ตอนที่ 96 : Sweet home (มิสะ/ซายุ)
วันศุกร์คือวันที่พวกเธอใช้เวลาร่วมกันอย่างเรียบง่าย ไม่มีการออกไปร้านอาหาร ไนท์คลับหรือบ้านเพื่อนทั้งนั้น นั่นใช้พลังงานมากเกินไปสำหรับสุดสัปดาห์ที่ควรจบลงด้วยอาหารเดลิเวอร์รี่ ขดตัวบนโซฟานุ่มขณะโทรทัศน์ฉายหนังสักเรื่อง
เมื่อถึงสถานีปลายทางฝันกลางวันจึงจบลง ดาราสาวขยับผ้าปิดปากแทรกตัวก้าวออกจากเหล่ามนุษย์เงินเดือนผู้กระหายการพักผ่อน เหลือแค่เดินไปอีกไม่กี่บล็อก
ท้องฟ้าสีสดใสตัดกับกำแพงบ้านโทนขาวดำ แสงนวลจากพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าสาดส่องบนพื้นถนน ดูอบอุ่นชวนฝันอย่างที่มิสะไม่อาจเบื่อ ทั้งครอบครัว บ้าน ความสุข ทุกสิ่งที่เธอรักอยู่ที่นี่ เมืองโอซาก้า
ยังจำได้ดีถึงวันแรกที่พาซายุมาพักด้วยกัน ตอนนั้นเป็นฤดูใบไม้ผลิซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยือน แม้ไม่มากเท่าโตเกียวแต่ก็นับว่าครึกครื้น มิสะเลยรีบเคลียร์ตารางงานหาเวลาว่างเหมาะๆ แล้วชักชวนแฟนสาวไปทัวร์พวกแลนด์มาร์คทั้งหมดที่นึกออก เหมือนกับการเปิดรับอย่างเต็มรูปแบบ เพราะโอซาก้าคือหัวใจของมิสะ แน่นอนว่าเธออยากให้ซายุรักมันเหมือนกัน หลังจากอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นเวลาหลายปี มิสะก็ไม่คิดว่าจะมีความสุขไปมากกว่านี้อีกแล้ว
หญิงสาวฮึมฮัมเพลงขณะไขล็อคประตู ยังไม่ทันได้ก้าวขาเข้ามาก็ได้กลิ่นหอมหวานของวาฟเฟิลพร้อมขนนุ่มนิ่มสองก้อนพันขา ร่างบางย่อลงลูบหัวเจ้าตัวน้อยทั้งสอง ตอนยังจรจัดมันชอบมาอ้อนขออาหารถึงหน้าบ้านบ่อยๆ ก็อดใจรับเลี้ยงไม่ได้ ก็นะ ขนยาวตาดุเป็นแมวป่าทั้งสองตัวแบบนี้ถ้าหยิ่งอีกก็มีแต่อดตาย ตอนไลท์มาเยี่ยมก็ยังบอกเลยว่าเจ้าลุคหน้ายมทูตแต่นิสัยอย่างกะหมาโกลเด้นที่ใช้แค่ขนมสัตว์หนึ่งแท่งก็ซื้อใจได้แล้ว ในส่วนของเรมนั้นส่งเสียงขู่จนไม่น่าเข้าใกล้แถมทำตัวเหมือนวางแผนลอบฆ่าเขาตลอดเวลา...
เห็นซายุอยู่ที่เคาท์เตอร์จัดการตกแต่งของหวาน อีกฝ่ายหันมาวางจานวาฟเฟิลลงกับโต๊ะทั้งรอยยิ้มบาง แถบคันโตไม่แสดงสีหน้าเท่าคันไซเรื่องนั้นมิสะรู้ดี แม้แต่กับซายุที่ร่าเริงอยู่เป็นนิจยังโดนคุณป้าข้างบ้านแซวความนิ่งเงียบจริงจังกับชีวิต ซึ่งมิสะได้ขำค้านอยู่ในใจ ถ้าจะมีใครเจิดจ้าสว่างสดใสยิ่งกว่าพระอาทิตย์ยามเช้าก็แฟนเธอเนี่ยแหละ!
"วันนี้เป็นไงบ้างคะ?" สาวผมน้ำตาลถามพร้อมอ้าแขนออกกว้าง คนอายุมากกว่าทิ้งกระเป๋าลงบนโต๊ะก่อนพุ่งเข้าไปรับความอบอุ่น
"ส่วนที่ดีที่สุดคือตอนนี้" ริมฝีปากสีแดงจุ๊บแก้มเนียนจนทิ้งรอยเอาไว้ ซายุมีแอบงึมงำเรื่องความหวานจนมดขึ้นซึ่งมิสะกำชับกอดแน่นๆ เป็นการตอบรับ "เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดก่อนน้า~"
เดินขึ้นบันไดไปด้วยท่าทีลั้ลล้ากับชีวิตขณะก้อนขนสี่ขาแย่งกันมุดกล่องอยู่มุมห้อง เสียงเหมียวหมาวดังระงมสลับกันระหว่างทั้งสองราวกับการต่อรองในหนังมาเฟีย มิสะเคยบอกว่าลุคกับเรมสื่อสารกันแบบนี้และซายุก็แอบเห็นด้วยในบางครั้ง
ไม่นานเกินรอเดรสโกธิคโลลิต้าก็ถูกแทนที่ด้วยกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดสีเรียบ ลายตัวคันจิสีชมพูซึ่งประดับอยู่ทั่วอาจทำให้ดูเชยไปบ้างแต่ถึงอย่างงั้นซายุก็คิดว่าคนตรงหน้าสวยยิ่งกว่านางแบบพรมแดงเสียอีก
พอเห็นว่าเธอมองอยู่มิสะก็รีบบิดตัวเชิดหน้าโพสท่าตลกๆ ใส่ ซายุหลุดขำออกมาเล็กน้อยซึ่งก็ทำให้อีกคนหัวเราะตามเสียงใส
สองสาวพากันไปนั่งที่โซฟา ขณะหน้าจอโทรทัศน์ฉายภาพยนตร์รอมคอมสักเรื่องก็เอนตัวลงซบไหล่คนข้างกาย ส่วนคนผมทองแกะขนมแมวป้อนเจ้าเหมียวขนดำที่คลอเคลียอยู่ไม่ห่าง ซายุเคยเตือนว่าอย่าตามใจพวกมันมากแต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจจะทำตามนักหรอก ก็ถ้าแบบนั้นแล้วจะมีแมวไปทำไมล่ะเนอะ
มือเรียวจัดแจงห่มผ้าผืนบางบนตักของตนก่อนเอื้อมมือไปหยิบจานวาฟเฟิล ปกติมิสะไม่ทานอะไรบนโซฟาแต่กับวันศุกร์ทุกอย่างก็เป็นข้อยกเว้น ไม่มีกฎเกณฑ์ มีแค่พวกเธอ วาฟเฟิล แมวสองตัวกับความอบอุ่นเจือจางในบรรยากาศ
ด้วยรอยยิ้มบางประดับบนใบหน้า มิสะกดรีโมตปิดหน้าจอที่พึ่งฉายไปได้เพียงครึ่งเรื่อง ค่อยๆ ห่มผ้าให้คนผมน้ำตาลที่หลับพริ้มอย่างผ่อนคลายด้วยกลัวจะเป็นการรบกวน ถึงจะคบกันมาได้หลายปีแล้วแต่ความสุขของมิสะก็ไม่ได้น้อยลงเลย กลับกันหัวใจดวงน้อยพองโตทุกครั้งที่ได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่เธอรัก
กดจูบลงบนหน้าผากเนียนอย่างอ่อนโยนก่อนมิสะจะหลับตาลง ปล่อยใจให้สบายกับเสียงจังหวะของหัวใจที่ทั้งบางเบาและชัดเจน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
