คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : สมาชิกของเเฟมิเลีย
หลังจากที่ตัวของไคลน์นั้นได้ออกจากกิลด์เเล้วมายังปราสาทต้นกำเนิดได้เเล้วนั้นชื่อเสียงของไคลน์ในฐานะเทพที่เป็นเพื่อนของโลกิเเละหนึ่งในเทพที่เเข็งเเกร่งก็ได้กลายเป็นข่าวใหญ่สำหรับนักผจญภัยไปในที่สุด
เพราะว่าการที่มีเทพที่ไม่ได้ใช้พลังของเทพเลยเเม้เเต่น้อยเต่กลับสามารถชนะสมาชิกของโลกิเเฟมิเลียลงไปได้นั้นมันเป็นอะไรที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเเฟมิเลียที่เเข็งเเกร่งที่สุดเเละสมาชิกคนล่าสุดอย่างองค์หญิงดาบหรือชื่อจริงอย่างไอซ์ วาเลนสไตร์นที่เป็นถึงLevel5อีกต่างหาก
เเล้วไหนจะเรื่องที่ตัวของไคลน์นั้นที่เรียกได้ว่าเป็นเทพที่ไม่ได้มีข้อมูลอะไรอยู่เลยเเม้เเต่น้อยเเม้ว่าจะไปถามกับเทพที่ดูเเลเเฟมิเลียของตนเองดูเเล้วเทพพวกนั้นก็จะตอบกลับมาเป็นเสียงเดียวกันว่าตัวของไคลน์นั้นถือว่าเป็นเทพที่ลึกลับที่สุดเพราะว่าขนาดตอนอยู่บนสวรรค์ก็ไม่ค่อยจะโผลาหนเาออกมาเท่าไหร่เเต่อีกฝ่ายนั้นเเข็งเเกร่งกว่าพวกเทพชั้น1บางองค์เลยด้วยซ้ำเรื่องนี้พวกเทพยื่นยันกับปากของตัวเอง
มันจึงกลายเป็นว่าตอนนี้พวกนักผจญภัยหน้าใหม่ทั้งหลายนั้นก็ล้วนอยากจะไปเข้าเเฟมิเลียของไคลน์กันทั้งนั้นเเต่ก็ไม่สามารถเข้าไปขอเข้าได้เพราะป่าที่ปราสาทต้นกำเนิดมันตั้งอยู่นั้นไคลน์ได้สร้างสัตว์อสูรมาเป็นบททดสอบเอาไว้เเต่สัตว์อสูรพวกนั้นหาใฟ้เทียบกันจริงๆก็ฆ่าได้ง่ายๆเลยด้วยซ้ำเพราะมันอ่อนเเอมาก
เเต่ตัวของไคลน์นั้นก็คาดการณ์ผิดไปอย่างหนึ่งก็เรื่องความเเข็งเเกร่งของคนที่จะมาขอเข้าเเฟมิเลียของเขานั้นเองเพราะว่าไม่มีใครสามารถผ่านบททดสอบได้เลยเเม้เเต่คนเดียวจนตัวของไคลน์นั้นถึงกับต้องถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
“ดูเหมือนสัตว์อสูรพวกนั้นคงจะเเข็งเเกร่งเกินไป…ชั้งมันเเล้วกันตอนนี้ขอใช้เวลาในการลองหาสาเหตุของการที่เรารู้สึกว่าโอสถย่อยก่อนดีกว่า…”ไคลน์
ไคลน์นั้นได้ทำการเรียกเก้าอี้เเละโต๊ะไม้สีน้ำตาลเข็มออกมาก่อนที่จะทำการนั่งลงพร้อมกับทำการใช้นักถอดรหัสพร้อมกับใช้หอคอยสีขาวในการหาสาเหตุในการที่ตัวของไคลน์นั้นรู้สึกว่าโอสถมันกำลังย่อยเเต่มันก็น้อยมากๆ
ตัวของไคลน์นั้นก็ได้ตกอยู่ในห่วงความคิดจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเเค่ไหนจนตัวของไคลน์นั้นได้ลืมตาขึ้นเเต่น่าจะนานพอสมควรเพราะว่าจากตอนเเรกที่ข้างหน้าปราสาทต้นกำเนิด(ปลอม)นั้นไม่มีพวกต้นไม้ใบหญ้าเลยเเม้เเต่น้อยเพราะตัวของไคลน์นั้นได้ทำการเปลี่ยนมันไปเเต่ตอนนี้พวกมันกลับมีเสียอย่างงั้น
“…ดูเหมือนว่าเราจะอยู่ในห่วงความคิดนานเกิดไป…เเต่ก็ยังไม่มีมนุษย์เลยเเม้เเต่คนเดียวที่ผ่านเข้ามาได้…”ไคลน์
ตัวของไคลน์ที่เห็นเเบบนั้นก็ได้ทำหน้าครุ่นคิดอนู่สักพักว่าจะเอาอย่างไรดีก่อนที่จะมีความคิดที่สุดเเสนจะสร้างสรรขึ้นมาในหัวของไคลน์
“ในเมื่อไม่มีใครสามารถผ่านเข้ามาเเละให้เราดูคุณสมบัติได้…งั้นเราก็เเค่ต้องไปดูคุณสมบัติของพวกเขาเเทนเเละค่อยชักชวนก็จบ”ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นได้ทำการใช้อำนาจของประตูในการเคลื่อนย้ายตัวเองไปยังหมู่บ้านห่างใกล้ต่างๆหรือเเม้เเต่ในโซนต่างๆของเมืองตัวของไคลน์นั้นไปมาหมดโดยกลุ่มคนที่ตัวของไคลน์นั้นจับตามองก็คือคนที่โดนทอดทิ้งหรือไม่มีที่ไปเพราะโดยส่วนใหญ่หากอ้างอิงจากพวกนิยายในโลกเก่าของเขาเเล้วคนพวกนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีพลังเเฝงซ่อนอยู่ตลอด
ซึ่งมันก็มีอยู่จริงๆส่วนสาเหตุที่ตัวของไคลน์นั้นสามารถดูค่าสถานะของคนอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกภายใต้เเฟมิเลียของตนได้นั้นก็เพราะว่าตัวของไคลน์นั้นใช้เนตรวิญญาณควบคู่ไปกับนักท่องฝันในการไปตรวจสอบจนได้คนที่มีเเววมาทั้งหมด3คน
คนเเรกนั้นเป็นชายผมสีดำสนิททั่วทั้งตัวนั้นถูกสลักไปด้วยลวดลายเเละอักขระต่างๆที่ความหมายของพวกมันทั้งหมดนั้นล้วนเเล้วเเต่เป็นความเเค้นเเละความชั่วร้ายทั้งสิ้นจนตัวของไคลน์นั้นรู้สึกสนใจโดยชายคนนั้นมีนามว่าอังกรี เเมนยุเเละก็เป็นถึงคนที่หลุดเข้ามาในโลกใบนี้อีกต่างหาก(อังกรีมันหลุดมาตอนที่พึ่งจะโดนทรมาณเเรกๆเลยยังไม่ได้มีความชั่วร้ายเท่ากับในเรื่องFate)
คนที่สองนั้นเป็นชายชราที่ชอบสวมเกราะหนักสีดำทมิฬเเละหนเากากหัวกระโหลกที่มีเขาสีดำอยู่ตลอดเเละใช้ดาบใหญ่กับโล่เป็นอาวุธมีชื่อว่าฮัซซัน อี ซับบาเป็นคนที่หลุดมายังโลกใบนี้เเละไม่มีที่ไปเช่นเดียวกับอังกรี
คนสุดท้ายนั้นเป็นชายที่มีผมสีน้ำตาลลูกโอ้กเเละตัวใหญ่เป็นอย่างมากในมือข้างขวานั้นถือไม้กระบองมือขวาถือคันศรเอาไส้เเต่งตัวคล้ายนายพรานนามว่าOrionเป็นคนที่หลุดมายังโลกใบนี้เหมือนกับตัวของฮัซซันเเละอังกรี
โดยเเน่นอนว่าทั้งสามคนนั้นได้กลายเป็นสมาชิกของทาร์โรต์เเฟมิเลียโดยที่ตัวของอังกรีนั้นได้ถือครองไพ่The Devilที่มีความหมายเกี่ยวกับการผูกมัดเเละความสิ้นหวังซึ่งมันสื่อถึงตัวตนของอังกรีที่มีเเต่ความเกลียดชังเเละความชั่วร้าย
ฮัซซันนั้นได้ถือครองไพ่The Deathที่มีความหมายเกี่ยวกับความตายที่ตัวของไคลน์ให้ตัวของฮัซซันนั้นถือครองไพ่ใบนี้ก็เพราะว่าเนตรวิญญาณของไคลน์นั้นสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเเห่งความตายที่ตัวของฮัซซันครอบครองอยู่ในปริมาณที่เยอะเป็นอย่างมากเลยให้ตัวของฮัซซันนั้นได้รับไพ่The Deathไปครอง
ส่วนตัวของOrionนั้นได้ถือครองไพ่The Strengthที่มีความหมายเกี่ยวกับความเเข็งเเกร่งที่ไม่ว่าอะไรก็ไม่อาจสั่นคลอนทันได้มันสื่อถึงตัวของOrionที่เเข็งเเกร่งเเละไม่าอะไรมาทำให้ตัวของเขานั้นสั่นคลอนได้ด้วยความเเข็งเเกร่งที่มากล้นของเขา
โดยหลังจากที่ทั้งสามคนได้เป็นสมาชิกของทาร์โรต์เเฟมิเลียเเล้วนั้นตัวของไคลน์ก็ได้บอกให้ทั้งสามคนนั้นไปลงดันเจี้ยนเพื่อเพิ่มLevelของตัวเองเเละหาเงินมาใช้จ่ายในเรื่องส่สนตัวของตนเองซึ่งเเน่นอนว่าทั้งสามนั้นก็ทำอย่างว่านอนสอนง่ายโดยการไปลงดันเจี้ยนด้วยความคึกคัก
“หวังว่าจะไม่ไปทำอะไรที่มันเป็นเรื่องนะ…”ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นทีลางสักหรณ์เเปลกๆว่ามันจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นตัวของไคลน์ก็เลยทำนายดูว่ามันจะเป็นผลเสียกับตนไหมซึ่งผลที่ออกมาก็คือไม่ทรงผลเสรยให้กับตัวของไคลน์เเต่อน่างก็เลยทำให้ตัวของไคลน์ไม่ได้ทำอะไรเเละทำการเข้าสู่โลกความคิดอีกครั้ง
ณ ภายในดันเจี้ยน
ตอนนี้ตัวของอังกรีเเละฮัซซันกับโอไรออนนั้นก็ได้ทำการลงดันเจี้ยนกันอย่างสบายๆเพราะว่ายังอยู่กันเเค่ชั้นหนึ่ง
“เห้ย!!พวกเเกไม่เบื่อกันบ้างรึไงที่ล่าอยู่เเค่ชั้นหนึ่งนะ?”อังกรี
“ก็เบื่อนะสิปกติชั้นล่าพวกตัวใหญ่ๆมันสนถกกว่านี้เยอะเลยเเต่นี้มันโครตจะหน้าเบื่อเลย!!!”โอไรออน
“งั้นพวกเราลงไปชั้นลึกกว่านี้ไหมละ?”อังกรี
“เเล้วเเบบนั้นจะไม่เป็นอะไรงั้นหรอ?”ฮัซซัน
“ไม่เป็นอะไรหรอกน่า~…ยังไงพวกเราก็เเข็งเเกร่งกันตั้งขนาดนี้ไอ้พวกกระจอกนั้นทำอะไรเราไม่ได้หรอก”อังกรี
“…ก็ได้เเต่หากไม่ไหวให้ถอยกลับทันทีเพราะนี้คือคำสั่งของท่านเทพ(ไคลน์)ที่บอกมา”ฮัซซัน
“รุ้เเล้วน่า!!ไม่ต้องพูดมากเเล้วพวกเราไปกันเถอะ”อังกรี
ตัวของทั้งสามคนนั้นก็ได้ลงไปในดันเจี้ยนชั้นที่บึกขึ้นเรื่อยๆจากชั้นหนึ่งไปสองไปสามเเละก็ไปเรื่อยๆเพราะไม่มีสัตว์อสูรภายมนดันเจี้ยนตัวไหนเลยที่ทำให้พวกเขานั้นสนุกได้เลยเเม้เเต่น้อยจนมาถึงชั้นที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่มีพื้นที่เป็นรังมังกร
“ไอ้ตัวนี้น่าจะทำให้พวกเราสนุกได้บ้างหละนะ”อังกรี
“อย่าทำให้ผิดหวังที่มีดีเเค่ขนาดตัวเหมือนเจเามิโนทอร์นั้นนะ”โอไรออน
“…”ฮัซซัน
ตัวของเจ้ามังกรนั้นมันได้รู้ตัวเเลเวว่ามีคนบุกรุกรังของมันมันจึงได้ทำการสยายปีกบินขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับเตรียมพ่นลมหายใจที่เต็มไปดเวยเปรวไฟของมันออกมาใส่ตัวของพวกอังกรีเเละฮัซซันกับโอไรออน
“เห้ยๆ!!ไอ้จิ้งเเหลนลงมานี้!!!Chain Of Evil!!(โซ่เเห่งความชั่วร้าย)”อังกรี
ตัวของอังกรีนั้นได้ทำการสร้างโซ่ขึ้นมาบริเวณข้างล่างของมังกรตัวนั้นก่อนที่จะทำการดึงตัวของมังกรลงมาเเต่ความสามารถนี้ของอังกรีนั้นเเต่เดิมมันไม่ได้มีเพราะเเต่เดิมเขานั้นเป็นเพียงเเค่ชาวบ้านธรรมดาที่ถูกเลือกให้กลายเปผ้นความชั่วร้ายของโลกใบนี้เลยมีพลังของความชั่วร้ายมหาศาลอยู่ในตัวเเต่เอาออกมาใช้ไม่ได้
เเต่พอตัวของไคลน์รับมาเป็นสมาชิกในเเฟมิเลียเเล้วก็ได้รับความสามารถในการเปบี่ยนพลังความชั่วร้ายมาเป็นวัตถุที่จับต้องได้หรือเเม้เเต่ร่ายคำสาปก็ยังทำได้ซึ่งความสามมรถนี้มีชื่อว่าChange Evil(เเปรเปลี่ยนความชั่วร้าย)
“ขอบคุณมากที่เปิดจังหวะให้นะ!!”โอไรออน
ตัวของโอไรออนนั้นได้ทำการง้างคันศรของตนเองก่อนที่จะมีลูกศรที่พุ่งออกมาด้วยความเร็วที่สูงเป็นอย่างมากได้พุ่งดขเาไปเเทงบริเวณลำตัวของมังกรเต็มๆเเต่มันก็ยังไม่ตาย
“โห่!!อึดดีนี้หว่าที่ทนลูกศรของชั้นคนนี้ได้…งั้นก็เอาไปอีกดอก!!!”โอไรออน
ตัวของโอไรออนนั้นก็ไม่ได้รอช้าทำการง้างคันศรอีกรอบเเละทำการยิงใส่ตัวของมังกรอีกครั้งเเต่รอบนี้ตัวของมังกรนั้นสามารถหลุดออกมาจากโซ่ของอังกรีได้เลยหลบลูกศรของโอไรออนได้อย่างฉิวเฉียด
“หนังเหนียวดีนิ!!งั้นเจอนี้Break Down Scales!!(สลายเกล็ด)เห้ย!!ตาเเก่ฝากที”อังกรี
ตัวของอังกรีนั้นได้ร่ายคำสาปที่จะทำให้เกล็ดของมังกรนั้นจากที่มีความเเข็งเป็นอย่างมากกลายเป็นว่าพังง่ายๆได้เเต่ผลของมันนั้นไม่วามารถอยู่ได้นานตัวของฮัซซันนั้นที่ได้ยินสัญญาก็ได้ทำการกระโดดไปหาตัวของมังกรอน่างรวดเร็วพร้อมทำการง้างดาบเอาไว้
“จงส่งหัวมาสะ!!”ฮัซซัน
ตัวของฮัซซันนั้นได้ทำการฟันดาบใหญ่ในมือของตนเองใส่หัวของมังกรตนนั้นจนหัวของมันนั้นได้หลุดออกมาเเละร่างของมันนั้นก็ได้ร่วงลงมาสู่พื้นดินเป็นสัญญาณส่าตับของมันนั้นได้ตายลงไปเเล้ว
“สนุกใช้ได้เลย!!เเล้วพวกเราจะขึ้นไปเลยหรือจะยังอยู่ในนี้ต่อหรอ?อังกรี”โอไรออน
“ข้าว่าพวกเราอยู่ต่อดีกว่า…เเถมขเาก็อยากจะรู้เหมือนกันส่าเนื้อมังกรจะมีรสชาติเป็นยังไง”อังกรี
“นั้นสิน่า~”โอไรออน
โดยการกระทำของทั้งสามนั้นที่ได้สังหารมังกรไปนั้นก็ไม่ได้คิดที่จะกลับขึ้นไปยังเมืองข้างบนเเต่จะอยู่ข้างล่างเเละผจญภัยต่อเพราะว่าเเค่มังกรตัวนั้นตัวเดียวเเม้จะสู้สนถกเเต่มันก็ยังอ่อนเเอเกินไปที่จะทำให้พวกเขาเอาจริงอยู่ดี
TO BE CONTINUE…
ความคิดเห็น