ตอนที่ 11 : - CHAPTER 11 : รอยยิ้มที่กลับคืน 。
- CHAPTER 11 : รอยยิ้มที่กลับคืน 。
... รอยยิ้มที่หายไปมันหวนกลับคืนมาอีกครั้งแล้วใช่ไหม ? ...
เรื่องราวที่ผ่านมาตลอดสามสี่ปีมันกำลังจะคลี่คลายออกให้กลายเป็นเรื่องดีราวกับว่าเป็นเหตุการณ์ฟ้าหลังฝน หลังจากที่มาร์คได้รู้ถึงความรู้สึกภายในใจจากน้องชายของเขาที่เอ่ยออกมาให้รับรู้อย่างไม่มีปิดบังเมื่อคืนก่อน หัวใจของเขากลับพองโตจนน่าประหลาดใจ เขาไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกนี้มานานพอสมควรจนแทบจะลืมความรู้สึกเหล่านี้ไปเสีย และเพราะถ้อยคำที่ไม่ได้หวานซึ้งจนกินใจ แต่ก็ไม่ได้อ้อมค้อมมากเกินไปนั้นก็ทำให้ร่างของมาร์คตกเป็นของอิมแจบอมอีกครั้งและอีกครั้ง
... รวมถึงหัวใจดวงน้อยที่พยายามก่อกำแพงน้ำแข็งปกป้องความเจ็บปวดเอาไว้ก็พังทลายลงเมื่อพื้นที่ภายในใจทั้งหมดถูกเจ้าของพื้นที่ทำลายกำแพงเข้ามาได้อย่างง่ายดาย ...
“ ตื่นได้แล้วแจบอมอ่า ” มาร์คปลุกน้องชายที่ตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องนอนของเจ้าของที่นอนอุดอู้อยู่ในผ้าห่มก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมตื่นขึ้นมา ทั้งๆที่ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยจะเที่ยงวันแล้วก็ตาม มือเล็กเอื้อมไปแตะที่ผ้าห่มผืนหนาพร้อมเขย่าเบาๆสองสามที แต่ทว่าไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆจากร่างที่นอนหลับอยู่
“ ... อือ ”
“ คุณแม่บอกให้พี่มาเรียกนายให้ลุกอาบน้ำแต่งตัวลงไปกินข้าวได้แล้ว นายก็ควรจะทำนะแจบอมอ่า ”
“ … ”
“ แจบอมตื่นได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปเรียนภาคบ่ายไม่ทันหรอก ” มาร์คยังคงปลุกอีกฝ่ายอย่างใจเย็น ไม่โวยวายเหมือนคนอื่นๆที่รู้สึกหงุดหงิดถ้าปลุกใครแล้วเขาไม่ทำตามที่บอก
“ ... ขออีกสามนาที .. ไม่ๆ ... ห้านาที ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาติดจะอู้อี้พร้อมยกมือออกมาจากผ้าห่มแล้วชูเลขสาม ก่อนจะส่ายไปมาแล้วเปลี่ยนเป็นเลขห้าให้อีกคนที่อยู่ในห้องรับรู้
“ ไม่ได้นะ นี่มันจะเที่ยงแล้วนะแจบอม นายมีเรียนตอนบ่ายโมงครึ่งไม่ใช่รึไง ?! ”
“ งั้นพี่ก็ทำให้ผมตื่นให้ได้ดิ่ ”
“ ทำอะไรเล่า ไม่เอาหน่าแจบอม .. ลุกได้แล้วนะ .. เห้ย ! ” ร่างบอบบางเริ่มงอแงใส่น้องชายที่ดื้อแพ่งไม่ยอมลุกขึ้นมาจากเตียงนอนก่อนจะเขย่าร่างหนาใต้ผ้าห่มนั้นแรงขึ้นอีก
เขย่าร่างหนาได้เพียงไม่กี่ที ท่อนแขนแกร่งก็โผล่ออกจากผ้าห่มผืนหน้าพร้อมตวัดโอบกอดรอบเอวบางของพี่ชายแล้วดึงให้ร่างเล็กกว่าเซลงมานอนทับบนตัวของตนเอง ใบหน้าน่ารักเหวอพร้อมเปล่งเสียงที่แสดงท่าทีตกใจออกมาทันทีที่ร่างของตนเซล้มมาบนตัวอีกฝ่ายพร้อมใบหน้าหล่อเหลาชวนหัวใจแกว่งไหววูบที่โผล่พ้นออกจากผ้าห่มผืนหนาเพื่อมองหน้าพี่ชายร่างเล็กในอ้อมกอด ริ้วแดงระเรื่อประดับบนใบหน้าของมาร์คโดยอัตโนมัติเมื่อสบตากับนัยน์ตาคมที่มีแรงพิเศษที่ดึงดูดให้เขาจดจ้องมันไม่ละสายตาไปที่ไหนได้
รอยยิ้มจรดมุมปากหยักของแจบอมยิ่งทำให้คนมองเผลอขบเม้มเรียวปากตนเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่ใบหน้าหล่อคมคายของแจบอมจะโน้มเข้าใกล้พร้อมเรียวปากหนาคู่นั้นประกบริมฝีปากแดงฉ่ำราวกับลูกเชอร์รี่ของพี่ชายที่รักอย่างแผ่วเบา และการกระทำที่ตอบสนองกลับคืนโดยไม่มีอิดออดเหมือนทุกครั้งของมาร์คก็ยิ่งทำให้หัวใจของแจบอมรู้สึกพองโตราวกับลูกโป่งที่ถูกสูบลมด้วยแรงลมที่คงที่ เพียงแค่จุมพิตอย่างแผ่วเบาไร้การรุกล้ำใดๆและริมฝีปากเล็กก็ตอบรับสัมผัสอย่างเต็มใจ
เนิ่นนานจนไร้ลมหายใจ ริมฝีปากของทั้งคู่ก็ผละออกกันอย่างอ้อยอิ่ง นัยน์ตาคมมองเรียวปากเล็กที่บวมช้ำแต่เช้าด้วยแววตาประกายพอใจพร้อมยกยิ้มอ่อนโยนมอบให้อีกฝ่าย
“ มอร์นิ่งคิส ... สวัสดีตอนเช้าครับ ” แจบอมยกยิ้มให้มาร์คที่นั่งปรับสีระเรื่อบนใบหน้าไม่ทัน
“ .. บ้าเหรอ นี่มันเที่ยงแล้วต่างหากเล่า ”
“ งั้นก็อาฟเตอร์นูนคิส .. สวัสดีตอนบ่ายนะครับ ”
“ อ .. อ่ะ อื้ม สวัสดีตอนบ่ายนะ แจบอมอ่า ” มาร์คพยักหน้าเบาๆอย่างไร้สติ มือเรียวยกขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเองด้วยความเคยชินจนร่างหนาอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นคว้าจับมือเล็กข้างนั้นเอาไว้อย่างเบามือ
“ อะไรกัน ยังไม่ชินอีกเหรอไงพี่ ? ”
“ มันใช่เรื่องน่าชินรึไงล่ะ ? พี่ไม่ใช่นายสักหน่อยที่จะชินจูบใครไปทั่วน่ะ ”
“ ไม่ใช่พี่ผมก็ไม่จูบกับใครหรอกนะ ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าของเจ้าของน้ำเสียงที่แสดงความเรียบเฉยไม่กรากอายในคำพูดแม้แต่น้อย คนฟังก็ยิ่งเขินเข้าไปอีกเมื่อได้ยินถ้อยคำที่ตรงไปตรงมาของน้องชาย
“ ม .. มั่ว แล้วตอนที่จูบกับยองแจล่ะ ”
“ พี่ก็มองออกว่าผมโดนบังคับ ”
“ งั้นเหรอ ”
“ เลิกทำหน้ามุ่ยได้แล้วหน่า ยิ้มสักทีเถอะ เมื่อยหน้าบ้างไหมถามจริง ? ” มือหนาทั้งสองข้างเอื้อมไปจับที่พวงแก้มนิ่มของพี่ชายพร้อมบีบมันอย่างเบามือเพื่อให้เจ้าของยกยิ้มเสียที และร่างเล็กก็เผยรอยยิ้มที่ไม่เคยแสดดงมันออกมาตลอดเวลาสี่ปีกว่าๆให้ใครเห็น รอยยิ้มที่ทำให้อิมแจบอมไม่สามารถละสายตาไปมองรอยยิ้มของใครอื่นมาแทนที่รอยยิ้มนี้ได้อีก
“ พอใจรึยังล่ะ ? ”
“ ยิ้มจริงใจรึเปล่าเนี่ยพี่มาร์ค หือ ”
“ จริงใจแล้วสิ่ ”
“ จริงเหรอ ? ”
“ ที่สุดแล้วเถอะ ! ” และเพียงแค่ตอบคำถามไป มาร์คก็ได้รับรางวัลกลับมาคือจมูกโด่งเป็นสันของแจบอมช่วงชิงความหอมจากพวงแก้มเนียนนิ่มของเขาไปฟอดใหญ่หนึ่งที เพียงแค่ข้ามผ่านช่วงวันที่เล่นเกมทรูออร์แดร์ไป แจบอมก็กลายเป็นคนละคนจากเมื่อก่อนไปมาก
มากเสียจนเขาไม่อยากเชื่อว่าอะไรที่ทำให้อิมแจบอมเปลี่ยนเป็นคนอ่อนโยนแบบนี้ไปได้
“ พี่มาร์ค ” แจบอมเอ่ยเรียกพี่ชายร่างเล็กที่ยังนั่งบนตัวของเจ้าตัวพร้อมโอบกอดร่างบางของมาร์คเอาไว้แน่น
“ หืม ? ”
“ … รอยยิ้มที่หายไปมันหวนกลับคืนมาอีกครั้งแล้วใช่ไหม ? ”
“ … ”
“ พี่กลับมายิ้มให้ผมเหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่ไหม ? ” ดวงตาคมจดจ้องเข้าไปในนัยน์ตากลมที่ทอดมองกลับมาด้วยแววตาประกายความสุข และรอยยิ้มหวานก็ประดับบนใบหน้าหวานอีกครั้งหนึ่ง แม้ในใจจะยังกังวลอะไรบางอย่างก็ตาม
“ คงอย่างนั้นล่ะมั้งนะ ”
xx.
“ หน้ามึงดูระรื่นจนน่าหมั่นไส้จังนะอิมแจบอม ” ใบหน้าหล่อของอิมแจบอมหันไปทางต้นเสียงทุ้มน้อยกว่าก็พบว่าร่างโปร่งบางที่ความสูงไล่เลี่ยกับเขาอย่างปาร์คจินยองกำลังเดินเข้ามาหาตน
“ อะไรของมึงจินยอง ”
“ เปล้า .. ก็แค่ไม่เห็นน้องยองแจที่รักของมึงแล้วรู้สึกโล่งแปลกๆ ” ไม่ว่าเปล่า ไหล่บางยักขึ้นเล็กน้อยด้วยท่าทีไม่ยี่หระ
“ กูกับยองแจจบกันไปแล้ว ” แจบอมปั้นหน้าบูดใส่เพื่อนสนิท เขารู้สึกผิดทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของชเวยองแจ เด็กหนุ่มผมบลอนด์ในความทรงจำเพียงชั่วคราวคนนั้น เพียงแค่เห็นหยดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มนวล หัวใจของเขาก็แทบเหมือนตกลงสู่ก้นเหวลึกไม่ปาน
“ อ่อเหรอ จะว่าไปกูก็สงสารน้องเขานะ ”
“ ที่เมื่อก่อนล่ะเกลียดนักไม่ใช่รึไง แล้วเดี๋ยวนี้มาสงสารอะไรของนายน่ะ ”
“ สงสารที่น้องเขาดันพลาดมาเป็นเครื่องมือให้นายน่ะสิ่ ” จินยองเอ่ยในขณะที่ร่างสูงโปร่งทั้งสองคนกำลังเดินบนระเบียงทางเชื่อมระหว่างตึกเดินทางไปห้องสมุดกลางเพื่อหาหนังสือทำรายงานวิชานโยบายเศรษฐศาสตร์
“ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น ”
“ เพราะมึงมัวแต่หน้ามืดจะเอาพี่มาร์คมาเป็นของตัวเองให้ได้ยังไงล่ะ อย่างน้อยก็ดีแล้วที่ยองแจคิดได้แล้วหนีจากมึงไป เฮอะ กูก็นึกว่าจะแรงได้สักกี่น้ำ ที่ไหนได้ก็เป็นเด็กน้อยเรียบร้อยๆคนหนึ่งที่อยากลองใช้ชีวิตแรงๆนี่เอง ”
“ ก็อย่างที่เห็นว่าน้องเขาแรงมากกว่าเป็นไม่ได้เพราะนั่นมันไม่ใช่นิสัยของเจ้าตัว ”
“ แต่ก็แรงพอที่จะมาหลอกปั่นหัวกูเพื่ออ่อยเพื่อนกูก็แล้วกัน ”
“ มึงก็ว่าน้องเขาแรงไป ... ” แต่ทว่าสายตาของอิมแจบอมกลับทอดมองบุคคลที่สามที่พวกเขาพูดถึงกำลังยืนเลือกหนังสือที่จะอ่านด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ ร่างอวบเจ้าของผมสีบลอนด์แสนสะดุดตาในชุดนักศึกษายืนไล้นิ้วเรียวไปตามสันหนังสือพร้อมพึมพำอะไรบางอย่าง
“ นั่นมันชเวยองแจนี่ ? ” จินยองที่หันหน้าไปตามสายตาของเพื่อนสนิทเอ่ยขึ้นหลังจากที่มองเห็นบุคคลที่เพิ่งถูกเอ่ยถึงไป
“ อือ ”
“ ไงล่ะ มึงไหวไหม ? ”
“ ก็อยากที่เห็น ” แจบอมยักไหล่ให้เพื่อนสนิทก่อนจะยังคงมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าไม่วางตา คิ้วคมสวยกระตุกวูบหนึ่งพลางทอดมองด้วยแววตาฉายความประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
... มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมเขาไม่รู้ ...
“ ไม่คิดจะเข้าไปท ... โอ่วววว คงไม่ต้องทักละม้าง ” เสียงทุ้มนุ่มของจินยองกำลังเอ่ยชวนให้เพื่อนสนิทของตนเข้าไปทักทายรุ่นน้องอดีตคนรักตามมารยาทที่เห็นแล้วก็ต้องเข้าไปทักก่อนดีกว่าให้อีกฝ่ายเข้ามาทัก มันจะดีเสียกว่าถ้าหากเป็นฝ่ายแจบอมที่เชื่อมสัมพันธ์ความเป็นพี่ชายน้องชายให้มันดีขึ้นหลังจากทำมันพังไป
แต่ทว่าไม่ทันพูดจบประโยค สายตาทั้งสองคู่ของแจบอมและจินยองก็มองเห็นร่างสูงโปร่งชะลูดที่แสนคุ้นตาในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์สีเข้มแม้เจ้ของการแต่งกายนั้นจะเป็นถึงอาจารย์กำลังเดินเข้าไปสะกิดไหล่เล็กของยองแจเบาๆ และร่างเล็กนั้นก็หันหน้ามามองเจ้าของนิ้วเรียวนั่นพร้อมส่งยิ้มบางๆให้ รอยยิ้มที่อิมแจบอมไม่เคยได้เห็นมัน หรืออาจจะไม่เคยได้สนใจเมื่อเจ้าของรอยยิ้มเคยมอบให้กับตน
บางทีการที่ชเวยองแจอกหักจากอิมแจบอมแล้วกำลังคบหาดูใจกับอาจารย์อีซึงฮุนมันก็เป็นเรื่องแปลกสำหรับปาร์คจินยองไม่น้อย แล้วพี่มาร์คของเขาล่ะ ? สรุปอะไรยังไงกันแน่
“ มึงพอจะอธิบายเรื่องนี้ได้รึเปล่า ? ”
“ ‘จารย์ซึงฮุนเลิกกับพี่มาร์คแล้ว ตอนนี้พี่มาร์คเป็นของกูแล้ว ” แจบอมลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบราวกับว่าเรื่องที่เขาพูดเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่มันก็ประหลาดสำหรับคนฟังอย่างปาร์คจินยองคนนี้อยู่ดี
“ ห้ะ ?! ”
“ ตามที่มึงเห็นและเข้าใจนั่นแหละ ”
“ เดี๋ยวนะ คือ ... ไม่เข้าใจว่ะ คือพวกมึงสลับคู่กันงั้นเหรอ ? ”
“ เห้อ ... ใครมันจะไปคู่กันง่ายแบบมึงกับ’จารย์แจ็คสันล่ะวะ รอยที่คอแม่งเด่นไปนะเพื่อน ” ปล่อยระเบิดลูกใหญ่ใส่เพื่อนสนิทที่ตอนนี้เริ่มก้มมองลำคอตัวเองแม้จะมองไม่เห็นก่อนจะโวยวายใส่เขาที่เดินเลี่ยงหนีมาส่วนด้านหลังของห้องสมุดแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดใส่ยกใหญ่ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปหาหนังสือหลังจากที่แจบอมบอกให้ไปหาหนังสือทำรายงานก่อน
สองเท้าหนาก้าวเดินไปที่โต๊ะอ่านหนังสือหลังหนึ่งที่ติดชิดกับริมหน้าต่างเพียงลำพัง ด้านตรงข้ามเป็นชั้นวางหนังสือแผนกเศรษฐศาสตร์ตามสาขาที่เขาเรียนอยู่ ร่างเล็กที่แสนคุ้นตาและคุ้นเคยดีในชุดเสื้อโค้ทสีเข้มกำลังนั่งอ่านหนังสือเท็กซ์บุ๊กเล่มหนาภายในมืออย่างตั้งใจในขณะที่มีเท็กซ์บุ๊กอีกหลายเล่มวางกองเป็นชั้นสูงพอสมควร นัยน์ตากลมภายใต้แว่นตาสายตากรอบดำกวาดสายตาไล่อ่านตามบรรทัดด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอ เรียวปากเล็กนิ่มขยับพึมพำเหมือนอ่านออกเสียงเบาๆเป็นบางคำก่อนจะหยุดพึมพำไปแล้วก็พึมพำขึ้นมาอีกครั้งและอีกครั้ง นัยน์ตาคมมองการกระทำที่ดูตั้งอกตั้งใจพร้อมยกรอยยิ้มประดับบนใบหน้าหล่อเหลานั้น ก่อนจะเดินสาวเท้าเข้าไปใกล้มากขึ้นไปอีก ทว่าร่างบอบบางกลับไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญกำลังยืนค้ำหัวอยู่
“ อ่านขนาดนี้เอาหน้าสิงลงหนังสือเลยก็ได้ ผมไม่ว่าหรอก ”
“ .. คุณนักศึกษาอิมแจบอม ” ดวงตากลมใต้กรอบแว่นช้อนขึ้นมาสบกับต้นเสียงที่เป็นนักศึกษาหนุ่มผู้ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายของเขา ก่อนจะหยิบเอาที่คั่นหนังสือใกล้ตัวมาคั่นหน้าที่อ่านค้างไว้
“ เรียกห่างเหินจังนะมาร์คต้วน ”
“ อยู่ที่มหา’ลัย เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นไม่ใช่รึไง ผมเป็นอาจารย์ คุณเป็นนักศึกษา อย่าลืมสิ่ ”
“ แต่ตรงนี้มันมุมลับตาคน ทำตัวเหมือนปกติเถอะ ” แจบอมเอ่ยออกมาพลางนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างข้างๆกายอีกฝ่าย
“ แต่ ... ” แววตาไหววูบแสดงออกมาอย่างชัดเจน มาร์คไม่กล้าที่จะทำตัวสนิทสนมกับลูกศิษย์ที่พ่วงตำแหน่งน้องชายในสถานศึกษาเช่นนี้ มันไม่ปลอดภัยสำหรับตัวเขาและตัวอีกฝ่าย โดยเฉพาะ ...
... ไม่ปลอดภัยสำหรับหัวใจที่เริ่มเคยตัวกับการกระทำแสนอ่อนโยนจนลืมตัวไปว่าตนไม่คู่ควร ...
“ ถือว่าผมขอร้อง ”
“ อ่ะ ... อือ แจบอมอ่า ” และหัวใจของเขาก็บงการให้ใบหน้าน่ารักพยักหน้าลงเบาๆตอบรับ ก่อนจะก้มหน้าเปิดหนังสือหน้าที่อ่านค้างเอาไว้พร้อมไล้สายตาอ่านมันต่ออย่างตั้งใจในขณะที่ร่างสูงหนายังคงนั่งเท้าคางมองอย่างเพลิดเพลินเสมือนนั่งดูภาพยนตร์เรื่องโปรด
“ อ่านอะไรอยู่อ่ะพี่มาร์ค ? ” เสียงทุ้มเอ่ยถามทั้งๆที่เขารู้ดีอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งใจอ่านอะไรอยู่
“ เท็กซ์บุ๊กเศรษฐศาสตร์ไง เอาไว้สอนในคาบ ”
“ หนาไปไหน ”
“ หนาแค่ไหนพี่ก็ต้องอ่าน ไม่อย่างนั้นจะสอนพวกนายได้ยังไงล่ะ จริงไหม ? ” คิ้วสวยเลิกขึ้นเมื่อยามเอ่ยคำถามย้อนกลับไป ใบหน้าน่ารักยังคงเปื้อนรอยยิ้มหวานที่คนมองก็เผลอยิ้มตามได้อย่างง่ายดาย
“ ก็จริงแฮะ ” แจบอมเอ่ยพลางเหลือบมองโทรศัพท์มือถือเครื่องสวยที่วางอยู่ใกล้ๆตัวกำลังแสดงหน้าจอแจ้งเตือนว่ามีข้อความแชทส่งมาถึงเขา มือหนาพิมพ์แผ้นอักษรบนโทรศัพท์มือถือเพื่อตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกดล็อกหน้าจอแล้วเท้าคางมองอาจารย์เศรษฐศาสตร์คนน่ารักตรงหน้าต่อไป
‘ Jinyoung P. : จะจีบอาจารย์อีกนานแค่ไหนวะ มาทำงานได้แล้วจอมกินแรงชาวบ้าน ! ’
‘ Jaebum I. : เออมึงทำไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป ’
‘ Jinyoung P. : ตลอดอ่ะ แม่งเดี๋ยวกูจะไม่เขียนชื่อมึงในรายงานแน่ แบร่ ! ’
“ หน้าพี่มีอะไรติดรึไงแจบอมอ่า ? ” มาร์คเอ่ยถามด้วยความสงสัยหลังจากที่รู้สึกมาตลอดเวลาที่นั่งอ่านหนังสือว่าน้องชายของตนไม่ละสายตาไปจากตนเลย
“ ก็ไม่มีอะไรติดนี่ เกลี้ยงเกลาดี ”
“ แล้วมองหน้าพี่ทำไมล่ะ ไปนั่งทำงานได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่มีส่งเกรดก็ไม่ดีอีกหรอก ” มือเรียวเล็กตีเข้าที่ไหล่กว้างเบาๆเชิงตักเตือนให้ไปทำรายงานที่เจ้าตัวจะต้องทำส่งในวิชานโยบายเศรษฐศาสตร์ที่อาจารย์ซึงยูนสอน
“ เดี๋ยวค่อยทำก็ได้ ไม่งั้นก็พี่ไปบอกให้’จารย์ซึงยูนปัดคะแนนขึ้นให้ทีสิ่ ”
“ แจบอม ... ”
“ อย่าสั่งผมสิ่ครับอาจารย์ อาจารย์ก็รู้ว่าผมเป็นคนยังไง ” ร่างสูงยิ้มเผล่ออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ร้อนให้อาจารย์หนุ่มได้แต่ถอนหายใจ เพราะเขาไม่เคยสั่งลูกศิษย์คนนี้ได้ตามที่ใจหวังได้เลยสักครั้ง มันก็เป็นเรื่องปกติถ้าคนตรงหน้าจะไม่เคยเชื่อฟังเขาเลย
“ งั้นก็แล้วแต่แล้วกัน รู้อยู่แล้วว่าบังคับไปก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี ” มาร์คพองลมที่แก้มนิ่มเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมันออกมาเมื่อนิ้วหนาจิ้มเขาที่แก้มนิ่มพองลมของตนพร้อมกับยิ้มให้จนคนมองต้องเสตากลับไปอ่านหนังสือในมือด้วยความรู้สึกประหลาดที่เกิดวาบขึ้นภายในหัวใจอีกครั้ง
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงกว่า นัยน์ตากลมที่จดจ้องอยู่กับเนื้อหาเศรษฐศาสตร์เชิงลึกในหนังสือเท็กซ์บุ๊กภาษาอังกฤษก็ละสายตาออกมาเพื่อพักสายตาหลังจากใช้เวลานานสมควรในการอ่านหนังสือ กระพริบตาเพื่อไล่ความเหนื่อยล้าไปสองสามทีก่อนจะเบือนหน้าไปมองลูกศิษย์พ่วงตำแหน่งน้องชายที่กำลังนอนหลับศีรษะหนุนแขนแกร่งนั้นด้วยแววตาที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นความรู้สึกได้
รอยยิ้มอ่อนโยนเผยขึ้นมาบนใบหน้าหวานพร้อมแปรเปลี่ยนแววตาให้ประกายอ่อนโยนเหมือนสมัยตอนเด็กๆที่เขาชอบนั่งมองแจบอมนอนหลับทุกครั้ง มือบางเอื้อมไปลูบโครงหน้าจรดแก้มของน้องชายอย่างแผ่วเบาพร้อมละมือจากแก้มเพื่อถอดเสื้อโค้ทสีเข้มตัวหนาห่มให้ร่างหนาที่มีเพียงแค่เสื้อเชิ้ตนักศึกษาเท่านั้น นัยน์ตากลมทอดมองพลางยกมือเรียวเท้าคางมองใบหน้าหล่อคมคายที่นอนหลับตาพริ้มพร้อมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
ทุกอย่างมันช่างรวนกันไปเสียหมด การที่มาร์คยอมมองข้ามเบื้องลึกความเจ็บปวดทำตามใจอิมแจบอมเพื่อให้เด็กหนุ่มรู้สึกพอใจนั้น ลึกๆแล้วเขาก็ยังหวั่นใจอยู่ไม่น้อยหากความลับเบื้องหลังเหล่านั้นมันเผยออกมาให้เห็นในวันใดวันหนึ่งเข้า ว่ากันว่าคนรักมากก็เกลียดมากได้เช่นกัน ... แจบอมจะเกลียดเขาขึ้นมาจริงๆรึเปล่า เขาก็ไม่มีทางรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้จริงๆ
... หากความจริงปรากฏแล้วคนที่เขารักกลับเกลียดในตัวเขาขึ้นมา มาร์คต้วนก็พร้อมจะทำใจยอมรับแล้วกลับไปยืนอยู่ตรงจุดเดิมก่อนที่จะแปรเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์นี้ เขาจะยอมรับมัน ...
To Be Cont.
- งู่ยๆ อะโลฮ่าตอนที่สิบเอ็ดครัชชชชช !!!
ยอดคนอ่านกับคอมเม้นต์ลด ร้องไห้ TT________TT
เราขอโทษที่หายหน้าไปหนึ่งอาทิตย์ไม่ยอมอัพฟิคแง
อาทิตย์ที่แล้วมือซ้น+วุ่นวายเรื่องย้ายเซคเรียน
เลยแต่งฟิคไม่สะดวกจริงๆ เข้าใจเราด้วยแง
ทำร้ายตัวละครทุกคนมาเกือบสิบตอน สงสารและเอาใจคนอ่าน
เลยขอให้ตอนที่11นี้กลายเป็นตอนมุ้งมิ้งหน่อยนึงโน้ะ tt'
ดิ้นกันเถอะ เรามาดิ้นกันดิ้นกันนนนน
อาทิตย์นี้เราจะลงเรื่องนี้สองตอนชดเชยที่อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้ลงน้า
ติดตามและให้กำลังใจได้เสมอน้า ได้ทั้งทางคอมเม้นต์ ทวิตเตอร์ และแฮชแท็กอิสอิส
ทักมาคุยกันทางทวิตเตอร์ได้เช่นกันน้า
ไว้เจอกันกับตอนที่สิบสองค่ะ !
อย่าลืมคอมเม้นต์ ติดแท็กให้กำลังใจหรือบอกฟีดแบ็คหลังการอ่านด้วยน้าอิ้อิ้
ขอบคุณค่ะ :-} !
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

งื้ออออออบรรยากาศตอนนี้มันดีมากๆเลย
อยากให้มันดีแบบนี้ตลอดไปจริงๆนะ
รู้สึกกังวลกับความลับของพี่มาร์คจัง
อะไรที่ทำให้พี่มาร์คต้องยอมขนาดนี้ t t
พี่มาร์คจะได้ใจอ่อนกับน้องเยอะๆ ไม่อยากจะคิดถึงอดีตต่างๆนาๆที่มาร์คเก็บไว้เลยอ่า
อยากให้มีความสุขกันอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะมีปมอะไรมากมาย อุปสรรคเยอะจริงๆ
คนอ่านนี่หมั่นเขี้ยว อยากจะจับ 2 คนนี้หนีความจริงไปให้ไกลๆเลย ฮืออออ #อินฟิคมากค่ะ ทำไงดี T^T
และสุดท้ายนั้น ชเวยองแจกับอาจารย์ซึงฮุนก็....เอ๊ะโอๆๆ กรี๊ดดดด ไวไฟไม่เบานะคะ อาจารย์ขราาาาาาา >___<
น้องแตงน่ารักมาก เรารู้ๆ น้องเป็นเด็กเรียบร้อย (ในฟิคนะ) สเป็คอาจารย์เลย ฝากดูแลน้องแตงด้วยนะคะ กี๊สๆๆๆ
พอเข้าใจเรามั๊ย 5555 เออแบบหน่วงจริงๆนะ กลัวบอมมันหวั่นไหวกะยองแจ กลัวพี่มาร์คเจ็บปวดอีกรอบ กลัวยองแจกลับมาเอาคืน แงงงง นี่เป็นบ้าอะรายยย
คือเราอ่านแล้วพี่มาร์คก้ยังต้องฝืนยิ้มอีกอยู่ดีง้ะ เราขี้ระแวง 555555
ปล.หายได้แต่อย่าทิ้งฟิคน้า
เรารอเราคิดถึงไรท์และโหยหาอย่างที่สุด คื้อดีใจที่กลับมา ฮึก จะรออ่าน
เป็นตอนที่เอินได้ยิ้นจริงๆ ได้มีความสุขใกล้ๆเจบีบ้าง เป็นตอนที่สบายใจมากๆ
ยองแจเองก็ดีขึ้นเพราะมีซึงฮุนแล้ว ฮึก รู้สึกโล่งใจและยินดีมากๆ ที่ทุกอย่ามันโอเคเบาๆ
แต่เครียดตรงที่ความลับของเอินก็ยังไม่เผยออกมาสักอย่าง จนอ่านแล้วกลัวไปด้วย
กลัวว่ามันจะร้ายแรง สงสารเอิน ไม่อยากเห็นต้องไปร้องไห้แบบตอนเก่าๆ ฮืออ
อินมากพูดเลยยย
สงสารพี่มัค ดีใจจังน้องแดงมีใหม่แล้ว พ้นทุกข์แล้ว
เหลือแต่ปมที่ทำให้มันเป็นพินอคคิโอ้นี่ล่ะเน้อะ