ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศูนย์วิจัยมาเฟีย Fiction Reborn

    ลำดับตอนที่ #11 : Fic :: รีบอร์น....ภาคสลับเพศ!!

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 53


    Fic :: รีบอร์น....ภาคสลับเพศ!!

    Author : ซาโยริจัง

     

    ขอออกตัวก่อนเลยว่านี่เป็นเพียงการวิจารณ์ในสถานะผู้อ่านคนหนึ่งเท่านั้น หากรุนแรงไป ไม่พอใจ หรือจะทักท้วงก็เชิญตามสบายครับ

     

    1.โครง + พล็อต

    เฉพาะตัวพล็อตนั้นมีความน่าสนใจครับ น่าสนใจเพราะจับเอาพวกผู้พิทักษ์มาสลับเพศเป็นผู้หญิง พล็อตดีน่าสนใจมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ดีอย่างเดียวไม่ได้จะต้องวางเรื่องให้น่าสนใจด้วย และเท่าที่อ่านเนื้อเรื่องดู...มันเหมือนจะไม่ตายตัวนะครับ ล่องลอยไปกลางทะเล

    2. ภาษา

    ในจุดนี้ต้องติงกันเยอะเลยทีเดียว ผมอ่านแล้วค่อนข้างจะเสียสุขภาพจิตและสายตามากครับเพราะมีการใช้ภาษาปากค่อนข้างเยอะมาก อันดับแรกคือคุณได้ใช้การบรรยายในมุมมองพระเจ้า(มุมมองนักเขียน) ซึ่งขอบเขตการบรรยายมันกว้าง และคุณทำมันออกมาได้ไม่ดีนัก ในความรู้สึกผมตอนอ่านคือ ผมไม่รู้เรื่องจับใจความไม่ได้เลย มันมั่วๆ เหมือนจับมายัดๆ รวมกันเท่านั้น และคุณได้ทำในสิ่งที่ไม่ควรลงไปในฟิคด้วย นั่นคือการแทรกข้อความของนักเขียนลงไปในเนื้อเรื่อง ขอบอกว่าอ่านแล้วเสียอารมณ์มากครับ กำลังสนุกกับเนื้อเรื่องอยู่ดีๆ ต้องมาสะดุดกับวงเล็บที่นักเขียนแทรกลงไป อันดับสองคุณบรรยายไม่เห็นภาพเลยและไม่ชัดเจนด้วย อย่างพวกฉากสถานที่ การกระทำของตัวละคร สีหน้าและอารมณ์ และยิ่งเป็นการสลับเพศที่เน้นว่าพวกสาวๆ ต้องโมเอะด้วยแล้ว ผมอ่านแล้วไม่รับรู้ถึงความโมเอะตรงเลย คุณแต่งคุณเห็นคนเดียวแต่สื่อไม่ถึงคนอ่าน จะมีประโยชน์อะไรครับ? และอันดับสามในการเขียนมุมมองพระเจ้าจะไม่มีการใช้อีโมแสดงอารมณ์เด็ดขาดเพราะมันดูขัดกันอย่างเห็นได้ชัด และไม่ได้แพร่หลายเหมือนมุมมองตัวละครด้วย แม้จะเป็นแค่ประโยคคำพูดแต่ก็ถือว่าไม่สมควรครับ ยกเว้นคุณจะบรรยายในลักษณะมุมมองตัวละคร อยากใส่อีโมเยอะแค่ไหนเชิญใส่ไปเถอะ ผมรู้ว่าใส่อีโมมันสะดวกในการสื่ออารมณ์ แต่ทางที่ดีควรลองสื่ออารมณ์ด้วยการบรรยายนะครับ เพราะจะทำให้คนอ่านอินและสื่อถึงคนอ่านได้ด้วย ด้านการใช้ภาษาของคุณถือว่ายังต้องปรับปรุงอีกมากครับ ผมแนะนำให้หานิยายเป็นเล่มอ่าน และแบบภาษาสวยๆ ศึกษาวิธีการบรรยาย อ่านแล้วอย่าอ่านแค่ผ่านตาเก็บรายละเอียดด้วยครับ แล้วนำมาปรับปรุงใช้กับแนวการเขียนของตัวเอง เอาเป็นว่าผมจะลองยกตัวอย่างการบรรยายความรู้สึกที่ทำให้คนอ่านคล้อยตามนะครับ

    ครืดดดดดดดด ตุบ!

                    เสียงอะไรบางอย่างตกลงกับพื้น สายตาทั้งสี่คู่จับจ้องอยู่ที่โลงศพเบื้องหน้า...มีร่างๆ หนึ่งพาดตัวอยู่กับขอบโลงไม้ก่อนที่จะค่อย ๆ ไหลลู่ตกลงพื้นอย่างแรง เสื้อผ้ามอซอสีขาวเปื้อนรอยคล้ำสีน้ำตาลเป็นริ้วๆ ผมสีดำยาวแผ่สยายเต็มพื้น ในขณะที่ร่างนั้นขยับกายลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้าราวกับท่วงทำนองที่สงบนิ่งของผืนน้ำ ร่างผอมบางยืนหยัดขึ้นอย่างเต็มตัวต่อหน้าแขกทั้งสี่ผู้ไม่ได้ถูกเชื้อเชิญในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้

                    ใบหน้าที่ถูกผมปกปิดไปครึ่งหนึ่งแหงนขึ้น มอง เหยื่อด้วย ดวงตาสีแดงก่ำ เรือนผมยาวสลวยที่เคยปกปิดอีกครึ่งหน้าทิ้งน้ำหนักลงสู่ข้างลำตัว เผยให้เห็นแผลไฟไหม้ที่โผล่พ้นออกมาจากผ้าพันแผลเก่าๆที่เปื่อยยุ่ยจนใช้การไม่ได้ เนื้อสีแดงสดรวมตัวกันอยู่บริเวณรอบดวงตาที่ถลนออกมานอกเบ้าจับตัวรวมกัน เป็นก้อนเนื้อที่น่าขยะแขยง เส้นผมสองถึงสามเส้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนหนังศีรษะที่ถูกไฟไหม้นั้นยิ่ง เพิ่มพูนความน่าสยดสยองของบาดแผลยิ่งขึ้นไปอีก

                    วูบ!

                    สายลมพัดวูบไหวเข้ามาอีกคราพาให้เรือนผม ที่ปกปิดอีกครึ่งหน้าขยับเคลื่อนไหว เส้นไหมสีราตรีลอยลู่กลางอากาศพร้อมกับดวงตาสีแดงแข็งกร้าวที่จ้องมองมาทาง ชายหนุ่มทั้งสี่ อีกครึ่งหน้าที่ทุกคนได้เห็นคือผิวสีขาวอันซีดเซียวราวแผ่นกระดาษที่ไร้รอยขีดเขียน ริมฝีปากอันแห้งผากกำลังเหยียดเป็นเส้นตรงคล้ายไม่พอใจอะไรบางอย่าง ก่อนขยับยิ้มที่มุมปากราวกับเจอของเล่นที่ถูกใจเข้าให้แล้ว มือข้างหนึ่งที่พันด้วยผ้าพันแผลเปื่อยๆ คว้าเอาอะไรสักอย่างในโลงไม้ข้างตัว

                    แผล่บ

                    ลิ้นสีแดงไล้เลียหยาดหยดแห่งชีวิตบนมีดใบเลื่อยที่ มีลักษณะเป็นฟันปลาแหลมคม หยดน้ำสีแดงหยดลงกระทบกับพื้นทีละหยด...ทีละหยดอย่างเชื่องช้า ร่างของมันยิ้มอย่างเยือกเย็นก่อนที่จะค่อย ๆ ก้าวเดินเข้ามาหาชายหนุ่มผู้โชคร้ายทั้งสี่ทีละก้าว...ทีละก้าว มือข้างที่จับกระชับมีดเงื้อขึ้นสูงแล้วฟันฉับลงมากลางวง พวกเขาแตกกลุ่มกันไปคนล่ะทาง...วิ่งหนีไม่คิดอะไรทั้งนั้น

                    หึ หึ ฮ่าๆ ๆ เสียงอันแหบต่ำหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวกลิ้งกลอกไปมามองหาเหยื่อรายต่อไป ร่างผอมบางเดินกะโผลกกะเผลกไปตามทางเดินด้านในอย่างไม่รีบร้อนพร้อมกับลากใบ มีดไปกับพื้นจนเกิดเสียงครูดคราดอันน่าหวาดเสียวขึ้นเป็นระยะ มันเดินหาเหยื่ออย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ยิ่งเดินลึกเข้าไปข้างในมากเพียงไรยิ่งกระตุ้นความกระสันในการเชือดเหยื่อให้เพิ่มพูนขึ้น

    การที่จะสื่ออารมณ์ตัวละครให้ถึงผู้อ่านนั้น นักเขียนจะต้องเป็นหนึ่งเดียวกับตัวละครก่อนครับ เข้าใจตัวละครรักเขาหรือเธอให้มากๆ สร้างสรรค์พวกเขาให้โลดแล่นอยู่ในโลกของเรา ซึ่งขออภัยที่นำฉากนี้มาประกอบ เพราะผมชอบแต่งอะไรประเภทนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ ถ้าคุณอ่านแล้วรู้สึกว่ากลัว แสดงว่าผมบรรลุเป้าหมายที่ทำให้คนอ่านกลัวได้แล้ว

    3. ความสนุก+การดำเนินเรื่อง

    การดำเนินเรื่องถือว่าธรรมดามากครับ ขาดเสน่ห์เฉพาะตัวและช่วงเวลาในเรื่องดูไม่ต่อกันเลย คลาดเคลื่อนและบรรยายไม่ชัดเจน ผมอยากบอกว่านักอ่านก็มีหลายประเภทนะครับ แบบที่อ่านเฉพาะนิยายรักใสๆ มีอีโมซึ่งจะไม่สนใจเรื่องภาษากันมาก และอีกแบบคือใส่ใจในเรื่องภาษาและจะอ่านแต่ภาษาที่สวยรู้เรื่องสื่อถึงคนอ่าน ผมเป็นประเภทหลัง เพราะหากนักเขียนทำให้คนอ่านรู้สึกรื่นรมย์กับภาษาของตนเองไม่ได้ คุณก็ยังต้องพัฒนาและฝึกฝนตัวเองอีกเยอะครับ และการดำเนินเรื่องของคุณก็ทำให้ชวนงงเสียเหลือเกิน วองโกเล่หนีผี มาเฟียกลุ่มใหม่ตามมาฉะกับวองโกเล่ คือ..มันไม่มีที่มาที่ไปอย่างชัดเจนเลยครับ กล่าวคือคุณไม่ได้เกริ่นถึงเรื่องพวกนี้เลย อยู่ๆ ก็เขียนจับยัดเข้าไปแบบนั้น การทิ้งท้ายยังไม่มีปมเรื่องให้น่าติดตาม เพราะอยู่ๆ ก็ตัดฉับตามความพอใจส่วนตัว การทิ้งเรื่องให้น่าอื่นและเชื่อมโยงสู่บทต่อไปนั้นสำคัญครับ หากทิ้งท้ายได้น่าอ่านมันจะกระตุ้นให้คนอ่านนั้นอยากอ่านเร็วๆ

    4. เหตุผล ความสมจริง

    นิยายคือเรื่องที่อิงพื้นฐานจากความเป็นจริงครับ การสร้างตัวละครหรือการบรรยายการกระทำ การสร้างฉากนี่ก็เหมือนกัน ตัวละครก็เปรียบเสมือนคน มีทั้งจุดเด่นจุดด้อยอยู่ในตัว ถ้าจะสร้างตัวละครสักตัวอย่าทำให้เก่งกาจจนล้มไม่ได้ อย่าได้ฉลาดมาตั้งแต่เกิด เรียนรู้อะไรโดยไม่มีครูสอน ไม่จริงหรอกครับ คนเราจะเรียนรู้อะไรได้สำเร็จจะต้องมีคนสอนให้เข้าใจและรู้จักวิธีนำไปใช้ ซึ่งความสมจริงของตัวละครยังขาดไปมาก ฉากกลัวผีนี่ก็ทำซะไม่น่ากลัวเลยแล้วตัวละครก็แสดงท่าทางโอเวอร์เกินไป เอาให้มันดูพอเหมาะและเหมาะสมกับสถานการณืด้วยครับ

    5. ตัวละคร

    ตัวละครเยอะมักเป็นจุดอ่อนของนักเขียนหลายๆ คนครับ คือเรื่องการแจงบทและยิ่งถ้ามารวมกันเยอะในฉากเดียวจะต้องแจงบทให้เท่ากันอย่าได้ลืมหรือตกหล่นไปแม้แต่คนเดียวเชียวล่ะ เท่าที่ดูตัวละครออริทั้งเจ็ดตัวที่เปิดตัวมานี่ผมยังจับถึงตัวตนที่แน่ชัดของพวกเธอไม่ได้เลย อยู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาแบบไม่มีที่มาที่ไป นิสัยเฉพาะของแต่ละคนก็ยังไม่ได้แสดงออกมาเต็มที่ ตัวละครเยอะจนน่าปวดหัว แถมพอวองโกเล่เปลี่ยนชื่อก็ยากแก่การจำอีกด้วย แม้จะจำพวกเธอได้เพราะนิสัยอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนก็เถอะครับ ยังสื่อไม่ค่อยถึงอารมณ์ของตัวละคร การสื่อนั้นอย่างที่ยกตัวอย่างไปคือตัวคนเขียนจะต้องมีจุดร่วมเดียวกับตัวละคร เข้าใจจิตใจตัวละคร ณ ขณะนั้น และเขียนความรู้สึกนั้นออกมา ส่วนที่ว่าจะอินมากหรือน้อยอยู่ที่การฝึกฝนครับ ถ้าอยากเก่งก็ต้องฝึกและเขียนให้มากๆ เขียนให้ได้หนึ่งร้อยหนึ่งพันเรื่อง เขียนมันเข้าไป ลับฝีมือตัวเองให้คมให้เก่งขึ้น และเรียนรู้อยู่เสมอครับ

    6. บทสนทนา

    คำพูดสามารถสื่ออารมณ์ได้ครับ และมีอิทธิพลมากกว่าที่เราคิดไว้ หากใช้ให้ถูกต้องนะ ด้วยการเน้นย้ำคำพูดให้ดูเหมือนกับเป็นโทนเสียง คำพูดของคนเราบอกอะไรได้หลายอย่าง ทั้งกิริยาวาจา ความคิดอ่าน และระดับสติปัญญา บอกได้ถึงบุคลิกผู้พูดด้วย หากไม่ชำนาญการบรรยายควรหันมาลองเล่นในจุดนี้ดูครับ แต่บทสนทนาของคุณนี่มีแต่น้ำจริงๆ หาที่มันเป็นเนื้อแท้ของแก่นเรื่องได้ลำบาก ลองเอาไปปรับใช้เป็นลูกเล่นในเรื่องดูนะครับ โดยการใช้พวกเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ เข้ามาเสริม

    7. คำผิด

    มีน้อยครับ เพราะไม่มีพวกคำยากๆ ปรากฏขึ้นมาให้เห็นเลย ลองเอาคำใหม่ๆ มาใช้บ้างก็ดีนะครับ คนอ่านจะได้รู้สึกว่ามันน่าอ่านมากขึ้น พวกคำไวพจน์เอย การใช้บุรุษสรรพนามเอย นำมาใช้ได้เสมอแหละครับ

    8.อื่น

    การใช้ไม้ยมกนะครับ ไม่ควรใช้ติดกันอย่างเช่น ไปๆมาๆ อ่านแล้วติดกันไปเลยครับควรจะมีช่องไฟหน่อย เช่นไปๆ มาๆ แล้วก็ไม่ควรจะใช้เยอะเกินไปนะครับ แค่ซ้ำ 1-2 แก้ไขในส่วนที่เห็นสมควรว่าต้องแก้ อย่าได้คิดจริงจังอะไรกับที่ผมบอก นี่คือคำแนะนำเท่านั้น

    9.ความพึงพอใจ

    เนื้อหาแต่ละตอนสั้นไปนิด บรรยายไม่ชัดเจน เนื้อหาค่อนข้างออกทะเล ตัวอักษรกำลังพอดี ตัวละครเยอะจำยากยิ่งเปลี่ยนชื่อพวกวองโกเล่ยิ่งจำยากไปใหญ่

    สรุปคะแนนดังนี้

    1.โครง + พล็อต (7/10)

    2. ภาษา (5/12)

    3. ความสนุก+การดำเนินเรื่อง (5/12)

    4. เหตุผล ความสมจริง (5/12)

    5. ตัวละคร (5/12)

    6. บทสนทนา (5/12)

    7. คำผิด(8/10)

    8.อื่น (6/10)

    9.ความพึงพอใจ (4/10)   

    รวมทั้งสิ้น 50/100 คะแนนครับ

     

    แบบฟอร์มรับคำวิจารณ์

    ชื่อผู้รับ ::

    รับเมื่อวันที่ ::

    พอใจกับคำวิจารณ์หรือไม่ ::

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×