ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC Boku No Hero Academia / BNHA |Dark Uptight| (All Midoriya)

    ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER 04 : มันคือเรื่องตลก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.27K
      1.01K
      24 เม.ย. 65

    คำเตือน
    แฟนฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มีการอ้างอิงจากอนิเมะเรื่อง My Hero
    เนื้อเรื่องไม่ได้ดำเนินตามอนิเมะ ออกแนวดาร์กแฟนตาซี
    มิโดริยะ อิสึคุเรื่องนี้ไม่ใช่คนดีและไม่ใช่มนุษย์
    มีฉากเรท 18+ บางตอน รบกวนทำความเข้าใจก่อนอ่าน
    และอย่าแบนนะคะ
    ___________________________________________________________


    EP.04
    มันคือเรื่องตลก
               


    *ยังไม่แก้คำผิด*




    ว้าว~~ใหญ่กว่าโรงเรียนเก่าของฮิเมะตั้งเยอะ!” เสียงเจี๊ยวจ๊าวของสาวน้อยผมสีเงินที่ถูกปกปิดด้วยหมวกใบโต ดวงตาสีม่วงใต้เลนส์แว่นสีใสมองรอบข้างอย่างสนใจกับความอลังการที่โรงเรียนยูเอย์เป็นผู้จัด ก่อนจะหันมาถามคนข้างกายที่อดีตเคยรู้จักทุกซอกทุกมุมของโรงเรียนนี้

    อิสึจังคิดว่าที่มีจะมีเรื่องสนุก ๆ ให้ฮิเมะทำรึเปล่านะ

    แขนข้างขวาถูกร่างเย็นชืดของเด็กสาวที่ตัวสูงกว่าตนกอดเอาไว้แน่น หน้าอกอุดมสมบูรณ์นั่นเบียดแขนของมิโดริยะจนคนที่เดินผ่านไปมาอดจะอิจฉาเจ้าของกลุ่มผมสีเขียวไม่ได้ และเพราะตัวเองเป็นบุคคลที่ส่วนสูงนั้นเตี้ยที่สุดในบ้าน เลยพลอยให้น้องเล็กคนนี้จิตตกไปหลายวันกันเลยทีเดียว

    แม้แต่คุณฮิเมกิก็ตัวสูงกว่าผม ช่างเป็นผู้ชายที่น่าอับอายที่สุด

    เฮ้! เห็นว่าปีหนึ่งห้อง A กำลังเริ่มแสดงแล้วนะ ในขณะที่มิโดริยะกำลังปลงตกกับชะตากรรมของตัวเอง เสียงพูดคุยของคนที่อยู่ใกล้พวกเขาก็เรียกความสนใจจากอมนุษย์ทั้งสองเข้าให้

    การแสดง??

    เกี่ยวกับการเต้นและแสดงวงดนตรีน่ะครับ เพราะเป็นหนึ่งในตัวนำเรื่องการเต้นเลยพอรู้การแสดงของอดีตเพื่อนร่วมห้องอยู่บ้าง

    แต่น่าเสียดายที่ตำแหน่งนั้นของมิโดริยะถูกเปลี่ยนไปให้หญิงสาวผู้น่ารักอย่างชิโรนะ ฮาสึมิตั้งแต่หนึ่งอาทิตย์แรกที่เริ่มซ้อม

    นี่แหล่ะความไม่ยุติธรรมระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้น

    ไปดูกันเถอะอิสึจัง!!”

    ห๊ะ? มิโดริยะมองเด็กสาวข้างกายที่กระตุกแขนของเขาและกำลังลากเข้าไปในด้านในอย่างหน้าระรื่น แถมคุณเธอยังไม่หันมาถามความสมัครใจจากเขาเลยว่าต้องการเข้าไปเห็นอดีตเพื่อนร่วมห้องไหม

    คุณฮิเมกิจะทำตามคำสั่งของคุณอายาโตะอย่างขะมักเขม้นแบบนี้ไม่ได้นะครับ

    บ่นไปงั้นแหละ เพราะถึงยังไงมิโดริยะก็ตามใจเด็กสาวคนนี้อยู่ดี

    บรรยากาศในหอประชุมที่ถูกจัดเอาไว้ให้สำหรับพวกปีหนึ่งโดยเฉพาะ กลับเต็มไปด้วยเหล่านักเรียนรุ่นพี่ที่บางพวกก็มาดูเพราะสนใจการแสดงของพวกห้อง A จริง ๆ และบางพวกมาเพื่อดูความล้มเหลวรวมถึงเตรียมเยาะเย้ยใส่อย่างเปิดเผย โดยเฉพาะรุ่นพี่ปี 3 ที่ยืนอยู่ข้างเขาที่ดูยังไงก็เกลียดพวกปีหนึ่งเข้าไส้สุด ๆ

    มิโดริยะเลิกสนใจรุ่นพี่ด้านข้าง ก่อนจะลากดวงตาสีเขียวหม่นคู่นี้หันกลับไปมองบนเวทีที่มีอดีตเพื่อนร่วมห้องเริ่มทำการแสดงให้ทุกคนด้านล่างดูกันแล้ว แรกเริ่มจากการแสดงวงดนตรีที่มีคุณจิโร่เป็นนักร้องนำและมือเบสคู่กับคามินาริ คุณยาโอโยโรสุเป็นคนเล่นคีย์บอร์ด โทโคยามิมือกีตาร์ และคนสุดท้ายคือชายหนุ่มผมฟางที่กำลังรัวไม้ลงบนกลองชุดอย่างเกรี้ยวกราด

    ...คัตจัง...

    ดวงตาสีเขียวกระตุบวูบก่อนที่มันจะกลับมาราบเรียบดั่งเดิม เมื่อเปิดด้วยเสียงดนตรีที่มีความรุนแรงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนดู ตามมาด้วยกลุ่มนักเต้นที่อยู่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์ พวกเขาแสดงการร่ายรำเป็นจังหวะเดียวกับดนตรีที่บรรเลงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

    ก่อนที่ทุกคนจะมองด้านบนที่มีเทปสีขาวและน้ำแข็งสร้างเป็นทางเดินบนฟ้าให้ผู้ชมได้ขึ้นไปเล่นสนุกกับมัน อีกฝั่งเป็นก้อนสีม่วงหนึบหนับของมิเนตะที่ถูกปาออกไปเพื่อเชื่อมติดกับถนนน้ำแข็งให้มั่นคงยิ่งขึ้น

    ถ้าทุกคนกำลังสนุกก็ไฮไฟว์หน่อยค่าาาา อุรารากะที่ใช้อัตลักษ์ของเธอลอยไปแตะมือคนด้านล่างเพื่อให้พวกเขาไร้น้ำหนักและได้สนุกไปกับการแสดงในครั้งนี้

    ระหว่างที่เธอกำลังลอยแปะมือคนอื่นอย่างสนุกสนาน จนมาถึงชายหญิงสองคนที่ทั้งคู่สวมชุดสีดำทั้งชุด กลุ่มผมสีเงินและสีเขียวโผล่ออกมาจากหมวกสีดำที่สวมปกปิดเอาไว้ ในขณะที่เธอกำลังลอยผ่านทั้งสองไปอยู่นั้น ดวงตาสีน้ำตาลก็เบิกกว้างเมื่อเห็นหนึ่งในสองคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเธอพอดี

    “..!!!..”

    รอยยิ้มที่อีกฝ่ายมอบให้นั้นมันไม่เคยลบออกไปจากความทรงจำของเธอเลยแม้แต่น้อย ยิ่งได้เห็นมันอีกครั้งก็พลอยให้คิดว่าเธอกำลังตาฝาดไปใช่หรือไม่ เพราะต่อให้อีกฝ่ายเป็นภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมา อุรารากะ โอชาโกะก็ยินดีที่จะได้สัมผัสมันอีกครั้ง

    รอยยิ้มอ่อนโยนของเพื่อนชายที่เธอสนิทที่สุด

    อุรารากะพยายามพาร่างไร้น้ำหนักของตัวเองไปหาเพื่อนสนิทของเธอ ทว่ากลับน่าเสียดายที่เธอลอยมายังเวทีโดยมีอาซุอิใช้ลิ้นตวัดเกี่ยวร่างของเธอเอาไว้ ก่อนที่การแสดงจะจบลงก็ได้มีหญิงสาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์เหมือนนางฟ้าลอยบนอากาศ

    ปีกสีขาวที่ถูกสร้างจากกระดาษกางเหยียดตรงอย่างสง่างดงาม เรือนผมสีชมพูที่ถูกดัดลอนให้ดูน่ารักรับกับมงกุฎสีทองเหมือนเจ้าหญิง ดวงตาสีเดียวกับสีผมเปล่งประกายระยิบระยับอย่างน่ามอง รอยยิ้มหวานแจกจ่ายให้กับผู้ชมด้านล่าง ก่อนที่เสียงหวานกังวานจะเอ่ยขอบคุณผู้ชมทุกคนที่อยู่ด้านล่าง

    ขอบคุณที่มากันนะคะ

    ภาพตรงหน้าช่างเหมือนกับเทพธิดาไม่มีผิด

    ทว่าในสายตาคนอื่นละนะ

    หึ!” มิโดริยะเหยียดยิ้มมองนางฟ้าประจำโรงเรียนที่กำลังร่ายรำอยู่บนโอกาสอย่างอ่อนช้อย ดวงตาสีเขียวทอประกายอย่างโกรธแค้นเพียงชั่วคราวก่อนที่มันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

    นางฟ้าผู้งดงามน่ะเหรอ?

    ก็แค่ผู้หญิงที่ใช้ร้ายกาจชอบเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นด้วยวิธีน่ารังเกียจก็เท่านั้น

    ไปกันเถอะครับคุณฮิเมกิ

    เอ๋~ อิสึจังเบื่อแล้วเหรอ

    ครับ ไม่อยากเสียสายตาไปมากกว่านี้

    เห...นั่นสินะ แต่ก่อนไป ดวงตาสีม่วงฉายแววสนุกพร้อมกับแผนร้ายกาจที่แสดงออกทางสีหน้าของหญิงสาวข้างกายอย่างชัดเจน

    ฉับ!!

    กรี๊ดดดดดดดด!!!!!!”

    ฮาสึมิ!!!!”

    จู่ ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเด็กสาวผมชมพู ปีกกระดาษที่มีความแข็งแรงสามารถลอยอยู่บนอากาศได้กลับถูกตัดขาดเป็นสองท่อน ก่อนที่ร่างบอบบางของชิโรนะจะล่วงลงสู่พื้นท่ามกลางความตกใจของคนอื่น ๆ ที่ไม่ทันได้เข้าไปช่วยรองรับแรงกระแทกจากอีกฝ่าย

    หากใครสักคนที่ตาดี ๆ ก็จะสังเกตเห็นด้านเส้นบางสีดำตวัดผ่านปีกกระดาษนั่นให้ขาดอย่างรวดเร็วจนเหมือนกับเป็นอุบัติเหตุ ที่ปีกของชิโรนะหายไปเองเพราะใช้อัตลักษณ์มากเกินไป แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าของด้ายสีดำนั่นคือเด็กสาวข้างกายมิโดริยะที่กำลังยืนหัวเราะคิกคักอย่างสะใจ

    ดูท่าตอนเธอล้มสิอิสึจังตลกชะมัดเลย!” ฮิเมกิถึงกับยกมือปิดปากของตัวเองเพื่อกลั้นเสียงหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย

    คิดไม่ผิดที่มาเที่ยวเล่นกับอิสึจังวันนี้

    สนุกสุด ๆ ไปเลยล่ะ

    เพราะได้สร้างความอับอายให้แก่แม่นางฟ้าประจำโรงเรียนไปแล้ว มิโดริยะก็จูงมือฮิเมกิออกไปจากสถานการณ์วุ่นวายทันที

    ภาพแผ่นหลังของเด็กหนุ่มผมสีเขียวกำลังเดินห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ นั้น มันอยู่ในสายตาของอุรารากะตลอดเวลา เธอพยายามสะบัดมือของเพื่อนสนิทสาวออก ร่างกายพยายามฝ่ากลุ่มคนออกไปเพื่อหวังจะห้ามคนคนนั้นได้ทัน

    ดะ...เดี๋ยวก่อน...ยะ...ฮึก...อย่าพึ่งไปนะน้ำตาไหลอาบแก้มกลมก่อนที่เสียงของเธอจะตะโกนให้เพื่อนร่วมห้อง ที่บางส่วนกำลังดูอาการของเด็กสาวผมชมพู บางส่วนกำลังมองเธอที่ร้องไห้ออกมาอย่างสงสัย

    อย่าพึ่งไปนะเดกุคุง!!!!”

    หมายความว่ายังไงโอชาโกะจัง อาซุอิที่อยู่ใกล้มากที่สุดเอ่ยถามเสียงสั่น ยิ่งเห็นเพื่อนสาวร้องไห้ตัวโยงเธอก็ยิ่งร้อนรนขึ้นไปอีก

    และเพราะประโยคต่อมาของเธอ ทำให้บรรยากาศรอบข้างของนักเรียนปีหนึ่งห้อง A หนักอึ้งขึ้นมาทันที

    มะ...เมื่อกี้ตอนที่ฉันกำลัง...ฮึก...ลอยไปแปะมือกับคนอื่น

    “…..”

    ฉันเห็น...ฮึก...เดกุคุง

    จะเป็นไปได้ยังไง มิโดริยะน่ะตายไปแล้วนะ!!!” มิเนตะตะโกนออกมาอย่างไม่เชื่อ ก่อนจะสะดุ้งโหยงและไปหลบอยู่หลังโชจิเมื่ออุรารากะสวนกลับมาเสียงดัง

    แต่ฉันเห็นเดกุคุงจริง ๆ!! เขายิ้มให้ฉันเหมือนเมื่อก่อน เขายังไม่ตาย! ได้ยินไหมว่าเขายังไม่ตาย!!!!”

    นี่เป็นครั้งแรกที่อุรารากะตวาดใส่คนอื่น ใบหน้าน่ารักของเธออาบไปด้วยน้ำตา ทว่าดวงตาคู่นี้มันฉายแววแข็งกร้าวและดื้อรั้นว่าสิ่งที่เธอเห็นเป็นความจริง

    มิโดริยะ อิสึคุยังไม่ตาย

    เขายังมีชีวิตอยู่!!!!

    ทว่าเพราะเหตุการณ์วันนั้นมันย้ำเตือนให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความจริงอันแสนโหดร้ายว่าเพื่อนร่วมห้องที่แสนดีคนนั้น....

    ตายไปแล้ว

    โอ๊ย...คัตสึคุง...จะ...เจ็บ

    ในระหว่างที่ทุกคนกำลังเคร่งเครียดกับประโยคของอุรารากะ เสียงหวานที่ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดก็เรียกร้องความสนใจจากนักเรียนชายบางส่วนให้หันไปมองเธอ ยกเว้นเพียงแค่เจ้าของชื่อที่กำลังใช้ดวงตาสีแดงจ้องอุรารากะเขม็ง

    และนั่นทำให้หญิงสาวในชุดเทพธิดาหน้าเจื่อนเพราะถูกอีกฝ่ายเมิน

    ยังไง

    เอ๊ะ?

    คนที่เธอเห็นมันแต่งตัวยังไงบาคุโกพยายามใจเย็นไม่เผลอใช้อารมณ์ของตัวเองตวาดใส่คนตรงหน้า

    หัวใจที่ปิดตายตั้งแต่วันนั้นกลับเต้นกระหน่ำเหมือนกลองที่เขารัวอย่างบ้าคลั่งเมื่อสักครู่ ดวงตาสีแดงทอประกายด้วยความหวังที่แม้จะริบหรี่แค่ไหนเขาก็เชื่อว่ายัยหน้ากลมนี่ไม่คิดโกหกคนอื่นในเรื่องนี้เด็ดขาด

    ในขณะที่อุรารากะกำลังนึกถึงการแต่งกายของคนที่คาดว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของเธอ เสียงใสเล็กของเด็กสาวผมสีเงินที่ถูกมิริโอะอุ้มอยู่ก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบาอย่างไม่มั่นใจว่า

    สีดำ

    “….”

    พี่อิสึคุใส่ชุดสีดำมากับพี่สาวผมเงินดวงตาสีม่วง

    และเพราะประโยคนั้นของเอริ กลับสร้างความปั่นป่วนให้คนทั้งโรงเรียนที่ได้ยินลักษณะของคนที่สงสัยว่าเป็นอดีตนักเรียนที่เสียชีวิต และหลังจากนั้นโรงเรียนยูเอย์ก็มีนักเรียนห้อง A ต่างวิ่งกันออกตามหาคนที่สวมชุดสีดำทั้งชุดอย่างบ้าระห่ำ รวมถึงเหล่าอาจารย์ที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์อย่างไอซาวะและพรีเซนต์ไมค์ ทั้งสองก็ช่วยกันออกตามหากันอย่างไม่ลดละ

    ดูเหมือนพวกเขาอยากเล่นวิ่งไล่จับกับพวกเรานะครับ ดวงตาสีเขียวมองอดีตเพื่อนร่วมห้องกับอดีตอาจารย์กระจายกันตามหาเขา ทั้งที่ก็เห็นแล้วว่าร่างเย็นชืดไร้ลมหายใจนั่นถูกฝังอยู่ในสุสานเต็มสองตาแท้ ๆ

    เป็นพวกเพ้อฝันมากกว่าที่คิดอีกแฮะ ฮิเมกิหัวเราะอย่างชอบใจ ก่อนที่ดวงตาสีม่วงจะเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างพุ่งมาทางนี้ มือขาวซีดคว้าร่างน้องเล็กของบ้านพร้อมกับกระโดดวัตถุประหลาดที่พุ่งเข้ามาหมายจะรัดร่างเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี

    ผ้าพันแผลงั้นเหรอ??

    ฮิเมกิมองผ้าสีขาวนั่นอย่างงุนงง ก่อนที่เธอจะใช้ด้ายสีดำเกี่ยวตวัดกับต้นไม้ด้านล่างและกระโดดออกจากตึกสีฟ้าที่เป็นตึกหลักของยูเอย์ลงไปยังสนามที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนหลายหลัง จนนึกว่าเป็นเมืองที่อยู่ในโรงเรียนอีกที

    หยุดอยู่ตรงนั้นอย่าคิดหนีเด็ดขาด

    เท้ายังไม่ถึงพื้นก็ถูกต้อนรับด้วยร่างแยกของเอ็กโตพลาสซึมรอรับอยู่ตั้ง 36 ร่าง และคาดว่าก่อนมาร่วมจับผู้ต้องสงสัยคงหนีไปร้องคาราโอเกะมาแล้วแน่ ๆ ครั้งจะฝ่าทะลวงออกไปก็คงจะถูกเหล่าอาจารย์คนอื่นดักรอหรือไม่ก็โดนอัตลักษณ์ลบล้างของไอซาวะอีกทอดหนึ่งก็เป็นไปได้

    และมันก็เป็นไปตามที่มิโดริยะคาดเดา เพราะเส้นด้ายสีดำของฮิเมกิหายไปทันทีที่ร่างของอดีตอาจารย์ที่มิโดริยะให้ความเคารพเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา

    เอ๋....ทำไมอาจารย์ที่นี่ถึงได้ทำกับแขกแบบนี้กันละ?? ฮิเมกิเอ่ยถามชายหนุ่มขอบตาดำคล้ำ ที่กำลังใช้อัตลักษณ์ลบล้างไม่ให้เธอกับน้องเล็กได้ใช้อัตลักษณ์ในการหลบหนี

    สมกับเป็นอดีตเพื่อนสนิทของเรียวสึคุง

    รอบคอบเหมือนกับเปี๊ยบ

    เปิดหน้าของพวกเธอเดี๋ยวนี้ไอซาวะเอ่ยสั่งเด็กทั้งสองที่นอกจากเสียผมแล้วทั้งตัวล้วนเป็นสีดำทั้งหมด และมันเหมือนเขากำลังมองตัวเองที่สวมใส่ชุดมืดมนไม่มีผิด

    รู้สึกแปลก ๆ ที่เห็นเด็กพวกนี้เข้าสู่ลัทธิความมืดมนเหมือนกับเขา

    ทำไมต้องเปิดด้วยละ พวกเราเป็นแค่นักท่องเที่ยวเองนะ ฮิเมกิแสร้งทำหน้าหวาดกลัวก่อนจะซบลงบนไหล่ของน้องเล็กอย่างต้องการหาที่หลบซ่อน

    แต่ว่านะคุณฮิเมกิ พวกอดีตอาจารย์ของผมน่ะเขาไม่ได้หลอกง่ายเหมือนอาจารย์โรงเรียนเก่าของคุณหรอกครับ

    ตอนนี้พวกนั้นกำลังออกตามหานายทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะบาคุโกกับโทโดโรกิ นายคงไม่อยากเจอสองคนนั้นในสนามฝึกนี่หรอกใช่ไหม?

    แม้ตอนนั้นเขาเป็นหนึ่งในคนที่ไปส่งอดีตลูกศิษย์ที่นอนอยู่ในโลงสีดำและกำลังถูกดินปกคลุมทีละนิด จนในที่สุดก็กลายเป็นป้ายหินที่สลักชื่อเจ้าของร่างใต้ผืนดิน แต่คนตรงหน้าที่เหมือนกับอดีตลูกศิษย์ของเขาทุกอย่างก็พลอยให้ไอซาวะยอมเชื่ออย่างโง่งมว่าอีกฝ่ายคือมิโดริยะจริง ๆ

    เพราะฮิเมากิพามิโดริยะมายังสนามฝึกซ้อมเบต้า โดยมีอาจารย์ยืนต้อนรับพร้อมหน้าพร้อมเพียงกัน ยกเว้นเพียงแต่ออลไมท์ที่ยังไม่รู้ข่าวว่ามีคนที่เหมือนกับอดีตลูกศิษย์ที่รักเหมือนลูกชายแท้ ๆ กำลังถูกไล่ตอนให้จนมุม ครั้นจะหนีออกไปจากวงล้อมก็โดนร่างแยกของอาจารย์เอ็กโตขวางเอาไว้อย่างรู้ทัน

    หยุดอยู่แค่นั้นแหละ

    ในขณะที่ต่างฝ่ายต่างลองเชิงกันอยู่นั้น ร่างปุกปุยที่แยกไม่ออกว่าหมี หมา หรือหนูก็โผล่มาขัดจังหวะสงครามเย็น พร้อมกับชายหนุ่มที่ถูกบดบังด้วยหน้ากากสีดำรูปหงส์อยู่ในชุดคล้ายกับชนชั้นสูง กลุ่มผมสีแดงเพลิงสะท้อนกับแสงของดวงอาทิตย์ ดวงตาสองสีจ้องมองอาจารย์โรงเรียนยูเอย์อย่างละเอียดแฝงไปด้วยแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้เหล่าโปรฮีโร่ต่างทยอยกันถอยห่างออกจากเด็กในการปกครองของชายหนุ่มคนนี้ และเมื่อได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจแล้ว ใบหน้าใต้หน้ากากก็หันไปทักทายเด็กในการปกครองทั้งสองด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

    เล่นซนจนได้นะฮิเมกิ อิสึคุ

    อายาโตะ!!!”

    ฮิเมกิพุ่งเข้าไปกอดร่างสูงของชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงอย่างเคยชิน ดวงหน้างดงามถูไถกับแผ่นอกแกร่งอย่างออดอ้อน พร้อมกับดวงตาสีม่วงที่ส่องประกายมาเพื่อขอคำชมจากชายหนุ่มตรงหน้าผู้เปรียบดั่งพี่ชายของเธอ และเจ้าของดวงตาสองสีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

    ทำได้ดีมาก

    ฮิเมะรักอายาโตะที่สุดเลย!!!”

    อายาโตะปล่อยให้เด็กสาวที่เอ็นดูเหมือนน้องสาวกอดจนพอใจ ดวงตาสองสีที่แฝงไปด้วยอำนาจตวัดมองโปรฮีโร่ที่ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ในโรงเรียนยูเอย์ ก่อนจะก้มมองผู้อำนวยการโรงเรียนที่ส่งสิ่งแลกเปลี่ยนที่มีค่าไปให้เพื่อต้องการพบเขาซึ่ง ๆ หน้า

    แต่ไม่คิดว่าสถานที่นัดพบจะเป็นโรงเรียนยูเอย์ซะได้

    หากคุณต้องการรู้เรื่องของพวกเรา ผมขอเป็นสถานที่มิดชิดและปลอดภัยต่อข้อมูลที่คุณต้องการรู้ผู้อำนวยการเนซึ

    ตามความประสงค์ของนาย อาคาชิจิ อายาโตะ

     



    -Dark Uptight-

     



    แฮ่ก ๆ ๆ

    เสียงหอบหายใจดังขึ้นเป็นจังหวะไม่คงที่ ดวงตาสีสองกับกลุ่มผมสีขาวแดงกวาดมองหาคนที่สวมชุดสีดำทั้งชุดอย่างละเอียดถี่ถ้วน บ้างก็เจอคนที่แต่งกายเหมือนกัน แต่กลับไม่ใช่จนต้องผิดหวังไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง

    โทโดโรกิ โชโตะพยายามมองหาคนที่เขาเฝ้าภาวนามาตลอดว่าอีกคนยังมีชีวิตอยู่ แม้จะรู้ว่าเป็นเพียงแค่เรื่องเพ้อฝันแต่ในใจของลูกชายฮีโร่อันดับหนึ่งก็ยังหวังว่าจะได้พบกับคนตัวเล็กอีกครั้ง

    อยากขอโทษที่ทำให้อีกคนเจ็บปวดและเสียน้ำตา

    และอยากขอโอกาสให้ตัวเองอีกสักครั้ง เพียงเพราะเขาถูกล่อลวงด้วยอัตลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้นจนหลงลืมความรู้สึกที่อีกฝ่ายมอบให้ไปอย่างไม่น่าให้อภัย

    รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสมเพชถูกมอบให้กับตัวเอง ร่างสูงสง่าพิงกำแพงอย่างหมดแรงเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าสิ่งที่ตัวเองหวังเอาไว้นั้น...

    มันไม่เป็นความจริง

    หมับ!!

    อึก!!!”

    ในขณะที่โทโดโรกิกำลังเหม่อมองท้องฟ้าอย่างไร้ซึ่งการป้องกัน ร่างของเขาก็ถูกกระชากเข้าไปในซอกที่มืดมิด พร้อมกับฝ่ามือเย็นเฉียบปิดปากของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น อัตลักษณ์สองขั้วเริ่มตั้งกลไกป้องกันตัวและก่อนที่น้ำแข็งด้านขวาจะแช่งแข็งคนด้านหลัง ก็ถูกหยุดด้วยเสียงทุ้มหวานที่ต่อให้ไม่ได้ยินมาเกือบ 2 เดือนโทโดโรกิก็ยังจำได้ขึ้นใจ

    คิดถึงผมไหมโชโตะ

    “..!!!..”

    หึๆ เสียงหัวเราะชวนน่าขนลุกดังขึ้นข้างหูของคนตัวสูง แม้โทโดโรกิจะตัวสูงกว่าทว่าพละกำลังของเขาไม่สามารถสลัดเจ้าของร่างอุณหภูมิเย็นยะเยือกนี่ได้เลยแม้แต่น้อย

    ราวกับคนด้านหลังไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป

    ผมน่ะคิดถึงนายกับคัตสึกิมากเลยนะมิโดริยะกระซิบข้างหูของคนตัวสูง ก่อนจะใช้ฟันขบกัดใบหูของอีกคนอย่างหยอกล้อสร้างความปั่นป่วนให้กับโทโดโรกิ จนร่างกายตอนนี้มันร้อนรุ่มยิ่งกว่าตอนใช้อัตลักษณ์ด้านซ้ายทดสอบการต่อสู้กับห้อง B เสียอีก

    จุ๊ๆ อย่าหันมามองกันสิ มือที่ว่างอีกข้างเอื้อมมาบีบคางของคนตัวโตให้หันไปด้านข้าง เผยให้เห็นต้นคอขาวที่มีเส้นเลือดไหลเวียนส่งเสียงตุบตับให้คนด้านหลังตาลุกวาว

    อ่า...ดูเส้นเลือดใหญ่ตรงคอนั่นสิ

    น่าอร่อยชะมัด!!

    ลิ้นสีแดงเลียรอบขอบปากตัวเองอย่างกระหาย ดวงตาสีเขียววาวโรจน์ยามที่สัญชาตญาณกำลังร้องบอกว่าให้เขาจัดการกับเหยื่อตรงหน้าซะ

    เลือดสีแดงที่อยู่ในกายนั่นมันคงอร่อยน่าดู หากดูดให้หมดทั้งตัวมันจะอร่อยขนาดไหนกันนะ

    แค่คิดก็น้ำลายสอซะแล้วสิ

    ริมฝีปากเย็นชืดกับลิ้นที่มีอุณหภูมิติดลบลากไล้ผ่านลำคอของโทโดโรกิไปมาอย่างสำรวจรสชาติว่ามันอร่อยหรือไม่ และยิ่งชิมมันมากเท่าไหร่ความต้องการภายในตัวก็ยิ่งมากขึ้น จนอยากจะฝังเขี้ยวลงบนเส้นเลือดของอีกฝ่ายและสูบกินอย่างตะกละตะกลาม

    แต่เพราะอายาโตะสั่งมาว่าอย่าพึ่งลงมือทำอะไรตามใจตัวเอง ตอนนี้ก็เลยทำได้เพียงชิมความหวานของอีกคนผ่านผิวหนังก็เท่านั้น

    นี่โชโตะ

    เมื่อพอใจกับการชิมตัวของอีกฝ่ายแล้ว เสียงหวานก็เอ่ยเรียกคนที่ถูกพันธนาการอีกครั้ง พร้อมกับประโยคที่ครั้งหนึ่งไม่ได้พูดออกไปให้อีกฝ่ายได้ยิน ทว่าวันนี้กลับกลายเป็นหนามแหลมคมทิ่มแทงคนฟังจนแสดงสีหน้ารู้สึกผิดออกมา

    นายยังรักผมอยู่หรือเปล่า?

    “….”

    ผมน่ะรักนายกับคัตสึกินะ

    “….”

    แต่นั่นมันก่อนที่ผมจะถูกทรยศจากพวกนาย ตอนนี้ผมน่ะ…”

    ฉับพลันใบหน้าของโทโดโรกิก็ถูกบังคับให้ไปสบกับดวงตาสีเขียวที่ครั้งหนึ่งมันสดใสและจริงใจอย่างซื่อตรง ทว่าตอนนี้มันกลับว่างเปล่า ไร้ความรู้สึก ความสดใสถูกแทนที่ด้วยความหม่นหมองเหมือนแสงที่ใกล้จะมอดดับในไม่ช้า และที่น่าตกใจสำหรับโทโดโรกิที่สุดคงหนีไม่พ้น

    ขีดสีดำเป็นเส้นตรงเหมือนกับดวงตาของสัตว์ร้ายภายใต้ดวงตาสีเขียวนั่น

    ไม่รวมถึงประโยคต่อมาที่กระชากหัวใจของโทโดโรกิ โชโตะออกมาและเหยียบซ้ำจนไม่เหลือชิ้นดี

    เกลียดนายกับคัตสึกิที่สุดเลยละ


    ___________________________________________________

    100%

    ตอนหน้าจะเป็นตอนใหม่ที่แทรกเข้ามานะคะ 

    พอดีอยากให้บทพวกสมาชิก B.S กันบ้าง 

    แน่นอนค่ะว่าแต่ละคนโคตรจะบันเทิงกันเลยทีเดียว







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×