ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่3 เปลวเพลิงชะโลมฝน
ตอนที่3 เปลวเพลิงชะโลมฝน
ถึงจะเตรียมใจไว้แล้ว  ถึงว่านั่นเป็นเพราะคำสาป  แต่ความรู้สึกผิด  ความรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ใช่แล้ว...มันเป็นความผิดของเขา  ความผิดของเด็กหนุ่มนามว่า โรแรนน์  วอลฮาร์ด  ผู้ที่ทำให้เกิดหายนะครั้งนี้ขึ้น
เท้าของเขาก้าวไป  ถอยออกจากสุดปลายตรอกที่ๆมองเห็นไฟลามเลียตัวบ้านราวกับกระแสน้ำพุ  ปลายเท้าของเขาขยับถี่  ออกวิ่งไปตามเส้นทางมืดมิดยามวิกาลของเมืองอันเงียบสงัด
ภายในหัวของเด็กหนุ่มอึงอลไปด้วยภาพเปลวเพลิงกับตัวบ้านที่กำลังมอดไหม้  แต่ไม่ใช่บ้านหลังนั้น  ไม่ใช่บ้านหลังที่เขาเพิ่งวิ่งจากมา  หากแต่เป็นบ้านอิฐสีเทาสูงตระหง่านโดดเด่นเหนือหลังใดๆในละแวกนั้น  บ้านที่มีหน้าต่างไม้สลักและพรมปูพื้นสีน้ำตาลหม่น  บ้านที่มีประตูหลังทอดยาวไปยังพื้นลาด  บ้านที่มีประตูหน้าเปิดสู่ตึกรามบ้านช่องหลังอื่นๆ  บ้านที่ตั้งอยู่สุดเขตแดนทางเหนือ  บ้านที่เขาสูญเสียไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว...
เด็กหนุ่มวิ่งเข้าไปยังตรอกๆหนึ่ง  วิ่งตรงไปข้างหน้าประมาณ 4 ช่วงตึกก็วกเลี้ยวอีกครั้ง  เขาไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน  แต่รู้ดีว่าควรจะไปทางใด  เพื่อจะได้พบกับคนพวกนั้น...มือเพลิง!!
โรแรนน์หยุดฝีเท้าลงหลังจากสิ้นสุดซอยสั้นๆ  เขายืนขวางอยู่กลางถนนซึ่งขนาบด้วยตึกอิฐทรุดโทรมทรงยุโรปกลาง  ที่นี่อยู่ห่างจากบริเวณไฟไหม้มาทางตะวันออกเฉียงเหนือราวครึ่งไมล์
เขามาถึงก่อน  มาดักหน้าไว้ได้  นั่นอาจเป็นเพราะอารมณ์ที่สั่งให้เขาวิ่งโดยไม่หยุด  เร็วและลืมความเหน็ดเหนื่อยไปจนหมด  มันเป็นอารมณ์แห่งความพลุ่งพล่าน  พร้อมจะทำลาย  แต่กลับทำให้อยากร้องไห้ในเวลาเดียวกัน  มันเป็นอารมณ์ที่เรียกว่า...ความแค้น
เงาตะคุ่มเดินอย่างไม่รีบเร่งมาตามเส้นทางสายหลัก  จากความไม่รีบร้อนนั้นแสดงให้เห็นความชะล่าใจของมนุษย์ที่ยังไม่รู้จุดจบของตัวเอง  พวกเขาคงดูจนแน่ใจแล้วว่า  ความเสียหายที่ก่อไว้นั้นให้ผลตามจุดมุ่งหมาย  และจะไม่ส่งผลร้ายใดๆติดตามพวกเขามา  แต่ในหลายๆตัวแปรนั้นก็ยังมีตัวแปรที่พวกเขาคาดไม่ถึงอยู่
ชายทั้งสองแต่งกายเลียนแบบชาวบ้าน  เป็นการพลางตัวที่แนบเนียน  และจะไม่มีใครสงสัยแน่ๆถ้าพวกเขาไม่สวมรองเท้าบูทหุ้มข้อ  ชาวบ้านธรรมดาไม่มีทางใส่รองเท้าบูทหุ้มข้อ  หรือจะพูดให้ถูกก็คือพวกเขาไม่มีเงินทองพอซื้อหามาใส่  ให้ดีที่สุดก็แค่รองเท้าหนังโคหรือควายแบบตัดเย็บหยาบๆ  แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเห็นเพียงรองเท้าสานจากเชือกเท่านั้น  พวกที่ใส่รองเท้าบูทน่ะมีแต่พวกทหาร  แถม 2 คนนี้ก็ยังเป็นแค่ทหารชั้นเลวอีกด้วย
แต่ก็นั่นแหละ  เพราะรองเท้าบูทของพวกเขา  เพราะสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นทหารของพวกเขา  เมื่อมาเจอกับ โรแรนน์  วอลฮาร์ด คนนี้  จากโทษสถานหนักก็เลยหนักขึ้นไปอีก
เด็กหนุ่มเหยียดยิ้ม  เป็นรอยเหยียดยิ้มจริงๆไม่ได้เสแสร้ง  ไม่ได้จงใจทำให้ไขว้เขว  แต่มันเป็นรอยยิ้มหยันในโชคชะตาอันอับเฉาของคน 2 คน
โรแรนน์ดึงไพ่ทาร็อต 3 ใบออกจากกระเป๋าเสื้อคลุม
The Megiccian...ไพ่แห่งปาฏิหาริย์
Hanged Man คนห้อยหัว
และ  The Devil ไพ่ของปีศาจ
“ ฝน... ” 
เสียงที่ดังเพียงกระซิบของเด็กหนุ่มจบลงพร้อมสายฝนซึ่งเริ่มโปรยปรายลงมา  เม็ดน้ำเย็นเฉียบกลั่นจากเมฆลงมากระทบยังผิวกายของเด็กหนุ่ม
...เม็ดฝนพวกนี้ คงพอจะช่วยดับไฟที่กำลังมอดไหม้ในเวลานี้ได้
“ ต่อไป...ถึงตาพวกแกแล้ว ” 
มีด 5 เล่มสาดไปข้างหน้าอย่างไม่ปรานีปราศรัย  ชาย 2 คนที่ไม่ได้เฉลียวใจกับเด็กหนุ่มตรงหน้าเลยตั้งรับได้อย่างชำนาญ  พวกเขาฟาดปลายเท้า 2-3 ครั้ง  เตะใบมีดลงกระแทกพื้น  แสดงให้เห็นฝีมือซึ่งฝึกปรือมาดีเกินคาด  ถึงจะเป็นทหารชั้นล่างแต่ก็คงสังกัดกับเจ้านายระดับสูง
“ อะไรของแกวะ!! ”  ชายหนึ่งในสองคนนั้นตะโกนก้อง  พยายามมองฝ่าสายฝนไปยังบุคคลซึ่งขวางทางอยู่  แถมมีแววว่าจะไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่
“ ก็ไม่มีอะไร..แค่ฉันเกลียดทหาร! ”
เด็กหนุ่มพุ่งตัวแหวกเม็ดน้ำเข้าหาเป้าหมาย  สองมือกระชับมีดแน่น  เขากระแทกปลายมีดในมือข้างซ้ายไปยังชายคนแรก  มันถูกปัดลง  แขนข้างซ้ายของเด็กหนุ่มถูกจับล็อคไว้  ข้อมือถูกหักจนมีดหลุดออก  ชายทหารเหวี่ยงขาเล็งเข้าข้างตัวของเด็กหนุ่ม  โรแรนน์กันมันไว้ด้วยมีดในมือข้างขวา  เขาเหยียดยิ้ม  ใบมีดจมมิดเข้าไปในน่องของชายคนนั้น  ไม่มีเวลาให้ดีใจกับการโจมตีสำเร็จครั้งแรก  โรแรนน์ชักมีดจากน่องของชายคนแรกเหวี่ยงกันมีดสั้นของชายคนที่สองซึ่งเข้ามาช่วยเหลือเพื่อน
คมมีดกับคมมีดปะทะกัน  เด็กหนุ่มเบี่ยงตัวหลบทหารคนแรกที่จะเข้ามาล็อคแขนอีกข้าง  เขาโยนตัวขึ้น  ยันเท้าข้างหนึ่งไปที่แผ่นหลังของชายซึ่งยังยึดแขนข้างซ้ายของเขาไว้  เสียงกล้ามเนื้อของเด็กหนุ่มบิดราวกับฉีกขาด  แต่ถ้าสายฝนไม่บดบังใบหน้าของเขาซะหมดล่ะก็  คงจะได้เห็น...รอยยิ้มเหยียดกว้างอย่างไม่แยแสความเจ็บปวด
เด็กหนุ่มหมุนแขนที่ถูกบิดแทบครบรอบของเขาเข้าที่  ทำให้แขนของชายซึ่งรั้งร่างของเขาไว้หักกลับแทน  เสียงกระดูกลั่นดังกรอบ  มีดสั้นของชายอีกคนปักมายังแขนข้างซ้ายของเด็กหนุ่ม  แทงทะลุเข้าไปในเนื้อ  เฉียดกระดูกแขนลึกลงไปเกือบ 3 นิ้ว
โรแรนน์แทงมีดในมือขวาทะลุปอดชายคนแรก  ยันตัวชายคนนั้นล้มลงไปข้างหน้า  ก่อนจะใช้ศอกข้างที่ถูกแทงกระทุ้งลิ้นปี่ของชายคนที่ 2  เหวี่ยงหลังมือที่ยังมีมีดเสียบคาอยู่เข้าบ้องหู  ทำเอาชายเจ้าของมีดสั้นหูอื้อ  เซถลา
เด็กหนุ่มคลายกล้ามเนื้อแขน  ค่อยๆดึงมีดสั้นออกแล้วปาทิ้ง  เขาแสยะยิ้มดั่งกับปีศาจที่กระหายการฆ่าจนไม่สนใจความเจ็บปวดของตนเอง 
“ ได้เวลา Hanged man จัดการห้อยหัว! ” 
ราวกับมีฝ่ามือใหญ่โตคว้าข้อขาทั้งสองข้างของชาย 2 คนไว้แล้วกระชากขึ้นสูง  เพียงวืดเดียวชายทั้งสองก็ลอยกลับหัวอยู่เหนือพื้น
ชายที่ถูกมีดแทงทะลุปอดแน่นิ่ง  เพียงแต่สลบไปเท่านั้นเพราะยังคงมีลมหายใจรวยรินอยู่  ชายอีกคนพยายามเหวี่ยงตัวโดยอาศัยแรงพยุงจากแขน  แต่แล้วแขนทั้งสองข้างของเขาก็ถูกกระชากไพล่ขัดกันไว้ด้านหลังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  เหมือนกับอากาศรอบตัวนั้นมีชีวิต  มีแขนมีขาที่จะพันธนาการเขาไว้ให้ห้อยหัวค้างอยู่กลางอากาศ
ชายที่ยังมีสติสบถไม่เป็นภาษา  เด็กหนุ่มเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ  เขามองเด็กหนุ่มตรงหน้าราวกับจ้องมองสัตว์ประหลาด  ปีศาจร้าย  หรือไม่ก็ภูตผี  แววตามีทั้งความหวาดกลัว  เกลียดชัง  และสับสนปะปนกัน  ขณะที่เสียงของตัวเองดังก้องอยู่ในโสตประสาท  สะท้อนกลับไปกลับมาเพียงคำพูดเดียว...
ต้องไม่ใช่ฝีมือคน!!!  มันไม่ใช่คน!!!!!
โรแรนน์เหวี่ยงกำปั้นเสยหน้าชายทหารซึ่งยังมีสติ  หวดปลายเท้าเข้าไปตรงซอกคอ  ก่อนจะกระชากคอเสื้อแล้วรัวกำปั้นซ้ำลงไปไม่ยั้ง  ชายคนนั้นตาเหลือกกลับ  สติสัมปชัญญะเริ่มริบหรี่
เด็กหนุ่มหยิบมีดที่เหลืออีก 2 เล่มจากใต้เสื้อคลุมเปียกโชก  ควงมันให้จับได้ถนัดมือ  จ่อปลายแหลมไปยังหัวใจของชายที่ถูกจับห้อยหัวทั้งสองคน  เขาออกแรงเล็กน้อยกดด้ามมีด  ปลายมีดแทงผ่านผ้าฝ้ายชุ่มน้ำที่ทั้งสองสวมใส่  สะกิดหนังกำพร้าบางเฉียบ  แหวกกรีดเนื้อแท้ผ่านชั้นไขมันสีขาว  สีแดงของเลือดซึมปริตรรามรอยกรีด  เสียงครางขอชีวิตของชายที่เหลือสติเพียงน้อยนิดดังแหลมสูงแสบแก้วหู  โรแรนน์กระตุกยิ้ม  ดวงตาอาบไปด้วยความปิติอย่างประหลาด  เขาเกร็งข้อมือพร้อมที่จะทุ่มแรงแหวกทะลุชั้นเนื้อเข้าไป!!
เสื้อคลุมเปียกชุ่มของเด็กหนุ่มถูกกระตุกอย่างแรง  ร่างๆหนึ่งเกาะรอบขาเขาไว้แน่น  เด็กหญิงผมดำกำลังมองเขาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำจากการร้องไห้  เธอจ้องมองขึ้นไปยังดวงตาสีนิลของเด็กหนุ่มที่บัดนี้ตระหนกราวกับเพิ่งรู้สึกตัว
...วิโนน่า
“ พะ...พี่ชาย..ย.... ”  เด็กน้อยคราง  น้ำตาของเธอไหลปนไปกับเม็ดฝน
โรแรนน์คลายมือออกจากมีดโดยอัตโนมัติ  มีดทั้งสองเล่มหลุดจากมือร่วงลงสู่พื้นนองไปด้วยน้ำ  พร้อมๆกับร่างของชายทหาร 2 คนซึ่งร่วงกระแทกพื้น  สลบไสลไม่ได้สติ
เด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่ง  เรี่ยวแรงซึ่งพลุ่งพล่านเมื่อครู่หายไปหมดสิ้น  ความเจ็บปวดจากแผลลึกที่แขนแผ่ซ่านไปทั่วตัว  เลือดไหลออกมาไม่ยอมหยุด  ละลายปนไปกับหยาดน้ำฝน  ซ้ำยังไม่สามารถเคลื่อนไหวแขนได้เพราะแรงปวดแปลบจากกล้ามเนื้อฉีกขาด
วิโนน่าซบลงในอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม  เสียงสะอึกสะอื้นไม่ดังไปกว่าเสียงซ่าของสายฝน  โรแรนน์โอบเธอไว้ด้วยแขนข้างขวาซึ่งยังขยับได้  เหม่อมองไปยังท้องฟ้ามืดสนิทซึ่งถูกแซมไปด้วยหยดน้ำใส
ฝนยังคงชโลมลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด  แต่ตัวเด็กหนุ่มกลับเพิ่งรู้สึกถึงความหนาวเย็นของหยาดฝนเหล่านี้
เขาเกือบจะกลายเป็นปีศาจไปแล้วจริงๆ..........  
ถึงจะเตรียมใจไว้แล้ว  ถึงว่านั่นเป็นเพราะคำสาป  แต่ความรู้สึกผิด  ความรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ใช่แล้ว...มันเป็นความผิดของเขา  ความผิดของเด็กหนุ่มนามว่า โรแรนน์  วอลฮาร์ด  ผู้ที่ทำให้เกิดหายนะครั้งนี้ขึ้น
เท้าของเขาก้าวไป  ถอยออกจากสุดปลายตรอกที่ๆมองเห็นไฟลามเลียตัวบ้านราวกับกระแสน้ำพุ  ปลายเท้าของเขาขยับถี่  ออกวิ่งไปตามเส้นทางมืดมิดยามวิกาลของเมืองอันเงียบสงัด
ภายในหัวของเด็กหนุ่มอึงอลไปด้วยภาพเปลวเพลิงกับตัวบ้านที่กำลังมอดไหม้  แต่ไม่ใช่บ้านหลังนั้น  ไม่ใช่บ้านหลังที่เขาเพิ่งวิ่งจากมา  หากแต่เป็นบ้านอิฐสีเทาสูงตระหง่านโดดเด่นเหนือหลังใดๆในละแวกนั้น  บ้านที่มีหน้าต่างไม้สลักและพรมปูพื้นสีน้ำตาลหม่น  บ้านที่มีประตูหลังทอดยาวไปยังพื้นลาด  บ้านที่มีประตูหน้าเปิดสู่ตึกรามบ้านช่องหลังอื่นๆ  บ้านที่ตั้งอยู่สุดเขตแดนทางเหนือ  บ้านที่เขาสูญเสียไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว...
เด็กหนุ่มวิ่งเข้าไปยังตรอกๆหนึ่ง  วิ่งตรงไปข้างหน้าประมาณ 4 ช่วงตึกก็วกเลี้ยวอีกครั้ง  เขาไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน  แต่รู้ดีว่าควรจะไปทางใด  เพื่อจะได้พบกับคนพวกนั้น...มือเพลิง!!
โรแรนน์หยุดฝีเท้าลงหลังจากสิ้นสุดซอยสั้นๆ  เขายืนขวางอยู่กลางถนนซึ่งขนาบด้วยตึกอิฐทรุดโทรมทรงยุโรปกลาง  ที่นี่อยู่ห่างจากบริเวณไฟไหม้มาทางตะวันออกเฉียงเหนือราวครึ่งไมล์
เขามาถึงก่อน  มาดักหน้าไว้ได้  นั่นอาจเป็นเพราะอารมณ์ที่สั่งให้เขาวิ่งโดยไม่หยุด  เร็วและลืมความเหน็ดเหนื่อยไปจนหมด  มันเป็นอารมณ์แห่งความพลุ่งพล่าน  พร้อมจะทำลาย  แต่กลับทำให้อยากร้องไห้ในเวลาเดียวกัน  มันเป็นอารมณ์ที่เรียกว่า...ความแค้น
เงาตะคุ่มเดินอย่างไม่รีบเร่งมาตามเส้นทางสายหลัก  จากความไม่รีบร้อนนั้นแสดงให้เห็นความชะล่าใจของมนุษย์ที่ยังไม่รู้จุดจบของตัวเอง  พวกเขาคงดูจนแน่ใจแล้วว่า  ความเสียหายที่ก่อไว้นั้นให้ผลตามจุดมุ่งหมาย  และจะไม่ส่งผลร้ายใดๆติดตามพวกเขามา  แต่ในหลายๆตัวแปรนั้นก็ยังมีตัวแปรที่พวกเขาคาดไม่ถึงอยู่
ชายทั้งสองแต่งกายเลียนแบบชาวบ้าน  เป็นการพลางตัวที่แนบเนียน  และจะไม่มีใครสงสัยแน่ๆถ้าพวกเขาไม่สวมรองเท้าบูทหุ้มข้อ  ชาวบ้านธรรมดาไม่มีทางใส่รองเท้าบูทหุ้มข้อ  หรือจะพูดให้ถูกก็คือพวกเขาไม่มีเงินทองพอซื้อหามาใส่  ให้ดีที่สุดก็แค่รองเท้าหนังโคหรือควายแบบตัดเย็บหยาบๆ  แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเห็นเพียงรองเท้าสานจากเชือกเท่านั้น  พวกที่ใส่รองเท้าบูทน่ะมีแต่พวกทหาร  แถม 2 คนนี้ก็ยังเป็นแค่ทหารชั้นเลวอีกด้วย
แต่ก็นั่นแหละ  เพราะรองเท้าบูทของพวกเขา  เพราะสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นทหารของพวกเขา  เมื่อมาเจอกับ โรแรนน์  วอลฮาร์ด คนนี้  จากโทษสถานหนักก็เลยหนักขึ้นไปอีก
เด็กหนุ่มเหยียดยิ้ม  เป็นรอยเหยียดยิ้มจริงๆไม่ได้เสแสร้ง  ไม่ได้จงใจทำให้ไขว้เขว  แต่มันเป็นรอยยิ้มหยันในโชคชะตาอันอับเฉาของคน 2 คน
โรแรนน์ดึงไพ่ทาร็อต 3 ใบออกจากกระเป๋าเสื้อคลุม
The Megiccian...ไพ่แห่งปาฏิหาริย์
Hanged Man คนห้อยหัว
และ  The Devil ไพ่ของปีศาจ
“ ฝน... ” 
เสียงที่ดังเพียงกระซิบของเด็กหนุ่มจบลงพร้อมสายฝนซึ่งเริ่มโปรยปรายลงมา  เม็ดน้ำเย็นเฉียบกลั่นจากเมฆลงมากระทบยังผิวกายของเด็กหนุ่ม
...เม็ดฝนพวกนี้ คงพอจะช่วยดับไฟที่กำลังมอดไหม้ในเวลานี้ได้
“ ต่อไป...ถึงตาพวกแกแล้ว ” 
มีด 5 เล่มสาดไปข้างหน้าอย่างไม่ปรานีปราศรัย  ชาย 2 คนที่ไม่ได้เฉลียวใจกับเด็กหนุ่มตรงหน้าเลยตั้งรับได้อย่างชำนาญ  พวกเขาฟาดปลายเท้า 2-3 ครั้ง  เตะใบมีดลงกระแทกพื้น  แสดงให้เห็นฝีมือซึ่งฝึกปรือมาดีเกินคาด  ถึงจะเป็นทหารชั้นล่างแต่ก็คงสังกัดกับเจ้านายระดับสูง
“ อะไรของแกวะ!! ”  ชายหนึ่งในสองคนนั้นตะโกนก้อง  พยายามมองฝ่าสายฝนไปยังบุคคลซึ่งขวางทางอยู่  แถมมีแววว่าจะไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่
“ ก็ไม่มีอะไร..แค่ฉันเกลียดทหาร! ”
เด็กหนุ่มพุ่งตัวแหวกเม็ดน้ำเข้าหาเป้าหมาย  สองมือกระชับมีดแน่น  เขากระแทกปลายมีดในมือข้างซ้ายไปยังชายคนแรก  มันถูกปัดลง  แขนข้างซ้ายของเด็กหนุ่มถูกจับล็อคไว้  ข้อมือถูกหักจนมีดหลุดออก  ชายทหารเหวี่ยงขาเล็งเข้าข้างตัวของเด็กหนุ่ม  โรแรนน์กันมันไว้ด้วยมีดในมือข้างขวา  เขาเหยียดยิ้ม  ใบมีดจมมิดเข้าไปในน่องของชายคนนั้น  ไม่มีเวลาให้ดีใจกับการโจมตีสำเร็จครั้งแรก  โรแรนน์ชักมีดจากน่องของชายคนแรกเหวี่ยงกันมีดสั้นของชายคนที่สองซึ่งเข้ามาช่วยเหลือเพื่อน
คมมีดกับคมมีดปะทะกัน  เด็กหนุ่มเบี่ยงตัวหลบทหารคนแรกที่จะเข้ามาล็อคแขนอีกข้าง  เขาโยนตัวขึ้น  ยันเท้าข้างหนึ่งไปที่แผ่นหลังของชายซึ่งยังยึดแขนข้างซ้ายของเขาไว้  เสียงกล้ามเนื้อของเด็กหนุ่มบิดราวกับฉีกขาด  แต่ถ้าสายฝนไม่บดบังใบหน้าของเขาซะหมดล่ะก็  คงจะได้เห็น...รอยยิ้มเหยียดกว้างอย่างไม่แยแสความเจ็บปวด
เด็กหนุ่มหมุนแขนที่ถูกบิดแทบครบรอบของเขาเข้าที่  ทำให้แขนของชายซึ่งรั้งร่างของเขาไว้หักกลับแทน  เสียงกระดูกลั่นดังกรอบ  มีดสั้นของชายอีกคนปักมายังแขนข้างซ้ายของเด็กหนุ่ม  แทงทะลุเข้าไปในเนื้อ  เฉียดกระดูกแขนลึกลงไปเกือบ 3 นิ้ว
โรแรนน์แทงมีดในมือขวาทะลุปอดชายคนแรก  ยันตัวชายคนนั้นล้มลงไปข้างหน้า  ก่อนจะใช้ศอกข้างที่ถูกแทงกระทุ้งลิ้นปี่ของชายคนที่ 2  เหวี่ยงหลังมือที่ยังมีมีดเสียบคาอยู่เข้าบ้องหู  ทำเอาชายเจ้าของมีดสั้นหูอื้อ  เซถลา
เด็กหนุ่มคลายกล้ามเนื้อแขน  ค่อยๆดึงมีดสั้นออกแล้วปาทิ้ง  เขาแสยะยิ้มดั่งกับปีศาจที่กระหายการฆ่าจนไม่สนใจความเจ็บปวดของตนเอง 
“ ได้เวลา Hanged man จัดการห้อยหัว! ” 
ราวกับมีฝ่ามือใหญ่โตคว้าข้อขาทั้งสองข้างของชาย 2 คนไว้แล้วกระชากขึ้นสูง  เพียงวืดเดียวชายทั้งสองก็ลอยกลับหัวอยู่เหนือพื้น
ชายที่ถูกมีดแทงทะลุปอดแน่นิ่ง  เพียงแต่สลบไปเท่านั้นเพราะยังคงมีลมหายใจรวยรินอยู่  ชายอีกคนพยายามเหวี่ยงตัวโดยอาศัยแรงพยุงจากแขน  แต่แล้วแขนทั้งสองข้างของเขาก็ถูกกระชากไพล่ขัดกันไว้ด้านหลังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  เหมือนกับอากาศรอบตัวนั้นมีชีวิต  มีแขนมีขาที่จะพันธนาการเขาไว้ให้ห้อยหัวค้างอยู่กลางอากาศ
ชายที่ยังมีสติสบถไม่เป็นภาษา  เด็กหนุ่มเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ  เขามองเด็กหนุ่มตรงหน้าราวกับจ้องมองสัตว์ประหลาด  ปีศาจร้าย  หรือไม่ก็ภูตผี  แววตามีทั้งความหวาดกลัว  เกลียดชัง  และสับสนปะปนกัน  ขณะที่เสียงของตัวเองดังก้องอยู่ในโสตประสาท  สะท้อนกลับไปกลับมาเพียงคำพูดเดียว...
ต้องไม่ใช่ฝีมือคน!!!  มันไม่ใช่คน!!!!!
โรแรนน์เหวี่ยงกำปั้นเสยหน้าชายทหารซึ่งยังมีสติ  หวดปลายเท้าเข้าไปตรงซอกคอ  ก่อนจะกระชากคอเสื้อแล้วรัวกำปั้นซ้ำลงไปไม่ยั้ง  ชายคนนั้นตาเหลือกกลับ  สติสัมปชัญญะเริ่มริบหรี่
เด็กหนุ่มหยิบมีดที่เหลืออีก 2 เล่มจากใต้เสื้อคลุมเปียกโชก  ควงมันให้จับได้ถนัดมือ  จ่อปลายแหลมไปยังหัวใจของชายที่ถูกจับห้อยหัวทั้งสองคน  เขาออกแรงเล็กน้อยกดด้ามมีด  ปลายมีดแทงผ่านผ้าฝ้ายชุ่มน้ำที่ทั้งสองสวมใส่  สะกิดหนังกำพร้าบางเฉียบ  แหวกกรีดเนื้อแท้ผ่านชั้นไขมันสีขาว  สีแดงของเลือดซึมปริตรรามรอยกรีด  เสียงครางขอชีวิตของชายที่เหลือสติเพียงน้อยนิดดังแหลมสูงแสบแก้วหู  โรแรนน์กระตุกยิ้ม  ดวงตาอาบไปด้วยความปิติอย่างประหลาด  เขาเกร็งข้อมือพร้อมที่จะทุ่มแรงแหวกทะลุชั้นเนื้อเข้าไป!!
เสื้อคลุมเปียกชุ่มของเด็กหนุ่มถูกกระตุกอย่างแรง  ร่างๆหนึ่งเกาะรอบขาเขาไว้แน่น  เด็กหญิงผมดำกำลังมองเขาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำจากการร้องไห้  เธอจ้องมองขึ้นไปยังดวงตาสีนิลของเด็กหนุ่มที่บัดนี้ตระหนกราวกับเพิ่งรู้สึกตัว
...วิโนน่า
“ พะ...พี่ชาย..ย.... ”  เด็กน้อยคราง  น้ำตาของเธอไหลปนไปกับเม็ดฝน
โรแรนน์คลายมือออกจากมีดโดยอัตโนมัติ  มีดทั้งสองเล่มหลุดจากมือร่วงลงสู่พื้นนองไปด้วยน้ำ  พร้อมๆกับร่างของชายทหาร 2 คนซึ่งร่วงกระแทกพื้น  สลบไสลไม่ได้สติ
เด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่ง  เรี่ยวแรงซึ่งพลุ่งพล่านเมื่อครู่หายไปหมดสิ้น  ความเจ็บปวดจากแผลลึกที่แขนแผ่ซ่านไปทั่วตัว  เลือดไหลออกมาไม่ยอมหยุด  ละลายปนไปกับหยาดน้ำฝน  ซ้ำยังไม่สามารถเคลื่อนไหวแขนได้เพราะแรงปวดแปลบจากกล้ามเนื้อฉีกขาด
วิโนน่าซบลงในอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม  เสียงสะอึกสะอื้นไม่ดังไปกว่าเสียงซ่าของสายฝน  โรแรนน์โอบเธอไว้ด้วยแขนข้างขวาซึ่งยังขยับได้  เหม่อมองไปยังท้องฟ้ามืดสนิทซึ่งถูกแซมไปด้วยหยดน้ำใส
ฝนยังคงชโลมลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด  แต่ตัวเด็กหนุ่มกลับเพิ่งรู้สึกถึงความหนาวเย็นของหยาดฝนเหล่านี้
เขาเกือบจะกลายเป็นปีศาจไปแล้วจริงๆ..........  
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น