คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : CHAPTER 10 : การจับแมวมาเลี้ยงมันไม่ใช่เรื่องง่าย
*ยังไม่แก้คำผิด*
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะเนี่ย”
เสียงบ่นพึมพำของคนรู้จักดังเข้าหูของยูกิที่กำลังยืนเคี้ยวซาลาเปารสชาเขียวอยู่อีกฝั่งของถนน ดวงตาสีแดงละสายตาจากพ่อค้าลึกลับที่ปิดหน้าปิดตาจนแทบจะกลายเป็นคนล่ะคน แถมข้างๆเขาก็มีเด็กสาวหัวจุกที่รู้สึกมักจี่กันเป็นอย่างดี
“นี่น่ะเหรอเป้าหมายในครั้งนี้”ถาดซาลาเปากับรูปถ่ายถูกยื่นมาให้เด็กสาวหัวจุกในชุดจีน ก่อนจะมาด้วยคำถามที่ได้รับการยืนยันจากพ่อค้าผู้ลึกลับโดยการพยักหน้า
“อี้ผิงมีคนมา”
เสียงหวานเอ่ยเตือนเจ้าตัวน้อยด้านข้าง ดวงตาสีแดงกับใบหน้าหวานหันไปมองผู้มาใหม่พร้อมกับคำทักทายอย่างเป็นมิตรราวกับตัวยูกิเป็นเพียงลูกค้าที่ผ่านมาเจอร้านขายซาลาเปาก็เท่านั้น
“อรุณสวัสดิ์สึนะโยชิ”
“อรุณสวัสดิ์ยูกิคุง นายเองก็มาซื้อเจ้านี่ด้วยเหรอ”สึนะมองคนนุ่มนิ่มที่มือหนึ่งเอาซาลาเปาเข้าปากเคี้ยวแก้มตุ่ย อีกมือหอบถุงกระดาษที่อัดแน่นไปด้วยซาลาเปาสีเขียวอ่อนที่ส่งกลิ่นหอมให้รู้ว่ามันคือชาเขียว
“อ้อ! ใช่แล้วล่ะซาลาเปาเจ้านี้อร่อยมากเลยนะ นานๆทีจะมาขายแถวนี้เลยต้องซื้อตุนเอาไว้น่ะ”
“ซื้อเยอะไปแล้วมั้ง”
“งั้นเหรอ?”ยูกิมองซาลาเปาในอ้อมแขนที่เขาสั่งให้เจ้าคู่หูลึกลับตรงหน้าทำเอาไว้ให้ แต่เห็นแบบนี้กว่าจะเดินไปถึงโรงเรียนเขาเจ้าแป้งนุ่มนี่คงหายเข้าไปนอนฝันหวานในกระเพาะของเขาหมดแล้วล่ะมั้ง
เพราะว่าเจอกันโดยบังเอิญทำให้ทั้งยูกิและสึนะต้องเดินมาโรงเรียนด้วยอย่างช่วยไม่ได้ และระหว่างทางสึนะโยชิก็ดันไปท้าทายเจ้าหมาน้อยชิวาว่าที่ดันเป็นหนึ่งในสิ่งที่เพื่อนหัวฟูหวาดกลัว แต่กลับกลายเป็นว่ามีเจ้าหมาตัวใหญ่สีดำแถมยังฉลาดเปิดประตูออกมายืนขู่ใส่อย่างดุร้าย
สึนะโยชิส่งเสียงร้องลั่นแถมยังจะลากเขาหนีลูกเดียว ทั้งที่เจ้านั่นไม่ได้พุ่งเข้ามากัดซะหน่อย แต่ก็นะ...ยูกิไม่ต้องเสียเสบียงในอ้อมกอดให้กับเจ้าหมาน้อยเพียงเพราะมีฮีโร่ตัวจิ๋วเข้ามาช่วยเอาไว้แล้วน่ะสิ
เหมือนมายากลเลยนะเพลงหมัดของอี้ผิงเนี่ย
และแล้วพวกเราก็เดินทางมาถึงโรงเรียนโดยสวัสดิภาพ สึนะไม่ต้องวิ่งสี่คูณร้อนด้วยสภาพบ็อกเซอร์เมื่อวันอื่นๆ และซาลาเปาชาเขียวในอ้อมแขนของยูกิก็หายเข้าไปในท้องตอนก้าวขาเข้าโรงเรียนพอดี
แต่ก็ยังไม่อิ่มอ่ะนะ
“เฮือก!!!”
“เป็นอะไรไปเหรอยูกิคุง?”
สึนะที่สังเกตเห็นอาการผิดปกติของเพื่อนนุ่มนิ่มข้างกายก็อดจะถามออกไปด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ ใบหน้าหวานมองซ้ายมองขวาก่อนจะหันไปมองประตูทางเข้าที่มีกลุ่มคนไว้ทรงผมที่แสดงถึงความเป็นญี่ปุ่นโดยแท้จริงให้เห็นเต็มๆสองตา
ถ้าเป็นปกติยูกิต้องเข้าไปยืนจ้องทรงผมนั่นใกล้ๆแล้ว ด้วยนิสัยเฟรนลี่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่ว่าไอ้สิ่งที่คาดอยู่ตรงแขนของคนกลุ่มนั้นนั่นแหล่ะที่ทำเอายูกิไม่อยากเข้าใกล้
ปลอกแขนสีแดงของพวกกรรมการคุมกฎ
ตัวอันตราย!!!!
“มะ..ไม่มีอะไรหรอก แค่รู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองตลอดเวลาก็เท่านั้น”ประโยคหันไปตอบสึนะโยชิที่ยังคงแสดงสีหน้าเป็นห่วงไม่หยุด ส่วนประโยคหลังแอบพึมพำกับตัวเองคนเดียว
บาทีคิบาระ ยูกิโตะอาจจะคิดมากไปเองก็ได้
คงไม่มีใครมาหาเรื่องคนที่นิสัยเฟรนลี่สร้างมิตรภาพไปทั่วอย่างเขาหรอกจริงไหม
แต่ยูกิคงไม่รู้หรอกว่าตัวเองนั้นได้ถูกดวงตาคมเฉี่ยวของราชาแห่งสัตว์กินเนื้อจ้องตั้งแต่เจ้าตัวกลืนซาลาเปาชาเขียวลูกสุดท้ายจนเดินหายเข้าไปในตึกเรียน รอยยิ้มที่คาดเดาไม่ได้ว่าผู้เป็นเจ้าของกำลังคิดอะไรอยู่ แต่สำหรับคนที่ทำงานรับใช้มานานอย่างคุซาคาเบะ เท็ตสึยะรู้ดีว่าเจ้านายของเขานั้น...
กำลังอารมณ์ดีสุดๆ
รู้สึกสงสารคุณหนูคิบาระไว้ตั้งแต่เนิ่นๆท่าจะดีที่สุด
Precious treasure
ช่วงบ่ายเป็นชั่วโมงให้นักเรียนทุกชั้นปีได้ทำความสะอาดตึกเรียนตามนโยบายของหัวหน้ากรรมคุมกฎฮิบาริ เคียวยะผู้รักโรงเรียนเข้าเส้นเลือด ซึ่งห้อง 1-A เองก็ต้องแบ่งหน้าที่กันทำความสะอาดว่าใครเหมาะจะทำตรงไหน และสำหรับยูกินั้นได้รับหน้าที่ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยจะมีประโยชน์ซะเท่าไหร่ ทำเอาคนที่ได้รับมอบหมายอดจะรู้สึกเซ็งเป็ดไม่ได้
ในระหว่างที่ยูกิกำลังเดินถือถุงขยะใบเล็กเข้ามาหาพวกเคียวโกะ สายตาก็ดันไปเห็นเจ้าเด็กน้อยหัวจุกในชุดจีนกำลังเดินสวนทางเขาไปยังบนดาดฟ้าก่อนที่สึนะโยชิจะเดินตามขึ้นไป ความสงสัยเกี่ยวกับทั้งสองรวมถึงลางสังหรณ์ที่บอกว่ามันต้องเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแน่ๆถ้าปล่อยให้พวกนั้นทำอะไรตามใจตัวเอง
โดยเฉพาะเจ้าลูกศิษย์ของฟงที่สายตาสั้นสุดกู่ ชอบมองเป้าหมายเป็นคนอื่นอยู่ด้วยแล้ว…
หายนะชัดๆ
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ร่างเพรียวก็เปลี่ยนทิศทางไปยังดาดฟ้าข้างบนทันที แต่ทว่าสัญชาตญาณระวังภัยกู่ร้องขึ้นให้ยูกิขยับหนีวัตถุสีเงินส่งแสงแวววาวผ่านหน้าเขาไปอย่างฉิวเฉียด
“ไงเจ้าลูกแมว”
“=[]=”
ไอ้คนอันตรายนี่!!!
แล้วนั่น...คิดจะฟาดให้เขาเลือดอาบเลยรึไง!!
“ขนาดพุ่งเข้าไปแบบไม่ให้ระวังตัวยังหลบได้ เธอนี่น่าจับมาเลี้ยงจริงๆเลยนะ”รอยยิ้มน่าขนลุกกับสายตาที่ส่องประกายถึงต้องการอันแรงกล้านั่น มันทำเอายูกิอยากจะหายตัวออกไปจากที่นี่เสียเดี๋ยวนี้เลย
สึนะโยชิ ฮายาโตะ ทาเคชิ พวกนายอยู่ที่หนายยยยย
คนคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วววว
ใบหน้าหวานเบ้ลง ดวงตาสีแดงก็เอาแต่จ้องมองการกระทำของหัวหน้าแก๊งอันธพาลอย่างหวั่นๆว่าเจ้าตัวจะพุ่งเข้ามาฟาดหน้าเขาเมื่อไหร่ ครั้นจะหันไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆก็พับความคิดนั้นเก็บไปเลย เพราะสีหน้าและแววตาของพวกเขามันบอกอย่างชัดเจนเลยว่ากลัวเจ้าของทอนฟาอาบเลือดนี่มากขนาดไหน
ทางเดียวที่จะออกห่างจากคนหน้าหล่อที่กำลังแสยะยิ้มกระชากใจได้นั้น…
“สี่คูณร้อยลูกเดียว!!!”
ฟิ้ววววววว
ฮิบาริมองเจ้าลูกแมวที่ตะโกนเสียงดังลั่นก่อนที่ร่างนุ่มนิ่มจะใส่เกียร์วิ่งหนีออกจากเขาไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงแค่ฝุ่นควันเป็นของดูต่างหน้า ดวงตาสีนิลเรืองรองเต็มไปด้วยความกระหายและความสนุกที่จะได้ออกล่าเหยื่อตัวน้อยที่ริอาจดิ้นรนหนีผู้ล่าอย่างเขา ลิ้นร้อนเลียขอบปากตัวเองกระตุกยิ้มร้าย มือทั้งสองกระชับทอนฟาให้มั่นและพุ่งตัวออกตามล่าเจ้าลูกแมวจอมรั้นและจับมาล่ามโซ่เป็นสัตว์เลี้ยงแสนเชื่องที่มีเขาเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
เกมไล่ล่าระหว่างฮิบาริ เคียวยะกับคิบาระ ยูกิโตะ สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก รวมถึงสายตาชื่นชมคนตัวเล็กที่หลบหลีกอาวุธมหาประลัยได้เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา และนั่นทำให้ลัทธิยูกิซามะเลิฟเลิฟฟอร์เอเวอร์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ท่านยูกิจงเจริญ!!!!!
Precious treasure
“ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย!!!”
เสียงหวานบ่นไปตลอดทางโดยที่ขาก็ยังคงรักษาความเร็วเอาไว้ไม่มีตกหล่น แม้จะออกจากอาคารเรียนมาแล้วแต่ใช่ว่าจะปลอดภัยหายห่วงเสียเท่าไหร่ โดยเฉพาะคนที่ทำตัวเหมือนเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนคนนั้นที่รู้ทุกซอกทุกมุมของโรงเรียน ต่างจากนักเรียนใหม่ที่พึ่งย้ายมาเรียนไม่ถึงเดือน มีหรือจะเทียบกันได้!!!
“ต้องขึ้นไปบนดาดฟ้าให้เร็วที่สุด ถ้าอยู่กับพวกนั้นเราคงมีโอกาสรอดแน่ๆ”
ใช่...ถ้าอยู่กับพวกสึนะโยชิที่จับกลุ่มรวมกัน ผู้ชายคนนั้นต้องเปลี่ยนเป้าหมายเพียงเพราะนิสัยเกลียดการสุมหัว เอะอะต้องขย้ำ ส่วนตัวเขาก็ใช้โอกาสนี้หนีออกจากโรงเรียนไปซะ
มันต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ
แต่ว่านะ...
หมับ!!!
“จับได้แล้ว”
“T^T”
ดันโดนจับก่อนที่จะวิ่งเข้าอาคารเรียนอีกครั้งน่ะเซ่!!!
ร่างนุ่มนิ่มที่ถูกวงแขนแกร่งโอบกอดรอบเอวเอาไว้แน่น ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มอย่างชอบใจที่อีกคนพยายามหนีออกจากเขาอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนี้ ทอนฟาสีเงินถูกเก็บเอาไว้ในเสื้อก่อนที่แขนทั้งสองข้างจะคว้าร่างนุ่มนิ่มที่ไม่ว่าจะจับส่วนไหนมันก็นิ่มไปหมดขึ้นพาดบ่าและก้าวขาเดินออกไปอีกทาง
“ปล่อยผมไปเถอะคุณกรรมการ ผมไม่ได้ไปสร้างความหงุดหงิดอะไรให้คุณเลยนะ”พอรู้ว่าหนีไม่ได้ เลยหันมาใช้เสียงหวานเอ่ยเจรจากับคนที่กำลังแบกเขาไปที่ไหนก็ไม่รู้ แต่คาดว่าต้องเป็นห้องรับแขกนั่นแน่ๆ
“ผมไม่สน”
“คุณมันไร้เหตุผลที่สุด คุกกี้ชาเขียวของผมคุณเป็นคนกินมันไปใช่ไหม!!!”ยิ่งนึกถึงของโปรดที่เผลอทำหล่นเอาไว้ก็ยิ่งอยากกรีดร้องออกมาให้ดังไปทั่วโลกเอาให้ไปถึงคนที่อยู่อิตาลีไปเลย
“หึ! รสชาติพอใช้ได้”
“ม่ายยยยยยยยยย”
ตู้มมมมมมม
เสียงระเบิดกับแสงสว่างเหนือดาดฟ้ากลบเสียงโวยวายของยูกิเอาไว้ซะมิด ดวงตาสีแดงเงยหน้าของเจ้าดอกไม้ไฟยักษ์อย่างเหวอๆ โดยที่ฮิบาริเพียงแค่ขมวดคิ้วกับชักสีหน้าหงุดหงิดที่อยากจะพุ่งขึ้นไปขย้ำเจ้าพวกสัตว์กินพืชข้างบนนั่นให้เละ แต่ว่าก็ต้องล้มเลิกเพราะตอนนี้ลูกแมวบนไหล่ของเขาสำคัญกว่า
“ระเบิดนั่นมัน...ของอี้ผิง”ยูกิมองระเบิดแต้มดอกของลูกศิษย์ตัวน้อยที่คู่หูของเขากำลังดูแลอยู่ ใบหน้าหวานครุ่นคิดถึงสาเหตุที่ทำให้คนขี้อายอย่างอี้ผิงถึงขั้นใช้ระเบิดสุดอันตรายนั่นได้
ไม่เขินอายเพราะแอบชอบ ก็คงเขินอายที่โดนพูดแทงใจดำใส่แหงมๆ
และสำหรับอี้ผิงในตอนนี้ต้องเป็นอย่างหลังแน่ๆ
“ยินดีต้อนรับกลับครับคุณเคียว!!!”
ไม่รู้ว่ายูกิเข้าโลกส่วนตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ พอรู้ตัวอีกทีก็เสียงทักทายของชายหนุ่มที่ไว้ทรงผมญี่ปุ่นของแท้เอ่ยทักทายผู้เป็นนายและไม่ลืมเผื่อแผ่มาทางเขาอีกด้วย
อ่า...คนญี่ปุ่นนี่ใจดีทุกคนเลยไหมนะ?
ไม่หรอกๆ...ยกเว้นคนที่แบกเขามาโยนไว้บนโซฟานี่คนหนึ่งล่ะกัน
“รองกรรมการ”
“ครับ!!”
“ของที่ผมสั่งเอาไว้”
“สักครู่ครับคุณเคียว!!!”
ยูกินั่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างมึนๆ ดวงตาสีแดงจ้องมองการกระทำของคุณรองกรรมการที่กำลังจัดโต๊ะเพื่อเตรียมความพร้อมทำอะไรสักอย่าง โดยที่คนสั่งเอาแต่นั่งกอดอกส่งรอยยิ้มคาดเดาได้ยากอยู่ฝั่งตรงข้าม
ไม่น่าไว้ใจ
รอยยิ้มของคุณกรรมการตอนนี้ไม่น่าไว้ใจที่สุด!!
ฟุตฟิต ฟุตฟิต
จมูกรั้นที่รับรู้ถึงกลิ่นหอมละมุนอันแสนโปรดปราณลอยมา ทำเอาดวงตาสีแดงเปล่งประกายระยิบระยิบยามที่เห็นจานขนมหวานใบโตกำลังถูกนำเข้ามาในห้องทีล่ะจานๆ จนตอนนี้โต๊ะตัวยาวตรงหน้ากลับเต็มไปด้วยอาหารและขนมที่มีสีเขียวอ่อนพร้อมกับกลิ่นที่แสดงถึงความเข้มข้นของแท้ 100%
“ชาเขียว!!!”
ชาเขียวทั้งนั้นเลยอ่ะ ไม่ว่าจะเป็นจานไหนก็มีแต่ชาเขียว!!
สวรรค์! นี่มันสวรรค์ชัดๆ
มือขาวทำท่าจะเอื้อมไปหยิบมาการองมากิน แต่ดันถูกขัดขวางโดยทอนฟาสีเงินของฮิบาริ ใบหน้างอง้ำกับแก้มทั้งสองข้างพองป่องอย่างไม่พอใจที่ถูกขัด
“อยากกินมันใช่ไหมล่ะ?”
“ของมันแน่อยู่แล้ว!! เพราะฉะนั้นให้ผมกินมันเดี๋ยวนี้เลยนะ!!”
“ผมให้เธอกินอยู่แล้ว แต่ก่อนอื่นต้องมาทำข้อตกลงกันหน่อย”
“อนุมัติ!!”
“….”ฮิบาริเชื่อแล้วว่าเจ้าลูกแมวที่คลั่งชาเขียวเข้าสู่กระแสเลือดนั้น เพื่อของกิแล้ว ต่อให้สั่งหรือบังคับให้เจ้าตัวไปทำอะไรนาทีนี้คงยอมหมด
แต่นั่นก็ดี....เพราะข้อเสนอของเขาง่ายแสนง่าย
“เร็วๆซี่! จะให้ผมทำอะไรงั้นเหรอ*0*”
ณ ตอนนี้ในหัวของคิบาระ ยูกิโตะมีแต่ชาเขียว ชาเขียว และก็ชาเขียวเท่านั้น คุณกรรมการสุดโหดจะสั่งให้ทำอะไรตอนนี้ก็ทำให้หมดทั้งนั้นแหล่ะขอแค่ได้กินขนมพวกนี้ให้หนำใจก็พอแล้ว
“ต่อไปนี้เธอต้องเป็นลูกแมวของผมคนเดียว”
“หมายถึงจะเลี้ยงผมเหรอ?”ยูกิเอียงคอส่งสายตาแป๋วเป็นลูกแมวมาให้ พลางคิดคำพูดของคุณกรรมการหน้าหล่อไปด้วย
เมื่อเช้าพึ่งคุยกับฟงและเจ้าตัวก็จะออกไปสืบอะไรนิดหน่อย ช่วงนี้เขาเลยต้องอยู่ในความดูแลของรีบอร์น แต่ว่าเจ้าหนูก็ไม่ค่อยว่างพาเขาไปกินอาหารญี่ปุ่นซะเท่าไหร่ เนื่องจากต้องคอยฝึกสึนะโยชิให้เป็นบอสมาเฟียที่ดี
แต่ถ้ายูกิยอมเป็นลูกแมวให้กับคุณกรรมการตรงหน้า ก็จะลดการถูกขย้ำด้วยทอนฟานั่น แถมยังได้กินขนมและอาหารที่มีแต่ชาเขียวไม่อั้นอีกด้วย
“ถ้าผมเป็นลูกแมวให้ คุณกรรมการจะเลี้ยงขนมผมทุกวันใช่ไหม?”
“อือ”
“กินได้ไม่อั้น”
“อือ”
“ต่อให้ขนมนั่นแพงมากแค่ไหนก็จะเลี้ยง”
“อือ”
“*0*”
คุณปู่ทิโม!! ผมว่าผมเจอขุนทรัพย์มหาศาลเข้าแล้วล่ะครับ
“ว่าไง?”ฮิบาริเท้าคางมองเจ้าลูกแมวที่ส่งสายตาวิ้งๆมาให้ไม่ยอมหยุด
“อนุมัติทั้งหมด!!!”
ดูท่าเจ้าลูกแมวนี่จะติดกับเขาเข้าอย่างจัง
“งั้นกินมันได้”
หมับ!!
สิ้นคำอนุญาตเจ้าลูกแมวก็รีบหยิบขนมที่อยากกินเข้าใส่ปากเคี้ยวแก้มตุ่ยทันที ใบหน้าเคลิบเคลิ้มแลดูมีความสุขกับรสชาติหวานละมุมนุ่มลิ้นทำเอาคนนั่งสังเกตการณ์อดจะยกยิ้มแสดงถึงความเอ็นดูเจ้าลูกแมวตรงหน้าไม่ได้
แก้มนั่นน่าบีบชะมัด
อยากขย้ำ(?)
แต่ก่อนอื่นคงต้องขุนให้มีน้ำมีมวลคุ้มค่าแก่การบีบขย้ำให้มากกว่านี้
อาหารและขนมพวกนี้มันไม่คณามือของฮิบาริ เคียวยะหรอก
ต่อให้แพงแค่ไหนเขาก็สามารถนำมันมาให้เจ้าลูกแมวนี่กินเข้าไปได้ทุกวันอยู่ดี
รอยยิ้มร้ายฉายบนใบหน้าหล่อเหลาแต่เพียงเสี้ยวเดียวก่อนจะหายไป ดวงตาที่แสดงถึงความเหนือกว่ากำลังเยาะเย้ยและความสมเพชให้แก่สัตว์กินพืชทั้งสามที่ต่อจากนี้ไม่มีทางได้แตะต้องเจ้าลูกแมวของเขาอีกต่อไป
“ฮิบาริใจดีที่สุดเลย!!!”
“เรียกเคียวยะสิ”
“งั้นเคียวจัง!”
“ตามใจเธอเลย”
[100/100]
ขอสามคำให้กับน้องค่ะ
ลูกกกก ไหนตอนแรกหนูบอกว่าเขาอันตรายไงคะ
ไบเอสขั้นสุดค่ะ ความสนิทสนมขึ้นอยู่กับของกินที่ถวายให้
ถ้าอยากจะเลี้ยงแมวตัวนี้ทุนต้องหนานะคะ
ของแพงน่ะเอามาเสิร์ฟให้ก็ยอมเชื่องแล้วจ้าาาาา
ความคิดเห็น