ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หลงใหล ใคร่รัก [อ่านฟรี มี E-Book]

    ลำดับตอนที่ #17 : พลับพลึงดอกที่ 14 ชัดเจน?

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 67


    “กูก็ไม่ได้ว่างมานั่งเฝ้าใคร แต่ในเมื่อพี่จอมเขาของให้กูรอ มึงคิดว่าคนที่เป็นเด็กอย่างกูจะขัดใจคนที่โตกว่าได้หรอ?” พลับพลึงยกยิ้มที่มุมปากที่ดูน่าหมั่นไส้ส่งไปให้บัวตอง “แต่ใครจะไปเหมือนมึงล่ะเนอะ ร้อยวันพันปีไม่เคยป่วย พอมีหมอหนุ่มๆ เข้ามาในหมู่บ้านได้ไม่ทันไร อาการป่วยก็มาซะละ”

    “อีพลับพลึง!!” สิ้นคำของพลับพลึง บัวตองที่ไม่สามารถเถียงอะไรกลับออกไปได้อีกแล้ว จึงได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน สะบัดหน้าหนีและเดินออกไป “กูฝากไว้ก่อนเถอะ”

    “เฮ้ออออ” พอบัวตองจากไป พลับพลึงก็ถอนหายใจออกมา หันไปมองที่จอมทัพ “จะกลับได้รึยังคะ? แดดร่มจนจะหายไปหมดแล้วนะ”

    จอมทัพที่ได้ยินประโยคของหญิงสาวก็ถึงกลับสะอึก เพราะดูเหมือนแผนการถ่วงเวลาให้ตัวเองได้อยู่ใกล้ๆ กับหญิงสาวนั้นน่าหมดลงแล้ว สุดท้ายเขาจึงตอบรับแต่โดยดี

    “ได้ครับ เดี๋ยวพี่ขอเก็บของแป๊บหนึ่งนะ” จอมทัพตอบกลับหญิงสาวก่อนจะเดินไปเก็บของที่ยังใช้ได้เข้าที่เดิม โดยทุกอย่างและทุกการกระทำของเขาและหญิงสาวก็ตกอยู่ในสายตาของเพื่อนๆ ทั้งสี่คน

    “แค่ไปส่งกลับบ้านมันต้องหงอยขนาดนั้นเลยหรอวะ” ทศพลกระซิบถามอย่างสงสัย

    “มึงก็เข้าใจมันหน่อย ห่างน้องเข้าตั้งเกือบสิบปี พอได้อยู่ใกล้มันก็ไม่อยากห่าง” แทนเอ่ยตอบน้องชาย แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น เสียงของเทวินทร์ก็โวยวายขึ้นมาเสียก่อน

    “ไอ้แฝดเหี้.ย อย่ามัวแต่คุยเรื่องไอ้ทัพ มาช่วยเก็บของก่อนจะได้รีบกลับบ้าน” เทวินทร์ตะโกนเรียกสองหนุ่มอย่างแทนไทและทศพล ที่มัวแต่คุยเรื่องจอมทัพกับพลับพลึงจนไม่ได้เก็บของที่รื้อออกมา

    “ครับพ่อ!!” สองหนุ่มฝาแฝดขานรับ

    ตัดมาทางฝั่งของพลับพลึงที่ตอนนี้กำลังยืนกอดอกมองไปที่จอมทัพไม่วางตา ด้วยรู้สึกว่าแม้คนตรงหน้าจะบอกว่ายอมที่จะไปส่งแล้ว แต่ท่าทางการเก็บของกลับดูไม่อยากให้เธอกลับอย่างไรอย่างนั้น มันช้าจนหญิงสาวต้องถามสิ่งที่สงสัยออกมา

    “พี่จอม”

    “ครับ” ได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเอง ชายหนุ่มจึงได้หันหน้าไปทางหญิงสาว

    “พี่ถ่วงเวลาหนูหรอ? ทำไมเก็บช้าจัง”

    “...” ได้ยินคำถามนี้ของพลับพลึง จอมทัพก็ถึงกลับไปไม่เป็น เพราะเขาคิดว่าตัวของเขาที่กำลังเก็บของนั่นก็เก็บปกติ ไม่ได้ถ่วงเวลาอะไรอย่างที่หญิงสาวถามเลยสักนิด

    “ช่างเถอะ หนูไปก่อนแล้วกัน” พลับพลึงที่ขี้เกียจรอแล้ว จึงได้เดินตรงไปยังตะกร้าสานแล้วย่อตัวยกสายของมันขึ้นสะพายบ่า “ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ แต่ว่ามันเย็นแล้วหนูต้องรีบกลับไปทำกับข้าวให้พ่อ”

    พูดกลับจอมทัพเสร็จ พลับพลึงก็ก้มหัวเพื่อเป็นการขอบคุณให้ชายหนุ่มหนึ่งครั้ง ก่อนจะกันไปทำกับเพื่อนๆ ทั้งสี่คนของเขา ก่อนไปก็ไม่วายพูดกับแทนไทและทศพลถึงสิ่งที่บอกว่าจะให้ทั้งสองเมื่อเช้า

    “เดี๋ยวตอนเย็นๆ เอาหน่อไม้มาให้นะคะ”

    “ครับ”

    จากนั้นก็เดินสะพายตะกร้าใบใหญ่ที่ภายในบรรจุกล้วยและหน่อไม้เอาไว้อย่างมั่นคง ไม่มีอาการหนักหรือเดินเซเหมือนอย่างที่จอมทัพเป็นแต่อย่างใด

    “น้องพลับพลึงของมึงแม่งแข็งแรงว่ะ” เทวินทร์เดินมาตบบ่าและพูดกับจอมทัพมาหนึ่งประโยค พร้อมกับยืมมองดูพลับพลึงที่เดินจากไป

    “น้องยังไม่ใช่ของกูสักหน่อย” แม้ว่าอยากจะให้มันเป็นอย่างที่เพื่อนพูด แต่เขาก็ต้องยอมรับความจริงตรงนี้ ว่าตัวเองกับหญิงสาวอย่างพลับพลึงนั่นยังไม่ได้เป็นอะไรกัน

    “เหรอ...งั้นก็ทำให้มันใช่สิวะ ไหนๆ พ่อของน้องเขาก็เปิดทางให้มึงแล้วไม่ใช่หรอ?”

    “อาภพเปิดทาง แต่น้องแม่งไม่รู้ไงหรือกูทำอะไรผิดพลาดไปตรงไหนวะ?” จอมทัพขุดคุ้ยความทรงจำของตัวเอง แต่ก็ยังไม่เห็นส่วนที่เขาทำพลาด

    “เฮ้อ ช่างแม่งไอ้เรื่องที่พลาดไปเหอะ หลังจากนี้มึงก็แค่เดินหน้าจีบน้องเขาอย่างตั้งใจจนกว่าน้องเขาจะรับรักมึงหรือไม่ก็รำคาญมึงจนขอให้มึงเลิกยุ่งกับเขาไปข้างนั่นแหละ” เทวินทร์ตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนอีกครั้ง ก่อนจะกลับไปรวมตัวกับพวกของพระนาย

    “เย็นนี้กินอะไรดีวะ”

    “ไม่รู้ว่ะ มีแต่กล้วยที่น้องแปลกให้มาเนี๊ยะ ตำกล้วยได้มั้ยวะ กูอยากกิน”

    เพี๊ยะ!!!

    “ไอ้สัส ตำกล้วยเขาใช้กล้วยดิบ ไม่ใช่กล้วยห่าม”

    “ไอ้เหี้.ยแทนบอกกูดีๆ ก็ได้ไอ้สัส ตบมาซะสมองกูเกือบไหลไปรวมกัน” ทศพลหันไปแหวใส่พี่ชายที่ตบมาที่หัวตัวเองอย่างไม่ออมแรง “แต่เดี๋ยวน้องมันเอาหน่อไม้มาให้พวกเรานิ กินตำหน่อไม้มั้ย”

    “เป็นความคิดที่ดี” แทนไทเห็นด้วยกับสิ่งที่ทศพลเสนอขึ้นมา แค่คิดถึงตำหน่อไม้แซ่บๆ เผ็ดๆ เขาก็น้ำลายสอแล้ว

    “กูไม่กินกล้วยบวชชีนะ” พระนายที่เงียบมานานเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งที่เรื่องกล้วยจบไปแล้ว

    “ไอ้นายใครเขาจะแดกกล้วยบวชชีเป็นอาหารเย็นวะ” เทวินทร์ถามกลับไปที่พระนายด้วยสีหน้าแปลกที่เพื่อนมีความคิดนี้ออกมา

    “แล้วจะกินอะไรอีกดี?” ทศพลถามออกมา

    “ก่อนคิดว่าจะทำอะไรกินอีก กูว่าเรายกกล้วยกลับไปที่บ้านก่อนดีกว่ามั้ย?” พระนายเสนอ ซึ่งทุกคนก็พยักหน้ารับเห็นด้วย

    จากนั้นทั้งสี่หนุ่มก็พากันเดินกลับไปที่บ้านพักซึ่งอยู่ทางด้านหลังของสถานีอนามัย แต่จะบอกว่าด้านหลังเลยก็คงไม่ใช่ แต่เป็นจุดที่เยื้องไปทางด้านหลังเสียมากกว่า โดยคนที่เป็นคนแบกเครือกล้วยกลับนั้นก็คือพระนายและปล่อยให้จอมทัพยืนอยู่ที่เดิมมองไปยังทางที่พลับพลึงจากไป

    “ไอ้นายมันตัวเล็กหรือกล้วยมันเครือใหญ่วะ?” แทนไทที่เห็นท่าทางทุลักทุเลของเพื่อนตอนที่แบกกล้วยขึ้นหลังพูดขึ้นมา

    “กล้วยมันเครือใหญ่แหละ...กูว่างั้น” ทศพลตอบคำถามของพี่ชาย เพราะต่อให้พระนายจะเป็นผู้ชายที่ดูตัวเล็กแต่ก็เป็นเพราะพวกเขานั้นเป็นผู้ชายตัวใหญ่ที่สูงมากกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรบวกต่างกับพระนายที่สูงเพียงแค่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเก้าเซนติเมตร ซึ่งก็ถือว่าสูงกว่ามาตรฐานความสูงของผู้ชายไทยไปแล้ว แน่นอนว่าทางจอมทัพเองก็เป็นคนที่สูงพอๆ กับทั้งสามคนเช่นกัน ทำให้พระนายกลายเป็นคนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มทันที

    “แล้วพวกมึงจะทิ้งไอ้ทัพไว้อย่างงั้นอ่ะนะ” ทศพลเอ่ยถามเพื่อนๆ

    “ช่างมันเหอะ เดี๋ยวมันก็ตามมาเองแหละ” เสียงที่ตอบนี้เป็นของเทวินทร์ ซึ่งเหตุผลจริงๆ ที่ทิ้งออกมาไม่ใช่ว่าอะไร แต่เป็นเพราะเขาแค่ปล่อยให้เพื่อนได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง จะได้ตัดสินใจอะไรๆ ได้เร็วขึ้น

    “แล้วสรุปเรื่องของมันกับน้องพลับพลึงนี่ยังไงวะ?” พระนายที่กำลังแบกกล้วยอยู่เอ่ยถาม ในตอนนี้เขาไม่ได้มีท่าทางทุลักทุเลเพราะเริ่มชินกับน้ำหนักของเครือกล้วยแล้ว

    “เฮ้ออ” พอได้ยินคำถามของพระนาย เทวินทร์ก็ถึงกับถอนหายใจ “ไอ้จอมทัพอ่ะมันก็ชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเองที่มีกับน้องพลับพลึงนะในสายตากู...กับพวกมึง”

    “ชัดเจนแล้วทำไมมันถึงดูหงอยๆ? หรือตอนที่มันแอบไปสารภาพน้องแปลกเขาปฏิเสธมันวะ?” ทศพลถามเสียงตื่นเมื่อคิดว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเพื่อนน่าจะกำลังอกหัก แต่อกหักยังไงถึงได้ออกมาจากป่าไผ่พร้อมกันได้นั้น เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะลืมคิดไป

    “มันชัดเจนกับเพื่อน...แต่ไม่ใช่กับคนที่ตัวเองชอบไง”

    “หา?”

    “อือ มันชัดเจนกับพวกเรา แต่กับทางนั้นคือ...กูว่าน้องแม่งยังไม่รู้เลยว่าไอ้ทัพชอบตัวเองอยู่” แทนไทพูดขึ้น

    “ห๊ะ?”

    “เออ เพราะเท่าที่กูเห็นเหมือนว่าไอ้ทัพน่าจะยังไม่ได้พูดหรือบอกอะไรกับน้องมันเลยสักอย่าง” เทวินทร์พูดต่อในสิ่งที่เขาจับสังเกตได้ตั้งแต่เมื่อคืน

    “ทั้งที่ก่อนมามันตั้งใจว่าจะขอจีบน้องตั้งแต่วันแรกเนี๊ยะนะ” ทศพลถามเสียงสูง

    “แต่คงไม่มีอะไรต้องห่วงมั้ง เดี๋ยวพอคิดได้มันก็คงไปจีบน้องเขาเองแหละ” แทนไทยักไหล่บอก ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันเดินไปที่บ้านพัก โดยทิ้งให้จอมทัพยังคงยืนอยู่ที่สถานีอนามัยคนเดียว

     

    ฝากกดเข้าชั้น+คอมเม้น+หัวใจ
    เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์หน่อยน้าาา
    พลีสสส
    (❁´◡`❁)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×