ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Angel of Death] พวกเรา คือ ยมทูต!!

    ลำดับตอนที่ #4 : เรเดียส

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 50


    บท

    บทที่ 3

                ภาพแรกที่ผ่านเข้ามาในดวงตาคมนั้นแสนพร่าเลือน   แต่เมื่อหลับตาแล้วเพ่งมองอีกครั้ง   มันก็ดูชัดขึ้น   เขาอยู่ในร้านกาแฟที่ตกแต่งสวยงามด้วยโทนสีน้ำตาลขาว   นัยน์ตาคมมองเห็นแผ่นหลังของเด็กสาวผมแดงซึ่งนั่งอยู่ท่ามกลางเศษแก้วที่แตกกระจาย   ตัวของเธอสั่นเล็กน้อย   ไม่ไกลจากนั้นแมวดำที่ไม่คุ้นเคยนักก็จ้องกลับมาเขม็ง   สายตานั้นเหมือนจะสั่งให้เขาปลอบใจเด็กสาว   ซึ่ง...

                    ผมไม่จำเป็นต้องทำตามนี่ครับ..?

                    มุมปากถูกยกขึ้นเล็กน้อย   ยั่วอารมณ์ขุ่นเคืองของออนให้กรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง   เด็กหนุ่มถูกแมวตัวน้อยขู่ฟ่อใส่   เรื่องปกตินะ...   สำหรับเขาและคน.. ไม่สิ   แมวตัวนี้

                    แต่ก่อนที่สงครามระหว่างคนและแมวจะเริ่มขึ้น   ร่างของเด็กสาวผมแดงก็เริ่มโงนเงน   ผู้มาใหม่เห็นดังนั้นจึงกระโจนเข้ามารับร่างบางมิให้ล้มทับเศษแก้วเหล่านั้น   เจ้าของเรืองผมสีดำเหลื่อมม่วงมองร่างในอ้อมแขน  

                    หลับไปแล้ว... เด็กหนุ่มว่าเสียงแผ่วหลังจากมองโนเอลอยู่ครู่หนึ่ง เกิดอะไรขึ้นกัน?เขาว่า   นี่ก็ถือเป็นงานแรกซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่อยากให้มันล้มเหลว   แล้วก็มั่นใจว่า อีกคน ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเช่นกัน

                    แม่ของยัยเด็กนี่ตายแมวดำว่าสั้นๆ   นัยน์ตาสีม่วงเข้มปรากฏความเห็นใจก่อนถามต่อไป

                    แล้ว..?

                    จะอะไรซะอีก... ก็ร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังตามฟอร์ม   มนุษย์ก็เป็นอย่างนี้ทุกคนคราวนี้เด็กหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง   ก่อนส่งเสียงว่ากล่าว

                    นายมันบ้า...เสียงต่อว่านั่นทำให้ออนหรี่ตา   แต่มีหรือที่เขาจะสน   ทำไร้หัวจิตหัวใจไปได้   แม่เขาตายเขาก็ต้องร้องไห้เสียใจเป็นธรรมดา   สิ่งที่ควรจะทำก็คือปลอบโยนไม่ใช่รึไง!   นี่อะไร?   นั่งมองเขาร้องไห้จนเป็นลม   นายยังเป็นคนอยู่รึเปล่า!?เสียงนุ่มนั้นต่อว่ายาวเหยียด   แต่ออนเพียงตอบกลับไม่สะทกสะท้าน

                    ถ้าเผื่อนายลืมไปล่ะก็... ฉันจะบอกซ้ำอีกครั้งเขาเหลือบตามองเด็กหนุ่มแล้วเอ่ย   ว่าฉันคือยมทูต

                    ไม่ใช่มนุษย์เหมือนนาย..!”

                    ร่างสูงนิ่งงัน   ยมทูตที่อยู่มาเป็นร้อยปีอย่างออนมองเห็นความตายผ่านสายตามานับไม่ถ้วน   ความโศกเศร้าที่เขาได้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่า   เกลาจิตใจของออนให้ด้านชา   จนกระทั่งไม่ยี่หระต่อเรื่องเช่นนี้อีกต่อไป...

                    แต่เขาไม่ใช่... จึงไม่อาจมองเห็นความสูญเสียเป็นเรื่องเล็กได้   เจ้าของดวงหน้าหล่อเหลามองใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาของโนเอลด้วยความเห็นใจ

                    ขอโทษ...เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงเครียด   เขาอุ้มเด็กสาวแล้วยันกายขึ้นยืน   ก่อนจะมองหาบันไดขึ้นสู่ชั้นบน   เด็กคนนี้ต้องการพักผ่อน... ถ้าลงใช้ชั้นล่างในการประกอบธุรกิจแล้ว.. คงไม่มีใครสร้างห้องนอนไว้ข้างล่างอีกเป็นแน่  

     

                เด็กสาวเปิดเปลือกตาของตนขึ้นอย่างช้าๆ   เธออยู่ในห้องนอนของตน   เธอรู้ว่า ยามเช้ามาเยือน ณ ที่แห่งนี้อีกครั้ง   แม้ว่าห้องนอนเธอจะยังมืดมิดก็ตามที   เสียงรถราก็ยังพอมีแว่วมาให้ได้ยิน   หากแต่เสียงเหล่านั้นมันไม่ได้เข้ามาถึงโสตประสาทของเธอเลยสักนิด  

                    คงฝันไป.. แค่ฝันไปเท่านั้น....

                    เสียงเปิดประตูอย่างแผ่วเบาทำให้เด็กสาวหันหน้าไปมองอย่างรวดเร็ว   หวังจะได้พบคนที่เธอฝันว่า จากไป   เธอจะเล่าความฝันประหลาดนั้นให้ฟัง   และจะอ้อนแม่ให้มากกว่าที่เคย   แต่คนที่เดินเข้ามากลับไม่ใช่   แสงจากข้างนอกสว่างจ้าส่งผลให้เธอเห็นเพียงเงาคน   ถึงอย่างนั้นเธอก็มั่นใจว่านั่นไม่ใช่แม่

                    เด็กหนุ่มในเสื้อยืดกางเกงยีนส์เดินเข้ามาอย่างเก้กังๆ   และนั่นทำให้เธอเด้งตัวออกจากที่นอนทันที   โนเอลร้องถามออกไป

                    นั่นใคร?” แต่เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบออกไป   ยมทูต... เหรอ?เสียงหวานเศร้าหมอง   น้ำตาขึ้นมารื้นคลอเบ้าอีกครั้ง   มือบางกำผ้าห่มผืนหนาแน่น

                    ไม่ใช่ครับ   ผมไม่ใช่ แสงไฟสว่างจ้าขึ้นเมื่อมือหนาของเด็กหนุ่มเอื้อมเปิดสวิตซ์   เด็กสาวหรี่ตาลงเพราะแสบ   แต่ก็ยังพยายามลืมตาขึ้น   เธอไม่เชื่อใจคนที่เดินเข้ามานี่สักเท่าไหร่   เมื่อคืนเธอจำได้ว่าล็อคประตูแล้ว   ถ้าไม่ใช่ยมทูตที่เข้านอกออกในได้สบาย   ก็คงไม่มีใครสามารถเข้ามาได้   เมื่อสายตาเริ่มชินเธอก็เม้มริมฝีปากนิดๆกับภาพที่เห็น

                    เด็กผู้ชาย..?

                    เดี๋ยว!” เธอว่า   คนที่กำลังปิดประตูจึงชะงัก   เปิดประตูทิ้งไว้อย่างนั้นแหละนัยน์ตาคู่สวยของโนเอลค่อนข้างแข็งกร้าว   แน่ล่ะ... คนตรงหน้าเธอเป็นใครก็ไม่รู้นี่นา

                    เด็กหนุ่มเดินเข้ามาโดยเว้นระยะห่างระหว่างตนกับเตียงไว้พองาม   โนเอลมองคนแปลกหน้าอย่างพิจารณา   ตั้งแต่ผมสีดำเหลื่อมม่วง   นัยน์ตาสีม่วงคมจนถึงจมูกโด่งได้รูปและผิวขาวๆที่เนียนละเอียด   สิ่งหนึ่งที่เธอรู้สึกจากเด็กหนุ่มคนนี้ก็คือความรู้สึกอบอุ่น...   อบอุ่นเหมือนตอนที่เธออยู่กับแม่ไม่มีผิด   และนั่นทำให้ดวงตาที่แข็งกร้าวอ่อนลง

                    เมื่อเห็นดังนั้นใบหน้าของเด็กหนุ่มก็ระบายด้วยยิ้มอ่อนโยนอย่างที่ใครๆเห็นก็คงเรียกเขาว่า สุภาพบุรุษ   เขายื่นแก้วโกโก้ที่ถือวิสาสะเข้าไปชงเองในครัวให้เด็กสาวที่รับมันไว้   แต่ไม่ได้ดื่ม   ดวงตาสีมรกตมองของเหลวในนั้นก่อนจะตวัดกลับไปที่ใบหน้าเด็กหนุ่ม   ริมฝีปากบางเม้มนิดๆ   ดวงหน้าของเธอเหมือนจะตั้งคำถามว่า เขาเป็นใคร?   เจ้าของเรือนผมสีเข้มจึงรีบเอ่ยแนะนำตัว
                     ผมชื่อ เรเดียส ครับเด็กหนุ่มยิ้ม   แต่โนเอลนิ่วหน้า

                    แค่นี้เหรอ?เธอว่า   เรเดียส พยักหน้าพร้อมกล่าวยืนยัน

                    ครับ   แค่นี้และแน่นอนว่ามันทำให้คิ้วของเด็กสาวมุ่นเข้าหากันมากขึ้น   จะไม่บอกกันซักหน่อยหรือว่า   เป็นใคร   มาจากไหน   และเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร!? เธอคิด   และเรเดียสเองก็เริ่มยิ้มแห้งเมื่อเห็นดวงหน้าของเด็กสาว   มือหนายกขึ้นเกาศีรษะ

                    ถึงเขาอยากจะบอกให้รู้   ก็บอกไม่ได้อยู่ดี   เพราะว่าตัวเขาเองก็ไม่รู้อะไรนอกจากนี้เช่นกัน...

                    เสียงเคาะประตูดังขึ้นทั้งๆที่มันเปิดไว้   เจ้าแมวดำที่ตกเป็นเป้าสายตาเดินเข้ามาช้าๆก่อนจะกระโดดขึ้นมายืนบนเตียงนอน   โนเอลขยับตัวเล็กน้อย   ใบหน้าหวานหมองลง

                    ยังอยู่อีกเหรอ..?เจ้าของบ้านถาม   ออนมุ่นคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์   ก่อนจะส่งเสียง เหอะ

                    เรียกว่าไปไหนไม่ได้ดีกว่าแมวดำพูด   และเมื่อเห็นว่าโนเอลให้ความสนใจจึงขยายความ

                    มันเป็นคำขอสุดท้ายของแม่เธอซึ่งซาเฟียร์ดันตกปากรับคำไปแล้วเรเดียสมองนัยน์ตาหวานที่หม่นลงอยู่เงียบๆ

                    ไม่เป็นไรหรอก   ฉันคิดว่า   ฉันอยู่คนเดียวได้ โนเอลพูด   เสียงของเธอไม่สั่นเลยสักนิดแม้ว่าน้ำตาจะรื้นขึ้นมาคลอเมื่อนึกถึงแม่ก็ตาม  

                    ถ้าทำได้ก็คงไม่อยู่ที่นี่...   คำขอร้องสุดท้ายของวิญญาณกับการตกลงรับคำของยมทูตถือเป็นสัตย์สาบานที่ไม่ว่าใครก็ละเมิดมันไม่ได้ ออนว่าอย่างฉุนๆ   เขาไม่พิศวาสการอาศัยมนุษย์อยู่เลยสักนิด  

                    จะโมโหใส่เธอไปทำไมกันเจ้าเหมียว   จะโทษก็โทษซา.. อะไรนั่นเถอะเรเดียสที่ฟังอยู่ขัดขึ้น   และนั่นเบี่ยงเบนประเด็นออกไปได้เยอะ   เพราะแมวดำโมโหเรเดียสจนตัวสั่น

                    จะว่าไปแล้วต้นเรื่องมันก็คือตัวเจ้านั่นแหละ!!” ออนใส่อารมณ์   ดวงตาสีม่วงใสของเด็กหนุ่มหรี่ลง   ส่วนเด็กสาวคนเดียวในห้องขยับตัวอย่างอึดอัด

                    คำพูดนายน่าสนใจเด็กหนุ่มเหยียดรอยยิ้มก่อนถามกลับ ไหนลองบอกมาหน่อยเถอะ   ฉันทำผิดอะไร   ถึงได้ถูกขังวิญญาณไว้ในร่างของยมทูตแบบนี้!”

                    ขังวิญญาณ..?   โนเอลมองทั้งสองสลับกันไปมาอย่างงุนงง   งั้นเรเดียสก็ไม่ใช่ยมทูตจริงๆน่ะสิ  

                    คนถูกย้อนถามกัดฟันกรอด   ออนรู้ตัวว่าตนกำลังพาล   ความจริงแล้วเรเดียสก็เป็นเพียงผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้นเอง   แต่แมวมากทิฐิไม่มีวันเอ่ยคำขอโทษใครง่ายๆ   โดยเฉพาะคนที่ตนไม่ถูกชะตาด้วยอย่างเรเดียส  

                    นายไม่จำเป็นต้องรู้หรอก   เรเดียสแมวตัวน้อยตอบสั้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาพอๆกับดวงเนตร

     

                กาแฟร้อนๆครับ   คุณผู้หญิงเสียงทุ้มกลั้วหัวเราะดังขึ้นพร้อมแก้วสีใสที่บรรจุของเหลวสีน้ำตาลอ่อนไว้   เด็กหนุ่มส่งมันให้เจ้าของร้านที่เดินลงมานั่งนิ่ง   เขาไม่รู้ว่านี่เป็นนิสัยปกติของโนเอลหรือเป็นผลกระทบจากความเศร้า   แต่อย่างไรเสียเขาก็ไม่เคยชอบที่จะเห็นใครนั่งซึม   เขาจึงใช้เวลาช่วงเช้าในการชวนเด็กสาวคุย  

                    เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวใสยกแก้วขึ้นจิบก่อนมองหน้าคนช่างเจรจา   กาแฟแก้วนี้รสชาติไม่เลวเลย   หรือจะให้พูดตรงๆ   เธอคงต้องบอกว่า   มันอร่อยมากด้วยซ้ำ

                    หลังจากเมื่อเช้าเรเดียสก็ปรับอารมณ์ของตนได้เร็วพอสมควร   เมื่อออนออกไปแล้วเขาก็หันมายิ้มแฉ่งใส่เธอพร้อมกับคว้าแก้วโกโก้ลงไปด้วยโดยให้เหตุผลว่า

                    มันหายร้อนแล้วน่ะ   ขอผมเอาลงไปให้แมวดำแถวนี้กินนะ

                    เธอล่ะไม่อยากจะเชื่อเลย   เรเดียสจะเอาลงไปให้ออนจริงๆหลังจากที่ทั้งสองเถียงกันขนาดนั้น   แต่โนเอลไม่มีโอกาสเห็นว่าออนกินรึเปล่า   เพราะเมื่อเธอลงมาเจ้าแมวดำก็ไม่อยู่เสียแล้ว   เจ้าแมวน้อยทิ้งไว้แต่ชามเล็กๆที่ว่างเปล่ากับยิ้มบางๆของเรเดียส

                    คนช่างคุยมองผ่านกระจกใสพร้อมพร่ำบอกว่าเมืองนี้แปลกตา   อยากจะลองออกไปเที่ยวดู   เรเดียสถอนสายตาจากภาพถนนโล่งๆก่อนหันมาหาเธอ   โนเอลจึงวางแก้วเปล่าในมือลง  

                    ไหนๆ   วันนี้เธอก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว...   จะนั่งเฉยๆอยู่อย่างนี้ก็น่าเบื่อเกินไป

                    วันนี้คิดว่าคงไม่เปิดร้านเสียงหวานเปรย   เรเดียสเลิกคิ้ว   มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย   อยากจะไปไหนล่ะ?และคราวนี้เด็กหนุ่มเผยรอยยิ้มสดใส   ท่าทางเขาดีใจมากจนโนเอลเองอดยิ้มไม่ได้  

                    ไชโย!”

     

                เราจะไปไหน โนเอล?เด็กหนุ่มถาม   เรเดียสอยู่ในเสื้อแขนกุดสีขาวมีหมวกฮู้ดด้านหลังกับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม   มันเป็นชุดของลูกพี่ลูกน้องเธอที่ตอนนี้ย้ายบ้านไปอยู่แถบชานเมือง   โนเอลล็อกประตูบ้านก่อนหันมาย้อนถามคนที่ตอนนี้ยืนไม่อยู่สุขเสียแล้ว

                    แล้วอยากจะไปที่ไหนล่ะดวงหน้าหล่อเหลานิ่วนิดๆ ก่อนจะส่ายหน้า

                    ไม่รู้ว่าที่นี่มีที่ไหนให้เที่ยวบ้าง

                    อ้อ..โนเอลว่าพลางเริ่มออกเดินไปตามฟุตบาทพร้อมกับเรเดียส   ถ้างั้นอยากไปไหนระหว่าง เที่ยวห้างกับสวนสาธารณะใกล้ๆนี่เด็กสาวในชุดวันพีซสีอ่อนถาม   ดวงหน้าหวานซึ้งไม่ได้มองคนที่พูดด้วยแต่กวาดสายตาไปทั่ว   หากเรเดียสไม่ได้คิดไปเอง   เขามองเห็นความไม่พอใจเล็กๆในดวงตาเขียวใสคู่สวย

                    งั้น...เสียงเงียบไปเหมือนกำลังคิด   ไปสวนสาธารณะ!” เมื่อโนเอลได้ฟังคำตอบ   รอยยิ้มอย่างพึงใจก็เข้ามาแทนที่   น้อยคนนักที่จะเลือกไปเดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติ   เด็กวัยรุ่นปัจจุบันมักจะหลงระเริงไปกับความเจริญด้านวัตถุ   ไปเที่ยวต้องห้างดัง   ใช้ของต้องแบรนด์เนม   ตอนแรกก็คิดว่าคนข้างๆนั่นเธอจะเป็นแบบนั้น   แต่สงสัยคงต้องดูเรเดียสใหม่  

                    โนเอลหยุดตรงทางม้าลาย   เด็กหนุ่มผมดำก็หยุดตามเขาค่อนข้างงุนงงนิดหน่อยกับท่าทีของเด็กสาว   แต่ก็ยังชวนคุยต่อไปเรื่อยๆโดยไม่รู้จักเบื่อ

                    เธอออกมาเดินเล่นแบบนี้บ่อยๆเหรอ?รถหลากสีแล่นผ่านโดยไม่มีวี่แววว่าจะหยุดให้คนเดินข้าม   โนเอลจึงย่นจมูกกับความไร้น้ำใจของคนขับ  

                    ไม่บ่อยเท่าไหร่เธอว่า   ไม่ค่อยได้ออกมาหรอกเรเดียสเลิกคิ้วก่อนถามกลับ

                    ทำไมล่ะ?

                    ก็... ส่วนใหญ่จะต้องช่วยงานที่ร้านน่ะเด็กหนุ่มพยักหน้ารับรู้   แต่อยู่ที่ร้านก็สนุกประโยคเสริมมาพร้อมรอยยิ้มน่ารัก   โนเอลชอบที่จะนั่งทำขนุกขนมและชงกาแฟอยู่ในห้องครัว   อยู่กับแม่...

                    นัยน์ตาสดใสเมื่อครู่หม่นลงมากจนเรเดียสไม่อาจไม่สังเกตเห็น   เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเขาทำให้เธอนึกถึงแม่   ใบหน้าดูดีจึงหมองลงตามไปด้วย   พวกเขาข้ามถนนและเดินต่อไปตามทาง

                    โทษที... โนเอล

                    เรื่องอะไร?เด็กสาวถามแผ่วเบาแม้จะรู้ลางๆว่าเด็กหนุ่มขอโทษเธอเรื่องใด   เรเดียสไม่ได้ตอบแต่ลดฝีเท้าลงเพื่อไปอยู่ข้างหลังเด็กสาว   ถนนช่วงนี้เป็นเขตชุมชน   ผู้คนเพ่นพล่านที่เดินสวนมาทำให้ทั้งสองต้องเดินเรียงเดี่ยวไป   โนเอลเดินลำบากเสียหน่อย   ร่างบางถูกคนเบียดมาเสียคนแทบปลิว   เรเดียสจึงต้องจับไหล่บางไว้แล้วช่วยดันเบาๆให้ไปข้างหน้าพลางตอบคำถาม

                    เรื่องแม่ของเธอ...เขาพูด

                    ไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย...เด็กสาวกล่าวพร้อมรอยยิ้มฝืนๆ มันไม่ใช่ความผิดของนาย   หรือกระทั่งยมทูตพวกนั้น   เมื่อคืนฉันก็พาลไปหน่อย…” เสียงหวานหยุดลงพร้อมๆกับที่เธอหยุดเดิน   ตอนนี้ตรงหน้าพวกเขาคือสวนขนาดย่อม   ต้นหญ้าอ่อนๆปกคลุมพื้นดินได้มิด   ไม้ยืนต้นถูกปลูกเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ   ไม้ประดับก็ถูกจัดเป็นลวดลายสวยงาม   กลางสวยหย่อมนั่นมีบ่อน้ำขนาดใหญ่   น้ำพุโปรยละอองน้ำสะท้อนแสงแดด

                    เรเดียสรู้สึกประหลาดใจ   ทั้งที่สวนนี่สวยขนาดนี้แต่กลับมีคนเข้ามานั่งเล่นเบาบางเหลือเกิน ผู้คนที่เดินเบียดกันมามุ่งหน้าต่อไปยังตึกสูง   เขาเดาว่ามันคือห้างสรรพสินค้า   เด็กหนุ่มชะเง้อมองคนพวกนั้นแล้วหันหน้ากลับมายังสวนสาธารณะ   โนเอลมองสวนสวยแล้วส่งยิ้มให้คนข้างตัว

                    สวยใช่ไหมล่ะ?เด็กสาวมองนัยน์ตาเป็นประกายของเรเดียส   เด็กหนุ่มพยักหน้า   เข้าไปลึกกว่านี้หน่อยมีลานนกด้วยนะ   ไปไหม?เจ้าของเรือนผมสีเพลิงชวน   และแน่นอนว่าเรเดียสไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธ  

                    แน่นอนครับผม


                สองค่ะเจ้าของนัยน์ตาสีเขียวใสเอ่ยตอบคุณป้าวัยกลางคน   เธอมาซื้ออาหารนกกับร้านที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ   เดินอีกนิดก็จะถึงลานนก   เมื่อก่อนที่นี่มักจะมีคนมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดแต่เดี๋ยวนี้น้อยคนนักที่จะมาให้อาหารนกที่นี่   แม่เธอเล่าให้ฟังแบบนั้น   และเธอก็เห็นว่ามันจริง

                    นี่จ๊ะหนูคนขายส่งยิ้มให้โนเอล แปลกจริงนะ   นึกว่าคนหนุ่มสาวเดี๋ยวนี้จะไปเห่อห้างใหม่กันหมดโนเอลยิ้มส่วนเรเดียสหัวเราะนิดๆ

                    ผมว่าที่นี่สวยแล้วก็น่าเดินเล่น   เสียดายคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นคุณค่าของธรรมชาติเด็กหนุ่มว่า   หญิงวัยกลางคนยิ้มจนตาหยีแล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย   ก่อนเอ่ยถาม

                    พวกหนูสองคนเป็นคนต่างชาติ?เด็กทั้งสองมองหน้ากันนิดๆ   คนขายอาหารนกคงรู้สึกสะดุดกับสีผมสีตาของทั้งสอง

                    คุณแม่หนูเป็นคนไทยค่ะ   แต่คุณพ่อไม่ใช่โนเอลว่า แต่เรเดียสไม่ได้ตอบไป   เขาก็ยังยิ้มละไมเช่นเดิม   หญิงคนขายจะคิดว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกันจึงไม่ได้คั้นเอาคำตอบ   โนเอลตัวค่อนข้างเล็กในขณะที่เรเดียสตัวสูงกว่าเกือบครึ่งฟุต  

                    อ้อ... ไม่น่าล่ะเธอว่าก่อนจะส่งถุงหนังสีน้ำตาลใบเล็กให้สองถุง   โนเอลจ่ายเงินค่าอาหารนกแล้วบอกลาหญิงคนขาย   เด็กสาวเหลือบมองใบหน้าที่ยังเปื้อนยิ้มของคนข้างตัว  

                    เรเดียสจำอะไรไม่ได้เลยนอกจากชื่อของตน... มันเป็นความจริงที่เธอได้รู้เมื่อเช้า   เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร   มาจากไหน   จำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง   เธอคิดว่าการที่ต้องเป็นแบบนั้นแย่กว่าการที่เธอสูญเสียแม่ไปเสียอีก   เพราะอย่างน้อยความทรงจำที่มีค่าต่างๆก็จะไม่เลือนหาย   ยังจำได้ว่าตนเองเคยสุขเคยทุกข์มามากขนาดไหน   แต่เรเดียสที่จำอะไรไม่ได้ก็ยังยิ้มเสมอ   ยังยิ้มตลอดมา   มันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอคิดว่า   เธอเองก็ไม่ควรแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นเช่นกัน  

                    อะไรครับ?เด็กหนุ่มสังเกตเห็นว่าโนเอลจ้องตนอยู่จึงถามพลางเลิกคิ้ว   ดวงหน้าคมคายบ่งความสงสัย

                    อ้อ! เปล่าหรอก   ไม่มีอะไร

                    พวกเขาเดินมาถึงทางแยก   โนเอลเลี้ยวไปทางซ้าย   เรเดียสเดินตาม   พวกเขาเดินออกมาสู่ลานกว้างสีอิฐซึ่งเต็มไปด้วยนกน้อยหลายสิบตัว   เมื่อพวกเขาเดินผ่านนกเหล่านั้นก็พร้อมใจกันกระพือปีกบินขึ้น   เสียงพรึบพรับมาพร้อมกับขนนกหลากสีสันที่ปลิวว่อน   โนเอลยิ้มกว้างเช่นเดียวกับเรเดียสที่ตาเป็นประกาย

                    มาเร็วโนเอล!” เด็กหนุ่มชวนพลางเร่งเดินเข้าไปอย่างเริงร่า   ทิ้งให้อีกคนเร่งรีบตามเสียงหัวเราะที่แสนสดใสเข้าไปยังกลางลาน

                    โนเอลให้อาหารพวกมันอย่างคุ้นเคย   ผิดกับเรเดียสที่ดูเก้ๆกังๆ   ถุงอาหารนกสีน้ำตาลอ่อนๆของเด็กหนุ่มเป็นเป้าหมายของนกรอบตัว   และเรเดียสคงไม่มีปัญหาถ้าไม่ใช่พวกมันกรูเข้ามาพร้อมกันเยอะขนาดนั้น!

                    หวา!!” เด็กหนุ่มร้องเสียงดังแม้ใบหน้าจะยังมีรอยยิ้ม   โนเอลจึงหันไปหัวเราะให้กับท่าทางที่เหมือนเด็กสิบขวบของเรเดียส   เด็กหนุ่มนั่งลงกับพื้นลาน   ผมสีดำประกายม่วงยุ่งเหยิงและแซมด้วยขนนก   ก่อนจะหันมายิ้มแห้งๆกับสภาพที่ดูไม่ได้ของตน

                    นกพวกนี้หิวมากน่ะ...เสียงใสๆเล็กๆดังขึ้น คนได้ยินมองรอบตัวก่อนชะงักเพราะไม่เห็นใคร   เด็กหนุ่มเหลียวหน้ามองหลังอีกครั้ง   ก่อนจะยิ้มซีดให้กับสิ่งที่ตนคิดว่าเจอ

                    ผี!?

                    เป็นอะไรรึเปล่า   เรเดียส?โนเอลวางมือจากการให้อาการนกแล้วย่อตัวลงตรงหน้าเรเดียส

                    โนเอล.. ได้ยินเสียงอะไรรึเปล่าฮะ?คนถูกถามมุ่นคิ้ว   ก่อนจะเหลือบไปเห็นเด็กที่ยืนยิ้มเศร้าๆอยู่ข้างหลังเรเดียส   เด็กน้อยในเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นหัวเราะฝืนๆ

                    ถึงได้ยิน... ก็ไม่มีใครเห็น

                    ไม่มีใครเห็น..   วิญญาณ?   เด็กสาวคิด   ก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วเริ่มเดินไปหาเด็กคนนั้น   เด็กสาวยิ้มละไม   ส่วนเรเดียสมองตามอย่างฉงน

                    เห็นสิจ๊ะ...   อย่างน้อยพี่ก็เห็นหนูนะเด็กสาวว่า   และคนที่ไม่ควรมีใครเห็นก็สะดุ้งโหยง   ก่อนก้าวถอยหลังไปด้วยความตกใจ  

                    เรเดียสสะอึกแล้วเบ้ปาก   วิญาณเด็กปล่อยโฮแล้วสวมกอดเด็กสาวตรงหน้า   คนถูกกอดสะดุ้งนิดๆเพราะไม่คิดว่าวิญญาณจะจับต้องตัวเธอได้  

                    ดวงวิญญาณที่สองไม่ไกลจากกลางลาน   ร่างของแมวตัวน้อยก็ปรากฏขึ้นใต้ร่มไม้ใหญ่   ดวงตาสีอำพันจับจ้องเหตุการณ์ตรงหน้านิ่ง  

                    ลูกนกตัวน้อยส่งเสียงร้อง   รวดร้าวราวเด็กน้อยที่คร่ำครวญหามารดา   เสียงนั้นน่ารำคาญสำหรับออน   เขาเหลือบตามองสิ่งกวนใจ   แล้วก็พบว่าพันธุ์ของมันไม่ใช่พันธุ์ที่จะมาบินเล่นอยู่แถวนี้เลย เจ้าแมวน้อยกระตุกยิ้ม

                    นกน้อยที่หลงทาง...   หากมารดาไม่ตามหาแล้ว   เจ้าจะโบยบินกลับรังได้อย่างไร?

    ++++++++++++++++++++++++
    06/04/50
    อัพต้อนรับวันจักรีค่า  ^o^


    01/04/50
    อัพวันที่ 1 เอาฤกษ์เอาชัย  รู้สึกไม่มั่นใจเล็กๆ  ตอนนี้งงรึเปล่าคะ - -?

    27/03/50
    สอบเสร็จแล้ว ^^  ทีนี้ก็มาอัพได้ตามปกติล่ะ 
    แอบเครียดเล็กน้อยกับผลตอนเย็นนี้  ToT

    ขอให้ติดเถอะ~  สาธุ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×