คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ฉากที่4 หอแทมเพียเวล75% แก้ไข!!! (ตรงเลดี้ค่ะ)
โอเชียน่ามองภาพที่เกิดขึ้นด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ นี่เธอต้องจูนสมองใหม่หมดเลยหรอเนี่ย เธอต้องเริ่มเรียนเวทมนต์บ้าบอนั้นหรอเนี่ย โอ้แม่เจ้า ลูกไม่อยากเชื่อเลยสักนิด ความฝันก็ไม่ใช่ เพราะนี่คือความจริง! ความจริงที่เธอต้องยอมรับให้ได้ในเร็ววัน เฮ้อ~ สู้ๆโอเชียน่า อนาคตยังรอเธออยู่! เพื่อคำสัญญานั้น เธอจะต้องทำให้ได้!
เวเทอร์จูงมือโอเชียน่าให้เดินลงไปจากแท่นหินด้วยกัน ตอนนี้เจ้าตัวมีสีหน้ายิ้มแย้มขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อได้อยู่หอเดียวกับเพื่อนๆตามความคาดหวังของตนตั้งแต่แรก พวกเธอทั้งสามเดินไปรวมกลุ่มกับนักเรียนในหอแทมเพียเวลอีก 17 ชีวิตที่เหลืออย่างเชื่องช้า
น.ร.ชายผู้สวมแว่นตากลมรีมีผมสีเขียวออกฟ้าได้กล่าวต้อนรับนักเรียนหน้าใหม่ขึ้นอย่างเป็นกันเองทันทีเมื่อพวกโอเชียน่าได้เดินมาถึง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้มผิดปกติกว่าทุกวัน เนื่องจากความดีใจที่มีเด็กพิเศษอยู่ถึง 3 คนในหอของตน และความผิดปกตินี้ก็มีเพียงคณะกรรมการหญิงอีกคนที่มาด้วยกันจับได้ แล้วมองบุรุษคนนี้ด้วยสายตาชิงชังอย่างเงียบเฉียบ
“ยินดีต้อนรับคลาสเซเว่นทุกคน วันนี้เราได้รับอภิสิทธิ์ให้ทัวร์รอบโรงเรียนได้หนึ่งวัน โดยมีฉัน ซูเจ ริมเปอร์ กับ โซเฟีย ดอลลี่เมคเกอร์ ผู้เป็นคณะกรรมการนักเรียนชั้นคลาสซิกส์ ได้รับหน้าที่เป็นคนดูแลคลาสเซเว่นโดยเฉพาะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ติดต่อพวกฉันสองคนได้ วันนี้พวกฉันถูกมอบหมายให้เป็นไกด์นำทัวร์” โอเชียน่าเหลือบมองโซเฟียแวบหนึ่ง โซเฟียนั้นมีผมยาวตรงสีขาวขนมสายใหม กับดวงตาสีเทาใสแกมขาวยืนอยู่ข้างซูเจ
“ที่เรายืนอยู่ตรงนี้คือสวนด้านหน้า มันอยู่ทางทิศใต้ของโรงเรียน อีกชื่อหนึ่งของสวนนี้คือ สวนสามธิดาแห่งทักษิณา เห็นได้จากรูปปั้นทั้งสาม ทั้งสามคนนั้นเป็นรูปปั้นประจำหอและมีชื่อตามหอที่แต่ละคนประจำอยู่ ไม่มีใครรู้ว่ารูปปั้นทั้งสามมาจากไหน รู้แต่เพียงว่าตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนนี้ รูปปั้นทั้งสามก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว หน้าที่ของทั้งสามคือคัดสรรคนเข้าหอทั้งสาม พวกเขาจะมีจุกเชื่อมต่อระหว่างแท่นหินนั่น พอเด็กนักเรียนไปยืนปุ๊บก็จะรู้ทันทีว่าอยู่ในสังคมไหนของโลกเวทมนต์นี้ มันก็คล้ายๆกับตรวจดีเอ็นเออ่ะนะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช้วิธีนี้แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมปีนี้ถึงใช้”
“ดอกไม้ที่แต่ละคนถือนั้นก็เป็นดอกไม้ประจำหออีกเช่นกัน แล้วดอกทั้งสามนั้นก็เป็นดอกไม้หายากอีกด้วย รู้สึกจะมีดอก...ดอก...”ซูเจอ้ำอึ้งไปพักหนึ่งเพราะนึกไม่ออก แต่ก็มีเสียงสวรรค์ช่วยเขารอดพ้นจากการหน้าแตกต่อน้องๆชั้นคลาสเซเว่นได้
“ดอกรีเทอร์นออฟไลฟ์ ดอกนิวเดย์ และดอกแฮบอะโฮล์พ”น้ำเสียงสดใสผิดกับหน้าตาของโซเฟียดังขึ้นตอบแทน
“ขอบใจโซเฟีย นั่นละดอกไม้หายาก”ซูเจกล่าวเสริม “ที่มันหายากแล้วก็เพราะว่าเมื่อหลายพันปีก่อน ดอกพวกนี้ถูกนำไปใช้ในพิธีและปรุงยารักษาต่างๆจนมันศูนย์พันธุ์ แต่ก็มีนักวิชาการบางคนเขาบอกว่าพวกมันยังอยู่ แต่อยู่ในที่ๆพวกเราไปไม่ถึงก็เท่านั้น”
“ต่อไปก็เรื่องห้องโถงใหญ่ที่พวกเธอได้พักผ่อนกันเมื่อคืน พูดไปคงไม่เชื่อ นั่นก็คือห้องหนึ่งในกำแพงโรงเรียน ยังมีห้องอีกมากมายซ้อนอยู่ในนั้น รอวันที่พวกเธอจะค้นพบ”ซูเจกล่าวทิ้งเป็นปริศนาและนั้นทำให้เด็กนักเรียนชายคนหนึ่งผู้มีผมสีดำแต่ถูกเวทให้มีไฮไลท์สีขาวแซมยกมือขึ้นถาม
“ว่าไง คุณอาร์บาว”ซูเจเรียกขานชื่อ
“หมายความว่าไงหรอ ที่ว่ายังมีห้องซ้อนอยู่ในกำแพง ในเมื่อทุกห้องก็น่าจะมีประตูให้เปิดเข้าไปไม่ใช่หรอ”อาร์บาวเอ่ยถาม
ซูเจมีสีหน้าครุ่นคิดไปครู่หนึ่งก่อนตอบไปว่า “เพราะว่าบางห้องไม่ได้ใช้ประตูเข้าไปนะสิ เรื่องกำแพงของโรงเรียนนั้นเป็นปริศนาอันดับ2ของโรงเรียนนะ” แต่คำตอบนั้นก็มีเด็กนักเรียนหญิงยกมือขึ้นถามอีก
“ว่าไง คุณ...เออ่...เลดี้มอลตาราตรู”ซูเจเรียกชื่อเด็กผู้หญิงที่มีใบหน้าท่าทางเหมือนตระกูลผู้ดีขึ้น เธอคนนั้นแต่ก่อนยังมีผิวสีขาวสวยเกี้ยงเกลา แต่พอโดนเวทของศาสตราจารย์โฮลิเดียส ก็มีลวดลายแปลกๆคล้ายอักขระสีดำปรากฎขึ้นตามตัวของเธอ
“แสดงว่าปริศนาของโรงเรียนยังมีอีกหรอค่ะ”เลดี้มอลตาราตรูเอ่ยถาม
“ใช่ อีกเยอะเลย”ซูเจตอบ “เอาไว้ว่างๆก็ไปหาหนังสือในห้องสมุดอ่านได้”
“เอาล่ะ ต่อไปก็เยื่ยมชมในโรงเรียน”แล้วซูเจก็เดินนำนักเรียนคลาสเซเว่นเข้าไปด้านในตึกเรียน
โอเชียน่ากลับมามองรูปปั้นทั้งสามอีกครั้งอย่างอาลัยอาวรณ์ในบางสิ่งบางอย่างซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน กลิ่นหอมทั้งสามโชยขึ้นมาแตะจมูกอีกครั้ง เธอสูดดมเข้าไปพร้อมกับเบิกนัยน์ตากว้างเมื่อได้ยินเสียงสตรีทั้งสามดังก้องขึ้นมาในความคิดของเธอ
‘เรายินดีรับใช้ท่านทุกเมื่อ เมื่อท่านต้องการเปิดหนทางสู่โลกใหม่และ...กลับมารับของๆท่านคืน’
“ของๆฉันหรอ”โอเชียน่าพึมพำ มองรูปปั้นไม่ไหวติงจนเวเทอร์ต้องเดินมาสะกิดให้เดินตามกลุ่มไป แม้โอเชียน่าจะรู้สึกสงสัยในคำพูดพวกนั้นแต่มองกี่รอบๆ รูปปั้นก็ยังคงเป็นรูปปั้นเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆอีกเลย
“อาคารเรียนนั้นเป็นรูปวงกลมอยู่ในสามเหลี่ยม สามเหลี่ยมที่ว่าคือกำแพงน่ะ”ประโยคสุดท้ายซูเจพูดเบาๆเพื่อให้เข้าใจ “อาคารถูกต่อยอดขึ้นไปจนดูเหมือนเป็นขนมเค้กก้อนโต ในนี้มีห้องเรียนมากมายอยู่ข้างใน มีเพียงไม่กี่วิชาเท่านั้นที่เรียนข้างนอกอาคาร ยกตัวอย่างเช่นวิชาศาสตราวุธ”ซูเจอธิบายได้แค่นั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อเหลือบเห็นมือหนาของอาร์บาวยกขึ้นอีกครั้ง
“ว่าไง คุณอาร์บาว”ซูเจเอ่ยถามพลางถอนหายใจ
“ทำไมเรายังต้องเรียนเรื่องศาสตราวุธ ในเมื่อสมัยนี้เราไม่ได้ไปรบราฆ่าฟันใครสักหน่อย”อาร์บาวเอ่ยถามคำถามที่ค้างคาใจออกไปด้วยสายตางุนงง
“โลกเมอิโทเฟียมันไม่เหมือนเอิร์ธฟิลหรอกนะ ถ้าพวกเธออยู่เทอม2เมื่อไหร่ก็รู้เองว่าเราเรียนไปทำไม”ซูเจตอบแบบมีเลิศนัยและไม่ปล่อยให้ใครถามอะไรอีก
ในระหว่างที่เดินทัวร์กันอยู่นั้นซูเจซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่ดีก็พาน้องๆแวะกินข้าวเที่ยงและเย็นด้วยความอารมณ์ดียิ่งนัก
“เอาล่ะต่อไปก็ทัวร์หอเรา”ซูเจก็พาน้องๆเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหอขนาดใหญ่ที่ฝังตัวอยู่ในกำแพงที่ทำมุมยอดเป็นรูปสามเหลี่ยม “จะขอบอกไว้ก่อนว่า สังคมผู้วิเศษหรือแทมเพียเวลนั้นเป็นสังคมที่ทุกคนมีพลังที่ไม่เหมือนกันสักคนเดียว อย่างฉัน ฉันก็สามารถเสกต้นไม้ได้หรือทำให้มันโตขึ้นได้ สำหรับพวกเธอก็อาจจะมีความสามารถต่างๆกันไป ไม่เหมือนพ่อมดแม่มดหรือวิซาร์ดหรือมาเวียล่า พวกนั้นทุกคนจะสามารถใช้พลังเวทขั้นสูงได้ โดยขึ้นอยู่กับพลังเวทของตนที่พักพิงอยู่ เราจะสังเกตได้จากดวงตาของพวกพ่อมดแม่มด ถ้ามีดวงตาสีแดง ก็แสดงว่าพลังเวทของคนๆนั้นพักพิงอยู่กับไฟ เป็นต้น พวกเราก็ใช้พลังเวทได้ แต่น้อยกว่าพวกนั้น แต่สำรับพ่อมดแม่มด พวกเขาจะไม่มีพลังที่แตกต่างเหมือนพวกเรา พวกเขาไม่สามารถมีความสามารถต่างๆเหมือนพวกเรา แต่พวกเขาวสามารถแปลงเป็นสัตว์ได้เหมือนพวกเอลนีม่าหรือโอลิเคีย แต่จะไม่เก่งเท่าพวกนั้น พวกโอลิเคียนอกจากจะแปลงเป็นสัตว์ได้แล้ว ก็ยังสามารถแปลงเฉพาะบางส่วนของร่างกายให้เป็นสัตว์ แต่พวกนั้นจะไม่สามรถใช้พลังเวทได้ แต่มีพลังความสามารถที่แตกต่างเหมือนเรา แต่ก็ใช้ไม่ได้ดีเท่าเรา ส่วนเราก็ไม่สามารถแปลงกายให้เป็นสัตว์ได้เช่นเดียวกัน มันเป็น วัฎจักร”
“คงจะงง งั้นฉันจะวาดแผนภาพแบบง่ายๆให้แล้วกัน”ซูเจบอกแล้วยิ้มออกมาน้อยๆ จากนั้นก็พึมพำอะไรบางอย่าง ไม่นานกระดาษแผ่นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขา
“นี่มันเป็นเวทมนต์ชนิดหนึ่งนะ”ซูเจอธิบายแล้วโชว์แผนภาพให้ดู
<<---- หมายถึงใช้พลังของสังคมนั้นได้ แต่ได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้น ไม่เก่งเท่าเจ้าของสังคมนั้นๆ
แผนภาพพลังของสังคมนั้นๆอย่าง่ายๆ โดย ซูเจ ริมเปอร์
“ที่อธิบายให้ฟังเพราะจะได้เข้าใจว่า ทำไมหอนั้นถึงมีเรียนวิชานี้แต่ทำไมเราไม่มี และจะได้ไม่ต้องตกใจถ้ามีอะไรเกิดขึ้น”ซูเจอธิบาย สิ้นเสียงของเขาประตูไม้บานใหญ่ของหอแทมเพียเวลก็ถูกเปิดออก พร้อมกับร่างอันสง่างามของผู้คุมหอปรากฏตัวขึ้นหลังประตู
ความคิดเห็น