ตอนที่ 26 :
{ DON’T DO THIS WITH ANYONE : 누구와도 이러지 마 }
pairing ; Jackson x Mark ft.Yugyeom x Bambam
author ; pinnathero
genre ; little romantic
type ; AU,PWP
rate ; pg-15
(หมายเหตุ : อย่าทำแบบนี้ไม่ว่ากับใคร ... เข้าใจไหม? / เบิร์ด ธงไชย : http://youtu.be/HbseubPhHKo )
warning ; สกรีมเรื่องนี้แท็ก #อย่าทำจาร์คแบบนี้ ในทวิตด้วยน้า อยากอ่านง่ะ ขอบคุณนะก้ะ T_T
warning 2 ; ขุดงานเก่าที่เคยดองเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนของวงอื่นมาดัดแปลงใช้งานใหม่ มันง้องแง้งจนไม่ใช่พี่มาร์ค ไม่เถื่อนตามสไตล์แจ็คสัน ไม่ว่ากันน้า
warning 3 ; แต่งฟิคดับอารมณ์ดราม่าจากฟิค #มนความจำเสื่อม ซักเล็กน้อยนะมิบมิบ
... อย่าทำอย่างนี้ ไม่ว่ากับใคร เข้าใจไหม
ถ้าไม่รัก ไม่ต้องไปทำแบบนี้ให้ใคร
อย่าทำอย่างนี้ เพราะเขาจะมองว่าเธอน่ะใจร้าย
ที่ทำเหมือนเธอให้ใจ แต่มันก็ไม่จริง ...
xx.
" พี่จะรีบไปไหน ? " ร่างหนาที่นั่งเท้าคางกับโต๊ะม้าหินอ่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเนือยๆอย่างขี้เกียจ พลางทอดสายตามองคนตัวบางกว่าที่ง่วนอยู่กับการเก็บของใส่กระเป๋าเป้เพื่อเตรียมตัวไปพรีเซ็นต์งานตัวที่สองคาบต่อไป
" ก็ต้องรีบไปเรียนสิ่ ! เพราะนายคนเดียวเลยทำให้พี่ต้องเข้าเรียนสายเนี่ย ... ไอ้เจ้าเด็กนี่ ! " ร่างเล็กเอ่ยขึ้นในขณะที่ยังเก็บของอยู่ ก่อนที่จะเงยหน้ามองอีกคนที่ยังไม่ละสายตาจากตัวเองด้วยสายตาคาดโทษเอาไว้อย่างหนัก สายอะไรไม่สาย ดันมาสายวันที่มีพรีเซ็นต์งานทั้งวันแบบนี้อีก
" ผมผิดอะไรอ่ะ ? " คนเป็นรุ่นน้องเอ่ยถามขึ้นมาด้วยใบหน้าเหลอหลา ยิ่งทำอารมณ์ที่ครุกกรุ่นด้วยความหงุดหงิดเพิ่มเลเวลขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
อยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมคนใจเย็นมากๆที่มีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่จะเอ่ยปากบ่นใส่ใครๆ อย่าง มาร์คต้วน ต้องมาหงุดหงิดโวยวายปั้นหน้าโมโหใส่รุ่นน้องรูมเมทตัวหนาอย่าง แจ็คสันหวัง ว่าเป็นฝ่ายทำผิดด้วย
ก็เพราะเจ้าเด็กรูมเมทที่ได้มาจากการสุ่มเลือกห้องพักแบบรวมอย่างแจ็คสันหวัง นักศึกษาปีหนึ่ง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาวิชาสถาปัตยกรรม ดันได้มานอนกับรุ่นพี่ต่างคณะอย่างมาร์คต้วน นักศึกษาปีสอง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ตามที่กฎของกองบริการหอพักกำหนดเอาไว้ ด้วยความที่ว่าจำเป็นต้องใช้ชีวิตในห้องพักเดียวกัน นอนห้องเดียวกัน เจ้าเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งมาอาศัยกับเขาไม่นานก็ดันชอบแกล้งถ่วงเวลาเขานั่นนี่ในวันที่เขาต้องเข้าเรียนแต่เช้า ช่วงแรกๆที่เจอเหตุการณ์น่ารำคาญแบบนี้ก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรมากเท่าไหร่ เพราะคนเป็นรุ่นพี่มีนิสัยที่ใจเย็นพอที่จะควบคุมอารมณ์และสถานการณ์ได้ดี แต่นานๆเข้าพอเริ่มได้สนิทสนมกันมากขึ้นก็กลายเป็นความรำคาญเล็กน้อย จนเพิ่มเลเวลความรำคาญแบบเต็มขั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ปล่อยเลยตามเลยกับนิสัยกวนประสาทของรุ่นน้องเพราะถืออยู่เสมอว่ารุ่นน้องรูมเมทคนนี้ยังคงเป็น ' รุ่นน้องในมหา’ลัย ' ของเขา
วันนี้มาร์คมีเรียนแต่เช้าเพราะคาบแรกนั้นมีการพรีเซ็นต์งานกลุ่มที่ทำทิ้งไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ตัวเขาต้องตื่นไวกว่าทุกวัน แต่มันก็ยังคงสายสำหรับเขา กำลังจะก้าวขาเดินออกจากห้องไป ทว่าแจ็คสันดันตะโกนมาบอกว่า
' ลืมทำการบ้านแคลคูลัส เรียนไม่รู้เรื่อง พี่มาร์คสอนให้หน่อยดิ่ '
เขาจำใจต้องสอนอีกคนอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งๆที่เวลาก็เดินหน้าไปจนใกล้เวลาเรียนเข้ามาทุกที และยิ่งมารู้อีกทีว่า ... แจ็คสันหวังเก่งแคลคูลัสมากถึงระดับขั้นเทพ สามารถไปแข่งโอลิมปิกแบบสบายๆได้เลย เขาได้ยินมันจากปากของอิมแจบอม เพื่อนร่วมคณะของเขาที่เพิ่งเดินจากเขาไปเมื่อสักครู่ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดเข้าไปอีก
... เวลายิ่งมีไม่มากยังจะถ่วงอีก ชอบแกล้งคนอื่นนักนะแจ็คสันหวัง ! …
" ก็ทำไมนายไม่บอกพี่ว่านายเก่งแคลฯ พี่จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาสอนนาย อีกอย่างทำไมเมื่อคืนไม่ยอมทำการบ้าน ? " ร่างเล็กโวยวายใส่คนเป็นรุ่นน้องอย่างหัวเสียจนแทบจะเขวี้ยงกระเป๋าเป้ที่มีแต่อุปกรณ์สำหรับการซ่อมเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ใส่ใบหน้าหล่อนั้น
" ก็ผมอยากมองหน้าพี่เวลาสอนนี่นา อีกอย่าง ที่ว่าทำไมเมื่อคืนผมไม่ทำการบ้าน ... พี่ลืมไปแล้วเหรอว่าเราทำอะไรกันเมื่อคืน ? " ร่างหนาทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ใส่พร้อมยกยิ้มมุมปากประดับใบหน้า ทำเอาใบหน้าขาวเนียนถึงกับขึ้นริ้วสีระเรื่ออย่างปิดไม่มิด
ดูจากรูปประโยคแล้ว มันค่อนข้างจะดูสุ่มเสี่ยงเข้าเรทฉ.มากเลยทีเดียว หากคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินเข้า ...
" ก็นายมัวแต่ดอทเออยู่ได้ พี่ไล่ให้ไปนอนก็ไม่ยอมนอน มันถึงได้เกิดเหตุการณ์บ้าๆนั่นไงเล่า ไอ่เด็กประสาท ! " มาร์ครีบเบือนหน้าหนีด้วยความงอนหรือว่าเขินอายก็ไม่อาจจะรู้ใจเจ้าตัวได้
แต่ที่แน่ๆก็คงมีแต่รุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้าคนนี้นี่แหละที่พอรู้ว่าเป็นเพราะอะไร ?
" อย่างอนผมดิ่ครับพี่มาร์คคคคคคคคคค " ร่างหนาลุกขึ้นเต็มระดับความสูงพร้อมเดินอ้อมไปฝั่งที่รุ่นพี่ตัวบางนั่ง ก่อนจะยื่นหน้าเข้าใกล้และกระชับกอดอีกคนไว้หลวมๆ
“ … ”
" นะนะ พี่มาร์คนะ ไม่งอนผมดิ่ "
ในขณะที่คนเป็นน้องกำลังโอบกอดออดอ้อนอยู่นั้น ก็ไม่ได้สนอกสนใจเลยว่าก้อนเนื้อสีชมพูสตรอเบอรี่ภายในอกที่เรียกว่าหัวใจของรุ่นพี่คนน่ารักเกือบหยุดเต้นอย่างถาวรเมื่อหันหน้ากลับไปมอง พบว่าใบหน้าที่ขาวกระจ่างใสดูมีเลือดฝาดเมื่อตัดกับกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนของเขาและโครงใบหน้าหล่อของแจ็คสันอยู่ห่างกันเพียงแทบไม่ถึงปลายนิ้วก้อยเท่านั้น
ความใกล้ที่แทบสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของกันและกันได้ ทุกสรรพสิ่งที่เคลื่อนไหวไปมาในเวลานี้กลับหยุดนิ่งราวกับเวลาที่ถูกกดปุ่มหยุดเอาไว้ในความคิดของมาร์ค จมูกโด่งพร้อมใบหน้าหล่อคมคายของแจ็คสันเริ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้มากขึ้น เปลือกตาสีน้ำนมของคนตัวเล็กกว่าปิดลงเพื่อบดบังดวงตาคู่ใสที่ฉายแววตาสับสนนั้นตามทฤษฎีรีเฟล็กชัน สัมผัสที่คืบคลานใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งทำให้มือเรียวกำอกเสื้อนักศึกษาของอีกฝ่ายจนยับยู่ยี่ ก้อนเนื้อที่อยู่เยื้องอกด้านซ้ายเต้นระรัวด้วยความบ้าคลั่ง ....
" เห้ยไอ่แจ็ค พี่มาร์ค ทำอะไรกันน่ะ ?! " เพียงแค่เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมา มือเล็กที่กำอกเสื้อที่ปกคลุมแผ่นอกแกร่งนั้นกลับผลักเจ้าของออกห่างอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าหวานขึ้นแดงก่ำ มือเล็กยกขึ้นมากพัดหน้าตัวเองให้ไอร้อนระเหยออกไป ยิ่งทำให้ดูน่ารักเมื่อริ้วระเรื่อนั้นตัดกับสีผิวของมาร์ค
ปาร์คจินยอง ก้าวเท้าเดินเข้ามาทักเขาทั้งสองที่นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนด้วยใบหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัยประหนึ่งว่าเป็นผู้กุมความลับอันยิ่งใหญ่เอาไว้ แจบอมเป็นเพื่อนสนิทของแจ็คสัน จินยองเป็นนักศึกษาปีหนึ่งคณะเดียวกันกับแจ็คสัน หากแต่อยู่คนละสาขาวิชา สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะว่าต้องตามอีกคนไปเรียนวิชาที่เป็นเซคชันเดียวกันแน่ๆ
ร่างโปร่งเดินเข้ามาตบลงที่กลางหัวเพื่อนสนิทคล้ายว่าหยอกเล่นไปหนึ่งที ก่อนจะหันหน้ามาส่งรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรพร้อมโค้งทักทายเล็กน้อยให้กับรุ่นพี่
" อ้าว พี่มาร์คไม่เข้าเรียนเหรอครับ ? เมื่อกี้ผมเห็นอาจารย์วิชาที่พี่ต้องเข้าเรียนกำลังเดินออกจากห้องทำงานไปแล้วนะ " จินยองเอ่ยถาม ร่างเล็กที่เหม่อลอย พอได้ยินประโยคคำถามของรุ่นน้องมาที่มาถึงก็นึกขึ้นได้จึงรีบหยิบกระเป๋าที่วางบนโต๊ะมาสะพายให้เรียบร้อยด้วยความเร่งรีบ
" เห้ยจริงดิ่ !? โอ้ยยยย ... พี่ไปเรียนก่อนนะ ไว้เจอกัน ! ฝากเจ้าเด็กประสาทนี่ด้วยล่ะจินยองอ่า ! " มาร์คยกมือขึ้นโบกไปมาเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งออกจากม้าหินอ่อนไปเพื่อเข้าห้องเรียนที่อยู่ห่างจากจุดที่วิ่งอยู่เกือบห้าร้อยเมตร
ลองได้ติดเอฟมาหนึ่งตัว เขาคงจะคาดโทษรูมเมทเอาไว้อีกหนึ่งปีแน่ๆ ....
xx.
" เห้ยมึง " เพื่อนซี้ผู้มาเยือนรายใหม่หย่อนตัวนั่งลงที่ม้าหินอ่อนฝั่งตรงข้ามพร้อมเอ่ยปากถามเปิดประเด็นที่ค้างคาอยู่ในใจมานานหลังจากที่รุ่นพี่ตัวบางวิ่งเข้าไปในตึกคณะเรียบร้อยแล้ว
" มาห้งมาเห้ยอะไรของมึง จินยอง ? " แจ็คสันเอ่ยน้ำเสียงเนือยๆ พลางใช้ดินสอสีเข้มขีดเขียนอะไรเรื่อยเปื่อยลงบนกระดาษสีขาวสะอาดที่แนบเอาไว้บนกระดานสเก็ตซ์
" กูถามจริงดิ่ "
" อะไรของมึง มีอะไรว่ามาดิ่ อย่าลีลา "
" มึงไม่ได้คิดอะไรกับพี่มาร์คเลยเหรอวะ ? "
" อยู่ๆทำไมมึงถึงถาม ? " มือหนาที่กำลังละเลงปลายดินสอลงบนกระดาษกลับหยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นจากกระดานสเก็ตซ์เพื่อมองหน้าคนถามประโยคที่ชวนกระตุกหัวใจเมื่อสักครู่
" ก็ดูมึงทำอะไรแต่ละอย่างให้พี่เขาดิ่วะ กูว่าแม่งเหมือนแฟนกันมากอ่ะ แถมพี่เขายังหน้าตาน่ารักอีก อย่าลืมดิ่ นั่นรองเดือนวิศวะเลยนะเว่ย ... ”
“ แล้วไงอ่ะ ? ”
“ เห้ย ! นี่มึงไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆเหรอวะ ? เป็นกูกูคิดนะเนี่ย ... มันหลายเดือนแล้วนะ มึงยังไม่รู้ใจตัวเองอีก กูว่ามึงแม่งใจแข็งยิ่งกว่าหุ่นรูปปั้นเดวิดจำลองที่กูกำลังจะปั้นอีกว่ะ " เพื่อนซี้ตัวสูงบ่นงุ้งงิ้งตามประสาคนชอบทำตัวง้องแง้งก่อนจะเอื้อมมือดีดหน้าผากกว้างของแจ็คสันเข้าป้าบใหญ่ ทำให้คนโดนทำร้ายร่างกายรู้สึกว่าเพื่อนสนิทบ่นช่างน่ารำคาญยิ่งกว่าแม่บ่นซะอีก
... นี่เพื่อนหรือแม่กูวะ ?
" ... กูไม่รู้ ... กูอาจจะยังไม่ได้คิดกับพี่เขาในฐานะนั้นก็ได้ " ดวงตาคมดุเบือนสายตาหนีอีกฝ่ายเพราะไม่อยากเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อนมากนัก ทั้งๆที่ในใจกลับสับสนตีรวนกันไปมา จับต้นชนปลายไม่ถูกมากกว่าเดิม ใช่ว่าเขาจะไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ หากแต่พอเพื่อนสนิทย้ำความคิดเขาเข้าไปอีกครั้ง ทุกอย่างที่ควรจะเรียงลำดับได้ดีกลับแตกกระจายลอยไปมาอยู่เต็มหัว
" แต่มึงไม่เคยสังเกตเหรอวะ เวลามึงทำห่าอะไรให้อ่ะ พี่เขาก็ดูมีความสุข ดูเขินมึงมากนะเว่ย อย่างมึงไปรับไปส่งพี่เขา ซื้อขนมให้ อ้อนนั่นนี่ ทั้งๆที่มึงไม่เคยทำห่าอะไรแบบนี้กับใครเลยนะ ขนาดกูเป็นเพื่อนสนิทมึง มึงยังไม่เห็นทำแบบนี้ แม่งเสียใจว่ะ " และจินยองก็จบด้วยประโยคตัดพ้อ พร้อมกับแสดงบทละครบีบน้ำตาแสนน้ำเน่าชวนจับเอาหัวโขกหินอ่อนหน้าคณะ แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยันไปที่หน้าขาของเพื่อนสนิทแรงๆหนึ่งทีเท่านั้น ก่อนจะหันมาสนใจกับความคิดที่เริ่มกลั่นกรองอยู่ภายในสมองของตน
... ก็จริงอย่างที่จินยองพูด พี่มาร์คชอบยิ้มชอบหัวเราะให้เขาบ่อยยิ่งกว่าเขาหัวเราะหรือยิ้มให้เสียอีก พอยิ่งมองมันบ่อยๆ ก็ยิ่งรู้สบายใจที่ได้เห็น และ ..... ยิ่งรู้สึกหวงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะนั้น ไม่อยากแบ่งปันให้ใครแม้แต่คนเดียว ...
... เขาคงจะไม่รู้สึกดีแน่ๆ ถ้าหากว่าเขาได้เห็นหยดน้ำตาบนใบหน้ารุ่นพี่คนนี้ ...
" ถ้าให้กูเดานะ ... พี่เขาคงชอบมึงล่ะ "
" เห้ย ! ตลกละมึง อย่าเดามั่วมากได้ไหม ไอ่หมาขี้เดาปาร์คจินยอง !!! " ร่างหนายกขาขึ้นเล็กน้อยพร้อมใช้เท้าเตะหน้าขาของเพื่อนสนิทแรงๆอีกครั้ง ก่อนจะวางกระดานสเก็ตซ์ลงเพื่อจะไล่ตีจินยองที่แลบลิ้นปลิ้นตาวิ่งหนีออกห่างไป
" อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใคร ... เข้าใจไหม ? " จินยองตะโกนร้องเนื้อเพลงท่อนหนึ่งออกมาลอยๆ ทำเอาสายตาคมที่ส่อแววตาขุ่นเคืองจ้องมองอีกฝ่ายด้วยท่าทีเป็นเชิงว่า ' หมายความว่าไง ? '
" มึงลองไปหาเพลงนี้แล้วฟังดู เชื่อกู ไปฟังแล้วเดี๋ยวมึงรู้เลย ”
" ขนาดนั้น ? "
" เห็นกูเป็นคนไร้สาระแบบนี้ บางมุมกูก็มีสาระนะเว่ย มึงลองไปฟังดู แล้วมึงจะรู้ว่าเพลงมันไม่เว่อร์เลย "
"..."
" ถามใจตัวเองดูให้ดีๆ ว่ามึงคิดยังไง แต่บอกไว้ก่อนว่า ... มึงอย่าได้กล้าทำร้ายจิตใจพี่มาร์ค อย่าทำให้พี่เขาร้องไห้เสียใจ ไม่งั้นถ้าเรื่องถึงหูกูเมื่อไหร่ กูจะจับมึงแก้ผ้าเดินทั่วคณะ เอาให้รู้ทั่วๆกับไปเลยว่าเดือนคณะสถาปัตย์มันเป็นคนยังไง กูไปล่ะ "
ว่าเสร็จก็ผลักหัวทุยๆของอีกฝ่ายแรงๆหนึ่งรอบก่อนจะวิ่งหนีหายไป ทิ้งให้คนโดนผลักหัวได้แต่ส่ายหัวอย่างเอือมระอา มือเรียวหยิบโทรศัพท์ของตนออกจากกระเป๋าขึ้นมาเลื่อนนิ้วหนาสไลด์เลือกเพลงในเพลย์ลิสต์เพื่อฟังและลงมือวาดรูปบนกระดานสเก็ตซ์ต่อ
หน้าจอโทรศัพท์มือถือเครื่องสวยกำลังแสดงรายชื่อเพลงหนึ่งที่กำลังฟังอยู่อย่างชัดเจนก่อนที่หน้าจอจะดับลงไป
' อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใคร ... เข้าใจไหม ? – เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย '
xx.
" ... รอนานไหม ? ขอโทษทีนะ พอดีอาจารย์สอบทำแล็บไฟฟ้าแล้วมันต้องใช้เวลาทำนานน่ะ กลุ่มพี่ได้ผลการทดลองช้ากว่าไปนิดหน่อย ขอโทษทีนะแจ็คสันอ่า "
ร่างเล็กที่รีบวิ่งหอบลงมาจากตึกภาควิชาเพราะกลัวว่าคนนั่งรอจะรอนานจนรำคาญเสียก่อนรีบอธิบายเหตุผลที่ตนลงมาช้าเสียยกใหญ่พร้อมวางกระเป๋าเป้ที่สะพายเอาไว้ด้านหลังลง ก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงทันที
" ผมยังไมได้ว่าอะไรซักคำเลย อ่ะพี่ ... น้ำ "
มือหนายื่นขวดน้ำเปล่าที่เพิ่งออกมาจากตู้แช่เย็นให้อีกฝ่าย เขาเพิ่งเดินไปซื้อมันมาก่อนที่รุ่นพี่ตัวบางจะมาถึงไม่กี่นาที ร่างบอบบางเอ่ยคำขอบคุณเบาๆแล้วรับขวดน้ำเย็นไปดื่มอย่างกระหาย ทำเอาคนที่เพิ่งก้มเก็บกระดานสเก็ตซ์แล้วเงยหน้าขึ้นมองถึงกับเผยรอยยิ้มบางๆ ในความซื่อตรงของคนเป็นพี่ก็มีมุมที่น่ารักน่าเอ็นดูอยู่เช่นกัน จึงไม่แปลกที่คนตรงหน้าจะเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆหลายคนแถมครอบครองตำแหน่งรองเดือนคณะอีกต่างหาก
" ดื่มช้าๆก็ได้ เดี๋ยวสำลักน้ำตาย แล้วผมจะอยู่กับใคร "
" โห ... คนอื่นมาแทนพี่ก็มีเยอะแยะ พูดอย่างกับว่าพี่ตายไปคนหนึ่งนายคงจะแย่ไปตลอดชีวิตอย่างนั้นล่ะ มันคงไม่ทำให้นายเหงาไปตลอดชีวิตหรอกน่า " มาร์คบุ้ยปากใส่รุ่นน้องเล็กน้อยก่อนจะหลุดยิ้มหวานและยกมือที่ถือขวดน้ำเย็นดื่มต่อ แต่ทว่าเพราะประโยคหยอดทีเล่าทีจริงของรุ่นน้องกลับทำให้น้ำดื่มที่เพิ่งดื่มไปนั้นพุ่งออกจากปากอย่างไม่ได้ตั้งใจ
"แล้วผมจะไปหาใครมาเป็นภรรยาผมแทนพี่ล่ะ ?"
พรวดดดดดดดด !!!
แค่กแค่กแค่ก !
ร่างบอบบางสำลักน้ำอึกใหญ่ มือบางยกขึ้นปิดปากเมื่อเริ่มไอเพราะสำลักเสียงดังพร้อมเช็ดเรียวปากนิ่มที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำที่เพิ่งปล่อยพรวดออกมา เพียงไม่ถึงนาทีหลังจากสงบสติอารมณ์ตัวเองได้ก็เงยหน้าขึ้นมามองต้นเหตุ แล้วพบว่าใบหน้าหล่อคมคายของใครอีกคนกำลังเปียกชุ่มเพราะแรงน้ำที่คนตัวบางดื่มแล้วปล่อยพรวดออกมาใส่หน้านั้น
" เห้ย ! แจ็คสัน พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆนะ พี่ไม่ตั้งใจ " ว่าจบก็ลุกจากที่นั่งเพื่ออ้อมไปนั่งฝั่งเดียวกับร่างหนาแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าสีเข้มจัดการเช็ดใบหน้าที่เปียกน้ำให้อีกฝ่ายทันที
"เปียกหมดเลย ..."
" ... ก็ใครให้นายพูดบ้าบออะไรนั่นออกมาล่ะ ? คิดว่าพี่เป็นรูปปั้นที่พวกนายปั้นกันในห้องทำงานรึไงหา ? " ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่ออีกครั้ง ก่อนจะยกมือที่ถือผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ออกแรงเช็ดใบหน้าหล่อแรงๆ มาร์คต้วนคนนี้ขอสารภาพยอมรับเต็มปากเต็มคำเลยว่า เวลาที่เขาอยู่กับเจ้าเด็กคนนี้แล้ว
.... ชีวิตและหัวใจเขาไม่ปลอดภัยเลยซักครั้ง
" ก็ผมอยากพูดอ่ะ ผมก็พูดตามที่ผมคิด " แจ็คสันจับมือเล็กที่กำลังเช็ดตามโครงหน้าหล่อของตนเอาไว้ ดวงตาคมจดจ้องดวงตากลมใสที่เบิกตาโพลงด้วยความตกใจเล็กน้อย
" กะจะแกล้งพี่ล่ะสิ่ เลิกแกล้งกันได้แล้ว ... มันไม่ดี "
" ผมไม่ได้แกล้งนะ " ร่างหนายังกุมมือเล็กไม่ปล่อย ทำเอาคนตัวบอบบางกว่าเริ่มเกิดความรู้สึกเคอะเขินหนักกว่าเดิมจึงคิดจะเปลี่ยนเรื่อง
" ปล่อยได้แล้วววว วันนี้ไม่มีเรียนรึไง ? " มาร์คสะบัดมือออกจากพันธนาการที่หละหลวมนั้น และรีบเปลี่ยนเรื่องสนทนาทันที
" ไม่มีครับผม "
" งั้นกลับหอกันเถอะ พี่ง่วงมากแล้ว จ้องไฟนานแล้วปวดตา " มาร์คต้วนลุกขึ้นเต็มความสูง เขากำลังจะเอื้อมหยิบกระเป๋าเป้มาสะพายหลัง แต่ทว่ากลับไม่ทันความเร็วในการหยิบฉกข้าวของของคนเป็นรุ่นน้อง
" ... เห้ยจะเอากระเป๋าพี่ไปทำอะไร เอามาๆ ... เอามานะแจ็คสัน ! " รุ่นพี่ตัวบางพยายามยื้อแย่งกระเป๋าตัวเองกลับคืน ทั้งๆที่รู้ดีอยู่แล้วว่าความพ่ายแพ้มันมีมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด ... คงพ่ายแพ้ไปตั้งแต่ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแล้วล่ะ ส่วนอีกฝ่ายที่หยิบกระเป๋าได้ก็เบี่ยงตัวหนีไปมาพร้อมยกยิ้มกว้างอย่างทุกๆครั้งที่ประสบความสำเร็จในการแกล้งรุ่นพี่ตัวบางตรงหน้า
" พี่ไม่ต้องถือหรอก เดี๋ยวผมถือให้พี่เอง พี่มีหน้าที่เดินไปก็พอ "
" ไม่เอาแบบนี้สิ่ ... "
" หรือว่าจะให้ผมอุ้มพี่ ? ผมทำจริงนะ กลางมหา'ลัยนี่เลย "
" อ่ะ ... ม .. ไม่เป็นไรๆ งั้นนายถือไปเถอะ ระวังอุปกรณ์ในกระเป๋าพี่ตกด้วยล่ะ มันแพงนะ " พอได้ยินคำขู่กึ่งเอาจริงจากปากแจ็คสันหวัง คนเป็นพี่ก็รีบเอ่ยยอมให้อีกฝ่ายถือกระเป๋าให้พร้อมก้มหน้างุดแล้วเดินนำทันที
เพราะเขารู้ดีว่าเขาไม่เคยเถียงอีกคนได้เลย มีแต่แพ้กับแพ้แล้วก็แพ้
" กระเป๋าพี่มันหนักไหม ? ถ้ามันหนักพี่ถือเองได้นะ นายถือของพะรุงพะรังเลยอ่ะ ให้พี่ช่วยถือได้นะ ? " มาร์คต้วนเอ่ยถามคนเป็นรุ่นน้องเป็นระยะทุกๆห้านาที เพราะเขารู้สึกผิดที่ทำตัวเหมือนเป็นคนสบายๆ เดินตัวปลิวไม่สนใจรุ่นน้องที่แบกของให้ทั้งหมดเลย
... นี่มันไม่ใช่นิสัยของมาร์คต้วนคนนี้เลยซักนิด จริงๆนะบอกเลย ...
" ไม่เป็นไรหน่าพี่ ผมไหว แค่นี้เองอ่ะ " ร่างหนายิ้มกลับ พร้อมจูงมือเล็กไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ถือข้าวของของตัวเองและของคนตัวเล็กไว้ภายในมือเดียว พอได้จับมือเล็กที่เนียนนิ่มหยุ่นเหมือนมาร์ชเมลโล รอยยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีก็ผุดขึ้นประดับบนใบหน้าหล่อคมคายของแจ็คสันทันที
" แสดงว่าปกติถือของให้สาวบ่อยล่ะสิ่ ใช่ไหมล่ะๆ ฮ่าๆๆ " มาร์คเอ่ยหยอกแซวเล่นเบาๆเมื่อรู้สึกได้ว่าบรรยากาศโดยรอบมันเงียบจนรู้สึกวางตัวไม่ถูก
" ปกติผมไม่ถือของให้ใครหรอก ผมถือให้พี่คนแรกและคนเดียวเลยเนี่ย ควรจะดีใจไว้ซะล่ะ " แจ็คสันเหลือบมองคนตัวบางที่กำลังก้มหน้าก้มตาเดินเพื่อหลบสายใบหน้าหวานและดวงตากลมนั้น
" จ ... จริงอ่ะ ? เห้ยยย ไม่น่าเชื่อนะ " แม้มาร์คจะไม่เงยหน้ามามองอีกฝ่าย แต่ก็ยังหัวเราะกลบเกลื่อนความเขินและเสียงหัวใจที่เต้นรัวยิ่งกว่าตีกลองรัวๆนั้น
" ถามจินยองได้เลย ผมไม่ได้เป็นคนขี้โกหกหรอกนะ ถึงจะเห็นว่าเป็นคนแบบนี้ก็เถอะ "
" งั้น ... ”
“ … ”
“ จะเป็นไปได้ไหม ถ้า... " เรียวปากบางขยับเล็กน้อยพร้อมเอ่ยขึ้นเสียงเบาๆ ก่อนจะหยุดเดิน ทำให้คนที่เดินข้างๆก็ต้องหยุดเดินตามไปด้วย
" หืม ? "
" ถ้าพี่ ... จะขออะไรสักอย่างจากนาย ... " ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาถามอีกฝ่ายที่กำลังสบตามองเขาอยู่ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มที่นานๆทีจะได้เห็นมัน
" แล้วพี่อยากจะขออะไรล่ะ ? "
" อย่าทำแบบนี้กับใครที่ไม่ใช่พี่จะได้ไหม ? "
... ถึงแม้ว่ามันอาจจะดูเหมือนประโยคขอร้องหรือคำสั่ง แต่ประโยคที่กล่าวออกไปจากเรียวปากเล็กนั้น .. กลับทำให้ฝ่ายหนึ่งกำลังสับสนอยู่ภายในใจจนบอกไม่ถูก และอีกฝ่ายกลับกำลังหัวใจเต้นระรัวด้วยความกลัว ...
... กลัวที่จะไม่เป็นอย่างที่ใจนึกคิด ...
ตลอดทางที่ทั้งคู่เดินกลับหอพัก แทบจะไม่มีคำพูดที่เอื้อนเอ่ยออกมาจากเรียวปากใครคนใดคนหนึ่งเลย หลังจากที่มาร์คต้วนได้เอ่ยประโยคน็อคเอ้าท์หัวใจตัวเองอย่างนั้น
ประโยคสุดท้ายก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเงียบมาตลอดเส้นทางก็ได้เอ่ยออกมาจากเรียวปากเล็กนั้นอีกครั้งราวกับกำลังปลอบใจตัวเองที่หลอกดีใจและหลงว่าจะได้รับคำตอบอย่างที่คิดไว้มาตั้งนานแสนนาน
' ... เห้ยอย่าทำหน้างั้นดิ่ พี่ล้อเล่นเฉยๆน่ะ อย่าซีเรียสมาก '
ก็รู้อยู่ว่าอีกฝ่ายคงคิดแค่พี่น้องรหัสที่ร่วมชีวิตในมหา'ลัย แต่ใครจะไปรู้ว่า มาร์คต้วนกลับหวั่นไหวให้กับเด็กรุ่นน้องร่วมห้องพักอย่างแจ็คสันหวังจนแทบจะไม่ไหว .. ชอบคนๆนี้จนอึดอัดอยู่ภายในอก อยากจะล้วงมันออกมาแล้วโยนทิ้งไป แต่ก็ทำไม่ได้
... ก็แค่พี่น้องกัน ...
xx.
ตลอดเก้าวันหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงและหน่วงไปพร้อมๆกัน พี่น้องรูมเมทอย่างมาร์คต้วนและแจ็คสันหวังกลับไม่ได้อยู่ตัวติดกันอย่างที่เคยเป็น แม้จะเจอกันในมหา'ลัย ทั้งคู่ก็ทำออกมาเพียงแค่ยิ้มทักทายกันและกันเท่านั้น ตัวเริ่มไม่ค่อยติดกันเหมือนเมื่อก่อน พอได้กลับมาที่หอ ถ้าหากว่าแจ็คสันไม่กลับมาดึกเกินหรือมาร์คนั่งทำงานส่งจนไม่สนโลกแล้ว
... สองคนนี้ก็แทบจะไม่ได้คุยกันหรือว่ามองหน้ากันเลยด้วยซ้ำ เพราะความห่างเหินที่เกิดขึ้นกลับทำให้ทั้งสองเริ่มสร้างกำแพงอะไรบางอย่างโดยไม่รู้ตัว …
ร่างบอบบางกำลังนั่งจดจ้องอยู่กับงานที่จะต้องส่งให้กับอาจารย์ประจำวิชาโทพลางระบายรอยยิ้มอ่อนออกมาเพื่อชื่นชมผลงานและให้กำลังใจกับตัวเองโดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครบางคนเดินเข้ามาในห้องพัก บานประตูเปิดออกก็พบว่าร่างหนาก้าวเดินเข้ามาในห้อง ล็อคประตูห้องเอาไว้อย่างแน่นหนาและเดินเข้ามาฉุดรั้งข้อมือเล็กที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบอุปกรณ์ทำงานเอาไว้ ใบหน้าหวานแสดงสีหน้างุนงง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวดรอบท่อนแขนเล็ก
" โอ้ย ! พี่เจ็บนะแจ็คสัน ปล่อยสิ่ !? " ร่างเล็กพยายามสะบัดข้อมือที่ถูกบีบแน่นจนปวดไปทั้งข้อมือ
"...."
" ปล่อยพี่ก่อนเถอะนะ แจ็คสันเป็นอะไรไป มีอะไรก็คุยกันดีๆสิ่ " มาร์คพยายามเอาความใจเย็นที่ยังพอมีอยู่บ้างงัดออกมาพูดคุยกับอีกฝ่ายหวังให้อารมณ์คนตัวหนาจะเย็นลงบ้าง
" คนที่ชื่อคิมยูกยอมคือใคร ? " รุ่นน้องร่างแกร่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบและเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด
" อ่า ยูกยอมน่ะเหรอ ... เขาเป็นรุ่นน้องร่วมวิชาโทของพี่น่ะ แล้วเขาก็ ... " มาร์ดเอ่ยออกไปตามความจริงเพราะเขาไม่ต้องการปิดบังอะไรคนเป็นน้องอยู่แล้ว และ คิมยูกยอม ก็ยังเป็นรุ่นน้องที่ร่วมทำผลงานชิ้นที่เขาเพิ่งยิ้มบานไปเมื่อสักครู่นี้
" หึ แฟนพี่ ? หาไวดีนี่ !? " อารมณ์ของแจ็คสันในตอนนี้มีแต่ลบกับลบ แถมพูดจาไม่เข้าท่าขึ้นมายิ่งทำให้ความอดทนที่แทบจะลดลงอย่างรวดเร็วนั้นอันตธานหายไป
" นายเอาอะไรมาพูด !! เขาไม่ใช่แฟนพี่ นายเมามาใช่ไหมถึงโวยวายใส่พี่น่ะ !! " ร่างบางเริ่มตวาดใส่รุ่นน้อง อารมณ์ที่ดูเย็นๆกลับมลายหายไป เอาตรงๆว่าใครมันจะไปเป็นแฟนยูกยอมกัน เจ้าหมอนั่นมีแบมแบม เด็กน้อยคนดังคณะนิเทศศาสตร์เป็นตัวเป็นตนไปแล้ว ไม่ได้เหมือนเขาที่ยังคงกำกวมกับสถานภาพความสัมพันธ์บ้าบอนี้อยู่ เห็นได้ชัดว่าร่างแกร่งตรงหน้าคงไปดื่มมาอย่างหนักแน่นอน เพียงแค่ได้กลิ่นฉุนเพราะเหล้าจนแสบจมูกก็พอจะรู้บ้าง แถมไม่พอ ... ยังเสียสติซะขนาดนี้
" ผมไม่ได้เมา พี่ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง !?!? " แจ็คสันตวาดใส่คนเป็นพี่ด้วยอารมณ์โมโหที่พุ่งพล่านตามปริมาณการออกฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป
" แล้วนายคิดบ้าบออะไรถึงคิดว่าพี่ไปเป็นแฟนยูกยอม ! วันๆพี่ก็แทบจะไม่มีเวลาทำงานส่งอาจารย์อยู่แล้ว !? "
" เก้าวันที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมเห็นพี่เดินตัวติดอยู่กับคนชื่อยูกยอมอะไรนั่นจนแทบจะกลืนกินกันได้อยู่แล้ว !? แถมยังเดินลอยหน้าลอยตาไปมา ทำอะไรไม่เคยอายใคร อย่างนี้น่ะนะที่เรียกว่าไม่ว่าง ? หึ ... ดูท่าทางยูกยอมอะไรของพี่จะชอบพี่มากด้วยล่ะสิ่นะ ... หึ .. ว่าไง ... เก้าวันที่แล้วคงได้กันแล้วล่ะสิ !!!! " แจ็คสันตะคอกใส่หน้ารุ่นพี่ด้วยความโมโห เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เพราะถูกฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ครอบงำสติอยู่ อะไรที่คิดได้ก็พูดออกไปโดยที่แจ็คสันไม่ได้สังเกตเลยว่าหยดน้ำใสที่กลั่นตัวระรื้นอยู่ที่ขอบตากำลังร่วงผล็อยจากดวงตากลมคู่นั้น
... เพี๊ยะะะะ !!!!! ...
ฝ่ามือเรียวข้างที่ไม่ได้โดนพันธนาการเอาไว้ยกขึ้นฟาดลงไปที่ใบหน้าหล่อนั้นอย่างเต็มแรงทันทีจนใบหน้าหล่อคมคายนั้นหันไปตามแรงฟาด มาร์คต้วนไม่เคยมีความคิดที่จะทำร้ายรุ่นน้องคนนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาแทบจะไม่เคยคิดโกรธอะไรในตัวแจ็คันเลยด้วยซ้ำไม่ว่าคนตรงหน้าจะทำอะไรผิดก็ตาม
แต่ครั้งนี้ ... มันทำให้เขาเจ็บปวดมาก
... ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับหัวใจเขาแล้วยังจะมาต่อว่าเขาปาวๆ แถมยัดเยียดอะไรที่ไม่ควรมาให้อีก ...
หยดน้ำตาไหลลงมา ร่างเล็กร้องไห้จนตัวโยนเพราะเสียงสะอื้นที่กลั้นเอาไว้ ทำเอาคนที่เพิ่งโดนฝากรอยมือไว้บนแก้มสากถึงกับหันหน้ามามองด้วยความรู้สึกตกใจและผิดหวังในตัวเองอย่างมาก
... เขาเคยสัญญากับตัวเองแล้วว่า จะไม่ทำให้คนตรงหน้าร้องไห้ ไม่อยากเห็นใบหน้าที่เศร้าหมองหรือหยดน้ำตาบนใบหน้าที่น่ารักของรุ่นพี่ยิ้มง่ายคนนี้ แต่ทว่าเขาก็ทำเรื่องแย่ๆลงไปแล้ว ... ไอ้คนโง่เง่า แจ็คสันหวัง ...
" ... อี้เอิน " แจ็คสันเอ่ยชื่อจริงของร่างเล็กตรงหน้าที่ไม่มีใครกล้าเรียกหากไม่สนิทจริงๆด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่ทว่าคนเป็นพี่กลับไม่สนใจเสียงของอีกฝ่าย
" ฮึก ... นายไม่รู้เรื่องอะไร ... อย่ามากล่าวหาพี่แบบนี้นะ ! " มาร์คตวาดใส่แจ็คสันเสียงดังที่สุดเท่าที่เคยได้ยินคนตรงหน้าเสียงดังมา มาร์คไม่เคยพูดเสียงดังหรือตวาดถ้อยคำหยาบคาย หากแต่ครั้งนี้ก็สมควรที่คนเป็นพี่จะทำอะไรในสิ่งที่ไม่อยากทำ
" ... "
" นายยัดเยียดเรื่องบ้าบอกอะไรออกมารู้ตัวรึเปล่า ! " มือเรียวยกขึ้นมาปาดไล่หยดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างลวกๆ ในเวลานี้ไม่มีอะไรที่จะสามารถทำให้เขาอารมณ์ดีได้อีก
"..."
" ยูกยอมมีแฟนแล้ว ! ชัดพอรึยัง !? แฟนของตาบ้านั่นเป็นคนดังคณะนิเทศฯ !!! พี่จะไปแย่งเขามาทำไม ... นายมันบ้า เจียเอ่อ ... ฮึกก ... บ้าที่สุดด้วย ! ไอ่บ้าเอ้ย !!!! อยู่ด้วยกันมากี่เดือนไม่รู้นิสัยพี่อีก !! "
" ... พี่ ... "
" นายก็รู้ว่าพี่เป็นคนยังไง ! พี่ไม่ได้เป็นคนอย่างที่นายพูดเลยซักนิด ! ... ฮึก ... ที่นายเห็นว่าวันๆพี่ลอยหน้าลอยตาไปมา พี่ไม่ได้ว่างเลยจริงๆ พี่ต้องไปเคลียร์งานที่นั่นที่นี่ ยูกยอมไปกับพี่เพราะเขากับพี่ทำงานส่งคู่กันต่างหาก ... ฮือออออออ "
" ... ไม่จริง ... พี่โกหกผม ! ผมได้ยินจากรุ่นพี่ในคณะพี่พูดกันแท้ๆ !?! " คนที่เพิ่งฟังคำแก้ตัวจากคนตัวเล็กเถียงตอกกลับมา
... สาบานได้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนหูเบา แต่คนในคณะก็พูดถึงเรื่องนี้กันมากมาย เป็นใครก็ต้องคิด !
" แล้วนายเคยมาถามพี่บ้างไหม !? เคยลองไปถามอาจารย์หรือลองไปถามแจบอมดูรึเปล่า !!! " ร่างเล็กตะคอกใส่หน้าคนตัวหนาก่อนจะยกมือผลักแผ่นอกแกร่งอีกคนให้ออกห่างด้วยความโกรธ
“ … ”
" นายมันหูเบาแล้วก็โง่มาก ! ”
“ ... ”
“ หวังเจียเอ่อ ... พี่ชอบนายลงไปได้ยังไงกัน... บ้าเอ้ย !!! " หยาดน้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง ร่างเล็กใช้มือปิดใบหน้าเรียวเล็กนั้นพร้อมปล่อยโฮออกมาและล้มตัวนั่งทรุดลงไปกับพื้นทันที
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ร่างหนาของรุ่นน้องได้แต่ยืนนิ่งและเงียบอยู่อย่างนั้น อารมณ์ของเด็กรุ่นน้องเริ่มเย็นลงทันที ... เขาไม่คิดว่ารุ่นพี่ที่เขาก็แอบชอบอยู่ไม่น้อยจะชอบเขามากถึงขนาดนี้ ...
" ... อี้เอินชอบผมอย่างงั้นเหรอ ? " แจ็คสันค่อยๆเอ่ยถ้อยคำออกมาจากริมฝีปากหนา แต่ร่างบางกลับไม่ตอบ รุ่นพี่ได้แต่ก้มหน้าร้องไห้เสียยกใหญ่ ไม่สนใจแม้ว่ารุ่นน้องกำลังเดินก้าวเข้ามาอยู่ใกล้ตัว
“ ฮืออออ ออออ ออ ..... ”
" ต้วนอี้เอิน ..."
ร่างหนาค่อยๆลดตัวลงให้เสมอกันกับอีกฝ่ายที่นั่งร้องไห้จนตัวโยนและส่งเสียงสะอื้นดัง เขาค่อยๆสวมกอดอีกคนอย่างอ่อนโยน พอร่างบอบบางรู้สึกตัว มือเล็กก็พยายามผลักไสให้อีกฝ่ายออกห่าง ทุบตีแผ่นอกแกร่งนั้นไม่หยุดหย่อน แต่นั่นไม่ได้ทำให้คนโอบกอดรู้สึกเจ็บปวดกับแรงผลักแรงตีแต่อย่างใด และร่างบางในอ้อมกอดนั้นก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป มือเรียวค่อยๆหยุดทุบตีลงและเปลี่ยนเป็นกำเสื้ออีกคนเอาไว้อย่างแน่น
" นายมันใจร้าย ! ... ฮืออออ ... ใจร้ายที่สุด !? .. ฮึก .. ทำแบบนี้ทำไม ... แกล้งให้พี่มีใจแต่ก็ทำร้ายมัน นายจะปั่นหัวพี่อีกนายแค่ไหน !! " มาร์คปล่อยโฮลั่น ใบหน้าน่ารักซบลงบนบ่าแกร่งนั้นพร้อมปล่อยน้ำตาหยดให้ซึมลงบ่าของอีกคนจนชุ่ม
" ผมขอโทษ ... ผมแค่ ... " แม้จะพยายามเอ่ยในสิ่งที่อึดอัดอยู่ในใจแต่ทว่ามันก็ไม่สามารถออกมาจากปากของคนปากแข็งอย่างแจ็คสันได้ ยิ่งรุ่นพี่ตัวเล็กร้องไห้หนักขนาดนี้ เขาถึงกับพูดไม่ออกเข้าไปอีก ... แต่ยังไงเขาก็ต้องพูดมันออกไป
"ฮึกก ..."
" ... ผมก็แค่หึงพี่ .. แค่นั้นแหละ ... "
ร่างเล็กที่ได้ยินถึงกับผละออกจากอ้อมกอดอบอุ่นนั้น พลางเงยหน้าขึ้นมาสบตากับรุ่นน้องตัวหนาที่ครองใจหลายๆคนไม่ถ้วน เพียงไม่ถึงนาที ดวงตากลมก็เบิกตาโพลงเมื่อใบหน้าหล่อคมคายของแจ็คสันก้มลงมาประกบทับริมฝีปากร้อนของตนกับริมฝีปากนุ่มหยุ่นคล้ายเยลลี่นั้น คนตัวเล็กกว่ารับรู้ถึงรสชาติขมเฝื่อนเพราะแอลกอฮอล์ที่ร่างหนาเพิ่งดื่มมันเข้าไปก่อนหน้านี้ แต่ภายใต้ความขมเฝื่อนนั้นก็มีความหวานซุกซ่อนอยู่
จูบนี้อาจจะไม่ใช่จูบแรกของทั้งคู่ แต่ก็เป็นจูบที่มันมาจากหัวใจของทั้งสองจริงๆ มือหนาข้างหนึ่งค่อยๆเอื้อมโอบเอวอวบไว้พร้อมค่อยๆรั้งเอวบางให้ขยับเข้าใกล้มากขึ้น ส่วนอีกข้างนั้นยกขึ้นมาประคองโครงหน้าเรียวของคนน่ารักเอาไว้ให้เข้ากับองศาการเอียงใบหน้าเพื่อมอบจูบอ่อนโยนของตน ความนุ่มหยุ่นราวกับเยลลี่ที่มาพร้อมกับรสหวานที่ยังคงอยู่อ่อนๆของนมรสหวานที่ร่างเล็กเพิ่งดื่มไปก่อนที่เขาจะนำลิ้นร้อนเข้ามานั้น กำลังผสมผสานอยู่ภายในโพรงปากของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว
สัมผัสที่เนิ่นนานเกินที่จะห้ามใจ เหมือนทุกสิ่งอย่างแทบหยุดเคลื่อนไหว มีเพียงหัวใจสองดวงเท่านั้นที่ยังคงเต้นระรัวอยู่
" อ .. อื้อออออ "
จนแล้วจนเล่าความหวานหอมนั้นก็ยังไม่หมดไปซ้ำยังเพิ่มมากขึ้นไปอีก ริมฝีปากหนาค่อยๆเล็มเรียวปากเล็กเบาๆสลับกับหยอกเล่นลิ้นเล็กที่มีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างชำนาญไม่ต่างกัน คนเป็นน้องค่อยๆผละออกจากริมฝีปากนุ่มอย่างอ้อยอิ่งเมื่อถึงจุดที่พึงพอใจและถึงจุดที่เริ่มหมดอากาศหายใจสำหรับคนในอ้อมกอด รุ่นพี่ตัวเล็กกว่าเมื่อถูกอีกฝ่ายผละออกแล้วก็รีบหายใจเอาอากาศเข้าปอดลึกๆ
" ... ผมชอบพี่นะ ต้วนอี้เอิน ผมชอบพี่มาก มากจนแทบไม่อยากให้ใครมายุ่งกับพี่เลยด้วยซ้ำ " คนเป็นน้องค่อยๆใช้นิ้วหนาเกลี่ยหยดน้ำตาที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนใบหน้าหวานนั้นออกช้าๆ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆพร้อมมองเขาจนแจ็คสันรู้สึกอยากจะจับอีกคนมาจูบให้หายหมั่นเขี้ยวอีกสักครั้ง
"..."
" ผมขอโทษที่ไม่เชื่อใจพี่ ผมเพียงแค่สับสน ... สับสนมาตลอดเก้าวันว่าผมคิดยังไงกับพี่กันแน่ เพราะผมเองก็ไม่แน่ใจในแต่ละครั้งที่แกล้งหยอกพี่ไป แต่ผมก็คิดได้แล้ว "
"..."
" พอผมลองห่างพี่ดู ลองกลับบ้านดึกเพราะไปกินเหล้า ลองทุกอย่าง แต่ผลที่เกิดมันเป็นยังไงพี่รู้ไหม ? " ใบหน้าหล่อสบตากับคนตัวเล็กที่ตอนนี้ดวงตากลมคู่สวยเริ่มบวมเพราะผ่านการร้องไห้อย่างหนักแล้ว จมูกโด่งรั้นที่แดงระเรื่อ ริมฝีปากบวมเจ่อเล็กๆ เนื่องจากการจูบเมื่อสักครู่นี้ รวมถึงใบหน้าหวานที่แดงระเรื่อเป็นริ้วเล็กน้อย
... น่ารัก คำเดียวที่สามารถเอ่ยออกมาและคิดออกได้เมื่อยามเห็นหน้า .. แค่คำเดียวจริงๆ ...
" ผมไม่สามารถหยุดคิดถึงพี่ได้เลย ผมคิดว่ามันเป็นเพราะความเคยชินแน่ๆ แต่มันไม่น่าจะใช่ ผมรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่พี่เดินกับยูกยอม หรือแม้แต่คนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนพี่ที่ผมรู้จัก ... ผมแทบจะบ้า อยากจะกระชากเขาออก แต่แค่นี้ผมก็เลวเกินพอแล้วจริงๆ ผมที่ทำให้พี่เสียใจ ผมเห็นใบหน้าเปื้อนน้ำตาของพี่แล้วผมก็รู้สึกแย่และโกรธตัวเองไม่น้อย ผมไม่รู้ว่านี่มันเป็นเพราะอะไร หรือว่ามันเป็นจริงสิ่นะที่ ... " แจ็คสันเอ่ยออกมาแทบจะทุกอย่าง หากแต่กลับหยุดลงพร้อมกัดเรียวปากหนานั้นด้วยความชั่งใจว่าจะพูดมันออกไปดีหรือไม่
" ... ท .. ที่อะไร ? " ร่างเล็กเอ่ยปากถาม แม้น้ำเสียงยังคงติดสะอื้นอยู่เล็กน้อย
" ที่ผมชอบพี่ ... พี่มาร์ค "
" แจ็คสันอา ..." เมื่อความคิดและจิตใจตรงกันขนาดนี้ รอยยิ้มเริ่มแย้มออกเล็กน้อย ใบหน้าน่ารักกลับมายกรอยยิ้มประดับบนใบหน้าน่ารักเหมือนเดิมอีกครั้ง
" เป็นแฟนกับผมนะพี่มาร์ค ... มาเป็นแฟนที่คอยปกป้องดูแลควบคุมหัวใจของผมนะ ... ต้วนอี้เอิน " แจ็คสันรวบคนตรงหน้ามากอดไว้แน่น ทำเอาอีกฝ่ายที่กำลังโดนสวมกอดอยู่ก็ถึงกับยิ้มออกมาพร้อมน้ำตา ...
" ก็เล่นพูดซะขนาดนี้แล้ว ... ฮึก ... ปฏิเสธออกไปพี่ก็โง่สิ่ หวังเจียเอ่อ ... "
xx.
" ตื่นได้แล้วแจ็คสันอา ! มันสายแล้วนะ " คนตัวบางเขย่าร่างหนาที่นอนคลุมโปงอยู่ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่ามีเวลาเหลืออีกสองชั่วโมงก็เถอะ แต่การที่ไปเตรียมตัวเข้าเรียนก่อนมันก็ดีสำหรับเขาและรุ่นน้องที่จะได้เตรียมตัวเรียนทันคนอื่น
" ไม่เอา ไม่ลุกกก พี่ไปเรียนก่อนเลยก็ได้ " ร่างสูงเอ่ยในผ้าห่ม ทำเอารุ่นพี่ตัวบางกลอกดวงตากลมโตที่บวมช้ำไปมา
... จะไม่ให้ปลุกได้ไง ลองปล่อยให้เจ้าเด็กนี่นอนไปสิ่ ทั้งวันก็ไม่ยอมเข้าเรียนหรอก ทีตอนที่โกรธกันเมื่ออาทิตย์ก่อนยังตื่นซะเช้ากว่าเขาแท้ๆ ...
ร่างบางเดินตรงไปที่ข้างเตียงหลังเล็กอีกฝั่ง มือเรียวจับผ้าห่มเอาไว้พร้อมเลิกมันออก เผยให้เห็นร่างหนาของรุ่นน้องที่เลื่อนสถานะความสัมพันธ์เมื่อคืนเริ่มขยับเขยื้อนตัว มือหนายกขึ้นมาขยี้ตาพลางเอามาบังแสงที่แยงเข้ามาในดวงตา มาร์คดึงผ้าห่มออกแล้วพับเก็บไว้อย่างเรียบร้อยที่ปลายเตียง
" ลุกได้แล้วแจ็คสันนนนนนนน " มือเล็กพยายามใช้แรงที่มีดึงท่อนแขนแกร่งให้อีกคนลุกขึ้นนั่ง แต่ทว่า ...
ตุบบบ !!!!!
" อ้ะ ! เห้ยยยย " เขากลับถูกรุ่นน้องรูมเมทดึงร่างของตนลงมานอนที่เตียงก่อนจะโดนรวบตัวกอดไว้แน่น
... เขาตามความเจ้าเล่ห์ของรุ่นน้องคนนี้ไม่เคยทันหรอก ...
" เจ้าเล่ห์ไม่เปลี่ยนเลยนะหวังเจียเอ่อ "
" ฮ่ะๆ ก็มีเวลาอีกตั้งสองชั่วโมง พี่จะรีบอะไรนักหนา หืม ? " ว่าจบก็ช่วงชิงความหอมจากแก้มเนียนนิ่มนั้นเบาๆ มือเล็กทำได้เพียงแค่ต่อยแผ่นอกอีกฝ่ายเบาๆเท่านั้น ก่อนที่ตนจะก้มหน้างุดเพราะความเขิน
" ก็รีบไปเตรียมตัวเรียน ... เดี๋ยวก็ได้สายอีกหรอก ไม่เบื่อรึไง เจ้าพ่อสายเสมอ ? " มาร์คเอ่ยขึ้น ดวงตากลมแต่บวมช้ำสบตากับอีกคน ทำเอาคนตัวสูงหัวเราะเบาๆ
“ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ”
" หัวเราะอะไรเล่าแจ็คสัน ? "
" หัวเราะตาบวมๆของพี่น่ะสิ่ ลืมตาขึ้นรึเปล่านะ ฮ่าๆๆๆ " แจ็คสันหัวเราะเสียงดังลั่นจนคนโดนแซวกำมือแน่นแล้วชกเข้าที่หน้าท้องแกร่งนั้นเบาๆ และลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันที
" ก็ใครมันทำให้เป็นแบบนี้ล่ะหา ? ลองมาเป็นพี่บ้างไหมล่ะ ? "
" โอเคๆๆ ผมขอโทษแล้วไงง ผมก็ไม่อยากให้ตาพี่บวมช้ำแบบนี้หรอก แค่พี่ร้องไห้ผมก็แย่เต็มทนแล้ว " รุ่นน้องตัวแสบลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะสวมกอดรุ่นพี่คนน่ารักอีกครั้ง
" ผมรักพี่นะ พี่มาร์ค "
" รู้แล้วหน่า ... รีบไปอาบน้ำได้แล้ว จะสายแล้วนะ " มือบางยกขึ้นเพื่อผละออกจากอ้อมกอดอีกคนและหันไปดันแผ่งหลังกว้างของอีกคนที่ยืนอยู่ให้เข้าไปในห้องน้ำ ทำเอาคนโดนดันถึงกับหลุดยิ้มแบบที่ไม่ค่อยมีใครเห็นออกมากับท่าทางน่ารักของแฟนรุ่นพี่ตัวเล็กคนนี้
xx.
" อั้ยยะ ! ดูดิ่ยองแจยาาา … ดูเพื่อนเราควงใครมาวะ !! " เสียงแซวดังขึ้นจากเพื่อนของรุ่นน้องรูมเมทอย่างปาร์คจินยอง ที่ตอนนี้กำลังโดนยองแจส่งสายตาดุเพื่อนตนเองอยู่
" อะไรของมึง แซวห่าอะไรวะ ? " เพื่อนซี้เอ่ยกลับไปเมื่อถูกเพื่อนสนิทแซวมาถึงที่ ก็ผิดตรงไหนล่ะ ? ปกติก็เดินจับมือพี่มาร์คอยู่แล้ว
... แค่เพิ่มเลเวลเป็นโอบนิดโอบหน่อยก็เท่านั้นเอง ...
" แซวห่าอะไร ? แหมๆๆๆ ครั้งก่อนมึงบอกว่าอะไรนะ ? กูไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขา แล้วนี่อะไรของมึง อะไรรรรร "
จินยองยังคงแกล้งแซวอีกคนพลางทำเป็นจับมือยองแจที่นั่งข้างๆ พร้อมโอบไหล่เล็กของเพื่อนสนิทอีกคนจนเจ้าตัวฟาดลงต้นแขนเพื่อนสนิทที่เล่นอะไรไม่เข้าท่า ทำเอาอีกสองคนที่มองเหตุการณ์ถึงกับขำ แต่แล้วเสียงหัวเราะกลับเงียบสงบลงเมื่อพบว่า ...
" พี่มาร์ค "
" อ้าวยูกยอม ! "
... คิมยูกยอม ยูกยอมอีกแล้ว ...
แจ็คสันมองไปยังแขกที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาไม่เป็นมิตรพลางโอบเอวบางของรุ่นพี่ที่นั่งข้างกายเอาไว้ ทำท่าทางแสดงความเป็นเจ้าของอย่างออกนอกหน้าจนจินยองกับยองแจถึงกับส่ายหัวไปมาให้กับความหึงหวงที่เหมือนเด็กหวงของเล่นโดยเฉพาะของเล๋นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของรักของหวงของแจ็คสัน
" จำได้รึเปล่าว่าถ้าผลงานเราสองคนได้คะแนนสูงสุดของวิชาโท พี่จะเลี้ยงข้าวผมน่ะ ? " ยูกยอมเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง สายตาเริ่มมองเพื่อนรุ่นเดียวกันที่กำลังโอบเอวบางของรุ่นพี่ที่ร่วมงานด้วยไว้พร้อมหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย
" อ๋อจำได้ๆ อย่าบอกนะว่า ... " ดวงตากลมเบิกตากว้างก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
" ใช่แล้วพี่ !! พวกเราได้คะแนนสูงสุดของภาควิชาโทกันล่ะ ฮ่าๆๆ " ยูกยอมประกาศผลคะแนนของผลงานที่ไปส่งเมื่อเช้า ทำเอามาร์คยกรอยยิ้มน่ารักเสียกว้าง พลางหันหน้ามามองรุ่นน้องที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วยิ้มให้อย่างดีอกดีใจ
" ผลงานของพี่ได้คะแนนสูงสุดล่ะแจ็คสันอา ดีใจเป็นบ้าเลย ! "
“ ดีแล้วพี่ ดีใจด้วยนะ ”
" เอ้อพี่มาร์ค .. ว่าแต่พี่จะไม่แนะนำเพื่อนๆพี่ให้ผมรู้จักหน่อยเหรอ ? " เด็กหนุ่มตัวสูงโย่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะส่วนตัวแล้วเขาเป็นคนที่ชอบผูกมิตรกับทุกคน และก็อยากผูกมิตรกับเพื่อนๆของรุ่นพี่ที่เรียนด้วยกันเอาไว้
" อ๋อ ... ทั้งสามคนนี้อยู่รุ่นเดียวกับนายหมดเลยล่ะยูกยอมอ่า ... คนนี้จินยอง เพื่อนสนิทแจ็คสันอยู่สถาปัตย์ฯ แล้วก็คนที่นั่งข้างๆจินยองนั่นคือยองแจ เรียนมนุษยศาสตร์เอกวรรณกรรมตะวันตก แล้วก็คนนี้แจ็คสัน รูมเมทเราอยู่สถาปัตย์ฯแล้วก็ ... " มาร์คผายมือแนะนำสมาชิกร่วมโต๊ะให้เด็กหนุ่มรู้จักทีละคน ก่อนจะพูดจบประโยค จู่ๆรุ่นน้องคนข้างกายก็เอ่ยแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดูตวัดห้วนๆ
" เป็นแฟนของมาร์คต้วน "
" อ๋อออ .. คนนี้น่ะเหรอแจ็คสันน่ะ นี่ใช่คนที่พี่เล่าให้ฟังบ่อยๆรึเปล่า พี่มาร์ค ? " คนถูกถามก็เพียงแค่ยิ้มและพยักหน้าให้ ยูกยอมยกรอยยิ้มกว้างพร้อมทำหน้าตากรุ้มกริ่มใส่อีกฝ่าย ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติแล้วทักทายทุกคนอย่างเป็นทางการ
" ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเลยนะ เราชื่อคิมยูกยอม เรียนวิศวะเหมือนพี่มาร์ค แต่สาขาวิชาแมคคาทรอนิกส์ " คิมยูกยอมยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตรอีกครั้งตามนิสัยและความเคยชิน
" ยูกยอมอ่า รอนานไหม ? " ร่างเล็กหน้าตาน่ารักกำลังวิ่งเข้ามาในวงสนทนาก่อนจะยืนหอบอยู่ข้างๆคนตัวสูงโย่งที่เพิ่งทักทายเพื่อนๆไป
" เห้ยยย ! นี่มันแบมแบมนิเทศฯคนน่ารักประจำคณะนี่ ! ตัวจริงเสียงจริงด้วยอ่ะ !? " จินยองชี้ไปที่ร่างเล็กที่ยืนเกาะท่อนแขนแข็งแรงของยูกยอม ร่างเล็กกว่าได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทักทายทุกคนจนยูกยอมถึงกับรีบโอบร่างเล็กเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
" เอ้อ .. ถ้าหาวันเลี้ยงข้าวผมได้เมื่อไหร่ บอกผมด้วยนะพี่มาร์ค ผมไปแล้วนะครับบบบบ " และแขกผู้มาใหม่ทั้งสองรายก็เดินออกจากวงไป คนตัวบางโบกมือให้ทั้งสอง แล้วหันมามองรุ่นน้องทั้งสาม
" พี่มาร์คดูดีใจมากเลยนะเนี่ย " จินยองเอ่ยถามหลังที่ยูกยอมและแบมแบมหายลับไปจากสายตา
" ก็แน่สิ่ กว่าจะทำออกมาได้ ทำตั้งเก้าวันเชียว " รุ่นพี่คนน่ารักยิ้มกว้างบอกกับน้อง พลางหันหน้ามามองคนข้างตัวที่ตอนนี้เงียบผิดแปลก มือเล็กอังหน้าผากของรุ่นน้องแล้วถามด้วยความเป็นห่วง
" ไม่สบายรึเปล่า แจ็คสัน ? "
" นิดหน่อยน่ะ " คนตัวหนาตอบเสียงอ้อมแอ้ม ทำเอาคนถามถึงกับหลุดยิ้มออกมา
... มาอีกแล้วสิ่นะไม้นี้ …
" งั้นเดี๋ยวพี่พาแจ็คสันไปนอนพักที่ห้องก่อนนะ ท่าจะ ... คิดหนักไปหน่อย " ร่างบางเน้นคำว่า ‘ หนัก ’ ให้คนเป็นน้องได้สะดุดใจเล็กน้อย พร้อมลุกขึ้นบอกลารุ่นน้องอีกสองคนที่นั่งอยู่
xx.
ในขณะที่มาร์คต้วนกำลังพารุ่นน้องผู้เป็นคนรักกลับหอพัก จู่ๆคนแกล้งป่วยก็ดึงรั้งท่อนแขนเล็กให้รุ่นพี่ข้างตัวที่อมยิ้มขำไม่เลิกเดินเข้าไปในซอกมุมระหว่างตึกทั้งสองที่เชื่อมกันและยันท่อนแขนแข็งแรงเอาไว้ไม่ให้อีกคนได้หนีออกไป
" หวยป่วยแล้วรึไงน้องชายคนหล่อ ฮ่ะๆๆ "
" แน่นอนครับพี่ชายคนน่ารัก " แจ็คสันยกรอยยิ้มจุดที่มุมปาก รอยยิ้มที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆนี้ทำให้รุ่นน้องตรงหน้าดูหล่อเจ้าเล่ห์ไปเลยทีเดียว
" เป็นจริงอย่างที่ยูกยอมพูดด้วยแฮะ "
" ยูกยอมพูดอะไร ? " ร่างหนาซักถามรุ่นพี่คนตัวบางที่อยู่ในกรอบที่เขากั้นไว้
" ยูกยอมบอกว่า ... "
เมื่อห้าวันก่อน ...
มาร์คต้วนกับคิมยูกยอมกำลังจะเดินไปที่ห้องปฏิบัติการที่ต้องผ่านตึกของคณะสถาปัตย์ฯที่เป็นทางลัด เพราะถ้าให้ไปเส้นปกติอีกนานกว่าจะถึง พวกเขาอาจจะพลาดการส่งผลงานชิ้นสุดท้ายได้ไป และนั่งก็จะทำให้พวกเขาทั้งสองคนได้กินเอฟไปอย่างไม่ต้องร้องขอเลยทีเดียว ไม่มีใครอยากได้เอฟในใบเกรดนักหรอก
' ยูคอย่าแกล้งพี่สิ่ ฮ่าๆๆๆ '
' ผมไม่ได้แกล้งพี่มาร์คเลยนะ อะไรกันเนี่ยยย'
ทั้งสองคนหัวเราะร่า แซวกันไปมาเรื่องงาน เพราะตลอดเวลาที่ทำงานส่งพวกเขาทั้งสองคนแทบไม่มีเวลาจะมาหัวเราะเฮฮาหรือพูดคุยเรื่องไร้สาระอะไรแบบนี้เลย ถือซะว่าระหว่างทางคือการผ่อนคลายสมองไปในตัว แต่จู่ๆสายตาของคนตัวบางกลับไปสะดุดกับร่างที่คุ้นเคยกำลังมองมาทางเขา
' มองอะไรเหรอพี่มาร์ค ? '
' รุ่นน้องน่ะ ' ยูกยอมหันไปมองตามสายตาของรุ่นพี่ ก็พบว่าเด็กหนุ่มร่างหนาที่ดูท่าทางจะทำตัวกร่างๆกำลังมองหน้าพวกเขาทั้งสองคนอยู่ไกลๆ
' รู้จักเหรอ ? '
' รู้จักสิ่ รูมเมทพี่เอง ' มาร์คเอ่ยยิ้มๆตอบอีกฝ่าย ทำเอาคนรับฟังคำตอบถึงกับทำหน้าอ๋อ พร้อมกับก้าวเดินตามรุ่นพี่ที่ร่วมงานด้วยต่อไป
' ใช่รูมเมทที่ชื่อแจ็คสัน คนที่พี่แอบชอบรึเปล่านะ ถ้าจำไม่ผิด '
' ใช่ คนนั้นแหละยูกยอม คนที่พี่แอบชอบน่ะ '
' ดูขี้หึงใช่เล่นเลยนะ สงสัยเขาคงหึงผมกับพี่แน่ๆอ่ะ ' ร่างสูงโย่งหัวเราะคิกคักเบาๆ แต่คนข้างๆกลับไม่ได้หัวเราะด้วย รุ่นน้องจึงหยุดหัวเราะและหันมามองรุ่นพี่พร้อมกับเอ่ยถามเสียงเบาๆว่า ' เป็นอะไรรึเปล่า ? '
' พี่ยังไม่รู้เลยว่าน้องเขาคิดกับพี่ยังไง คงเป็นไปไม่ได้หรอก ... ยูกยอมอ่า '
' เชื่อผมสิ่ เขาชอบพี่แน่ๆล่ะ ผมดูผมก็รู้แล้ว ... อย่าเพิ่งซีเรียสเรื่องนี้เลย เราควรจะรีบทำงานก่อนดีกว่านะ ' ร่างสูงเอ่ยปลอบใจรุ่นพี่ผู้เป็นเพื่อนร่วมงานให้สบายใจแล้วเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุยให้มาร์คต้วนได้ยิ้มอีกครั้ง
" ขี้หึงจริงๆด้วยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ " ร่างบางหัวเราะร่าเมื่อรู้อาการหึงหวงของคนเป็นรุ่นน้อง
" ไม่ต้องหัวเราะเลยเอิน "
" ก็มันจริง... อุ้บ !! "
รุ่นพี่ตัวบางเอ่ยแซวนิดหน่อยแต่ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายช่วงชิงคำพูดไปด้วยริมฝีปากอุ่นที่คุ้นเคยดี ร่างหนาโถมเข้าหาอีกฝ่ายพร้อมประกบริมฝีปากนุ่มเล็กนั้นอย่างโหยหา แขนของคนเป็นรุ่นพี่โอบคล้องคอรุ่นน้องไว้ ริมฝีปากร้อนรุกล้ำไปทั่วเรียวปากบางนั้นอย่างไม่รีบร้อน ทำเอาคนอยากแซวเมื่อสักครู่นี้กลายเป็นคนเข่าอ่อนร่างกายปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงเพราะถูกคนตรงหน้าจูบอย่างอ่อนโยนทันที ร่างสูงผละออกอย่างช้าๆแล้วฉีกยิ้มแบบที่หาดูได้ยาก
" อย่าทำให้ผมหึงมากนักนะพี่ ระวังดีๆ คืนนี้มันอาจจะมีมากกว่าจูบจนพี่เดินไม่ได้นะ " พอรุ่นน้องคนหล่อเอ่ยจบมือเล็กก็ฟาดไปที่แขนทันทีพร้อมบ่นออกมาด้วยความเขินอาย
" ไอ้เด็กลามก ! คิดถูกคิดผิดที่มาคบนายเนี่ย แจ็คสันหวัง ! "
-FIN .xoxo
สวัสดีผู้อ่านทุกคนทั้งที่ติดตามและหลงทางมานะคะ ' ^ '
แต่งฟิคฉลองวันจองหอพักนิสิตค่ะ
พร้อมแต่งดับอารมณ์ดราม่าของหลายๆคนด้วยโน้ะ ; - ;
เรื่องนี้เป็นฟิคเก่าที่เราเคยแต่งของวงอื่นทิ้งไว้เมื่อสองปีก่อน
การบรรยายอาจจะกากอาจจะดูง้องแง้งบ้าบอไปหน่อย ไม่ว่ากันนะคะ T_T
แต่พี่มาร์คเรื่องนี้ก็มุ้งมิ้งมากมากเลยน้า
(แต่งทุกเรื่องให้พี่มาร์คเป็นคนดีเพราะพี่มาร์คเป็นแฟนเรา .....)
เอาเป็นว่าขอบคุณที่ติดตามกันมาถึงตอนนี้นะคะ
สามารถพูดคุยทักทายติชมฟิคเราทางทวิต (.) ได้เลยน้า เย้เย้
ไว้เจอกันใหม่ในตอนต่อไปโน้ะ อย่าลืมอ่านเสร็จเม้นด้วยนะคะ
พลีส พลีส พลีส พลีส พลีส พลีส T . T
รักคนอ่านทุกคนเหมือนเดิมไม่สร่างซานะคะฮิฮิฮิ <3
:) Shalunla
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อ๊ายยยย
ไม่งั้นคงไม่มาอาละวาดกับมาร์คแน่เลยง่าาา
ทนได้ไงตั้ง 9 วัน โห่ๆๆๆๆ
ให้ตายเถอะนี่แพ้น้ำตาอี้เอิน เอินเอินร้องไห้นี่อยากจะด่าหวังไปอีกสักรอบ
หึงไม่เข้าท่าเลยหวังเอ๊ยยยย อย่าทำแบบนี้ไม่ว่ากับใคร... เข้าใจไหม?
น่ารัก T vvvvv T จาร์คกับฟิคมุ้งมิ้งนี่เข้าก๊านเข้ากัน
แอบคิดว่าถ้าจินยองไม่เข้ามาช่วยนี่ จะรู้ตัวว่าตัวเองไปให้ความหวังเขามั้ยฮือ
ขอบคุณทุกตัวช่วยที่ทำให้เขาเข้าใจกัลข่ะ ; / - / ;
ชอบประโยคของพี่หวังตอนท้ายมากเลอเจ้555555555555555555555555
อารมณ์หื่นงี้นึกหน้าออกเลยแง
'อย่าทำแบบนี้กับใครที่ไม่ใช่พี่จะได้ไหม?'
แต่แจ็คไม่ยอมพูดอะไร TT
คุณชายแบบไม่ยอมรับความจริง รู้ตัวช้า ต้องให้โดนกระตุ้น
นี่ถ้ายูคจีบมาร์คจริงๆล่ะก็ แกแห้วแน่หวัง เชอะ
น่ารักมากเรื่องนี้ อ่านไปยิ้มไปแก้มแตกหน้าบานนน เฮือกกก
มิ้งไม่เว่อร์ แต่ชอบแจ็คเว่อร์ชั่นขี้หึงมันดูเข้ากันนน
ง่อวววววววววว์ ..... ดีที่ไม่หักมุมมมม
T-T แต่งฟิคดีจุงเลยยยย ชื่นชมม อ่านแล้วเขินนน ฟินนาเร่ด้วย จุ๊บบ
คือแบบ ฟา่บดรบหรดบำตรีบดจตรำจตรำลขจำล ...
ม๊าแต่งน่ารักอีกแล้ว แงงงง เขินตัวบิดแล้วเนี้ย
เอินน่ารักฉุดไม่อยู่แล้วง่ะ T_________T
อ่านลื่นมากเลย ม๊าแต่งดีมาก ม๊าเหมาะกับฟิคน่ารักจริงๆ
แต่งแล้วให้อารมณ์นั้นเลย ฮื่ออออออ กว่าจะได้แต่งจาร์ค
โง่ย มันสุดๆไปเลย เยิ้บบบบบบบบบบบบบบบ <3.
แจ็คคนหื่น><