ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Bleach : Fade แด่ดอกไม้ที่ไร้สี ( อุล x ฮิเมะ )

    ลำดับตอนที่ #1 : Fade 1 : fragile

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 51


    Title : Fade เฟด แด่ดอกไม้ที่ไร้สี

    Parring : Ulquiorra x Orihime
            

             เอาอีกแล้ว ...
     

             ความรู้สึกเดิมๆหยดลงมาในห้วงการรับรู้อย่างชินชาขณะที่มือขาวซีดยกขึ้นแตะเบาๆที่บานประตูห้องๆหนึ่ง  มันเป็นเพียงแค่ห้องธรรมดา  เป็นห้องหินสีขาวเย็นชืดอย่างที่หาได้ทั่วไปในลาส์นอเช่ส์แห่งนี้  ไร้ชีวิต ... น่าเบื่อ  หากเพียงแต่สิ่งที่อยู่ภายในนั้นทำให้มันต่างออกไป  อย่างน้อยก็ในสายตาของเขา

             ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ  ที่เขาเริ่มลังเลที่จะก้าวเข้าไปในห้องนี้

             มือผอมเกร็งผละออกไปขณะนัยน์ตาสีเขียวใสหรุบลงต่ำ  เรือนผมดำขลับที่ครึ่งหนึ่งถูกปิดด้วยหน้ากากรูปทรงแปลกตาตกลงมาปรกใบหน้า  เสียงแปลกๆที่ดังมาจากในห้องนั้นทำให้เขารู้ว่า เธอ กำลังทำแบบเดิม ... ทำในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ 

             ทนฟังได้อีกเพียงพักเดียวร่างโปร่งบางก็ค่อยหันกลับเดินจากไปเงียบๆ  ทิ้งหน้าที่ๆตนต้องทำไว้ด้านหลังอย่างจงใจ ... บางที ... เขาอาจกำลังหวาดหวั่นอยู่ก็ได้ ?

             หวาดหวั่นว่าเธอกำลังทำให้โลกของเขา ... ต้องเปลี่ยนแปลง


    ..............................

             ย้อนกลับไปเมื่อวาน

             อิโนะอุเอะ  โอริฮิเมะ

             เสียงที่แทบไม่มีโทนสูงต่ำใดๆมีผลต่อร่างๆหนึ่งที่คู้ตัวอยู่เหนือโต๊ะตัวเดียวในห้องได้อย่างไม่น่าเชื่อ  มือเรียวเล็กแทบปัดกระดาษตกโต๊ะขณะที่เจ้าตัวถึงกับสะดุ้งเฮือก อ ... อุลคิโอร่า ? เธอพูดติดขัดเหมือนยังไม่หายตกใจ  แต่อย่างน้อยสีหน้าเธอก็ดีขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเขา เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่  ไม่เห็นได้ยินเสียงเลย --

             ดูเหมือนนั่นจะไม่ใช่คำตอบที่เขาสนใจ  ดวงตากลมโตไร้ความรู้สึกกราดมองไปยังสิ่งเดียวที่เขาสนใจในห้องนี้ ... มื้ออาหารประจำวันของเธอ ... เป็นอีกครั้งที่มันยังไม่ถูกแตะต้อง

             สายตาเย็นเยียบที่ตวัดกลับมามากเกินพอจะทำให้เด็กสาวรีบหลบสายตาเหมือนรู้ว่าตนทำผิด คราวนี้มีปัญหาอะไรอีกล่ะ  ทำไมถึงไม่ยอมกิน ? “

              เปล่า  ไม่ได้เป็นอะไร ... เธอพึมพำ  ดูจะหงอยไปหน่อยกับท่าทีเย็นชานั้น  แล้วก็กลับมายิ้มฝืนๆต่อได้แทบจะทันที ขอโทษนะ  ชั้นจะกินเดี๋ยวนี้แหล่ะ

             คำพูดดีๆช่างตรงข้ามกับความเย็นชาที่เขาแสดงออกเหลือเกิน  ผู้ฟังจ้องเธออยู่พักหนึ่ง  แล้วก็เหมือนจะยังไม่พอใจในคำตอบ  ร่างในเครื่องแบบขาวปลอดก้มลงหยิบกระดาษที่เธอทำอะไรบางอย่างกับมันอยู่เมื่อครู่นี้ขึ้นมา  รวดเร็วเกินกว่าที่เธอจะรั้งเขาไว้ได้ทัน

             นี่อะไร ?

             นัยน์ตาสีเขียวใสไม่มองมันเลยซักนิดตอนที่เขาพลิกมันมาหาเธอแล้วถาม  ทำให้ผู้ฟังชักไม่แน่ใจว่าเขาต้องการคำตอบแบบไหนกัน

             เอ้อ ... กระดาษวาดรูป
     

             อะไรคือวาดรูป ? “    

             ก็การเอาดินสอหรืออะไรก็ได้มาขีดเส้นให้เป็นรูปไง  จะทำเป็นรูปอะไรก็ได้ที่เราต้องการ  มีอยู่หรือไม่มีอยู่จริงก็ได้น่ะ

             เอสปาด้าหนุ่มยังคงนิ่งเฉย  นั่นเริ่มทำให้เธอตระหนักได้ถึงบางอย่าง ที่ลาส์นอเช่ส์ไม่มีแบบนี้เหรอ

             ไม่ อุลคิโอร่าปฏิเสธสั้นๆ  จริงๆแล้วเขาไม่แม้แต่จะเข้าใจความหมายสิ่งที่เธออธิบาย  เขาพลิกกระดาษมามองรูปที่เธอวาดเป็นครั้งแรก

             เขาเพิ่งได้เห็นสิ่งที่เธอเรียกว่า รูปวาด ชัดๆ  ในสายตาเขามันเป็นเส้นสีดำที่ลากเป็นรูปร่างยากจะเข้าใจบนแผ่นกระดาษสีซีด  ไม่ใช่เพราะลายเส้นเหมือนเด็กหัดละเลง  แต่มันเป็นรูปร่างกลมกับอีกหลายสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นจริงๆในฮูเอโก้มุนโด้นี้

             เกือบในทันที  ร่างกายของเขามีปฏิกิริยากับรูปนั้น  ปฏิกิริยาแปลกประหลาดที่พุ่งขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล

             เธอคิดว่าเธอกำลังทำอะไรที่นี่เหรอ ?
     

             จริงๆแล้วรูปนั้นอยากใช้สีส้มหรือสีแดง  แต่อยู่ที่นี่หาสีแบบนั้นไม่ได้เลยใช้สีดำแทนไปก่อนน่ะ  แต่ก็ยังดูออกใช่มั้ยว่าเป็นอะไร? เธออธิบายอย่างร่าเริง  ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงดูสดใสขึ้นมาทันที  แต่ก็ต้องหยุดเมื่อสังเกตว่าสายตาของเขานิ่งอย่างผิดสังเกต เอ้อ ... ดูไม่ออกสินะ  แหะๆ ที่จริงชั้นวาดรูปไม่ได้เรื่องหรอก

             แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ฟัง  สายตาที่จ้องค้างที่กระดาษแผ่นนั้นดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก

             ริมฝีปากสีซีดขยับจะพูดแต่ไม่มีเสียงออกมา  นั่นทำให้เด็กสาวผิดสังเกต
    อุลคิโอร่า -- ? “

             ลาส์นอเช่ส์ไม่มีใครวาดรูป เอสปาด้าหนุ่มย้ำคำเหมือนตัดบท  ไม่สนใจสีหน้าอีกฝ่ายที่ยังปรับอารมณ์ตามไม่ทัน และไม่มีใครต้องการรูปวาด  อิโนะอุเอะ  โอริฮิเมะ  นี่มันไร้สาระ  เลิกทำได้แล้ว

             โดยที่ผู้ฟังยังงงอยู่ หรือเริ่มเข้าใจลางๆว่าเธอเข้าใจผิดไปเสียแล้ว  เจ้าของมือขาวซีดก็เดินถือกระดาษแผ่นนั้นไปยังถังผงอีกมุมหนึ่งของห้อง  ก่อนจะหย่อนมันทิ้งอย่างไม่ใยดี

             เจ้าของนัยน์ตาสีส้มแดงร้องออกมาอย่างตกใจ ทำอะไรน่ะ --- !

             การวาดรูปไม่จำเป็น  มันไม่ทำให้มีชีวิตอยู่ได้หรอก  กินอาหารแล้วทำอะไรที่ควรทำไปซะ  หน้าที่ของเจ้าคือมีชีวิตอยู่จนกว่าท่านไอเซ็นจะเรียกใช้เท่านั้นไม่ใช่ทำอะไรไร้สาระที่นี่  ข้าจะนั่งอยู่ตรงนี้คุมเจ้ากินอาหารจนกว่าจะเสร็จ  เข้าใจแล้วก็กินได้แล้ว

             สั่งเสร็จก็กระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ยาวฝั่งตรงข้าม  ปล่อยให้โอริฮิเมะนั่งตัวแข็งพูดอะไรไม่ออก  นึกเสียใจที่คิดว่าเขาจะรู้สึกอะไรบ้าง  เธอน่าจะรู้อยู่แล้วว่าหน้าที่ของเขามีแค่ควบคุมให้เธอทานอาหารในแต่ละวันก็เท่านั้น  เธอกัดริมฝีปากขณะที่ยกสำรับอาหารมาตั้งบนโต๊ะและเริ่มกินอย่างเงียบๆ  จนในที่สุดช้อนส้อมถูกรวบเก็บและจานถูกนำออกไปโดยเอสปาด้าหนุ่มก่อนจะปิดประตูไล่หลัง

             แต่หลังประตูห้องที่ถูกปิดลงกลับเป็นเขาเสียเองที่ต้องยืนรวบรวมสติอยู่ครู่หนึ่ง  นัยน์ตากลมโตไร้อารมณ์จ้องมองกำแพงสีขาวตรงหน้า  ให้เวลาตัวเองขณะเก็บเศษของอารมณ์ที่ควรจะมั่นคงให้กลบมาอยู่ในสภาพเดิมอีกครั้ง  เป็นครั้งแรกจริงๆที่เขาออกอาการไม่ชอบใจ ... รูปภาพไร้สาระนั่นกดดันเขา ... เป็นความรู้สึกที่ราวกับมีสิ่งที่แปลกปลอมหลุดเข้ามาในหลุมหลบภัยที่เงียบเชียบ ... กดดันด้วยความรู้สึกที่ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขารู้จัก 

             เขาอ่อนแอขนาดนี้ ... รู้สึกถูกคุกคามได้ง่ายขนาดนี้เชียวหรือ

             อุลคิโอร่าถอนหายใจ  เป็นสิ่งแปลกประหลาดที่เขาทำอย่างที่สองในวันนี้  เพิ่งสังเกตว่าตนยังไม่ได้เดินไปไหนไกลจากหน้าห้องของเธอด้วยซ้ำ  มือขาวซีดยกขึ้นลูบหน้าผาก  รู้สึกเหมือนบางอย่างในตัวกำลังสั่นคลอน ...


             ผู้หญิงคนนี้มาจากที่ๆเขาไม่คุ้นเคย  ทำในสิ่งที่เขาไม่อาจคิดฝันถึง

             และมันมากไปสำหรับเขา              

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×