจอที่นี่
... ที่ที่เป็นบ้านเกิดของเขา ...
“ ก็ ... ”
“ หรือว่านายเหงา ไม่มีใครคอยเป็นตัวรองรับอารมณ์อย่างนั้นเหรอ ? ”
“ … ”
“ ถ้านายคิดจะตามหาพี่เพื่อหวังเพียงร่างกายและจะทำลายจิตใจของพี่ให้สมกับที่นายเจ็บปวดเท่านั้นล่ะก็ นายกลับไปซะ แค่นี้ ... นายก็ทำร้ายพี่มากพอแล้วไม่ใช่รึไง ”
“ ... ”
“ ฮือออออ ... ”
น้ำตาเจ้ากรรมดันไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้เมื่อได้สัมผัสเข้ากับอ้อมกอดแสนอบอุ่นที่ยังอบอุ่นไม่มีเปลี่ยนแปลงของแจบอม ท่อนแขนแกร่งโอบกอดร่างบางเอาไว้แน่น ใบหน้าหล่อคมคายซบลงไหล่ลาดของคนเป็นพี่ชาย นัยน์ตากลมของคนเป็นพี่ยังคงเจือหยดน้ำตาไม่ขาดสาย ร่างบางสะอื้นจนตัวโยนแม้จะพยายามยกมือขึ้นมาปิดกลั้นเสียงสะอื้นแล้วก็ตาม
“ ... ผมยอมแล้ว ”
“ ฮือ .. ”
“ .. ผมยอมพี่ทุกอย่างแล้ว ผมขอโทษ ”
“ ... ”
“ ผมยอมทุกอย่าง ขอแค่พี่อย่าหายไปจากชีวิตของผมอีกครั้งก็พอ ”
“ ฮึกกกก ... ”
“ ผมคิดถึงพี่นะ พี่มาร์ค ” ถ้อยคำแสนสั้นแต่ทว่าเมื่อใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนแล้ว กลับทำให้หัวใจที่เหี่ยวเฉามาแสนนานของมาร์คต้วนกลับพองโตได้ไม่ยาก เพียงได้ยิน รอยยิ้มทั้งหยดน้ำตากลับปรากฎออกมาฉายบนใบหน้าหวานนั้น
“ ไม่สิ่ ผมต้องบอกว่า ... ผมคิดถึงพี่ ... ต้วนอี๋เอิน ”
To Be Cont.
- งู่ยๆ อะโลฮ่าตอนที่สิบสี่ครัชชชชช !!!
คัมแบ็คคคคคคคคคคคคค T_T
ขอโทษที่หายไปนานค่ะ
เห็นหลายคนมาเม้นบอกว่ารอทั้งในนี้และในทวิตแล้วรู้สึกผิดมาก
ช่วงนี้ปัญหาชีวิตรุมเร้ามากๆ ชีวิตตกอับดรอปขั้นสุด + #midtermcrisis ที่จ่อก้นมาอีกไม่กี่วิชา
หวังว่าจะยังไม่ทอดทิ้งกันนะคะ อยู่ด้วยกันก่อนนะฮือ
เก๊าจะแต่งให้จบแน่ๆ สัญญาจีจี
น่อวววว ปมคนแบดตามหาพี่มัคมัคด้วย
แชปเตอร์นี้แต่งยาวหน่อย ชดเชยความผิดที่ทุกคนรอคอย T_T
ปมคนแบดรู้ชื่อจริงพี่มัคแล้ว แล้วรู้ได้ไงทั้งๆที่คนรู้มีแค่ประธานชเวกับพี่มัค ?
เดี๋ยวปมที่สองสามสี่จะตามมาครัชอิสอิส
ติดตามและให้กำลังใจได้เสมอน้า ได้ทั้งทางคอมเม้นต์ ทวิตเตอร์ และแฮชแท็กอิสอิส
ทักมาคุยกันทางทวิตเตอร์ได้เช่นกันน้า
ไว้เจอกันกับตอนที่สิบห้าค่ะ !
อย่าลืมคอมเม้นต์ ติดแท็กให้กำลังใจหรือบอกฟีดแบ็คหลังการอ่านด้วยน้าอิ้อิ้
ขอบคุณค่ะ :-} !
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

งื้ออออออ อยากจุ๊บเหม่งแจบอมมากเลยตอนนี้
ทำดีมาก พาพี่มาร์คกลับไปให้ได้นะแจบอม
ตามหาคนน่ารักจนเจอ T/////T ดีใจแทนน้องมาร์ค อย่างน้อยตอนนี้แจบอมก็เลือกที่จะอยู่ข้างๆกันแล้ว
หวังว่าจะไม่ไล่คนน่ารักไปอีกนะ เด็กนี่ !!
แต่ถึงกระนั้น ความดิบเถื่อนยังไม่หายจากไป แกแย่งพื้นที่ห้องน้ำของเด็กเล็กได้ลงคอนะ 555555555555
ยังดีที่น้องมาร์คมีสติ ผลักออกแรงๆ แม้คนอ่านจะไม่อยากให้ผลักออกก็ตาม กรี็สสๆๆๆ >/////<
ชอบให้แจบอมเรียกชื่อจริงน้องมาร์คจัง ดูไพเราะเพราะพริ้ง เหมาะกับหน้าหวานๆนั่นที่สุด อี้เอินนนๆๆๆ
เรียกบ่อยๆนะ ชื่อนี้ออกจากปากแจบอมมา น้องมาร์คคงชอบชื่อตัวเองน่าดู ฮืออออ พี่ขอมโนแรงๆ
ใจตรงกันแล้ว รักกันแล้ว หากันเจอแล้ว อย่าจากกันอีกเลยนะคะ จะสุขหรือทุกข์แค่ไหน อยู่ด้วยกันนะ
ฝากแจบอมดูแลน้องมาร์คด้วย พี่ฝากด้วยยยยยยยยยย TvT