ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ll...ฮัมโฟรเนีย...ll ตำนาน..ศึกมหากาฬ

    ลำดับตอนที่ #8 : ฉากที่4 หอแทมเพียเวล

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 51


    โอเชียน่าเดินตามทุกคนออกไปเป็นแถวสองแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อออกมาจากห้องโถงใหญ่ ทุกคนก็พบกับสวนขนาดใหญ่ ใหญ่มากจนเห็นอาการเรียนทรงกลมที่ต่อตัวเป็นชั้นๆขึ้นไปเหมือนขนมเค้กนั้นเล็กลงทีเดียว โอเชียน่าเพิ่งจะรับรู้ว่าห้องโถงนี้นั้นมันถูกฝังอยู่ในกำแพงของโรงเรียน เพราะเหตุนี้นี่เองห้องนั้นถึงไม่มีหน้าต่าง

                   

    ภายในสวนสวยนี้นั้นถูกประดับประดาด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นาๆพันธุ์และลานน้ำพุรูปแจกันใหญ่ แจกันนี้ถูกวางในลักษณะเหมือนมีมือใหญ่ประคองให้มันเทน้ำข้างในออกมารดตรงลานน้ำพุ แต่นั่นก็ไม่น่าสนใจเท่ากับรูปปั้นของอิสตรีสามคน ขนาดของมันนั้นเท่าคนจริงตั้งอยู่กลางสวนนี้ รูปปั้นพวกนี้ถูกสร้างขึ้นจากหินที่มีสีขาวสะอาดตา ข้างหน้ารูปปั้นนั้นมีแท่นหินอ่อนวางอยู่

     

    โอเชียน่ามีความรู้สึกถูกใจกับรูปปั้นทั้งสามอย่างประหลาด เธอเริ่มมองตั้งแต่รูปปั้นตัวแรก รูปปั้นตัวนี้นั้นเป็นรูปของผู้หญิงใส่หมวกทรงสูงของพวกแม่มดกับเสื้อคลุมยาว เธอคนนี้กำลังอยู่ในท่าทางของคนที่กำลังมองและประคองบางสิ่งบางอย่างบนมืออันเรียวงามด้วยความรักยิ่ง สิ่งของที่ว่านั้นคือดอกไม้...ดอกไม้ดอกนี้นั้นเหมือนดอกกล้วยไม้ไม่มีผิด เสียแต่ว่าขนาดของมันนั้นมันช่างใหญ่ยักษ์เหมือนดอกทานตะวัน

     

    สตรีคนที่สองอยู่ในชุดสายเดี่ยวผ้าโปร่งเบาสบาย เห็นได้จากเธออ้าแขนรับสายลมด้วยใบหน้าแห่งความสุข บนศีรษะของเธอนั้นประดับด้วยมงกุฎดอกไม้ แต่มงกุฎดอกไม้นี้แทนที่จะมีหลากหลายชนิดกลับมีเพียงแค่ชนิดเดียว ดอกชนิดนี้นั้นมีทั้งขนาดใหญ่และเล็ก กลีบดอกเรียวรีปักอยู่รอบๆเกสรดอกไม้กลมอย่างสวยงาม สิ่งนี้ทำให้เธอคนนี้ดูร่าเริงกว่าอีกสองคนข้างๆอย่างประหลาด

     

    สตรีคนสุดท้ายดูเหมือนเธอจะเป็นหญิงแกร่ง เนื่องจากเธอนั้นอยู่ในชุดของนักรับหญิงอันสง่างาม ยืนเท้าสะเอวข้างหนึ่งด้วยความมีอำนาจ ใบหน้าของเธอนั้นเรียบเฉยแต่แฝงแววตาอันมุ่งมั่น ทุกสิ่งทุกอย่างของจะแข็งทื่อไปหมดถ้าไม่มีช่อดอกไม้ช่อหนึ่ง ดอกที่เหน็บอยู่ข้างใบหูงาม ดูที่มีรูปร่างเหมือนดอกกล้วยไม้แต่มีกลีบดอกเยอะกว่ามาก

     

    ต่อไปนี้เราขานชื่อใครให้ออกมาข้างหน้าแล้วยืนบนแท่นหินนี้ เมื่อรู้ผลแล้วว่าอยู่หอไหนก็ช่วยไปยืนหลังคณะกรรมการนักเรียนของหอแต่ละหอทีนะเด็กน้อยโฮลิเดียสเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบสงบของสวนนี้ และยังเรียกสติของนักเรียนบางคน ซึ่งหลุดลอยไปไกลกับธรรมชาติของสวนสวยนี้

     

    แซมเบอร์ลิน โกลว์เวีย

     

    เด็กหญิงคนหนึ่งเดินขึ้นมาด้วยมาดหยิ่งยโสเต็มที่ เธอยืดตัวขึ้น เมื่อเท้าทั้งสองข้างแตะลงบนแท่นหินนั้น แสงสีเหลืองทองก็ส่องสว่างขึ้นมาทันที

     

    กลิ่นหอมชวนหลงใหลฟุ้งกระจายไปทั่วพร้อมกับน้ำเสียงอันแหลมสูงของอิสตรีคนหนึ่งดังขึ้น มาเวียล่า

     

    สิ้นเสียงนั้นกลิ่นหอมก็จางหายไปพร้อมกับแสงสีเหลืองทอง แซมเบอร์ลินมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างงงๆ เธอหันหน้าไปมองเด็กน้อยโฮลิเดียสว่าเธอควรจะทำอย่างไร ซึ่งเด็กน้อยก็ส่งสัญญาณมาบอกว่า ให้ไปยืนหลังคณะกรรมการนักเรียนของหอมาเวียล่า แซมเบอร์ลินจึงเดินไป

     

    โซอิจิ เอจิเสียงของเด็กน้อยโฮลิเดียสเรียกขานชื่อคนต่อไป เด็กหนุ่มเจ้าของชื่อผู้ตอนนี้มีลายจุดๆสีดำเต็มตัวเดินขึ้นมาบนแท่นนี้ด้วยความไม่มั่นใจ

     

    แสงสีทองสว่างขึ้นมาอีกครั้ง กลิ่นหอมชวนหึกเหิมก็โชยออกมาจากที่ใดที่หนึ่งพร้อมกับเสียงของสตรีผู้ทรงอำนาจว่า โอลิเคีย

     

    เมื่อแสงสีทองนั้นจากหายไปเช่นเดียวกับกลิ่นหอมประหลาดนั้น เอจิจึงเดินไปหาคณะกรรมการนักเรียนของหอโอลิเคีย

     

    นี่ๆ แสงสว่างกับกลิ่นหอมนี่อะไรหรอไดโอนิซิสผู้กล้าคนแรกได้ลองแย็บๆถามโอเชียน่าดูเป็นคนแรก

     

    โอเชียน่าเอียงคอไปเล็กน้อยเพื่อใช้ความคิดก่อนตอบกลับไปว่า สงสัยมันเป็นเวทมนต์อีกนั่นแหละ วิทยาการของโลกเรา เอ๊ย เอิร์ธฟิลน่ะ ไม่มีทางจะทำแบบนี้ได้หรอก... และก็นะ ผอ.ก็บอกไว้แล้วว่าหอนี้แบ่งตามสัคคมของเมอิโทเฟีย ถ้าเป็นแบบนั้นต่อให้ใช้วิทยาการของเอิร์ธฟิลจริงก็คงไม่สามารถแยกแยะว่าใครอยู่สังคมไหนๆ ได้เร็วเท่าเวทมนต์พวกนี้...

     

    แล้วบทสนทนาก็ต้องหยุดลงเมื่อโฮลิเดียสเรียกชื่อคนต่อไป

     

    ดีมีน์ซิทัส เคต ดอล์นเลสตั้น

     

    ดีมีน์ซิทัสก้าวขึ้นไปบนแท่นด้วยสีหน้าเจือรอยยิ้มอยู่เช่นเคย ในขณะที่เดินไปนั้นมีเสียงของสาวๆกรี๊ดขึ้นมาเป็นช่วงๆ เพราะดีมีน์ซิทัสนั้นก็เป็นคนดังคนหนึ่งตอนอยู่ในโรงเรียนเมจิเอนิทาสต์ในสาขาของเอิร์ธฟิล

     

    เมื่อแสงสว่างสีทองสว่างขึ้น กลิ่นหอมชวนเบิกบานใจก็โชยขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงของอิสตรีผู้อ่อนโยนดังขึ้นว่า แทมเพียเวล

     

    ดีมีน์ซิทัสเดินลงมาจากแท่นหินแล้วส่งยิ้มมาทางกลุ่มของโอเชียน่าน้อยๆ จนสาวน้อยแถวๆนั้นกรี๊ดสลบไปตามๆกัน จากนั้นก็เดินไปหาคณะกรรมการนักเรียนของแทมเพียเวล

     

    ไดโอนิซิส เคที่ ดอล์นเลสตั้นโฮลิเดียสประกาศชื่อคนต่อไป

     

    ไดโอนิซิสหันมาโบกมือลาโอเชียน่ากับเวเทอร์น้อยๆแล้วเดินออกไปยังแท่นหินตรงหน้า โอเชียน่ามองภาพนั้นด้วยรู้สึกใจหายอย่างไรชอบกล ถ้าพวกเธอไม่ได้อยู่ด้วยกันขึ้นมา มันคงเหงาพิลึกถ้าจะไม่ได้ยินเสียงเจื้อแจ้วของเจ้าตัวยุ่งคนนี้

     

    แสงสว่างสีทองสว่างขึ้น กลิ่นหอมชวนเบิกบานใจก็โชยขึ้นมาเหมือนตอนที่ดีมีน์ซิทัสยืนอยู่บนนั้น จากนั้นเสียงอันนุ่มนวลเสนาะหูก็ดังขึ้นมา มันเป็นเสียงเดียวกับที่ประกาศบอกฝาแฝดผู้พี่

     

    แทมเพียเวล

     

    ไดโอนิซิสรีบลงจากแท่นหิน วิ่งไปหาแฝดผู้พี่ด้วยสีหน้าดีใจมากถึงมากที่สุดเท่าที่เจ้าจะทำได้

     

    เป็นไปได้อยากอยู่หออะไรหรอจ๊ะเวเทอร์ค่อยๆเดินมาหาโอเชียน่าและแย้มรอยยิ้มบาง กลิ่นหอมชวนหลงใหลโชยขึ้น แสดงว่ามีใครบางคนได้ไปอยู่ในหอมาเวียล่า

     

    โอเชียน่านิ่งไปเล็กน้อยเพื่อใช้ความคิด เรื่องเลือกหอนั้นเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอยู่หอไหน เพราะแต่ละหอก็มีค่าเท่ากัน นั่นคือเป็นตัวประหลาด! ก่อนจะตอบไปว่า หอไหนก็ได้

     

    เหรอจ๊ะ เป็นไปได้ฉันก็อยากจะอยู่หอเดียวกับเพื่อนนะเวเทอร์ลำพึงออกมาแล้วเหม่อมองดูท้องฟ้าสีครามสดใสกับเมฆน้อยขนปุยสีขาว

     

    แสงสว่างสีทองสว่างขึ้นอีกหลายครั้งเช่นเดียวกับกลิ่นหอมต่างๆสามกลิ่นและเสียงที่ประกาศว่าใครอยู่หอไหน จนกระทั้งตอนนี้เหลือเพียงบุคคลอยู่สามคนที่ยังไม่ได้โดนเรียกชื่อ ซึ่งก็มีโอเชียน่า เวเทอร์ และฮิซัส

     

    แอมโบรเซีย มาเจลล่า เจนนารี่ ชาโดว์สวอตเสียงเด็กน้อยโฮลิเดียสดังขึ้นเรียกโอเชียน่าให้เข้ารับพิธีเลือกหอ เธอส่งยิ้มบางมาให้เวเทอร์และค่อยๆเดินไปยังแท่นหินนั้นด้วยความสง่างาม จนคนอื่นที่มองดูอยู่รอบนอกคิดว่าเธอหยิ่ง!?

     

    แสงสว่างสีทองสว่างขึ้นมา เธอรู้สึกปรอดโปร่งโล่งสบายอย่างประหลาดเมื่อได้อาบแสงสีทองนี้ ตอนนี้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะกำลังตื่นเต้นว่าจะได้ไปอยู่หอไหน จะได้อยู่กับเพื่อนๆของเธอไหม ในขณะนั้นเองแสงสว่างก็จางหายไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบเฉียบครอบคลุมทั่วสวนสวยแห่งนี้

     

    โอเชียน่ามองแท่นหินและกระทืบมันเบาๆเหมือนส่งสัญญาณบอกมันว่าเป็นอะไร ทำไมไม่มีอะไรออกมา เมื่อมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอจึงหันไปหา เด็กน้อยโฮลิเดียสด้วยแววตาช่วยเหลือ

     

    โฮลิเดียสกระแฮ่มไอเล็กน้อย คุณแอมโบรเซีย คุณช่วยเดินลงมาแล้วขึ้นไปยืนอยู่บนแท่นนั้นใหม่ทีนะ

     

    โอเชียน่าพยักหน้าเล็กน้อยให้กับคำแนะนำแกมคำสั่งนั้น เธอเดินลงมาจากแท่นหินอย่างช้าๆ หวังว่ามันคงจะมีเสียงประกาศบอก แต่ก็ไม่มี... เมื่อเธอเดินออกจากแท่นหินนั้นแล้วค่อยๆเดินขึ้นไปใหม่ แสงสว่างสีทองก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายกลับมาอีกครั้ง ไม่นาน...มันก็จางหายไปโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก

     

    คราวนี้เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นมาเซ็งแซ่เกี่ยวกับความผิดปกตินี้ โอเชียน่าเริ่มใจเสีย เธอมองไปหาเพื่อนของเธอทั้งสามด้วยสายตาวิตกกังวล ซึ่งเพื่อนๆของเธอก็ทำท่าทางบอกมาว่า เดี๋ยวคงดีเอง ไม่ต้องคิดมาก

     

    ทันใดนั้นเอง แสงสีทองก็ส่างขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันไม่ได้สว่างขึ้นมาบนแท่นหินอีกต่อไป มันกลับสว่างขึ้นมาอาบทั่วรูปปั้นทั้งสามอย่างยาวนาน พอแสงนั้นค่อยๆดับแสงลงพื้นผิวของรูปปั้นก็เริ่มมีสีเนื้อแต่งแต้มตามด้วยสีของเสื้อผ้าอาภรณ์ของสามนางผู้เลอโฉม โอเชียน่ามองภาพนั้นไม่ไหวติงเฉกเช่นเดียวกับทุกคน ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าจะมีสิ่งนี้ และไม่เคยมีใครคาดคิดว่าสิ่งนี้มันจะเกิดขึ้นมา!

     

    เจ้าจะอยู่ที่ใดเสียงอันไพเราะดังออกมาจากเรียวปากบางของอิสตรีผู้สวมมงกุฎดอกไม้ แล้วกลิ่นหอมชวนเบิกบานใจก็โชยออกมาทั่วทุกบริเวณ แม้มันเป็นภาษาที่เธอไม่รู้จัก แต่เธอก็รับรู้ถึงความหมายของมันได้

     

    มาเวียล่าเสียงแหลมสูงของสตรีผู้สวมหมวกแม่มดดังขึ้น กลิ่นหอมชวนหลงใหลจึงฟุ้งกระจายไปโดยรอบ

     

    แทมเพียเวลเสียงไพเราะของสตรีผู้สวมมงกุฎดอกไม้เอ่ยขึ้น

     

    หรือ โอลิเคียเสียงผู้ทรงอำนาจเอ่ยออกมาจากสตรีผู้สวมชุดเกราะแล้วกลิ่นหอมชวนฮึกเหิมก็หอมไปทั่วบริเวณ

     

    กลิ่นหอมสามกลิ่นมาจากคนหรือว่ารูปปั้นสามตัวงั้นหรอ โอเชียน่าครางในใจ มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะได้เห็น รูปปั้นหลายเป็นคน!

     

    เออ่...โอเชียน่าอ้ำอึ้ง เธอไม่คิดเลยว่าเธอจะได้มีสิทธิในการเลือกหอ เธอไม่เคยคิดมาก่อนและไม่เคยคาดคิดไว้ล่วงหน้าด้วย สิ่งนี้ทำให้เธอมีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด

     

    หนึ่งในสามสาวเห็นสีหน้าของโอเชียน่าว่ามีสีหน้าลำบากใจ เธอคนนั้นจึงได้ทีโฆษณาหอตัวเองเสียเลย ว่าไงจ๊ะสาวน้อย มาอยู่ที่หอมาเวียล่าสิ แล้วพลังเวทมนต์ของเธอจะสูงส่งกว่าใคร

     

    อย่ามาตัดหน้ากันสิเสียงสตรีผู้สูงศักดิ์เอ่ยแกมตำหนิ เมื่อเพื่อนสาว?ใช้ภาวะคนที่กำลังโลเลใจมาโฆษณาตัดหน้า ถ้าตัดสินใจไม่ถูกก็มาอยู่ที่หอโอลิเคียสิ ที่นั่นจะทำให้เธอแปลงเป็นสัตว์น้ำได้อย่างพอใจ ดีกว่าเวทมนต์กิ๊กก๊อกนั่นเยอะ

     

    โอเชียน่านิ่วหน้าไปเล็กน้อย เธอจะอยู่หอไหนดีละเนี่ย แต่ละหอก็มีค่าเท่ากัน

     

    หอมาเวียล่าสิดีสุด! ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับเวทมนต์ ไม่รู้รึไงเสียงสตรีผู้สวมหมวกแม่มดสวนกลับเมื่อโดนอีกฝ่ายว่า

     

    หอโอลิเคียสิ! จะได้เรียนรู้ในการต่อสู้ ฝึกรบสตรีผู้ทรงอำนาจเอ่ยแย้งขึ้นมา

     

    แบบป่าเถื่อนนะสิ!”สตรีผู้สวมหมวกแม่มดหันไปโต้เถียงกับสตรีผู้สูงศักดิ์ทันที

     

    แล้วไอเวทมนต์นั่น ก็คงจะนั่งต้มยาในหม้อต้มนะสิ อึ๋ย! กลิ่นเหม็นฉุนแล้วสตรีผู้สูงศักดิ์ก็ทำท่าบีบจมูกและสั่นตัวเล็กน้อยเหมือนขนลุกประกอบ

     

    ด้วยท่าทางนั้นเอง อารมณ์ของสตรีผู้สวมหมวกแม่มดถึงกับสูงปรี๊ดต๊าย! คุณป้า เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาไปถึงไหนต่อไหนแล้วยะ อ้อ! ลืมไปว่าคุณป้าเป็นพวกเอลนีม่าในถ้ำ โทษทีๆ ลืมไปแล้วเจ้าตัวก็ทำท่าทางประกอบ นั่นถึงกับทำให้สตรีผู้สูงศักดิ์ตัวสั่นเถิมด้วยความโกรธ

     

    พอเถอะมาเวียล่า โอลิเคีย พวกเจ้าทั้งสองทำให้เด็กน้อยแอมโบรเซียคิดไม่ตกแล้วว่าจะอยู่หอไหน เอางี้ดีกว่านะหนูน้อย มาอยู่หอแทมเพียเวลสิ แล้วเจ้าจะฝึกได้พลังในสิ่งที่เจ้ามีนอกเหนือจากพลังเวทกับเอลนีม่าท่อนสุดท้ายที่ดูเหมือนกับเชิญชวนนั้นทำเอาโอเชียน่าหลุดหัวเราะไม่ได้ ส่วนสตรีอีกสองคนก็ถึงกับหันหน้ามามองสตรีผู้สวมมงกุฎดอกไม้ด้วยความรวดเร็วพร้อมกับแผดเสียงพร้อมกันว่า

     

    แทมเพียเวล!”

     

    ก็จริง รึไม่ใช่สตรีผู้สวมมงกุฎดอกไม้หรือที่โอเชียน่าคิดว่าเธอคนนี้น่าจะชื่อว่าแทมเพียเวลจะเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองของเธอกลับ

     

    เด็กน้อยโฮลิเดียสเห็นท่าว่าจะไม่ดีเลยรีบขึ้นมาบนแท่นหินเพื่อห้ามทัพของสามสาวเอาไว้ แต่เมื่อโฮลิเดียสก้าวขึ้นมา แสงสีทองก็สว่างขึ้นมาแล้วจางหายไป

     

     พอเถอะๆ พวกท่านทั้งสาม พวกท่านจะทำให้คุณแอมโบรเซียคิดไม่ออกทั้งสามสาวจึงเงียบลงเพื่อฟังว่าโอเชียน่านั้นจะเลือกอยู่หอไหน

     

    ว่าไงคุณแอมโบรเซีย คุณจะอยู่หอไหนเด็กน้อยเอ่ยถามอย่างเร่งเร้าในคำตอบ

     

    โอเชียน่าอ้ำอึ้ง เธอไม่รู้จริงๆว่าจะอยู่หอไหน ปกติก็มีแต่คนชี้เส้นทางให้ไม่เคยมีใครปล่อยให้เธอเดินเองหรอก ก็แน่ละ เพื่อที่จะควบคุมเธอให้ง่ายๆและรู้ว่ากำลังทำอะไรถึงสั่งว่าให้ทำอยู่นู้นอย่างนี้ตลอด เพราะถ้าเธอจะตัดสินใจเอง เธอจะได้เกิดอาการประหม่าไม่สามารถตัดสินใจได้แล้วจะได้กลับมาถามพวกเขาเหล่านั้นว่าเธอควรจะทำเช่นไร

     

    แล้วแบบนี้ เธอจะทำอย่างไรดี...?

     

    ...จำไว้ว่าเลือกกลาง... เสียงของคุณแม่ดังก้องขึ้นมาในหัวของเธอ แววตาของโอเชียน่าเบิกกว้างทันทีเมื่อนึกถึงคำๆนั้นออก

     

    คุณแม่ค่ะ โอเชียน่าร่ำร้องในใจ ที่แม่บอกว่าให้เลือกกลางนี่หมายถึงเลือกหอใช่ไหมค่ะ ถ้าไม่ใช่ หนูขอตายเอาดาบหน้าก็แล้วกันนะค่ะ

     

    นานทีเดียวกว่าโอเชียน่าจะรวบรวมความกล้าออกมา

     

    เออ่...แทมเพียเวลค่ะ...โอเชียน่าเอ่ยขึ้นมาทามกลางความเงียบของผู้คนที่ลุ้นระทึก แต่นั่นยังเบาไปสำหรับสามสาวสามสไตล์จะได้ยิน

     

    อะไรนะทั้งสามร้องขึ้นมาพร้อมกันแล้วเดินเข้าไปใกล้โอเชียน่ามากขึ้น

     

    แทมเพียเวลค่ะ!...”โอเชียน่าตะโกนออกมาสุดเสียง

     

    ใบหน้าที่แสนจะดีใจตกเป็นของแทมเพียเวล นางเข้ามากอดโอเชียน่าอย่างแรงจนตัวเธอแทบจะตั้งรับไม่ทัน ทำให้โอเชียน่าได้สัมผัสถึงผิวหนังอันเย็นเฉียบของแทมเพียเวล เธอตกใจเล็กน้อยก่อนจะปรับให้มันเป็นปกติ

     

    นี่ก็คงเป็นเวทมนต์แปลกๆอีกใช่ไหม เธอกล่าวกับตัวเองในใจ แล้วกอดร่างของแทมเพียเวลเอาไว้ ส่วนมาเวียล่าหรือสตรีผู้สวมหมกแม่มด กับโอลิเคีย สตรีผู้สูงศักดิ์มีสีหน้าสลดอย่างเห็นได้ชัด

     

    เชอะ เหลืออีก2คนยะ 2คน คราวนี้ต้องจับให้อยู่หอมาเวียล่าให้ได้มาเวียล่าเอ่ยอย่างมีความหวัง

     

    แล้วเจ้าจะเสียใจที่ไม่ได้เลือกหอโอลิเคียโอลิเคียกล่าวขึ้นแล้วเชิดหน้าไปทางอื่น ไม่อยากจะสนใจความกระดี้กระด้าของแทมเพียเวลเท่าใด

     

    อีก2คนงั้นหรอ ปีนี้เด็กพิเศษเยอะจริงเด็กโฮลิเดียสแสร้งอุทานในคำพูดของมาเวียล่า เขาผงะถอยหลังไปเล็กน้อย

     

    แทมเพียเวลละจากการกอดโอเชียน่าแล้วหันมามองเด็กน้อยโฮลิเดียสด้วยสายตาแกมตำหนิ ก่อนจะเอ่ยเตือนไปว่าท่านจะแสร้งตกใจไปไย ในเมื่อท่านก็รู้ว่าปีนี้มี3คน แล้วยิ่งท่านทำท่าเช่นนี้ด้วย เฮ้อ ท่านรู้ตัวบ้างไหมว่าท่านอายุเท่าใดแล้ว

     

    โฮลิเดียสถอนหายใจออกมาแล้วตอบแทมเพียเวลไปว่า ช่วยไม่ได้นี่นา เราอยู่ในร่างของเด็ก10ขวบ จิตใจของเราก็เลยเด็กตามไปด้วย ดีที่ปัญญาไม่เด็กตาม ไม่งั้นเราแย่แน่

     

    สามสาวหัวเราะให้กับคำพูดของโฮลิเดียส โอลิเคียปรับสีหน้าได้ก่อนจึงเอ่นแกมบังคับกับโฮลิเดียสว่า เจ้าช่วยเรียกเด็กที่ชื่อ เวเทอร์ กับ ฮิซัส มานี่หน่อยสิ พวกเขาเป็นเด็กพิเศษเหมือนกัน ก็น่าจะทำให้มันจบๆไป

     

    โฮลิเดียสพยักหน้าเล็กน้อย แต่พวกท่านรู้ได้อย่างไรว่า เด็กพิเศษนั้นชื่ออะไร

     

    ความสามารถพิเศษมาเวียล่าตอบเป็นปริศนาให้เด็กน้อยโฮลิเดียสคิดเอาเอง เด็กน้อยจึงไหวไหล่เล็กน้อยแล้วหันไปขานชื่ออีกสองคนให้ขึ้นมาบนแท่นหินนี้

     

    เวเทอร์ มอนซอล กับ ฮิซัส ฟิแลมเพวล์ ช่วยขึ้นมาข้างบนนี้ที

     

    เวเทอร์กับฮิซัส สองบุคคลที่ถูกเรียกจึงเดินขึ้นมาบนแท่นตามคำสั่ง ทันทีที่ท้าวของทั้งสองคนอยู่บนแท่น แสงสีทองก็สว่างขึ้นมาแล้วค่อยๆจางลงไป

     

    อืม...พวกเจ้าจะอยู่หอไหนมาเวียล่าเอ่ยถามทั้งสองขึ้นมาทันทีด้วยสีหน้าค่อนข้างบึ้งตึงเล็กน้อย

     

    เวเทอร์มีสีหน้าครุ่นคิดพักหนึ่ง ไม่นานเธอก็แย้มรอยยิ้มบางออกมาก่อนตอบคำถามที่ทำให้สตรีอีกสองนางแทบจะเป็นลมล้มพับไปว่า ขออยู่ตามเพื่อนค่ะ แทมเพียเวล

     

    แทมเพียเวลกระโดดดีใจขึ้นมาอีกครั้ง ตามด้วยเสียงถอนหายใจของอีกสองนางอย่างช่วยไม่ได้

     

    หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะโอลิเคียหันไปฝากความหวังกับบุรุษคนสุดท้ายซึ่งตอนนี้ยืนยิ้มตามแบบฉบับของตนอยู่อย่างอารมณ์ดี

     

    เออ่...ขอโทษนะฮะ นามสกุลผมแผลงมาจากคำว่า แทมเพียเวล แล้วทุกคนในครอบครัวของผมก็อยู่แทมเพียเวล เพราะฉะนั้นผมคงอยู่หออื่นไม่ได้นอกจาก แทมเพียเวลเมื่อฮิซัสตอบจบ มาเวียล่าก็เป็นลมล้มพับไปทันที ส่งผลให้โอลิเคียต้องเข้าไปประคองมาเวียล่าแทนที่จะเป็นแทมเพียเวลผู้ใจดี เนื่องจากคนใจดีตอนนี้กำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจสุดจะบรรยายเป็นคำพูดได้

     

    ปีนี้มีเด็กพิเศษเข้าหอฉันถึง 3 คน 3 คน เย้!”แทมเพียเวลร้องออกมาเป็นเพลงชวนเพราะเสนาะหู แต่มันกลับไม่เพราะสำรับคนสองคนที่ตอนนี้นั่งลงไปกองกับพื้นหญ้าเรียบร้อยแล้ว

     

    ไม่จริงน่า ไม่จริงมาเวียล่าพึมพำเหมือนคนเหม่อลอย ไร้ซึ้งสติสัมปชัญญะอีกต่อไป

     

    อย่าเสียใจไปเลย วันนี้ข้าเป็นเจ้ามือเลี้ยงที่ร้าน ซุลตี ก็ได้แทมเพียเวลเอ่ยปากเชิญชวนแกมปลอบใจ

     

    เจ้าเลี้ยงแน่นะมาเวียล่ารีบลุกขึ้นมาทันที ทำตาลุกวาวเมื่อได้ยินคำว่า ร้านซุลตี สุดอร่อยร้านนั้น

     

    อืม...เนื่องจากมีเด็กพิเศษมาอยู่หอข้าถึง 3 คนแทมเพียเวลเน้นย้ำจุดประสงค์ของตนพร้อมกับยืดตัวขึ้นเดินไปยังบริเวณที่ตนเคยเป็นหินมาก่อน ออกมาข้างนอกนานๆนี่ไม่ดีเลยนะเนี่ย

     

    ปีนี้ไม่ดีเลยสักนิดมาเวียล่าพึมพำด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดในเหตุการณ์แล้วเดินไปตามแทมเพียเวล

     

    บ่นไปก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อเด็กๆเขาเลือกอนาคตของพวกเขาเองว่าจะอยู่หอไหนโอลิเคียปลอบใจเพื่อนสาว เธอยืดตัวขึ้น เชิดคอ และออกเดินจากไปสมทบกับเพื่อนทั้งสองบ้าง

    ลาก่อนโฮลิเดียส ถ้าปีต่อๆไปมีเด็กอีกเราอาจจะได้พบกันอีกแทมเพียเวลกล่าวลา แล้วร่างของทั้งสามก็มีแสงสีขาวนวลเรืองรองออกมาจากทั่วร่างกาย มันค่อยๆสว่างขึ้นๆๆจนทุกคนต้องนำแขนมาป้องแสงแดดนั่นไว้ ไม่นานแสงนั้นก็จางลงให้ทุกคนได้เห็นว่า ร่างของหญิงสาวทั้งสามได้กลับกลายเป็นหินดังเดิม กลิ่นหอมทั้งสามกลิ่นได้จางหายไป ความเงียบสงบของสวนได้กลับมาอีกครั้ง เสียงนกร้องเริ่มขับขานประสานเสียงกับเสียงใบไม้บนต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศก่อนหน้านี้ทั้งหมดถูกได้ดึงกลับมาให้ทุกคนได้สัมผัสอีกครั้ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×