คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 02 : นภาจูเนียร์
EP.02
นภาจูเนียร์
*ยังไม่แก้คำผิด*
ดวงตาคมกริบนับหกคู่ของเหล่าผู้พิทักษ์ต่างก้มมองสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยที่ส่วนสูงดูแล้วคงจะไม่ถึง
120 เซน ใบหน้าน่ารักบูดบึ้งดูบู้บี้มันช่างเหมือนแมวที่ถูกบี้แก้ม
ริมฝีปากจิ้มลิ้มเบ้ลงอย่างคนขัดใจ
ไหนจะสายตาดื้อรั้นที่เอาแต่เชิดขึ้นอย่างหยิ่งผยองนั่น มันไม่ได้ทำให้เหล่าผู้พิทักษ์ที่พึ่งหายจากการเป็นหินด้วยค้อนเลออนที่ฟาดลงกลางหัวเสียเต็มรัก
รู้สึกกลัวหรือยำเกรงกับสายตาของนภาจูเนียร์นี่เลยแม้แต่น้อย
และคนแรกที่ตั้งสติได้ก็หนีไม่พ้นชายหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าเป็นมือขวาของวองโกเล่รุ่นที่สิบอย่างโกคุเดระ
ฮายาโตะที่ทรุดตัวลงไปหมอบกับพื้นพร้อมกับน้ำตามปลื้มปริ่มยามเห็นบอสสุดที่รักกำลังก้มมองด้วยสายตาหาเรื่องชนิดที่เรียกว่าห้าวด่อง
ๆ อย่างไม่เจียมส่วนสูงของตัวเองเลยสักนิด
ส่วนผู้พิทักษ์คนอื่น
ๆ ก็แสดงอาการแตกต่างกันไป แต่ก็ไม่ได้โอเวอร์เท่ากับพ่อวายุหนุ่มที่เสียสติถึงขั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปบอสตัวน้อยรัว
ๆ จนสึนะเริ่มรำคาญแสงแฟลชที่ส่องเข้ามาในตาไม่มีหยุดพัก
“เน่ลุง
เลิกถ่ายรูปเราสักทีดิ มันน่ารำคาญนะรู้ปะ”
น้ำเสียงหวานละมุนตามฉบับเด็กไม่ถึง 10 ขวบดังขึ้น ใบหน้าบูดบึ้งนั่นพอมองดี ๆ
แล้ว มันช่างเหมือนกับใครบางคนที่ยืนกอดอกอยู่ตรงมุมห้องเลยนี่หว่า
ไอ้ใบหน้าไม่รับแขกนั่น
เหมือนกันอย่างกับคัดลอกลงบนกระดาษ
“ระ...รุ่นที่สิบ” โกคุเดระที่โดนบอสตัวน้อยเรียกด้วยคำบาดใจอีกครั้ง ก็อ้าปากพะงาบ ๆ
อย่างรับไม่ได้ว่ายอดยาหยีของเขาจะกล้าเรียกมือขวาผู้ภักดีคนนี้ด้วยคำว่าลุง
แม้ตัวเขาจะแก่กว่ารุ่นที่สิบแค่เดือนเดียวก็เถอะ
“ดูท่าจะเป็นปัญหาแล้วละ”
รีบอร์นที่เห็นลูกศิษย์ที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือดันกลายเป็นเด็ก
8 ขวบที่ไม่รู้เรื่องราวในโลกมาเฟีย รวมถึงตำแหน่งบอสที่ตัวเองถือครองอยู่
ยิ่งมองแววตาที่มีแต่ความหงุดหงิดและหยิ่งผยองนั่น มันยิ่งย้ำเตือนให้รีบอร์นรับรู้ว่าซาวาดะ
สึนะโยชินภาผู้แสนอ่อนโยนนั้น...
ดันกลายเป็นเด็กห้าวด่อง
ๆ พร้อมไฟว้กับทุกคนที่เหม็นขี้หน้าไปแล้วน่ะสิ
แถมไอ้คนที่เด็กนี่ตั้งเป้าไว้ก็คงหนีไม่พ้นเหล่าผู้พิทักษ์ที่ตัวเองเรียกว่าลุงเต็มปากเต็มคำ
“คุฟุฟุฟุ
ถ้าพวกศัตรูรู้ว่าวองโกเล่รุ่นที่สิบกลายเป็นเด็ก 8 ขวบละก็
มีหวังอำนาจของวองโกเล่ได้สั่นคลอนแน่นอนครับ”
มุคุโร่เอ่ยขึ้นพร้อมกับจ้องมองเจ้าก้อน 8
ขวบที่กำลังสนใจหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในห้องอย่างโครม
โดยไม่สนใจเรื่องที่พวกเขากำลังนั่งเครียดเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ใช่แค่ศัตรูหรอก
แม้แต่มาเฟียแฟมิลี่อื่นก็คงหาโอกาสโค่นล้มวองโกเล่และเหยียบให้จมดิม”
“ฮะฮะฮะ
แบบนี้ก็แย่น่ะสิ” ยามาโมโตะที่แม้จะอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา
แต่สายตานั่นบ่งบอกถึงความกังวลกับความปลอดภัยของบอสตัวน้อยมากขนาดไหน
จะว่าไปแล้ว
สึนะตอน 8 ขวบก็ตัวเล็กเหมือนกันแฮะ
เล็กกว่าตอนเขาอายุ
8 ขวบเสียอีก
“แล้วจะบอกเจ้าพวกนั้นไหม” เรียวเฮที่ลดเสียงตัวเองลงเพราะเจอสายตาพิฆาตจากซาวาดะตัวจิ๋ว ที่พุ่งตรงมายังเขาเต็ม
ๆ เปา
ไหนจะข้อความที่สื่อผ่านดวงตากลมสวยนั่นเป็นประโยคที่พาเอาเรียวเฮขนลุกเกรียว
ลูบแขนสองข้างตัวเองไปมาประหนึ่งอยู่ในขั้วโลกเหนือ
‘ถ้าเสียงดังอีกละก็
เราจะจิ้มตาของลุงให้แตก!!’
นั่นละคือสิ่งที่ซาวาดะ
สึนะโยชิสื่อผ่านสายตาตัวเอง โดยที่ร่างกายน้อย ๆ นั้นกำลังอยู่ในอ้อมกอดของโครม
ปล่อยให้สายหมอกสาวสำรวจร่างกายของบอสสุดที่รักไปมาอย่างเต็มใจ
อาจเป็นเพราะนิสัยเบื้องลึกของสึนะวัย
25 ยังหลงเหลืออยู่ในตัวของสึนะวัย 8 ขวบ
ก็เลยอ่อนโยนกับโครมมากกว่าผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ
ดูได้จากดวงตาสวยที่เหล่มองพวกเขาอย่างหยิ่งผยองนั่น
มันน่าจับมาบี้แก้มให้แหลกชะมัด
“ก็คงต้องบอกละนะ” รีบอร์นเองก็จนปัญญาแล้วเหมือนกัน
ขืนไม่บอกเจ้าพวกบ้านั่นมีหวังคงได้บุกกันเข้ามาจนปราสาทแห่งนี้พังพินาศแหงม ๆ
โดยเฉพาะไอ้พวกคณะตลกที่เอะอะก็ชอบใช้กำลังแก้ปัญหา
“ผมพนันด้วยอมยิ้มที่พี่สึนะซื้อให้เมื่อสองวันก่อนเลยว่าคนพวกนั้นต้องพุ่งมาที่นี่ทันทีที่ทราบข่าว” แรมโบ้น้องเล็กของกลุ่มผู้พิทักษ์เอ่ยขึ้นบ้าง
แถมยังโบกอมยิ้มสีชมพูที่ตัวเองได้จากบอสผู้อ่อนโยน
มิวายยังหันไปอวดสึนะที่นั่งหน้าบึ้งเมื่อเห็นอมยิ้มสีแหวนแหววนั่น
ไม่เห็นจะน่ากินเลยสักนิด
“อันนี้ฉันเห็นด้วย”
โกคุเดระที่คีพลุคเป็นมือขวาผู้แสนใจเย็นเพื่อให้รุ่นที่สิบผู้เคารพเลิกมองเขาว่าเป็นตาลุงติ๊งต๊อง ก็เอ่ยสนับสนุนคำพูดของแรมโบ้สุดกำลัง
และนั่นเรียกสีหน้าขยะแขยงจากเจ้าลูกวัววัยหนุ่มอย่างชัดเจน
หากเป็นเมื่อก่อน
เจ้าบ้าเดระไม่มีทางเห็นด้วยกับคุณแรมโบ้คนนี้อยู่แล้ว
สร้างภาพสุด
ๆไปเลยนี่หว่า
“ปัดปัญหาพวกนั้นไปก่อนเถอะ
เรามากลุ้มใจกับปัญหาต่อจากนี้ดีกว่า”
รีบอร์นกวาดสายตามองผู้พิทักษ์ของวองโกเล่รุ่นที่สิบ
แม้ฮิบาริจะยืนพิงกำแพงอยู่ห่างจากคนอื่น
แต่ชายหนุ่มก็ยังเหลือบมองบอสตัวน้อยที่ดูเหมือนวุฒิภาวะด้านอารมณ์จะถูกลบออกไปพร้อมกับอายุที่ลดลง
แต่ถ้าให้มองในมุมของเขา ฮิบาริบอกได้เลยว่าเขาชอบนิสัยเดิมของสึนะโยชิมากกว่า
แม้อีกคนจะชอบหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่นโดยไม่รู้ตัวก็เถอะ
“ปัญหาอะไรเหรอครับคุณรีบอร์น”
โกคุเดระแสดงสีหน้าจริงจังทันที เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ
ที่พากันจ้องมองอดีตทารกจุกนมสีเหลืองอย่างคาดคั้นว่าไอ้ปัญหาที่เราต้องรีบแก้ไขนั้นมันคืออะไร
“ใครจะเป็นพี่เลี้ยงให้เจ้าสึนะ”
และทันทีที่ประโยคนั้นถูกพูดออกมา
ทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะเงียบสงบพร้อมกับสายตาทุกคู่ที่เปลี่ยนทิศทางมายังบอสตัวน้อยที่เชิดหน้าใส่
มิวายยังใช้น้ำเสียงหวานนั่นกวนประสาทพวกเขาจนคิ้วกระตุกถี่ยิบยิ่งกว่าตอนเจอเจ้าหัวเผือกมาลั้ลลาที่นี่เสียอีก
“มองไรอะลุง
มีปัญหาเบ๋อออออ”
เบ๋อพ่อคุณสิครับ!!!
แต่เพราะน่ารักหรอกนะถึงให้อภัย
แต่ก่อนอื่น….
ช่วยเลิกเรียกพวกเขาว่าลุงสักทีเถอะ
อายุยังไม่เลข 3 กันสักคนเลยนะเฟ้ย!!!
-นภาจูเนียร์-
ทันทีที่รู้ปัญหาข้อนั้น
เหล่าผู้พิทักษ์ก็เริ่มทำการสุมหัว (ไม่เว้นแม้แต่ฮิบาริ)
ถกเถียงประเด็นที่ว่าใครนั้นจะเป็นผู้ชนะและได้ตำแหน่งพี่เลี้ยงของนภาจูเนียร์ไป
แน่นอนว่าเหตุผลที่เหล่าผู้พิทักษ์ยกขึ้นมาโต้วาทีด้วยกันเองนั้นล้วนเชี่ยวชาญเสียจนต้องเสียเวลาไปอีกพักใหญ่
สุดท้ายคุซาคาเบะต้องอุ้มนภาจูเนียร์ออกมาเล่นด้านนอกตามคำสั่งของฮิบาริ
ที่อุตส่าห์นั่งทนสุมหัวเพื่อใช้คำพูดแทงใจดำและแสนจะเอาแต่ใจใส่หน้าผู้พิทักษ์คนอื่น
ๆ ให้หัวร้อนจนแทบจะเปิดศึกกันอยู่หลายครั้ง แต่ก็โดนรีบอร์นห้ามศึกด้วยกระสุนปืนเฉียดหน้าไม่รู้ตั้งกี่นัด
เล่นเอาคนที่เหลือเสียววูบอยู่เหมือนกัน
“น่าเบื่อชะมัด”
สึนะที่ถูกคุซาคาเบะพามานั่งเล่นในสวนหน้าปราสาทวองโกเล่ก็เอ่ยขึ้น
สีหน้าเบื่อหน่ายที่เปิดเผยอย่างโจ่งแจ้ง ไหนจะดวงตากลมที่มองซ้ายมองขวาเพื่อหาอะไรแก้เบื่อทำในเวลานี้
“คุณซาวาดะหาอะไรอยู่เหรอครับ?” คุซาคาเบะที่เห็นว่าบอสตัวน้อยพาตัวเองลงจากเก้าอี้
และกำลังเดินหาอะไรอยู่บริเวณพุ่มไม้ก็อดจะถามด้วยความสงสัยไม่ได้
แต่พอเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของบอสตัวน้อย
คนสนิทของเมฆาหนุ่มก็หน้าซีดขึ้นมาทันที ก้านไม้ที่คาบอยู่บนปากล่วงหล่นลงพื้น
สีหน้าหวาดผวาพยายามส่งสายตาเพื่อถามบอสตัวน้อยที่กำลังแสยะยิ้มร้ายกาจพร้อมกับรังสีชั่วร้ายที่ลอยฟุ้งอยู่ทั่วร่างเล็ก
ๆ ของนภาผู้อ่อนโยนในอดีต
หากตอนนี้เป็นภาพหลอน
คุซาคาเบะ เท็ตสึยะก็จะมองหางกับหูสีแดงสะบัดไปมาเป็นเพียงสิ่งที่ตัวเองเพ้อฝันไปเอง
คุณซาวาดะไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน
“เอ~ อันนี้มันคืออะไรหนอ~~” สึนะที่ดูจะชอบท่าทางตกใจของรองกรรมการคุมกฎที่พยายามส่งสายตาอ้อนวอนไม่ให้เขาทำอะไรกับเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือ
มือน้อยโยนเจ้าลูกน้อยหน่าสีชมพูไปมาอย่างสบายใจ
มีบ้างที่เจ้าตัวจะแกล้งทำมันหลุดมือ
หรือไม่มือก็ไปโดนตรงสลักที่พร้อมจะแผลงฤทธิ์ใส่ได้ทุกเมื่อ
“คะ...คุณซาวาดะครับ
T^T” คุซาคาเบะแทบจะทรุดลงกับพื้น
สีหน้าจวนจะร้องไห้นั่นมันน่าขบขันเสียจนสึนะอยากจะแกล้งให้มากกว่านี้
นี่แหละคือสิ่งที่ช่วยให้หายเบื่อ
ดวงตาสีน้ำตาลเหล่มองหน้าต่างที่มีเสียงถกเถียงอันแสนน่าหนวกหูดังออกมาให้ได้ยินเกือบทุกประโยค
โดยเฉพาะเสียงของไอ้เจ้าบ้าสุดขั้วกับตาลุงที่บอกว่าตัวเองเป็นมือขวาของเขา
ไหนจะสรรพนามที่เรียกว่ารุ่นที่สิบนั่นอีก
สึนะไม่รู้หรอกว่าคนพวกนั้นเกี่ยวข้องยังไงกับเขา
ทว่าสายตาที่คอยเป็นห่วงนั่น คงจะเป็นเครื่องยืนยันว่าเขากับพวกนั้นรู้จักกันในระดับหนึ่ง
ไหนจะไอ้ความรู้สึกอยากหาคุณแม่ตามนิสัยเด็กเด็ก 8 ขวบก็ไม่มีแม้แต่น้อย
ราวกับว่าทุกอย่างคือชีวิตประจำวันของเขาไปแล้ว
ชีวิตประจำวันที่อยู่ในปราสาทแห่งนี้มาหลายปี
มีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของทุกคน ไหนจะเรื่องวุ่นวายที่ถูกป่วนด้วยผู้คนมากมายเข้ามาไม่ขาดสาย
ทั้งที่เขาอายุแค่
8 ขวบแต่ทำไมถึงได้ชวนน่าคิดถึงกันนะ
พิลึกดีแท้
แต่ก่อนอื่นเขาควรทำยังไงกับระเบิดในมือและเสียงน่ารำคาญในห้องนั้นดี?
“นี่เท็ตสึ”
“คะ...ครับ?” คุซาคาเบะตกใจเล็กน้อยที่จู่ ๆ คนตรงหน้าก็เรียกชื่อของเขาแทนนามสกุล
ปกติคุณซาวาดะจะเรียกเขาว่าคุณคาซาคาเบะ
พอถูกเรียกว่าเท็ตสึก็อดจะเขินหน่อย ๆ ไม่ได้
นี่อาจหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณเคียวกับคุณซาวาดะพัฒนาขึ้นมาบ้างแล้วสินะ!
มันต้องเป็นอย่างนี้แน่นอน
“ถ้าเราโยนระเบิดนี่เข้าไปในห้อง
พวกลุงจะร้องจ๊ากและกระโดดเป็นน้องกบเปล่าอะ?”
“ห๊ะ”
“อย่างนี้มันต้องพิสูจน์สินะ”
“ดะ...เดี๋ยวก่อนครับคุณซาวาดะ!
คุณซาวาด๊าาาาาา” คุซาคาเบะคว้าร่างน้อย ๆ
ของนภาจูเนียร์ที่กำลังเดินไปยังหน้าต่างห้องประชุม
มืออีกข้างก็พยายามคว้าลูกระเบิดในมือ ไม่ให้บอสตัวน้อยขว้างมันเข้าไปด้านใน
ทว่าสึนะวัย
8 ขวบคนนี้มีความดื้อรั้นมากกว่าสึนะวัย 8 ขวบที่แสนขี้อายเป็นร้อยเท่า โดยเฉพาะพละกำลังที่อาจตกเหลือมาจากเจ้าตัวในวัย
25 ทำให้มือที่ถือระเบิด (คาดว่าแรมโบ้คงจะทำมันตกเอาไว้ในพุ่มไม้หลังจากแอบนอนกลางวันในเวลางาน)
ขว้างออกไปเพราะกลัวว่าคุซาคาบะจะยึดมันได้ก่อน
“เอ๊ะ?/เอ๋?”
ดวงตาสองคู่มองไปยังทิศทางของระเบิดที่มันดันอยู่ตรงกันข้ามกับเป้าหมายของสึนะ
ก่อนที่เจ้าตัวจะก้มมองมือที่มีสลักระเบิดพร้อมกับเงยหน้ากระพริบตาปริบ ๆ
ใส่รองกรรมการที่น้ำตาไหลพรากด้วยความโล่งอกที่ห้องประชุมไม่เกิดเหตุการณ์วินาศสันตะโรเสียก่อน
ค่อยยังชั่ว
ถ้าขว้างไปทางนั้นก็คงจะเป็นพื้นที่โล่ง เสียหายไม่เท่าไหร่แต่ก็ยังดีกว่าไปหล่นใส่หัวของใครละนะ
คงไม่มีใครเซ่อซ่ามาเดินอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ทางเดินหรอก
บึ้ม!!
“โว้ยยยยย
ไอ้สวะตัวไหนมันปาระเบิดมาทางนี้ฟระ!!!!”
ซะที่ไหนกันละ!!!
“เฮ้ย!! แกมันไอ้คนที่อยู่กับเจ้าหนูเมฆานี่หว่า”
ไม่ทันได้พาบอสตัวน้อยหนีออกจากภัยพิบัติทางเสียง
ก็ดันเจอกับหนึ่งในสมาชิกคณะตลกที่มีผมสีบลอนด์ทองปิดบังดวงตากับมงกุฎประจำตัวและเสียงหัวเราะเอกลักษณ์ดักหน้าไว้
ส่วนด้านหลังก็มีฉลามหัวเงินยืนจังก้าพร้อมกับสมาชิกคนอื่น ๆ
ที่ต่างได้รับของต้อนรับเป็นคราบสีดำจากระเบิดเมื่อสักครู่
“ชิชิชิ
ต้นเหตุของระเบิดนั่นคือแกเองสินะ เอ๊ะ?”
เบลที่กำลังหัวเสียได้ที่ ก็ต้องร้องเอ๊ะออกมา
ยามที่สายตาก้มมองเจ้าสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในอ้อมแขนของรองกรรมการคุมกฎ ใบหน้าดื้อรั้นกับดวงตากลมโตสีน้ำตาลเอาแต่จ้องหน้าเขานิ่ง
ๆ
“….”
“….”
ต่างคนต่างจ้องหน้าราวกับกำลังประเมินกันอยู่
ยิ่งพอจ้องมองนาน ๆ
สีหน้าเหยเกยของเจ้าชายแห่งวาเรียก็ยิ่งดูน่าขยะแขยงในสายตาของสมาชิกด้านหลังมากขึ้นเรื่อย
ๆ โดยเฉพาะกับน้องเล็กสุดอย่างฟรานที่แสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจน
“นี่” เสียงหวานละมุนอันแสนคุ้นเคยสำหรับเหล่าวาเรียดังขึ้น
ทำเอาคนด้านหลังที่เหลือมองซ้ายมองขวาเพื่อหาต้นตอของเสียงที่ว่า แต่แล้วสายตาทุกคู่ที่พุ่งตรงไปยังคุซาคาเบะที่ยืนเหงื่อตกอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
“นั่นมัน...” มาม่อนที่ถูกปลดคำสาปและอยู่ในร่างของเด็ก 8 ขวบ ลอยเข้าไปใกล้เจ้าของเสียงที่พวกเขาให้ความสำคัญมากกว่าสิ่งใด
ก็เจอกับใบหน้าจิ้มลิ้มที่เอาแต่จ้องเบลตาเป็นประกาย
ใบหน้าแบบนั้น
ดวงตากลมโตที่มักทอประกายอย่างอ่อนโยน ทุกอย่างล้วนตรงกับบอสรุ่นที่สิบของวองโกเล่ทุกระเบียบนิ้ว
“สึนะงั้นเหรอ”
“หา!!!” วาเรียที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตะโกนออกมาเสียงดัง
โดยเฉพาะสควอโล่ที่เดินเข้ามาประจันหน้ากับนภาจูเนียร์ที่เอาแต่จ้องเจ้าเบลไม่วางตา
ใช่แน่
ๆ นี่มันไอ้เปี๊ยกชัด ๆ
“นี่
ๆ พี่ชายเป็นเจ้าชายใช่อ๊ะเปล่า”
ในสายตาของสึนะตอนนี้มีแต่ชายหนุ่มผมบลอนด์ตรงหน้าเท่านั้น ดวงตาสีน้ำตาส่องแววระยิบระยับเหมือนดาวนับล้านที่แข่งกันเปล่งแสงอยู่บนท้องฟ้า
และคนที่ได้รับดราเมจโดยตรงอย่างเบลเฟกอลมีหรือจะต้านทานความน่ารักอันแสนปุ๊กปิ๊กไปได้
เจ้าชายกระอักเลือดได้ไหม?
เลือดราชวงศ์ก็ราชวงศ์เถอะ
เป็นใครเจอประโยคของเจ้าตัวเล็กก็ล้วนสิ้นชีพกันทุกรายอยู่แล้ว
“มงกุฎนั่น
เราขอได้มะพี่เจ้าชาย”
แต่ประโยคนี้กลับคืนชีพเบลเฟกอลให้กลับมาอย่างรวดเร็ว
[100/100]
คนอื่นเรียกลุง แต่กับเบลเรียกพี่ชาย ย้อนแย้งจังเลยลูกกกก
เอาละค่ะ คณะตลกแห่งวองโกเล่ได้ออกโรงแล้วววว
แต่ยังมาไม่หมดทุกคน คุณลุง(?)ที่ทุกคนเฝ้ารอจะมาร่วมตบตีกับลุงคนอื่น ๆ หรือไม่นั้น
รอชมได้เลยจ้าาาาาาาา
ความคิดเห็น