ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    STUPID (FFK)KAEWFANG

    ลำดับตอนที่ #2 : แฟนหนุ่ม

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 58


    แฟนหนุ่ม

    01.02.2010

     เช้าวันใหม่อีกวันที่เป็นเช้าที่อากาศแจ่มใสพอที่จะทำให้อาหารเช้ารสชาติจืดชืดฝีมือของตัวเองนั้นดูอร่อยขึ้นมาได้บ้าง จะทำไงได้ก็เด็กผู้หญิงวัย16ปีที่อยู่หอคนเดียวเพราะโลกส่วนตัวสูง ทำได้อย่างมากก็แค่ไข่ดาวไหม้ๆและขนมปังปิ้งไหม้ๆก็นับว่าบุญแล้วที่ยังพอกินได้อยู่บ้าง

    "อากาศดีแฮะวันนี้" พูดกับตัวเองก่อนจะจัดการกับอาหารเช้าฝีมือตัวเองจนเกลี้ยง เพราะวันนี้อากาศดีนะเนี่ยถึงสามารถฟาดอาหารเช้ารสชาติห่วยๆของตัวเองเข้าไปจนหมดได้ แต่ก็นะทำไงได้เขาขี้เกียจเกินกว่าจะออกไปซื้อของสำเร็จรูปมาทำกินเองแหละนั่นก็เป็นเหตุผลที่เขาต้องมานั่งกินอาหารฝีมือตัวเองแบบนี้นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าอยู่สักพักก็นึกขึ้นได้ว่าควรเดินทางไปโรงเรียนได้แล้วขืนสายได้โดนจับสายแถมต้องโดนบำเพ็ญ ประโยชน์แน่ๆ นาฬิกาบอกเวลาว่านี่ก็เป็นเวลา 07.30 แล้ว

    "โอ๊ะต้องรีบไปแล้ว"บ่นกับตัวเองก่อนจะออกสตาร์ทรถจักรยานยนต์ธรรมดาๆแล้วบิดออกไปอย่างรวดเร็วใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงโรงเรียนอย่างปลอดภัย

    "โอ๊ะโอมาเร็วอีกตามเคยนะเพื่อน"เพื่อนชายตัวผอมทักเขาก่อนใครหลังจากเห็นเขาก้าวลงจากรถ

    "มึงก็เหมือนกันเถอะ" ยักไหล่เล็กน้อยก่อนเดินไปหาเพื่อนในกลุ่มอย่าง'โทโมะ'เพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนของเขา

    "เป็นไงบ้างเมื่อวาน"เขื่อนถามถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่เขาอาจจะโดนแม่บ่นเรื่องที่หอดึกแถมไม่รับโทรศัพท์จากแม่อีก

    "ก็โดนบ่นธรรมดานั่นแหละ" คนตัวสูงตอบแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่

    "ไอแก้ว ไอขี้โม้" เขื่อนคนช่างสังเกตพูดขึ้นเมื่อเห็นหน้าตาที่ดูอึดอัดของคนที่บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อครู่

    "ก็โดนด่าชุดใหญ่อ่ะ แต่ก็ไม่มีอะไรแล้ว วันนี้อารมณ์ดีอย่าทำให้อารมณ์ไม่ดี เข้าใจ๋??" บอกเพื่อนสุดกวนไปก่อนที่จะอารมณ์เสียตั้งแต่เช้า 

    "นี่ ทำไรกันอยู่อ่ะ" ยังไม่ทันที่เพื่อนสุดกวนจะตอบ เพื่อนร่วมกลุ่มอีกคนก็เดินมาทักทาย

    "อ้าว ฟางมาเช้าหวะวันนี้" เป็นเขื่อนทักทายเพื่อนที่มาเข้าร่วมการสนทนาอีกคนนึง

    "ก็แม่อ่ะดิปลุกแต่เช้าเลย เซ็งมากกก" คนตัวเล็กตอบอย่างเบื่อหน่ายเธอคงเซ็งจริงๆกับการที่แม่ปลุกแต่เช้าเพื่อมาโรงเรียนในวันที่อากาศดีน่านอนแบบนี้ ก็การมาโรงเรียนเช้าๆมันไม่ใช่สไตล์ของ'ฟาง'เอาซะเลย

    "ก็ใครใช้ให้นอนดึกๆหละ" เป็นเสียงแก้วที่เอ่ยถาม

    "ก็คนมันฮ้อต ตอบเมนชั่นหนุ่มๆในทวิตบ้างไรบ้างนี่" เธอตอบไปพร้อมกับทำหน้าทำตากวนเบื้องล่างพร้อมยักไหล่ให้กับคนถามอย่างกวนๆ ตามสไตล์คนหลงตัวเองแบบฟางทำให้คนถามยิ้มน้อยๆให้กับท่าทางกวนประสาทของเธอ ไม่อยากต่อปากต่อคำเลยตัดบทด้วยการชวนเพื่อนๆทั้งหมดขึ้นไปเตรียมตัวเรียนคาบแรกของวันนี้ เวลาผ่านไปสักระยะนึง 'อาจารย์วันเพ็ญ'ผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษซึ่งเป็นคาบแรกของวันก็มาถึงห้องเรียนและการเรียนคาบแรกถึงคาบที่สี่ก็เป็นไปอย่างราบรื่นเพราะทั้งแก้ว ฟาง เขื่อนและโทโมะไม่ได้ใส่ใจกับการเรียนเลยสักนิด ทั้งสี่ใช้เวลาทั้งสี่คาบรวมหัวกันคุยเรื่องที่พวกเขาสนใจ จึงไม่ได้นึกถึงเรื่องเวลา แก้วและเขื่อน เป็นพวกเรียนเก่งในระดับนึง โทโมะเป็นคนขยันจะมีก็แต่ฟางคนเดียวที่ไม่ค่อยมีอะไรโดนเด่นนอกจากหน้าตาและเสน่ห์เฉพาะตัวแต่มันก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเธอเพราะบ้านเธอรวย จัดว่าเป็นที่รู้จักในวงกว้างเพราะเธอเป็นหลานสาวของนักการเมืองท้องถิ่นที่ผู้คนต่างก็รู้จักกันดีกับชื่อเสียงของตระกูลนีระสิงค์ เธอเลยไม่ต้องขยันไม่ต้องเก่งก็ได้เพราะถึงยังไงก็มีเงินมีงานมารองรับอยู่แล้วนั่นคือสิ่งที่ฟางคิดมาตลอด

    "เที่ยงแล้วหาไรกินกันเว่ย" โทโมะเอ่ยชวนเพื่อนๆในกลุ่ม

    "เอออ โคตรหิวป่ะๆ" เป็นเขื่อนที่รีบเร่งเพื่อนๆในกลุ่มเพราะเขาไม่ได้กินข้าวเช้ามาทำให้หิวมากกว่าคนอื่นๆ

    "พวกแกจะกินไรก็แยกซื้อเลยนะ ใครได้ของก่อนรีบจองโต๊ะด้วย"สิ้นเสียงของแก้วเพื่อนทั้งสองก็แยกกันไป เหลือเพียงหนึ่งคนที่ยังไม่ขยับไปไหน

    "อ้าวฟาง ไม่ไปซื้อข้าวรึไง" ถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะคนตรงหน้าไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ส่ายหัวเบาๆ

    "งั้นฉันไปหละ" บอกออกไปพร้อมเดินไปร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำของเขาอย่างไม่รีรอ

    "อ่าวป๊อปเค้าบอกตัวเองแล้วไงว่าเดี๋ยวไปหาที่โต๊ะไม่ต้องเดินมาหรอก" เสียงคุ้นหูทำให้แก้วที่ยืนต่อคิวหันไปมองต้นเสียง

    "อ้อ กำลังจะไปหาแฟนนี่เอง" เมื่อเห็นว่าเป็นฟางเพื่อนของเขายืนคุยกับแฟนหนุ่มอยู่ไม่ไกลก็เข้าใจถึงเหตุผลที่ยืนนิ่งอยู่

    เมื่อครู่ พลางคิดว่าทั้งคู่น่ารักดี เขาเองก็อยากมีแฟนบ้างเหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าจะเอาเวลาไหนไปหา เพราะความที่เป็นคนมีโลกส่วนตัวก็กลัวจะมีปัญหาถ้าแฟนไม่พอใจ ไม่ชอบการผูกมัด เลยเลือกที่จะยังไม่มีใครดีกว่า ไม่ใช่ว่าหน้าตาแย่ถึงไม่มีคนสนใจ แต่เป็นเพราะนิสัยนั่นแหละถึงไม่ยอมให้ใครเข้ามาในโลกส่วนตัวสักที

    "เอาอะไรจ๊ะวันนี้ เหมือนเดิมมั้ย?" เสียงแม่ค้าทำให้หลุดออกจากความคิดเมื่อครู่ ก่อนหันไปตอบแม่ค้าที่รอคำตอบอยู่

    "เหมือนเดิมจ้าา ขอตีนไก่เย้อะเยอะน้า" ตอบพร้อมรอยยิ้มเหมือนทุกทีเพราะความสนิทสนมกับการที่เป็นลูกค้าเจ้าประจำ

    เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็เดินไปที่โต๊ะที่เพื่อนๆจองไว้

    "กินงี้อีกแล้วชอบกินตีนไก่หรอ เยอะเชียว" ฟางที่นั่งข้างๆถามขึ้นเมื่อสังเกตุเห็นตีนไก่ที่แทบจะล้นจานของเพื่อนตัวสูงข้างๆ

    "ก็อร่อยดี ลองมั้ย แล้วจะติดใจ" ตอบพร้อมยื่นถ้วยให้ทั้งๆที่รู้ว่าเพื่อนตัวเล็กไม่กินแน่ๆเขารู้ดี

    "ไม่อ่ะขี้เกียจกินน้ำจนพุงแตก เผ็ดชัวร์" ส่ายหน้าเบาๆพร้อมดันถ้วยคืนคนข้างๆก็เท่าที่เห็นก๋วยจั๊บตีนไก่ที่มักจะเติมพริกเพิ่มจนน้ำซุปมีแต่พริกเต็มไปหมดไม่เข้าใจว่ามันอร่อยตรงไหนกับไอการปรุงแค่พริกป่นอย่างเดียวเนี่ยะ คิดก่อนก้มลงจัดการราดหน้าของตัวเอง

    "ไรกันวะสองคนนี้" เป็นเสียงเพื่อนสุดกวนแซวขึ้นมาทำให้แก้วถลึงตาใส่ไอเพื่อนคนนี้

    "ไรมึง??" เขาก็ชินอยู่หรอกกับการแซวของเพื่อนคนนี้แต่พักหลังมานี้ชักจะบ่อยไป

    "แหม ทีกับพวกกูนะน้ำเสียงเปลี่ยน พูดกูมึงอีก ทีกับฟางอ่ะ ฟาง ฟาง ฟาง โด่ว" ว่าพลางชี้นิ้วไปทางฟางที่นั่งตรงข้ามเขา

    "เออ ลำเอียงชัดๆ ไอ้แห้ง" โทโมะพูดเสริม

    "แล้วต้องเรียกพวกมึงว่ายังไง เขื่อนคะ โทโมะคะ งี้หรอ?" แก้วพูดเชิงประชดประชัน พร้อมกับท่าทางกวนประสาท

    "ถุยยยยยยยยยยยย" ทั้งเขื่อนและโทโมะประสานเสียงพร้อมกับทำท่าทางรังเกียจเพื่อนตรงหน้า

    "อะไรของพวกแกเนี่ยะ ฮ่าๆๆ" คราวนี้เป็นฟางที่หัวเราะออกมาพร้อมกับตั้งท่าจะเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร

    "ไปไหนๆๆ จะไปไหนฟาง" โทโมะถาม ก็จู่ๆจะลุกไปนี่นะ

    "ไปหาป๊อปแป๊ปนึง กินกันไปก่อน ถ้าอีก 15 นาทีฉันยังไม่มาเก็บจานไปเลยนะ แต๊งกิ้วมากค่า " สิ้นเสียง ฟางก็รีบวิ่งไปหา

    แฟนหนุ่มของเธอที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะเพื่อนๆเท่าไหร่

    "แฟนฟางแม่งดูดีหวะ เมื่อไหร่กูจะมีมั่งนะ"

    "นั่นดิ กูนี่เพลียเจอแต่คนไม่ดี"

    "พวกมึงสองคน กูไปนะ" แก้วทนฟังเสียงบ่นของเพื่อนทั้งสองคนไม่ไหวจนอยากขอตัวออกมาก่อนโดยไม่ฟังประโยคคำ

    ถามของเพื่อนทั้งสองคน เบื่อที่จะฟังเรื่องดราม่าเกี่ยวกับความรักอะไรทำนองนั้น เขาคิดแค่รอเวลาให้คนๆนั้นมาโดยที่ไม่ต้องไปวิ่งตามหาแบบนั้นคงจะดีกว่า

    "อ้าว แก้วว" ระหว่างเดินไปเก็บจานก็เจอคนที่เพิ่งรีบวิ่งไปหาแฟนหนุ่มเมื่อกี้ ก่อนที่เค้าจะเดินมาเก็บจาน

    "อ้าวฟาง" เอ่ยทักทายกลับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ถึงจะรีบไปเก็บจานก็เถอะแต่มาเจอกันซึ่งๆหน้าแบบนี้ ก็ช่วยไม่ได้

    "นี่กินเสร็จแล้วหรอ เร็วจัง" เพื่อนตัวเล็กพูดตามที่เธอเห็นเพราะก่อนที่เธอจะออกมาหาแฟนหนุ่มในชามของเพื่อนตัวสูงยังเต็มไปด้วยตีนไก่ของโปรดของเขา และตอนนี้เธอก็ยังสังเกตเห็นตีนไก่ที่เหลืออยู่แค่ครึ่งเดียว แปลกใจที่เพื่อนของเธอกินไม่หมด ทั้งๆที่เป็นของโปรดแท้ๆ

    "รำคาญไอพวกสองตัวนั่น ดราม่าความรักอยู่ได้ ฉันขี้เกียจฟังอะไรทำนองนี้เลยลุกมาก่อนอ่ะ" พูดออกไปความความจริงเพราะเขารำคาญจริงๆ ไม่ชอบฟังเรื่องรักๆเลิกเท่าไหร่

    "อ้อ ฮ่าๆแก้วนี่แก้วจริงๆ" เพื่อนตัวเล็กหัวเราะกับความความเป็นตัวของตัวเองของอีกฝ่าย

    "นี่ ฉันรีบนะจะไปเก็บชามแล้ว แฟนเธอรออยู่อย่ามัวเม้า" คนตัวสูงกว่าเอ่ยทีเล่นทีจริงเพราะในที่นี้ไม่ได้มีเขากับเพื่อนตัวเล็กสองคนแต่มีแฟนหนุ่มของเพื่อนเขายืนอยู่ด้วยเกรงว่าจะขัดจังหวะเลยอ้างว่ารีบไปเก็บชาม

    "ไม่เป็นไรหรอกแก้ว" แฟนหนุ่มของคนตัวเล็กพูดขึ้นอย่างเป็นมิตรเขาไม่ได้ตอบอะไรมากแค่ยิ้มแล้ว โบกมือเชิงว่าจะไปแล้วให้กับเพื่อนตัวเล็กข้างๆก่อนที่จะไปจัดการเก็บชามแล้วเดินออกไปจากโรงอาหารอย่างรีบร้อน

    "รีบไปไหนของเค้า" คนตัวเล็กพูดขึ้นเบาๆก่อนจะหันไปคุยกับแฟนหนุ่มตรงหน้า

    "สรุปไปมั้ยเตง?" ป๊อปปี้แฟนหนุ่มของเธอทวนคำถามที่แฟนสาวยังไม่ได้ตอบเพราะเธอดันทักทายกับเพื่อนเธอซะก่อน

    "ไปสิ ไปอยู่แล้ว แต่เค้าเลี้ยงนะ" คนตัวเล็กตอบ และเธออาสาเลี้ยงหนังแฟนหนุ่มเพราะเธอรู้ดีว่าแฟนหนุ่มของเธอต้องเก็บเงินไว้ใช้จ่ายเพราะฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีเท่าไหร่

    "อืม..เกรงใจอ่ะเตงง เค้าอยากเลี้ยงบ้าง" ป๊อปปี้พูดความรู้สึกของเขาออกไปเขารู้สึกเกรงใจเธอจริงๆตลอดเวลาที่คบกันมาเกือบ 1 ปีแฟนสาวของเขามักจะจ่ายนู่นจ่ายนี่ให้เขาเสมอเพราะเธอรู้ว่าฐานะเขาเป็นยังไง แต่เขาก็อยากเป็นแฟนที่ดีกว่านี้ เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงแต่เขาเป็นผู้ชายเขาก็แค่อยากทำเหมือนที่ผู้ชายทั่วๆไปทำ

    "นี่ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องคิดมากนะ เค้าไม่ได้คิดอะไร" ฟางบอกออกไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้แฟนหนุ่มของเธอคิดมาก

    "งั้นพรุ่งนี้เดี๋ยวไปรับแล้วกัน" เธอพยักหน้าแล้วยิ้มให้กับแฟนหนุ่มก่อนที่จะโบกมือเชิงบอกว่าจะต้องไปแล้ว แฟนหนุ่มของเธอพยักแปลความหมายได้ว่าเขาเข้าใจว่าเธอจะไปแล้ว เธอจึงเดินออกมาจากที่ตรงนั้นเดินมองหาเพื่อนร่างสูงที่เดินออกมาก่อนหน้านี้ เธอคิดว่าเขาต้องอยู่คนเดียวแน่ๆ ถ้าสองคนนั้นยังไม่ออกจากโรงอาหาร เพื่อนร่างสูงคงอยู่แถวๆห้องเรียนแล้ว และมันก็ใช่อย่างที่เธอคิดไว้ ...



    _______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________.

    ติชมได้นะทางทวิตก็เข้ามาพูดคุยได้ @hellonsfk

    อาจจะบรรยายยาวๆหน่อยนะอย่าเพิ่งเบื่อกัน

    ขอคอมเม้นด้วยยยยยยย ขอบคุณครัชชชชชชช :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×