ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายอัคคีกับวารีแห่งรัตติกาล

    ลำดับตอนที่ #1 : เจ้าชายอัคคีกับวารีแห่งรัตติกาล(ตอนที่1)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 49




                    

    ค่ำคืนที่ดวงจันทราส่องแสงเรืองรอง ท่ามกลางหมู่เมฆสีแดงก่ำ เสียงร่ำร้องแห่งความตายดังระงมทั่วทุก

     

    สารทิศ ภายใต้ความมืดมิดอันแสนโหดร้ายร่างไร้วิญญาณนอนจมกองเลือดเกลื่อนกระจาย ทั่วทั้งพื้นดินฉาบด้วย

     

    สีโลหิตไกลสุดลูกหูลูกตา ซากปรักหักพังที่เคยงดงามเหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นไหม้และกลุ่มควันบางๆ ล่องลอยขึ้นสู่

     

    ฟากฟ้าสีเลือดที่กำลังขู่คำราม


                      ห่างออกไปจากกองซากศพ ณ ริมหน้าต่างบานเล็กบนยอดปราสาทหินอ่อนสูงเด่นร่างบอบบางของ

     

    องค์หญิงแห่งควอร์เรลสั่นสะท้านยามลมแรงต้องปะทะผิวขาวละมุน นัยน์ตาสีส้มราวเพทายเม็ดงามบวมช้ำเหม่

     

    มองท้องฟ้าสีเลือดอย่างเศร้าหมอง

     

    เสียงบานประตูถูกเปิดออก หันเหความสนใจจากดวงหน้าอ่อนเยาว์ให้หันมอง

     

    "นาชาล...."ถ้อยกระซิบแผ่วเบาแทบไม่ล่วงพ้นลำคอ เรียกให้หญิงหลังค่อมร่างเล็กรีบเร่งเดินเข้ามาหา

     

    "องค์หญิงอาเทียร์ทำไมไม่บรรทมเพคะ"มือนุ่มอุ่นลูบไล้เส้นผมสีดำขลับเหยียดยาว

     

    นัยน์ตาอ่อนโยนทอดมองเด็กสาวด้วยความห่วงใย นานเพียงไรแล้วที่เจ้าหญิงน้อยต้องจมอยู่กับน้ำตา สงคราม

     

    เป็นสิ่งที่โหดร้ายนักในชีวิตเพียงสิบหกปีของเด็กสาวแม้ชีวิตในวังจะสุขสบายเพียงใด แต่หยาดน้ำตาก็ยังเอ่อล้น

     

    เพทายงามคู่นี้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่าไหร่ก็ตามที


                      "เจ้าพี่เซเกียร์จะกลับมาหาหญิงรึเปล่าคะ"แก้มขาวใสเอนพิงซบอกผู้เป็นแม่นมอย่างรักใคร่

     

    เซเกียร์ เจ้าชายองค์โตแห่งควอร์เรล พี่ชายผู้อ่อนโยนที่คอยดูแลนางมาตลอด นับตั้งแต่เสียพ่อและแม่ไป นาชาล

     

    โอบกอดร่างบางไว้แน่น ร่างที่นางเฝ้าถะนุถนอมมาอย่างดีราวอัญมณีทรงค่า 

     

    "กลับมาซิเพคะ เชษฐารักองค์หญิงอาเทียร์มากที่สุด ต้องกลับมาแน่นอน" เจ้าหญิงน้อยสะอื้นไห้ มือบาง

     

    ยกขึ้นปาดน้ำตาออกตาออกจากเพทายเม็ดงาม

     

    คำที่พี่ชายเคยสั่งสอนให้นางเข้มแข็งบัดนี้ไม่มีผลใดๆพอที่จะหยุดยั้งน้ำตาได้ ยามที่เจ้าของคำสั่งต้องไปตั้งทัพเพื่อ

     

    ยับยั้งทหารแห่งดินแดนทาเซียร์ไม่ให้บุกเข้ามาถึงเมืองหลวง ปราสาทหลังงามเงียบลงพลัน เมื่อไร้เสียงหัวเราะ

     

    ของสองพี่น้อง


                         "บรรทมเถิดเพคะ อากาศเย็นมาก เดี๋ยวจะทรงประชวรไปนะเพคะ"นาชาลยิ้มอ่อนโยน

     

    พลางจูงมือหญิงสาวไปยังเตียงนุ่ม ร่างบางลงซุกหาไออุ่นจากผ้าห่มฝ้ายผืนหนา นาชาลเดินไปปิดบานหน้าต่างกั้น

     

    สายลมเหน็บหนาวไม่ให้พัดต้องผิวขาวบอบบาง

     

    หญิงชราหรี่ตะเกียงให้แสงสลัวลง ก่อนจะเดินช้าๆออกจากห้องไป เจ้าหญิงอาเทียร์ซุกหน้าลงกับหมอน

     

    นุ่มที่เปียกปอนไปด้วยน้ำตา ไม่นานเจ้าหญิงน้อยก็เข้าสู่นิทรารมย์อันเศร้าหมอง

     

    'ถ้าเจ้าพี่ไม่ไยดีหญิงแล้ว จะมายุ่งกับหญิงทำไมล่ะคะ'ร่างเล็กๆเบือนดวงหน้าออกอย่างขัดใจ ท่อนแขน

     

    กลมยกขึ้นสอดประสานกอดอก ท่าทีที่เรียกรอยยิ้มจากริมฝีปากบางบนดวงหน้าคมเข้ม

     

    'ไยดีซิ......พี่อยู่นี่แล้วไง หญิงอาเทียร์อยากเล่นอะไรล่ะ พี่ขอเล่นด้วยนะ' เซเกียร์ยันมือลงบนหัวเข่าพลาง

     

    ย่อตัวลงให้ดวงหน้าอยู่ในระดับเดียวกับน้องสาว แต่ดวงหน้ากลมยังไม่ยอมหันมาเหลียวแลพี่ชายแม้แต่หางตา

     

    'นะ...อาเทียร์นะ.....ให้เล่นด้วยเถอะ นะๆๆ....'เจ้าชายน้อยวัยสิบสองปีบีบน้ำเสียงออดอ้อน

     

    รู้สึกผิดที่เขาเอาแต่ฝึกวิชา จนทิ้งน้องสาวให้อยู่เพียงลำพัง อาเทียร์เบือนดวงหน้ากลับมามอง นัยน์ตาสีเพทายสอง

     

    คู่สบกันนิ่ง คู่หนึ่งบวมช้ำแต่เป็นประกายงามด้วยหยาดน้ำตา อีกคู่เข้มแข็งทรงพลังอำนาจหากแต่อ่อนโยนชวน

     

    มอง

     

    'ต่อไปเจ้าพี่เซเกียร์ห้ามทิ้งหญิงอีกนะคะ ครั้งนี้หญิงจะให้อภัย"เสียงใสเอ่ยจริงจัง จนผู้เป็นพี่อดขำไม่ได้

     

    ดวงหน้าเข้มพยักหน้ารับคำน้องสาว

     

    'พี่จะไม่ทำอีกแล้ว ถ้าหญิงสัญญากับพี่ว่าหญิงจะไม่ร้องไห้อีก พี่จะโดดเรียนมาเล่นกับหญิงทั้งวันเลย ดี

     

    ไหมนิ้วก้อยเรียวยาวเกี่ยวกุมเข้ากับนิ้วก้อยกลมป้อมแทนหลักประกันคำมั่นสัญญา

     

    "ค่ะ....หญิงสัญญา"

     

    หากแต่ เจ้าหญิงน้อยก็ไม่เคยทำได้สักครา....

     

    ปั้ง!!!!

     

    ร่างบางสะดุ้งตื่นจากความฝันมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง  ดวงตางามชุ่มน้ำตาเบือนไปทางบานประตู

     

    ใหญ่ที่ถูกกระชากแรงจนชนเข้ากับผนังห้อง ร่างใหญ่รีบเร่งสาวเท้าเข้ามาหาเจ้าหญิงน้อย แสงตะเกียงสลัว ส่องให้

     

    เห็นเพียงเสี้ยวหน้าของบุรุษผู้มาเยือน นัยน์ตาสีส้มเบิกกว้าง นางจำชายผู้นี้ได้ดี


    "จ....เจ้าพี่เซเกียร์...."

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×