ตอนที่ 25 : { S F } AMNESIA : 기억력 상실 {Mark x Jinyoung ft. Jaebum} chp.06 。
{ AMNESIA : 기억력 상실}
pairing ; Mark x Jinyoung ft. Jaebum
author ; pinnathero
genre ; little drama,romantic,medical
type ; AU,PWP
rate ; pg-15
(หมายเหตุ : Hanamizuki (acoustic guitar solo) / Hitoto You (arranged&performed by Yuki Matsui) : http://youtu.be/w0hxzhu0mEc )
warning ; อยากมีแท็กกับเขาซักเรื่อง สกรีมเรื่องนี้แท็ก #มนความจำเสื่อม ในทวิตด้วยน้า
warning 2 ; ความหมายเพลงไม่เกี่ยวกับเรื่องนะ แค่นึกถึงเพลงตอนเด็กๆที่เคยร้องได้เฉยๆ เรื่องนี้อาจจะยาวหน่อยประมาณ 5-6 ตอน แต่ไม่มั่นใจว่าจะตัดจบตอนที่เท่าไหร่ ติดตามและฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
warning 3 ; เป็นครั้งแรกที่ได้ลองแต่งฟิคทางการแพทย์และดราม่ามากแบบนี้ ถ้าผิดพลาดเรื่องข้อมูลอย่างไรต้องขออภัยด้วยนะคะ ไรท์เตอร์ไม่ได้เรียนหมออ่ะง่ำๆ แค่ชอบซีรี่ส์การแพทย์เฉยๆเอง อย่าดราม่าใส่กันนะฮึก T_T
ดวงตาเรียวทอดมองไปยังสวนหย่อมที่จัดไว้ใกล้ๆแผนกจิตเวชด้วยสายตาเหม่อลอย ร่างอวบนั่งอยู่บนม้านั่งที่ตั้งอยู่บนทางเดินระเบียงด้วยสภาพที่เหมือนคนอดหลับอดนอน ใบหน้าขาวซีดที่ดูจะซีดลงมากกว่าปกติ ริมฝีปากที่เคยแดงฉ่ำกลับดูซีดเซียวคล้ายคนป่วยหนัก อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนนี้เขาตากฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก หรือไม่ก็ ... เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน พอนึกถึงมือบางก็ยกขึ้นมากระชับคอเสื้อให้มิดชิดมากกว่าเดิมพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่หยดน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ตลอดเวลาที่เดินทางมาทำงานจนถึงตอนนี้เริ่มไหลลงมาอย่างหยุดไม่ได้
‘ ฮยองผิดสัญญากับผม ’ ยองแจเอ่ยดังขึ้นด้วยความโมโหเมื่อรู้เรื่องจากเพื่อนในแผนกว่าร่างสูงโปร่งกำลังเล่นตุกติกกับเขาอยู่
หลังจากที่เขาเดินไปบอกจิตแพทย์แจ็คสันเรื่องนี้เพื่อให้ดูแลคนไข้ของตัวเองให้ดี ระหว่างทางกลับเขากลับเห็นแจบอมกำลังยืนต้อนเพื่อนร่วมทีมคนน่ารักอย่างแบมแบมให้แผ่นหลังเล็กติดกำแพงก่อนจะเดินกระซิบอะไรบางอย่าง และคนตัวเล็กกว่าก็ส่ายหน้าไปมาราวกับกำลังปฏิเสธอะไรบางอย่างอยู่ แต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะถามอะไรไปมากกว่านี้ เขาต้องรีบพาเพื่อนในทีมของเขาออกห่างจากคนเจ้าเล่ห์นี้ให้ได้ และเมื่อแบมแบมเลี่ยงทางเพื่อหนีออกจากสถานการณ์นี้ไปได้ก็เหลือแต่ชเวยองแจและอิมแจบอมเท่านั้นที่ยืนจ้องหน้ากันอยู่ และเป็นอิมแจบอมที่ดึงข้อมือเล็กนั้นพร้อมลากให้เดินตามตนไปที่ลานจอดรถที่ด้านนอกในตอนนี้ฟ้าฝนกลับตกหนักเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่เป็นใจ
‘ แต่นายเล่นตุกติกกับฉันก่อน อย่าลืมสิ่ ชเวยองแจ ’
‘ ผมไม่ได้เล่นตุกติก ... ’
‘ ไม่เล่นตุกติกแล้วทำไมแบมแบมถึงรู้เรื่องนี้ ! เหอะ ... พี่ชายของน้องสาวของคนที่เขารัก อย่างงั้นเหรอ ถ้านายไม่คิดจะเล่นตุกติกแล้วจะพูดจาไม่รู้เรื่องแบบนั้นทำไม !! ’ แจบอมชี้นิ้วไปตรงหน้า นิ้วเรียวจิ้มลงไปที่หน้าผากมนพร้อมดันมาด้วยแรงที่มากพอที่จะทำให้ร่างเล็กกว่าผงะถอยหลังไปได้
‘ แบมแบมไม่รู้เรื่องนี้ ! มีแค่เครื่องมือโง่ๆอย่างผมเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ … ชัดเจนพอรึยัง !!! ’
‘ เหอะ รักเพื่อนมากรึไงถึงได้ปิดบังกันได้ดีขนาดนี้ ถ้ามันไม่ใช่เพราะนายไปไล่บอกชาวบ้านไปทั่วแล้วเขาจะปิดบังฉันเรื่องนี้ไหม !? ’
‘ ฮยองอย่ามางี่เง่าป้ายเรื่องไปเรื่อยเปื่อยได้ไหมวะ !!! ’ ยองแจตวาดด้วยเสียงที่ดัง มือเล็กกำเข้าหากันแน่น เขาพยายามอดทนกับคนตรงหน้ามานานพอสมควร และครั้งนี้เขาคงไม่ทนกับสิ่งที่ทำให้ชีวิตเขาไม่มีความสุขแบบนี้อีก อิมแจบอมกำลังทำให้ชเวยองแจหมดความอดทนแล้ว
‘ นายกล้าตวาดใส่ฉันงั้นเหรอ ! ’
‘ แล้วทีฮยองยังกล้าที่จะไปมีพี่จินยองทั้งๆที่ทำกับผมไว้เยอะขนาดนี้ ผมยังไม่ว่าอะไรเลยนะ มันแฟร์แล้วรึไง ! ’
‘ นายอย่าเอาจินยองมายุ่งกับเรื่องของเราแบบนี้ ถ้านายไม่อยากเจ็บตัว ’ แจบอมกำข้อมือเล็กเอาไว้แน่น สายตาคมจ้องมองอีกฝ่ายอย่างดุร้ายราวกับกำลังขู่ให้อีกฝ่ายเลิกพูดเรื่องผิดพลาดไปเสีย แต่ทว่าทุกอย่างกลับผิดคาด เขาคิดว่าคนตัวเล็กกว่าจะกลัวสายตาของเขา อิมแจบอมกลับมองเห็นสายตาที่จ้องกลับมาอย่างไร้ความรู้สึกจากชเวยองแจ เด็กหนุ่มที่เขาคิดเสมอว่าเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่จะล่อลวงให้ปาร์คจินยองติดกับเขาเท่านั้น
‘ พอเหอะว่ะฮยอง ... ผมโคตรเหนื่อยกับฮยองมากเกินกว่าจะทนไหวแล้วจริงๆ ผมอาจจะดูโง่ที่ยอมปล่อยให้ฮยองเป็นแฟนกับพี่จินยอง ทั้งๆที่ฮยองก็ล่อลวงให้ผมหลงรักฮยองอย่างโงหัวไม่ขึ้น ... ’
‘ ... ’
‘ ผมรู้มาตลอดว่าฮยองเห็นผมเป็นแค่เครื่องมือโง่ๆที่จะทำให้พี่จินยองมาเป็นของฮยอง ฮยองไม่ชอบการพ่ายแพ้ ผมรู้ดี ... ’
‘ ... ’
‘ ผมไม่เคยโกรธพี่จินยองเลยที่มาเป็นแฟนของฮยอง แล้วก็ไม่เคยโกรธฮยองด้วยที่ทำแบบนี้ทั้งๆที่ในใจผมเจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้ว ’
‘ … ’
‘ แต่ในเมื่อฮยองไม่เคยสนใจในคำขอของผม ฮยองเลือกที่จะไม่ปล่อยพี่จินยองกับผม ผมว่าผมควรจะต้องเปิดเผยเรื่องนี้ให้ทุกคนได้รับรู้เสียที ’
ยองแจจ้องอีกฝ่ายเขม็ง บิดข้อมือของตนให้หลุดจากพันธนาการอันหนาแน่นที่ถูกสร้างขึ้นโดยศัลยแพทย์เจ้าเล่ห์ตรงหน้า ก่อนจะรีบเดินออกจากลานจอดรถโดยที่ไม่สนใจเสียงเรียกที่ดังขึ้นด้วยความไม่พอใจ
‘ ยองแจ ! หยุดเดินเดี๋ยวนี้นะ !! ชเวยองแจ !?! ’ เมื่อยืนสบถอย่างหัวเสียไปชั่วขณะหนึ่ง แจบอมรีบเดินขึ้นรถคันหรูของตนพร้อมสตาร์ทรถออกตัวตามร่างเล็กที่กำลังเดินฝ่าสายฝนที่กำลังเทกระหน่ำอย่างต่อเนื่องพร้อมตะโกนเรียกให้อีกฝ่ายหยุดเดิน
‘ ... ’
‘ ชเวยองแจ ! ’
และเมื่อรู้ดีว่าคนตัวเล็กกว่าคงไม่ยอมหยุดเดิน แจบอมจึงรีบขับรถปาดประชิดจนร่างเล็กแทบเซ มือหนาเปิดประตูพาตนออกมาจากรถเพื่อเดินเข้าไปหายองแจที่กำลังจะเลี่ยงเดินอีกทาง แจบอมคว้าจับข้อมือเล็กเอาไว้ก่อนจะดึงรั้งให้เข้ามาใกล้พร้อมก้มหน้าประกบริมฝีปากเรียวเล็กนั้นอย่างรุนแรงและเอาแต่ใจ มือเล็กพยายามดันให้ร่างหนาผละออกแต่ทว่ากลับถูกมือหนาเพียงข้างเดียวคว้าจับข้อมือทั้งสองข้างได้ภายในคราวเดียว เรียวฟันขบเม้มลงบนริมฝีปากนิ่มนั้นจนรู้สึกได้ถึงรสเลือดที่แผ่ความคาวไปทั่วโพรงปาก
มือหนาประคองใบหน้ากลมนั้นเอาไว้และสัมผัสได้ถึงหยดน้ำตาที่ไหลปนเปมาพร้อมกับหยดน้ำฝน เมื่อมอบจูบอย่างพอใจแล้ว ใบหน้าหล่อค่อยๆผละออกจากใบหน้าน่ารักที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา ริมฝีปากเล็กเม้มแน่นเมื่อยามที่คนตรงหน้าดึงข้อมือตนให้ถลาเข้าสู่อ้อมกอดที่แข็งแรง แม้จะรู้สึกอบอุ่นแต่ก็แฝงความเจ็บปวดเจียนตายเสียมากกว่า ยองแจไมได้ยกมือขึ้นกอดตอบคนเป็นรุ่นพี่อย่างเช่นทุกๆครั้ง หากทว่ามือเล็กนั้นกลับกำมือเข้าหากันแน่นและสั่นเทา
‘ ฉันว่าคืนนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวแล้วล่ะ ชเวยองแจ ... ’
... และค่ำคืนนั้นแม้จะได้ยินเสียงครางหวานที่เต็มไปด้วยความสุขสมปนขมขื่น แต่เสียงสะอื้นร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวดก็ยังคงดังก้องไม่แพ้กัน โดยเฉพาะภายในหัวใจ ...
“ เฮ้ แพทย์ฝึกหัดชเวยองแจ ” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้น ใบหน้าที่ซีดเซียวค่อยๆหันไปมองต้นเสียงด้วยสายตาเลื่อนลอย ร่างหนาที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ตามสไตล์พร้อมสวมเสื้อกาวน์ที่ปักตรงหน้าอกด้านซ้ายเอาไว้ว่าเป็นจิตแพทย์ ใบหน้าหล่อคมคายยกยิ้มประดับบนใบหน้าอย่างเป็นมิตร คนเป็นรุ่นน้องรีบยกมือปาดหยดน้ำตาที่ไหลรินอย่างลวกๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมโค้งหัวทักทายทันที
“ สวัสดีครับพี่แจ็คสัน ... ”
“ มานั่งทำอะไรตรงนี้เนี่ย อู้งานรึไง ? ” แจ็คสันเดินเข้ามาใกล้พร้อมหย่อนตัวนั่งลง และรุ่นน้องอย่างยองแจก็หย่อนตัวนั่งลงข้างๆตาม
“ ผมแค่ ... อยากออกมาสูดอากาศข้างนอก ..น่ะครับ ... ”
“ นายไม่สบายรึเปล่ายองแจ หน้านายดูซีดนะ ” ไม่ว่าเปล่า มือใหญ่เอื้อมไปแตะที่หน้าผากมนอย่างแผ่วเบาเพื่อวัดไข้ ยองแจมีแรงที่จะปฏิเสธการกระทำของคุณหมอจิตเวชจึงได้แต่นั่งหลับตารับความอบอุ่นที่แผ่ซ่านผ่านมือใหญ่นั้นอย่างช่วยไม่ได้
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ .. ผมยังโอเคดี เมื่อคืนฝนตกหนัก ผมตากฝนนานไปหน่อยน่ะครับ ”
“ ออกมาจากบ้านได้กินยาอะไรมาบ้างรึเปล่า ? ” แจ็คสันรีบเอ่ยถามทันทีหลังวัดไข้ด้วยวิธีการวัดไข้แบบหยาบ เพราะเมื่อสัมผัสหน้าผากมนนั้น เขารู้สึกได้ว่ารุ่นน้องกำลังโดนไข้สูงเล่นงาน เพียงแค่เอามืออังหน้าผากห่างๆยังสัมผัสถึงความร้อนที่แผ่ออกมา
“ .. สงสัยผมคง .. ลืมกินยาน่ะครับ ฮ่ะๆ ” ยองแจตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาพร้อมรอยยิ้มที่ดูฝืนอย่างเห็นได้ชัด
เขาไม่ได้กินยาลดไข้ก่อนมาทำงาน อย่าว่าแต่กินยาเลย แค่เอาแรงลุกจากเตียงนอนที่ร่วมรักกับใครบางคนเมื่อคืนในยามเช้ามืดเพื่อเดินทางมาโรงพยาบาลก็นับว่ายากเอาเรื่อง ตั้งแต่เมื่อคืนที่เขาตากฝนเป็นเวลานาน ไหนจะกลับมาโดนคนเป็นรุ่นพี่ลงโทษเกือบทั้งคืน เขาแทบไมได้พักผ่อน มีแรงหายใจตอนนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ทั้งที่ความจริงแล้วเขาไม่อยากจะออกมาทำงานเสียด้วยซ้ำ แต่เพราะยังไม่ได้ลาป่วยและยังคงเป็นห่วงพี่จินยองกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนที่เขาไม่อยู่ เขาจึงจำใจต้องมา
“ ไม่สบายขนาดนี้ยังจะมาหัวเราะอีกนะ ... เห้ยยองแจ !!! ” แจ็คสันดุคนเป็นรุ่นน้องหวังจะให้เจ้าตัวสำนึกเพื่อที่จะได้ไปกินยา แต่ทว่าเขากลับต้องตกใจเมื่ออยู่ๆแพทย์ฝึกหัดที่เขากำลังจะสั่งสอนกลับนอนสลบอยู่ข้างๆเขา ศีรษะเล็กนั้นเอนลงมากระแทกกับต้นขาของแจ็คสัน แม้มือหนาจะพยายามเขย่าให้ร่างเล็กรู้สึกตัว แต่ทว่ากลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ แจ็คสันจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อกาวน์พร้อมกดไปที่เบอร์โทรล่าสุดทันที
“ รีบจัดเตียงในห้องฉันให้ที มีคนไม่สบาย แล้วก็แจ้งให้จินยองทราบเรื่องนี้ด้วย ”
xx.
จินยองที่กำลังนั่งดูแลมาร์คต้วนในห้องพักผู้ป่วย พอได้ทราบข่าวจากรุ่นน้องคนสนิทของแจ็คสันผู้เป็นเพื่อนสนิทของตนก็รีบผละจากห้องผู้ป่วยเพื่อวิ่งมาที่แผนกจิตเวชทันที ใบหน้าน่ารักแสดงสีหน้าตกใจเมื่อเห็นว่ารุ่นน้องคนสนิทของตนกำลังนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงนอนที่อยู่หลังห้องทำงานของแจ็คสัน ข้างๆเตียงนอนนั้นมีเสาที่มีน้ำเกลือแขวนเอาไว้พร้อมสายระโยงระยางที่เชื่อมให้น้ำเกลือไหลเข้าสู่เส้นเลือด ใบหน้ากลมที่ดูอิดโรยและริมฝีปากเรียวนั้นยังคงดูซีดราวกับกระดาษเปล่ายิ่งบีบคั้นก้อนเนื้อภายในของปาร์คจินยองอย่างมาก จากชุดแพทย์ฝึกหัดทั่วไปก็ถูกจิตแพทย์เจ้าของห้องเปลี่ยนเป็นชุดคนไข้สีฟ้าอ่อน ผ้าห่มผืนหนานุ่มถูกปกคลุมตั้งแต่ต้นคอจรดปลายเท้าเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายของผู้ป่วย ร่างบางเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆเตียงทันที
“ ยองแจเป็นอะไรไปวะ ? ”
“ ยองแจไข้ขึ้นสูง เจ้าตัวลืมกินยาก่อนมาทำงาน ”
“ ปกติยองแจไม่ใช่คนขี้ลืมแบบนี้ ”
“ กูว่ายองแจอาจจะโดนแจบอมลงโทษเมื่อคืนนี้ก็ได้นะ ” แจ็คสันเอ่ยขึ้นพลางเปิดผ้าห่มผืนหนาที่คลุมร่างเล็กเอาไว้ มือหนาค่อยๆถกเสื้อผู้ป่วยขึ้นเผยให้เห็นรอยรักสีกุหลาบจางที่ถูกตีตราจองไปทั่วทั้งลำตัว ไม่ว่าจะเป็นลำคอ แผ่นอกบาง หน้าท้องแบนราบ หรือแม้กระทั่งต้นขาและซอกขาเนียนนั้น
“ ... มึงรู้เรื่องของยองแจด้วยเหรอ ? ”
“ รู้ก่อนที่มึงจะรู้หลายเดือนอยู่เหมือนกัน แต่เพราะยองแจขอไว้ไม่ให้บอกกูก็เลยไม่ได้บอกมึง กลัวมึงจะเสียใจที่มีรุ่นน้องแย่งแฟนรุ่นพี่ตัวเอง จนน้องเขาก็เป็นคนบอกมึงเองนั่นแหละ ”
“ เชี่ย ... ”
“ ตอนกูเปลี่ยนชุดให้ยองแจ ... กูถือวิสาสะตรวจร่างกายน้องเล็กน้อยเพราะรู้สึกเหมือนช่วงล่างจะร้อนผ่าวผิดปกติ แล้วก็เจอเข้าจังๆ เหมือนว่าจะโดนปล่อยในแล้วไม่ได้เอาออก แล้วเมื่อวานฝนตกหนักด้วย ยองแจบอกว่าเดินตากฝน กูว่ายองแจอาจจะเจอเรื่องหนักมากพอสมควรนะ ยังไงมึงก็ควรดูแลน้องมึงดีๆหน่อยล่ะ น้องมันรักมึงมากนะ ไม่งั้นมันคงไม่ถ่อมาตึกนี้เพื่อมาขอให้กูดูแลแฟนมึงดีๆหรอก ”
แจ็คสันเอ่ยพลางยืนพิงกำแพงห้องมองดูเพื่อนสนิทที่ค่อยๆเอื้อมมือไปกอบกุมมือเล็กที่ดูไร้เรี่ยวแรงนั้นเอาไว้ ก่อนจะปลีกตัวเดินออกไปนอกห้องพักของตนเพื่อปล่อยให้รุ่นพี่รุ่นน้องอยู่ด้วยกันตามประสา
“ ยองแจอ่า ... พี่ขอโทษจริงๆที่ทำให้นายมาเกี่ยวข้องเรื่องแย่ๆพรรค์นี้น่ะ ... ”
“ ... ”
“ นายกับพี่เราไม่ควรรู้จักกันเลยจริงไหม .. ถ้าเราไม่รู้จักกัน บางทีนายอาจจะมีความสุขดีมากกว่านี้ก็ได้ ... ”
“ ... ”
“ พี่จะทำให้เรื่องนี้จบให้ไวที่สุด พี่ขอโทษนายอีกครั้งนะ ยองแจอ่า ... ”
ร่างบางโปร่งเดินออกจากห้องนอนของจิตแพทย์เพื่อนสนิทเพื่อมานั่งคุยกับเจ้าของห้องที่กำลังนั่งเขียนเอกสารอยู่บนโต๊ะทำงาน จินยองหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้รับแขก มือบางทั้งสองข้างประสานเข้าหากันพร้อมใบหน้าที่ตึงเครียดมากกว่าเดิม มันเป็นเรื่องที่ยากจะทำให้มันจบเพราะเรื่องมันเลยเถิดมากเกินกว่าจะให้อีกฝ่ายทำใจยอมรับได้ แต่ถ้ายังปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ บางทีคนที่เจ็บจะไมได้มีเพียงแค่หนึ่งหรือสองคนแน่นอน
" ยองแจไม่เป็นอะไรมากหรอก มึงอย่าเครียดไปเลย "
" แต่แจบอมทำแบบนี้มันเกินไปนะ "
" มึงก็รู้นิสัยมันดีนี่ "
" แต่แจบอมทำแบบนี้กับคนที่รักตัวหมอนั่นได้ยังไงกัน ให้ตายดิ่วะ ทำให้ยองแจเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้มันใช่เหรอ ? "
" ถ้ามึงไม่อยากให้ยองแจเจ็บแบบนี้มึงควรจะจบเรื่องนี้ได้แล้ว ยองแจอ่อนแอเกินกว่าจะเล่นเกมที่ใช้หัวใจเดินพันแบบนี้ มึงควรจะต้องเลือกได้แล้วว่ามึงจะอยู่กับใคร ระหว่างอิมแจบอม หรือมาร์คต้วน " แจ็คสันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังกว่าครั้งไหนๆ น้ำเสียงที่ออกมาจากปากแจ็คสันครั้งนี้ดูไม่เป็นตัวของแจ็คสันหวังจริงๆ
“ กูยังทำใจไม่ได้ถ้าพี่มาร์คจำเหตุการณ์ที่ขาดหายไปได้ ... กูกลัว กลัวมากกว่าที่จะต้องบอกเลิกกับแจบอมอีกมึงรู้ไหม ? ”
“ มึงอย่าลืมว่าไมได้มีแค่ตัวมึงที่เจ็บเป็นคนเดียว ยังมีอีกหลายคนที่เจ็บเพราะมึงอีกมากมาย ถ้ามึงไม่รีบหยุดตั้งแต่ตอนนี้ มึงอาจจะต้องเสียใจที่ไม่ได้ทำสิ่งที่ควรทำ ”
" กูกำลังจะจบเรื่องนี้ให้ไวที่สุด ... วันนี้เลยดีไหม ? "
" ยิ่งเร็วได้เท่าไหร่ คนเจ็บปวดก็น้อยเท่านั้น "
เพียงสิ้นเสียงของเพื่อนสนิท มือบางก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายถึงใครบางคนทันทีโดยไม่รออะไรทั้งนั้น ดวงตาเรียวสบเข้ากับสายตาคมดุของเพื่อนสนิทที่จดจ้องมาเพื่อรอดูผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เมื่อได้ยินเสียงจากปลายสายหลังรับสายแล้ว เสียงใสที่พยายามสะกดอารมณ์โกรธก็กรอกเสียงลงไปทันที
“ ฮัลโหล ... ”
( คิดยังไงถึงโทรมาหาฉันล่ะหืม ? เกิดอะไรขึ้นรึไง ? )
" แจบอม เรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน เย็นนี้เจอกันที่ห้องทำงานของฉัน "
xx.
ร่างสูงโปร่งดูมีภูมิฐานก้าวเดินไปตามระเบียงทางเดินของตึกห้องพักผู้ป่วย จนสุดปลายทางสองเท้าก็หยุดอยู่ตรงหน้าห้องๆหนึ่ง มือหนาเอื้อมไปจับลูกบิดประตูพร้อมหมุนมันเพื่อเปิดประตูและพาร่างของตนเข้าไปโดยไม่มีการเคาะประตูขออนุญาตใดๆ มือหนาลงกลอนปิดสนิทก่อนจะหันมามองผู้ป่วยภายในห้องพักที่ยังคงนั่งมองด้วยสายตานิ่งสนิท ดวงตากลมหรี่ลงเล็กน้อยอย่างไม่ไว้ใจ เขายอมรับว่าเขาไม่เคยไว้ใจหมอคนนี้เลยแม้แต่น้อย ด้วยใบหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์เกินไปนั้น เหมือนเขาจะเคยเห็นมันจากที่ไหนซักแห่งแต่กลับจำไม่ได้ และเขาก็ไม่ได้เป็นโรคหัวใจ ทำไมหมอคนนี้ถึงต้องวนเวียนที่ห้องของเขาด้วย นี่คือข้อสงสัยชิ้นโตในสมองเลยทีเดียว
“ สวัสดีครับ คุณมาร์คต้วน ”
“ สวัสดีครับ ” มาร์คเอ่ยตอบคุณหมอจอมเจ้าเล่ห์ด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง หากแต่ตนก็ไม่ได้สนใจที่จะขอโทษที่ก้าวร้าวหรืออะไรใดๆ มือเรียวหยิบรีโมทโทรทัศน์กดปุ่มปิดเครื่องก่อนจะวางมันข้างกาย
“ คุณอาจจะยังไม่รู้จักผม .. ผมชื่อแจบอมครับ อิมแจบอม เป็นศัลยแพทย์แผนกหัวใจและหลอดเลือด ” แจบอมเดินเข้าไปที่ข้างเตียง เขาเลือกที่จะไม่นั่งบนเก้าอี้ที่ถูกวางไว้สำหรับญาติ หากแต่ท่อนแขนแข็งแรงทั้งสองข้างนั้นกลับเท้าไปที่เตียงของผู้ป่วยพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหล่อละมุนนั้นพร้อมยกรอยยิ้มที่ดูยังไงก็เหมือนตัวละครโจ๊กเกอร์ที่มีรอยยิ้มแสนชั่วร้าย
“ … ”
“ คุณหมอเจ้าของไข้ของคุณนี่ใครนะ ? ... คุณหมอปาร์คจินยอง .. ใช่รึเปล่า ? ”
“ … ”
“ ปาร์คจินยองเป็นคนรักของผม ใครๆในโรงพยาบาลแห่งนี้เขาก็รู้แบบนั้นกันนะ ”
“ … ”
“ คุณไม่คุ้นชื่อนี้บ้างเลยรึไงกันว่าเคยได้ยินที่ไหนรึเปล่า ? หรือคุณเอะใจแต่ไม่กล้าถามใคร หึ ... ถามผมก็ได้ ผมจะเล่าให้ ... ”
“ คุณอย่ามาอ้อมค้อมให้มาก มีอะไรคุณก็ว่ามาเลยดีกว่า ”
“ ว้า เป็นคนตรงๆ ไม่ชอบอ้อมค้อมซะด้วย งั้นก็ดีแล้ว ” แจบอมเปล่งเสียงอย่างนึกเสียดายที่ไม่สามารถเล่นกลยุทธิ์สงครามประสาทกับคนไข้ของจินยองได้ ร่างสูงผละออกจากเตียงผู้ป่วยเดินวนไปมาสองสามรอบ ก่อนจะเดินกลับมายืนที่เดิมอีกครั้ง
“ … ”
ตึงง !!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ คุณคิดจะแย่งจินยองไปจากผมงั้นเหรอ คุณมาร์ค !?!?! ” แจบอมตบไปที่เตียงผู้ป่วยเสียงดังพร้อมเท้าแขนบนเตียงนั้นอีกครั้ง คุณหมอจดจ้องใบหน้าของศัตรูหัวใจด้วยแววตาเกรี้ยวโกรธและดุดัน ใบหน้าหล่อแปรสีหน้านิ่งจนน่ากลัว หากแต่นั่นไม่ได้ทำให้คนไข้รู้สึกผวาเลยแม้แต่นิดเดียว มาร์คยังคงมองด้วยแววตาเรียบเฉยเพียงชั่วครู่ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่ดุดันไม่แพ้กัน
“ หึ ... จินยองเป็นของคุณอย่างนั้นเหรอ ? ผมไม่เห็นได้ยินจินยองพูดถึงเรื่องของคุณซักนิดเลยนะ ” มาร์คหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะหันตัวมาปะทะกับคุณหมอแจบอมที่กำลังปั้นหน้าโกรธจนนึกอยากขำใส่หน้าเสียสองสามที
“ แต่จินยองเป็นคนของผม !!! ”
“ แต่เขาไม่เคยพูดถึงคุณ ไม่เคยเลย ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่เขาจะพูดถึงคุณ ... ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียว !! ”
“ ... !! ”
“ แล้วในเมื่อเขาไม่เคยพูดเรื่องคนรักของเขา ผมก็มีสิทธิ์ที่จะจีบคุณหมอจินยองได้โดยที่คุณไม่มีสิทธิ์อะไรมาต่อว่าผม ”
“ แล้วมีใครเขาพูดเรื่องแฟนของตัวเองเวลาจะอ่อยให้เหยื่ออย่างคุณมาติดกับบ้างล่ะ อย่าโง่ไปหน่อยเลยหน่า ! ”
ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มประดับมุมปากก่อนจะเอื้อมมือกระชากคอเสื้อผู้ป่วยให้ร่างของคนไข้เขยิบใกล้เข้ามาใกล้ตนมากกว่านี้ หากแต่ทางฝั่งคนไข้ก็ไม่ได้ยอมให้ตนเป็นฝ่ายแพ้อยู่ฝ่ายเดียว มือเรียวเอื้อมมือเข้าไปกระชากคอเสื้อเชิ้ตสีอ่อนของคุณหมอแน่นจนเจ้าของเสื้อเชิ้ตตัวสวยนั้นแทบหายใจไม่สะดวก สายตาคมของทั้งสองยังคงจดจ้องกันอย่างไม่วางตา
“ ผมว่าไม่ใช่ผมหรอกที่โง่น่ะ ... คุณต่างหากที่โง่ อย่าลืมสิ่ว่าคุณหมอจินยองเขาไม่สนใจคุณเลย ไม่มี ! ไม่มีแม้แต่แววตาที่เอาไว้มองคนอย่างคุณเลยซักนิด !! ”
“ หน็อย !! ”
“ หึ ! หรือว่าถ้าผมเป็นคนโง่ ... งั้นเราทั้งคู่ก็คงโง่เหมือนกัน โง่ที่โดนผู้ชายเพียงคนเดียวปั่นหัว หรืออาจจะเป็นคุณที่โง่มากกว่าผมนะ คุณอิมแจบอม !!! ”
“ ปากดีให้ได้แบบนี้ตลอดก็แล้วกันนะ !? ” อิมแจบอมผลักให้ร่างของคนป่วยกระแทกลงกับเตียงพร้อมผละออกจากร่างโปร่งนั้น มือหนายกขึ้นจัดเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ให้เข้าที่เข้าทาง มือหนาเอื้อมไปปลดปมเนคไทออกเล็กน้อยพร้อมแสยะมุมปากออกอีกครั้ง มาร์คต้วนขอสานเลยว่า ตลอดทั้งชีวิตยี่สิบเก้าปีนี้ ไม่เคยเจอใครที่เจ้าเล่ห์เหมือนอิมแจบอมแม้แต่คนเดียว
... หากเคยเจอ เขาเองก็จำไม่ได้ว่าคนๆนั้นเป็นใคร เขาคุ้นว่าเคยเจอคนๆหนึ่งที่นิสัยคล้ายกับคุณหมอตรงหน้านี้ แต่ก็ยังจำไม่ได้ ...
“ ถ้าไม่มีอะไรแล้วกรุณาออกจากห้องผมไปซะ ก่อนที่ผมจะเรียกบุรุษพยาบาลให้มาหามคุณออกไป ”
“ ผมออกไปแน่คุณไม่จำเป็นต้องไล่หรอก ผมไมได้อยากอยู่มองขี้หน้าคุณมากเสียเท่าไหร่ ... ” แจบอมเอี้ยวตัวหันหลังกลับไปทางเดิมที่เดินมา มือหนากำลังเอื้อมไปแตะลูกบิดประตูบานตรงหน้านั้น แต่ทว่าเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก รอยยิ้มราวกับเป็นผู้ชนะในเกมรักนี้ปรากฎขึ้นมาประดับบนใบหน้าก่อนจะแสร้งปั้นหน้านิ่งพร้อมหันหน้าไปหาอีกฝ่ายที่กำลังนั่งกุมศีรษะอยู่หลังจากที่ศีรษะของตนกระแทกกับเหล็กที่กั้นบนหัวเตียงนั้น
“ … ”
“ ผมลืมบอกอะไรคุณไปอย่างหนึ่ง ... ”
“ … ”
“ ถ้าคุณไม่ได้ป๊อดมากไปและอยากรู้ว่าความทรงจำอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่กลับคืนมาของคุณคืออะไร เย็นนี้ตอนห้าโมงคุณลองเข้าไปที่ห้องทำงานของจินยองดูสิ่ แล้วคุณจะรู้ทุกอย่างที่คุณอยากรู้มานานตลอดสามเดือนที่รักษาตัวเพื่อตามจีบคนรักของผม ... คุณมาร์คต้วน ”
xx.
เวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้เวลาสี่โมงครึ่งแล้ว ร่างโปร่งที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยกำลังรู้สึกปวดศีรษะขึ้นมา หากแต่ไม่สามารถล้มตัวลงนอนได้เหมือนทุกๆที อะไรบางอย่างมันกำลังค้างคาใจของเขาอยู่ อะไรบางอย่างที่กำลังแผดเสียงจากเบื้องลึกของจิตใต้สำนึกนั้น มันเป็นเสียงที่เอ่ยอยู่ซ้ำๆว่าให้เขาลุกจากเตียงเพื่อเดินไปตามที่คุณหมออิมแจบอมบอก หากแต่อีกใจหนึ่งกลับบอกอยู่ดังๆว่าอย่าเข้าไปรับรู้ นั่นอาจจะเป็นหลุมพรางของคนเจ้าเล่ห์ที่ต้องการหวังจะกำจัดศัตรูหัวใจอย่างตนออกไป ยิ่งความจำยังกลับมาไม่ครบ ถ้าได้ตกหลุมพรางที่คนเป็นหมอขุดเอาไว้ ก็ไม่ยากเลยที่จะทำให้อาการทรุดตัวลงอย่างหนัก
มาร์คไม่เชื่อว่าคนอย่างปาร์คจินยองจะโกหกเขาว่าไม่มีคนรัก ... เขาเชื่อมั่นในคำพูดของร่างบางอยู่เสมอ เขารอวันที่ทุกอย่างดีขึ้นเพื่อที่จะสารภาพความในใจออกไป
... หากแต่ความเชื่อใจก็ยังพ่ายแพ้ให้กับความอยากรู้อยากเห็นอยู่ดี ...
“ ห้องทำงานของคุณหมอปาร์คจินยองอยู่ตรงไหนครับ ? ” มาร์คต้วนค่อยๆเดินลากเสาเหล็กที่ห้อยถุงน้ำเกลือเอาไว้ตรงไปที่เคาท์เตอร์แผนกระบบประสาทที่มีพยาบาลในชุดสีฟ้าเข้านั่งอยู่สองสามคนอย่างเชื่องช้า
“ เดินตรงทะลุเข้าไปจนสุดห้องตรวจเลี้ยวขวามือ คุณหมอจินยองอยู่ห้องที่สามด้านซ้ายมือค่ะ ” พยาบาลนางหนึ่งอธิบายเส้นทางที่จะเดินทางไปยังห้องทำงานของคนตัวบางนั้นอย่างละเอียด มาร์คก้มโค้งขอบคุณเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงไปตามที่พยาบาลสาวบอก
ตลอดเส้นทางที่เดินทะลุผ่านห้องตรวจทั้งหกห้องนั้น ก้อนเนื้อภายในอกของเขายังคงเต้นอย่างบ้าคลั่งราวกับลุ้นระทึกในบางสิ่งที่เร้นลับมาตลอด เสียงที่ดังเซ็งแซ่เริ่มลดระดับลงจนกลายเป็นเงียบสนิทเมื่อเขาเดินเลี้ยวขวาไปตามป้ายที่เขียนกำกับตามลูกศรที่ชี้ไปทางด้านขวาว่าห้องทำงานของแพทย์ มาร์คก้าวเท้าทั้งสองข้างอย่างช้าๆ เขาไม่ต้องการให้ใครรับรู้ว่าเขาเดินผ่านมาทางนี้ หากแต่เสียงล้อเข็นของเสาน้ำเกลือกลับดังแกร๊กตาแรงลากมัน ร่างโปร่งจิ๊ปากด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะใช้แรงทั้งหมดอุ้มเสานั้นให้ลอยเล็กน้อย แม้จะเหลือบมองเห็นว่าเลือดข้นเริ่มไหลย้อนขึ้นมาแล้ว แต่เพียงอีกไม่กี่ก้าวเขาก็จะยืนอยู่ตรงหน้าห้องของคุณหมอที่เขารู้สึกพิเศษด้วย
“ อื้ออออ ... ”
“ ... ”
มาร์คหยุดยืนอยู่ตรงหน้าห้องทำงานที่มีป้ายระบุเอาไว้ข้างๆประตูว่า ‘ ปาร์คจินยอง ประสาทศัลยแพทย์ ’ ใบหน้าหล่อจ้องบานประตูตรงหน้าก่อนจะสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอดและปล่อยมันออกมา มือเรียวเอื้อมไปจับลูกบิดบานประตูนั้นเอาไว้เต็มมือแล้วบิดมันจนสุดและเปิดมันออก เพียงแค่เงยหน้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้น ความรู้สึกที่ชาวาบไปทั่วใบหน้าราวกับโดนแรงฟาดจากมือกระทบใบหน้า รู้สึกทุกอย่างมันโหวงไปเสียหมดจนแทบอยากจะทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าห้องนั้นหากแต่เขากลับพยายามเข้มแข็งที่จะกำเสาเหล็กนั้นไว้ ความเจ็บปวดที่แล่นปรี๊ดเข้าไปในสมองเริ่มกลับมาอีกครั้งพร้อมกับความทรงจำที่เพิ่มเข้ามาราวกับเจอตัวต่อของจิ๊กซอว์ที่เข้ากันแล้ว
อิมแจบอมกับปาร์คจินยอง .... ใช่แล้ว !!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ดวงตากลมยังคงทอดมองร่างทั้งสองร่างที่ดูใกล้ชิดแนบแน่นจนแทบไม่มีช่องว่างให้ลมพัดผ่านด้วยแววตาที่ไร้ความรู้สึก ร่างสูงโปร่งที่ดูคุ้นตากำลังเล็มริมฝีปากบางของคนใต้ร่างอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะผละออกมาซุกไซร้ซอกคอขาวผ่องนั้นอย่างเอาแต่ใจ และช่องว่างนั้นก็สามารถทำให้ร่างด้านใต้มองเห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างเขายืนอยู่ตรงหน้าห้องนั้นผ่านด้านหลังร่างสูง ดวงตาเรียวเบิกกว้างพร้อมพยายามผละร่างหนาที่คร่อมอยู่นั้นออกไป
“ พี่มาร์ค !!! ”
-TBC .xoxo
สวัสดีผู้อ่านทุกคนทั้งที่ติดตามและหลงทางมาอีกครั้งนึงนะคะ ' ^ '
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงตอนหกแล้ว กรี๊ดดดดดดด !!!!
ตอนนี้จะเป็นตอนจบแล้วนะคะ เศร้าเนอะ ... #ผิด
อาจจะมีสเปฯปิดท้ายให้รู้สึกไม่ดราม่าเกินไปเนอะ
แต่รู้สึกว่าตอนนี้กลั่นอารมณ์ดราม่าขั้นสุด รู้สึกแย่เลยทีเดียวแง
รอติดตามตอนสุดท้ายด้วยนะคะงุ้ยงุ้ย
ย้ำอีกครั้ง .... ฟิคเราไม้ได้ใจร้ายนะคะฮึกฮึกฮึก นั้มตาไหลนะ T_T
อีกสองวันเราจะย้ายเข้าหอแล้ว /ปรบมือ/
พร้อมรับน้องค่ะ U_U /ทรุดตัวร้องไห้/
อาจจะไม่มีแรงมาสู้ฟัดกับฟิคอยากที่เคยเกริ่นๆไว้ในหลายตอนเพราะต่อจากรับน้องก็งานปฐมนิเทศเลย
กลายเป็นคนไม่มีเวลาไปแล้วแง
แต่ก็ไม่ทิ้งการแต่งฟิคนะะ รออ่านเรื่องอื่นๆด้วยนะคะ
แล้วก็อีกรอบ ตุ๊ดปูซาน ... coming soooooon !!!!!
เอาเป็นว่าขอบคุณที่ติดตามกันมาถึงตอนนี้นะคะ
สามารถพูดคุยทักทายติชมฟิคเราทางทวิต (.) ได้เลยน้า เย้เย้
ไว้เจอกันใหม่ในตอนต่อไปโน้ะ อย่าลืมอ่านเสร็จเม้นด้วยนะคะ
พลีส พลีส พลีส พลีส พลีส พลีส T . T
รักคนอ่านทุกคนนะฮิฮิฮิ <3
:) Shalunla
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อิพี่บี๊ นังบ้า แงงงงงงง
ทำเหนียงเสียใจไม่พอยังทำร้ายร่างกายเขาอีก นิสาย ;_ ;
เลาเชียร์พี่หวังสุดใจ จีบแพทย์ฝึกหัดชเวยองแจซะแง
เกือบเห็นใจพี่บีละ ตอนอ่านข้อความนางส่งให้จินยอง5555555555555555555555
ผีบ้าอะ โอ้ย ทำไมร้ายกาจงี้ ให้พี่มาร์คมาเห็นอะไร ไม่สงสารเขาบ้างหรอเอ็ง T_T
เขาออกจะน่ารักขนาดนั้น(เดี๋ยวๆๆ ผิดประเด็นละ)
ปอลอพี่มาร์คจำที่สองเจเป็นแฟนกันได้แล้วจะจำเรื่องของจินยองได้รึยังน่อ ,_,
ตอนแรกไม่คิดว่าจะมาเห็นถึงขนาดนี้นะ โอ้ว ให้ตายเถอะ
ปาร์คจินยอง ฉันขอคำอธิบายดีๆจากคุณด้วยค่ะ !!! วาย!?!?!?!
ช่วงแรกๆของตอนสงสารน้องแตงมากอะ นึกว่าจะสู้พี่บีแล้ว
สุดท้ายก็โดนปล่อยใน ;;-;; สงสารแต่ชอบ 55555 เห้ย อะไร
วอนพี่หวังมาดามใจน้องแตงที ไปแจ็คแจซะงั้น 555555 ;p
แล้วตอนหน้าจะจบแล้วอะ ทั้งดีใจและเสียใจ งื้ออออ
เรื่องราวจะจบลงแบบไหนกัน ตื่นเต้นนนนน ><
แล้วก็ขอสเปเชี่ยลหวานๆด้วยนะจ้ะ จุ๊บุ
โงรยยยย มันเหมือนๆตอนนี้เลย แต่มาร์คแค่จำไม่ได้ ว่าเคยคบกับจินยอง แต่ตอนเมื่อกี้คือแบบ ทำไมมาร์คมาเห็นช็อตเด็ด แล้วมันแบบ เหมือนเนียร์กำลังยอมเจบี... แงงงง รอต่อนะคะ