คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER 04 : มันคือเรื่องตลก
*ยังไม่แก้คำผิด*
“ว้าว~~ใหญ่กว่าโรงเรียนเก่าของฮิเมะตั้งเยอะ!” เสียงเจี๊ยวจ๊าวของสาวน้อยผมสีเงินที่ถูกปกปิดด้วยหมวกใบโต ดวงตาสีม่วงใต้เลนส์แว่นสีใสมองรอบข้างอย่างสนใจกับความอลังการที่โรงเรียนยูเอย์เป็นผู้จัด ก่อนจะหันมาถามคนข้างกายที่อดีตเคยรู้จักทุกซอกทุกมุมของโรงเรียนนี้
“อิสึจังคิดว่าที่มีจะมีเรื่องสนุก ๆ ให้ฮิเมะทำรึเปล่านะ”
แขนข้างขวาถูกร่างเย็นชืดของเด็กสาวที่ตัวสูงกว่าตนกอดเอาไว้แน่น หน้าอกอุดมสมบูรณ์นั่นเบียดแขนของมิโดริยะจนคนที่เดินผ่านไปมาอดจะอิจฉาเจ้าของกลุ่มผมสีเขียวไม่ได้ และเพราะตัวเองเป็นบุคคลที่ส่วนสูงนั้นเตี้ยที่สุดในบ้าน เลยพลอยให้น้องเล็กคนนี้จิตตกไปหลายวันกันเลยทีเดียว
แม้แต่คุณฮิเมกิก็ตัวสูงกว่าผม ช่างเป็นผู้ชายที่น่าอับอายที่สุด
“เฮ้! เห็นว่าปีหนึ่งห้อง A กำลังเริ่มแสดงแล้วนะ” ในขณะที่มิโดริยะกำลังปลงตกกับชะตากรรมของตัวเอง เสียงพูดคุยของคนที่อยู่ใกล้พวกเขาก็เรียกความสนใจจากอมนุษย์ทั้งสองเข้าให้
“การแสดง??”
“เกี่ยวกับการเต้นและแสดงวงดนตรีน่ะครับ” เพราะเป็นหนึ่งในตัวนำเรื่องการเต้นเลยพอรู้การแสดงของอดีตเพื่อนร่วมห้องอยู่บ้าง
แต่น่าเสียดายที่ตำแหน่งนั้นของมิโดริยะถูกเปลี่ยนไปให้หญิงสาวผู้น่ารักอย่างชิโรนะ ฮาสึมิตั้งแต่หนึ่งอาทิตย์แรกที่เริ่มซ้อม
นี่แหล่ะความไม่ยุติธรรมระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้น
“ไปดูกันเถอะอิสึจัง!!”
“ห๊ะ?” มิโดริยะมองเด็กสาวข้างกายที่กระตุกแขนของเขาและกำลังลากเข้าไปในด้านในอย่างหน้าระรื่น แถมคุณเธอยังไม่หันมาถามความสมัครใจจากเขาเลยว่าต้องการเข้าไปเห็นอดีตเพื่อนร่วมห้องไหม
คุณฮิเมกิจะทำตามคำสั่งของคุณอายาโตะอย่างขะมักเขม้นแบบนี้ไม่ได้นะครับ
บ่นไปงั้นแหละ เพราะถึงยังไงมิโดริยะก็ตามใจเด็กสาวคนนี้อยู่ดี
บรรยากาศในหอประชุมที่ถูกจัดเอาไว้ให้สำหรับพวกปีหนึ่งโดยเฉพาะ กลับเต็มไปด้วยเหล่านักเรียนรุ่นพี่ที่บางพวกก็มาดูเพราะสนใจการแสดงของพวกห้อง A จริง ๆ และบางพวกมาเพื่อดูความล้มเหลวรวมถึงเตรียมเยาะเย้ยใส่อย่างเปิดเผย โดยเฉพาะรุ่นพี่ปี 3 ที่ยืนอยู่ข้างเขาที่ดูยังไงก็เกลียดพวกปีหนึ่งเข้าไส้สุด ๆ
มิโดริยะเลิกสนใจรุ่นพี่ด้านข้าง ก่อนจะลากดวงตาสีเขียวหม่นคู่นี้หันกลับไปมองบนเวทีที่มีอดีตเพื่อนร่วมห้องเริ่มทำการแสดงให้ทุกคนด้านล่างดูกันแล้ว แรกเริ่มจากการแสดงวงดนตรีที่มีคุณจิโร่เป็นนักร้องนำและมือเบสคู่กับคามินาริ คุณยาโอโยโรสุเป็นคนเล่นคีย์บอร์ด โทโคยามิมือกีตาร์ และคนสุดท้ายคือชายหนุ่มผมฟางที่กำลังรัวไม้ลงบนกลองชุดอย่างเกรี้ยวกราด
...คัตจัง...
ดวงตาสีเขียวกระตุบวูบก่อนที่มันจะกลับมาราบเรียบดั่งเดิม เมื่อเปิดด้วยเสียงดนตรีที่มีความรุนแรงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนดู ตามมาด้วยกลุ่มนักเต้นที่อยู่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์ พวกเขาแสดงการร่ายรำเป็นจังหวะเดียวกับดนตรีที่บรรเลงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ก่อนที่ทุกคนจะมองด้านบนที่มีเทปสีขาวและน้ำแข็งสร้างเป็นทางเดินบนฟ้าให้ผู้ชมได้ขึ้นไปเล่นสนุกกับมัน อีกฝั่งเป็นก้อนสีม่วงหนึบหนับของมิเนตะที่ถูกปาออกไปเพื่อเชื่อมติดกับถนนน้ำแข็งให้มั่นคงยิ่งขึ้น
“ถ้าทุกคนกำลังสนุกก็ไฮไฟว์หน่อยค่าาาา” อุรารากะที่ใช้อัตลักษ์ของเธอลอยไปแตะมือคนด้านล่างเพื่อให้พวกเขาไร้น้ำหนักและได้สนุกไปกับการแสดงในครั้งนี้
ระหว่างที่เธอกำลังลอยแปะมือคนอื่นอย่างสนุกสนาน จนมาถึงชายหญิงสองคนที่ทั้งคู่สวมชุดสีดำทั้งชุด กลุ่มผมสีเงินและสีเขียวโผล่ออกมาจากหมวกสีดำที่สวมปกปิดเอาไว้ ในขณะที่เธอกำลังลอยผ่านทั้งสองไปอยู่นั้น ดวงตาสีน้ำตาลก็เบิกกว้างเมื่อเห็นหนึ่งในสองคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเธอพอดี
“..!!!..”
รอยยิ้มที่อีกฝ่ายมอบให้นั้นมันไม่เคยลบออกไปจากความทรงจำของเธอเลยแม้แต่น้อย ยิ่งได้เห็นมันอีกครั้งก็พลอยให้คิดว่าเธอกำลังตาฝาดไปใช่หรือไม่ เพราะต่อให้อีกฝ่ายเป็นภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมา อุรารากะ โอชาโกะก็ยินดีที่จะได้สัมผัสมันอีกครั้ง
รอยยิ้มอ่อนโยนของเพื่อนชายที่เธอสนิทที่สุด
อุรารากะพยายามพาร่างไร้น้ำหนักของตัวเองไปหาเพื่อนสนิทของเธอ ทว่ากลับน่าเสียดายที่เธอลอยมายังเวทีโดยมีอาซุอิใช้ลิ้นตวัดเกี่ยวร่างของเธอเอาไว้ ก่อนที่การแสดงจะจบลงก็ได้มีหญิงสาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์เหมือนนางฟ้าลอยบนอากาศ
ปีกสีขาวที่ถูกสร้างจากกระดาษกางเหยียดตรงอย่างสง่างดงาม เรือนผมสีชมพูที่ถูกดัดลอนให้ดูน่ารักรับกับมงกุฎสีทองเหมือนเจ้าหญิง ดวงตาสีเดียวกับสีผมเปล่งประกายระยิบระยับอย่างน่ามอง รอยยิ้มหวานแจกจ่ายให้กับผู้ชมด้านล่าง ก่อนที่เสียงหวานกังวานจะเอ่ยขอบคุณผู้ชมทุกคนที่อยู่ด้านล่าง
“ขอบคุณที่มากันนะคะ”
ภาพตรงหน้าช่างเหมือนกับเทพธิดาไม่มีผิด
ทว่าในสายตาคนอื่นละนะ
“หึ!” มิโดริยะเหยียดยิ้มมองนางฟ้าประจำโรงเรียนที่กำลังร่ายรำอยู่บนโอกาสอย่างอ่อนช้อย ดวงตาสีเขียวทอประกายอย่างโกรธแค้นเพียงชั่วคราวก่อนที่มันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
นางฟ้าผู้งดงามน่ะเหรอ?
ก็แค่ผู้หญิงที่ใช้ร้ายกาจชอบเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นด้วยวิธีน่ารังเกียจก็เท่านั้น
“ไปกันเถอะครับคุณฮิเมกิ”
“เอ๋~ อิสึจังเบื่อแล้วเหรอ”
“ครับ ไม่อยากเสียสายตาไปมากกว่านี้”
“เห...นั่นสินะ แต่ก่อนไป” ดวงตาสีม่วงฉายแววสนุกพร้อมกับแผนร้ายกาจที่แสดงออกทางสีหน้าของหญิงสาวข้างกายอย่างชัดเจน
ฉับ!!
“กรี๊ดดดดดดดด!!!!!!”
“ฮาสึมิ!!!!”
จู่ ๆ ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเด็กสาวผมชมพู ปีกกระดาษที่มีความแข็งแรงสามารถลอยอยู่บนอากาศได้กลับถูกตัดขาดเป็นสองท่อน ก่อนที่ร่างบอบบางของชิโรนะจะล่วงลงสู่พื้นท่ามกลางความตกใจของคนอื่น ๆ ที่ไม่ทันได้เข้าไปช่วยรองรับแรงกระแทกจากอีกฝ่าย
หากใครสักคนที่ตาดี ๆ ก็จะสังเกตเห็นด้านเส้นบางสีดำตวัดผ่านปีกกระดาษนั่นให้ขาดอย่างรวดเร็วจนเหมือนกับเป็นอุบัติเหตุ ที่ปีกของชิโรนะหายไปเองเพราะใช้อัตลักษณ์มากเกินไป แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าของด้ายสีดำนั่นคือเด็กสาวข้างกายมิโดริยะที่กำลังยืนหัวเราะคิกคักอย่างสะใจ
“ดูท่าตอนเธอล้มสิอิสึจังตลกชะมัดเลย!” ฮิเมกิถึงกับยกมือปิดปากของตัวเองเพื่อกลั้นเสียงหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย
คิดไม่ผิดที่มาเที่ยวเล่นกับอิสึจังวันนี้
สนุกสุด ๆ ไปเลยล่ะ
เพราะได้สร้างความอับอายให้แก่แม่นางฟ้าประจำโรงเรียนไปแล้ว มิโดริยะก็จูงมือฮิเมกิออกไปจากสถานการณ์วุ่นวายทันที
ภาพแผ่นหลังของเด็กหนุ่มผมสีเขียวกำลังเดินห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ นั้น มันอยู่ในสายตาของอุรารากะตลอดเวลา เธอพยายามสะบัดมือของเพื่อนสนิทสาวออก ร่างกายพยายามฝ่ากลุ่มคนออกไปเพื่อหวังจะห้ามคนคนนั้นได้ทัน
“ดะ...เดี๋ยวก่อน...ยะ...ฮึก...อย่าพึ่งไปนะ” น้ำตาไหลอาบแก้มกลมก่อนที่เสียงของเธอจะตะโกนให้เพื่อนร่วมห้อง ที่บางส่วนกำลังดูอาการของเด็กสาวผมชมพู บางส่วนกำลังมองเธอที่ร้องไห้ออกมาอย่างสงสัย
“อย่าพึ่งไปนะเดกุคุง!!!!”
“หมายความว่ายังไงโอชาโกะจัง” อาซุอิที่อยู่ใกล้มากที่สุดเอ่ยถามเสียงสั่น ยิ่งเห็นเพื่อนสาวร้องไห้ตัวโยงเธอก็ยิ่งร้อนรนขึ้นไปอีก
และเพราะประโยคต่อมาของเธอ ทำให้บรรยากาศรอบข้างของนักเรียนปีหนึ่งห้อง A หนักอึ้งขึ้นมาทันที
“มะ...เมื่อกี้ตอนที่ฉันกำลัง...ฮึก...ลอยไปแปะมือกับคนอื่น”
“…..”
“ฉันเห็น...ฮึก...เดกุคุง”
“จะเป็นไปได้ยังไง มิโดริยะน่ะตายไปแล้วนะ!!!” มิเนตะตะโกนออกมาอย่างไม่เชื่อ ก่อนจะสะดุ้งโหยงและไปหลบอยู่หลังโชจิเมื่ออุรารากะสวนกลับมาเสียงดัง
“แต่ฉันเห็นเดกุคุงจริง ๆ!! เขายิ้มให้ฉันเหมือนเมื่อก่อน เขายังไม่ตาย! ได้ยินไหมว่าเขายังไม่ตาย!!!!”
นี่เป็นครั้งแรกที่อุรารากะตวาดใส่คนอื่น ใบหน้าน่ารักของเธออาบไปด้วยน้ำตา ทว่าดวงตาคู่นี้มันฉายแววแข็งกร้าวและดื้อรั้นว่าสิ่งที่เธอเห็นเป็นความจริง
มิโดริยะ อิสึคุยังไม่ตาย
เขายังมีชีวิตอยู่!!!!
ทว่าเพราะเหตุการณ์วันนั้นมันย้ำเตือนให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความจริงอันแสนโหดร้ายว่าเพื่อนร่วมห้องที่แสนดีคนนั้น....
ตายไปแล้ว
“โอ๊ย...คัตสึคุง...จะ...เจ็บ”
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังเคร่งเครียดกับประโยคของอุรารากะ เสียงหวานที่ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดก็เรียกร้องความสนใจจากนักเรียนชายบางส่วนให้หันไปมองเธอ ยกเว้นเพียงแค่เจ้าของชื่อที่กำลังใช้ดวงตาสีแดงจ้องอุรารากะเขม็ง
และนั่นทำให้หญิงสาวในชุดเทพธิดาหน้าเจื่อนเพราะถูกอีกฝ่ายเมิน
“ยังไง”
“เอ๊ะ?”
“คนที่เธอเห็นมันแต่งตัวยังไง” บาคุโกพยายามใจเย็นไม่เผลอใช้อารมณ์ของตัวเองตวาดใส่คนตรงหน้า
หัวใจที่ปิดตายตั้งแต่วันนั้นกลับเต้นกระหน่ำเหมือนกลองที่เขารัวอย่างบ้าคลั่งเมื่อสักครู่ ดวงตาสีแดงทอประกายด้วยความหวังที่แม้จะริบหรี่แค่ไหนเขาก็เชื่อว่ายัยหน้ากลมนี่ไม่คิดโกหกคนอื่นในเรื่องนี้เด็ดขาด
ในขณะที่อุรารากะกำลังนึกถึงการแต่งกายของคนที่คาดว่าจะเป็นเพื่อนสนิทของเธอ เสียงใสเล็กของเด็กสาวผมสีเงินที่ถูกมิริโอะอุ้มอยู่ก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบาอย่างไม่มั่นใจว่า
“สีดำ”
“….”
“พี่อิสึคุใส่ชุดสีดำมากับพี่สาวผมเงินดวงตาสีม่วง”
และเพราะประโยคนั้นของเอริ กลับสร้างความปั่นป่วนให้คนทั้งโรงเรียนที่ได้ยินลักษณะของคนที่สงสัยว่าเป็นอดีตนักเรียนที่เสียชีวิต และหลังจากนั้นโรงเรียนยูเอย์ก็มีนักเรียนห้อง A ต่างวิ่งกันออกตามหาคนที่สวมชุดสีดำทั้งชุดอย่างบ้าระห่ำ รวมถึงเหล่าอาจารย์ที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์อย่างไอซาวะและพรีเซนต์ไมค์ ทั้งสองก็ช่วยกันออกตามหากันอย่างไม่ลดละ
“ดูเหมือนพวกเขาอยากเล่นวิ่งไล่จับกับพวกเรานะครับ” ดวงตาสีเขียวมองอดีตเพื่อนร่วมห้องกับอดีตอาจารย์กระจายกันตามหาเขา ทั้งที่ก็เห็นแล้วว่าร่างเย็นชืดไร้ลมหายใจนั่นถูกฝังอยู่ในสุสานเต็มสองตาแท้ ๆ
“เป็นพวกเพ้อฝันมากกว่าที่คิดอีกแฮะ” ฮิเมกิหัวเราะอย่างชอบใจ ก่อนที่ดวงตาสีม่วงจะเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างพุ่งมาทางนี้ มือขาวซีดคว้าร่างน้องเล็กของบ้านพร้อมกับกระโดดวัตถุประหลาดที่พุ่งเข้ามาหมายจะรัดร่างเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี
ผ้าพันแผลงั้นเหรอ??
ฮิเมกิมองผ้าสีขาวนั่นอย่างงุนงง ก่อนที่เธอจะใช้ด้ายสีดำเกี่ยวตวัดกับต้นไม้ด้านล่างและกระโดดออกจากตึกสีฟ้าที่เป็นตึกหลักของยูเอย์ลงไปยังสนามที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนหลายหลัง จนนึกว่าเป็นเมืองที่อยู่ในโรงเรียนอีกที
“หยุดอยู่ตรงนั้นอย่าคิดหนีเด็ดขาด”
เท้ายังไม่ถึงพื้นก็ถูกต้อนรับด้วยร่างแยกของเอ็กโตพลาสซึมรอรับอยู่ตั้ง 36 ร่าง และคาดว่าก่อนมาร่วมจับผู้ต้องสงสัยคงหนีไปร้องคาราโอเกะมาแล้วแน่ ๆ ครั้งจะฝ่าทะลวงออกไปก็คงจะถูกเหล่าอาจารย์คนอื่นดักรอหรือไม่ก็โดนอัตลักษณ์ลบล้างของไอซาวะอีกทอดหนึ่งก็เป็นไปได้
และมันก็เป็นไปตามที่มิโดริยะคาดเดา เพราะเส้นด้ายสีดำของฮิเมกิหายไปทันทีที่ร่างของอดีตอาจารย์ที่มิโดริยะให้ความเคารพเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขา
“เอ๋....ทำไมอาจารย์ที่นี่ถึงได้ทำกับแขกแบบนี้กันละ??” ฮิเมกิเอ่ยถามชายหนุ่มขอบตาดำคล้ำ ที่กำลังใช้อัตลักษณ์ลบล้างไม่ให้เธอกับน้องเล็กได้ใช้อัตลักษณ์ในการหลบหนี
สมกับเป็นอดีตเพื่อนสนิทของเรียวสึคุง
รอบคอบเหมือนกับเปี๊ยบ
“เปิดหน้าของพวกเธอเดี๋ยวนี้” ไอซาวะเอ่ยสั่งเด็กทั้งสองที่นอกจากเสียผมแล้วทั้งตัวล้วนเป็นสีดำทั้งหมด และมันเหมือนเขากำลังมองตัวเองที่สวมใส่ชุดมืดมนไม่มีผิด
รู้สึกแปลก ๆ ที่เห็นเด็กพวกนี้เข้าสู่ลัทธิความมืดมนเหมือนกับเขา
“ทำไมต้องเปิดด้วยละ พวกเราเป็นแค่นักท่องเที่ยวเองนะ” ฮิเมกิแสร้งทำหน้าหวาดกลัวก่อนจะซบลงบนไหล่ของน้องเล็กอย่างต้องการหาที่หลบซ่อน
แต่ว่านะคุณฮิเมกิ พวกอดีตอาจารย์ของผมน่ะเขาไม่ได้หลอกง่ายเหมือนอาจารย์โรงเรียนเก่าของคุณหรอกครับ
“ตอนนี้พวกนั้นกำลังออกตามหานายทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะบาคุโกกับโทโดโรกิ นายคงไม่อยากเจอสองคนนั้นในสนามฝึกนี่หรอกใช่ไหม?”
แม้ตอนนั้นเขาเป็นหนึ่งในคนที่ไปส่งอดีตลูกศิษย์ที่นอนอยู่ในโลงสีดำและกำลังถูกดินปกคลุมทีละนิด จนในที่สุดก็กลายเป็นป้ายหินที่สลักชื่อเจ้าของร่างใต้ผืนดิน แต่คนตรงหน้าที่เหมือนกับอดีตลูกศิษย์ของเขาทุกอย่างก็พลอยให้ไอซาวะยอมเชื่ออย่างโง่งมว่าอีกฝ่ายคือมิโดริยะจริง ๆ
เพราะฮิเมากิพามิโดริยะมายังสนามฝึกซ้อมเบต้า โดยมีอาจารย์ยืนต้อนรับพร้อมหน้าพร้อมเพียงกัน ยกเว้นเพียงแต่ออลไมท์ที่ยังไม่รู้ข่าวว่ามีคนที่เหมือนกับอดีตลูกศิษย์ที่รักเหมือนลูกชายแท้ ๆ กำลังถูกไล่ตอนให้จนมุม ครั้นจะหนีออกไปจากวงล้อมก็โดนร่างแยกของอาจารย์เอ็กโตขวางเอาไว้อย่างรู้ทัน
“หยุดอยู่แค่นั้นแหละ”
ในขณะที่ต่างฝ่ายต่างลองเชิงกันอยู่นั้น ร่างปุกปุยที่แยกไม่ออกว่าหมี หมา หรือหนูก็โผล่มาขัดจังหวะสงครามเย็น พร้อมกับชายหนุ่มที่ถูกบดบังด้วยหน้ากากสีดำรูปหงส์อยู่ในชุดคล้ายกับชนชั้นสูง กลุ่มผมสีแดงเพลิงสะท้อนกับแสงของดวงอาทิตย์ ดวงตาสองสีจ้องมองอาจารย์โรงเรียนยูเอย์อย่างละเอียดแฝงไปด้วยแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้เหล่าโปรฮีโร่ต่างทยอยกันถอยห่างออกจากเด็กในการปกครองของชายหนุ่มคนนี้ และเมื่อได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจแล้ว ใบหน้าใต้หน้ากากก็หันไปทักทายเด็กในการปกครองทั้งสองด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“เล่นซนจนได้นะฮิเมกิ อิสึคุ”
“อายาโตะ!!!”
ฮิเมกิพุ่งเข้าไปกอดร่างสูงของชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงอย่างเคยชิน ดวงหน้างดงามถูไถกับแผ่นอกแกร่งอย่างออดอ้อน พร้อมกับดวงตาสีม่วงที่ส่องประกายมาเพื่อขอคำชมจากชายหนุ่มตรงหน้าผู้เปรียบดั่งพี่ชายของเธอ และเจ้าของดวงตาสองสีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
“ทำได้ดีมาก”
“ฮิเมะรักอายาโตะที่สุดเลย!!!”
อายาโตะปล่อยให้เด็กสาวที่เอ็นดูเหมือนน้องสาวกอดจนพอใจ ดวงตาสองสีที่แฝงไปด้วยอำนาจตวัดมองโปรฮีโร่ที่ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ในโรงเรียนยูเอย์ ก่อนจะก้มมองผู้อำนวยการโรงเรียนที่ส่งสิ่งแลกเปลี่ยนที่มีค่าไปให้เพื่อต้องการพบเขาซึ่ง ๆ หน้า
แต่ไม่คิดว่าสถานที่นัดพบจะเป็นโรงเรียนยูเอย์ซะได้
“หากคุณต้องการรู้เรื่องของพวกเรา ผมขอเป็นสถานที่มิดชิดและปลอดภัยต่อข้อมูลที่คุณต้องการรู้ผู้อำนวยการเนซึ”
“ตามความประสงค์ของนาย อาคาชิจิ อายาโตะ”
-Dark Uptight-
“แฮ่ก ๆ ๆ”
เสียงหอบหายใจดังขึ้นเป็นจังหวะไม่คงที่ ดวงตาสีสองกับกลุ่มผมสีขาวแดงกวาดมองหาคนที่สวมชุดสีดำทั้งชุดอย่างละเอียดถี่ถ้วน บ้างก็เจอคนที่แต่งกายเหมือนกัน แต่กลับไม่ใช่จนต้องผิดหวังไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง
โทโดโรกิ โชโตะพยายามมองหาคนที่เขาเฝ้าภาวนามาตลอดว่าอีกคนยังมีชีวิตอยู่ แม้จะรู้ว่าเป็นเพียงแค่เรื่องเพ้อฝันแต่ในใจของลูกชายฮีโร่อันดับหนึ่งก็ยังหวังว่าจะได้พบกับคนตัวเล็กอีกครั้ง
อยากขอโทษที่ทำให้อีกคนเจ็บปวดและเสียน้ำตา
และอยากขอโอกาสให้ตัวเองอีกสักครั้ง เพียงเพราะเขาถูกล่อลวงด้วยอัตลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้นจนหลงลืมความรู้สึกที่อีกฝ่ายมอบให้ไปอย่างไม่น่าให้อภัย
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสมเพชถูกมอบให้กับตัวเอง ร่างสูงสง่าพิงกำแพงอย่างหมดแรงเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าสิ่งที่ตัวเองหวังเอาไว้นั้น...
มันไม่เป็นความจริง
หมับ!!
“อึก!!!”
ในขณะที่โทโดโรกิกำลังเหม่อมองท้องฟ้าอย่างไร้ซึ่งการป้องกัน ร่างของเขาก็ถูกกระชากเข้าไปในซอกที่มืดมิด พร้อมกับฝ่ามือเย็นเฉียบปิดปากของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น อัตลักษณ์สองขั้วเริ่มตั้งกลไกป้องกันตัวและก่อนที่น้ำแข็งด้านขวาจะแช่งแข็งคนด้านหลัง ก็ถูกหยุดด้วยเสียงทุ้มหวานที่ต่อให้ไม่ได้ยินมาเกือบ 2 เดือนโทโดโรกิก็ยังจำได้ขึ้นใจ
“คิดถึงผมไหมโชโตะ”
“..!!!..”
“หึๆ” เสียงหัวเราะชวนน่าขนลุกดังขึ้นข้างหูของคนตัวสูง แม้โทโดโรกิจะตัวสูงกว่าทว่าพละกำลังของเขาไม่สามารถสลัดเจ้าของร่างอุณหภูมิเย็นยะเยือกนี่ได้เลยแม้แต่น้อย
ราวกับคนด้านหลังไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป
“ผมน่ะคิดถึงนายกับคัตสึกิมากเลยนะ” มิโดริยะกระซิบข้างหูของคนตัวสูง ก่อนจะใช้ฟันขบกัดใบหูของอีกคนอย่างหยอกล้อสร้างความปั่นป่วนให้กับโทโดโรกิ จนร่างกายตอนนี้มันร้อนรุ่มยิ่งกว่าตอนใช้อัตลักษณ์ด้านซ้ายทดสอบการต่อสู้กับห้อง B เสียอีก
“จุ๊ๆ อย่าหันมามองกันสิ” มือที่ว่างอีกข้างเอื้อมมาบีบคางของคนตัวโตให้หันไปด้านข้าง เผยให้เห็นต้นคอขาวที่มีเส้นเลือดไหลเวียนส่งเสียงตุบตับให้คนด้านหลังตาลุกวาว
อ่า...ดูเส้นเลือดใหญ่ตรงคอนั่นสิ
น่าอร่อยชะมัด!!
ลิ้นสีแดงเลียรอบขอบปากตัวเองอย่างกระหาย ดวงตาสีเขียววาวโรจน์ยามที่สัญชาตญาณกำลังร้องบอกว่าให้เขาจัดการกับเหยื่อตรงหน้าซะ
เลือดสีแดงที่อยู่ในกายนั่นมันคงอร่อยน่าดู หากดูดให้หมดทั้งตัวมันจะอร่อยขนาดไหนกันนะ
แค่คิดก็น้ำลายสอซะแล้วสิ
ริมฝีปากเย็นชืดกับลิ้นที่มีอุณหภูมิติดลบลากไล้ผ่านลำคอของโทโดโรกิไปมาอย่างสำรวจรสชาติว่ามันอร่อยหรือไม่ และยิ่งชิมมันมากเท่าไหร่ความต้องการภายในตัวก็ยิ่งมากขึ้น จนอยากจะฝังเขี้ยวลงบนเส้นเลือดของอีกฝ่ายและสูบกินอย่างตะกละตะกลาม
แต่เพราะอายาโตะสั่งมาว่าอย่าพึ่งลงมือทำอะไรตามใจตัวเอง ตอนนี้ก็เลยทำได้เพียงชิมความหวานของอีกคนผ่านผิวหนังก็เท่านั้น
“นี่โชโตะ”
เมื่อพอใจกับการชิมตัวของอีกฝ่ายแล้ว เสียงหวานก็เอ่ยเรียกคนที่ถูกพันธนาการอีกครั้ง พร้อมกับประโยคที่ครั้งหนึ่งไม่ได้พูดออกไปให้อีกฝ่ายได้ยิน ทว่าวันนี้กลับกลายเป็นหนามแหลมคมทิ่มแทงคนฟังจนแสดงสีหน้ารู้สึกผิดออกมา
“นายยังรักผมอยู่หรือเปล่า?”
“….”
“ผมน่ะรักนายกับคัตสึกินะ”
“….”
“แต่นั่นมันก่อนที่ผมจะถูกทรยศจากพวกนาย ตอนนี้ผมน่ะ…”
ฉับพลันใบหน้าของโทโดโรกิก็ถูกบังคับให้ไปสบกับดวงตาสีเขียวที่ครั้งหนึ่งมันสดใสและจริงใจอย่างซื่อตรง ทว่าตอนนี้มันกลับว่างเปล่า ไร้ความรู้สึก ความสดใสถูกแทนที่ด้วยความหม่นหมองเหมือนแสงที่ใกล้จะมอดดับในไม่ช้า และที่น่าตกใจสำหรับโทโดโรกิที่สุดคงหนีไม่พ้น
ขีดสีดำเป็นเส้นตรงเหมือนกับดวงตาของสัตว์ร้ายภายใต้ดวงตาสีเขียวนั่น
ไม่รวมถึงประโยคต่อมาที่กระชากหัวใจของโทโดโรกิ โชโตะออกมาและเหยียบซ้ำจนไม่เหลือชิ้นดี
“เกลียดนายกับคัตสึกิที่สุดเลยละ”
___________________________________________________
100%
ตอนหน้าจะเป็นตอนใหม่ที่แทรกเข้ามานะคะ
พอดีอยากให้บทพวกสมาชิก B.S กันบ้าง
แน่นอนค่ะว่าแต่ละคนโคตรจะบันเทิงกันเลยทีเดียว
ความคิดเห็น