คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER 04 : ความป่วนขั้นแรกเริ่ม
EP.04
ความป่วนขั้นแรกเริ่ม
*ยังไม่แก้คำผิด
หลังจากที่ตุ๊กแกหัวเผือกปรากฏตัวชวนตะลึงกันถ้วนหน้าแล้ว
สึนะที่มีแค่เบลเฟกอลในสายตาก็ถูกพวกเคียวโกะพาออกไปด้านนอก
ซึ่งตอนแรกนภาจูเนียร์ก็แสดงความไม่ยินยอมกลับไป แต่เพราะโดนน้ำเสียงออดอ้อนจากพี่เจ้าชายผมทองเข้าหน่อย
ความดื้อรั้นที่เตรียมปล่อยใส่เหล่าชายหนุ่มทั้งหลายก็หายวับไปกับตาย
แถมกลายเป็นเด็กน้อยแสนเชื่องที่เดินนำเหล่าสาว ๆ ออกไปนอกห้อง
มิวายยังหันมาโบกมือส่งยิ้มหวานให้เจ้าชายแห่งวาเรียเป็นการบอกว่า ‘เรานั้นเป็นเด็กดีของพี่เจ้าชายแล้วนะ’
ซึ่งภาพตรงหน้าระหว่างเจ้าชายโรคจิตกับนภาจูเนียร์มันช่างบาดตาบาดใจเหล่าชายหนุ่มที่อยู่ในห้องประชุมเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะกับพวกที่ชอบเล่นใหญ่อย่างเบียคุรันกับโกคุเดระแทบจะลงไปนอนร้องไห้กับพื้นอยู่รอมร่อ
“เอาละ
เรามาเข้าเรื่องจริง ๆ จัง ๆ กันได้แล้วเจ้าพวกติ๊งต๊อง” รีบอร์นที่นั่งกำหมัดมานานก็เอ่ยขึ้น
พร้อมกับเลออนที่ถูกเปลี่ยนเป็นปืนเตรียมยิงใส่ทุกคนหากยังไม่เลิกเล่นอะไรไร้สาระอีกละก็...
พ่อจะเป่าหัวให้กระจุย!!!
“ยังโหดร้ายไม่เปลี่ยนเลยนร้ารีบอร์นคุง~” เบียคุรันที่เลิกน้ำตาตกในกับคำว่าสีขาวโรคจิตจากปากของนภาจูเนียร์สุดน่ารัก
ก็กลับมาเป็นบอสหนุ่มแห่งมิลฟีโอเล่ที่มากเล่ห์เจ้าแผนการ
ร่างที่มีแต่งสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้าเปลี่ยนเป็นท่านั่งไขว่ห้าง
มือก็ประสานบนตัก ส่วนดวงตาสีม่วงก็กวาดมองเหล่าสมาชิกวองโกเล่ทุกคนที่เริ่มกลับเข้าสู่บรรยากาศจริงจังกันอีกครั้ง
“นายรู้อะไรมาบ้าง” นักฆ่าผู้แข็งแกร่งในร่างของเด็ก 8 ขวบเอ่ยถามเบียคุรันที่หยิบถุงมาร์ชเมลโล่ขึ้นมาฉีกและกินมันอย่างเช่นทุกครั้ง
แน่นอนว่าสายตากดดันของพวกผู้พิทักษ์หรือแม้แต่วาเรียก็ไม่สามารถทำอะไรบอสหนุ่มหัวขาวคนนี้ได้
“มันเกิดขึ้นได้สองกรณีละนะ” เบียคุรันยกนิ้วชี้ขึ้นมา
พร้อมกับเอ่ยถึงเหตุผลที่ทางเขาไปสืบมาได้เกี่ยวกับอาการของนภาคนงามที่กลายเป็นเด็ก
8 ขวบ
“กรณีแรกคือแฟมิลี่นั่นกำลังทดลองทำกระสุนบางอย่างเพื่อกำจัดวองโกเล่ให้หมดสิ้นอำนาจ
และให้พวกแร้งที่เหลือมาทึ้งและยึดอาณาเขตของวองโกเล่ไปเป็นของตนเอง แต่ก็ต้องให้พวกโชจังวิเคราะห์ว่ากระสุนที่ยิงใส่สึนะโยชิมันเป็นกระสุนอะไร”
“แล้วอีกกรณีละ?”
“ไฟดับเครื่องชนในตัวของสึนะโยชิคุงเกิดความผันแปร
จนทำให้ร่างกายและอุปนิสัยเปลี่ยนไปราวกับคนละคน
หรือจะเรียกว่าเป็นสึนะโยชิจากโลกคู่ขนานก็คงจะไม่ผิด”
“หมายความว่ายังไง!!!” โกคุเดระที่หันไปตบตีกับเรียวเฮตอนไหนก็ไม่รู้
เป็นอันต้องพุ่งเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของบอสมิลฟีโอเล่ที่เผลออ้าปากเหวอจนมาร์ชเมลโล่ในมือหล่นพื้นท่ามกลางสีหน้าเสียดายสุดฤทธิ์
อันนั้นมันชิ้นสุดท้ายเลยนะโกคุเดระคุง
ถึงจะเสียดายแค่ไหน
แต่พอเจอสายตาดุร้ายของเหล่าชายฉกรรจ์แห่งวองโกเล่
ก็ทำเอาชายหนุ่มหัวขาวผู้แตกต่างจากเพื่อนต้องอธิบายให้กับเจ้าพวกใจร้อนทั้งหลายได้รับรู้ถึงความน่าจะเป็นเกี่ยวกับสถานการณ์ผิดปกติในครั้งนี้
“ก็หมายความว่าไฟธาตุนภาของสึนะโยชิคุงกำลังสับสนว่าจิตวิญญาณสึนะโยชิคุงในตอนนี้ใช่เจ้าของร่างตัวจริงหรือไม่
แต่ฉันคิดว่ามันคงจะเป็นกรณีแรกมากกว่าละมั้ง”
“มันก็ไม่แน่หรอก” มาม่อนที่นั่งฟังมานานก็เอ่ยแทรกขึ้นก่อนที่ใครบางคนจะโวยวายออก
ในฐานะของผู้ใช้ภาพมายาพ่วงตำแหน่งอดีตเด็กทารกที่แข็งแกร่ง
ย่อมสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติในร่างกายของบอสวองโกเล่รุ่นที่สิบ
ว่ามันมีอะไรบางอย่างปะปนอยู่ในจิตวิญญาณอันแสนปั่นป่วนนั่น
ความปั่นป่วนที่พร้อมกลืนกินจิตวิญญาณที่แท้จริงของซาวาดะ
สึนะโยชิ
“นายจะบอกว่าสึนะที่โดนกระสุนของศัตรูเป็นตัวแปรต้น
ในขณะที่กรณีที่สองเป็นตัวแปรตามอย่างงั้นสินะ”
“ใช่” มาม่อนพยักหน้ารับให้กับคำพูดของรีบอร์น “และจิตวิญญาณของเจ้าหนูนั่นกำลังอยู่ก้ำกึ่งระหว่างตัวตนที่โลกนี้กับอีกโลก
และหากตัวตนใดได้ยึดครองร่างกายนี่ได้ก่อนละก็…”
“พวกเราก็จะเสียสึนะโยชิคุงที่พวกเรา
‘รัก’ ไปตลอดกาลสินะครับ” ฟรานยกมือขึ้นตอบรุ่นพี่ของตน ซึ่งเป็นการย้ำเตือนให้เหล่าชายหนุ่มที่เหลือได้รับรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยให้เวลาดำเนินไปโดยเปล่าประโยชน์
“แบบนี้มันไม่ตลกนะโว้ยยยย
ถึงจะถูกใจนิสัยไอ้เปี๊ยกตอนนี้ก็เถอะ แต่พวกฉันชอบมันคนก่อนมากกว่า!!!”
“พวกฉันก็เหมือนกันนั่นแหละเฟ้ย
ใครจะยอมให้รุ่นที่สิบผู้แสนน่ารักและอ่อนโยนหายไปกันละ!!!”
ต่อให้ส่วนหนึ่งจะเป็นรุ่นที่สิบอีกโลกก็เถอะ
แต่เขา ไม่สิ!
พวกเขานั้นรักและเคารพซาวาดะ
สึนะโยชิในโลกนี้จนแทบจะจับตัวเองใส่พานส่งตรงถึงห้องนอนของนภาแห่งวองโกเล่เสียจนตัวสั่น
เพราะฉะนั้นพวกเขาต้องหาทางนภาผู้แสนงดงามกลับมาเป็นปกติให้ได้!!!
“นี่ไอ้พวกสวะ” น้ำเสียงแหบพร่าของคนที่เงียบอยู่นานแสนนาน (เพราะยังช็อกและผวากับการถูกกินหัวอย่างเกรี้ยวกราดอยู่)
ก็เอ่ยเรียกเหล่าศัตรูหัวใจ โดยข้าง ๆ
ของบอสแห่งวาเรียก็มีไลเกอร์ตัวโตที่หมอบอยู่ข้าง ๆ
ดวงตาสีแดงเลือดกวาดมองสีหน้าของทุก
ๆ คน แม้กระทั่งลูกน้องในหน่วยของตนเอง
และสุดท้ายก็หยุดอยู่ตรงเจ้าชายผมทองที่ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นเบลก็ยังส่งเสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษ์ของตัวเองออกมาอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะถูกเพลิงพิโรธเป่าใส่หน้าหรือไม่
“มีอะไรงั้นเหรอซันซัส”
เป็นยามาโมโตะที่ตอบกลับไป
ก่อนที่รอยยิ้มขี้เล่นของอดีตนักเบสบอลทีมชาติจะหุบลง พร้อมจิตสังหารที่พุ่งออกมาจากร่าง
เช่นเดียวกับผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ที่บางคนก็หยิบอาวุธประจำตัวขึ้นมา
และบางคนก็พร้อมจะเปิดศึกได้ทุกเมื่อ
จะไม่ให้พวกเขาหงุดหงิดจะปล่อยจิตสังหารออกมาได้ยังไงละ
ในเมื่อประโยคที่บอสของวาเรียพูดออกมานั้น…
“ไหน
ๆ เจ้าเด็กนั่นก็ติดไอ้เบลแจแล้ว เพราะฉะนั้นซาวาดะ สึนะโยชิจะอยู่ภายใต้การดูแลของวาเรีย”
มันเป็นหัวข้อที่พวกเขายังตกลงกันไม่ได้นี่น่ะสิ!!!
“คุฟุฟุฟุ
อยู่ภายใต้การดูแลของวาเรียงั้นเหรอ อย่าพูดให้ผมขำออกมาเป็นสับปะรดเลยครับ
ถึงแม้พวกคุณจะได้เปรียบที่สึนะโยชิผู้น่ารักของผมดันหลงผิดไปชอบเจ้าชายโรคจิตตกกระป๋องขึ้นมาหน่อย
ก็ทำได้ใจกันเลยนะครับ”
นับเป็นครั้งแรกที่ผู้พิทักษ์สายหมอกหมายเลขหนึ่งอย่างโรคุโด
มุคุโร่พูดประโยคยาว ๆ ออกมาได้รอยยิ้มบิดเบี้ยวที่ดูน่าขนลุกและชวนน่าโมโหสำหรับพวกวาเรียที่เริ่มจะออกมายืนประชันหน้ากัน
โดยที่แต่ละคนก็เริ่มจับคู่กับคนที่ตัวเองเหม็นขี้หน้า ยกเว้นแต่ฮิบาริที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะเหม็นขี้หน้าทุกคนไม่ว่าจะเป็นวาเรียหรือแม้แต่ผู้พิทักษ์ของรุ่นที่สิบด้วยกันเอง
แต่ก่อนอื่นเลิกจุดไฟที่แหวนและเก็บกล่องเม่นเมฆาใส่กระเป๋าก่อนเถอะ
เพราะหากปล่อยให้ผู้พิทักษ์เมฆาทำตามใจชอบละก็...
งบในการซ่อมแซมคฤหาสน์ได้หายไปครึ่งหนึ่งแหงม
ๆ
“เอ๋~
จะตีกันแล้วเหรอ งั้นฉันขอนั่งเคี้ยวมาร์ชเมลโล่เป็นผู้ชมแล้วกัน~”
ส่วนแกน่ะบินกลับรังไปซะ
ไอ้ตุ๊กแกเผือกเอ๊ย!
-นภาจูเนียร์-
ซาวาดะ
สึนะโยชิกลายเป็นนภาจูเนียร์วัย 8 ขวบได้ 1 เดือนแล้ว
แน่นอนว่าบรรดาผู้พิทักษ์และเหล่าคนไว้ใจของวองโกเล่รุ่นที่สิบ
ต่างออกหาวิธีทำให้นภาจูเนียร์ผู้แสนดื้อรั้นกลับมาเป็นนภาผู้แสนอ่อนโยนเหมือนเดิม
จนบางคนสภาพโทรมแทบดูไม่ออกแล้วว่าก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีสภาพเช่นไร
ส่วนบางคนก็ใช้อิทธิพลสร้างความเกรงกลัวให้แก่เหล่าศัตรูที่คอยหาโอกาสทำลายวองโกเล่ข่มขู่ให้ยอมเปิดปากบอกที่อยู่ของพวกที่เหลือมา
ซึ่งวิธีของพวกจอมโหดบางคนล้วนไม่น่าดูเท่าไหร่นัก
และเพราะการกระทำของผู้พิทักษ์และเหล่าคนที่เกี่ยวข้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อนภาของพวกเขานั้น
ล้วนเป็นการกระทำที่สร้างความปลาบปลื้มให้แก่ลูกน้องในปราสาท
และเหล่าหญิงสาวที่คอยเป็นนักชงมือฉมังอย่างเคียวโกะ ฮารุ อี้ผิง โครม
หรือแม้กระทั่งเบียงเกี้ยงถึงกับต้องปาดน้ำตาให้กับคนที่พวกเธอลงแรงเชียร์ให้ได้กับนภาแห่งวองโกเล่
แน่นอนว่าพวกเธอต้องเข้าข้างคนที่ตัวเองสนิทอยู่แล้ว
ส่วนคนที่ไม่มีนักชงมืออาชีพให้เชียร์อัพก็ต้องขวนขวานวิธีการคว้านภามาอยู่ในอ้อมกอดของตนกันเอาเอง
อย่างเช่นยามาโมโตะ
ทาเคชิในตอนนี้
“สึนะ! นายจะเล่นเจ้านั่นในห้องนี้ไม่ได้นะ!!”
ยามาโมโตะตะโกนลั่นยามเห็นนภาจูเนียร์กำลังหยิบชิงุเระ
คินโทคิของเขาขึ้นมา
เพราะวันนี้ผู้พิทักษ์คนอื่น
ๆ ล้วนติดภารกิจในการกำจัดพวกสอดรู้สอดเห็นที่ต้องการทำลายวองโกเล่
รวมถึงศัตรูที่เป็นต้นเหตุทำให้นภาผู้แสนอ่อนโยนและงดงามกลายเป็นเด็ก 8
ขวบสุดดื้อรั้นที่ทำเอาเขาและคนอื่น ๆ ปวดหัวได้ทุกวี่ทุกวัน
แน่นอนว่าความแสนเอาแต่ใจของสึนะนั้น
ล้วนส่งผลถึงวาเรีย มิลฟีโอเล่ คาบัคโรเน่ ชิม่อน
และพันธมิตรของวองโกเล่แฟมิลี่อื่น ๆ อีกด้วย
ทว่ามีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องราวของนภาจูเนียร์คนนี้ และเขายามาโมโตะ
ทาเคชิที่ว่างงานอยู่เพียงคนเดียวในวันนี้
ต้องกลายมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับเพื่อนสนิทของตัวเอง
อนึ่งตัวเขาเองก็เต็มใจเป็นคนดูแลเจ้าตัวน้อยชนิดที่สามารถเชิดหน้าชูคออวดผู้พิทักษ์คนอื่น
ๆ ที่ได้แต่ส่งสายตาจิกใส่ยามที่เจ้าพวกนั้นเดินออกจากปราสาทไป
ทว่าความลั้ลลาของเขาตลอดเวลากลับต้องมลายหายไป
เพียงแค่เห็นเพื่อนที่เขาคิดไม่ซื่อเริ่มแผลงฤทธิ์ออกลายมาทีละนิด
และถูกแทนที่ด้วยเส้นเลือดตามขมับที่มันเต้นตุบตับยามที่อีกคนกำลังเล่นซนเกินกว่าเด็กธรรมดาทั่วไป
ฟิ้ววว
ฉับ!
“โอ๊ะ! ไอ้นี่คืออะไรเหรอลุง” สึนะที่จดจำผู้พิทักษ์ทุกคน
(ยกเว้นแรมโบ้) ว่าเป็นลุงไปเรียบร้อย
แม้จะสร้างความบาดใจให้แก่ผู้พิทักษ์มากขนาดไหน
แต่พวกเขาก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนยอมรับคำว่าลุงจากอีกฝ่าย
พร้อมกับรวมยอดทุกต้นทุกดอกเอาคืนอีกฝ่ายทีหลัง
กลับมาเป็นปกติเมื่อไหร่
ต้อโดนลงโทษข้อหามาเรียกพวกเขาว่าลุง!!
แต่ตอนนี้วกกลับเข้ามาตอนที่นภาจูเนียร์กำลังถืออยู่ในสภารุ่งริ่งพร้อมถามเขาด้วยแววตาใสซื่อนี่ก่อนดีกว่า
เพราะทันทีที่ยามาโมโตะเห็นเจ้าสิ่งอัปลักษณ์และน่าขยะแขยงในสายตาของเขา
สมองที่ทำงานเร็วจี๋เพื่อเค้นความทรงจำของตัวเองออกมา
และพอนึกออกก็ต้องสบถออกมาเสียงเบาพร้อมกับมือหนายกขึ้นตบหน้าผากตัวเองหนึ่งที
“เวรละ”
“เน่
ๆ ลุงบอกเราหน่อยสิว่าเจ้านี่มันของใครอะ สับปะรดเยอะแยะไปหมด” ไม่พูดเปล่าเจ้าตัวเล็กยังโบกสิ่งที่มีแต่สับปะรดไปมาให้ยามาโมโตะหน้ามืดครึ้มเข้าไปอีก
จิตสังหารอ่อน
ๆ พวยพุ่งออกมาจากร่างสูงของผู้พิทักษ์พิรุณ
ก่อนน้ำเสียงขี้เล่นจะเอ่ยประโยคที่ชวนให้สึนะจูเนียร์ผู้แสนน่ารักและดื้อรั้นเป็นที่หนึ่งต้องกระพริบตาปริบ
ๆ อย่างงุนงง
“สึนะไม่ควรหยิบมันขึ้นมานะ
เดี๋ยวมือนุ่มนิ่มของนายจะเปื้อนเชื้อโรคจิตเอา”
“หืม?”
“เพราะงั้นใช้ชิงุเระสับมันให้แหลกไปเลย^O^”
ใช่...สับมันให้แหลกไม่เหลือชิ้นดี
โดยเฉพาะไอ้ลายสับปะรดงี่เง่านั่น
เอาให้เจ้าของมันร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดไปเลยยิ่งดี
ใครใช้ให้หมอนั่นเอาบ็อกเซอร์มาไว้ในห้องของสึนะกันละ
อย่างงี้มันต้องบอกคนอื่น
ๆ ให้ยำไอ้สับปะรดโรคจิตนั่นซะ
ไม่เพียงแค่คิดอย่างเดียว
มือหนายกกล้องโทรศัพท์ถ่ายบ็อกเซอร์น่าขยะแขยงที่กำลังถูกนภาจูเนียร์ใช้ดาบชิงุเระสับมันไปมาลงในแชทกลุ่มที่มีเฉพาะเหล่าผู้พิทักษ์เท่านั้น
และทันทีที่ยามาโมโตะส่งรูปเข้าไปในกลุ่มที่ขึ้นว่าอ่านแล้วครบทุกคน
สงครามประสาทระหว่างผู้พิทักษ์ที่มักเกิดขึ้นลับหลังนภาผู้แสนอ่อนโยนก็เริ่มขึ้นทันที
ทาสรักรุ่นที่สิบ : บ็อกเซอร์ใครฟระ!
บังอาจมาอยู่บนมืออันแสนงดงามของรุ่นที่สิบได้ยังไงกัน!!!
ซาซางาวะ เรียวเฮสุดขั้ว! : เห็นแล้วขมคอสุดขั้วววววว
แรมโบ้เองครับ :
รสนิยมของคนใส่พอ ๆ กับอาเจ๊ลุซซี่เลยแฮะ
โรงเรียนนามิโมริน่าอยู่ :
อุจาดตาสิ้นดี
ผมเกลียดสับประ แต่ชอบดอกสับปะรด : อย่ากล่าวหาบ็อกเซอร์ของผมแบบนั้นสิครับ! เพราะไม่มีลายดอกสับปะรดหรอก ผมถึงได้กล้ำกลืนฝืนทนซื้อมันมา!
นักดาบงานหลัก เบสบอลงานรอง : ฮะ ๆ ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก
แต่ที่ฉันส่งมาเพราะมันมาอยู่ในห้องของสึนะได้ยังไงต่างหากละ
โครมค่ะ : ท่านมุคุโร่บอกว่าต้องการให้บอสจำตัวเองในแบบที่โลกต้องจดจำค่ะ
ผมเกลียดสับประ แต่ชอบดอกสับปะรด : นางิครับ!
ทาสรักรุ่นที่สิบ :
แก! ไอ้หัวสับปะรด!!! แกทำให้มือของรุ่นที่สิบต้องแปดเปื้อน!!!!
และแล้วมหกรรมรุมเชือดผู้พิทักษ์สายหมอกจอมโรคจิตก็ได้เริ่มขึ้น
แน่นอนว่าคำด่าของแต่ละคนนั้น หากใครมาได้เห็นหรือได้ยินจากปากของผู้พูดตรง ๆ ยิ่งจากปากของฮิบาริ
เคียวยะด้วยละก็...
น้ำตาไหลพรากกันเป็นแถว
ๆ ชัวร์ป๊าบ
ยามาโมโตะก็อยากร่วมวงกับผู้พิทักษ์คนอื่น
ๆ ด้วยเหมือนกันหรอก แต่หน้าที่ของตัวเองมาต้องการก่อน
โดยเฉพาะกับการนั่งเท้าคางมองเพื่อนสนิทของตัวเองกำลังบรรจงหั่นบ็อกเซอร์ของไอ้หัวสับปะรดโรคจิตเป็นชิ้น
ๆ นั้น มันก็เพลินตาเพลินใจดีเหมือนกัน
เพื่อความสุขของสึนะ
เขาย่อมทำทุกอย่างให้ได้เห็นรอยยิ้มที่สะกดสายตาของมาตลอด แม้ต้องแลกกับดาบสุดรักสุดหวงจะเปื้อนสิ่งของอัปมงคลก็ตาม
“ลุง
ๆ ดูนี่สิ เราเก่งใช่ไหมละ!”
สึนะที่กับการชำแหละบ็อกเซอร์อันน่าประหลาดในสายตาจนพอใจแล้ว
ก็หันไปขอคำชมจากพี่เลี้ยงของตนในวันนี้ด้วยแววตาที่ต่อให้เป็นคนโหดเหี้ยมอย่างซันซัสก็ต้องมีเซกันไปข้าง
แล้วนับประสาอะไรกับยามาโมโตะที่ชอบตามใจเพื่อนตัวเล็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกัน
“อื้ม! เก่งมากเลยละสึนะ”
“ใช่ปะละ
เราน่ะเก่งที่สุด!” ไม่มีการถ่อมตนใด ๆ ทั้งสิ้น
ยิ่งโดนยกยอมากเท่าไหร่
ส่วนสูงอันน้อยนิดของนภาจูเนียร์ก็ยิ่งยืดตรงเสียจนคนมองอย่างยามาโมโตะอยากจะเข้าไปอุ้มและฟัดแก้มยุ้ย
ๆ นั่นให้หายมันเขี้ยวชะมัด
ตอนปกติก็น่ามันเขี้ยวอยู่แล้ว
ตอนนี้ก็ยิ่งอยากบู้บี้แก้มตามคำพูดของพวกฮารุเข้าไปใหญ่
ให้ตายแถอะ
ดูท่าเขาต้องเป็นคนจำพวกตามวลีที่โคโรเนโล่เคยพูดเอาไว้แล้วแน่ ๆ
‘คุกสำหรับนายในตอนนี้มันก็แค่คุกกี้เท่านั้นแหละเว้ยเฮ้ย!’
อืม...มันก็จริงแฮะ
เคร้ง!
“โอ๊ะ! อันนี้มันคืออะไรหว่า?”
เพราะมัวแต่อยู่ในโลกที่มีแต่คุกกี้ กว่าจะกลับเข้าโลกแห่งความเป็นจริงได้ก็ตอนที่ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตกกระทบกับพื้นจนส่งเสียงดังลั่นห้อง
ตอนแรกยามาโมโตะก็คิดว่าคงจะเป็นเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นในห้องของสึนะ
แต่พอดวงตาคู่คมก้มมองเจ้าของเสียงกระทบเมื่อสักครู่
ก็ต้องหน้ามืดครึ้มพร้อมกับจิตสังหารที่มันลุกโชนยิ่งกว่าครั้งแรกชนิดว่าคนร่วมห้องอย่างสึนะแสดงสีหน้างงยกกำลังสองอีกรอบ
ลุงคนนี้ชอบทำหน้ายักษ์จังเลยแฮะ
ดูแก่เข้าไปใหญ่เลยอะ -0-
เพราะจิตใจเป็นเด็กวัย
8 ขวบที่ดูจะไม่ธรรมดาเหมือนเด็กทั่วไป มือน้อย ๆ ของนภาจูเนียร์ก็ทำการหยิบอาวุธอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหนึ่งในผู้พิทักษ์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาสำหรับยามาโมโตะอีกแล้ว
แถมเป็นบุคคลที่เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำแบบเดียวกับไอ้หัวสับปะรดโรคจิตซะได้
“ฮิบาริ?
ใครอะลุง” สึนะอ่านชื่อที่ติดอยู่บนอาวุธประหลาดในสายตา
ก่อนจะหันไปถามยามาโมโตะที่กำลังพิมพ์ข้อความลงในกลุ่มแชทอย่างใจเย็น
“อ้อของคนเลี้ยงนกน่ะ”
“คนเลี้ยงนก??”
“ใช่แล้ว^^”
ปากก็ส่งยิ้มสดใสให้กับเพื่อนตัวเล็ก
ส่วนมือก็กดส่งประโยคที่ตัวเองพยายามบังคับมือให้พิมพ์จนครบทุกตัวอักษรลงในกลุ่มแชทโดยไม่กลัวว่าตัวเองจะถูกเจ้าของชื่อเอาคืนหรือไม่
นักดาบงานหลัก เบสบอลงานรอง : ไปตายซะฮิบาริ เคียวยะ!!!
[100/100]
เม้นถึง 111 อัพตอนต่อไป
ยามะเก็บอาการหน่อยจ้า อย่าพึ่งเนียนแตกนะเอออ
ชอบชื่อแชทของแต่ละคนมากเลยค่ะ แบบมันโบ๊ะบ๊ะสุดโต่งเลย
พีคกว่าสัปป้าคุงก็คุณเคียวนี่แหละค่ะ
บอกแล้วว่าลูกเขยเรื่องนี้ไม่ปกติและไม่ธรรมดาสักคน
ปล.เรื่องนี้ไม่มีดราม่านะจ้ะ
ความคิดเห็น