คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : โลกใบอื่นเเละก่อตั้ง
หลังจากที่ตัวของไคลน์นั้นได้โดนดูดเข้ามาในโลกที่ตัวของเขาไม่รู้จักเเล้วนั้นเขาก็ได้มาโผล่ที่ใจกลางป่าเเห่งหนึ่ง
“…นี้คงจะเป็นโลกใบอื่นสินะ…เเต่กลิ่นอายของเทพนี้มันจะเยอะไปไหนกันนะโลกใบนี้”ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นหลังจากที่โดนดูดมานั้นสิ่งเเรกที่ตัวของเขานั้นสัมผัสได้จากโลกใบนี้เลยก็คือกลิ่นอายของเทพเเม้จะไม่ใช่กลิ่นอายที่มีพลังระดับเเทพเเท้จริงเเต่ก็คงจะไม่ต่ำไปกว่าระดับครึ่งเทพเป็นเเน่ลางสังหรณ์ของเขามันบอกมา
“…เรายังไม่รู้ส่าโลกใบนี้เป็นโลกเเบบไหนเราคงจะต้องตรวจสอบประวัติศาสตร์ดู”ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นไม่รอช้าทำการใช้อำนาจของ3เส้นทางราชันย์เร้นลับในการตรวจสอบดูความเป็นไปได้ต่างๆในประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ในทันที
ซึ่งมันจึงทำให้ตัวของไคลน์นั้นได้รับรู้ข้อมูลจำนวนมหาศาลเเต่มันก็ถูกย่อยอย่างรวดเร็วด้วยนักถอดรหัสเเละหอคอยสีขาวที่ได้ทำการตรวจสอบเเละจัดเเก้กับเรียบเรียงข้อมูลจำนวนมหาศาลให้อยู่ในรูปเเบบที่เข้าใจง่ายที่สุดภายในหัวของไคลน์
“ชั้งเป็นโลกที่หน้าสนใจ…พวกเทพลงมาจากสวรรค์เเละอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างงั้นหรอ?เเล้วไหนจะดันเจี้ยนขนาดยักษ์นั้นอีก…เเต่ก็มีเรื่องที่หน้าสงสัยคือทำไมเราถึงไม่โดนกัดกร่อนกัน?ทั้งๆที่เป็นข้อมูลของพวกเทพเเท้ๆ…น่าสงสัย”ไคลน์
มันก็ไม่เเปลกมากนักที่ตัวของไคลน์นั้นจะสงสัยเเม้เทพที่อยู่ภายในโลนี้จะอ่อนเเอกว่าเขาหรืออ่อนเเอยิ่งกว่าผู้วิเศษลำดับ3หรือนักบุญเสียด้วยซ้ำเเต่ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นถึงเทพ
การที่ตัวของไคลน์นั้นได้รับข้อมูลเกี่ยวกับประศาสตร์เเละความรู้ของเทพจำนวนมหาศาลขนาดนี้หากเป็นปกติตัวของไคลน์คงจะโดนกัดกร่อนไปนานเเล้วเเต่ตัวของไคลน์กลับไม่ได้โดนกัดกร่อนเลยเเม้เเต่น้อยมันจึงเป็นเรื่องที่หน้าสงสัย
“…เอาเถอะยังไงเราก็ต้องอาศัยอยู่ในโลกใบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าตัวของด็อกเตอร์โมเบียสจะสามารถเปิดประตูนั้นได้อีกรอบอยู่ดี…งั้นก็เเค่เเทรกเเทรงประวัติศาสตร์สร้างตัวตนของเราขึ้นมาก็พอ”ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นก็ได้ทำการใช้อำนาจของลำดับ0เดอะฟูลในการหลอกประวัติศาสตร์ว่าตัวของเขานั้นมีตัวตนอยู่ภายในโลกใบนี้จริงๆเหมือนครั้งที่ทำตอนอยู่ที่โลกฮีโร
โดยประวัติที่ตัวของไคลน์นั้นสร้างขึ้นมาก็คือไคลน์จะถูกรู้จักในฐานะเทพโดยจะมีชื่อเสียงในฐานะเทพก็คือเทพเเห่งศาสตร์เร้นลับเเละม่านหมอกเเละก็ยังมีฉายาอีกมากมายที่โดนพวกเทพด้วยกันตั้งให้ไม่ว่าจะเป็นเทพที่เจ้าเล่ห์ที่สุดหรือเทพที่ขี้ระเเวงที่สุดเเละก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกับตัวของเทพโลกิที่ในโลกใบนี้เป็นผู้หญิงอีกต่างหาก
“…เราจำได้เเน่ๆว่าเราฟลอกประวัติศาสตร์ไปนิดเดียวเเล้วไหงมันถึงสร้างประวัติของเรามาอย่างงี้กันละ?เเล้วไหนจะไอ้ฉายาเทพขี้ระเเวงอีกต่างหาก?…ไม่น่าไว้ใจต้องลองทำนายดู”ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นก็ได้ทำการหยิบเหรียญออกมาก่อนที่จะเริ่มทำนายว่ามันเป็นเรื่องที่จะนำพาไปสู่เรื่องที่เลวร้ายหรือไม่ซึ่งผลของการทำนายก็คือไม่มันก็ทำให้ตัวของไคลน์โล่งใจไป
“ผลการทำนายคือไม่สินะ…งั้นต่ไปเราก็คงจะต้องเข้าเมืองไปเเล้วก็สร้างเเฟมิเลียสินะ”ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นที่ได้รับข้อมูลมาอย่างมหาศาลก็ย่อมรู้อยู่เเล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกเทพที่ปกติควรจะอยู่บนสวรรค์นั้นกลับลงมาอยู่ร่วมกับมนุษย์อยู่เเล้วมันจึงทำให้ตัวของไคลน์นั้นตัดสินใจสร้างเเฟมิเลียขึ้นมาเหมือนกัน
เมื่อตัดสินใจได้เเล้วไคลน์ก็ได้ใช้อำนาจของประตูในการไปยังเมืองที่มีดันเจี้ยนขนาดยักษ์อยู่นั้นก็คือเมืองโอราริโอ้ที่มีพวกเทพอาศัยอยู่เเละหนึ่งในนั้นก็คือเทพที่ตัวของไคลน์นั้นสนิทด้วย(ตามประวัติ)นั้นก็คือโลกิที่ต้นนี้ได้ก่อตั้งเเฟมิเลียของตนเองเเถมยังเป็นอันดับ1อีกต่างหาก
ณ เมืองโอราริโอ้
ตัวของไคลน์ที่ได้ใช้อำนาจของประตูในการมายังเมืองโอราริโอ้นั้นตอนนี้ก็ได้อยู่ในรูปลักษณ์ของชายที่สวมชุดเสื้อโค้ทสีดำทั้งตัวสวมหมวดเหมือนกับนักมายากลสีดำเเละบริเวณใบหน้านั้นมีสายหมอกสีเทาหนาทึบปกคุลมอยู่ตั้งเเต่บริเวณจมูกขึ้นไปเเละในมือมีไม้เท้าสีดำสนิท
เเน่นอนที่ตัวของไคลน์เลือกที่จะมาสร้างเเฟมิเลียของตนเองด้วยรูปลักษณ์เเบบนี้นั้นมันก็เป็นเพราะว่าตัวของเขาในประวัติ(ปลอม)ที่สร้างขึ้นมานั้นส่วนเป็นที่รูปจักในรูปลักษณ์เเบบนี้ซึ่งเเน่นอนว่าการเเต่งตัวของไคลน์นั้นมันย่อมเป็นจุดสนใจ
ตัวของไคลน์นั้นไม่ได้สนใจสายตาของผู้คนรอบข้างเเละได้มุ่งหนัาไปยังกิลด์ในทันทีเพราะว่าอยากจะสร้างเเฟมิเลรยของตนเองขึ้นมาให้เร็วที่สุดเพราะยังไงเขาก็เป็นที่รู้จักในฐานะของเทพอยู่เเล้วการที่ไม่มีเเฟมีเลียก็คงจะเเปลกจนเกินไป
โดยไม่นานนักตัวของไคลน์นั้นก็ได้มาถึงยังกิลด์เเล้วโดยตัวของไคลน์นั้นไม่รอช้าทำการเปิดประตูเข้าไปในทันทีทุกคนที่อยู่ภายในกิลด์นั้นได้ทำการจ้องมองมายังผู้มาใหม่หรือไคลน์กันเป็นตาเดียวด้วยความสงสัย
ตัวของไคลน์นั้นได้เมินสายตาเหล่านั้นก่อนจะทำการเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ของกิลด์ในทันที
“ม มีอะไรให้ช่วยไหมค่ะ…”พนักงานกิลด์
ตัวของพนักงานกิลด์คนนั้นได้พูดออกมาด้วยน้ำเสรยงสั่นเตรือเเฝงไปด้วยความวิตกกังวลเเละหวาดกลัวเเต่ตัยของไคบน์ก๋เข้าใจได้เพราะว้าด้วยรูปลักษณ์ของเขาที่มีหมอกหนาสีเทาปกปิดใบหนเาเอาไว้หากมองในมุมมองของคนอื่นมันก็อาจจะทำให้กลัวหรือระเเวงได้
“…ข้ามาเพื่อก่อตั้งเเฟมิเลียของข้า”ไคลน์
“ท ท่านเป็นเทพสินะค่ะ…ง งั้นก็ช่วยหยดเลือดของท่านลงในกระดาษใบนี้ด้วยค่ะ…”พนักงานกิลด์
ตัวของไคลน์นั้นได้รับกระดาศใบนั้นมาก่อนที่จะทำการหยดเลือดลงไปเเล้วกระดาษใบนั้นเมื่อสัมผัสเข้ากับเลือดของไคลน์มันก็ได้เกิดปฏิกิริยาขึ้นโดยมันเกิดวงเวทขึ้นมาเเละปรากฏสัญญาลักษณ์ของเส้นทางเดอะฟูลขึ้นมา
“ส เสร็จเเล้วค่ะ…ท ท่านจะตั้งชื่อเเฟมิเลียของท่านว่าอะไรหรอค่ะ”พนักงานกิลด์
“ทาร์โรต์…ทาร์โรต์เเฟมิเลีย”ไคลน์
“ชื่อคือทาร์โรต์เเฟมิเลียสินะค่ะ…ว่าเเต่ท่านม่นามว่าอะไรหรอค่ะเพราะชั้นจะได้เอาข้อม฿ลเเฟมิเลรยของท่านไปให่นักผจญภัยนะค่ะ”พนักงานกิลด์
“…ข้ามีนามว่าThe Foolเป็นเทพเเห่งศาสตร์เร้นลับเเละม่านหมอก”ไคลน์
“ค่ะ…งั้นช ช่วยหรอกข้อมูลลงในนี้ด้วยนะค่ะ…”พนักงานกิลด์
ตัวของพนักงานกิลด์นั้นได้ยื่นเอกสารมาให้ตัวของไคลน์หรอกเเน่นอนว่าตัวของไคลน์นัตก็ได้ทำการทำนายก่อนว่าการกรอกข้อมูลของตนเองลงไปนั้นจะนำพาอันตรายมามารึเปล่าซึ่งผลก็คือไม่ทำให้ตัวของไคลนืก็ได้กรอกข้อมูลไปเเต่ก็กรอกให้น้อยที่สุดเพราะความระเเวง
โดยสิ่งที่ให้กรอกในเอกสารนั้นก็มีตั้งเเต่โลโก้ของเเฟมิเลียไปจนถึงคำขวัญเเน่นอนว่าตัวของไคลน์นั้นก็กรอกเท่าที่จำเป็นอย่าง
คำขวัญไคลน์เขียนไปว่าผู้เเข็งเเกร่ง(ผู้วิเศษ)จักไม่เสียใจในทาง(เส้นทาง)ที่เลือกเดิน
คำเชิญชวนไคลน์ก็เขียนไปว่าเข้าร่วมเเละเลือกทาง(เส้นทาง)ที่ตนจะเดินไปจนกว่าจะกลายเป็นจุดสูงสุด(เทพ)
ส่วนที่ตั้งนั้นตัวของไคลน์ไม่ได้กังวลอะไรเลยบอกไปตามจริงก็คือปราสาทต้นกำเนิดเพราะไม่ว่ายังไงหากเขาไม่อนุญาติก็ไม่มีใครเข้ามาได้ทั้งนั้นเเถมหากไคลน์อยู่ในปราสาทต้นกำเนิดไคลน์ก็จะไร้เทียมทานอย่างเเท้จริง
เมื่อกรอกเสร็ตเเล้วตัวของไคลน์ก็ได้ส่งเอกสารกลับไปให้ตัวของพนักงานกิลด์ตามเดิม
“อ เออคือหากไม่เป็นการเสียมารยาทจนเกินไป…ชั้นอยากจะขอทรบได้ไหมค่ะว่าปาสาทต้นกำเนิดมันตั้งอยู่ที่ไหนนะค่ะ”พนักงานกิลด์
‘เเย่เเล้ว!!ลืมที่ตั้งของปราสาทต้นกำเนิดไปสนิทเลย!!!’ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นก็ได้รู้เเล้วว่าตนนั้นลืมเรื่องที่ตั้งของปราสาทต้นกำเนิดก็ได้เเก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าไปโดยการหลอกประวัติศาสตร์ไปว่าปราสาทต้นกำเนิดนั้นตั้งอยู่ที่ใจกลางป่าใกล้ๆกับโอราริโอ้
“…มันตั้งอยู่ใจกลางป่าที่อยู่ใกล้ๆนี้”ไคลน์
“ง งั้นหรอค่ะ…งั้นการก่อตั้งทาร์โรต์เเฟมิเลียก็เป็นอันเสร็จสิ้นเเล้วค่ะ”พนักงานกิลด์
“…ก็ดี”ไคลน์
ตัวของไลน์นั้นได้ทำการเดินเดินออกไปจากเคาน์เตอร์ของกิลด์เพื่อเตรียมที่จะออกไปจากกิลด์ในทันทีเเต่ก็ต้องหยุดลงเพราะเสียงของใครบางคนที่ได้เรียกตัวของเขาเอาไว้ก่อนนั้นก็คือตัวของโลกิเเละเเฟมิเลียของเธอ
“นี้ไม่คิดจะมาทักทายเพื่อนกันหน่อยหรอ?Fool”โลกิ
ไคลน์ที่ได้ยินคำทักทายของอีกฝ่ายก็ได้หันหน้ากลับไปมองอีกฝ่ายอย่างช้าๆอย่างพิจารณา
“…ก็กะว่าจะไปทักทายพอดี…เเต่ไม่คิดเลยนะว่าเจอไม่เจอกันตั้งนานเธอก็ยังเป็นไม้กระดานอยู่เหมือนเดิมเลยนะยัยทอมบอยโลกิ”ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นก็ได้ทำการเเซะตัวของโลกิเเบบที่ทำประจำในประวัติ(ปลอม)ที่ตนนั้นสร้างขึ้นมาจนตัวของโลกินั้นที่ใบหน้าได้มีเส้นเลือดปูดขึ้นมา
“โห่~ยังปากเสียเหมือนเดิมเลยนะFool…งั้นก็พอดีเลยชั้นอยากจะลองฝีมือของนายดูหน่อยว่าฝีมือตกลงไปบ้างรึเปล่านะว่าไงสนใจรึเปล่าละ?”โลกิ
“อยากจะสู้กับชั้นขนาดนั้นเลยหรอโลกิ?ชั้นจำได้ว่าเธอไม่เคยชนะชั้นเลยนะ…เเม้เเต่ครั้งเดียวก็ไม่เคย”ไคลน์
“ใครจะรู้กันละ…อีกอย่างคนที่จะสู้ไม่ใช่ชั้นเเต่เป็นเด็กๆในเเฟมิเลรยของชั้นต่างหาก”โลกิ
“อย่างงั้นชั้นไม่เอาด้วยหรอก…เพราะว่าเด็กๆของเธอยังอ่อนเเอเกินไป”ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นพูดด้วยน้ำเสียงหน้าเกรงขามที่ตัวของไคลน์กล้าที่จะพูดเเบบนี้นั้นเพราะว่าไคลน์นั้นได้ลองตรวจสอบสมาชิกของโลกิดูอย่างถีถ้วนเเล้วก็พอว่ามีความเเข็งเเกร่งประมาณลำดับ6ไม่ก็5ในเส้นทางสายต่อสู้ซึ่งมันทำอะไรตัวของไคลน์ไม่ได้หรอก
เเต่คำพูดของไคลน์นั้นมันสามารถทำใฟ้สมาชิกส่วนใหญ่ของโลกิเเฟมีเลียเรียกได้ว่าเลือดขึ้นหน้กันเลยทีเดียวโดยเฉพาะตัวของเบท
“ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าเเก่จะเป็นเทพเเล้วใหญ่มาจากไหน…เเจะปากดีก็ให้มันมีขอบเขตกันหน่อย!!!”เบท
เบทนั้นได้ทำการพุ่งเข้ามาหวังจะชกหมัดเขาไปที่ใบหน้าของไคลน์เเไคลน์นั้นก็ไม่ได้ทำอะไรมากเพียงเเค่ขโมยพลังกายทั้งหมดของเบทเเละความคิดเท่านั้น
ตัวของเบทที่ควรจะพุ่งเข้าไปต่อยด้วยความรวดเร็วกลับช้าเป็นอย่างมากเเละก็รู้สึกราวกับว่าตอนนี้ตนนั้นกำลังทำอะไรอยู่
“…หากโดนไปเเค่นั้นก็อย่าหวังว่าจะสร้างรอยขีดข่วนให้ชั้นได้เลย”ไคลน์
“Foolชั้นว่าเเกทำเกินไปนะ…เเถมชั้นก็ยังมีเรื่องที่สงสัยอยู่เหมือนกันหวังว่าเเกจะให้คำตอบชั้นได้นะ”โลกิ
“ได้เเล้อยากจะไเคำตอบอะไรจากชั้นกันละโลกิ…”ไคลน์
“เมื่อตะกี้เเกใช้พลังใช้ไหม…”โลกิ
“…รู้สินะ”ไคลน์
“เเหงสิ!!ก็เเกเล่นใช้พลังของตัวเองทั้งทีชั้นทีเป็นเพื่อนเเค่ไม่กี่คนของเเกก็ต้องรู้เเต่ที่ชั้นอยากจะรู้ก็คือ…ทำไมพลังของเเกถึงยังใชเได้ต่างหากเพราะว่าเทพเเบบพวกเราพอลงมาที่โลกมนุษย์ก็จะไม่สามารถใช้พลังได้เเเเกกลับทำได้…”โลกิ
“…ชันจะบอกอะไรให้ก็เเล้วกันมันถูกอย่างทีเธอพูดเลยโลกิเทพอย่างพวกเราพอลงมาที่โลกมนุษย์ก็จะไม่สามารถใช้พลังได้เเต่นั้นจำกัดเฉพาะพลังของเทพเเละเวทมนต์ที่เกี่ยวข้องเเต่ของชั้นมันไม่เหมือนกัน…”ไคลน์
“เเล้วมันไม่เหมือนกันตรงไหน?เทพเเบบพวกเราก็ต้องใช้พลังเทพเป็นหลังไม่ก็เวทมนต์?หรือจะบอกว่ามีอย่างอื่นอีกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ชั้นพูด?”โลกิ
“โลกิชั้นขอถาม..ชื่อเทพของชั้นคืออะไร”ไคลน์
“ก็The Foolเทพเเห่งศาสตร์เร้นลับเเละม่านหมอกไ–อย่าบอกนะว่า!!!”โลกิ
“ใช่!!พลังที่ชั้นใช้ไม่ใช้พลังเทพเเต่เป็นพลังจากศาสตร์เร้นลับมันเลยไม่ได้ถูกนับเป็นพลังเทพชั้นเลยใช้มันได้”ไคลน์
“ขี้โกงชัดๆ”โลกิ
“จะพูดยังไงก็เชิญ…เเต่ชั้นไปก่อนหละออ!!เเล้วก็พรุางนี้ชั้นจะขอเชิญเธอมาที่ปาสาทต้นกำเนิดหน่อยเเน่นอนว่าจะพาสมาชิกมาด้วยก็ได้”ไคลน์
ตัวของไคลน์นั้นก็ได้เดินออกจากกิลด์ไปอย่างช้าๆเเละพอออกมาจากกิลด์เเล้วนั้นไคลน์ก็ได้ทำการใช้อำนาจของประตูในการไปยังปราสาทต้นกำเนิดที่อยู่ใจกลางป่าในทันที(ปราสาทต้นกำเนิดเป็นของปลอมเเต่ก็มีความสามารถเหมือนของจริงทุกอย่าง)
TO BE CONTINUE…
ความคิดเห็น