คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หญิงสาวและแมวดำ
บทที่ 1
“โนเอล” เด็กสาวผมทองคนหนึ่งตะโกนเรียกเพื่อนที่เดินไปทางประตูโรงเรียน โนเอลหันตามเสียงเรียก ผมสีเพลิงนุ่มสลวยของเธอถูกมัดรวบเป็นทรงหางม้าและมีโบสีขาวผูกทับหนังยางตามระเบียบของโรงเรียนทุกประการ ชุดนักเรียนแบบกะลาสีดูเข้ากับหุ่นบางอรชรเป็นอย่างดี ดวงตาสีเขียวมรกตสะท้อนภาพของเพื่อนที่วิ่งตามมา
“มีอะไรเหรอ ลัดดา” โนเอลถาม เธอเอียงคอน้อยๆตามความเคยชิน
“วันนี้จะกลับด้วยน่ะ” ลัดดาเว้นวรรคหายใจก่อนพูดต่อไป “ฉันกะจะบอกตั้งแต่พักกลางวันแล้วแต่หาตัวเธอไม่เจอ.. ไปอยู่ไหนมาน่ะ” โนเอลยิ้มบางให้เพื่อนสาวพลางออกเดินต่อ
”ดาดฟ้าเหมือนเดิมแหละ ที่นั่นเงียบดี” โนเอลตอบ ตอนกลางวันที่นั่นไม่มีคนอื่นนอกจากเธอ ดาดฟ้าโรงเรียนเลยกลายเป็นที่สิงสถิตสำหรับโนเอลไปโดยปริยาย
ก็ที่นั่นไม่ค่อยมีอะไรมารบกวนเธอนี่นา.. ไม่เหมือนที่อื่นๆ
คิดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม้แต่ตอนนี้เธอก็ยังเห็น... อะไรน่ะเหรอ? ก็สิ่งที่เรียกว่า... วิญญาณไงล่ะ มันเหมือนจะตามเธอไปทุกหนทุกแห่งเลยก็ว่าได้
”เป็นอะไรรึเปล่า? หน้าตาเครียดๆ” ลัดดายังคงถามต่อไป โนเอลหันมายิ้มให้เพื่อนสนิท ไพล่ไปตอบเรื่องอื่นทันใด
”ฉันไม่อยากให้แม่ไปอยู่กับพ่อน่ะ” ลัดดาเลิกคิ้ว ส่ายหน้าน้อยๆ พ่อแท้ๆของโนเอลเสียไปตั้งแต่เธอยังเด็กๆ ส่วนแม่ก็เพิ่งแต่งงานใหม่กับนักธุรกิจแนวหน้า พ่อเลี้ยงของโนเอล.. เขาไปลงทุนธุรกิจที่ต่างประเทศ และเนื่องจากอะไรต่อมิอะไรยังไม่เข้าที่เข้าทางจึงต้องอยู่คุมงานที่นั่นไปก่อน
โนเอลบอกเธอว่า เมื่อไม่นานมานี้แม่ของโนเอลได้รับจดหมายจากสามีใหม่ว่า อยากให้ไปอยู่ด้วยกันที่นั่นเสียเลย แต่ลัดดารู้ดี.. นั่นไม่ใช่เรื่องที่เพื่อนของเธอกังวล เพราะโนเอลไม่ได้มีท่าทีต่อต้านการแต่งงานใหม่ของแม่แต่อย่างใด และการไปอยู่ครั้งนี้ก็เพียงแค่สองสามเดือนเท่านั้น
”ไม่ใช่” ลัดดาว่าเสียงแข็ง พลางจ้องหน้าโนเอลที่ยิ้มแห้งเขม็ง “มีเรื่องอื่นใช่มั้ย! เรื่องวิญญาณพวกนั้นเหรอ?” ประโยคสุดท้ายลดเป็นเสียงกระซิบ เรื่องการเห็นอะไรพวกนี้ไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับคนทั่วไป คนอื่นอาจเห็นว่าโนเอลเพ้อเจ้อแต่ลัดดาเข้าใจ เธอเองก็มีเซนส์ในเรื่องนี้เพียงแต่ไม่มากเท่าโนเอล แค่รู้สึกได้แต่ไม่ถึงกับ “เห็น” เป็นตัวเป็นตน
”ฉันจะปิดอะไรเธอไม่ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย” โนเอลว่าเสียงกลั้วหัวเราะ แม้จะพูดอย่างนั้นแต่เธอดีใจอยู่ลึกๆที่ลัดดารู้สาเหตุ
”ก็ไม่ต้องปิดสิเจ้าคะ เพื่อนกันนะมีอะไรก็บอกกันได้ทุกเรื่องแหละ รับรอง! ยัยลัดดาปิดปากสนิท!” ลัดดาออกแอคติ้งประกอบการพูดจนโอเว่อร์ โนเอลจึงระเบิดเสียงหัวเราะร่วน
ยังไงซะอยู่กับลัดดาก็สนุกที่สุดจริงๆด้วย...
กว่าจะถึงบ้านก็เย็นแล้ว.. ท้องนภามืดเร็วกว่าปกติเพราะเป็นช่วงปลายปี เด็กสาวทั้งสองจึงรีบเร่ง บ้านของลัดดาอยู่ในซอยลึก ส่วนบ้านโนเอลนั้นอยู่หัวมุมหน้าปากซอยบ้านของลัดดาพอดี
“บาย” โนเอลโบกมือลาเพื่อนสาวหน้าร้าน coffee shop ร้านใหญ่ที่ดูโด่ดเด่นสะดุดตาผู้คน นี่เป็นบ้านของเธอ ร้านกาแฟที่แม่กับเธอร่วมมือกันตั้งขึ้นมา ทว่าระยะหลังนี้เปิดร้านไม่บ่อยนักเนื่องจากแม่ของเธอเริ่มไปช่วยงานที่บริษัทและลัดดาก็ต้องไปเรียนนั่นเอง
”เดี๋ยวๆ โนเอล พรุ่งนี้สอบเสร็จแล้วไปเที่ยวกันหน่อยเปล่า?” ลัดดาหันมาชวนก่อนที่เพื่อนของเธอจะเปิดประตูเข้าไป โนเอลครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งจึงตอบออกมา
”ดูก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ต้องไปส่งแม่ด้วย” เธอว่า ลัดดาพยักหน้าเข้าใจ
”เจอกันพรุ่งนี้น้า!!”
กริ๊ง..
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นเมื่อโนเอลผลักประตูกระจกเข้าไป มีลูกค้าอยู่เพียงสองโต๊ะ พวกเขานั่งจิบกาแฟรสดีอย่างดื่มดำ สายตาของเธอเหลือบไปเห็นลูกค้าสาวที่แต่งตัวประหลาดกว่าใครเขา เธอคนนั้นใส่หมวกแม้อยู่ในร้านกาแฟ เสื้อแขนตุ๊กตาสีขาวรัดต้นแขนเรียวให้ส่วนหัวไหล่พองนิดๆ แล้วปล่อยยาวลงมีเกือบมิดมือ ช่วงอกลงไปเป็นเนื้อผ้าสีดำประดับด้วยลูกไม้สีเดียวกัน กระโปรงบานออกสั้นคลุมเข่าพอดี ถูงเท้าสีดำยาวขึ้นมาปิดหัวเข่า หันซ้ายหันขวาเหมือนคนแปลกที่อย่างไรชอบกล
สวย.. หน้าสวยหยั่งกับตุ๊กตา แต่.. เธอไม่รู้รึไงนะว่าร้านกาแฟห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามา เจ้าของร้านขมวดคิ้วชั่วครู่ก่อนเผยรอยยิ้มน่ารัก
เอาเถอะ.. เห็นว่าเป็นแมวดำนะเนี่ย
โนเอลเดินเข้าไปหลังร้านเปลี่ยนยูนิฟอร์มของโรงเรียนเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนและผ้ากันเปื้อนรูปแมวดำ ตัวนี้เป็นลายโปรดเธอเลย ว่าแต่แม่เธออยู่ไหนกันนะ ปรกติจะต้องอยู่เฝ้าเคาท์เตอร์ไม่ใช่เหรอ
เมื่อเด็กสาวเดินออกมาคนที่แต่งตัวประหลาดตาก็ยังยืนอยู่ เธอยังไม่ได้สั่งเครื่องดื่มอะไร เจ้าของนัยน์ตาสีมรกตจึงเดินเข้าไปหา แต่...
”เก็บเงินครับ” ชายหนุ่มใส่ชุดสูทว่า
”ค่ะ” โนเอลพยักหน้ารับก่อนเดินเข้าไป
”เอสเพรสโซ่กับขนมปังหนึ่งชุดใช่มั้ยคะ” โนเอลอ่านใบเสร็จแล้วพูดทวน มีอยู่หลายครั้งเหมือนกันที่พนักงานในร้านให้ใบเสร็จผิดโต๊ะ แต่ว่านั่นเป็นเรื่องที่เกิดกับสาขาย่อย สาขาหลักเธอกับแม่เป็นคนจัดการเอง แล้วแม่ก็ค่อนข้างรอบคอบกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้มากจึงไม่ค่อยมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นสักเท่าไหร่
“ทั้งหมดห้าสิบห้าบาทค่ะ” เธอรับเงินมาจากชายหนุ่มอย่างสุภาพ ก่อนที่เขาจะลุกออกไป โนเอลหันไปทางโต๊ะของหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง เมื่อจะเดินเข้าไปเธอก็ชะงักเนื่องจาก...
”พวกมนุษย์นี่หัวศิลป์ดีเหมือนกันนะ” หญิงสาวคนนั้นเปิดปากพูดขึ้นหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้
โนเอลกวาดตามองรอบตัวคนเอ่ยวลีประหลาด เธอพูดกับใคร? และที่สำคัญเมื่อกี้ใช้คำว่า ‘พวกมนุษย์’ งั้นเหรอ?
”หึ.. ไม่เห็นจะสวยตรงไหน” โนเอลยิ่งผงะเมื่อแมวตัวน้อยที่เธอคิดว่าน่ารักเปิดปากพูด
”มะ... แมวพูด..ได้?” เจ้าของร้านครางเสียงเบา โนเอลมองหญิงสาวกับแมวดำที่พร้อมใจจ้องมาที่เธอ หรือนี่จะเป็นความฝัน?
”ออน.. มนุษย์นี่เห็นพวกเราด้วยเหรอ” ซาเฟียร์เปิดปากพูดอย่างไม่เดือดร้อน ดวงตาสีดำสวยเหลือบดูมนุษย์ที่มองเห็นเธอ แต่ออนและโนเอลกำลังอยู่ในอาการเดียวกันคือ เป็นใบ้ชั่วคราว!
กริ๊ง..
ประตูร้านเปิดขึ้นอีกครั้งโดยหญิงวัยกลางคน เธอใส่ชุดอยู่บ้านเรียบง่ายหิ้วถุงกับข้าวมาสองสามอย่าง โนเอลหันไปหาพลางร้องเรียก
”แม่!!” เธอร้องพลางชี้มือชี้ไม้ไปยังแมวตัวปัญหา “แมวพูดได้!” แม่ของเธอมองตามมือแล้วก็ขมวดคิ้ว
”ลูกหมายถึงอะไรโนเอล? ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา”
”มะ..ไม่มีเหรอ?” โนเอลมองไปยังหญิงสาวและแมวของเธอ แต่สองคนนั้นก็ยังอยู่ ผู้หญิงคนนั้นก็ยังนั่งหาวได้หน้าตาเฉย แมวประหลาดนั่นก็ยังนั่งนิ่ง
”เป็นอะไรรึเปล่า หือ?” คนเป็นแม่วางของบนเคาท์เตอร์แล้ววกกลับมาใช้มืออังหน้าผากลูกสาวเพื่อวัดไข้ “ก็ไม่เป็นอะไรนี่นา”
โนเอลเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง บางที... หญิงสาวคนนั้นกับแมวอาจจะเป็นวิญญาณ และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแม่ของเธอถึงมองไม่เห็น
วิญญาณ... แต่ทำไมเห็นชัดอย่างนี้ล่ะ ทุกทีจะเป็นแค่เงามัวๆแท้ๆ คิดพลางเหลือบมองสองวิญญาณในร้านแต่ทว่าคราวนี้มองหาที่ไหนก็ไม่พบ!
”ปวดหัวรึเปล่า? รีบไปนอนเถอะไปพรุ่งนี้ต้องสอบอีกนี่นา?” เสียงของผู้หญิงที่เธอรักที่สุดดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท
”อะ.. อ่า” โนเอลเริ่มคิดหาเรื่องเบี่ยงเบนประเด็น “แหะๆ หนูคง.. เอ่อ ฝันไปล่ะมั้ง? ว่าแต่แม่ไปไหนมาเหรอคะ”
แม่ของเธอยังขมวดคิ้วอยู่นิดๆราวกับยังไม่หายกังวล แต่ก็ยอมตอบลูกสาวแต่โดยดี “ก็ไปซื้อกับข้าวน่ะสิ ถามอะไรแปลกๆนะเรา”
”อ๋อ.. “ แม่มองโนเอลซักพักแล้วดึงตัวลูกสาวเข้ามากอดไว้ โนเอลยิ้ม เธอรู้สึกประหลาดใจนิดๆเพราะส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายเธอที่ชอบเข้าไปอ้อนแม่
”แม่ไปพรุ่งนี้แล้วนะ โนเอล”
”แม่.. ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ?” เด็กสาวถามอย่างมีความหวัง เธอเกลียดการอยู่คนเดียว มันทั้งเหงาและอ้างว้าง...
”แม่ไปไม่นาน แค่สองเดือนเอง” แม่ของเธอทอดเสียงอ่อนโยน โนเอลย่นหน้า
”แต่หนูเหงานี่นา”
”แม่รู้ว่าลูกเหงา แต่เข้าใจหน่อยนะ.. พ่อเขาก็เหงาเหมือนกัน เขาอยู่คนเดียวมาตั้งปีนึงเลยนะ แล้วแม่ก็ไปหาเขาแค่สองเดือนหลังจากนั้นเขาก็ต้องอยู่คนเดียวอีก” คนเป็นลูกถอนหายใจหนักหน่วง เธอรู้ดี... แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่อยากให้ไป มันเหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่าง...
ว่าจะไม่ได้พบแม่อีก...
อารมณ์ของหญิงสาวเริ่มไม่คงที่มากขึ้นเมื่อเจ้าแมวดำสั่งให้เธอรีบออกไปจากที่นั่น นับกันตามศักดิ์แล้ว ออนไม่มีสิทธิ์สั่งเธอแม้แต่นิดเดียว
ถ้าหมายถึง เมื่อก่อนน่ะนะ...
แววตาลึกลับน่าค้นหาหมองลงชั่วครู่ก่อนจะเกลื่อนด้วยความไม่ชอบใจ แมวตัวน้อยเดินต่อไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดหมาย เจ้าตัวคิดแต่ว่าตนเองกำลังฝันไป!
”แค่มนุษย์มองเห็น มันน่าตกใจงั้นหรือ” ซาเฟียร์ถามแทรกระหว่างที่แมวตัวน้อยพยายามบอกให้ตัวเองลืมตาตื่นขึ้น!!
”เจ้า.. ซาเฟียร์ เจ้าไม่รู้หรือ ว่าโดยทั่วไปแล้วมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นเราได้?” เสียงเครียดๆดังขึ้น พร้อมส่ายหน้า “เอาเถอะ.. เข้าเรื่องงานดีกว่า เจ้าจะต้องส่งวิญญาณของมนุษย์ไปยังที่ๆควรจะไป... เข้าใจใช่มั้ยว่ามันหมายถึงที่ไหน?” ซาเฟียร์พยักหน้าส่งๆไปอย่างนั้น คนอธิบายมองไม่ออกเลยว่าเธอกำลังฟังอยู่รึเปล่า ออนก็ได้แต่ปลงเพราะอย่างไนเสียซาเฟียร์ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว สนใจเฉพาะในเรื่องที่อยากสนเท่านั้น...
”ครบจำนวนเมื่อไหร่ เธอก็จะไม่ใช่ยมทูตฝึกหัดอีกต่อไป” ออนทอดเสียงอ่อนโยน ทว่าซาเฟียร์ไม่ได้ฟัง! หญิงสาวชี้ไปยังต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ที่ตั้งตระหง่านและโดดเด่นด้วยแสงไฟ
”นั่นอะไรน่ะ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น แม้เจ้าตัวจะพยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า ประกายตาสุกใสของแมวดำสะท้อนภาพหญิงสาวที่มองต้นคริสต์มาสอย่างไร้เดียงสาแล้วก็อ่อนใจ
”ต้นคริสต์มาส... ในวันคริสต์มาสคนในครอบครัวมักจะร่วมกันตกแต่งต้นสนให้สวยงาม เป็นวันระลึกถึงศาสดาของพวกเขา” ออนอธิบายละเอียดยิบ ซาเฟียร์พยักหน้าก่อนถามคำถามที่ออนอยากโดดน้ำฆ่าตัวตายขึ้นมาทันใด!
”ทำไมพวกเราไม่มีวันนรกบ้างล่ะ”
หลังจากเกือบสติแตกเพราะการสอนเรื่องราวบนโลกให้ซาเฟียร์แล้ว ออนก็แทบหมดแรง ซาเฟียร์ถามนู่นถามนี่ตลอดเวลา แล้วเขาก็ไม่ใช่ปรมาจารย์ด้านการดำรงชีวิตของมนุษย์เสียด้วย!
”วันนี้.. กลับแล้วเหรอ” ยมทูตสาวหันมาถามไกด์ทัวร์โลกมนุษย์ ออนพยักหน้าเหนื่อยๆ
”ไว้พรุ่งนี้เจ้าค่อยเริ่มงาน”
”แต่ข้ายังอยากอยู่ต่ออีกหน่อย” เสียงหวานเอ่ยราวกับจะขอร้อง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ซาเฟียร์ถือเรื่องนี้มาก ทั้งที่ไม่เคยขอร้องใคร... ยิ่งได้ฟังอารมณ์กรุ่นก็ยิ่งก่อตัวขึ้นในใจของแมวดำ
ถ้าเพียงแต่เขาไม่ละเลยหน้าที่!!
”ข้าเกรงว่าจะให้เจ้าอยู่ต่อไม่ได้ ซาเฟียร์ จำคำข้าไว้เถิด” ออนเว้นวรรค ใช้สายตาดุดันที่ทำให้ยมทูตหลายคนเกรง แต่ทว่าไม่เคยใช้ได้กับซาเฟียร์ หญิงสาวขบกรามแน่นเพราะรู้ในสิ่งที่ออนจะพูดต่อไป
”เจ้าจะไม่มีวันได้เจอคนผู้นั้นอีก... ตลอดกาลเลยล่ะ”
คนที่สนามบินไม่แน่นเท่าไหร่นัก เพราะว่าไม่ใช่ช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว หลังจากส่งแม่แล้วเด็กสาวก็ยังเตร็ดเตร่อยู่ในสนามบิน
ยังไม่อยากกลับบ้าน... ถึงเธอจะกลับไป เธอก็ต้องอยู่เพียงลำพังในร้านกาแฟที่เงียบเหงานั่น
เด็กสาวได้แต่ถอนหายใจกับความคิดของตัวเอง รอยยิ้มเล็กๆระบายบนใบหน้างาม โนเอลส่ายหัวกับความคิดเด็กๆของตัวเองแล้ววกกลับไปที่ประตูทางออกซึ่งเธอตั้งใจจะเดินเลยไป โบกแท็กซี่ขึ้นเพื่อจะกลับบ้าน แต่ทว่าบนรถที่เปิดเพลงคลอเบาๆก็ยังเงียบเกินไปสำหรับเด็กสาว
โทรหาลัดดาดีกว่า..
ไวเท่าความคิด โนเอลหยิบมือถือกดหาเพื่อนสาวทันที แต่ลัดดาปิดมือถือ โนเอลนิ่วหน้านิดหน่อยก่อนจะจำได้ว่าเพื่อนสาวไปดูหนังกับคนอื่นๆในห้อง เสียงถอนหายใจจึงดังขึ้น นัยน์ตาคู่สวยเหลือบเห็นสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ผ่านกระจกใสของรถ!
ภาพหญิงสาวชุดดำกำลังวิ่งไปบนอากาศ และภาพผู้คนที่เดินขวักไขว่อย่างไม่สนใจหญิงสาวคนนั้น พวกเขาทำราวกับว่ามันเป็นสิ่งปกติ ไม่สิ! ราวกับไม่เห็นหญิงสาวคนนั้นเลยต่างหาก
โนเอลถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้ง คงจะเป็นวิญญาณอีกแล้วกระมัง? เมื่อวานนี้เธอก็เห็นแล้วยังเมื่อกี้อีก พักนี้เธอเห็นบ่อยขึ้นเรื่อยๆเลยทีเดียว
วันนี้มันวันอะไรกันนะ..?
“ที่นี่เหรอ..?” เสียงเหม่อลอยดังมาจากหญิงสาวที่ไม่มีใครมองเห็น ซาเฟียร์เริ่มชินกับการที่ผู้คนเดินทะลุตัวเธอไปจึงไม่ได้โวยวายอย่างเมื่อวาน
“ใช่” คำตอบสั้นๆดังมาจากแมวดำตัวน้อย ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเริ่มงาน ออนจึงตัดสินใจปล่อยให้หญิงสาวมองนู่นมองนี่จนกว่าจะพอใจ ซาเฟียร์ก้มมองแม้แต่พื้นหินอ่อนกว้างใหญ่ที่สะท้อนใบหน้านวลของเธอ รวมถึงบันไดเลื่อนที่แสนจะธรรมดาสำหรับออนซึ่งลงมาบนโลกบ่อยๆ
ออนนำเธอออกมายังลานกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา วัตถุประหลาดขนาดใหญ่มากมายเรียงตัวกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ดังขึ้นเมื่อมันออกวิ่งไปตามทางและลอยขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ เมื่อมาถึงตัวยมทูตมันก็ทะยานขึ้นพ้นความสูงของซาเฟียร์พอดี เธอเงยหน้ามองอย่างตะลึง!!
”ออน.. นี่เรียกว่าอะไรน่ะ” เจ้าของนัยน์ตาคู่สวยถามโดยไม่มองเจ้าแมวสีดำ หากแต่ยังคงจ้องวัตถุประหลาดที่เริ่มไกลออกไปทุกที
”มนุษย์เรียกว่าเครื่องบิน พวกเขาไม่สามารถลอยตัวไปมาบนฟ้าได้เหมือนพวกเรา จึงคิดค้นเครื่องบินขึ้นเพื่อความสะดวกในการคมนาคม”
”อ๋อ.. “
เมื่อมองไปยังเบื้องบนสายตาของยมทูตสาวก็สะดุดกับชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำที่โผล่ขึ้นจากความว่างเปล่า ชายคนนั้นเองก็ชะงักเช่นกัน เขาลอยตัวลงต่ำก่อนจะคำนับให้เธออย่างสุภาพ
”เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เจอท่าน ท่านซาเฟียร์ “ ซาเฟียร์พยักหน้าช้าๆแม้จะจำชื่อคนตรงหน้าไม่ได้ก็ตาม เธอดูไม่แปลกใจกับการเคารพของผู้ที่เป็นยมทูตเต็มตัวตรงหน้า กลับคุ้นเคยเสียด้วยซ้ำ “เอ่อ.. เหตุใดท่านจึงมากับเจ้าแมวดำตัวนี้ ท่านออนหายไปไหนเสียล่ะขอรับ?” ตาใสซื่อของยมทูตกวางมองรอบกายหญิงสาวแล้วจึงถาม
แทนคำตอบซาเฟียร์ก้มมองแมวตัวน้อยที่เริ่มมีอาการยัวะ “กล้าเรียกข้าว่า ‘เจ้าแมวดำตัวนี้’ งั้นเรอะ? สัมมาคารวะของเจ้าหายไปไหนหมด!”
”อะ.. เอ๋?” ชายหนุ่มมีสีหน้าเลิกลั่ก แมวดำที่เขาเห็นคือท่านออนผู้สง่างามที่เขาเคารพงั้นรึ!? “ขะ.. ขออภัยท่านออน! ข้าไม่ทราบว่าเป็นท่าน..” เจ้าแมวดำฮึดฮัดก่อนจะถามเสียงแข็ง
”แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่กัน ข้าจำได้ว่าเขตของเจ้าไม่ใช่ที่นี่!”
”อา.. ข้าถูกสั่งย้ายมาขอรับ” เสียงนุ่มดูโล่งอกเมื่อเห็นว่า ออนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากกับกริยาในตอนแรกของเขา “ท่านซาเฟียร์เองก็มาทำงานที่เขตนี้เช่นกันหรือขอรับ” ยมทูตหนุ่มหันไปถามซาเฟียร์ที่นิ่งเงียบมานาน
”
.
.
.”
ไม่มีเสียงตอบรับจากสิ่งมีชีวิตที่ท่านเรียก.... ซาเฟียร์ยังคงเพ่งมองไปยังเครื่องบินที่พึ่งออกบินไปราวกับจะจดจำราวละเอียดทั้งหมดไว้ให้ขึ้นใจ ยมทูตหนุ่มดูจะเอ๋อไปซักพัก ออนคงรำคาญท่าทีเช่นนั้น เขาจึงตอบคำถามแทนซาเฟียร์ บุคคลผู้ไม่เคยฟังสิ่งที่ตนไม่สนใจ
“ซาเฟียร์ไม่มีอาณาเขตเป็นของตนเอง เธอมีสิทธิ์นำทางวิญญาณทุกดวงในโลกนี้ให้ไปสู่ดินแดนแห่งนั้น” เสียงอธิบายราบเรียบแต่ทำให้คนฟังประหลาดใจจนเกือบจะถามต่อ ทว่าเขาเหลือบเห็นหูที่ไวต่อเสียงของแมวดำกระดิกเล็กน้อย ยมทูตหนุ่มจึงชะงัก ดวงตาสีอำพันของออนจ้องมองเครื่องบินที่กำลังจะออกลำต่อไปอย่างไม่วางตา เช่นเดียวกับซาเฟียร์
ตูม!!!?
03/01/07
HAPPY NEW YEAR นะคะทุกคน วันปีใหม่ไปเที่ยวไหนกันบ้างรึเปล่าเอ่ย? ระวังกันหน่อยนะเพราะว่า เหตุการ์ณบ้านเมืองตอนนี้ไม่ค่อยสงบซักเท่าไหร่ - -*
เทศกาลปีใหม่หมดสนุกเลย มีคนตายเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก ไม่รู้เมื่อไหร่สถานการ์ณมันจะดีขึ้นเนอะ เบื่อจังเลย T_T
แฮ่ๆ ตอนแรกกะตุนเก็บไว้ แต่พอเห็นมีคนอ่านแล้วก็อดใจไม่ไหว ต้องเอามาลงจนได้ >w<
ยินดีที่ได้รู้จักนักอ่านทุกท่านนะคะ ^o^
ความคิดเห็น