ตอนที่ 2 : { O S } F A N T A : 환타 {Jinyoung x Mark} 。
{ F A N T A : 환타 }
pairing ; Jinyoung x Mark
author ; pinnathero
genre ; little romantic & comedy
type ; PWP
rate ; pg-15
(หมายเหตุ : 대화가 필요해 (Need to talk) / 바닐라 어쿠스틱 (Vanilla Acoustic) : http://youtu.be/3TnR6akg-ww )
warning ; อยากมีแท็กกับเขาซักเรื่อง สกรีมเรื่องนี้ช่วยแท็ก #fantajymk ในทวิตด้วยน้า เราอยากรู้ว่าคนอ่านมีความคิดเห็นและฟีลลิ่งอะไร ขอบคุณนะก้ะ T_T
‘ เมื่อมาร์คต้วนติดแฟนต้ายิ่งกว่าแฟนตัวเอง .. ‘
xx.
" มาร์คฮยอง เลิกกินแฟนต้าซักทีเถอะ ไม่เบื่อบ้างรึไง ? "
พ่อหนุ่มร่างใหญ่ที่อิมพอร์ตจากฮ่องกงอย่าง แจ็คสันหวัง บ่นออกมาด้วยน้ำเสียงติดจะงอแงใส่พี่ใหญ่ตัวบางของวงอย่าง มาร์คต้วน ที่กำลังใช้นิ้วเรียวยาวเปิดฝากระป๋องน้ำอัดลมสีม่วง ภายในถูกบรรจุด้วยของเหลวรสหวานสีม่วงถูกอัดลมให้ซ่าเป็นกระป๋องทีห้าของวัน
" ไม่เบื่อนะ "
ว่าแล้วก็กรอกของเหลวสีม่วงใสเข้าไปในโพรงปากอย่างไม่ใสใจคู่สนทนาที่กำลังทำหน้าเซ็งใส่ตน
" จินยอง ฉันบอกแกกี่รอบแล้วว่าให้บอกพี่แกให้เพลาๆน้ำแฟนต้าลงบ้างเนี่ย ! " แจ็คสันโวยวายใส่เพื่อนไลน์เดียวกันอย่าง ปาร์คจินยอง หรือ จูเนียร์ ที่กำลังนั่งเท้าคางอ่านหนังสือการ์ตูนอย่างไม่สนอกสนใจคนโวยวายเป็นบ้าเป็นหลังเลยซักนิด
... ที่โวยวายหนักแบบนี้ ความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่แจ็คสันคนนี้จะต้องมาเดือดร้อนด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะสตาฟนูน่าบอกว่า ถ้าพี่ใหญ่หน้าหวานยังคงกินแฟนต้าจนน้ำหนักขึ้น ในฐานะที่เขาเป็นรูมเมทของเจ้าตัวก็จะต้องโดนลงโทษตามด้วยและหนักกว่า ในข้อหาไม่ดูแลรูมเมทด้วยกันเอง ...
" ฉันขี้เกียจบอกแล้ว " คนตัวสูงกว่าเหลือบสายตาเรียวไปมองคนตัวบางที่ยังคงยกกระป๋องน้ำอัดลมสีม่วงดื่มอยู่ซักพักแล้วหันหน้ามาอ่านหนังสือการ์ตูนต่อ
" อะไรของพวกแกกันเนี่ยโว้ยยยยยยยย ทะเลาะกันรึไง ? “ ชายหนุ่มร่างเตี้ยกว่าใครเพื่อนถอดหมวกออกจากหัวกลมๆนั้นพร้อมยกมือยีกลุ่มผมหนาดำสนิทของตนด้วยความหงุดหงิด
“ เปล่านี่ ”
“ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันหรอก ก็แค่ ... มาร์คฮยองมีแฟนใหม่ ” คนเป็นน้องเอ่ยจบก็ลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของตนเองพร้อมหนังสือการ์ตูนในมือไปทันที ปล่อยไว้เพียงแค่พี่ใหญ่ผมแดงและชายหนุ่มไวด์แอนด์เซ็กซี่ให้นั่งอยู่ในห้องโถงของหอพักเพียงลำพังสองคน ทั้งสองยังคงมองไปยังบานประตูสีครีมที่พาร่างของใครบางคนเข้าไปในห้องแล้วปิดตัวลง
“ ฮยองทะเลาะอะไรกับจินยองมันรึเปล่าวะ ทำไมมันดูเย็นชาแปลกๆ ” แจ็คสันหย่อนตัวนั่งลงข้างๆพี่ใหญ่ตัวบางที่ตอนนี้ละมือออกจากกระป๋องน้ำอัดลมได้เสียที แต่มือเรียวบางนั้นกลับยกขึ้นมาเคาะหัวทุยๆของตนไปสามที พร้อมทำหน้าหงุดหงิดใส่ ก็ทำให้คนขี้สงสัยอย่างแจ็คสันหวัง ยิ่งสงสัยเข้าไปอีก
“ เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ” ส่ายหัวไปสองสามที ก่อนที่มาร์คจะนั่งชันเข่าขึ้นมาพร้อมยกแขนเรียวเล็กทั้งสองข้างกอดรอบเข่าทั้งสองข้างของตนไว้ด้วยความหงุดหงิดใจ พวงแก้มเนียนเริ่มพองลมออกมา พอเห็นว่าพี่ใหญ่ของวงทำท่าทางน่ารักปนหงุดหงิดแบบนี้ แจ็คสันบอกได้เต็มปากเลยว่า มาร์คฮยองแม่งกำลังงอนอะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ
“ แน่ใจเหรอ แต่ผมว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆอ่ะ ใช่มะ ? ”
“ ไม่มีอะไรหรอกหน่า ” คนตัวเล็กกว่าบอกปัดก่อนจะลุกยืนขึ้นพร้อมคว้ากระป๋องน้ำอัดลมที่วางระเกะระกะทั้งหมดขึ้นแนบอกเตรียมไปทิ้งถังขยะด้านนอก ปล่อยให้หนุ่มฮ่องกงขี้สงสัยอย่างแจ็คสันต้องงงกับเรื่องนี้ต่อไป
“ อะไรของพวกเขาวะ ? ”
xx.
ร่างบางของคนเป็นพี่ใหญ่ยังคงนอนแผ่ตัวอยู่บนเตียงของตนในห้องนอนที่แชร์ร่วมกันกับหนุ่มฮ่องกงของวงมาประมาณสามชั่วโมงกว่าโดยที่ไม่สนใจเสียงภายนอกเลยว่ามีคนเรียกเขากี่รอบแล้วตอนนี้ กลุ่มผมแดงนิ่มยังคงถูกมือเรียวยีจนฟูฟ่องไร้ทรงก่อนจะยกมือก่ายหน้าผากมนนั้นและถอนหายใจออกมาโดยที่มืออีกข้างยังคงถือกระป๋องน้ำอัดลมสีม่วงที่เพิ่งหยิบก่อนเข้ามาในห้องนอน
ความจริงอาการติดเครื่องดื่มอัดลมแฟนต้าเป็นชีวิตจิตใจนั้นไม่ได้เกิดมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่เพิ่งเกิดขึ้นได้เมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เอง โดยที่คนติดก็รู้สาเหตุดีแก่ใจว่าทำไมถึงได้แต่กินน้ำอัดลมสีสันฉูดฉาดนั่นไปได้วันละหลายๆกระป๋องทั้งๆที่รู้ดีว่ากินมากกว่านี้ อาการของโรคกระเพาะที่เคยเป็นก็อาจจะกลับมาถามหาอีกครั้งก็ได้
สาเหตุหลักมันก็ไม่ได้ทำไมนักหรอก บางทีถ้าบอกเหตุผลที่เขาติดน้ำอัดลมกระป๋องไป หลายคนก็อาจจะมองว่ามาร์คต้วนเป็นคนงี่เง่าเงียบคนหนึ่งก็เป็นได้ แต่เป็นใครก็ต้องรู้สึกแบบเขาและอยากทำแบบเขาเพื่อเป็นการ ‘ ประชด ’ บ้างแหละ
มาร์คต้วนเป็นคนครับ ไม่ใช่พระอิฐพระปูน
ไม่รู้ทำไมช่วงนี้คนตัวสูงที่ครอบครองตำแหน่งออมม่าของวงถึงติดหนังสือการ์ตูนมากกว่าเขากันนะ ทั้งๆที่ช่วงก่อนๆ จินยองมักจะติดมาร์คจนสมาชิกในวงชักรำคาญ บ้างก็แซวว่าข้าวใหม่ปลามันก็แบบนี้ บ้างก็บอกว่าหมั่นไส้คู่รักใหม่บ้างล่ะ แรกๆทั้งเขาและจินยองก็ต่างเขินกันและกัน แต่ตอนนี้เหรอ ...
... คู่รักใหม่งั้นเหรอ ? .. ข้าวใหม่ปลามันงั้นเหรอ ? ...
... เหอะ ตลกสิ้นดี ...
เพราะตั้งแต่ที่ปาร์คจินยองติดหนังสือการ์ตูนมากเกินไปจนไม่สนใจคนรักอย่างเขานั่นแหละ ทำให้มาร์คต้วนคนนี้ต้องไปหาสิ่งอื่นที่ทดแทนความสนใจของอีกฝ่าย ...
นั่นก็คือ ... น้ำอัดลมยี่ห้อแฟนต้า !
ความจริงเขาจะไม่กินเลยมันก็ได้อยู่แล้ว แต่มันก็มีบางอารมณ์ที่น้ำอัดลมสีสันสวยงามนั่นจะเหมือนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่กินแล้วก็เมา เมาแล้วก็ลืม แต่ต่างกันตรงที่ว่า ไอ่น้ำสีสันสดใสนี่มันไม่ได้ทำให้เขาเมาเลยนั่นแหละ
จากที่ดื่มแค่ครั้งเดียว ก็กลายเป็นหลายครั้ง ... จากหนึ่งกระป๋อง ก็กลายเป็นหนึ่งแพ็ค จนหนักเข้าๆก็กลายเป็นสี่แพ็คต่อวัน
แล้วยิ่งเมื่อวันก่อนที่เด็กแสบมกโพแลนด์แผลงฤทธิ์อยากกินน้ำอัดลมไปนั้น เขาก็ยังคงกินมันไปเรื่อยๆ ไม่ใช่จะล่อให้น้องรู้สึกอยากกินตามหรืออย่างไร แต่เพราะเขาเห็นใครบางคนที่เถียงกับน้องแล้วก็รู้สึกหงุดหงิด
... ขนาดยองแจแสนงอแง จินยองยังคุยด้วยเยอะกว่าเขาที่เป็นคนเงียบๆเสียอีก แม้ว่านั่นจะเป็นการทะเลาะกันก็เถอะ ...
บางครั้งภายในหัวใจก็เคยตั้งคำถามอยู่ไว้หนึ่งคำถาม รอวันที่หมดความอดทนที่สุดถึงจะถามอีกฝ่ายไป มันอาจจะไม่ได้เจ็บแสบเหมือนที่แจ็คสันหรือแจบอมพูดบ่อยๆ แต่สำหรับคนไม่โต้ตอบอะไรมากอย่างมาร์คต้วน มันก็คงเป็นคำถามที่ดีที่สุดแล้วล่ะมั้ง
‘ ถ้าเห็นหนังสือการ์ตูนนั่นสำคัญกว่าเขา แล้วจะมาขอคบกันทำไม ทำไมไม่ไปคบกับหนังสือการ์ตูนไร้ชีวิตพวกนั้นกัน ? ‘
“ มาร์คฮยอง มากินข้าวได้แล้ว ” เสียงใสของ คิมยูคยอม ตะโกนจากข้างนอกห้องเข้ามาให้ได้ยินหลังจากที่เคาะประตูไปห้ารอบแล้วคนในห้องไม่ตอบกลับไป ซึ่งคนในห้องก็ได้แต่พยักหน้าให้ตัวเองเบาๆก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน พร้อมคว้ากระป๋องน้ำอัดลมที่นอนกลิ้งอยู่บนเตียง แต่ทว่า ...
... นี่มันเลือดนี่นา ? ....
คนตัวเล็กหันไปรอบๆตัวก็ไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดที่สามารถกลั่นตัวออกมาเป็นเลือดเลอะบนเตียงและกระป๋องน้ำอัดลมของเขาได้ แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นรอยอะไรบางอย่างที่มองเห็นได้ชัดบนเข่าด้านขวาของตน นั่นคือผลงานความซุ่มซ่าไม่เล็กไม่น้อยของมาร์คต้วนเลยทีเดียว
... อ๋ออออ .. ที่แท้ก็แผลที่สะดุดล้มตอนเอากระป๋องไปทิ้งนี่เอง ...
ตอนนี้ตนกำลังต้องการคนมาปฐมพยาบาลเพราะจากที่เห็นในกระจกบานใหญ่ตอนนี้คือ ใบหน้าน่ารักกลับซืดเผือดคล้ายจะเป็นลม ริมฝีปากที่ตอนแรกยังพอมีเลือดฝาด ตอนนี้กลายเป็นว่าซืดเผือดแห้งผาก สภาพที่สามารถนิยามร่างของมาร์คต้วนได้ในตอนนี้คือ ... กระดาษเอสี่สีขาว ดีๆนี่เอง แต่ก็ยังใจกล้าเอาชายขากางเกงสามส่วนเช็ดให้เลือดมันหายไปจากเข่านั้น
... โอเคๆ มาร์คต้วนคนนี้เป็นคนค่อนข้างกลัวเลือดซักนิดหน่อย แต่ก็ไม่คิดหรอกว่าพอมาเจอแบบนี้แหละจะเป็นมากขนาดนี้ ...
ร่างบางค่อยๆเดินไปยังบานประตูห้อง หมุนลูกบิดประตูเพื่อให้บานประตูห้องสีครีมสว่างนั้นเปิดออก ค่อยๆยื่นใบหน้าอันซีดเซียวออกไปมองข้างนอก ก็พบว่าไม่มีใครอยู่ในห้องโถงนั่งเล่นเลยซักคน จะมีก็เพียงแต่ ...
‘ ปาร์คจินยอง และ แฟนใหม่ ’
ในเมื่อสนใจแฟนใหม่ในมือมากกว่า เขาก็ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องถามว่าสมาชิกในวงอยู่ไหนกันหมด สู้ไปเดินตามหาเองยังง่ายกว่าหลายเท่า ว่าแล้วคนตัวบางก็ค่อยๆลากเท้าเรียวเล็กของตนออกมาจากขอบเขตของห้องนอน พยายามที่จะไม่เดินงอเข่าเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายสังเกตถึงความผิดปกติของเขา มองซ้ายมองขวาหามักเน่ของวงที่เพิ่งเรียกให้ออกมากินข้าวเมื่อสักครู่นี้ในห้องครัว แต่ก็ไม่เจอใครเลยซักคน มือเรียวยกขึ้นเกาหัวทุยๆนั้นด้วยความงุนงง ... หรือว่าหูฝาดไปวะ ?
“ ยูคยอมกับพวกฮยองเขาออกไปหาอะไรกินข้างนอกแล้ว ” เสียงทุ้มของสมาชิกเพียงคนเดียวในหอพักที่หลงเหลืออยู่เอ่ยขึ้นแม้ว่าสายตาจะยังจดจ้องอยู่แต่หนังสือการ์ตูนไม่เลิก มาร์คได้แต่พยักหน้าเบาๆก่อนจะเดินไปที่ตู้เย็นหลังใหญ่ในห้องครัว
มือเรียวเปิดตู้เย็นออกมาพบว่าน้ำอัดลมสีสันฉูดฉาดที่ตนชื่นชอบ จากที่เหลือเพียงสองกระป๋องสุดท้าย และเขาก็อุตส่าห์ตั้งเป้าหมายแล้วว่าหลังจากหมดสองกระป๋องสุดท้ายนี้ มาร์คต้วนจะเลิกกินมันไปแบบถาวร แต่บัดนี้จากที่มีสองกระป๋อง มันดันกลายเป็นว่ากระป๋องน้ำอัดลมรสโปรดนั้นมีอยู่เต็มชั้นวางในตู้เย็น ก็แปลกใจว่าใครซื้อมาไว้ แต่ก็ไมได้เอ่ยถามไป ก่อนจะเก็บความสงสัยไว้ในอกแล้วเดินลากเท้าตรงไปที่ชั้นวางรองเท้าเพื่อหยิบรองเท้าผ้าใบมาสวมใส่โดยที่ไม่เอ่ยพูดจากับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
“ เพลาๆลงบ้างเถอะ ไอ่น้ำอัดลมนั่นน่ะ เดี๋ยวปวดท้องเอานะ ” ประโยคแรกของสัปดาห์ที่คนตัวโตเอ่ยคุยกับคนเป็นพี่ ถ้าลดน้ำเสียงประชดประชันลงอีกสักหน่อย มันอาจจะเป็นไปได้ง่ายที่คนตัวเล็กจะแอบตื้นตันใจเพราะความห่วงใยที่อีกฝ่ายไม่ลืมที่จะมอบให้ตน
“ ยุ่งอะไรด้วยล่ะ ก็อ่านการ์ตูนของนายไปสิ่ จะยุ่งกับฮยองทำไม ”
“ ก็อยากยุ่ง ”
“ ยุ่งกับการ์ตูนที่รักนายไปเถอะ ”
“ ฮยองจะไปไหน ? ”
“ ออกไปข้างนอก ถามทำไม ? ” เสียงทุ้มกว่าของคนตัวบางเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือเรียวที่กำลังผูกเชือกรองเท้าอยู่ จะให้บอกออกไปว่าจะไปร้านขายยา ก็โดนอีกฝ่ายเค้นหนักสิ่ว่าไปทำอะไรมาอย่างนั้นอย่างนี้ เดี๋ยวก็โดนหาว่าสำออยเรียกร้องความสนใจ ทั้งๆที่ตัวตนของคนตัวเล็กนั้นไม่ได้มีนิสัยชอบเรียกร้องความสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว
“ หน้าซีดแบบนั้นจะออกไปข้างนอกได้ยังไง ? ” เพียงแค่ประโยคไม่สั้นไม่ยาวที่เพิ่งเอ่ยออกมาจากปากของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักนั้น ใบหน้าน่ารักที่กำลังก้มหน้าก้มตาจดจ้องการผูกเชือกรองเท้าของตนถึงกับชะงักแล้วรีบหันมามองอีกฝ่ายที่ยังคงจ้อหนังสือการ์ตูนอย่างเอาเป็นเอาตาย
‘ จ้องมันเข้าไปหนังสือการ์ตูนน่ะ ถ้าจ้องแล้วมันท้องได้ ป่านนี้มันคงคลอดลูกออกมาคับหอพักแล้ว บ้าเอ้ย ! ’
“ สังเกตด้วยรึไง ? ”
“ ... ” ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายที่หายใจร่วมกันในหอพัก คนเป็นพี่ก็คิดไว้ในใจอยู่แล้วว่าตาบ้าโอตาคุนั่นคงจะมั่วๆสั่วๆเอาเองนั่นแหละ โดยที่ไมได้สนใจเลยว่าร่างสูงกว่ากำลังยืนอยู่ด้านหลังของคนตัวเล็กที่กำลังผูกเชือกรองเท้าอีกข้างเสร็จ
และความอบอุ่นจากฝ่ามือหนาก็แทรกซึมเข้าไปผ่านกลุ่มผมหนาสีแดงส้มที่ถูกอีกฝ่ายวางมือไว้ ริมฝีปากเม้มตึงเป็นเส้นตรง รู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่ไม่เป็นปกติ ใบหน้าน่ารักเริ่มรู้สึกเห่อร้อนจากที่รู้สึกว่าใบหน้าของตนกำลังเย็นเยียบและซีดมาก ริ้วแดงระเรื่อประดับอยู่บนใบหน้ายิ่งทำให้ดูน่ารักขึ้นกว่าทุกที มือเรียวค่อยๆยกขึ้นมาแตะที่ลำคอขาวของตนเพื่อจับชีพจรหัวใจของตัวเอง อากัปกิริยาเหล่านี้ มักจะอยู่ในสายตาปาร์คจินยองทุกอย่าง จึงไม่แปลกที่คนตัวสูงกว่าจะหัวเราะในลำคอออกมาเช่นนั้น
“ หัวเราะทำไม ปาร์คจินยอง ? ” เงยใบหน้าน่ารักที่แดงระเรื่อขึ้นมองคนเป็นน้องที่ยืนค้ำหัวอยู่ด้วยใบหน้าหงุดหงิด ดวงตากลมโตสบกับดวงตาเรียวคมที่จดจ้องร่างเล็กอยู่นานพอสมควรแล้ว พอได้เห็นใบหน้าอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ก็ยิ่งทำให้หัวใจก้อนน้อยๆกลับเต้นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง รีบก้มหน้าซ่อนแววตาเขินอายและสับสนของตนทันที
... เพราะรอยยิ้มอ่อนโยนบ้าๆของเจ้าเด็กนี่แท้ๆเลย ให้ตายสิ่ !
“ ก็หัวเราะคนติ๊งต๊อง ” ท่อนขายาวก้าวเดินมาประชันหน้าคนเป็นพี่ก่อนจะค่อยๆย่อตัวลงให้ความสูงเสมอกับอีกฝ่ายที่กำลังก้มหน้าเม้มริมฝีปากอยู่
“ ใครติ๊งต๊อง ... อย่ามามั่ว ” ดวงตากลมโตที่ดูใสเพราะมีน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตาที่เพียงพอเสมองไปด้านข้างเพื่อที่จะไม่มองอีกฝ่าย ไม่ได้งอนหรอกนะ แต่แค่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ ...
... ยอมโดนต่อว่าหนักๆเลยก็ได้ครับว่า มาร์คต้วนเป็นคนฟอร์มจัด ...
“ ก็ ... คนแถวนี้ ” มือหนาเอื้อมมาบีบพวงแก้มเนียนทั้งสองข้างของคนรักพร้อมยืดออกเบาๆ ดวงตากลมโตของเจ้าของยิ่งส่งสายตาเคืองใส่คนขี้แกล้ง แต่มีหรือที่จะสนใจ มันไมได้ทำให้ปาร์คจินยองคนนี้กลัวเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังทำให้คนเป็นน้องมองว่าคนเป็นพี่กว่านั้น ‘ น่ารัก ’ มากกว่า
“ มั่ว ”
“ เข่าไปโดนอะไรมา ? ” ไม่รู้ว่าพระเจ้าสรรค์สร้างให้เด็กบ้าจินยองสายตาดีเหมือนนกเหยี่ยวหรืออย่างไร ขนาดว่าคนตัวเล็กพยายามเปลี่ยนมาใส่กางเกงสี่ส่วนสีเข้มแล้วแท้ๆ เจ้าเด็กนี่ยังสังเกตเห็นถึงสิ่งผิดปกติบนร่างกายของเขาได้อีก
“ อะไรโดนอะไร ไม่มีนี่ ” เรียวขาเล็กรีบชักกลับมาใกล้ตัว มือบางทำท่าว่ากำลังปกปิดอะไรบางอย่างอยู่ ใบหน้าน่ารักที่ปกติจะนิ่งๆกลับเลิกลั่กออกมาให้เห็นเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งทำเป็นเอามือไปปัดที่เข่าด้านที่เป็นแผลเหมือนว่าปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ แต่ก็นั่นแหละ ...
... มาร์คต้วนเคยทำอะไรเนียนกับเขาเป็นด้วยรึไง .. ไม่มีทางซะหรอก ...
“ รู้ว่าเป็นคนไม่เนียนก็อย่ามาปกปิดผมเลยฮยอง ผมรู้ตั้งแต่เห็นหน้าฮยองคนกลัวเลือดซีดแล้วเถอะ ”
“ รู้อะไร นายไม่ได้รู้หรอก วันๆก็จ้องอยู่แต่การ์ตูนจนมันจะคลอดลูกคับหอพักแล้ว อย่ามามั่วได้ไหมเล่า ? ” แม้ว่าคนเป็นพี่จะเพิ่งเรียนรู้ภาษาเกาหลีได้ไม่นานมากนัก แต่ดูเหมือนว่า ประโยคที่ต้องการจะต่อว่าเหน็บแนมอีกฝ่ายนี่ ทำให้รู้ว่าคนตัวเล็กนั้นช่างใช้ภาษาเกาหลีเพื่อต่อว่าได้เก่งจริงๆ
“ ลุกมานี่เลย ” ว่าแล้วมือหนาของคนเป็นน้องจับเข้าไปที่มือเรียงบางนั้นพร้อมดึงให้อีกฝ่ายลุกขึ้นยืน จูงมือคนตัวเล็กกว่าให้เดินตามเขาไปนั่งที่โซฟาของหอพัก พยุงร่างเล็กกว่าของคนเป็นพี่ให้ค่อยๆนั่งลง ก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องเก็บของที่อยู่ใกล้ๆกับห้องนอนเดี่ยวของตนเพื่อไปเอาอะไรบางอย่าง และเดินออกมาพร้อมกับ ...
... กล่องปฐมพยาบาลประจำหอพัก ...
“ ฮยองเลิกกางเกงขึ้นสิ่ ” ร่างสูงหย่อนตัวนั่งลงกับพื้นไม้ปาร์เก้ที่ปูทั่วพื้นหอพักซึ่งนั่งตรงกับคนเป็นพี่ใหญ่ที่ตอนนี้เริ่มหน้าซีดลงอีกครั้งหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาจดจ้องไปที่หัวเข่าเนียนของอีกฝ่ายที่ถูกกางเกงผ้าสี่ส่วนปกปิดมันไว้
“ ม .. ไม่เอา ” คนตัวเล็กกว่าส่ายหัวรัว ผมนิ่มสีแดงส้มสะบัดไปตามแรงส่ายหัวทุยๆนั้น พร้อมชักขาทั้งสองข้างให้ห่างจากมือหนานั้น
จะว่าไปแล้วมาร์คต้วนเป็นคนดื้อไหม ... ค่อนข้างเป็นคนดื้อเงียบ ไม่ได้ดื้อแบบเปิดเผยอย่างยองแจหรือแบมแบม ก็ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่ดื้อมากไม่แพ้กับเจ้าพวกเด็กนั่นแน่นอน
“ มาร์คฮยอง อย่าดื้อสิ่ครับ ” มือหนาพยายามจับไปที่ข้อเท้าข้างที่บาดเจ็บของอีกฝ่ายที่กำลังดิ้นหนีอยู่ให้หยุดนิ่ง หากดิ้นมากไปกว่านี้ แผลก็ไม่จะแห้ง แล้วก็จะเจ็บมากกว่าเดิมอีก
“ ไม่ได้ดื้อ แต่ฮยองไม่ได้เป็นอะไรแล้วจริงๆนะ ”
“ ไม่เป็นอะไรได้ยังไง เลือดออกเยอะแบบนี้เนี่ยนะไม่เป็นอะไร ? ” แสร้งชี้นิ้วไปที่แผลบนหัวเข่าที่ยังคงถูกกางเกงผ้าปกปิดอยู่ใกล้ๆ คนตัวเล็กกว่าหลับตาปี๋พร้อมเผลอร้องซี้ดด้วยความกลัวเจ็บออกมาดัง จนแล้วจนเล่ามาร์คฮยองก็ยังคงดื้อไม่เปลี่ยนแปลง ได้แต่หัวเราะในลำคอเบาๆ แต่ก็ยังโดนอีกฝ่ายจับได้ พร้อมส่งสายตาค้อนใส่ตนอีกหนึ่งลูก
“ เดี๋ยวมันก็หายแล้ว ไม่เป็นไรจริงๆ ”
“ มาร์คต้วน ” จินยองกดน้ำเสียงให้ต่ำลงเอ่ยชื่ออีกฝ่าย จนคนเป็นพี่ก็ชักจะกลัวอีกฝ่ายขึ้นมามากกว่าแผลที่เข่าแล้วนิดหน่อย
“ โอเคๆๆๆ งั้นเอางี้นะจินยองอ่า ... ฮยองจะให้นายดูแผลฮยองก็ได้นะ แต่ว่า ... ”
“ ครับ ? ” คนเป็นน้องเลิกคิ้วสูงเพื่อต้องการคำตอบจากอีกฝ่ายที่เว้นช่วงมาซักพักหนึ่งและเขาก็กำลังรอคำตอบอยู่ว่าคนตัวเล็กของเขาจะพูดว่าอะไรต่อ
“ เอาแฟนต้ามาให้ฮยองกระป๋องหนึ่งดิ่ ... ”
โธ่ถังงง .... มาร์คต้วนฮยอง
xx.
“ อ่ะนี่แฟนต้าของฮยอง ” หลังจากฟังข้อเสนอของคนตัวเล็กว่าจะเปิดแผลให้ดูแต่ต้องแลกกับแฟนต้ากระป๋องสีม่วงสดใสที่แช่ตัวอยู่ในตู้เย็นหลังใหญ่นั้น ลมแทบจับปาร์คจินยองให้หงายหลังล้มตึงทันทีที่ได้ยิน
จนตัวเองจะตายอยู่รอมร่อก็ยังจะต้องแลกกับแฟนต้าบ้าบอนี่อยู่อีกเนี่ยนะ ?
เชื่อเขาเลยล่ะ ...
“ ขอบใจ ” รับกระป๋องน้ำอัดลมสีม่วงที่คนเป็นน้องยื่นให้มาถือไว้ในมือพร้อมเปิดฝากระป๋องอย่างชำนาญ พอได้ยินเสียงซู่ซ่าภายในกระป๋อง คนตัวบางถึงกับตาลุกวาวก่อนจะกรอกน้ำหวานอัดลมสีม่วงนั้นเข้าไปในโพรงปากทันที
“ ทีนี้ฮยองเลิกกางเกงให้ผมดูแผลได้รึยัง ? ”
“ ก็ได้ๆๆ ” มือเรียววางกระป๋องน้ำอัดลมไว้ที่พื้นด้านล่าง ก่อนจะเลิกขากางเกงผ้าสี่ส่วนที่ปกปิดแผลที่เข่าให้สูงขึ้นมาถึงต้นขาขาวเนียนนั้น ใบหน้าหล่อของคนตัวสูงเกิดอาการร้อนผ่าวแต่ก็พยายามสงบสติที่กำลังกระเจิดกระเจิงอยู่ภายใน แล้วมาสังเกตแผลที่หัวเข่าของคนเป็นพี่ พบว่าแผลบริเวณหัวเข่าที่ร่างบางซุกซ่อนไม่ยอมให้ดูนั้น มันมีขนาดใหญ่มากกว่าทุกครั้งที่เห็น
“ ทำไมแผลมันใหญ่ขนาดนี้ ฮยองไปทำอะไรมา ? ” จินยองเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความโมโหหงุดหงิดที่คนตัวเล็กไม่ดูแลตัวเองดีๆปะปนกับความเป็นห่วงที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ ก็ ... ”
“ ก็อะไรฮยอง ? ” คนเป็นน้องพยายามเค้นคำตอบออกมาจากเรียวปากบางนิ่มนั้นด้วยสายตาที่ดูจริงจังจนน่ากลัว
“ ก็เมื่อตอนเช้าไปทิ้งขยะข้างนอกมา แล้วมัวแต่มองกระป๋องแฟนต้าอยู่ เลยไม่ได้ดูว่ามีก้อนหินมันวางไว้แถวนั้น มันก็เลย ... ” ร่างบางสารภาพความจริงออกมาจนหมดด้วยความสำนึกผิด แต่พอพูดถึงกระป๋องน้ำอัดลมสีนั่นก็แทบอยากยกมือขึ้นมาเขกหัวตัวเองซักสี่ห้าที ไม่น่าบอกออกไปจนหมดเลย เดี๋ยวก็คงจะโดนอีกฝ่ายต่อว่าอย่างหนักแน่ๆ
“ ซุ่มซ่าม ... มัวแต่ห่วงกระป๋องน้ำอัดลม ไม่ดูตาม้าตาเรือ มันใช่เรื่องไหมฮยอง ? ” มือหนายกขึ้นเขกหัวทุยๆของคนเป็นพี่โดยไมได้ดูความแก่อ่อนของวัยเลยแม้แต่น้อย คนตัวเล็กกว่าเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดเพราะมะเหงกที่ประเคนมาให้นั้น มันไมได้เบาๆเหมือนที่ตัวเองเขกเองเพราะกลัวเจ็บเองเลยแม้แต่น้อย
“ โอ้ย ! มันเจ็บนะจินยอง ”
“ เจ็บนั่นแหละดี วันหลังจะได้ระวังตัวเองมากกว่าเดิม ” แม้ว่าคนตัวสูงจะดุด่าอีกฝ่ายเสียจนคนเจ็บจะร้องไห้ออกมา แต่เขาก็ไม่สนใจ มือหนาจับท่อนขาเรียวข้างที่มีแผลใหญ่พาดบนตักของตน และยังคงจัดการเอาสำลีชุบกับน้ำเกลือในขวดเพื่อทำความสะอาดแผลให้คนตัวเล็ก
“ แต่มันเจ็บนะ ! ลองให้ฮยองเขกนายแรงๆดูบ้างไหมล่ะ ? ”
“ ไม่ต้องเลย คนซุ่มซ่าม คนไม่ระวังตัวเอง ”
“ ก็มันเป็นเพราะนายนั่นแหละ ! ”
“ ผมทำไม ? ” มือหนาจับน่องอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนจะบรรจงเช็ดทำความสะอาดปากแผลที่หัวเข่าให้สะอาดด้วยน้ำเกลือโดยที่ไม่ได้มองใบหน้าน่ารักที่กำลังจะเบ้ร้องไห้เลย
“ ก็เพราะนายมัวแต่ติดการ์ตูนบ้าบอนั่น นายไม่สนใจฮยอง ฮยองก็ไปหาอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่า ฮยองสนใจไอ่น้ำแฟนต้านี่แล้วฮยองผิดยังไง !? ”
“ ... ”
คนเป็นน้องไม่ตอบ แถมยังวางสำลีที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดหลังจากที่ถูกเช็ดทำความสะอาดไว้ข้างตัว มือหนาหยิบขวดแก้วที่ข้างในบรรจุของเหลวสีฟ้าใสไว้ บนขวดถูกแปะป้ายฉลากยาไว้ว่า ‘ แอลกอฮอล์ 70% สำหรับทำความสะอาดแผล ’ ออกมา นิ้วหนาหมุนเปิดฝาพร้อมหยิบสำลีสะอาดก้อนใหม่ออกมาชุบกับแอลกอฮอล์ พอคนตัวเล็กเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงถือสำลีชุบแอลกอฮอล์เสมือนว่าการทำความสะอาดแผลไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ท่อนขาเรียวที่ถูกวางไว้บนตักหนานั้นก็ค่อยๆถดเข้ามา
“ ฮยองขยับอีกนิดเดียว ผมเทแอลกอฮอล์ราดแผลฮยองแน่ ” ... ชะงัก ท่อนขาเรียวถึงกับชะงักและความคิดที่จะหนีแอลกอฮอล์สีฟ้าใสนั้นก็พังทลายทุกอย่าง ใครมันจะไปโง่ขยับหนีแล้วโดนแอลกอฮอล์ทั้งขวดราดลงมากัน ยอมโดนนิดๆหน่อยๆยังจะดีกว่า กลายเป็นว่าตอนนี้คนตัวเล็กตรงหน้าจากที่ดิ้นไปมาก็นั่งนิ่งไม่ไหวติงประหนึ่งตัวเองเป็นตุ๊กตาให้อีกฝ่ายเล่นเป็นพยาบาลรักษาแผลในที่สุด
“ ลองเทดิ่ ฮยองจะจับมันกรอกปากนายเอง คอยดูเลย ” ว่าแล้วก็เบ้หน้าใส่อีกฝ่าย ก่อนจะเลิกปากดีแล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นเหยเกระคนเจ็บปวด หลับตาปี๋เมื่อมือหนาของคนเป็นน้องค่อยๆเช็ดรอบปากแผลที่หัวเข่าด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ ริมฝีปากเรียวเม้มแน่นแต่ก็เผลอครางซี้ดด้วยความแสบและเจ็บปวดตามมาไม่ขาดสาย แต่อีกฝ่ายก็ไม่ปล่อยให้อีกคนร้องด้วยความเจ็บปวด พยายามพ่นล่มเป่าไปที่แผลให้ความแสบมันลดลงจากเดิม แม้มันจะช่วยไม่ได้มาก แต่มันก็พอจะช่วยให้คนตัวเล็กเลิกร้องโอดโอยได้ในระดับหนึ่ง
ดวงตากลมโตค่อยๆหรี่ตามองอีกฝ่ายที่ทำความสะอาดแผลของตนด้วยใบหน้าที่จริงจังแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยจนอดไม่ได้ที่จะเผลอยื่นมือเรียวของตนไปจับที่แก้มสากของคนเป็นน้องเบาๆอย่างไม่รู้ตัว จนเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้ามอง ก็ถึงจะรู้ตัว แทบจะชักมือกลับมาไว้ข้างตัวทันที แต่ติดที่ว่ามือหนาที่คว้าข้อมือเล็กนั้นไวกว่า
“ ผมขอโทษ ”
“ หือ ? ” มาร์คมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความงุนงง ... คนอย่างปาร์คจินยองไม่ได้ขอโทษใครง่ายๆ ยิ่งเรื่องไร้สาระนี่ฝันไปได้เลยว่าจะขอโทษก่อน ไม่มีทาง
... นี่ผมแคะหูจนสะอาดแล้วนะ ทำไมเหมือนยังหูฝาดอยู่ล่ะ หรือว่ามันยังไม่หมด ? ...
“ ผมขอโทษที่ช่วงนี้ไม่ค่อยสนใจฮยอง ขอโทษที่ติดการ์ตูนมากไป ”
“ ... ”
“ เพราะผมเผลอยืมการ์ตูนมาเยอะเกินไปหน่อย แล้วพรุ่งนี้มันก็จะถึงกำหนดส่งคืนทุกเล่มแล้ว ผมเลยมัวแต่อ่านจนไม่สนใจฮยองจนทำให้ฮยองไปสนใจน้ำอัดลมนั่น ... ผมจะไม่ปล่อยให้ฮยองไปแก้เหงากับน้ำอัดลมบ้าบอนั่นอีกแล้วนะ ถ้าเหงาก็มาอ้อนผม โอเครึเปล่า ? ” มืออีกข้างที่ว่างของปาร์คจินยองยกขึ้นไปลูบพวงแก้มนิ่มนั้นอย่างแผ่วเบาจนคนตัวเล็กหลับตาพริ้มรับสัมผัสที่แผ่วเบาจากพวงแก้มนิ่มนั้น มาร์คต้วนพยักหน้าตอบรับอีกฝ่ายเบาๆเป็นเชิงรับทราบและเข้าใจ
“ผมขอโทษนะมาร์คฮยองอ่า ”
“ ไม่เป็นไรหรอก ฮยองเข้าใจแล้ว ”
“ อ่ะ เสร็จแล้วฮยอง ” มือหนาบรรจงแปะพลาสเตอร์กันน้ำลงบนแผลขนาดใหญ่บนเข่าให้เรียบร้อย ก่อนจะค่อยๆเป่าลมไปที่แผลนั้นพร้อมพึมพำเบาๆว่า ‘ เพี้ยง หายไวๆ ’
“ ขอบใจนะ ”
มาร์คค่อยๆยกท่อนขาที่วางไว้บนตักอีกฝ่ายขึ้นเพื่อที่จะได้วางลงให้ตั้งฉากเป็นปกติ แต่ว่าอีกฝ่ายกับรั้งขาเล็กไว้ จนใบหน้าน่ารักของคนเป็นพี่แสดงอาการสงสัย ก่อนที่จินยองจะยื่นใบหน้าเข้าใกล้อีกฝ่าย ใกล้พอที่จะได้ยินเสียงหัวใจของทั้งคู่ที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ใกล้พอที่จะสัมผัสถึงลมหายใจที่รดกันอยู่ พร้อมกระซิบถ้อยคำบางอย่างเบาๆข้างใบหูขาวนั้น
พี่ใหญ่ของวงเมื่อได้ยินแล้วก็ยกมือที่กำปั้นแน่นชกเข้าที่หน้าอกแกร่งของอีกฝ่ายทันทีด้วยความขวยเขิน มือบางรีบยกขึ้นปิดซ่อนใบหน้าน่ารักที่กำลังขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด แต่มันก็ไม่มิดเมื่อความแดงระเรื่อนั้นมันลามไปถึงหูเช่นนั้น ยิ่งทำให้คนรักของคนตัวเล็กถึงกับขำเบาๆกับท่าทางน่ารักของคนที่เขาสัญญาว่าจะไม่ปล่อยปะละเลยให้ไปแก้เหงากับน้ำอัดลมบ้าบอนั่นอีกเด็ดขาด
“ เลิกกินได้แล้วแฟนต้าน่ะ ... แล้วมาให้แฟนฮยองกินจะดีกว่านะ มาร์คฮยองอ่า ”
ปาร์คจินยอง ไอ่เด็กบ้า นิสัยไม่ดีที่สุดเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ให้ตายดิ่ !!
-FIN .xoxo
★tentativo
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

กลัวคืนไม่ทัน มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ย!!! XD
มาร์คฮยองให้แฟนกินเถอะ #ผิด 5555555
55555555555555555555 -///-
แฟนใหม่พี่มาร์คนี่น่ารักนะ ตัวเล็กๆน่ารัก ถือพอดีมือเชียว 555555
จูเนียร์ก็นะ ใจร้ายกับพี่มาร์คเหอะ 555555
น่าให้พี่มาร์คงอนนานๆ -..-
เนียร์เลิกสนใจการ์ตูนแล้ว มาให้พี่มาร์คอ้อนเลย
หาคู่นี้มานาน น้ำตาจะไหล พี่มาร์คนี่ติดแฟนต้ามากนะคะ
กลัวจะอ้วนขึ้นจริงๆด้วย 555555555555555555555555
จินยองน่าจับไปตี เมินพี่มาร์คได้ไง โฮร่ น่ารักแบบนั้นไม่น่าปล่อย ;w;
ดื้อเงียบจริงๆด้วย โอ้ยย อยากจะสิงร่างจินยองจังขร่าา
ในที่สุดก็ต้องยอมน้อง เขินซรัง ชอบฟิคแบบนี้มากเลยค่ะ
อยากอ่านเนียร์มาร์คอีก ขอบคุณที่แต่งฟิคสนุกๆมาให้เสพกันนะคะ
ติดตามผลงานไรเตอร์ต่อไป ความจริงอยากขอยูคมาร์ค ๕๕๕๕๕๕