คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ฉากที่5 วิชาศาสตราวุธ 75%
ผ่านไป3นาทีแต่กลับเหมือนผ่านไปสัก3ชั่วโมงได้ โอเชียน่าเริ่มไม่มั่นใจเสียแล้วว่าอาวุธของเธอคงจะไม่มีละมั้ง แต่นั่นก็ทำให้เธอผิดหวังเนื่องจากมีสัมผัสของสิ่งใดสิ่งหนึ่งทาบทับลงมาบนมือเรียวของเธอ เธอปรือเปลือกตาขึ้นมองดูสิ่งนั้นด้วยความสงสัย แต่ก็พบเพียงแสงสว่างสีทองอร่ามสว่างเรืองรองอยู่รอบมือของเธอเท่านั้น! คราวนี้เธอเบิกนัยน์ตากว้างขึ้นแล้วเพ่งมามันอย่างตื่นตะลึง ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างเงียบลงไปอย่างสงัด เสียงพูดคุยของเพื่อนๆเงียบหายไปหมด ไม่เว้นแม้แต่เสียงใบไม้กระทบใบไม้ด้วยกันเพราะลมก็หายไป ทางฟ้าอึ่มครึมลงอย่างประหลาด ลมจากที่ใดที่หนึ่งโหมกระหน่ำพัดใส่เธอไม่ยั้งจนผมสีดำสนิทปลิวกระจายไปตามกระแสลม มันแรงมากจนทำให้หนังยางที่รัดเปียผมเอาไว้เลื่อนออกไปจากผมแล้วหายไป เมื่อไม่มีสิ่งใดมารั้งผมเอาไว้มันจึงกระจายตัวออกกลายเป็นผมหยิกปลาย
‘เจ้านายแห่งข้า ท่านกลับมาแล้ว ตามคำสัญญา’เสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งดังก้องอยู่ในสมองของโอเชียน่า เธอหันไปมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง ตอนนี้เหลือเพียงเธอเท่านั้นที่ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดและกระแสลมแรง แต่สายตาก็เธอก็ไปสะดุดกับแสงสีทองอีกสี มันสว่างขึ้นมากลางหมู่ต้นไม้ใหญ่แล้วค่อยๆจางหายไป ปรากฏถึงเด็กชายคนหนึ่งผู้แต่งตัวด้วยชุดสีฟ้าใสประดับด้วยทองมากมาย แต่บริเวณที่เด็กชายยืนอยู่นั้นลมกลับสงบลงอย่างประหลาด ผิดกับบริเวณของเธอลิบลับ โอเชียน่ามองเด็กผู้ชายคนนั้นอย่างไม่วางตา มือเรียวพยายามป้องสายตาจากเส้นผมสีดำของเธออย่างอยากลำบาก เธอสังเกตเห็นว่าในมือของเด็กชายคนนั้นมีพิณทองคำอยู่ในมือเล็กๆของเขา
‘เจ้านายแห่งข้า ท่านกลับมา ตามคำสัญญา’โอเชียน่ารู้แล้วว่าใครเป็นคนกล่าวประโยคนี้ เธอจ้องเข้าไปในดวงตาของเด็กชายราวกับหาอะไรบางอย่างแต่ไม่เจอมัน
“ใครคือเจ้านาย แล้วนายเป็นใคร”โอเชียน่าตะโกนถามแข่งกับสายลมนั้น
เด็กชายคนนั้นไม่ตอบ แต่กลับยกพิณขึ้นมาบรรเลงเพลงๆหนึ่งให้เธอฟังแทน เสียงเพลงนั้นทั้งเศร้าและอ่อนหวานคละเคล้ากันไป เธอฟังมันแล้วเริ่มเคลิบเคลิ้มไปตามเสียงเพลงนั้น
‘เจ้านายแห่งข้า นี่คือของขวัญ ที่ท่านกลับมา ตามคำสัญญา’สิ้นเสียงของเด็กชาย เสียงพิณก็หยุดลงพร้อมกับแสงสว่างสีทองสว่างขึ้นรอบตัวของเด็กชายคนนั้นอีกครั้ง แล้วมันก็พุ่งมาหาเธอโดยทันที โอเชียน่ายังไม่ทันตั้งตัวเลยปะทะกับแรงนั้นกลางลำตัวอย่างแรง
“อุ๊ก!”โอเชียน่าครางในลำคอแล้วงอตัวลงไปกับพื้น เธอหลับตาลงเพราะซึมซับความเจ็บปวดนั้นเข้าไปเต็มๆ เธอจึงได้ยินแค่เสียงลมนั้นเบาบางลงพร้อมกับเสียงต่างๆค่อยๆชัดเจนขึ้นในประสาทรับรู้ของเธอ
“โอเชียน่าจังจ๊ะ โอเชียน่าจัง”เสียงของเวเทอร์เรียกสายตาเย็นของโอเชียน่าให้ค่อยๆปรือขึ้นมาจากความมืดมิดนั้น
“ง่วงก็ไปนอนสิจ๊ะ ไม่ใช่มายืนหลับแบบนี้ แล้วผมไปทำอะไรมาจ๊ะ ถึงได้ปล่อยกระเซอะกระเซิงแบบนั้น”เวเทอร์ต่อว่า
โอเชียน่าขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นปมสวยงามสงสัยในคำพูดของเพื่อนของเธอ เธอเอื้อมมือไปจับเส้นผมสีดำขลับก็พบว่ามันถูกปล่อยยาวไปจนถึงกลางหลัง และผมที่เคยตรงของเธอก็กลับกายเป็นหยิกปลายเหมือนแม่อย่างสวยงาม จากนั้นเธอก็หันไปมองรอบๆตัวก็พบกับเพื่อนๆของเธอ ทุกคนก็ยังคงขะมักเขม้นนึกถึงรูปร่างของอาวุธ ส่วนบางคนก็เริ่มฝึกซ้อมแล้ว
แสดงว่าเมื่อกี้เธอคงฝันไป...โอเชียน่าปลอบใจของตนพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่...ผมของเธอทำไมถึงถูกปล่อยเหมือนในฝันได้นะ แล้วความคิดนั้นก็หายไปเมื่อเธอสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างในมือซีดเรียวของเวเทอร์
“นั่นอะไรหรอเวเทอร์...”โอเชียน่าอดถามถึงเจ้าสิ่งนั้นไม่ได้ เพราะมันไม่น่าจะเป็นอาวุธได้เลยในสายตาของเธอ
“เออ่...”เวเทอร์อ้ำอึ้งแล้วยกกังหันลมเด็กเล่นขึ้นมาดู มันเป็นกังหันลมที่ทำมาจากกระดาษแข็งสีชมพูประกอบติดกับหลอดกาแฟ จึงดูน่ารักไปอีกแบบ
“อาวุธของฉันนะจ๊ะ”เวเทอร์ตอบพลางยิ้มแห้งๆให้
“ไม่เชื่อก็ดูนะ”เวเทอร์บอกก่อนหันไปหาแป้นเป้าธนูมากมายที่อยู่ล้อมรอบตัวพวกเธอเอาไว้ โอเชียน่าเพิ่งรู้เองว่าสถานที่รอบๆของเธอได้ถูกเปลี่ยนเป็นสนามฝึกอาวุธของเวเทอร์ไว้เรียบร้อยแล้ว
เธอมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกดทับที่ปลายเท้าของเธอ แต่เมื่อเธอก้มลงมองดูเจ้าสิ่งนั้นนัยน์ตาก็พลันเบิกกว้างอย่างตกใจ
นี่มัน...พิณทองคำ! พิณที่เด็กคนนั้นเล่นเพลงนี่! โอเชียน่าอุทานขึ้นในใจแล้วก้มลงเก็บมันขึ้นมาดู ก็พบกับสิ่งผิดปกติของพิณ มันเหมือนพิณที่เด็กชายคนนั้นเล่นเว้นแต่ว่า ด้านหน้าของมันมีรูปปั้นนูนสูงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งกำลังเป่าหอยสังค์บนคลื่นน้ำอันสวยงาม เธอมองมันอย่างไม่เชื่อใจตนเอง แสดงว่าเมื่อกี้เธอไม่ได้ฝันไป! และนี่คงเป็นอาวุธของเธอ!!! อาวุธที่ใช้บรรเลงเหมือนเด็กผู้ชายคนนั้นทำ!!!! ที่เด็กผู้ชายเล่นให้ดูก็เพื่อให้เธอรู้ว่ามันใช้ยังไง!
“โอเชียน่าจาง!!! ดูอยู่รึเปล่าจ๊ะ!”เวเทอร์ตะโกนเรียกถาม โอเชียน่าจึงหันไปสนใจทางนั้นแทนพิณทองคำในมือของเธอ
เธอพยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบให้เวเทอร์ว่าเธอกำลังมองเพื่อนสนิทของเธออยู่
“คงจำได้นะว่าฉันควบคุมลมได้ คอยดูนะ อาวุธนี่น่ารักแต่เผ็ดพริกขี้หนูเชียวละ”เวเทอร์พึมพำกับตัวเอง แล้วปล่อยกังหันลมให้ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ เรื่องทำให้สิ่งของลอยนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเวเทอร์ เพราะเธอคนนี้สามารถนำลมส่วนหนึ่งให้ช่วยพยุงสิ่งของให้ลอย จากนั้นเธอก็ค่อยๆรวบรวมสมาธิเพ่งไปหากังหันลม! ใบพัดสีชมพูค่อยๆหมุนขึ้นเพราะลมพัดด้วยคำสั่งของเจ้าของกังหัน! แต่อีกด้านหนึ่งของกังหันลมนั้นก็ปรากฏถึงบางสิ่งบางอย่าง! บางสิ่งบางอย่างที่เรียกนัยน์ตาสองสีของโอเชียน่าให้เบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง!
พายุขนาดย่อมค่อยๆก่อตัวขึ้นอีกด้านหนึ่งของกังหันลม มันพุ่งเข้าใส่เป้าธนูด้วยความเร็วสูงและพละกำลังมหาสารที่พายุควรจะมี พริบตาเดียวแป้นหนึ่งของเป้าธนูก็พังลงลาบเรียบเป็นหน้ากลอง!
“เป็นไงจ๊ะ! อาวุธของฉัน!”เวเทอร์ตะโกนอย่างดีใจมาให้โอเชียน่าที่กำลังยืนอึ้งอยู่อีกด้านหนึ่ง เธอหยิบอาวุธของตนแล้ววิ่งไปหา แต่ไม่ทันไรเพียงไม่กี่ก้าวเวเทอร์ก็ล้มลงไป สร้างความตื่นตกใจให้แก่โอเชียน่า เธอเลยรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของเพื่อนทันที
“เป็นอะไรรึเปล่า...”โอเชียน่าเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงพร้อมกับพยุงร่างของเพื่อนสาวขึ้นมาเพื่อพาไปพักผ่อนใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่
“เหนื่อยมากเลยละจ๊ะ”เวเทอร์กล่าวขึ้นมาแบบช่วงเว้นช่วง แสดงถึงว่าเจ้าตัวนั้นเหนื่อยหอบมาก ราวกับไปวิ่งทางไกลมาอย่างไรอย่างนั้น โอเชียน่ามองอาการของเพื่อนพักหนึ่งก่อนตวัดสายตาไปหาผู้มาใหม่ซึ่งส่งเสียงมาแต่ไกล
“ไงๆโอเชียน่าๆ เวเทอร์ด้วยๆ”ไดโอนิซิสวิ่งเข้ามาหาสองสาวด้วยความร่าเริงเฉกเช่นปกติ แล้วหยุดมองดูเวเทอร์ผู้เหนื่อยหอบอย่างสงสัย
“เวเทอร์เขาเหนื่อยจากการใช้อาวุธน่ะ...”โอเชียน่าชิงตอบก่อนที่ไดโอนิซิสจะถาม เลยทำให้คนตัวเล็กหน้ายู่ลงไปเล็กน้อยเมื่อถูกคนรู้ทัน แล้วก็ปรับสีหน้าให้เป็นร่าเริงอีกครั้งอย่างคนอารมณ์ดี
“นี่ๆ รู้เปล่าๆ อาวุธของไดโอนิซิสแจ๋วจะบอกให้นา”คนตัวเล็กเอ่ยบอกเพื่อนๆพร้อมกับหยิบบางสิ่งบางอย่างซึ่งมีลักษณะเรียวเล็กออกมาโชว์ให้ดู
“นี่นะๆ เป็นเข็มฉีดยาที่ดีที่สุดมากๆเลยละ”ไดโอนิซิสคุยโวท่ามกลางสายตาอึ้งของโอเชียน่า แต่ละอาวุธของเพื่อนเธอนั้นแปลกๆทั้งนั้นเลยแหะ
“ไม่เชื่อหรอๆจะแสดงให้ดูก็ได้นะ!”ไดโอนิซิสเอ่ยบอกแล้ววิ่งไปกลางสนามฝึกของเวทอร์ทันที โดยที่ไม่ฟังเสียงคัดค้านใดๆของโอเชียน่าเลยแม้แต่น้อย
“บิ บิ บิง บิง!”ไดโอนิซิสตะโกนขึ้นพร้อมกับขนาดของเข็มฉีดยาจะขยายตัวใหญ่ขึ้นตามจังหวะเสียงของเจ้าของ
ไดโอนิซิสนำนิ้วโป้งไปป้ายจมูกของตนเองเพื่อเรียกความมั่นใจเล็กน้อย ก่อนจะกระโดดตัวสูงขึ้นแล้วเหวี่ยงเข็มฉีดยาขนาดใหญ่ยักษ์ไปรอบตัวพร้อมกับเข็มขนาดใหญ่ที่กระจายตัวออกมาเป็นห่าฝนออกมาจากรูเข็ม ไปกระทบกับเป้าทุกเป้ารอบตัวอย่างแม่นยำ
“เป็นไงๆ”ไดโอนิซิสเอ่ยขึ้นมาถามเพื่อนทันทีที่ตนเองลอยตัวมาอยู่บนพื้นเรียบร้อย “พริบตาเดียวทุกเป้าๆ เจ๋งเป้ง!”
ไดโอนิซิสครางในลำคอแล้วนำเข็มฉีดยาขนาดยักษ์มาพยุงร่างอันอ่อนปวกเปียกของตนเอง โอเชียน่าเลยรีบวิ่งไปดูอาการของไดโอนิซิสทันทีด้วยความเป็นห่วง
“ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง...”นี่คือคำแรกที่โอเชียน่าพูดขึ้นเมื่อไปถึงตัวเพื่อนตัวเล็ก เพื่อนตัวเล็กเลยส่งสายตาดุมาให้ทั้งๆที่ตัวเองยังคงหอบและเหงื่อออกมาก คนมาช่วยจึงหันไปมองรอบๆตัวก็พบว่าเพื่อนๆร่วมชั้นของเธอเริ่มมีอาการเหนื่อยหอบเหมือนเพื่อนสนิททั้งสองของเธอ
“คราวนี้ตาฉันลองดูอาวุธมั่ง...”โอเชียน่าบอกเพื่อนทั้งสองคนเมื่อหาไดโอนิซิสมาพักผ่อนใต้เงาไม้คนที่สอง จากนั้นเธอก็คว้าพิณทองคำซึ่งวางอยู่ข้างเวเทอร์ไปด้วย เธอพอจะจับอะไรบางอย่างได้แล้วถ้าเธอใช้อาวุธเธอก็จะถูกดูดพลังเพื่อใช้เป็นการแสดงอนานุภาพของอาวุธ แต่ความอยากรู้อยากลองก็ทำให้เธอตัดสินใจจะใช้มัน
ขอสนามฝึกเจ้าพิณทองคำนี่ให้ฉันเถอะนะ...โอเชียน่ากล่าวขึ้นในใจซ้ำไปซ้ำมาเช่นนี้อยู่หลายครั้งจนครบ3นาที พื้นดินรอบตัวเลยเริ่มมีการสั่นสะเทือนเพื่อเปลี่ยนแปลง รอยร้าวเริ่มปริแตกโดยมีโอเชียน่าเป็นศูนย์กลาง เธอมองรอบตัวอย่างตื่นตะลึงไปพลางทรงตัวของตนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แผ่นดินสีน้ำตาล ผืนหญ้าสีเขียวเริ่มจมลงไปตามรอยแยกโดยมีน้ำสีฟ้าใสขึ้นมาแทนที่ บริเวณเดียวที่ยังคงความเป็นผืนเดียวไว้ได้คือรอบตัวของโอเชียน่าเท่านั้น แต่ไม่นานผืนดินตรงนั้นก็ยกตัวสูงขึ้นมาทำให้โอเชียน่าต้องหมอบลงไปเพื่อกันตัวเองไม่ให้ตกลงไปยังแอ่งน้ำรอบตัว ดินค่อยๆสลายกลายเป็นทรายตกลงไปยังผืนน้ำเผยให้เห็นก้อนหินสีเทาขนาดยักษ์ตั้งเด่นเป็นสง่าแทน
ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งลงเมื่อมันเตรียมพื้นที่ให้ฝึกอาวุธเรียบร้อย โอเชียน่าจึงค่อยๆยืนขึ้นมาบนแท่นหินขรุขระและนั่งลงไป รองเท้านักเรียนสีน้ำตาลไกล่เกลี่ยพื้นน้ำพอดี ภาพของเธอสะท้อนบนผืนน้ำใสเธอจึงยิ้มให้กับภาพนั้นเล็กน้อยก่อนจะหยิบพิณทองคำขึ้นมาดูอีกครั้ง พบว่ามีการ์ดสีเหลืองกรอบเนื่องจากผ่านกาลเวลามายาวนานห้อยออกมาจากพิณทองคำ เธอเลยหยิบมันขึ้นมาอ่านอย่างสงสัย ดีที่มันเขียนด้วยภาษาอังกฤษ
ความคิดเห็น