ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC boku no hero academia X kimetsu no yaiba |Different world| #ฟิคเด๋อกับเด๋อมาเจอกัน

    ลำดับตอนที่ #8 : เด๋อกับเด๋อมาเจอกัน : CHAPTER 08 (100/100)

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 65


    คำเตือน
    แฟนฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มีการอ้างอิงจากอนิเมะเรื่อง kimetsu no yaiba 
    เป็นแนวข้ามโลก ตัวละครหลักคือ โทโดโรกิ โชโตะ
    อยากเห็นโมเม้นคุณชายจอมเด๋อกับคุณกิยูผู้เด๋อกว่า ติดตามกันเยอะๆนะ♥







    EP.08

                *ยังไม่ได้แก้คำผิด


    สิ่งแรกที่ดวงตาต่างสีคู่นี้เห็นคือเพดานไม้ที่จำได้ว่าเคยเห็นมันในตำหนักผีเสื้อ และสิ่งที่สองที่ตามมาก็คงจะเป็นเสียงโวยวายของใครสักคนที่อยู่ข้าง ๆ ไหนจะรังสีมืดมนอันแสนคุ้นเคยที่ทำเอาโชโตะอดจะเหลือบมองด้านขวาของตัวเองไม่ได้

    ชิ้ง! +_+

    โอเค...แล้วละว่าเจ้าของรังสีมืดมนนี่เป็นของใคร

    โทโดโรกิ โชโตะคิดว่าตัวเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก นอกเสียจากผลกระทบกับการใช้อัตลักษณ์เกินขีดจำกัดเท่านั้น

    ทั้งที่ตัวเขาดูจะปกติที่สุดแล้ว แต่ทำไมเขาต้องมาสวมชุดคนป่วยและนั่งจ้องใบหน้าปลาตายของชายหนุ่มที่ถูกโมเมว่าเป็นพี่ชายของเขาไปเรียบร้อย แถมอีกฝ่ายก็ยังนั่งนิ่งเป็นญาติคนไข้ไม่ยอมไปไหน ตั้งแต่ที่เขาถูกหามกลับมาที่ตำหนักผีเสื้อเมื่อสองวันก่อนแล้ว

    อ้อ...จริงสิห้องนี้ไม่ได้มีแค่เขากับเสาหลักวารีที่สวมฮาโอริไม่สมประกอบนี่หน่า

    เจ้าหนูไฟน้ำแข็ง!! ขอบคุณที่ช่วยชีวิตของฉันนะหลังจากนี้นายอยากได้อะไรก็บอกฉันคนนี้ได้ ต่อให้ยากเย็นแค่ไหนก็จะไปหา---”

    ชิ้ง!!!

    ไม่ทันได้พูดจบประโยคดี เจ้าของดวงตาเด็ดเดี่ยวอย่างเร็นโกคุก็ดันถูกสายตาพิฆาตจากเสาหลักที่ชอบปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียวมองกลับมาอย่างอาฆาต ไม่รวมถึงรังสีมืดหม่นที่พร้อมจะพุ่งเข้ามาเสียบแทงตามร่างกายเขาได้ทุกเมื่อหากยังพูดมากไม่ยอมหยุด

    ส่วนทางด้านคนปกติในคราบคนป่วยก็ได้แต่กลอกตามองสงครามระหว่างเสาหลักน้ำกับไฟที่มันช่างไม่ลงตัวเหมือนอัตลักษณ์ของเขาที่ชอบตีกันเวลาใช้อีกฝ่ายมากเกินไป ครั้นจะเร้นกายหนีออกไปจากบรรยากาศร้อนๆหนาวๆก็ทำไม่ได้

    ดันถูกดักทางเอาไว้ทั้งสองแบบนี้มันจะหนีไปได้ยังไงกัน

    ครืดดด

    ในระหว่างที่ใกล้จะเกิดการห้ำหั่นระหว่างเสาหลักเพลิงกับเสาหลักวารีในไม่ช้า เสียงประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเด็กน้อยวัยสิบขวบที่ถอดหน้าตาออกมาจากเสาหลักเพลิงแทบทุกส่วน ในมือก็ถือถาดอะไรสักอย่างที่มันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับอาหารโปรดของเขา เพียงแค่ไม่มีถ้วยไว้เอาจุ่มเส้นก็เท่านั้น

    ไม่ผิดแน่...นั่นมันสิ่งที่เขาโหยหายมาตลอดตั้งแต่เข้ามาอยู่ในโลกนี้!!!

    ทะ...ท่านพี่...ข้า...หวา!!!”

    หมับ!!!

    สูด~~

    เจ้าหนูเร็นโกคุน้อยถึงกับอ้าปากเหวอ เมื่อจู่ๆอาหารที่เจ้าตัวทำมาให้พี่ชายโดยเฉพาะดันถูกฉกไปโดยฝีมือของพี่ชายผมแปลกประหลาดที่กำลังยืนสูดเส้นสีขาวเข้าปากอย่างรวดเร็ว ใบหน้าตายด้านที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลยจะหันมาจ้องมองดวงตากลมโตแลดูประหม่าแฝงไปด้วยความขี้อายนั่นมันเหมือนกับมิโดริยะเป๊ะ

    อ่า...เมื่อไหร่จะได้กลับหามิโดริยะกันนะ??

    อยากให้เจ้าตัวมาหาเขาที่นี่จัง

    ในขณะที่คนหนึ่งกำลังเหม่อมองเพดานพร้อมกับเคี้ยวของโปรดของตัวเองไปด้วยอยู่นั้น ทางด้านสองเสาหลักแห่งขั้วตรงข้ามก็กำลังเขม่นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะกับโทมิโอะที่ตัวเองนั้นสถาปนาตำแหน่งพี่ชายอย่างหน้ามึน ๆ ก็เกิดอาการหวงตำแหน่งขึ้นมาจนถึงขั้นหลุดจากการจำศีลกันเลยทีเดียว

    เจ้าไม่จำเป็นต้องตอบแทนโชโตะหรอกเร็นโกคุนับเป็นครั้งแรกที่เสาหลักวารีพูดมากกว่าสามคำ แถมยังมีฝีปากร้ายกาจจนคนอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลาอย่างเร็นโกคุอดจะคิ้วกระตุกขึ้นมาไม่ได้

    เจ้าหมอนี่มันหมาป่าห่มหนังแกะชัด ๆ

    ข้าว่าข้าถามเจ้าหนูไฟน้ำแข็งนะ ไม่ได้ถามเจ้าซะหน่อยนี่โทมิโอกะ หากคิดว่าเสาหลักเพลิงคนนี้จะยอมแพ้คนที่มักปลีกวิเวกไปอยู่เพียงลำพัง โดยไม่แม้แต่เข้าร่วมกลุ่มกับคนอื่นละก็

    มันไม่ได้อยู่ในบันทึกยามว่างของเร็นโกคุ เคียวจูโร่หรอก!!!

    ข้าตอบในฐานะผู้ปกครองของโชโตะในตอนนี้

    แต่ถ้าข้าจำไม่ผิด เร็นโกคุแสร้งยกมือขึ้นมาเท้าคาง ก่อนจะตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเหนือกว่าว่า

    เจ้าแค่บังเอิญโชคดีที่ได้ไม้ยาวจากการสุ่มดวงนี่

    “….”

    โดนจี้ใจดำสินะโทมิโอกะ!”

    “….”

    เร็นโกคุแทบอยากจะหัวเราะออกมาเสียเดี๋ยวนี้ กับชัยชนะที่ตัวเองได้รับหลังจากที่เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าเพราะไม่สามารถเถียงข้อเท็จจริงนี่ได้ แต่แล้วรอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าของเสาหลักเพลิงก็เป็นหายต้องจางหายไป เมื่อดวงตาสีครามหม่นที่เงยขึ้นมาพร้อมกับบรรยากาศกดดันที่แผ่กระจายรอบห้องพันฟื้นแห่งนี้

    เอ...หรือเขาหยอกอีกฝ่ายแรงเกินไปหรือเปล่านะ

    ไป

    ห๊ะ?

    ดาบนิจิรินที่เหน็บอยู่ตรงเอวถูกชักออกมาอย่างรวดเร็ว สีหน้าดุร้ายที่หาได้ยากจากคนที่มักทำหน้ามึนและเย็นชาอยู่ตลอดเวลา บัดนี้มันทั้งเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าอสูรที่กำลังบ้าคลั่งเสียอีก

    ไม่รวมถึงประโยคถัดมาที่เล่นเอาเร็นโกคุถึงกับทำหน้าเหวอเพราะไม่สามารถรับมือกับเสาหลักวารีในโหมดนี้ได้

    ไม่สิ...คงไม่ใช่แค่เขา อาจจะรวมถึงเสาหลักคนอื่น ๆ ที่หากมาเห็นอีกฝ่ายตอนนี้ก็คงจะขอยอมแพ้ตั้งแต่ประโยคนี้ถูกกล่าวจนครบทุกถ้อยทุกคำแล้วละ

    ไปประลองดาบกับข้าข้างนอกเดี๋ยวนี้เลย!!!”

    หาาาาาา

    ณ ตอนนี้เร็นโกคุ เคียวจูโร่รู้ซึ้งแล้วว่าอย่าได้ริอาจไปทำให้โทมิโอกะ กิยูโกรธเด็ดขาด

    เพราะเจ้าตัวเปลี่ยนไปราวกับคนละคนเลยน่ะสิ!

    หืม สองคนนั้นทำอะไรกันน่ะ

    ทางด้านตัวต้นเหตุแห่งสงครามระหว่างไฟกับน้ำ ก็เผยสีหน้าฉงนออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะเลิกสนใจการทะเลาะของผู้ใหญ่ไม่ปกติทั้งสอง มาสนใจเจ้าหนูเร็นโกคุน้อยที่ยังคงแสดงท่าทีเขินอายกับเขาอยู่ แต่พอได้พูดคุยก็ลดความเกร็งลงบ้างแล้วเหมือนกัน

    ที่โลกของท่านไม่มีอสูรหรือขอรับ

    อือ มีแต่วิลเลินน่ะ

    วิลเลิน? มันคืออะไร?เจ้าหนูเร็นโกคุเอียงคออย่างสงสัย ดวงตาที่เหมือนกับผู้เป็นพี่ชายส่งแววระยิบระยับยามที่ได้ยินโชโตะเล่าถึงโลกของเขาว่ามันมีอะไรที่แตกต่างจากที่นี่บ้าง

    ยิ่งเล่าถึงสิ่งที่โลกนี้ไม่มี เจ้าหนูก็ยิ่งตื่นเต้นพร้อมกับหลุดเสียงอุทานออกมาทุกครั้งที่เขาอธิบายว่าแต่ละสิ่งมันใช้ยังไง และมีสิ่งไหนที่คล้ายคลึงกับที่นี่บ้าง ซึ่งระหว่างนั้นหางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นผู้ปกครองจำเป็นที่กำลังเดินออกจากห้องไป ทว่าสิ่งหนึ่งที่ผิดปกติก็คงจะเป็นมือข้างหนึ่งถือดาบนิจิรินอวดความคมกริบ ส่วนมืออีกมือหนึ่งนั้น...

    ทะ...ท่านพี่…”

    โอ้ว! เซ็นจูโร่ พี่ขอรบกวนเจ้าไปเอาดาบมาให้หน่อยสิ เร็นโกคุที่เห็นน้องชายยังไม่ได้กลับบ้านก็เอ่ยขอความช่วยเหลือทันที

    ถ้าเป็นตอนปกติเจ้าหนูเร็นโกคุก็รีบออกไปเอาดาบมาให้ผู้เป็นพี่อยู่หรอก แต่เพราะนี่มันไม่ปกติน่ะสิ!!

    คนปกติที่ไหนจะมาขอให้ไปเอาดาบ ในขณะที่คอเสื้อตัวเองกำลังถูกเสาหลักวารียึดเอาไว้และลากเจ้าตัวออกจากห้องกันละ!!!

    พิลึกเกินไปแล้ว!!!

     



    Different world

     



    “^^;”

    “+_+”

    “^^;;”

    “+__+”

    เอ่อ...ใครก็ได้บอกข้าทีว่าบรรยากาศนี่มันคืออะไรกัน? อิโนะสึเกะกระซิบถามทันจิโร่กับเซ็นนิสึตที่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก คล้ายกับคนหาคำพูดมาตอบเพื่อนสนิทผู้ชอบสวมหัวหมูป่าจอมขี้สงสัยคนนี้ไม่ได้

    อย่าว่แต่ตามหาเลย พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเสาหลักขั้วตรงข้ามถึงมายืนปล่อยรังสีสองขั้วใส่กันได้

    คนหนึ่งก็ฉีกยิ้มเจื่อน ๆ พยายามหลบสายตาไปทางอื่น

    คนหนึ่งถึงหน้าจะนิ่งแต่มือที่จับดาบนิจิรินนั่นมันเตรียมพร้อมตวัดใส่อยู่ตลอดเวลา

    ไม่ว่าจะคนไหนก็แปลกประหลาดไปหมดนั่นแหละ

    ทะ...ท่านพี่ และแล้วเสียงสวรรค์ที่หยุดบรรยากาศร้อน ๆ หนาว ๆ ของเสาหลักทั้งสองได้ก็คือเด็กน้อยที่หน้าตาถอดแบบมาจากเสาหลักเพลิงเกือบทุกส่วน กำลังเดินอุ้มดาบประจำตัวของผู้เป็นพี่ชายเข้าไปหาด้วยสีหน้ากังวลอย่างไม่ปิดบัง

    โอ้! ขอบใจนะเซ็นจูโร่เร็นโงคุคนพี่หยิบดาบนิจิรินประจำของตนมาจากน้องชาย แม้ร่างกายจะยังไม่หายดีแต่ในเมื่อตกปากรับคำที่จะประลองดาบกับเสาหลักวารีไปแล้ว

    ลูกผู้ชายย่อมไม่ผิดคำพูด!!!

    ข้าไม่ออมมือให้หรอกนะโทมิโอกะ!”

    ดะ...เดี๋ยวสิ! นี่พวกเขาจะสู้กันจริง ๆ งั้นเหรอ เซ็นนิสึตแทบจะลงไปนอนดิ้นกับพื้นเพราะความเลิ่กลั่ก เมื่อรู้ว่าเหตุใดเสาหลักทั้งสองถึงได้มายืนจ้องหน้าปานจะกลืนกินอยู่ด้านนอกของตำหนักผีเสื้อ

    และยิ่งช็อกโลกเข้าไปใหญ่เมื่อคนที่ขอท้าประลองดาบกลับเป็นเสาหลักที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า อีกฝ่ายที่ทำตัวสงบนิ่งเหมือนสายน้ำที่ไร้ลมพัดผ่านจะเป็นฝ่ายท้าซะงั้น

    คนอย่างคุณโทมิโอกะเนี่ยนะที่เป็นฝ่ายท้าประลองดาบกับคุณเร็นโงคุ

    ฝนได้ตกเป็นหิมะแหงม ๆ

    แม้อยากโต้แย้งให้แก่เสาหลักวารีมากขนาดไหน ทว่าความจริงก็ย่อมเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ ว่าผู้เป็นฝ่ายเริ่มก่อนคือโทมิโอกะ กิยูผู้กำลังชักดาบนิจิรินออกจากฝักและเตรียมร่ายรำเพลงดาบปราณวารีของตน เช่นเดียวกับเร็นโงคุที่แม้บาดแผลภายนอกจะยังไม่หายดี ทว่าเปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่รอบกายนั้นบ่งบอกว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งไม่แพ้เสาหลักวารีเลยแม้แต่น้อย

    ต่างฝ่ายต่างจดจ้องราวกับกำลังต่อสู้อยู่ในห้วงแห่งความคิด ท่ามกลางสีหน้าลุ้นระทึกจากสามหน่อจอมป่วนประจำหน่วยพิฆาตอสูร ที่บางคนถึงขั้นอยากลงสนามไปร่วมประลองกับทั้งสองเสียเต็มแก่ บางคนก็เกิดอาการเลิ่กลั่กคล้ายกับระแวงอะไรบางอย่างที่หลบซ่อนอยู่ในตำหนักผีเสื้อ และบางคนก็กำลังหันไปลากตัวต้นเหตุของการต่อสู้ระหว่างเปลวเพลิงกับวารี อย่างเด็กหนุ่มผู้มีเรือนผมสีประหลาดที่เอาแต่นั่งซดอาหารโปรดของตัวเองอยู่เพียงลำพัง

    ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะโชโตะคุง! นายจะมานั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างนี้ไม่ได้นะ!!”

    ไม่!”

    ใบหน้าหล่อส่ายไปมาอย่างรวดเร็ว สองมือประคองถ้วยโซบะในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอมสุดฤทธิ์ ส่วนขาข้างหนึ่งก็จัดการเกี่ยวกับเสาไม้ยึดตัวไม่ให้ไปตามแรงลากของทันจิโร่ ที่เที่ยวเอาแต่บอกให้เขาไปห้ามศึกน้ำกับไฟนั่นอยู่ได้

    เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย แค่ไปแย่งโซบะของเสาหลักเพลิงมาเป็นของตนเองนะ ส่วนเรื่องการท้าประลองดาบอะไรนั่นมันเป็นความคิดของเจ้าบ้าโทมิโอกะนั่นต่างหากเล่า

    เขาไม่มีส่วนข้องใด ๆ ทั้งสิ้น!!!

    เพราะทันจิโร่มัวแต่ฉุดกระชากลากถูเพื่อนต่างโลกอยู่เพียงลำพัง เลยไม่ทันได้สังเกตเลยว่าด้านหลังของเจ้าตัวนั้นได้เกิดการต่อสู้ระหว่างเปลวเพลิงกับวารีเป็นที่เรียบร้อย ครั้นจะเข้าไปห้ามก็กลัวว่าเป็นตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่าเดิม แถมพละกำลังของเสาหลักทั้งสองก็เก่งกาจว่าตัวเขาที่ยังต้องฝึกหาประสบการณ์อีกมาก

    ตู้มมม!!!

    อ๊ากกกก!!! แบบนี้ไม่ดีแหงม ๆ เลยโว้ยยยย เซ็นนิสึตกรีดร้องโหยหวนสุดเสียง สองมือขยุ้มผมของตัวเองไปมาอย่างบ้าคลั่ง ไหนจะสีหน้าที่แสดงออกมาราวกับโลกกำลังจะแตกในไม่ช้า มันช่างน่าขบขันในสายตาของโทโดโรกิอยู่ไม่น้อย

    ว่าแต่ที่หมอนั่นกำลังทำหน้าเหมือนโลกทล่มทลายนั่นเพราะกลัวอะไรอยู่สินะ?

    แล้วสิ่งที่กลัวมันคืออะไรกันละ??

    โทโดโรกิยกมือเท้าคางอย่างใช้ความคิด ในขณะที่สายตาก็จ้องมองการต่อสู้ของสองเสาหลักที่ดูจะหนักหน่วง รุนแรงมากกว่าเดิมจนคิดว่าอีกเดี๋ยวเสาหลักคนอื่นที่ไม่มีภารกิจปราบอสูรในวันนี้คงได้แห่กันมาที่ตำหนักผีเสื้อแน่ ๆ

    โอ๊ะ!”

    มีอะไรงั้นเหรอโชโตะคุง?ทันจิโร่ที่ได้แต่นั่งปลงตกเพราะไม่สามารถหยุดการต่อสู้ของเสาหลักทั้งสองได้ ก็เอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างสงสัยเพราะเสียอุทานที่ดังขึ้นแผ่วเบานั่น

    โทโดโรกิที่พึ่งนึกขึ้นได้ว่าหนึ่งในเสาหลักที่ไม่ได้ออกไปทำภารกิจปราบปรามอสูรนั้นมีใครบ้าง และยิ่งดวงตาต่างสีคู่นี้กำลังมองไปยังจุด ๆ หนึ่งที่เอ่อล้นไปด้วยบรรยากาศน่าขนลุก รวมไปถึงรังสีทมิฬที่ลอยฟุ้งแผ่กระจายเป็นวงกว้างนั่นอีก

    ฉิบหาย

    ห๊ะ? ฉะ...อะไรหายนะโชโตะคุง? ทันจิโร่ผู้ยังไม่ช่ำชองคำศัพท์ในโลกของเพื่อนสนิทก็ถึงกับทำหน้าสงสัยเหมือนเด็กน้อยที่ต้องการเรียนรู้คำอุทานที่ออกไปทางหยาบคายนั่น

    โทโดโรกิ โชโตะเป็นบุคคลประเภทไม่ค่อยพูดคำหยาบคายออกมาเท่าไหร่นัก หากเรื่องนั่นไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ตนวุ่นวายจริง ๆ เพราะงั้นมีไม่บ่อยหรอกที่พ่อหนุ่มสุดเย็นชาประจำห้อง A จะหลุดคำพูดแนวนี้ออกมา

    ทุกอย่างเป็นความผิดของบาคุโก!!!

    พรึบ!!

    หนีกันเถอะทันจิโร่

    เอ๊ะ?

    ทันจิโร่มองการะทำของเพื่อนต่างโลกอย่างงง ๆ ยิ่งอีกคนหันมาบอกเขาหน้าตายก่อนจะพุ่งไปคว้าเซ็นจูโร่ที่อยู่อีกฝั่งกระโดดข้ามกำแพงไม้ออกไปอย่างรวดเร็ว จนพี่ชายคนโตของบ้านคามาโดะประมวลผลความคิดไม่ทัน ทว่าไม่นานนักก็เป็นอันเข้าใจแล้วว่าเพื่อนต่างโลกของเขาสั่งให้เขาหนีจากอะไร

    ซวยแล้วไหมละ

    เซ็นนิสึตเป็นคนที่สองที่รับรู้ถึงรังสีแห่งความน่าขนลุกสุดแสนสยองเกล้านั่น ใบหน้าของเจ้าตัวเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อที่ไหลพลั่ก ๆ เหมือนมีน้ำตกขนาดย่อมวางอยู่กลางหัว แน่นอว่าสกิลเอาตัวรอดของเจ้าตัวนั้นรวดเร็วดั่งปราณอัสนีที่ถือครองอยู่ แถมอิโนะสึเกะที่เห็นเป็นรายถัดไปก็หันมาสร้างความสามัคคีกับเพื่อนรักผมเหลือด้านข้าง ด้วยการกอดคออย่างแนบแน่น ก้าวขาซ้ายไปด้านหลังก่อนจะพยักหน้าให้กันเพื่อเป็นสัญญาณเตรียมความพร้อม จากนั้นก็เอ่ยประโยคออกมาว่า

    เผ่นโลดดดด

    และพากันสับเท้าแหลกพุ่งออกจากตำหนักผีเสื้อตามโทโดโรกิไปติด ๆ

    เอ่อ…”

    ทางด้านทันจิโร่ที่เห็นเพื่อนรักทั้งสองเผ่นแหนบไปเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้หันไปพบเจอแหล่งพลังงานน่าขนลุกที่กำลังขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ก่อนจะหันไปมองการต่อสู้สุดอลังการของสองเสาหลักที่ยังคงห้ำหั่นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

    หากให้เลือกระหว่างอยู่ที่นี่กับหนีจากไปทิ้งผู้มีพระคุณทั้งสองเอาไว้ แน่นอนว่าคามาโดะ ทันจิโร่ย่อมต้องเลือก

    เซ็นนิสึต! อิโนะสึเกะ! รอฉันด้วยยยยยยย

    เผ่นหนีตามเพื่อนรักทั้งสองไปน่ะสิ

    ขอโทษนะครับกิยูซัง เร็นโงคุซังที่ผมไม่อาจอยู่ช่วยพวกคุณได้ เพราะฉะนั้นแล้ว...

    ได้โปรดอย่าตายแล้วกันนะครับ!!

    ทันจิโร่ยกมือปาดคราบน้ำตาแห่งความเจ็บใจทิ้ง และตั้งมั่นว่าตนเองจะใช้ชีวิตที่เหลือต่อจากทั้งสองคนเอง!!!

    ส่วนสองเสาหลักที่ยังคงประลองดาบกันอย่างเอาเอาตายก็ไม่อาจรับรู้เลยว่า ณ บริเวณแห่งนี้ไม่ได้มีเหล่าเด็กน้อยที่นั่งเป็นผู้เฝ้ามองทั้งสองอีกแล้ว เหลือไว้เพียงคนผู้หนึ่งที่กำลังเดินแผ่บรรยากาศน่าขนลุกเข้าใกล้ทั้งสองมากขึ้นเรื่อย ๆ

    หมับ!!

    อาระ อาระ ทั้งสองกำลังทำอะไรกันอยู่เหรอคะ?

    และกว่าทั้งสองจะรู้ตัวอีกทีก็มีมือเอื้อมมาจับไหล่เอาไว้คนละข้าง พร้อมกับน้ำเสียงเย็นยะเยือกที่มันทั้งน่าขนลุกและน่าหวาดหวั่นสำหรับเร็นโงคุกับโทมิโอกะยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ

    อะ...โอ้! ชิโนบุเองหรือ? เสาหลักเพลิงเป็นคนแรกที่เอ่ยทักผู้มาใหม่ด้วยน้ำเสียงสั่นเทาจนแทบบังคับเอาไว้ไม่อยู่ ใบหน้าก็ซีดเซียวยิ่งกว่ายามได้เห็นรอยยิ้มหวานของหญิงสาวกับออร่านุ่มฟูที่มันช่างตรงกันข้ามบรรยากาศตอนนี้สิ้นเชิง

    แหม ๆ ดิฉันดีใจจังเลยที่คุณเร็นโงคุยังกล่าวคำทักทายกันได้ ทั้งที่กำลังสร้างความวุ่นวายให้กับตำหนักดิฉันแท้ ๆ

    เอ่อ ยิ่งได้ยินประโยคจากปากของเสาหลักแมลงพ่วงตำแหน่งเจ้าของตำหนักผีเสื้อกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เร็นโงคุก็ยิ่งอยู่ไม่สุขจนต้องหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากคนข้าง ๆ

    ข้าไม่ได้สร้างความวุ่นวาย ข้าแค่ประลองดาบกับเร็นโงคุ

    “=[]=”

    แล้วเจ้าจะยิ่งไปสุมเพลิงโทสะของชิโนบุเพิ่มอีกทำไมกันเล่าเจ้าบ้าโทมิโอกะ!!!

    คุณโทมิโอกะกำลังจะบอกกับดิฉันว่าคุณไม่มีความผิดงั้นหรือคะ

    ชิโนบุพยายามทำให้ใจเย็นลงพร้อมกับเอ่ยถามเสาหลักวารีที่หันหน้าหนีไปทางอื่นราวกับว่าเรื่องที่ตนกำลังก่อนั้นย่อมเป็นเรื่องที่ถูกต้อง หาใช่ความผิดของเจ้าตัวไม่ และพอได้ยินคำตอบถัดมาจากปากของอีกฝ่าย ความใจเย็นทั้งหมดก็ล้วนหายไปเหลือไว้เพียงแต่รอยยิ้มเหี้ยมบนใบหน้างดงามของเสาหลักแมลงเท่านั้น

    ข้าไม่ผิด

    ตึง!!!

    เฮือก!!”

    เร็นโงคุถึงกับสะดุ้งโหยงราวกับเจ้าตัวได้ยินเสียงสะเทือนดั่งอะไรบางอย่างขาดออกจากกันและหล่นกระแทกกับพื้น ใบหน้าซีดเซียวของเสาหลักเพลิงค่อย ๆ หันไปมองหญิงสาวตัวเล็กที่อยู่ตรงเบื้องหน้าก็เป็นต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก ยามดวงตาของตนเห็นแสงสีเงินสะท้อนอยู่บนคมดาบที่ตวัดขึ้นจ่อบริเวณลำคอของเขากับคนข้าง ๆ

    ไม่ผิดงั้นรึ...ก็ได้ค่ะ การประลองดาบในครั้งนี้ของพวกคุณไม่มีความผิดใด ๆ ทั้งสิ้น

    ชะ...ชิโนบุ

    ในเมื่อไม่มีความผิด ฉะนั้นหากดิฉันจะเข้าร่วมด้วยก็คงไม่เสียหายอะไรใช่ไหมคะ?

    หากกล่าวว่าในบรรดาเสาหลักใครนั้นน่ากลัวที่สุดสำหรับเร็นโงคุที่มักแอบจดบันทึกจับอันดับอย่างลึก ๆ เจ้าตัวก็พร้อมจะชี้แจงอธิบายให้เข้าใจอย่างชัดถ้อยชำคำ

    บันทึกการจับอันดับความน่ากลัวของเหล่าเสาหลักในหน่วยพิฆาตอสูร หมวดหมู่ความโกรธเกรี้ยวอันน่าหวาดผวา ผู้ถือครองอันดับสองคือเสาหลักความรัก คันโรจิ มิตสึริ ส่วนอันดับหนึ่งย่อมเป็นสตรีที่กำลังส่งยิ้มหวานดั่งน้ำผึ้งเดือนหน้าของตรงหน้าของเขา

    เอาละ...จะให้ดิฉันเชือดใครทิ้งก่อนดีละคะ?

    โคโจ ชิโนบุคือบุคคลที่เร็นโงคุ เคียวจูโร่กลัวที่สุดในบรรดาเสาหลักทั้งหมด

    และคิดว่าเสาหลักคนอื่นที่เหลือย่อมคิดเช่นเดียวกับเขาทุกประการ



    [100/100]

    ขอร้องอย่าพึ่งสาปกันนร้าาาาาาาาาาา

    แงงงงง คือว่าช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาอัพจนปล่อยดองยาว ๆ หลายเรื่องก็คือติดเกมค่ะ 55555

    พอดีกำลังเข้าลัทธิป่วยดาบอยู่ง่ะ (ปั่นเวลให้เหล่าหนุ่มดาบวนไป) แถมลืมเนื้อหาเรื่องนี้ไปหมดแล้วด้วย

    กว่าจะแต่งส่วนที่เหลือออกมาจนถึงตอนนี้คือมือหงิกกันไปข้างเลยค่ะ มุแงงงงงงงง

    ไม่ขอบอกนะว่าจะมาอัพตอนไหนอีก แต่ถ้ามีไฟก็จะมาถี่ ๆ นะคะ  

    กราบขอขมาคนอ่านอีกครั้งค่ะ #นั่งพับเพียบประนมมือ 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×