คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : CHAPTER 07 : นักเรียนใหม่ผู้ไม่ธรรมดา
*ยังไม่แก้คำผิด*
“ชิ!! เป็นเพราะเจ้าวัวบ้านั่นแท้ๆเลยที่บังอาจทำให้รุ่นที่สิบเดือดร้อน อย่าให้เจอนะพ่อจะบึ้มให้เละ!!!”
“มะ...ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั่งโกคุเดระคุง”
“ไม่ได้หรอกครับรุ่นที่สิบ!! ในฐานะมือขวาผมต้องคอยปกป้องท่านตลอดเวลา
แมลงหวี่แมลงวันก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายท่านได้!!!”
“=[]=”
ก็บอกว่าไม่ต้องขนาดนั้นยังไงเล่า
นี่ใช่พ่อนักเลงที่จ้องจะฆ่าเขาด้วยระเบิดเมื่อวานหรือเปล่าเนี่ย
นิสัยมันเปลี่ยนกันได้ภายในนาทีเลยรึไง
“โย่ว! พวกนายพาเด็กคนนั้นไปส่งแล้วเหรอ”
พอเข้าห้องมาก็เจอกับยามาโมโตะที่กำลังยืนคุยกับคนอื่นๆอยู่
ใบหน้าหล่อเหลากับรอยยิ้มอารมณ์ดีแจกจ่ายให้กับเพื่อนทั้งสอง
ก่อนจะเดินเข้ามาเอาแขนคล้องคอเพื่อนตัวเล็กอย่างทุกที
“เอาแขนแกออกห่างรุ่นที่สิบเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้าเบสบอล!!!”โกคุเดระควักระเบิดขึ้นมาทำท่าจะจุดเพื่อเป่าไอ้บ้าตรงหน้า
แต่ติดที่ถูกรุ่นที่สิบผู้เคารพรักห้ามปรามเอาไว้เสียก่อน
ไม่ถูกชะตา...เขาไม่ถูกชะตาเจ้าบ้านี่เป็นที่สุด
เหมือนจะกลายเป็นศัตรู(หัวใจ)กันในอนาคต!!
“ฮะฮะฮะ
จะเล่นปาประทัดกันอีกแล้วเหรอ น่าสนุกดีนี่”ยามาโมโตะมองระเบิดในมือของโกคุเดระ
ดวงตาสีนิลจะเปลี่ยนเป็นคมกริบคล้ายเหยี่ยวที่กำลังจ้องเหยื่อจากเบื้องล่างก่อนจะมันจะหายไปอย่างรวดเร็วไม่ทันให้เพื่อนทั้งสองได้เห็น
“หนอยยยยย”
ครืดดดด
“นั่งที่กันได้แล้วพวกเธอทุกคน!!!”
ไม่ทันได้เปิดศึกทะเลาะอยู่ฝ่ายเดียวของโกคุเดระ
ประตูหน้าห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับอาจารย์ประจำชั้นเดินเข้ามาพูดคุยกับนักเรียนในคาบโฮมรูมเหมือนทุกวัน
เพียงแต่วันนี้มันช่างแปลกไปเสียหน่อยเพราะประโยคของอาจารย์เรียกความสนใจจากนักเรียนห้อง
1-A ทุกคนให้ละกิจกรรมมาสนใจหน้ากระดานเป็นทางเดียว
“วันนี้เรามีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามา--”
“เอ๋!! อีกแล้วเหรอ!! เมื่อวานก็พึ่งโกคุเดระเองนะ!!!”เสียงตะโกนของเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งดังขึ้น
เช่นเดียวกับคนอื่นที่กำลังหันมาจับกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นของนักเรียนใหม่ที่กำลังจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในไม่กี่นาทีข้างหน้า
“มันแปลกๆนะ
ห้องเราไม่น่าจะมีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาติดๆกันแบบนี้นี่”ซาวาดะ
สึนะโยชิพึมพำกับตัวเอง ดวงตาสีน้ำตาลกำลังจ้องมองอาจารย์ประจำชั้นกำลังตบโต๊ะเสียงดังเพื่อให้ทุกคนกลับมาอยู่ในความสงบ
ปัง! ปัง! ปัง!
“เงียบๆหน่อยสิพวกเธอ!!!”
“ชิ! จะเป็นใครฉันก็ไม่สนใจทั้งนั้นแหล่ะ!!”โกคุเดระสบถเสียงเบา
ดวงตาสีมรกตเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว ไม่ยอมก้มหัวให้คนเอาแต่หันไปมองทางหน้าต่างแทนหน้านักเรียนใหม่ที่กำลังเปิดประตูเข้ามา
จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขา
แต่ถ้าเป็นมาเฟียก็ว่าไปอย่าง
ครืดดด
ประตูห้องถูกเลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆ
สิ่งแรกที่ทุกคนในห้องเห็นคือมือเล็กเรียวสวยกับผิวสีขาวเนียนแลน่าอิจฉาในสายตาของผู้หญิงในห้อง
สิ่งแรกที่คิดไปต่างๆนานาคงหนีไม่พ้นคำว่า…
ผู้หญิงแน่นอน!!!!!
“..!!!..”
ทว่าความมั่นใจอันล้นเปี่ยมของพวกผู้ชายดังถูกทำลายลงด้วยกลุ่มผมสีดำซอยสั้นละต้นคอกับชุดนักเรียนชายซะงั้น!!!
คนมาใหม่ในชุดนักเรียนถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้อง
ก่อนจะหันหลังไปเขียนชื่อตัวเองบนกระดานตัวใหญ่ๆอย่างบรรจงและประณีต
ใบหน้าหวานรับกับผมสีดำดั่งขนของอีกา ดวงตาสีแดงกระจ่างใส จมูกโด่งรั้นพอดีกับโครงหน้า
ผิวขาวเนียนเหมือนเด็กผู้หญิงกับแก้มที่ยังยื่นออกมาให้รู้สึกหมั่นเขี้ยวอยากจะเข้าไปยืดๆและบิดเป็นเกลียว
ริมฝีปากบางกระจับสีแดงธรรมชาติกำลังส่งยิ้มบางเบาให้กับเพื่อนร่วมห้องและจบท้ายด้วยเสียงหวานไพเราะชวนเคลิบเคลิ้มเอ่ยชื่อตัวเองออกมา
“คิบาระ
ยูกิโตะย้ายมาจากอิตาลี ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“….”
“ผมพึ่งเคยมาญี่ปุ่นครั้งแรก
เลยยังไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรมของที่นี่ซะเท่าไหร่
ยังไงก็ขอความชี้แนะจากทุกคนด้วยนะครับ”กล่าวจบก็โค้งตัวให้กับเพื่อนๆด้านหน้าอย่างนอบน้อม
ก่อนจะแจกรอยยิ้มสดใสให้ทุกคนเป็นการตบท้าย
“….”
“….”
“เอ่อ...ผมทำอะไรผิดไปเหลือเปล่าครับอาจารย์?”พอเห็นว่าไม่มีเสียงตอบรับกลับมา
ใบหน้าหวานก็อดจะแสดงความกังวลขึ้นมาไม่ได้
หรือว่าตัวเขาทำอะไรผิดขนบธรรมเนียมของที่นี่ไปหรือเปล่านะ?
แต่ไม่ทันได้เอ่ยขอโทษเป็นอันต้องสะดุ้งโหยงสุดแรง
เมื่อเสียงตะโกนของเพื่อนร่วมห้องตอบกลับมาเป็นประโยคเดียวกันว่า...
“นางฟ้า!!!!!!”
“หืม?”
Precious treasure
“เอ๋! ยูกิจังอยู่ที่อิตาลีมาตั้งแต่เกิดเลยเหรอจ้ะ”
“อื้ม! ผมพึ่งได้ออกจากบ้านเมื่อตอนอายุ 12 น่ะ
เที่ยวเล่นที่จีนสักปีหนึ่งแล้วมาที่ญี่ปุ่น”
เจ้าของเสียงหวานเอ่ยกับเด็กสาวข้างกายอย่างอารมณ์ดี
หลังจากที่แนะนำตัวและได้รับฉายาใหม่จากนักเรียนทั้งห้อง
พอนั่งเรียนถึงเวลาพักเที่ยงเหล่าสาวๆในห้องที่สนใจเด็กหนุ่มเพียงเพราะความน่ารักกับแก้มบวมๆที่พอลองไปจับมันแล้วก็หยุดไม่อยู่
แม้ตอนนี้ยูกิจะตอบเพื่อนสาวคนใหม่ที่ชื่อว่าซาซางาวะ
เคียวโกะ กับคุโรคาวะ ฮานะ
แต่แก้มทั้งสองข้างของเขาก็โดนเพื่อนสาวคนอื่นๆเอาแต่จับ บีบ
ยืดและจิ้มมาตลอดตั้งแต่เมื่อกี๊นี้แล้ว
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทุกคนถึงชอบจิ้มแก้มเขาจัง
มันน่าจิ้มตรงไหน
แก้มของฟงยังน่าจิ้มกว่าเยอะเลย =__=
“แต่ยูกิจังก็พูดญี่ปุ่นได้ชัดแจ๋วเลยนะ
ฉันยังคิดเลยว่ายูกิจังน่าจะอยู่ที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่เกิดเสียอีก”
“เพราะผมชอบที่นี่ยังไงล่ะ
ตอนอยู่กับคุณปู่ก็รบเร้าให้สอนแต่ภาษาญี่ปุ่นลูกเดียว แถมชาเขียวที่นี่ยังอร่อยกว่าที่นู่นอีกด้วย”
ใช่แล้ว...หลังจากเหยียบที่เมืองนามิโมริเมื่อ
2 วันก่อน ยูกิก็ได้รับความชอบอีกอย่างที่ถูกยกให้เป็นอันดับหนึ่งในใจตอนนี้
นากจากวัฒนธรรมและอาหารของที่นี่ สิ่งที่ทำให้เขาติดหนึบและอยากจะลิ้มรสมันอยู่ตลอดเวลานั้นนั้นคือเครื่องดื่มต้นตำหรับของที่นี่
ชาเขียวแท้ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
โดยเฉพาะการชงแบบ*ซะโดะด้วยแล้ว
มันช่างเป็นอะไรที่สุนทรีย์ที่สุดในชีวิตของคิบาระ ยูกิโตะคนนี้เลยล่ะ!!!
“ยูกิจังคงจะชอบชาเขียวมากเลยสินะ”
“อื้ม! ของหวานยังเป็นชาเขียวที่ครองใจผมอันดับหนึ่งเลย”ว่าแล้วก็ฉีกยิ้มหวานให้เพื่อนสาวทั้งหลายเขินหน้าแดงเล่น
และนั่นยิ่งสร้างความเอ็นดูให้แก่สาวๆที่เรียกเด็กหนุ่มตรงหน้าว่าลูกสาวของห้องในใจเป็นเรียบร้อย
น่ารัก! น่าหมั่นเขี้ยว! น่าเอ็นดู!!
ยูกิจังของพวกเราต้องได้รับการปกป้องจากสายตาของพวกเพศผู้!!
ชิ้ง!!!
“หยึย!!!”เหล่าเด็กหนุ่มที่ลอบมองเพื่อนใหม่ผู้น่ารัก
ต่างพากันสะดุ้งและหลบหลีกสายตาฟาดฟันของสาวๆกันจ้าระหวั่น
นี่ถ้ากลายเป็นมีดหรือปืน
พวกเขาคงได้ตายตั้งแต่สายตาน่ากลัวพวกนั้นตวัดหันมามองทีเดียวพร้อมกันแล้วแหงมๆ
“จริงสิ! คาบต่อไปเป็นวิชาคหกรรมนี่หน่า”เคียวโกะเอ่ยขึ้นท่ามกลางการหยอกล้อของสาวๆที่เอาแต่จับนู่นจับนี่ของยูกิไม่หยุด
“คหกรรม?
ไอ้ที่ให้ทำขนมน่ะเหรอ?”
“ใช่แล้วจ้ะ
ยูกิจังสนใจไปทำกับพวกเราไหมจ๊ะ?”
“แต่เขาให้พวกผู้หญิงทำนี่เคียวโกะ
อีกอย่างยูกิเป็นผู้ชายนะ”ฮานะเอ่ยขัดเพื่อนสนิทตัวเองทันที
ก่อนจะเป็นเธอที่สะดุดกับดวงตาสีแดงที่กำลังส่งแววระยิบระยับพร้อมกับซีจีดาวสีทองส่องแสงจ้าอยู่รอบตัว
บะ...แบบนี้แย่แน่ๆ
แม้เธอจะไม่ค่อยชอบพวกผู้ชายในห้อง
แต่พอมาเจอสายตาลูกแมวกำลังออดอ้อนในระยะประชิดแบบนี้
ใจที่ด้านชามันอ่อนยวบยอมหลับหูหลับตาให้เพื่อนสนิทและเพื่อนสาวในห้องลากเด็กหนุ่มที่กลมกลืนไปกับพวกเธอเดินไปยังห้องคหกรรมแต่โดยดี
และแล้วสาวๆในห้อง
1-A ก็ถูกคิบาระ ยูกิโตะปักธงใส่ครบทุกคนจนได้
รวมไปถึงหนุ่มๆที่แทบจะต้องลัทธิท่านยูกิเป็นแฟนคลับคอยปกป้องเจ้าตัวอย่างลับๆ
นี่แหล่ะนางฟ้าของห้อง!!!
พวกเราต้องปกป้องท่านยูกิจากตัวผู้ห้องอื่นให้ได้!!!
Precious treasure
“ฮะฮะฮะ วันนี้จะได้กินอะไรนร้า~~”น้ำเสียงลั้นลาเอ่ยขึ้น ร่างสูงของเด็กหนุ่มกับหุ่นนักกีฬาซึ่งถูกโหวตให้เป็นขวัญใจของสาวๆในโรงเรียน ดวงตาสีนิลมองประตูห้องที่ถูกปิดอย่างใจจดใจจ่อ ก่อนจะกวาดสายตามองหาร่างนุ่มนิ่มของนักเรียนใหม่ที่ไม่ได้รวมกลุ่มอยู่ในห้องนี้ด้วย
“นี่ๆ
ยูกิอยู่ที่ไหนเหรอ?”
ขวับ!!
สิ้นเสียงของยามาโมโตะ
สายตาฟาดฟัดของเพื่อนชายคนอื่นๆต่างตวัดหันมองเจ้าของคนถามจนอดจะหน้าเสีย
เหงื่อซึมตามไรผมไม่ได้
เขาทำอะไรผิดไปหรือเปล่า?
“ท่านยูกิไปกับพวกผู้หญิง
แน่นอนว่าขนมของท่านยูกิต้องเป็นของพวกเราสมาคมยูกิซามะเลิฟเลิฟฟอร์เอเวอร์!!!”
“หะ...หา??”
นี่พวกเขาตกข่าวอะไรไปหรือเปล่าเนี่ย?
ไปกินข้าวบนดาดฟ้าและเจอพี่สาวของโกคุเดระคุงมาประกาศว่าจะสังหารเขาที่ถูกบอกว่าเป็นบอสของวองโกเล่รุ่นที่สิบ
ไหนพอกลับมาเพื่อนผู้ชายในห้องถึงเรียกยูกิคุงเป็นท่านยูกิไปซะแล้วล่ะ
ครืดดดด
ประตูห้องถูกเปิดออกโดยเหล่าสาวๆห้อง
A โดยที่มือของพวกเธอต่างถือจานขนมเค้กมาคนล่ะหนึ่ง
เสียงหวานราวกับนกน้อยกำลังขับขานเพลงให้เหล่าเด็กหนุ่มได้เคลิบเคลิ้มไปกับมัน
“เพราะนี่คือคาบวิชาคหกรรม
พวกเราเลยทำขนมมาให้พวกผู้ชายชิมกันยังไงล่ะ!!!”
“โอ้ววววววว!!!!!!”
เสียงฮึกเฮิมของผู้ชายในห้องดังลั่นสนั่นไปทั่ว
ขนมเค้กจากหญิงสาวที่หมายมั่นจะให้กับชายหนุ่มที่พวกเธอตั้งใจเอาไว้
กลับเหลือเพียงแค่ยามาโมโตะที่ถูกรุมร้อมไปด้วยสาวๆเกือบครึ่ง
ส่วนสึนะที่เอาแต่ยืนหน้าเครียดจ้องมองขนมเค้กในมือของเคียวโกะอย่างประหม่าและเขินอายสุดๆ
ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยปากถามเด็กสาวที่ตนชอบ
ดวงตาสีน้ำตาลก็เบิกกว้างมองจานขนมเค้กถูกสับเปลี่ยนโดยหญิงสาวผมสีชมพูที่มีสถานะเป็นนักฆ่าในโลกมาเฟียฉายาแม่งป่องพิษ
เบียงกี้!!!!
ตาย...งานนี้ตายแน่ๆ
ทางด้านยูกิที่กำลังเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี
โดยที่มือทั้งสองก็เข็นรถที่บรรจุไปด้วยคัพเค้กสีเขียวส่งกลิ่นหอมละมุมผ่านหน้าห้องอื่นๆ
จนมาหยุดอยู่ที่ห้องเรียนของตนเอง ดวงตาสีแดงมองภาพวุ่นวายตรงหน้าอย่างเหวอๆโดยเฉพาะผู้ชายผมหยักศกสีดำในชุดเสื้อเชิ้ตลายวัวกำลังหงายหลังล้มตึงไปกับพื้นโดยมีเค้กสีชมพูปนม่วงแปะประดับเต็มหน้า
“แรมโบ้!! นายเป็นยังไงบ้างเนี่ยยยย”
“เอ่อ...เกิดอะไรขึ้นกันเหรอ?”ยูกิเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างสงสัย
ไม่ลืมมองคนที่ถูกพิษเล่นงานนอนหมดสติอยู่เบื้องล่างด้วย
อ่า...ยังน่ากลัวไม่เปลี่ยนเลยแฮะพี่สาวแมงป่องเนี่ย
“ยูกิคุง?”
“ท่านยูกิ!!!!!!”
เจ้าของชื่อกระพริบตาปริบๆเอียงคอมองเพื่อนร่วมห้องที่มีสีหน้าเจ็บแค้นมองแรงใส่คนผมน้ำตาลในสภาพล่อนจ้อนเหลือแต่บ็อกเซอร์
ใบหน้าหวานหันมาสนใจเพื่อนร่วมห้องที่ดูเหมือนจะไม่ได้กินของหวานจากสาวๆเลยสักคน
เพราะฉะนั้นด้วยนิสัยที่เฟรนลี่ ชอบใจกว้างและอยากสร้างความสัมพันธ์อันดีงามกับเพื่อนๆทุกคน
เจ้าตัวเลยทำคัพเค้กชาเขียวมาให้เยอะแยะจนกินไม่หมด
“เพราะผมมาใหม่เลยไม่รู้จะทำตัวยังไง
พอดีว่าสาวๆชวนไปทำขนมในคาบคหกรรมเลยทำคัพเค้กมาให้ทุกคน
ถ้าไม่รังเกียจมาหยิบกินได้นะและเรามาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเถอะ^O^”
“ท่านยูกิTOT”
นางฟ้า...ไม่ว่าจะกี่ครั้งพวกเขาก็จะเรียกท่านยูกิว่านางฟ้าอยู่ดี!!
ลัทธิยูกิซามะเลิฟเลิฟฟอร์เอเวอร์จงเจริญ!!!!!
Precious treasure
หลังจากปาร์ตี้ต้อนรับเพื่อนใหม่ด้วยคัพเค้กชาเขียวจบลง
ก็ถึงเวลาที่ทุกคนต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน
ยูกิที่บอกลาเคียวโกะกับฮานะก็หันหลังเดินกลับห้องพักของตัวเองที่ซื้อเอาไว้ไม่ห่างจากโรงเรียนเท่าไหร่นัก
ส่วนใครเป็นคนซื้อให้ก็คงหนีไม่พ้นคู่หูชุดแดงที่ตอนนี้คงไปเป็นพ่อค้าขายซาลาเปาที่ไหนสักที่ในนามิโมรินั่นแหล่ะ
“เดี๋ยวก่อนสินายน่ะ”
กึก!
ร่างบางหยุดนิ่งอยู่กับที่
ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองเจ้าของเสียงด้านหลังก็พบกับเพื่อนร่วมห้องที่มักจะอยู่ด้วยกันบ่อยๆทั้งสามกับเด็กน้อยใส่สูทสีดำกับหมวกใบโตและจุกนมสีเหลืองที่สะดุดตายูกิมากที่สุด
อ่า...เด็กคนนี้คงเป็นคนที่ฟงบอกสินะ
“มีอะไรกับผมงั้นเหรอเจ้าหนู”รอยยิ้มบางเบากับน้ำเสียงเป็นมิตรเอ่ยถามทารกน้อยที่นั่งอยู่บนไหล่ของยามาโมโตะ
ก่อนที่รอยยิ้มจะหายไปเหลือเพียงใบหน้าเรียบเฉยกับดวงตาสีแดงว่างเปล่าราวกับคนล่ะคน
“นายมาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่?”
“ดะ...เดี๋ยวสิรีบอร์นนายจะไปหาเรื่องยูกิคุงแบบนี้ไม่ได้นะ”
“เมื่อหนึ่งปีก่อน
ศูนย์ใหญ่ของวองโกเล่เกิดความวุ่นวายขึ้นเพียงเพราะหลานชายของรุ่นที่ 9
หายออกไปจากปราสาท”รีบอร์นเมินเสียงโวยวายของสึนะ
ก่อนจะเล่าเรื่องที่วองโกเล่ประสบปัญหาใหญ่เมื่อหนึ่งปีก่อนให้เด็กหนุ่มทั้งสามได้ฟัง
“ไม่มีใครรู้ว่าเด็กคนนั้นหนีไปที่ไหน
เหล่าคนของวองโกเล่ออกตามหาทั่วอิตาลีจนสุดท้ายก็ไร้วี่แววของเด็กคนนั้น”
“….”
“ฉันก็เคยถูกรุ่นที่
9 ให้ตามหาเด็กคนนั้นเหมือนกัน แต่ก็เปล่าประโยชน์เพราะเด็กนั่นหนีออกจากอิตาลีไปแล้ว”
“….”
“และตอนนี้เจ้าตัวต้นเหตุของความวุ่นวายก็ดันมายืนอยู่ตรงหน้าของฉันซะด้วย”
“ยะ...อย่าบอกนะว่า...เด็กคนนั้น”สึนะยกนิ้วสั่นๆชี้ไปยังเพื่อนใหม่ที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
ก่อนที่รอยยิ้มหวานจะถูกมอบกลับมาพร้อมกับประโยคที่แสดงถึงการยอมรับอย่างง่ายดาย
“สมกับเป็นคนที่คุณปู่ไว้ใจให้มาดูแลว่าที่บอสวองโกเล่รุ่นที่สิบ
รอบรู้ทุกเรื่องจริงๆ”
“นี่แก!! คิดจะมาทำร้ายรุ่นที่สิบงั้นเหรอ!!!”โกคุเดระตวาดเสียงกร้าว
มือทั้งสองถือระเบิดเอาไว้พร้อมปาใส่คนที่บังอาจมายุ่งเกี่ยวกับเจ้านายของตน
“ช้าก่อนโกคุเดระ
เจ้าหมอนี่เป็นหลานชายของรุ่นที่ 9 ไม่มีทางทำร้ายสึนะที่เป็นว่าที่บอสวองโกเล่รุ่นที่สิบหรอกนะ”
“ก็อย่างที่เจ้าหนูพูด
ผมไม่สนใจหรอกนะว่าใครจะเป็นรุ่นที่สิบหรือใครจะเป็นผู้พิทักษ์
เพราะสิ่งที่ผมสนใจคืออิสระไร้การกักขังและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเท่านั้น
เรื่องมาเฟียไรนั่นไม่เอาด้วยหรอก”ยูกิยักไหล่อย่างไม่สนใจสีหน้าเหวอๆของคนทั้งสาม
ดวงตาสีแดงจ้องมองทารกจุกนมสีเหลืองนิ่งก่อนจะถามกลับไปอย่างหยอกล้อว่า
“ถ้ารู้ว่าผมอยู่ที่นี่
แล้วคุณจะส่งตัวผมกลับไปงั้นเหรอเจ้าหนู?”
“….”
“ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าผมไม่กลับไปที่นั่นเด็ดขาด
ตราบใดที่ยังตระเวนกินอาหารญี่ปุ่นไม่ครบทุกเมนูก็อย่าได้หวัง!!”
“=[]=”
นี่นายคลั่งความเป็นญี่ปุ่นมากขนาดนี้เลยเหรอ!!!
พระเจ้า...หมอนี่เกี่ยวข้องกับมาเฟียจริงๆดิ?
“จริงสิพูดถึงอาหารญี่ปุ่นแล้ว
สนใจไปบ้านฉันไหมยูกิ^^”ยามาโมโตะที่ยืนเงียบมานานก็เอ่ยขึ้น
พร้อมกับเคลื่อนที่ไปยืนโอบไหล่บางของเพื่อนตัวเล็กมาไว้ในอ้อมกอด
อ่า...ตัวนุ่มนิ่มจริงๆด้วยแฮะ
“บ้านนายเป็นร้านอาหารเหรอ?”
“อื้ม! เป็นร้านชูชิน่ะ”
“จริงเหรอ!!!*^*”
“ช่าย~สนใจไปไหม?”
“ไปสิๆ
พาไปตอนนี้เลย ผมพึ่งมาญี่ปุ่นแค่ 2 วันยังไม่เคยกินชูชิทีเลย
ถ้าได้กินสักครั้งมันต้องอร่อยมากแน่ๆ ว่าแต่ราคาแพงมากไหม? ผมยังไม่ได้เงินจากคนดูแลผมเลย”
“ฮ่าๆๆ
ไม่ต้องกังวลไปหรอก มื้อนี้ฉันเลี้ยงนายเอง”
“ว้าว! นายใจดีจังเลยทาเคชิคุง”
“งั้นฉันขอตัวพายูกิไปกินชูชิก่อนนะ
ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปบ้านนายแล้วน่ะสึนะ”
“ไม่เป็นไรยามาโมโตะ
พายูกิคุงไปกินชูชิเถอะ”สึนะกล่าวอย่างยิ้มๆ
ก่อนจะโบกมือลาทั้งสองที่เดินแยกไปอีกทาง
โดยด้านหลังมีโกคุเดระส่งสายไม่พอใจเป็นลูกคู่
ไอ้บ้าเบสบอลจอมเนียน
ดูเหมือนคำด่าของโกคุเดระจะส่งไปถึงร่างสูงที่กำลังเดินโอบไหล่ยูกิ
ให้หันกลับมามองหน้าเจ้าพ่อระเบิดอย่างพอดิบพอดี
“J”
“..!!!..”
ดวงตาสีมรกตเบิกกว้างก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความเกรี้ยวกราด
ยามเห็นรอยยิ้มแสยะฉายแววสะใจจากไอ้คนที่วันๆเอาแต่เห็นอย่างอื่นเป็นเรื่องเล่นๆ แต่ตอนนี้มันดันกลายเป็นไอ้บ้าที่ส่งรอยยิ้มเยาะเย้ยกลับมาให้เขาแทน
ไอ้บ้านี่มันไม่ได้ซื่อบื้อจริงๆนี่หว่า
=[]=
โกหก! ภาพลักษณ์อารมณ์ดีของมันโกหกทั้งเพ!!!!!
[100/100]
ตอนนี้ยาวไปหน่อย ไม่ว่ากันนะ
ยามะเรื่องนี้เนียนกว่าในอนิเมะอีกนะคะ
น้องมาวันแรกก็ถูกตั้งลัทธิซะแล้ว
อุดมการณ์ของน้องแน่วแน่มากค่ะ ไม่กลับจนกว่าจะกินอาหารญี่ปุ่นครบ
ความคลั่งญี่ปุ่นจ๋าต้องยกให้น้องค่ะ เลี้ยงง่ายแค่เอาของกินมาล่อก็ตามไปแล้ว
ความคิดเห็น