ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Angel of Death] พวกเรา คือ ยมทูต!!

    ลำดับตอนที่ #5 : ดวงวิญญาณที่ 2 [ เด็กน้อยหลงทาง ]

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 50


    บทที่ 4

                "ไปนั่งคุยกันตรงม้านั่งก่อนดีไหมจ๊ะ" เด็กสาวถามเสียงนุ่ม   มือหนึ่งคว้าชายเสื้อของคนที่นั่งอึ้งอยู่บนพื้น   มือหนึ่งจูงเด็กที่ร้องไห้ให้ไปนั่งด้วยกันบนม้านั่งรอบลาน   แล้วคนช่างเจรจาเมื่อเช้าก็รีบโวยวายเมื่อตนเห็นภาพของเด็กน้อย

                    "เฮ้ย!!" เสียงดังพอจะทำให้นกรอบลานบินขึ้นด้วยความตกใจ   และโนเอลเองก็ปล่อยชายเสื้อเรเดียสทันที   เด็กสาวนิ่วหน้าแล้วหันไปมองเป็นเชิงถามว่ามีอะไร?   เรเดียสเม้มปากก่อนจะกลั้นใจคว้ามือโนเอลมาถือไว้

                    แล้วภาพเด็กน้อยร้องไห้ก็เข้ามาในคลองจักษุ...

                    และเมื่อเขาปล่อยมือ   ภาพนั้นก็หายไป   มันทำให้เขาตัดสินใจได้ว่า   ไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวโนเอลอีกต่อไป!!

                "หลงทาง?" เด็กสาวผมแดงเอ่ยทวน   ส่วนเด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้า

                    "วันนั้นหนูมาเดินเล่นกับคุณแม่   แล้วทีนี้...   พวกเราก็พลัดหลงกัน"

                    "แล้วคุณแม่ไม่ตามหาเหรอ?" โนเอลพึมพำเบาๆ   แต่วิญญาณเด็กหญิงได้ยิน   เธอส่ายหน้าอย่างเศร้าใจ   ดวงตากลมโตเคลือบไปด้วยน้ำตาบางๆ   ก่อนจะหยดแหมะลงมาเมื่อเด็กสาวเริ่มระบาย

                    "หนูเฝ้าตามหาแม่มาตั้งหลายปี...   เดินวนเวียนอยู่ตรงนี้ไม่รู้ตั้งกี่รอบ   จะร้องเรียกใครให้ช่วยตามหา..   ก็ไม่มีใครได้ยินหนูเลย ฮึก.." วิญญาณบางใสสะอื้น   เรเดียสที่ถูกโนเอลกำข้อมือแน่นก็เปิดเปลือกตาขึ้นแล้วมองเด็กหญิงตรงๆเป็นครั้งแรก  

                    เด็กน้อยคนนี้น่าสงสาร   เธอคงรู้สึกเหมือนตนเองอยู่คนเดียวในโลก   ไม่ว่าจะร้องเรียกใคร   หรือมองไปทางไหน   ก็ไม่มีใครเห็น   ไม่มีใครได้ยิน  

                    "พวกพี่จะช่วยตามหาแม่ให้หนูนะ" เด็กหนุ่มพูด   เขายิ้มท่ามกลางความประหลาดใจของโนเอล ก่อนลองถามวิญญาณบางใส   "ดีไหมครับ?"

                    เด็กน้อยพยักหน้าเบาๆ   เธอยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตา   "ขอบคุณนะคะ.. ขอบคุณค่ะ"

                "บ้านเราอยู่ไหนเหรอ พราย?" เรเดียสถาม   เขาถามชื่อของพรายแล้วก็แม่มาแล้ว   เหลือแค่ว่าบ้านอยู่ที่ไหน?

                    "..." เด็กน้อยนิ่งไป   โนเอลจึงทวนคำถามเรเดียส   "หนู... หนูจำไม่ได้"

                    "อ่า..?" คนทั้งสองมองหน้ากัน   ใบหน้าหล่อเหลาครุ่นคิด   ส่วนใบหน้าหวานเหลือบลงมองมือใหญ่ของคนข้างตัวที่ถือวิสาสะคว้ามือเรียวไปจับไว้   โนเอลย่นหน้าก่อนเสนอความคิดเห็น

                    "นึกไม่ออกก็ไม่เป็นไร   บางทีบ้านพรายอาจจะอยู่แถวนี้ก็ได้   ยังไงเราลองเดินหาไปเรื่อยๆก่อนดีไหม?"

                    พรายพยักหน้า   เด็กหญิงวัยหกขวบยิ้มให้กับพี่ๆทั้งสอง   ไม่ใช่การแค่นยิ้มหรือการยิ้มเศร้าอย่างที่เคย   แต่เป็นยิ้มของคนที่มีความหวังและความสุข   จากนั้นวิญญาณน้อยจึงชวนคุยอย่างเริงร่า

                    พรายเป็นเด็กร่าเริงแล้วก็ช่างพูด   ไม่แปลกเลยที่ทั้งโนเอลแล้วก็เรเดียสจะรู้สึกเอ็นดู   เวลาเดินผ่านไปอย่างเชื่องช้า   พวกเขาเดินหาไปจนทั่วละแวกนั้น   แต่เด็กน้อยก็ส่ายหน้า   ไม่มีหลังใดเป็นบ้านของเธอเลย  

                    "เฮ้อ..." โนเอลถอนหายใจเฮือกใหญ่   มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้า   ยังดีที่ปลายปีนี้อากาศเย็นกว่าทุกครั้ง   แสงแดดร้อนแรงจึงไม่ได้ทำให้ทั้งสองรู้สึกร้อนอะไรมากมาย  

                    "พี่สาว.." พรายร้องเรียก   "หนูไม่รีบร้อนหรอก   บ้านพี่สาวอยู่ไหนล่ะ   เรากลับไปพักก่อนก็ได้นะคะ" เด็กน้อยเสนอ   พี่สาว พี่ชายมองหน้ากันเหมือนจะปรึกษา   เรเดียสพยักหน้า

                    "กลับไปตั้งหลักก่อนเหอะ   แถวนี้เราหาหมดแล้วนี่"

                    "อืม.. เอางั้นก็ได้"  เธอรับคำ  ทั้งสามหันหลังเดินกลับไปยังร้านคาเฟ่อันเป็นที่พักอาศัยโดยไม่ได้รู้เลยว่า  ดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องมาที่คนทั้งสองอย่างงุนงงแต่แฝงความอาฆาต

                    "ไม่ต้องซึมน่า พราย  เดี๋ยวก็หาเจอ" เด็กหนุ่มปลอบใจ  เขาอยู่อยู่หน้าร้านกาแฟ  รอให้โนเอลไข

    กุญแจเข้าไปอย่างทุลักทุเล  เด็กสาวนิ่วหน้า  บ่นอุบอิบเพราะคนข้างตัวยืนยันไม่ยอมปล่อยมือเธอ  จะดึงออกคนตรงหน้าก็ยึดไว้แน่นเสียเหลือเกิน  การไขกุญแจที่เป็นเรื่องง่ายจึงยากกว่าเดิมเยอะ

                    ก่อนหน้านี้ก็กลัวพรายซะโอเว่อ  ไม่อยากเห็น  ทีตอนนี้ล่ะไม่ยอมปล่อยแม้แต่เสี้ยวนาที  เด็กสาวทำเสียง หึ อย่างจงใจให้คนข้างๆได้ยิน  เด็กหนุ่มอมยิ้มเล็กๆแต่ก็ยังไม่หันไปทางโนเอล 

                    แกล้งโนเอลสนุกดี

                    "เข้าบ้านได้แล้วค่ะ!" เด็กสาวว่า พลางเดินนำเข้าไป

                    "ครับผม" คนผมดำเดินตาม  พร้อมรอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้า ปิดท้ายด้วยวิญญาณร่างโปร่งแสง

                    "โอ้โห  ร้านนี้น่ารักจังเลยค่ะ  นี่บ้านพี่สาวเหรอ" พรายชม  เด็กน้อยลอยวนไปทั่วร้าน  เจ้าของบ้านยิ้มรับคำชมก่อนจะพยักหน้า

                    "จะทานอะไรก่อนมะ..." โนเอลหยุดถามกลางคันเพราะนึกได้ว่าพรายเป็นวิญญาณ  ทานอะไรไม่ได้  แต่คนที่จับมือเธออยู่กลับยิ้มร่าแล้วดึงเธอไปทางห้องครัว

                    "ผมอยากกินคุกกี้จัง"  เมื่อผ่านเข้าประตูได้ครึ่งตัวเรเดียสก็ชะโงกหน้าออกมาร้องเรียกพราย "พราย!  เข้ามาดูพี่สาวทำคุกกี้เร็ว"

                    "อะไรนะ!!" โนเอลอุทานเมื่อเรเดียสบอกว่าไม่อยากพลาดรอยยิ้มของพราย จึงไม่ยอมปล่อยมือ   "แล้วจะทำคุกกี้ได้ยังไงล่ะ?" เธอใช้มือข้างที่เหลือท้าวเอาถาม  เรเดียสยิ้มแห้งๆก่อนรีบเสนอ

                    "ให้ผมช่วยไงครับ  ผมว่าผมพอทำได้นา" ข้อเสนอที่โนเอลต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความปลง 

                    "ตามใจ"  แล้วเธอก็ขยับไปเตรียมอุปกรณ์  ไม่นานนักก็เตรียมทุกอย่างเรียบร้อย  พรายร่อนลงมามองใกล้ๆด้วยความสนใจ  นัยน์ตาพราวระยับ

                    "เรเดียสใช้เตาเป็นไหม?" เด็กสาวผมแดงถามเพราะเห็นว่าเรเดียสอยู่ใกล้เตามากกว่าเธอ  คนถูกถามพยักหน้า 

    "คิดว่าเป็นนะ" ถ้ามันคล้ายกับไมโครเวฟล่ะก็..  เรเดียสคิดว่าตนคุ้นกับการทำอาหารหรือขนมอย่างน่าประหลาด  บางที..  เขาอาจจะเปิดคาเฟ่อยู่ที่ไหนสักแห่งเหมือนโนเอลเป็นก็ได้

                    "งั้นก็วอร์มเตาให้ทีสิ "

                    "อ่า.. ครับผม" เสียงกุกกักดังขึ้นนิดหน่อยในขณะที่โนเอลหันไปร่อนแป้งกับผงฟูโดยมีพรายมองตามอย่างสนอกสนใจ  แล้วเสียงจากคนที่โนเอลลงความเห็นว่าเป็นตัวยุ่งอย่างแท้จริงก็ดังขึ้น

                    "โนเอลคร้าบ~  ผมวอร์มเตาไม่เป็น " เสียงหัวเราะคิกคักดังจากวิญญาณดวงน้อย

    เขาคิดผิดไป  จริงๆแล้วเขาคงเปิดร้านคาเฟ่ไม่ได้หรอก TwT

                    "......" เจ้าของเรือนผมสีดำประกายม่วงยิ้มแหยๆให้คนที่ตนจับมืออยู่  ก่อนที่ร่างสูงจะกระตุกอย่างแรงจนโนเอลตกใจ 

                    "เรเดียส / พี่ชาย!!" สตรีทั้งสองอุทานอย่างตกใจเมื่อเจ้าของชื่อทรุดลงไปที่พื้น  ใบหน้าหล่อเหลาเหยเก  ท่าทางของเรเดียสบ่งให้พวกเธอรู้ว่าเขารู้สึกทรมานมากเพียงใด  รอยยิ้มที่เคยมีแห้งหาย  แทนที่ด้วยอาการกัดฟันกรอด  แล้วแสงจ้าก็เปล่งประกายจากตัวเรเดียส  แสบตาเสียจนทั้งวิญญาณทั้งคนต้องหลับตาแน่น

                    ออนหยุดอยู่ ณ หน้าประตู  เขาใช้นัยน์ตาสีอำพันมองภาพตรงหน้าอย่างใจเย็น 

                    สลับวิญญาณครั้งแรกๆ ก็เช่นนี้แหละ...

                    "พี่ชาย... หายไปไหนแล้ว!?" พรายพึมพำกับตนเมื่อเห็นร่างที่อยู่ตรงหน้า  ร่างเด็กหนุ่มหายไป  แทนที่ด้วยร่างเพรียวของหญิงสาวผมดำที่บัดนี้ค่อยๆลุกขึ้น  ใบหน้าเรียบเฉยไม่ส่ออารมณ์กลับมีแววประหลาดใจ  ซาเฟียร์กวาดสายตาไปทั่วอย่างเคยชิน  และจุดหมายปลายทางของสายตาก็หยุดอยู่ที่พราย

                    วิญญาณบางใสกระตุกก่อนที่ดวงตาของพรายจะเลื่อนลอย  อดีตที่เธอลืมเลือนไปผ่านเข้ามาเหมือนละครที่ไร้เสียง  และเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ  นัยน์ตาสีดำสนิทของซาเฟียร์เรืองแสงเพื่อเข้าไปเป็นผู้ชมภาพเหล่านั้น  ออนมัวแต่ยิ้มอย่างพึงใจ  เพราะวิญญาณดวงที่สองใกล้จะได้รับการปลดปล่อยจากห่วง  แมวดำไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่านอกจากซาเฟียร์แล้ว  เด็กสาวอีกคนเองก็มีดวงตาที่เรืองแสงเช่นกัน

    .

    .

    .

    .

    .

                    พรายนิ่งงันในสิ่งที่ตนเห็น  ภาพของแม่ชัดเจนเหลือเกิน  เธอเห็นพ่อของเธอด้วย  ตอนที่พ่อยังไม่ได้เป็นประธานบริษัทและมีเวลาว่างให้ครอบครัวมากมาย  พ่อของเธอมีผมสีดำเช่นเดียวกับแม่ที่กำลังป้อนข้าวตัวเธอซึ่งเป็นทารก  เด็กน้อยคนนั้นหัวเราะเอิ้กอ๊ากอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นบิดามาหยอกล้อเล่นด้วย     

                    โตขึ้นมาอีกหน่อย  แม่เล่นตุ๊กตากับเธอ  ในขณะที่พ่อสอนให้เธออ่านหนังสือ  -  ภาพที่ครอบครัวนั่งรถไปเที่ยว  -  ภาพที่แม่จูงมือเธอเดินเล่นในสวนสาธารณะแสนคุ้นตา  ที่ๆเธอวนเวียนอยู่ตลอดปีครึ่ง  และร้องเรียกหาใครสักคนที่สามารถเห็นเธอ  -  แม่ผละจากเธอไปหลังพูดอะไรบางอย่างที่พรายพยักหน้ารับ  แต่ไม่ได้สนใจจะฟัง  เด็กน้อยวัยหกปีมองลูกนกสีขาวที่บินมาหยุดใกล้ๆเธอ  เมื่อผู้ชายคนหนึ่งเดินเฉียดไปใกล้ๆมัน  นกตัวนั้นก็โผบินออกไป  พรายยิ้มร่าแล้ววิ่งตาม  แล้วความรู้สึกเหมือนถูกของหนักกระแทกแรงๆก็พุ่งผ่าน!   ร่างปวกเปียกกระเด็นไปไกล  เหลือไว้ก็แต่  วิญญาณที่ยังวิ่งไล่ตามลูกนกตัวจ้อยอย่างไม่รู้ร้อนนั่นเอง...

                    งั้นเหรอ... ที่ไม่มีใครเห็นเธอ  ที่ไม่มีใครได้ยิน  เพราะเธอตายแล้วนี่เอง

                    เธอตายแล้ว.... ฮะๆ

                    "พราย..." โนเอลเรียกเสียงแผ่ว  ตัวเธอยังไม่เข้าใจนักว่าทำไมถึงได้เห็นภาพเหล่านั้นแต่ไม่ใช่เวลาจะมาสนใจ  วิญญาณตัวน้อยตรงหน้าต่างหาก  ที่สมควรได้รับการช่วยเหลือเสียที  ใบหน้าของพรายเต็มไปด้วยความทุกข์  เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินมาลูบหัวอย่างแผ่วเบา

                    "หนูอยากเจอแม่..." หญิงสาวผมดำพยักหน้ารับ  ก่อนจะเอ่ยคำสัญญา

                    "เธอจะได้เจอแม่  พราย..." ซาเฟียร์หยุดมือที่ลูบศีรษะวิญญาณ  เธอจับข้อมือพรายแล้วกระโดดขึ้นเหยียบย่ำอากาศอย่างแผ่วเบา  ร่างบางใสลอยตามยมทูตสาวไปเพราะการเกาะกุมที่ข้อมือ  โนเอลเผลออ้าปากน้อยๆเมื่อเห็นทั้งสองทะลุกำแพงบ้านเธอออกไป

                    อย่างไรก็ไม่ชิน....

                    ตอนนี้ทั้งบ้านเหลือเพียงเด็กสาวกับแมวขี้หงุดหงิด  ดวงตาสีอำพันเหลือบมองเด็กสาว  มันหันหลังกลับ  โนเอลรู้ว่าออนต้องตามซาเฟียร์ไปแน่ๆ  เธอจึงร้องเรียกมันไว้

                    "เดี๋ยว!" มันทำเพียงเหลือบมองทางหางตาอย่างผู้เหนือกว่า  แต่โนเอลไม่สนใจกริยานี้  "ฉันไปด้วยได้ไหม?" เธอถาม

                    "… อยากไป  ก็ตามมา" เจ้าเหมียวแสยะยิ้มให้เด็กสาว

                    โนเอลยิ้มร่า  แต่วินาทีต่อมารอยยิ้มที่มีก็หายวูบไป เพราะเจ้าแมวดำเผ่นหายไปทางกำแพงเสียแล้ว 

                    "ให้ตาย!" เธอรีบวิ่งออกไปบ้านไปโดยไม่ได้ล็อคประตู  เธอคิดว่าออนจะไปโดยไม่รอ  แต่ผิดคาด  เจ้าแมวน้อยหยุดอยู่ที่หน้าบ้านเธอ  มันสะบัดหางไปมาพร้อมกับตวัดสายตามาหาเธอ

                    "ชักช้า" มันพูด  โนเอลเลิกคิ้ว  "ถ้าไปถึงเรื่องจบแล้ว  จะมาโทษกันไม่ได้นะ"

                    เด็กสาวเดินตามแมวดำที่เร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น  เธอมองไปยังจุดดำๆบนท้องฟ้า  เธอคิดว่านั่นคงจะเป็นซาเฟียร์  แสดงว่าบ้านของพรายไม่ได้อยู่ห่างไกลจากบ้านเธอมากนัก  เพียงแต่มันอยู่ทิศตรงข้ามกับสวนสาธารณะ  ทำให้พวกเธอหาไม่เจอ  โนเอลละสายตาจากจุดดำบนฟ้าแล้วหันมองหาออนที่เริ่มทิ้งระยะห่าง  เด็กสาวจึงรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น  แต่...

                    "โนเอล!!" เสียงกร้าวดังขึ้นพร้อมกับที่แขนเรียวถูกกระชากให้หันหลังกลับ  นัยน์ตาสีเขียวใสบ่งความตระหนกเมื่อเห็นคนตรงหน้า

                    ซาเฟียร์และพรายลองอยู่บนผืนฟ้า  ยมทูตสาวค่อยๆลดระดับลงมาเรื่อยๆ  จนกระทั่งหยุดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง  พรายที่ตอนนี้ดูเหม่อลอยมองเข้าไปข้างใน  มองห้องนั่งเล่นที่คุ้นเคยผ่านกระจกแผ่นใส  เด็กหญิงลอยเข้าไปใกล้เกือบจะชิดกระจกที่ขวางกั้น

                    หญิงสาวในชุดอยู่บ้านกำลังอุ้มเด็กทารกตัวน้อย  เธอคนนั้นขับกล่อมแผ่วเบา  ใบหน้าอ่อนโยนที่พรายโหยหามานาน  พรายยกมือขึ้นทาบกระจกแผ่นใหญ่ก่อนจะทะลุเข้าไปโดยไม่รู้ตัว 

                แม่ของเธออยู่ตรงนี้...  อยู่กับลูกคนใหม่....

                    เสียงเห่กล่อมแผ่วเบาที่เธอคุ้นเคยทำให้เด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของแม่เธอพล่อยหลับไป  หญิงสาววางเด็กน้อยลงบนเปลอย่างอ่อนโยน  นัยน์ตาสีดำสนิทที่แฝงความอาทรหนักหนาทำให้น้ำตาขึ้นมาคลอบนดวงตา  พรายไม่คิดว่าวิญญาณจะร้องไห้ได้  แต่มันก็เป็นไปแล้ว  เธอกัดริมฝีปากกลั้นเสียงสะอื้น 

                    แม่ของเธอนั่งลงเฝ้าเด็กน้อยในเปลไม่ห่าง  พรายลอยเข้าไปใกล้เด็กคนนั้น  น้ำใสๆไหลอาบแก้ม  เธอรู้ว่ามันไม่ดี  แต่ความอิจฉาก็พวยพุ่งขึ้นในจิตใจ 

                เธอเองก็อยากได้ความรักจากแม่แบบนี้เหมือนกัน

                "แม่..." วิญญาณบางใสส่งเสียงเรียก  "แม่จ๋า.. พรายอยู่ตรงนี้นะ"

                    แต่หญิงสาวก็ยังคงยิ้มพราย  จ้องหน้าทารกในเปลด้วยความรัก  ไม่ได้รู้เลยว่าลูกสาวอีกคนยืนมองด้วยความปวดใจ 

                "พรายอยู่ตรงนี้... หันมาหน่อยเถอะ  มองหนูหน่อยเถอะ...  คุณแม่ "


                    ซาเฟียร์มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเก็บงำความคิด  มนุษย์มักจะให้ความสำคัญกับครอบครัว  ทั้งโนเอลแล้วก็พราย   ต่างจากที่โลกวิญญาณ  คงเพราะที่นั่นไม่มีความสัมพันธ์แบบเครือญาติ  ยมทูตอย่างพวกเราถือกำเนิดจากต้นแบล็คซีด  และคัดเลือกผู้ครองจากประสบการณ์และความสามารถ  ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความผูกพัน

                    ยมทูตสาวเดินผ่านกระจกใสเข้าไป  มือเรียวข้างหนึ่งแตะวิญญาณดวงน้อย  และอีกข้างสัมผัสหน้าผากทารกในเปลแผ่วเบา  ริมฝีปากสีเรื่อพึมพำบางอย่างที่พรายไม่เข้าใจ  ก่อนที่ความรู้สึกทั้งหมดของพรายจะกระตุกวูบ

    .

    .

    .

    .

    .

                    เด็กน้อยในเปลบิดตัวก่อนแผดเสียงร้องไห้จ้า  คนเป็นแม่ผุดลุกขึ้นมาอุ้มลูกน้อยขึ้นจากเปล  หญิงสาวเอ่ยปลอบประโลมลูกชาย  แล้วเสียงจากเด็กน้อยก็ทำเธอแทบลมจับ

                    "แม่..." เด็กน้อยสะอื้น  เธอหยุดคำปลอบทั้งมวล  ลูกชายเธอเด็กเกินกว่าจะสามารถพูดได้  ก่อนที่หญิงสาวจะหายตกใจ  เสียงใสที่เคยได้ยินทุกวันก็เอ่ยขึ้นอีก

                    "พรายรักแม่นะคะ" ดวงตาใสๆของลูกชายที่จ้องมาทำให้เธอนึกถึงลูกน้อยที่จากไปเมื่อสองปีก่อน  หยาดน้ำใสขึ้นคลอหน่วยก่อนจะไหลรินลงบนหน้าผากเล็กของเด็กน้อย

                    พราย...

                    "แม่...  แม่ก็รักลูก  พราย..."

                    เมื่อซาเฟียร์พึมพำอีกครั้งก็เกิดแสงจ้าที่เธอเห็นเพียงคนเดียวเท่านั้น   แสงสีนวลตาพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า   วิญญาณที่ถูกซาเฟียร์สลับเมื่อครู่ก็กลับสู่สภาพเดิม  เด็กน้อยในอ้อมแขนมารดาหลับไปท่ามกลางเสียงสะอื้นและอ้อมกอดที่กระชับแน่น  วิญญาณของพรายลอยเข้าสู่ลำแสงนั้น  ดวงตาเป็นประกาย  เธอกระซิบแผ่วเบา

                    "ลาก่อนค่ะ.. คุณแม่"

                    เจ้าแมวดำตัวเดิมมองยมทูตในความดูแลนิ่ง  ซาเฟียร์ถอนสายตาจากหญิงสาวที่สะอึกสะอื้นไปสบกับดวงตาสีอำพันของออน

                    "เก่งมาก  ซาเฟียร์" เจ้าแมวดำเอ่ยชม  ซาเฟียร์ตวัดสายตามองท้องฟ้า  และลอยออกไปพร้อมกับสายลมแผ่วเบา  ก่อจะตามด้วยเจ้าแมวดำที่ไม่เคยห่างกาย

                    ในร้านกาแฟที่ยังไม่เปิดบริการ  เด็กสาวผมแดงนั่นอยู่บนเก้าอี้หลังเคาท์เตอร์   นึกหงุดหงิดกับออนเล็กๆที่ไม่ยอมรอเธอจริงๆ คิ้วเรียวสวยขยับเข้าหากันนิดๆเมื่อรู้สึกว่าตนเองเป็นเหมือนนักโทษที่ถูกสอบปากคำ

                    "เมื่อกี้เธอไปไหนมา?" เสียงทุ้มดูไม่สบอารมณ์   ชานนท์หรือที่เธอเรียกติดปากว่า นนท์ ถามขึ้น  เด็กหนุ่มสัญชาติไทยรู้จักกับเธอมานาน  นานพอที่โนเอลจะพูดคุยเล่นหัวได้เช่นเดียวกับลัดดา  แต่ระยะหลังดูเหมือนนนท์จะกลายเป็นคนขี้โมโหแล้วก็จู้จี้นิดหน่อย  เธอก็เลยเลี่ยงที่จะเจอหน้า  แน่ล่ะ  เธอไม่ชอบนักหรอกที่จะให้ใครสักคนมาทำหน้าเหมือนจะกินเธออยู่ตอดเวลา

                    "...ทำไมล่ะ" โนเอลถามกลับแทนคำตอบ  เธอตั้งใจเลี่ยง  เพราะเธอคงไม่สามารถบอกเขาได้ว่า เธอตามยมทูตไปเพราะอยากรู้ว่าวิญญาณที่เธอเจอเมื่อกลางวันเป็นยังไงบ้าง?  เด็กหนุ่มผมดำทำหน้าตาไม่สบอารมณ์  โนเอลกำลังเลี่ยงที่จะตอบ  เขาถอนหายใจ  

                    "ก็ได้   ถ้าอย่างนั้น...  เมื่อกลางวันเธอไปกับใคร" นนท์เปลี่ยนคำถาม  เพราะยังไงซะคำถามที่เขาอยากจะรู้จริงๆคือคำถามนี้ต่างหาก  โนเอลเลิกคิ้ว 

    เมื่อกลางวัน...? 

    "อ้อ..." โนเอลคิดไปถึงคนตัวสูงคนนั้น แล้วโกหกโดยอัตโนมัติ  "พี่.. เอ้อ..  หมายถึงญาติฉันเอง" ตอนแรกเธอจะให้เรเดียสเป็นพี่  แต่ใครๆก็รู้ว่าเธอเป็นลูกคนเดียว  ดังนั้นคำตอบจึงถูกหันเหไปกลางคัน

    "ญาติ?" นนท์ทวนคำ  โนเอลพยักหน้า

    "ใช่.. ญาติห่างๆน่ะ  ห่างๆเลย" เธอย้ำ  คิ้วเข้มของคนตรงหน้าเริ่มๆจะคลายออก  แม้นัยน์ตาจะหมองลง

    "ญาติฝ่ายไหน?" เด็กหนุ่มยังคงถามต่อ  นี่ไง... นนท์จู้จี้มากขึ้นเยอะเลย

    "ฝ่าย..." โนเอลอึกอัก  "ฝ่ายแม่น่ะ" เธอตอบ  เขาหรี่ตามองเธออย่างจับผิด  แต่แล้วเขาก็ถอนหายใจแล้วก็พยักหน้า   

    "แล้วนี่ยังไม่เปิดร้านอีกเหรอ" นนท์วกไปพูดเรื่องอื่น  เขามองไปรอบๆแล้วก็สะดุดกับกุหลาบสีสดที่เขาให้เธอเมื่อวาน  เขาเผยรอยยิ้มเล็กๆมุมปาก  "เมื่อวาน.. ขอโทษนะที่ไม่ได้ช่วยเก็บของ  ยายลัดดาลากให้ไปส่งก่อน" เขาพูดถึงงานวันเกิดเธอ  โนเอลพยักหน้า

    "ไม่เป็นไรหรอก  บ้านแต่ละคนลึกๆทั้งนั้น  ดีแล้วที่นนท์ไปส่ง"

    "แล้วญาติเธอไปไหนแล้วล่ะ" เขาถามพลางมองไปรอบๆ  เผื่อว่าเรเดียสอาจจะนั่งอยู่ที่ไหนสักแห่งในร้านนี้

    "เขา... คงไปเที่ยวเตร่อยู่ที่ไหนสักแห่ง.... จะกินอะไรมั้ยนนท์" เด็กสาวเปลี่ยนเรื่อง  เธอไม่ชอบโกหกและไม่อยากโกหกมากกว่านี้  โชคดีที่นนท์ไม่ติดใจ 'ญาติ' ของหล่อนมากนัก 

                    "เอาเหมือนเดิม" เด็กสาวพยักหน้าแล้วเดินหายไปในครัว  ของสำหรับทำคุกกี้ที่เตรียมไว้ยังอยู่บนโต๊ะ  เธอถอนหายใจก่อนเก็บแต่ละอย่างให้เข้าที่ 

                    พรายจะเป็นยังไงบ้างนะ...

                    "ทำอะไรค้างไว้รึไง" นนท์ถาม  เด็กหนุ่มเดินตามโนเอลเข้ามาในห้องครัว  โนเอลพยักหน้าก่อนจะตอบ

                    "เมื่อกลางวันคิดว่าจะทำคุกกี้"

                    "คุกกี้เนยสดรึเปล่า?" เด็กหนุ่มถาม  นัยน์ตาเป็นประกาย  "ทำต่อสิ  ฉันช่วย" นนท์ว่า  เมื่อก่อนตอนเด็กๆเขาก็มักจะมาที่นี่บ่อยๆ  ดูคุณป้าทำขนม  บางทีเขากับโนเอลก็ช่วยด้วย  แต่ออกแนวช่วยชิมมากกว่าช่วยทำจริงๆ

                    "เอาสิ  แต่อย่าหยิบน้ำตาลกับเกลือสับกันอีกนะ" เด็กสาวพูดกลั้วหัวเราะ  ชานนท์ก็หัวเราะให้กับวีรกรรมของตนเอง  เขาเตรียมแป้งกับผงฟูตามที่โนเอลบอก  ส่วนตัวเธอนั้นกำลังวอร์มเตาและหยิบเนยสดที่หั่นเป็นก้องสี่เหลี่ยมเล็กๆใส่ชามผสม   แล้วเสียงโทรศัพท์ข้างนอกก็ดังขึ้น  เขาเงี่ยหูฟังก่อนหันไปมองโนเอล  เด็กสาวง่วนอยู่กับเครื่องตีไข่ที่กำลังตีเนยสดให้กระจายจึงไม่ทันได้ยินเสียง  นนท์จึงร้องบอกโนเอล

                    "โนเอล  โทรศัพท์" เขาว่า  "รับให้เลยนะ?"  โนเอลเงยหน้าขึ้นหลังใส่น้ำตาลลงไป  เธอพยักหน้า

                    "ได้สิ  ขอบใจนะ"


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    02/05/50
    นิยายเรื่องนี้ช่างเงียบเหงา T^T  ไม่มีคนเม้นเล้ย~~ 
    27/04/50
    ดองมาน้าน นาน  ขอบคุณทุกท่านที่ยังติดตามนิยายด่องด้องเรื่องนี้อยู่นะคะ T-T 

    16/04/50
    จัดหน้ากระดาษใหม่นิดหน่อย  เพราะยัยลูกสาว  งุงิ~ 

    07/04/50
    เพิ่งเคยลองแต่งพระเอกกลัวผี  รู้สึกเรเดียสมันน่าอนาถยังไงชอบกล  = ="

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×