ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Angel of Death] พวกเรา คือ ยมทูต!!

    ลำดับตอนที่ #2 : หญิงสาวและแมวดำ

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 50



    บทที่ 1

                โนเอลเด็กสาวผมทองคนหนึ่งตะโกนเรียกเพื่อนที่เดินไปทางประตูโรงเรียน   โนเอลหันตามเสียงเรียก   ผมสีเพลิงนุ่มสลวยของเธอถูกมัดรวบเป็นทรงหางม้าและมีโบสีขาวผูกทับหนังยางตามระเบียบของโรงเรียนทุกประการ   ชุดนักเรียนแบบกะลาสีดูเข้ากับหุ่นบางอรชรเป็นอย่างดี   ดวงตาสีเขียวมรกตสะท้อนภาพของเพื่อนที่วิ่งตามมา

                    มีอะไรเหรอ   ลัดดาโนเอลถาม   เธอเอียงคอน้อยๆตามความเคยชิน  

                    วันนี้จะกลับด้วยน่ะลัดดาเว้นวรรคหายใจก่อนพูดต่อไป   ฉันกะจะบอกตั้งแต่พักกลางวันแล้วแต่หาตัวเธอไม่เจอ..   ไปอยู่ไหนมาน่ะโนเอลยิ้มบางให้เพื่อนสาวพลางออกเดินต่อ  

                    ดาดฟ้าเหมือนเดิมแหละ   ที่นั่นเงียบดีโนเอลตอบ   ตอนกลางวันที่นั่นไม่มีคนอื่นนอกจากเธอ   ดาดฟ้าโรงเรียนเลยกลายเป็นที่สิงสถิตสำหรับโนเอลไปโดยปริยาย  

                    ก็ที่นั่นไม่ค่อยมีอะไรมารบกวนเธอนี่นา..   ไม่เหมือนที่อื่นๆ

                    คิดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่   แม้แต่ตอนนี้เธอก็ยังเห็น...   อะไรน่ะเหรอ?   ก็สิ่งที่เรียกว่า...   วิญญาณไงล่ะ   มันเหมือนจะตามเธอไปทุกหนทุกแห่งเลยก็ว่าได้  

                    เป็นอะไรรึเปล่า?   หน้าตาเครียดๆลัดดายังคงถามต่อไป   โนเอลหันมายิ้มให้เพื่อนสนิท   ไพล่ไปตอบเรื่องอื่นทันใด

                    ฉันไม่อยากให้แม่ไปอยู่กับพ่อน่ะลัดดาเลิกคิ้ว   ส่ายหน้าน้อยๆ   พ่อแท้ๆของโนเอลเสียไปตั้งแต่เธอยังเด็กๆ   ส่วนแม่ก็เพิ่งแต่งงานใหม่กับนักธุรกิจแนวหน้า   พ่อเลี้ยงของโนเอล..   เขาไปลงทุนธุรกิจที่ต่างประเทศ   และเนื่องจากอะไรต่อมิอะไรยังไม่เข้าที่เข้าทางจึงต้องอยู่คุมงานที่นั่นไปก่อน  

                    โนเอลบอกเธอว่า   เมื่อไม่นานมานี้แม่ของโนเอลได้รับจดหมายจากสามีใหม่ว่า   อยากให้ไปอยู่ด้วยกันที่นั่นเสียเลย   แต่ลัดดารู้ดี..   นั่นไม่ใช่เรื่องที่เพื่อนของเธอกังวล   เพราะโนเอลไม่ได้มีท่าทีต่อต้านการแต่งงานใหม่ของแม่แต่อย่างใด   และการไปอยู่ครั้งนี้ก็เพียงแค่สองสามเดือนเท่านั้น  

                    ไม่ใช่ลัดดาว่าเสียงแข็ง   พลางจ้องหน้าโนเอลที่ยิ้มแห้งเขม็ง   มีเรื่องอื่นใช่มั้ย!   เรื่องวิญญาณพวกนั้นเหรอ?ประโยคสุดท้ายลดเป็นเสียงกระซิบ   เรื่องการเห็นอะไรพวกนี้ไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับคนทั่วไป   คนอื่นอาจเห็นว่าโนเอลเพ้อเจ้อแต่ลัดดาเข้าใจ   เธอเองก็มีเซนส์ในเรื่องนี้เพียงแต่ไม่มากเท่าโนเอล   แค่รู้สึกได้แต่ไม่ถึงกับ   เห็นเป็นตัวเป็นตน

                    ฉันจะปิดอะไรเธอไม่ได้เลยใช่มั้ยเนี่ยโนเอลว่าเสียงกลั้วหัวเราะ   แม้จะพูดอย่างนั้นแต่เธอดีใจอยู่ลึกๆที่ลัดดารู้สาเหตุ  

                    ก็ไม่ต้องปิดสิเจ้าคะ   เพื่อนกันนะมีอะไรก็บอกกันได้ทุกเรื่องแหละ   รับรอง!   ยัยลัดดาปิดปากสนิท!” ลัดดาออกแอคติ้งประกอบการพูดจนโอเว่อร์   โนเอลจึงระเบิดเสียงหัวเราะร่วน  

                    ยังไงซะอยู่กับลัดดาก็สนุกที่สุดจริงๆด้วย...

     

                กว่าจะถึงบ้านก็เย็นแล้ว..   ท้องนภามืดเร็วกว่าปกติเพราะเป็นช่วงปลายปี   เด็กสาวทั้งสองจึงรีบเร่ง   บ้านของลัดดาอยู่ในซอยลึก   ส่วนบ้านโนเอลนั้นอยู่หัวมุมหน้าปากซอยบ้านของลัดดาพอดี
                    บายโนเอลโบกมือลาเพื่อนสาวหน้าร้าน   coffee   shop   ร้านใหญ่ที่ดูโด่ดเด่นสะดุดตาผู้คน   นี่เป็นบ้านของเธอ   ร้านกาแฟที่แม่กับเธอร่วมมือกันตั้งขึ้นมา   ทว่าระยะหลังนี้เปิดร้านไม่บ่อยนักเนื่องจากแม่ของเธอเริ่มไปช่วยงานที่บริษัทและลัดดาก็ต้องไปเรียนนั่นเอง

                    เดี๋ยวๆ   โนเอล   พรุ่งนี้สอบเสร็จแล้วไปเที่ยวกันหน่อยเปล่า?ลัดดาหันมาชวนก่อนที่เพื่อนของเธอจะเปิดประตูเข้าไป   โนเอลครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งจึงตอบออกมา

                    ดูก่อนแล้วกัน   พรุ่งนี้ต้องไปส่งแม่ด้วยเธอว่า   ลัดดาพยักหน้าเข้าใจ

                    เจอกันพรุ่งนี้น้า!!”

                    กริ๊ง..

                    เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นเมื่อโนเอลผลักประตูกระจกเข้าไป   มีลูกค้าอยู่เพียงสองโต๊ะ   พวกเขานั่งจิบกาแฟรสดีอย่างดื่มดำ   สายตาของเธอเหลือบไปเห็นลูกค้าสาวที่แต่งตัวประหลาดกว่าใครเขา   เธอคนนั้นใส่หมวกแม้อยู่ในร้านกาแฟ   เสื้อแขนตุ๊กตาสีขาวรัดต้นแขนเรียวให้ส่วนหัวไหล่พองนิดๆ   แล้วปล่อยยาวลงมีเกือบมิดมือ   ช่วงอกลงไปเป็นเนื้อผ้าสีดำประดับด้วยลูกไม้สีเดียวกัน   กระโปรงบานออกสั้นคลุมเข่าพอดี   ถูงเท้าสีดำยาวขึ้นมาปิดหัวเข่า   หันซ้ายหันขวาเหมือนคนแปลกที่อย่างไรชอบกล

                    สวย..   หน้าสวยหยั่งกับตุ๊กตา   แต่..   เธอไม่รู้รึไงนะว่าร้านกาแฟห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามา   เจ้าของร้านขมวดคิ้วชั่วครู่ก่อนเผยรอยยิ้มน่ารัก  

                    เอาเถอะ..   เห็นว่าเป็นแมวดำนะเนี่ย  

                    โนเอลเดินเข้าไปหลังร้านเปลี่ยนยูนิฟอร์มของโรงเรียนเป็นเสื้อยืดกางเกงยีนและผ้ากันเปื้อนรูปแมวดำ   ตัวนี้เป็นลายโปรดเธอเลย   ว่าแต่แม่เธออยู่ไหนกันนะ   ปรกติจะต้องอยู่เฝ้าเคาท์เตอร์ไม่ใช่เหรอ  

                    เมื่อเด็กสาวเดินออกมาคนที่แต่งตัวประหลาดตาก็ยังยืนอยู่   เธอยังไม่ได้สั่งเครื่องดื่มอะไร   เจ้าของนัยน์ตาสีมรกตจึงเดินเข้าไปหา   แต่...

                    เก็บเงินครับชายหนุ่มใส่ชุดสูทว่า  

                    ค่ะโนเอลพยักหน้ารับก่อนเดินเข้าไป

                    เอสเพรสโซ่กับขนมปังหนึ่งชุดใช่มั้ยคะโนเอลอ่านใบเสร็จแล้วพูดทวน   มีอยู่หลายครั้งเหมือนกันที่พนักงานในร้านให้ใบเสร็จผิดโต๊ะ   แต่ว่านั่นเป็นเรื่องที่เกิดกับสาขาย่อย   สาขาหลักเธอกับแม่เป็นคนจัดการเอง   แล้วแม่ก็ค่อนข้างรอบคอบกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้มากจึงไม่ค่อยมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นสักเท่าไหร่

                    ทั้งหมดห้าสิบห้าบาทค่ะเธอรับเงินมาจากชายหนุ่มอย่างสุภาพ   ก่อนที่เขาจะลุกออกไป   โนเอลหันไปทางโต๊ะของหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง   เมื่อจะเดินเข้าไปเธอก็ชะงักเนื่องจาก...

                    พวกมนุษย์นี่หัวศิลป์ดีเหมือนกันนะหญิงสาวคนนั้นเปิดปากพูดขึ้นหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้

                    โนเอลกวาดตามองรอบตัวคนเอ่ยวลีประหลาด   เธอพูดกับใคร?   และที่สำคัญเมื่อกี้ใช้คำว่า   พวกมนุษย์   งั้นเหรอ?

                    หึ..   ไม่เห็นจะสวยตรงไหนโนเอลยิ่งผงะเมื่อแมวตัวน้อยที่เธอคิดว่าน่ารักเปิดปากพูด

                    มะ...   แมวพูด..ได้?เจ้าของร้านครางเสียงเบา   โนเอลมองหญิงสาวกับแมวดำที่พร้อมใจจ้องมาที่เธอ   หรือนี่จะเป็นความฝัน?

                    ออน..   มนุษย์นี่เห็นพวกเราด้วยเหรอซาเฟียร์เปิดปากพูดอย่างไม่เดือดร้อน   ดวงตาสีดำสวยเหลือบดูมนุษย์ที่มองเห็นเธอ   แต่ออนและโนเอลกำลังอยู่ในอาการเดียวกันคือ   เป็นใบ้ชั่วคราว!

                    กริ๊ง..

                    ประตูร้านเปิดขึ้นอีกครั้งโดยหญิงวัยกลางคน   เธอใส่ชุดอยู่บ้านเรียบง่ายหิ้วถุงกับข้าวมาสองสามอย่าง   โนเอลหันไปหาพลางร้องเรียก

                    แม่!!” เธอร้องพลางชี้มือชี้ไม้ไปยังแมวตัวปัญหา   แมวพูดได้!” แม่ของเธอมองตามมือแล้วก็ขมวดคิ้ว  

                    ลูกหมายถึงอะไรโนเอล?   ก็ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา

                    มะ..ไม่มีเหรอ?โนเอลมองไปยังหญิงสาวและแมวของเธอ   แต่สองคนนั้นก็ยังอยู่   ผู้หญิงคนนั้นก็ยังนั่งหาวได้หน้าตาเฉย   แมวประหลาดนั่นก็ยังนั่งนิ่ง

                    เป็นอะไรรึเปล่า   หือ?คนเป็นแม่วางของบนเคาท์เตอร์แล้ววกกลับมาใช้มืออังหน้าผากลูกสาวเพื่อวัดไข้   ก็ไม่เป็นอะไรนี่นา

                    โนเอลเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง   บางที...   หญิงสาวคนนั้นกับแมวอาจจะเป็นวิญญาณ   และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแม่ของเธอถึงมองไม่เห็น

                    วิญญาณ...   แต่ทำไมเห็นชัดอย่างนี้ล่ะ   ทุกทีจะเป็นแค่เงามัวๆแท้ๆ   คิดพลางเหลือบมองสองวิญญาณในร้านแต่ทว่าคราวนี้มองหาที่ไหนก็ไม่พบ!

                    ปวดหัวรึเปล่า?   รีบไปนอนเถอะไปพรุ่งนี้ต้องสอบอีกนี่นา?เสียงของผู้หญิงที่เธอรักที่สุดดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท  

                    อะ..   อ่าโนเอลเริ่มคิดหาเรื่องเบี่ยงเบนประเด็น   แหะๆ   หนูคง..   เอ่อ   ฝันไปล่ะมั้ง?   ว่าแต่แม่ไปไหนมาเหรอคะ

                    แม่ของเธอยังขมวดคิ้วอยู่นิดๆราวกับยังไม่หายกังวล   แต่ก็ยอมตอบลูกสาวแต่โดยดี   ก็ไปซื้อกับข้าวน่ะสิ   ถามอะไรแปลกๆนะเรา

                    อ๋อ..   แม่มองโนเอลซักพักแล้วดึงตัวลูกสาวเข้ามากอดไว้   โนเอลยิ้ม   เธอรู้สึกประหลาดใจนิดๆเพราะส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายเธอที่ชอบเข้าไปอ้อนแม่

                    แม่ไปพรุ่งนี้แล้วนะ   โนเอล

                    แม่..   ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ?เด็กสาวถามอย่างมีความหวัง   เธอเกลียดการอยู่คนเดียว   มันทั้งเหงาและอ้างว้าง...

                    แม่ไปไม่นาน   แค่สองเดือนเองแม่ของเธอทอดเสียงอ่อนโยน   โนเอลย่นหน้า

                    แต่หนูเหงานี่นา

                    แม่รู้ว่าลูกเหงา   แต่เข้าใจหน่อยนะ..   พ่อเขาก็เหงาเหมือนกัน   เขาอยู่คนเดียวมาตั้งปีนึงเลยนะ   แล้วแม่ก็ไปหาเขาแค่สองเดือนหลังจากนั้นเขาก็ต้องอยู่คนเดียวอีกคนเป็นลูกถอนหายใจหนักหน่วง   เธอรู้ดี...   แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่อยากให้ไป   มันเหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่าง...

                    ว่าจะไม่ได้พบแม่อีก...

     

                อารมณ์ของหญิงสาวเริ่มไม่คงที่มากขึ้นเมื่อเจ้าแมวดำสั่งให้เธอรีบออกไปจากที่นั่น   นับกันตามศักดิ์แล้ว   ออนไม่มีสิทธิ์สั่งเธอแม้แต่นิดเดียว

                    ถ้าหมายถึง   เมื่อก่อนน่ะนะ...

                    แววตาลึกลับน่าค้นหาหมองลงชั่วครู่ก่อนจะเกลื่อนด้วยความไม่ชอบใจ   แมวตัวน้อยเดินต่อไปเรื่อยๆโดยไม่มีจุดหมาย   เจ้าตัวคิดแต่ว่าตนเองกำลังฝันไป!  

                    แค่มนุษย์มองเห็น   มันน่าตกใจงั้นหรือซาเฟียร์ถามแทรกระหว่างที่แมวตัวน้อยพยายามบอกให้ตัวเองลืมตาตื่นขึ้น!!

                    เจ้า..   ซาเฟียร์   เจ้าไม่รู้หรือ   ว่าโดยทั่วไปแล้วมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นเราได้?เสียงเครียดๆดังขึ้น   พร้อมส่ายหน้า   เอาเถอะ..   เข้าเรื่องงานดีกว่า   เจ้าจะต้องส่งวิญญาณของมนุษย์ไปยังที่ๆควรจะไป...   เข้าใจใช่มั้ยว่ามันหมายถึงที่ไหน?ซาเฟียร์พยักหน้าส่งๆไปอย่างนั้น   คนอธิบายมองไม่ออกเลยว่าเธอกำลังฟังอยู่รึเปล่า   ออนก็ได้แต่ปลงเพราะอย่างไนเสียซาเฟียร์ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว   สนใจเฉพาะในเรื่องที่อยากสนเท่านั้น...

                    ครบจำนวนเมื่อไหร่   เธอก็จะไม่ใช่ยมทูตฝึกหัดอีกต่อไปออนทอดเสียงอ่อนโยน   ทว่าซาเฟียร์ไม่ได้ฟัง!   หญิงสาวชี้ไปยังต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ที่ตั้งตระหง่านและโดดเด่นด้วยแสงไฟ  

                    นั่นอะไรน่ะน้ำเสียงเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น   แม้เจ้าตัวจะพยายามไม่แสดงออกทางสีหน้า   ประกายตาสุกใสของแมวดำสะท้อนภาพหญิงสาวที่มองต้นคริสต์มาสอย่างไร้เดียงสาแล้วก็อ่อนใจ  

                    ต้นคริสต์มาส...   ในวันคริสต์มาสคนในครอบครัวมักจะร่วมกันตกแต่งต้นสนให้สวยงาม   เป็นวันระลึกถึงศาสดาของพวกเขาออนอธิบายละเอียดยิบ   ซาเฟียร์พยักหน้าก่อนถามคำถามที่ออนอยากโดดน้ำฆ่าตัวตายขึ้นมาทันใด!

    ทำไมพวกเราไม่มีวันนรกบ้างล่ะ

     

                หลังจากเกือบสติแตกเพราะการสอนเรื่องราวบนโลกให้ซาเฟียร์แล้ว   ออนก็แทบหมดแรง   ซาเฟียร์ถามนู่นถามนี่ตลอดเวลา   แล้วเขาก็ไม่ใช่ปรมาจารย์ด้านการดำรงชีวิตของมนุษย์เสียด้วย!

                    วันนี้..   กลับแล้วเหรอยมทูตสาวหันมาถามไกด์ทัวร์โลกมนุษย์   ออนพยักหน้าเหนื่อยๆ  

                    ไว้พรุ่งนี้เจ้าค่อยเริ่มงาน

                    แต่ข้ายังอยากอยู่ต่ออีกหน่อยเสียงหวานเอ่ยราวกับจะขอร้อง   ทั้งที่ก่อนหน้านี้ซาเฟียร์ถือเรื่องนี้มาก   ทั้งที่ไม่เคยขอร้องใคร...   ยิ่งได้ฟังอารมณ์กรุ่นก็ยิ่งก่อตัวขึ้นในใจของแมวดำ

                    ถ้าเพียงแต่เขาไม่ละเลยหน้าที่!!

                    ข้าเกรงว่าจะให้เจ้าอยู่ต่อไม่ได้   ซาเฟียร์   จำคำข้าไว้เถิดออนเว้นวรรค   ใช้สายตาดุดันที่ทำให้ยมทูตหลายคนเกรง   แต่ทว่าไม่เคยใช้ได้กับซาเฟียร์   หญิงสาวขบกรามแน่นเพราะรู้ในสิ่งที่ออนจะพูดต่อไป  

                    เจ้าจะไม่มีวันได้เจอคนผู้นั้นอีก...   ตลอดกาลเลยล่ะ

     

                คนที่สนามบินไม่แน่นเท่าไหร่นัก   เพราะว่าไม่ใช่ช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว   หลังจากส่งแม่แล้วเด็กสาวก็ยังเตร็ดเตร่อยู่ในสนามบิน  

                    ยังไม่อยากกลับบ้าน...   ถึงเธอจะกลับไป   เธอก็ต้องอยู่เพียงลำพังในร้านกาแฟที่เงียบเหงานั่น  

                    เด็กสาวได้แต่ถอนหายใจกับความคิดของตัวเอง   รอยยิ้มเล็กๆระบายบนใบหน้างาม   โนเอลส่ายหัวกับความคิดเด็กๆของตัวเองแล้ววกกลับไปที่ประตูทางออกซึ่งเธอตั้งใจจะเดินเลยไป   โบกแท็กซี่ขึ้นเพื่อจะกลับบ้าน   แต่ทว่าบนรถที่เปิดเพลงคลอเบาๆก็ยังเงียบเกินไปสำหรับเด็กสาว

                    โทรหาลัดดาดีกว่า..

                    ไวเท่าความคิด   โนเอลหยิบมือถือกดหาเพื่อนสาวทันที   แต่ลัดดาปิดมือถือ   โนเอลนิ่วหน้านิดหน่อยก่อนจะจำได้ว่าเพื่อนสาวไปดูหนังกับคนอื่นๆในห้อง   เสียงถอนหายใจจึงดังขึ้น   นัยน์ตาคู่สวยเหลือบเห็นสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ผ่านกระจกใสของรถ!

                    ภาพหญิงสาวชุดดำกำลังวิ่งไปบนอากาศ   และภาพผู้คนที่เดินขวักไขว่อย่างไม่สนใจหญิงสาวคนนั้น   พวกเขาทำราวกับว่ามันเป็นสิ่งปกติ   ไม่สิ!   ราวกับไม่เห็นหญิงสาวคนนั้นเลยต่างหาก  

                    โนเอลถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้ง   คงจะเป็นวิญญาณอีกแล้วกระมัง?   เมื่อวานนี้เธอก็เห็นแล้วยังเมื่อกี้อีก   พักนี้เธอเห็นบ่อยขึ้นเรื่อยๆเลยทีเดียว

                    วันนี้มันวันอะไรกันนะ..?

     

                ที่นี่เหรอ..?เสียงเหม่อลอยดังมาจากหญิงสาวที่ไม่มีใครมองเห็น   ซาเฟียร์เริ่มชินกับการที่ผู้คนเดินทะลุตัวเธอไปจึงไม่ได้โวยวายอย่างเมื่อวาน  

                    ใช่คำตอบสั้นๆดังมาจากแมวดำตัวน้อย   ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเริ่มงาน   ออนจึงตัดสินใจปล่อยให้หญิงสาวมองนู่นมองนี่จนกว่าจะพอใจ   ซาเฟียร์ก้มมองแม้แต่พื้นหินอ่อนกว้างใหญ่ที่สะท้อนใบหน้านวลของเธอ   รวมถึงบันไดเลื่อนที่แสนจะธรรมดาสำหรับออนซึ่งลงมาบนโลกบ่อยๆ

                    ออนนำเธอออกมายังลานกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา   วัตถุประหลาดขนาดใหญ่มากมายเรียงตัวกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ   เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ดังขึ้นเมื่อมันออกวิ่งไปตามทางและลอยขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ   เมื่อมาถึงตัวยมทูตมันก็ทะยานขึ้นพ้นความสูงของซาเฟียร์พอดี   เธอเงยหน้ามองอย่างตะลึง!!

                    ออน..   นี่เรียกว่าอะไรน่ะเจ้าของนัยน์ตาคู่สวยถามโดยไม่มองเจ้าแมวสีดำ   หากแต่ยังคงจ้องวัตถุประหลาดที่เริ่มไกลออกไปทุกที

                    มนุษย์เรียกว่าเครื่องบิน   พวกเขาไม่สามารถลอยตัวไปมาบนฟ้าได้เหมือนพวกเรา   จึงคิดค้นเครื่องบินขึ้นเพื่อความสะดวกในการคมนาคม

                    อ๋อ..  

                    เมื่อมองไปยังเบื้องบนสายตาของยมทูตสาวก็สะดุดกับชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำที่โผล่ขึ้นจากความว่างเปล่า   ชายคนนั้นเองก็ชะงักเช่นกัน   เขาลอยตัวลงต่ำก่อนจะคำนับให้เธออย่างสุภาพ

                    เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เจอท่าน   ท่านซาเฟียร์   ซาเฟียร์พยักหน้าช้าๆแม้จะจำชื่อคนตรงหน้าไม่ได้ก็ตาม   เธอดูไม่แปลกใจกับการเคารพของผู้ที่เป็นยมทูตเต็มตัวตรงหน้า   กลับคุ้นเคยเสียด้วยซ้ำ   เอ่อ..   เหตุใดท่านจึงมากับเจ้าแมวดำตัวนี้   ท่านออนหายไปไหนเสียล่ะขอรับ?” ตาใสซื่อของยมทูตกวางมองรอบกายหญิงสาวแล้วจึงถาม

                    แทนคำตอบซาเฟียร์ก้มมองแมวตัวน้อยที่เริ่มมีอาการยัวะ   กล้าเรียกข้าว่า   เจ้าแมวดำตัวนี้   งั้นเรอะ?   สัมมาคารวะของเจ้าหายไปไหนหมด!”

                    อะ..   เอ๋?ชายหนุ่มมีสีหน้าเลิกลั่ก   แมวดำที่เขาเห็นคือท่านออนผู้สง่างามที่เขาเคารพงั้นรึ!?   ขะ..   ขออภัยท่านออน!   ข้าไม่ทราบว่าเป็นท่าน..เจ้าแมวดำฮึดฮัดก่อนจะถามเสียงแข็ง

                    แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่กัน   ข้าจำได้ว่าเขตของเจ้าไม่ใช่ที่นี่!”

                    อา..   ข้าถูกสั่งย้ายมาขอรับเสียงนุ่มดูโล่งอกเมื่อเห็นว่า   ออนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากกับกริยาในตอนแรกของเขา   ท่านซาเฟียร์เองก็มาทำงานที่เขตนี้เช่นกันหรือขอรับยมทูตหนุ่มหันไปถามซาเฟียร์ที่นิ่งเงียบมานาน

                    ”….   ….   ….”

                    ไม่มีเสียงตอบรับจากสิ่งมีชีวิตที่ท่านเรียก....   ซาเฟียร์ยังคงเพ่งมองไปยังเครื่องบินที่พึ่งออกบินไปราวกับจะจดจำราวละเอียดทั้งหมดไว้ให้ขึ้นใจ   ยมทูตหนุ่มดูจะเอ๋อไปซักพัก   ออนคงรำคาญท่าทีเช่นนั้น   เขาจึงตอบคำถามแทนซาเฟียร์   บุคคลผู้ไม่เคยฟังสิ่งที่ตนไม่สนใจ  

                    ซาเฟียร์ไม่มีอาณาเขตเป็นของตนเอง   เธอมีสิทธิ์นำทางวิญญาณทุกดวงในโลกนี้ให้ไปสู่ดินแดนแห่งนั้นเสียงอธิบายราบเรียบแต่ทำให้คนฟังประหลาดใจจนเกือบจะถามต่อ   ทว่าเขาเหลือบเห็นหูที่ไวต่อเสียงของแมวดำกระดิกเล็กน้อย   ยมทูตหนุ่มจึงชะงัก   ดวงตาสีอำพันของออนจ้องมองเครื่องบินที่กำลังจะออกลำต่อไปอย่างไม่วางตา   เช่นเดียวกับซาเฟียร์

                ตูม!!!?

    +++++++++++++++++++++++++++++++

    03/01/07
    HAPPY  NEW  YEAR  นะคะทุกคน  วันปีใหม่ไปเที่ยวไหนกันบ้างรึเปล่าเอ่ย?  ระวังกันหน่อยนะเพราะว่า เหตุการ์ณบ้านเมืองตอนนี้ไม่ค่อยสงบซักเท่าไหร่  - -*

    เทศกาลปีใหม่หมดสนุกเลย  มีคนตายเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก   ไม่รู้เมื่อไหร่สถานการ์ณมันจะดีขึ้นเนอะ  เบื่อจังเลย  T_T


    แฮ่ๆ  ตอนแรกกะตุนเก็บไว้  แต่พอเห็นมีคนอ่านแล้วก็อดใจไม่ไหว  ต้องเอามาลงจนได้    >w<

    ยินดีที่ได้รู้จักนักอ่านทุกท่านนะคะ ^o^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×