คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER 03 : ความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้น
*ยังไม่แก้คำผิด*
หลังจากที่ดื่มด่ำความอร่อยชั้นเลิศจนอิ่มหนำสำราญ
ก็ถึงเวลาที่มิโดริยะจะได้ทำความรู้จักกับเหล่าสมาชิกในคฤหาสน์หงส์ดำนี่เสียที แน่นอนว่าตลอดทางตั้งแต่ห้องนอนจนใกล้ถึงห้องประชุมที่อยู่เบื้องหน้า
มิโดริยะนั้นก็ตื่นเต้นเสียจนเผลอหลุดนิสัยพึมพำและเข้าสู่โลกของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย
ท่ามกลางสายตาขบขันระคนเอ็นดูของนัตสึกิที่เดินอยู่ด้านหลัง
ดวงตาสีโกเมนที่มักจะดุดันและชอบฉายแววก้าวร้าวอยู่บ่อย
ๆ บัดนี้มันกลับทอประกายอย่างอ่อนโยน
ราวกับว่านัตสึกิที่กำลังเดินมองแผ่นหลังเล็กของคนเด็กกว่า
กับนัตสึกิที่เป็นอดีตลูกชายคนโตของครอบครัวบาคุโก มันคนละคนกันอย่างงั้นแหละ
ก็แหงละ...นี่คือนัตสึกิที่ตายไปแล้วนะเออ
หรือจะเรียกว่าเป็นปีศาจในคราบศพเดินได้ก็เถอะ
นัตสึกิยังคงเดินมองเจ้าเด็กเด๋อที่เอาแต่บ่นพึมพำไม่ยอมหยุด
แม้กระทั่งตอนที่เขาเปลี่ยนจากเดินตามหลังเป็นคนเปิดประตู ก้าวเข้าไปในห้องประชุมที่มีเหล่าสมาชิกขององค์กรต่างนั่งประจำที่
และกำลังใช้ดวงตาหลากสีจ้องมองน้องเล็กคนใหม่แห่งคฤหาสน์ห้องดำอย่างไม่วางตา
“เอ่อ...คือว่านะ
พวกเราจะจ้องหน้าน้องเขาไปถึงเมื่อไหร่?”
น้ำเสียงนุ่มนวลออกไปทางหนุ่มเจ้าสำราญดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของคนอื่น ๆ ที่ยังคงจ้องใบหน้าหวานของเจ้าน้องเล็กดั่งคนตกอยู่ภายในภวังค์
โดยเฉพาะคนเป็นหัวหน้าที่แสดงท่าทีสนใจมากกว่าใครเพื่อน
ดวงตาสีอำพันเหล่มองเหล่าชายฉกรรจ์ฝั่งนู้นทีฝั่งนี้ทีด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
ยิ่งหันไปจ๊ะเอ๋กับชายผู้หนุ่มผมสีแดงเพลิงที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะกำลังใช้ดวงตาสองสีจ้องมองคนมาใหม่ด้วยรอยยิ้มมุมปากชวนน่าขนลุก
เจ้าของฉายาพี่ใหญ่ประจำคฤหาสน์ก็ถึงกับต้องยกมือทาบอกอย่างมีจริตจะก้าน
พร้อมกับสีหน้าโอเวอร์ที่ทำเอานัตสึกิคิ้วกระตุกถี่ยิบและอยากกระโดดเข้าไปถีบอีกฝ่ายชะมัด
ไอ้พวกคนแก่แม่งมันน่าหมั่นไส้หมดทุกคน!!!
พรึบ!!
“เอ๊ะ?”
มิโดริยะกระพริบตาปริบ
ๆ อย่างคนทำอะไรไม่ถูก
เมื่อแก้มทั้งสองข้างสัมผัสได้ถึงความเย็นขั้นติดลบที่แผ่กระจายออกมาจากมือขาวซีดของเด็กสาวเรือนผมสีเงินยาวสยายถึงกลางหลัง
ดวงตาสีม่วงหม่นที่กำลังฉายแววชอบใจกับการบีบและยืดแก้มป่อง ๆ ของมิโดริยะอย่างมันมือ
ยิ่งใบหน้างดงามราวกับหลุดออกมาจากนางเอกในโชโจมังงะ
อันเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสาวกโอตะคุทั่วทุกวัย แม้กระทั่งตัวของมิโดริยะเองก็เคยอ่านมังงะหรือคลุกคลีกับเพื่อนสาวห้องเอ
ก็อดที่จะหน้าแดงเพราะความเขินไม่ได้
ก็พี่สาวตรงหน้าเขาสวยเกินไปนี่หน่า
“หวา
ๆ สภาพดูดีกว่าตอนที่งัดเอาออกมาจากหลุมศพอีกนะเนี่ย” น้ำเสียงระรื่นหูเอ่ยกับเจ้าเด็กน้อยตรงหน้า
สองมือก็บีบแก้มพร้อมกับสำรวจร่างกายของมิโดริยะทั่วทุกซอกทุกมุม
ก็พบว่าบาดแผลทุกจุดที่เคยประดับอยู่บนตัวกลับหายไปไม่เหลือร่องรอยใด ๆ
ให้กลายเป็นตำหนิอีกต่อไป
และพอสำรวจจนพอใจแล้ว
ร่างสูงเพรียวของเด็กสาวเพียงคนเดียวในคฤหาสน์หลังนี้ก็เริ่มต้อนรับสมาชิกคนสุดท้าย
ด้วยการกอดร่างที่เตี้ยกว่าตัวเองด้วยความถูกใจแบบสุดฤทธิ์
จนหน้าของมิโดริยะหายเข้าไปอ้อมกอดของเด็กสาวที่รัดแน่นจนแทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้
“ฮิเมะชอบเด็กคนนี้มากเลยละ
น่ารักสุด ๆ เลยเนอะอายาโตะ” เอ่ยชมไม่พอ
ยังหันไปขอความเห็นจากชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงผู้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าที่นาน ๆ
ครั้งจะเอ่ยปากชมใครสักคน
“ก็น่ารักจริง
ๆ นั่นแหละ”
หืออออ
ณ
ตอนนี้เหล่าชายหนุ่มที่เหลือล้วนอุทานออกมาเป็นคำเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย สายตาแปลก
ๆ พร้อมใจกันส่งไปหาผู้เป็นหัวหน้าที่เหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าเผลอพูดอะไรออกมา แต่แทนที่จะหลุดมาดหรือตกใจกลับมีเพียงแค่คิ้วข้างขวาเลิกขึ้นเล็กน้อยคล้ายกับบอกว่าพวกเขาเป็นบ้าอะไร
คนที่บ้าน่ะมันนายต่างหาก
คนที่ชอบทำตัวเหมือนจักรพรรดินั่งมองเหตุการณ์อยู่บัลลังก์จะยอมเอ่ยปากชมใครง่าย ๆ
แบนนี้ มันหาได้ง่ายที่ไหนกัน
“เฮ้ย! เลิกบีบแก้มเจ้าเด็กนี่ซะทีฮิเมะ”
นัตสึกิเอ่ยกับเด็กสาวที่ยังคงหยอกล้อน้องเล็กอย่างกับเห่อของเล่นใหม่ ก่อนที่มือหนาจะกระชากร่างนุ่มนิ่มเข้ามากอดไว้อย่างหวงแหนยิ่งกว่าหมาหวงเจ้าของ
“บู้
ๆ นัตสึจังขี้งก” เจ้าขอชื่อยู่ปากใส่นัตสึกิ
ก่อนที่เธอจะจำใจกลับไปนั่งประจำที่ของตัวเอง เมื่อเจอสายตาของชายหนุ่มผมแดงจ้องมองมา
ใบหน้างามบึ้งตึงเล็กน้อยเพราะถูกขัดใจ
ทว่าไม่นานก็ต้องกลับมาอารมณ์ดีอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มผมดำข้างกายผู้มีตำแหน่งพี่รองประจำบ้านยื่นลูกอมมาให้
เรียวสึจังใจดีที่สุด~
มิโดริยะถูกจัดให้นั่งลงบนเก้าอี้ระหว่างกลางของอดีตลูกชายคนโตของตระกูลบาคุโก
กับอดีตลูกชายคนเล็กแห่งบ้านคิเซกิที่เป็นเครือญาติของโทโดโรกิอีกที
แน่นอนว่าบรรยากาศที่ทั้งสองแผ่กระจายออกมาจากตัวนั้นมันช่างตรงกันข้ามราวกับตัวของมิโดริยะกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางทะเลเพลิงกับเทือกเขาน้ำแข็งไม่มีผิด
“ยินดีต้อนรับการกลับมาอีกครั้งนะมิโดริยะ
อิสึคุ”
“อ๊ะ...ครับ” มิโดริยะขานรับคนที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าด้วยความประหม่า
ดวงตาสีเขียวมรกตกวาดมองคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่อีกฝั่ง
ก็พบว่าบางคนมิโดริยะคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ชายผมดำที่นั่งเคี้ยวอมยิ้มอย่างเอื่อยเฉื่อยอยู่ตรงข้ามกับเขา
อดีตฮีโร่ใต้ดินชื่อดังผู้เป็นคู่หูและเพื่อนสนิทของอาจารย์ไอซาวะ
‘ไดร์วูฟ
อามาเนะ เรียวสึเกะ’
ส่วนผู้ชายผมเงินที่นั่งส่งยิ้มทะเล้นมาให้ก็เป็นลูกศิษย์อันดับหนึ่งของรีคัพเวอรี่เกิร์ล
แถมยังเป็นถึงอดีตแพทย์ฮีโร่จอมอัจฉริยะที่ร้อยปีจะมีสักคนหนึ่ง ซึ่งความสามารถของเขานั้นล้วนถูกยอมรับอย่างกว้างขวางไปทั่วทุกวงการ
‘ฮิราคิตะ
ชูซาคุ’
ทำไมอดีตฮีโร่มากความสามารถถึงได้มานั่งอยู่ตรงหน้าเขากันละ?
อ๋อ...ลืมไปก็เพราะพวกเขานั้นตายไปแล้วและก็กลับมาใหม่อีกครั้ง
เหมือนกับกรณีของเขานี่ไง
“ตัวเล็กคงกำลังสงสัยใช่ไหมละว่าทำไมคนที่ตายไปแล้วถึงฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง?”
อาจเป็นเพราะมิโดริยะทำหน้าสงสัยออกมาอย่างชัดเจน
น้ำเสียงทะเล้นของชูซาคุก็เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์
ที่พาให้ใครต่อใครใจเต้นรัวได้เพียงแค่เห็นมัน
ดวงตาสีอำพันฉายแววแพรวพราวพร้อมล่อลวงสมาชิกใหม่ให้ตกหลุมพรางได้ทุกเมื่อ
หากไม่มีมือหนาของเจ้าตัวปัญหาหมายเลขหนึ่งยกขึ้นมาปิดบังดวงตาสีมรกตคู่สวยเข้าเสียก่อน
“เลิกหน้าม่อได้แล้วไอ้หมอเวร”
“ปากร้ายจังเลยนะนัตสึกิ”
“หา!!!”
“ชูซาคุ
นัตสึกิ”
น้ำเสียงราบเรียบเปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจเอ่ยเรียกชื่อของคนที่กำลังจะเปิดสงครามน้ำลายอย่างเช่นทุกครั้ง
ดวงตาสองสีเปรยมองคนทั้งสองนิ่ง ๆ
ทว่าบรรยากาศที่ปล่อยออกมาจากร่างสมส่วนมันช่างกดดัน จนคนที่เหลือต่างพากันจ้องมองตัวต้นเหตุทั้งสองที่ต่างฝ่ายต่างหันหน้าหนีไปคนละทาง
“โทษที
ๆ / ชิ!!!”
“ต้องขอโทษแทนทั้งสองคนด้วยนะ
อยู่กันไปนาน ๆ เธออาจจะชินกับมันก็ได้”
“อ่า...ครับ” มิโดริยะถึงกับยิ้มแห้ง
เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะถูกต้อนรับด้วยสงครามน้ำลายของคนอายุมากกว่าทั้งสอง
มันทำให้นึกถึงตอนที่คัตจังทะเลาะกับโชโตะคุงเลย
มิโดริยะหยุดชะงักไปเล็กน้อยเมื่อตัวเองเผลอไปคิดถึงคนใจร้ายทั้งสอง
ดวงตาสีมรกตสั่นไหวไปมาราวกับกำลังอยู่ในช่วงสับสนว่าทำไมตัวเองต้องนึกถึงสองคนนั้นที่เป็นต้นเหตุให้เขามาอยู่ในสภาพนี้ด้วย
ถ้าไม่ใช่เพราะคัตจังกับโชโตะคุงทิ้งเขาเพื่อไปหาผู้หญิงคนนั้น
ตัวเขาก็คงไม่ต้องมาตายอย่างน่าสมเพชแบบนี้
ไม่สิ...สองคนนั้นก็แค่ตัวแปรตามที่ทำให้เขาตาย
ส่วนตัวแปรต้นผู้เป็นสาเหตุทั้งหมดคือผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้นต่างหากละ
ชิโรนะ
ฮาสึมิคือคนที่ฆ่าเขา
ยัยนั่นมันคือฆาตกร!!!
ดวงตาสีมรกตหม่นแสงกำลังบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความแค้นอันแสนบ้าคลั่ง
ไอสีดำลอยฟุ้งอยู่รอบกายปลดปล่อยจิตสังหารของผู้ล่าออกมาอย่างไม่เกรงกลัว รูปลักษณ์ที่หลบซ่อนอยู่ในกายค่อย
ๆ เผยโฉมให้คนที่เหลือได้เห็นมันอย่างช้า ๆ
โดยเฉพาะเขี้ยวแหลมคมที่โผล่พ้นริมฝีปากอวบอิ่มออกมานั่น
“งดงามจริง
ๆ”
“อือ
มีเสน่ห์”
ชูซาคุเปิดปากเอ่ยชมความงดงามของพ่อแวมไพร์น้อยที่กำลังปล่อยความแค้นออกมาเผื่อแผ่พวกเขาที่เหลือ
ก่อนจะตามมาด้วยเรียวสึเกะที่แม้จะทำตัวเอื่อยเฉื่อยคล้ายกับไม่สนใจอะไร
ทว่าดวงตาสีแดงเหมือนทับทิมล้วนจับจ้องสมาชิกใหม่อยู่ตลอดเวลา ถึงรูปลักษณ์ของอามาเนะ
เรียวสึเกะจะเป็นปรปักษ์กับรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย
แต่ก็ไม่ได้มีกฎข้อไหนที่หมาป่าจะคลอเคลียค้างคาวไม่ได้นี่จริงไหม?
หมับ!!!
“อ๊ะ!”
สัมผัสเย็นยะเยือกบริเวณลำคอเรียกสติที่เตลิดไปไกลของมิโดริยะให้กลับมายังปัจจุบัน
ดวงตาสีไพลินคือสิ่งแรกที่เข้ามาอยู่ในสายตาของมิโดริยะ
ใบหน้าที่คล้ายกับอดีตคนที่เด็กหนุ่มหลงรักสุดหัวใจ
เคลื่อนเข้าใกล้ก่อนจะหยุดอยู่ในระยะอันแสนอันตรายสำหรับคนเด็กกว่าที่เผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
“ฉันรู้ว่านายแค้นเจ้าพวกนั้น
แต่รู้ไหมว่ากลิ่นความเกลียดชังของทารกที่พึ่งเกิดใหม่อย่างนายน่ะ”
ไม่เพียงแค่คำพูด
ปลายนิ้วที่แตะอยู่บนลำคอขาวก็ลากขึ้นไปเกลี่ยตรงบริเวณริมฝีปากอวบอิ่ม
ดวงตาสีไพรินทอประกายอย่างแรงกล้าพร้อมกับน้ำเสียงทุ้มต่ำจะเอ่ยประโยคที่เหล่าชายหนุ่มรวมถึงเด็กสาวเพียงหนึ่งเดียวล้วนเห็นพ้องตรงกันว่า…
“มันน่าขย้ำขนาดไหน”
“..!!!..”
พะ...ผู้ชายคนนี้อันตรายเกินไปแล้ว!!!
หลังจากนั้นมิโดริยะก็เอาแต่นั่งเงียบด้วยใบหน้าเด๋อด๋าชวนน่าขบขัน
สมองทำการประมวลผลไม่ทันสักเท่าไหร่ นอกจากรู้ชื่อของเหล่าสมาชิกแต่ละคนว่าเป็นใคร
มาจากไหน และตายเพราะอะไร ซึ่งทุกคนล้วนมีเรื่องราวการตายชวนน่าหดหู่กันทั้งสิ้น
แม้กระทั่งพี่ชายที่มิโดริยะชอบไปเล่นด้วยกันบ่อย ๆ
อย่างนัตสึกิก็เป็นการตายที่ทำเอาเขาตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึง
ทุกอย่างที่เขาได้ยินมาเกี่ยวกับพี่นัตสึกิ...
มันผิดพลาดทั้งหมด
“แล้วเป้าหมายของพวกเราคืออะไรเหรอครับ”
พอได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างจนกระจ่างหมดแล้ว
มิโดริยะก็รวบรวมสติของตัวเองให้มั่นคงและเอ่ยถามชายหนุ่มผมแดง
ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกผู้คนเรียกว่าจักรพรรดิผู้สมบูรณ์แบบ เป็นบุคคลที่ขับเคลื่อนอำนาจหนุนหลังอาชีพฮีโร่ให้กลายเป็นที่นิยมได้เพียงไม่กี่ปี
แถมยังเป็นที่น่าเกรงกลัวของพวกเบื้องสูงทั้งหลายจนมีการแอบสั่งกำจัดอีกฝ่ายอยู่หลายครั้ง
“เธอรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ใครคือผู้นำตระกูลอาคาชิจิ?”
“ครับ
ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันคืออาคาชิจิ ซากาโตะ”
คำตอบของคนเด็กกว่าเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจาก
‘อาคาชิจิ อายาโตะ’ ได้อย่างง่ายดาย
ร่างสมส่วนของอดีตผู้นำตระกูลที่กุมอำนาจทุกส่วนเอาไว้เอนตัวพิงกับเก้าอี้
ดวงตาสองสีที่ข้างหนึ่งเป็นสีอำพันและอีกข้างหนึ่งเป็นสีแดงทอประกายความเลือดเย็นออกมา
ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยประโยคที่ทำเอาตัวของมิโดริยะชาวาบไปทุกส่วน
“หมอนั่นคือน้องชายแท้
ๆ ของฉัน แถมยังเป็นคนลงมือฆ่าฉันให้ตายอย่างน่าสมเพช
แม้กระทั่งศพก็ไม่ยอมฝังไว้ในสุสานของตระกูล”
“….”
“เพราะเป็นคนทะเยอทะยานอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเอง
จิตใจถึงได้วิปลาสขวนขวายทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถทำให้เจ้าตัวครองโลกทั้งใบได้ จนถึงขั้นสร้างองค์กรที่เป็นดั่งฝันร้ายของใครหลายคน”
“….”
“องค์กรยาคุ"
“รู้สึกคุ้นหูใช่ไหมละ?”
ใช่...มันคุ้นหูสำหรับมิโดริยะเป็นอย่างมาก
เพราะครั้งหนึ่งในขณะที่เขากำลังออกลาดตระเวนรอบเมือง
ก็ดันไปปะทะกับคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่าองค์กรยาคุ
พวกนั้นพยายามตามหาอะไรบางอย่างที่มิโดริยะเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันคืออะไร
ไหนจะการที่เอาแต่พร่ำเรียกคำว่าปีศาจไม่ยอมหยุด
เดี๋ยวนะ...ปีศาจงั้นเหรอ??
“บิงโก~ สิ่งที่อิสึจังคิดน่ะล้วนถูกต้องทุกประการเลยละ”
‘ชิราโฮชิ
ฮิเมกิ’
ฉีกยิ้มหวานกระแทกใจ เมื่อเห็นปฏิกิริยาอันน่ารักจากน้องเล็กคนใหม่
ดวงตาสีอเมทิสต์ฉายแววระยิบระยับดั่งเด็กน้อยได้ของเล่นที่ถูกใจ
และตามมาด้วยเสียงหัวเราะจากคนอื่น ๆ ยามเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มแสดงความเด๋อด๋าออกมาไม่มีหยุด
ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ฮิเมกิคนเดียวแล้วละที่ถูกใจเจ้าเด็กน้อยคนนี้
เพราะทุกคนที่นี่ล้วนชอบอิสึจังหมดเลยนี่หน่า
“งะ...งั้นสิ่งที่คนพวกนั้นต้องการ…”
“คือการตามล่าพวกเราเพื่อไปชำแหละและศึกษาว่าเพราะเหตุใดพวกเราที่ตายไปแล้วถึงได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง”
อายาโตะเป็นฝ่ายชี้แจงความข้องใจทั้งหมดให้แก่เด็กน้อยได้รับรู้ถึงการคงอยู่ของพวกเขา
“หน้าที่ของพวกเราคือทำลายองค์กรยาคุและกำจัดอาคาชิจิ
ซากาโตะ แม้ว่าข้อหลังจะเป็นความแค้นส่วนตัวของอายาโตะก็เถอะ” ชูซาคุยักไหล่เมื่อเอ่ยถึงสิ่งที่พวกเราต้องทำหลังจากทำลายองค์กรนรกนั่นไปแล้ว
พลางก็เหล่มองคนเป็นหัวหน้าที่ยังคงนั่งเท้าคางส่งยิ้มคาดเดาไม่ได้ คล้ายกับเมินเฉยประโยคเขาของไปอย่างสิ้นเชิง
“อันที่จริงแล้วยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเรากลับมาสู่โลกของคนเป็นอีกครั้ง” น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยของชายหนุ่มผมดำที่จมอยู่ในโลกส่วนตัวมาตลอดก็ได้เป็นผู้เปิดบทสนทนาครั้งใหม่ขึ้น
ดวงตาสีแดงทับทิมสบเข้ากับดวงตาสีเขียวมรกตของคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะขยับเปล่งคำพูดออกมาอย่างช้า ๆ
“ความปรารถนาครั้งสุดท้ายตอนเป็นมนุษย์”
“..!!!..”
“มันแรงกล้าจนทำให้นายเป็นผู้ถูกเลือกคนสุดท้าย”
“….”
“เพราะงั้นมันจึงเป็นเงื่อนไขแรกที่ทำให้นายและพวกฉันมานั่งอยู่ตรงนี้
เพื่อทำตามความปรารถนาครั้งสุดท้ายให้สำเร็จ”
ความปรารถนาครั้งสุดท้ายตอนเป็นมนุษย์งั้นเหรอ?
มิโดริยะนั่งขบคิดอยู่คนเดียวหลังจากได้ฟังเรียวสึเกะพูดจนจบ
ฉับพลันภาพความทรงจำในตอนที่เขากำลังจะถูกตึกหล่นลงมาทับทั้งร่าง
แม้จะฉีกยิ้มเป็นการจากลากับเหล่าเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเขา ทว่าภายในใจของมิโดริยะนั้นมันเต็มไปด้วยท่าทีไม่ยินยอม
พยายามกระเสือกกระสนเอาตัวรอดให้ได้ ความรักตัวกลัวตายมันล้นทะลักจนแทบจะปกปิดมันเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มไม่อยู่
โดยเฉพาะความคิดที่เอาแต่โยนให้คนพวกนั้นเป็นฝ่ายผิดที่ทำให้เขาต้องตายก่อนจะได้ทำความฝันสำเร็จ
ถ้าเลือกได้มิโดริยะก็อยากจะกระชากตัวผู้หญิงคนนั้นให้มาตายด้วยกัน
แต่เพราะอีกฝ่ายอยู่ไกลเกินไปกอปรกับอัตลักษณ์ที่ทำให้ร่างกายของเขาเป็นอัมพาตขยับเขยื้อนไม่ได้
มันก็เลยทำตามความคิดอันบิดเบี้ยวนี่ไม่สำเร็จ
แต่ตอนนี้เขาสามารถทำให้มันสำเร็จได้แล้วนี่
ลากคอยัยนั่นให้ตกนรกไปด้วยกันน่ะ
และค่อยเอาคืนอดีตคนที่เขารักรวมถึงอดีตเพื่อนชายคนอื่น
ๆ ที่คอยทำร้ายเขาทุกครั้งเวลาที่ยัยนั่นบาดเจ็บ
ไม่เลวเลยแฮะ
ทางด้านคนอื่น
ๆ
ที่เหลือต่างกำลังจ้องมองน้องเล็กที่ไม่รู้ตัวเลยว่ารอยยิ้มบนใบหน้าจิ้มลิ้มนั่นมันดูร้ายกาจและเต็มไปด้วยความวิปลาสขนาดไหน
ยิ่งดวงตาสีมรกตแวววาวไปด้วยความแค้น
ความบ้าคลั่งและต้องการทำลายสิ่งที่เกลียดชังให้พังพินาศและฉิบหายไปพร้อมกับเจ้าตัวนั่น
มันช่างเหมือนกับตอนที่พวกเขาพึ่งฟื้นขึ้นมาราวกับแกะ
ไม่ว่าจะใครก็ตามที่นั่งอยู่ตรงหน้าพอฟื้นขึ้นมาก็รีบตามล่าพวกที่ทำให้ชีวิตของตัวเองต้องพังทลายลงด้วยการเอาคืนที่หนักหน่วงยิ่งกว่าตัวเองเคยโดน
อาจจะมีแค่บางคนที่ยังไม่สามารถทำตามความปรารถนาครั้งสุดท้ายตอนเป็นมนุษย์ได้
ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่พวกเขาไม่สามารถบดขยี้พวกมันอย่างโจ่งแจ้งได้ เพียงเพราะตัวตนและชื่อเสียงของพวกเขาถูกประดับอยู่บนแผ่นหินบนหลุมฝังศพของตัวเองน่ะสิ
ยกตัวอย่างก็อาคาชิจิ
อายาโตะกับบาคุโก นัตสึกิ ที่กำลังรอจังหวะกุดหัวไอ้พวกที่เป็นต้นเหตุการตายอันแสนน่าสะพรึงของทั้งสองอยู่
แม้อดีตลูกชายคนโตของครอบครัวบาคุโกใกล้จะเข้าถึงเป้าหมายในไม่ช้าแล้วก็เถอะ
“จริงสิ! อิสึจังไปเล่นสนุกกับฮิเมะเถอะ”
“อะ...เอ๋?
เล่นสนุกอะไรเหรอครับ” มิโดริยะที่ไม่รู้ว่าก่อนหน้าที่เจ้าตัวจะถูกพามาที่ห้องประชุมเพื่อทำความรู้จักกับสมาชิกคนที่เหลือ
อายาโตะกับฮิเมกิได้คุยกันมาบ้างแล้ว
ถึงเด็กสาวผมเงินจะไม่ค่อยตั้งใจฟังเท่าไหร่นอกจากคำว่าเรื่องสนุกก็ไม่สนใจความสำคัญของมันอีกเลย
มิวายยังเตรียมตัวจะกระโดดข้ามโต๊ะเข้ามาหาน้องเล็กที่อยู่อีกฝั่ง
แต่ก็ถูกเรียวสึเกะกระชากคอเสื้อของเด็กสาวเอาไว้ได้ทัน
“เรียวสึจังใจร้าย”
“พรุ่งนี้เป็นวันที่ยูเอย์จัดงานเทศกาล”
นัตสึกิที่นั่งเงียบพอ ๆ กับเคียวยะเอ่ยกับคนเด็กกว่าด้านข้าง
ดวงตาสีโกเมนฉายแววเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัดยามนึกถึงใครอีกคนที่อยากจะเอาระเบิดอัดหน้าให้สาสมกับความโกรธในตอนนี้ชะมัด
“คุณฮิเมกิจะชวนผมไปเที่ยวงานเหรอครับ” มิโดริยะถึงกับร้องอ๋อออกมาทันที
เพราะความจริงแล้วเขาดันลืมไปเสียสนิทเลยว่าพรุ่งนี้เป็นวันที่ตัวเขาและเพื่อนสาวห้อง
A รอมันอย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะจิโร่ที่เป็นตัวหลักของห้อง
คิดแล้วก็อยากฟังคุณจิโร่ร้องเพลงจังเลยนะ
มันต้องออกมาดีแน่
ๆ เลย
“ไม่ใช่แค่ไปเที่ยวหรอก” อายาโตะเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มที่คาดเดาไม่ได้อยู่แล้ว
ยิ่งมองไม่ออกเข้าไปใหญ่ว่ามันเจ้าเล่ห์หรือร้ายกาจเพราะความสนุกดี
“ไหน
ๆ ก็กลับโรงเรียนเก่าทั้งที ไม่ไปพบปะกับเพื่อน ๆ ห้อง A
ของเธอบ้างละ โดยเฉพาะสามคนนั้น”
โอเค...นอกจากจะฉลาดและสมบูรณ์แบบเป็นที่หนึ่งแล้ว
อาคาชิจิ อายาโตะก็เป็นตัวเสี้ยมอันดับหนึ่งพอ ๆ กับฮิราคิตะ ชูซาคุเลยละ
“เชิญเธอเล่นสนุกให้เต็มที่
ขาดเหลืออะไรก็บอกฉันได้เสมอ”
“….”
“จำเอาไว้ว่าต่อจากนี้เธอคือคนของพวกฉัน”
ดวงตาต่างสีเรืองรองไปด้วยอำนาจที่ใครต่อใครก็ไม่อาจขัดขืนมันได้
ยิ่งสายตาคู่นี้เจาะจงไปยังคนเด็กสุดในห้องที่ถูกล่อลวงโดยสมบูรณ์
ใบหน้าจิ้มลิ้มขยับขึ้นลงคล้ายกับยินยอมต่ออีกฝ่ายทุกอย่าง
แม้กระทั่งตอนที่ตัวเองกำลังหลับตาพริ้มตอบรับสัมผัสเย็นยะเยือกจากมือหนาของเคียวยะที่ลูบไล้ไปมาอย่างแผ่วเบา
พร้อมกับเสียงทุ้มที่เป็นดั่งเพลงขับกล่อมให้ค้างคาวตัวน้อยกลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาทั้งหมด
“ได้เวลาเริ่มเกมแก้แค้นกับพวกมันแล้วละเด็กดี”
เพราะพวกเขาเองก็จะช่วยทำลายพวกมันทุกคนที่ทำเธอเจ็บเหมือนกัน
ด้วยการใช้เส้นสายและอำนาจที่อาคาชิจิ
อายาโตะถือครองอยู่ในตอนนี้กับผู้อำนวยการของยูเอย์ยังไงละ
_____________________________________________________
100%
แฮ่ม ๆ ตอนนี้รีใหม่ทั้งหมดนะคะ 55555
พอดีอ่านแล้วเหมือนมันข้ามมากเกินไป เลยอยากจะให้น้องรู้จักกับเหล่าหนุ่ม ๆ ก่อน
บอกเลยว่าแต่ละคนนั้นร้ายกาจมากกก โดยเฉพาะคุณท่านอายาโตะนี่อันดับหนึ่งเลยค่ะ
เคียวยะซังก็ไม่แผ่วนะคะ คนอื่นยังไม่ออกลายที แต่บอกเลยว่าแซ่บทุกคน
ความคิดเห็น