คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เจ้าชายอัคคีกับวารีแห่งรัตติกาล(ตอนที่1)
ค่ำคืนที่ดวงจันทราส่องแสงเรืองรอง ท่ามกลางหมู่เมฆสีแดงก่ำ เสียงร่ำร้องแห่งความตายดังระงมทั่วทุก
สารทิศ ภายใต้ความมืดมิดอันแสนโหดร้ายร่างไร้วิญญาณนอนจมกองเลือดเกลื่อนกระจาย ทั่วทั้งพื้นดินฉาบด้วย
สีโลหิตไกลสุดลูกหูลูกตา ซากปรักหักพังที่เคยงดงามเหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นไหม้และกลุ่มควันบางๆ ล่องลอยขึ้นสู่
ฟากฟ้าสีเลือดที่กำลังขู่คำราม
ห่างออกไปจากกองซากศพ ณ ริมหน้าต่างบานเล็กบนยอดปราสาทหินอ่อนสูงเด่นร่างบอบบางของ
องค์หญิงแห่งควอร์เรลสั่นสะท้านยามลมแรงต้องปะทะผิวขาวละมุน นัยน์ตาสีส้มราวเพทายเม็ดงามบวมช้ำเหม่
มองท้องฟ้าสีเลือดอย่างเศร้าหมอง
เสียงบานประตูถูกเปิดออก หันเหความสนใจจากดวงหน้าอ่อนเยาว์ให้หันมอง
"นาชาล...."ถ้อยกระซิบแผ่วเบาแทบไม่ล่วงพ้นลำคอ เรียกให้หญิงหลังค่อมร่างเล็กรีบเร่งเดินเข้ามาหา
"องค์หญิงอาเทียร์ทำไมไม่บรรทมเพคะ"มือนุ่มอุ่นลูบไล้เส้นผมสีดำขลับเหยียดยาว
นัยน์ตาอ่อนโยนทอดมองเด็กสาวด้วยความห่วงใย นานเพียงไรแล้วที่เจ้าหญิงน้อยต้องจมอยู่กับน้ำตา สงคราม
เป็นสิ่งที่โหดร้ายนักในชีวิตเพียงสิบหกปีของเด็กสาวแม้ชีวิตในวังจะสุขสบายเพียงใด แต่หยาดน้ำตาก็ยังเอ่อล้น
เพทายงามคู่นี้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่าไหร่ก็ตามที
"เจ้าพี่เซเกียร์จะกลับมาหาหญิงรึเปล่าคะ"แก้มขาวใสเอนพิงซบอกผู้เป็นแม่นมอย่างรักใคร่
เซเกียร์ เจ้าชายองค์โตแห่งควอร์เรล พี่ชายผู้อ่อนโยนที่คอยดูแลนางมาตลอด นับตั้งแต่เสียพ่อและแม่ไป นาชาล
โอบกอดร่างบางไว้แน่น ร่างที่นางเฝ้าถะนุถนอมมาอย่างดีราวอัญมณีทรงค่า
"กลับมาซิเพคะ เชษฐารักองค์หญิงอาเทียร์มากที่สุด ต้องกลับมาแน่นอน" เจ้าหญิงน้อยสะอื้นไห้ มือบาง
ยกขึ้นปาดน้ำตาออกตาออกจากเพทายเม็ดงาม
คำที่พี่ชายเคยสั่งสอนให้นางเข้มแข็งบัดนี้ไม่มีผลใดๆพอที่จะหยุดยั้งน้ำตาได้ ยามที่เจ้าของคำสั่งต้องไปตั้งทัพเพื่อ
ยับยั้งทหารแห่งดินแดนทาเซียร์ไม่ให้บุกเข้ามาถึงเมืองหลวง ปราสาทหลังงามเงียบลงพลัน เมื่อไร้เสียงหัวเราะ
ของสองพี่น้อง
"บรรทมเถิดเพคะ อากาศเย็นมาก เดี๋ยวจะทรงประชวรไปนะเพคะ"นาชาลยิ้มอ่อนโยน
พลางจูงมือหญิงสาวไปยังเตียงนุ่ม ร่างบางลงซุกหาไออุ่นจากผ้าห่มฝ้ายผืนหนา นาชาลเดินไปปิดบานหน้าต่างกั้น
สายลมเหน็บหนาวไม่ให้พัดต้องผิวขาวบอบบาง
หญิงชราหรี่ตะเกียงให้แสงสลัวลง ก่อนจะเดินช้าๆออกจากห้องไป เจ้าหญิงอาเทียร์ซุกหน้าลงกับหมอน
นุ่มที่เปียกปอนไปด้วยน้ำตา ไม่นานเจ้าหญิงน้อยก็เข้าสู่นิทรารมย์อันเศร้าหมอง
'ถ้าเจ้าพี่ไม่ไยดีหญิงแล้ว จะมายุ่งกับหญิงทำไมล่ะคะ'ร่างเล็กๆเบือนดวงหน้าออกอย่างขัดใจ ท่อนแขน
กลมยกขึ้นสอดประสานกอดอก ท่าทีที่เรียกรอยยิ้มจากริมฝีปากบางบนดวงหน้าคมเข้ม
'ไยดีซิ......พี่อยู่นี่แล้วไง หญิงอาเทียร์อยากเล่นอะไรล่ะ พี่ขอเล่นด้วยนะ' เซเกียร์ยันมือลงบนหัวเข่าพลาง
ย่อตัวลงให้ดวงหน้าอยู่ในระดับเดียวกับน้องสาว แต่ดวงหน้ากลมยังไม่ยอมหันมาเหลียวแลพี่ชายแม้แต่หางตา
'นะ...อาเทียร์นะ.....ให้เล่นด้วยเถอะ นะๆๆ....'เจ้าชายน้อยวัยสิบสองปีบีบน้ำเสียงออดอ้อน
รู้สึกผิดที่เขาเอาแต่ฝึกวิชา จนทิ้งน้องสาวให้อยู่เพียงลำพัง อาเทียร์เบือนดวงหน้ากลับมามอง นัยน์ตาสีเพทายสอง
คู่สบกันนิ่ง คู่หนึ่งบวมช้ำแต่เป็นประกายงามด้วยหยาดน้ำตา อีกคู่เข้มแข็งทรงพลังอำนาจหากแต่อ่อนโยนชวน
มอง
'ต่อไปเจ้าพี่เซเกียร์ห้ามทิ้งหญิงอีกนะคะ ครั้งนี้หญิงจะให้อภัย"เสียงใสเอ่ยจริงจัง จนผู้เป็นพี่อดขำไม่ได้
ดวงหน้าเข้มพยักหน้ารับคำน้องสาว
'พี่จะไม่ทำอีกแล้ว ถ้าหญิงสัญญากับพี่ว่าหญิงจะไม่ร้องไห้อีก พี่จะโดดเรียนมาเล่นกับหญิงทั้งวันเลย ดี
ไหม’ นิ้วก้อยเรียวยาวเกี่ยวกุมเข้ากับนิ้วก้อยกลมป้อมแทนหลักประกันคำมั่นสัญญา
"ค่ะ....หญิงสัญญา"
หากแต่ เจ้าหญิงน้อยก็ไม่เคยทำได้สักครา....
ปั้ง!!!!
ร่างบางสะดุ้งตื่นจากความฝันมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ดวงตางามชุ่มน้ำตาเบือนไปทางบานประตู
ใหญ่ที่ถูกกระชากแรงจนชนเข้ากับผนังห้อง ร่างใหญ่รีบเร่งสาวเท้าเข้ามาหาเจ้าหญิงน้อย แสงตะเกียงสลัว ส่องให้
เห็นเพียงเสี้ยวหน้าของบุรุษผู้มาเยือน นัยน์ตาสีส้มเบิกกว้าง นางจำชายผู้นี้ได้ดี
"จ....เจ้าพี่เซเกียร์...."
ความคิดเห็น