คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ก่อนอื่นนักเขียนที่ชื่นชอบเรื่องไร้สาระขอบอกท่านผู้อ่านว่า...หากท่านคาดว่าจะได้พบบทความตื่นเต้น สนุกสนาน หรือเขียนได้ดีจนท่านต้องร้องชม นักเขียนคนนี้บอกได้คำเดียวว่าท่านคิดผิดอย่างมหันต์
บทความนี้เป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนคนหนึ่งที่ต้องการจะถ่ายทอดให้ผู้อ่านรับรู้เท่านั้น คำประพันธ์ที่ใช้อาจไม่ได้สวยหรู เนื้อเรื่องอาจจะไม่ปะติดปะต่อสักเท่าไหร่ แต่นี่คือความพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว
-----------------------------------------------------------
ภายในห้องสีขาวบริสุทธิ์ แสงแห่งอรุณรุ่งสาดส่องผ่านพ้นผ้าม่านสีขาวบาง และ ณ ที่นั่นเอง...ทารกหญิงคนหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้น...
เตียงขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ หญิงสาวประมาณสามสี่คนซึ่งคาดว่าอายุของพวกหล่อนแต่ละคนไม่น่าจะเกินยี่สิบห้าปีต่างพากันแสดงสีหน้าปลื้มปีติยินดีต่อสิ่งที่ปรากฏแก่สายตา
"หน้าตาเหมือนพระองค์เลยนะเจ้าคะ" หนึ่งในหญิงสาวทั้งหมดเอ่ยพร้อมกับยื่นทารกน้อยในมือให้แก่ผู้เป็นมารดา
นางรับเด็กน้อยจากมือของหญิงสาวด้วยความทะนุถนอม ใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นหลับตาพริ้มเรียกความเอ็นดูจากผู้พบเห็นยิ่งนัก นิ้วมือเรียวยาวของนางประคับประคองราวกับกลัวว่าเด็กน้อยจะหายไป
'ราชินี' ยศศักดิ์ที่ใครหลายๆ คนต้องการจะได้มาซึ่งการครอบครอง คือฐานะของหญิงสาวบนเตียง เส้นผมสีน้ำตาลแดงล้อมกรอบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อที่บัดนี้ซีดลงอย่างเห็นได้ชัดจากการคลอดบุตรไม่ได้ทำให้ความงามของนางลดลงแต่อย่างใด
"พระองค์ยังไม่ได้ตั้งชื่อเลยนะเจ้าคะ" นางกำนัลนางหนึ่งเอ่ยเสนอ
"ใครบอกเจ้าล่ะ เราตั้งชื่อไว้แล้วต่างหาก..." นางพูดพร้อมกับมองใบหน้าของเด็กน้อยพร้อมรอยยิ้มที่ผุดพรายบนใบหน้า
"นี่คือธิดาของเรา เจ้าหญิงเพียงองค์เดียวแห่งราชอาณาจักรแวเรียสทารีส...คอรินเนีย"
---------------------------------------------------------
"อ้ากกกกกกก" เสียงร้องลั่นดังมาจากร่างของเด็กสาวบนเตียง ก่อนที่เจ้าตัวจะกลิ้งตกเตียงอย่างไม่เป็นท่า
"โอ๊ย เจ็บชะมัด ฝันอะไรไม่ฝันๆ ว่าตัวเองตกเตียง งี่เง่าชะมัด โอ๊ย" เธอร้องบ่นตัวเองพร้อมกับใช้มือนวดเอวที่เกือบเคล็ด แล้วพลัน...สายตาก็เหลือบเข้ากับสิ่งหนึ่ง...นาฬิกาปลุก...เจ็ดโมงสี่สิบห้านาที!!!
มี่เวลาให้คิดอะไรมากนัก เธอยันกายลุกขึ้นจากพื้นทันทีด้วยอารามรีบร้อน มือเรียวคว้าของสะเปะสะปะไปทั่วเริ่มจากผ้าเช็ดตัว...หมวกคลุมผมและ...ถุงเท้า?
ใช้เวลาเกือบ 10 นาทีกว่าเจ้าตัวจะจัดการกับตัวเองเรียบร้อย เส้นผมสีน้ำตาลแดงแปลกตาที่ยาวถึงเอวพันกันยุ่งเหยิง เธอฉวยหนังยางจากโต๊ะเขียนหนังสือเส้นหนึ่งมาคาบไว้ในปากก่อนจะจัดการกับกระดุมคอที่ไม่เรียบร้อยแล้วเดินลงบันไดไป
บรรยากาศของห้องรับแขกอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของขนมปังปิ้งและเบคอน ที่โต๊ะอาหารมีเพียงชายคนหนึ่งนั่งอยู่เพียงลำพัง ใบหน้าเกือบหมดถูกซ่อนไว้ใต้หนังสือพิมพ์ของเช้าวันนี้ เหลือพ้นเพียงเส้นผมสีน้ำตาลเท่านั้น เธอเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารพร้อมกับหยิบขนมปังแผ่นหนึ่งมากิน เส้นผมถูกมัดเป็นทรงหางม้าเรียบร้อยแล้ว และที่สำคัญ...มันเปลี่ยนกลายเป็นผมสีน้ำตาลธรรมดา?
"อ้อ...แอ้ อู่ ไอ๋ (พ่อ...แม่อยู่ไหน)"
"อยู่ในครัวแน่ะ" เสียงตอบดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่ผ่านพ้นหนังสือพิมพ์ นัยน์ตาสีน้ำตาลเช่นเดียวกับบุตรสาวดูอบอุ่น รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏขึ้นเมื่อเห็นการกิน (สวาปาม) ของเด็กสาว
"กินช้าๆ ก็ได้ลูก" เขาเอ่ยด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าเธอจะตายเพราะขนมปังติดคอซะก่อน
"ไม่ทันแล้วค่ะ หนูไปก่อนนะ หวัดดีค่ะพ่อ ฝากหวัดดีแม่ด้วยนะ บาย" เด็กสาวคว้าน้ำมาดื่มอึกใหญ่ก่อนจะรีบหิ้วเป้สีฟ้าออกจากบ้านไป
และเป็นเวลาเดียวกันกับที่หญิงสาวท่าทางใจดีออกมาจากห้องครัว เส้นผมสีนิลสนิทถูกมัดไว้ลวกๆ ใบหน้าที่ไม่ได้แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางใดๆ ดูอบอุ่นและเป็นมิตร ยิ่งเวลาที่เธอแย้มรอยยิ้มเพราะเห็นท่าทีรนของเด็กสาวยิ่งดูน่ามอง
"ราเชลไปแล้วเหรอคะ" เธอเอ่ยถาม
"อืม ท่าทางจะตื่นสายอีกตามเคย"
"นั่นสินะคะ แต่ว่า...วันนี้สินะ...วันที่คำทำนายกล่าวถึง" สีหน้าของหญิงสาวสลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเอ่ยถึงประโยคหลัง
------------------------------------------------------------
ตึกๆๆๆๆ เสียงฝีเท้ารัวด้วยความรีบเร่ง ใบหน้าที่จัดว่าสวยทีเดียวเปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ ขณะนี้เป็นเวลาเจ็ดนาฬิกาห้าสิบเจ็ดนาที
"เดี๋ยวก่อน!" เสียงร้องเรียกด้วยความกระหืดหอบดังขึ้น แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างเธอเอาซะเลย เพราะคนเฝ้าประตูโรงเรียนวันนี้ดันเป็นรุ่นพี่ประธานนักเรียนสายตาสั้นคู่อริของเธอซะนี่
เจ็ดโมงห้าสิบแปดนาที...
"ราเชล ริเวอร์ส มาโรงเรียนสายสามครั้งติดต่อกัน จะต้องได้รับโทษคือถูกคุมประพฤติหนึ่งสัปดาห์" รอยยิ้มหยันผุดขึ้นบนใบหน้าที่ยามนี้ราเชลเห็นว่ามันเป็นใบหน้าที่อัปลักษณ์ที่สุด
...เจ็ดโมงห้าสิบเก้านาที...
"อย่ามาพล่ามงี่เง่านะไอ้แว่น เปิดประตูเดี๋ยวนี้" เธอว่าเสียงแข็ง แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมทำตามจึงเริ่มหงุดหงิด เธอเหลือบมองคู่อริก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้โยนข้ามรั้วโรงเรียนที่สูงเกือบสี่เมตร!!! จากนั้นก็กระโดดข้ามไป
...แปดนาฬิกา...
"คิดจะต้อนท่านราเชล ริเวอร์สให้จนมุมงั้นเหรอ มันยังเร็วไปสิบปีนะไอแว่น ไว้ไปฝึกมาใหม่เราค่อยมาว่ากันใหม่นะ...รุ่น-พี่"
แล้วเจ้าตัวก็เดินฮัมเพลงอย่างสบายอกสบายใจเดินเข้าโรงเรียนไปโดยทิ้งให้รุ่นพี่หน้าแว่นยืนเจ็บใจอยู่คนเดียว...
คาบเรียนแรกของวันนี้คือวิชาคณิตศาสตร์ แต่เนื่องจากว่าอาจารย์ประจำวิชานี้ลาป่วยราเชลจึงรอดตัวไป เพราะไม่งั้นมีหวังเธอได้เข้าไปนั่งอธิบายว่าทำไมถึงมาสายยาวเหยียดอีกเป็นชั่วโมงๆ แน่นอน
เมื่อไม่มีครูสอน วิชานี้จึงกลายเป็นคาบว่างไปโดยปริยาย นักเรียนชายจำนวนหนึ่งนั่งปากระดาษใส่กัน ส่วนคนอื่นๆ ก็นั่งคุยกัน ราเชลมองภาพเหล่านี้ก่อนจะถอนหายใจแล้วหยิบซาวเบาท์อันโปรดขึ้นมาฟัง
"ราเชล ริเวอร์ส" น้ำเสียงแสบแก้วหูร้องเรียกชื่อเธอ และเป็นเหตุให้เธอต้องยอมถอดหูฟังออก
"มีอะไรยัยปลาหมึก" น้ำเสียงเบื่อๆ ตอบกลับก่อนจะมองหน้าเพื่อนสาวที่กำลังเดือดได้ที่ด้วยความยียวน
"อย่าเอาชื่อบ้าๆ นั่นมาเรียกฉันนะ แค่จะมาบอกว่าอาจารย์ฝ่ายปกครองอยากพบเธอน่ะ" เด็กสาวตอบด้วยท่าทีพออกพอใจ จนราเชลนึกหมั่นไส้
เธอยัดซาวเบาท์ใส่กระเป๋าก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไปด้วยความเบื่อหน่าย
ที่นี่คือโรงเรียนเอกชนขนาดย่อมแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บริเวณชานเมือง มันเป็นสถานที่ที่คุณจะพบเจอแต่คำว่า "น่าเบื่อ" หรือ "โคตรน่าเบื่อ" เท่านั้น งานโรงเรียนแต่ละปีก็จืดชืดไร้สีสันจนหลายคนคิดว่าไม่จัดซะยังดีกว่า อาจารย์แต่ละคนก็ปาเข้าไปรุ่นคุณป้าแล้วทั้งนั้น ไม่แว่นหนาเตอะก้ปากแดงแจ๊ดอย่างไม่เจียมสังขารตัวเอง นี่ล่ะ...คำจำกัดความของโรงเรียนบรีตัส
"ขออนุญาตค่ะ" ราเชลตะโกนบอกเมื่อเดินมาถึงประตูบานหนึ่ง
"เข้ามา" เสียงตะโกนตอบเล็ดลอดออกมาจากช่องใต้ประตู ราเชลออกแรงผลักมันอย่างช้าๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาบุคคลในห้อง
"มีธุระอะไรกับหนูเหรอคะอาจารย์โมนิก้า" เธอถามก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้สีฟ้าหม่น ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะอาจารย์
"ฉันจะพูดเรื่องของเธอ" อาจารย์โมนิกาผู้เป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นคุณป้าเข้มงวดแห่งปีบอกพร้อมกับขยับกรอบแว่นสีดำหนา
...แหงล่ะสิ ไม่พูดเรื่องฉันแล้วจะเรียกมาทำไม...
"เกี่ยวกับอนาคตทางการศึกษาอันรุ่งโรจน์ของเธอ" หล่อนว่าพร้อมกับขยับแว่นอย่างกระตือรือร้นแล้วรอดูท่าทีของราเชล
...อนาคตทางการศึกษาอันรุ่งโรจน์ พูดซะเว่อร์เชียวนะป้า...
"อนาคตหนูทำไมเหรอ" ราเชลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังยังไงก็ไม่ดูสนใจเลยสักนิด แต่ดูเหมือนอาจารย์จะคิดไปอีกอย่างนึง
"ยังไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้น เดี๋ยวฟังแล้วเธอจะรู้สึกดีมากกว่านี้อีก"
"อ่า...ค่ะ มีเรื่องอะไรเหรอคะ" เอาก็เอา เล่นตามน้ำไปก่อน
"เธอไม่สนใจจะไปเรียนที่แฟร์แบงส์เหรอ" พูดถึงตรงนี้แววตาของอาจารย์ก็วาววับทันที
"หืม? ที่ไหนนะคะ" เธอทวนคำอย่างไม่เชื่อหู
"แ ฟ ร์ แ บ ง ส์" คราวนี้อาจารย์ย้ำแต่ละคำอย่างชัดเจนทำเอาราเชลอึ้งไปพักใหญ่
แฟร์แบงส์...สถานศึกษาชั้นนำที่ถ้าไม่ใช่ลูกผู้ดีมีเงินหรือพวกหัวกะทิไม่มีทางได้เหยียบย่างเข้าไปเสนอหน้า ทั้งตึกและอาคารเรียนราวกับเป็นสถาปัตยกรรมชั้นเลิศของเหล่าสถาปนิกที่มีชื่อเสียง แล้วนี่อาจารย์จะให้เธอ...ไปเรียนที่นั่น!!!
"ไม่มีทางหรอกค่ะ พ่อแม่สอนไว้ให้อยู่อย่างพอดี ริเวอร์สไม่อาจเอื้อมของสูง" ราเชลกล่าวชัดถ้อยชัดคำแต่อาจารย์กลับไม่สนใจพร้อมกับหยิบจดหมายฉบับหนึ่งส่งให้เธอ
"อ่านดูแล้วเธอจะเปลี่ยนใจ" รอยยิ้มแปลกๆ ระบายบนใบหน้าของอาจารย์ ทำให้เธอต้องรีบเปิดซองเพื่ออ่านจดหมายข้างใน
----------------------
ถึง...ราเชล ริเวอร์ส
ถึงคุณราเชล ริเวอร์ส นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบรีตัส ทางสถานศึกษาแฟร์แบงส์ยินดีต้อนรับคุณเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนักศึกษาพิเศษจำนวน 216 คน ที่ได้รับทุนการศึกษาให้เข้าศึกษาโดยไม่คิดมูลค่าในระดับชั้นไฮสคูลปี 1 (ม.4) โดยขอให้คุณส่งใบสมัครเพื่อเป็นนักเรียนที่ถูกต้องซึ่งแนบมากับจดหมายฉบับนี้ ภายในวันที่ 7 กรกฎาคม และข้อมูลทุกอย่างต้องเป็นความจริงเท่านั้น ทางแฟร์แบงส์จะติดต่อกลับไปภายในหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่คุณส่งใบสมัครแล้วเสร็จ
***ขออภัยที่ไม่สามารถมาติดต่อได้ด้วยตนเอง***
รองผู้อำนวยการ
อลัน แบล็คเบิร์น
-------------------
"ลองเก็บไปคิดดูให้ดีๆ นะ แล้วฉันจะรอฟังข่าวดี" อาจารย์โมนิกากล่าวส่งก่อนจะให้ราเชลออกจากห้องไป
และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่เป็นอันเรียนเลย ราเชลจัดแจงใส่รองเท้านักเรียนก่อนจะเดินกลับบ้าน ตลอดทางก็คิดเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ...ดูมันออกจะผิดปกติไปหน่อย ถึงผลการเรียนเธอจะอยู่ในเกณฑ์ดี 4.00 แต่ก็คงไม่ถึงกับเข้าตากรรมการอย่างแฟร์แบงส์ แล้วอะไรกันที่ทำให้จดหมายนั่นจ่าหน้าถึงเธอ?
ระหว่างที่สมองกำลังคิดไตร่ตรองอย่างหนัก การก้าวเดินของเธอก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อมีชายคนหนึ่งกำลังยืนขวางทางพร้อมกับยิ้มให้เมื่อเห็นเธอ
"ขอโทษค่ะ ช่วยหลีกทางหน่อยนะคะ" ราเชลบอกเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจคำพูดนั่นเลย เพราะเขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
"สวัสดีครับ คุณคงจะเป็นคุณราเชล ริเวอร์ส สินะครับ" เขาถามเธอ
"ก็คงงั้น" ราเชลตอบแบบไม่ใส่ใจ แต่อันที่จริงเธอไม่ไว้ใจที่จะบอกเขามากกว่า
"คุณคงจะไม่ไว้ใจผม ใช่มั๊ย?" เขาถามราเชลราวกับรู้ทัน
"แล้วคุณคิดว่าถ้าอยู่ๆ มีผู้ชายแต่งตัวแปลกๆ มายืนขวางทางกลับบ้านอยู่ แถมยังมาถามชื่อแซ่คงน่าไว้ใจอยู่หรอก" ราเชลตอบ เริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับมองสำรวจตั้งแต่ทรงผมที่เรียบแปล้ ใบหน้าที่หล่อเหลา ชุดสูทที่เกลี้ยงเกลา และรองเท้าสีดำที่ขัดเป็นเงาวับ
"หึๆ นั่นสินะครับ" เขายิ้ม ซึ่งนั่นทำให้ใบหน้าของเขาดูดีขึ้นมาก
"เอาเป็นว่าผมมาดีละกัน"
"คุณมีธุระอะไรกับฉัน" ราเชลถามเขา เพราะรู้สึกว่ายิ่งพูดก็ยิ่งออกนอกประเด็น
"ผมคืออลัน แบล็กเบิร์นผู้ช่วยศาสตราจารย์ใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยแฟร์แบงส์" ชายหนุ่มตอบด้วยสีหน้าที่จริงจังมากขึ้น
"งั้นก็คุณสินะ ที่ลงนามในจดหมายที่ส่งมาให้ฉัน" ราเชลถามต่อ แต่ก็เริ่มสนใจในเรื่องที่ชายคนนี้กำลังจะพูด
"ใช่แล้ว ผมมาติดต่อให้คุณไปเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยครับ" อลันตอบอย่างสุภาพ
"งั้นขอถามอะไรหน่อยสิคะ" ราเชลเอ่ยลองเชิง ซึ่งก็ได้รับการพยักหน้าตอบ
"ได้สิครับ" อลันตอบอย่างเป็นมิตร
"ทำไมแฟร์แบงส์ถึงส่งจดหมายมาเชิญฉัน ทั้งๆ ที่มีเด็กอีกมากมายต้องการจะเข้าเรียนที่นี่และพรสวรรค์นั้นมีมากกว่าฉัน" ราเชลยิงคำถาม
"เป็นคำถามที่ดีนะครับ หลายคนตอบรับทันทีเมื่อเห็นตราประทับของแฟร์แบงส์ ซึ่งผมไม่ปฏิเสธว่างานของผมลดลงไปเยอะเมื่อไม่ต้องมาเจรจาเกลี้ยกล่อมเด็กเหล่านั้น" อลันเกริ่น
"ฉันต้องการคำตอบ" ราเชลย้ำเจตนาตัวเองอย่างชัดเจนจนอลันต้องหุบยิ้มลง
"งั้นผมคงต้องตอบคุณสินะ ในบรรดานักเรียนนับล้านที่ใฝ่ฝันอยากจะเข้ามาหาประสบการณ์ในสถานศึกษาเลื่องชื่ออย่างแฟร์แบงส์ และแน่นอนว่าทุกคนจะงัดวิธีการต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งใบสมัครเข้าโรงเรียน ซึ่งผู้ชนะในการสอบเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ได้รับ" เขาหยุดนิดนึงเพื่อรอดูท่าที และก็พูดต่อเมื่อรู้ว่าทุกอิริยาบถของเขาถูกราเชลจับจ้องไม่วางตา
"บางคนสมหวัง บางคนผิดหวัง และบางคน...หมดสิ้นความหวัง แต่นั่นก็เป็นเพียงนักเรียนธรรมดาๆ เท่านั้น แต่เธอ...คือคนพิเศษ"
"คนพิเศษ? หมายความว่ายังไง" เธอเอ่ยถามด้วยความฉงน
"เธอคือคนที่สามารถควบคุมพลังที่ไหลเวียนในร่างกายให้ออกมาเป็นรูปแบบของพลังที่แน่นอนโดยการตั้งจิตให้มั่นและกำหนดลักษณะของรูปแบบ หรือเรียกสั้นๆ ว่า...พลังจิต" เมื่ออลันพูดจบราเชลก็ทัดทานขึ้นทันที
"จิตวิปริตน่ะสิ คุณน่ะเสียสติไปแล้ว ของแบบนั้นมันมีจริงๆ ซะที่ไหนกันล่ะ" เธอค้านเสียงแข็ง
"เธอจะเชื่อหรือไม่ อันนี้ฉันคงตัดสินใจแทนใครไม่ได้ แต่อีกไม่นานเธอจะรู้ถึงความพิเศษในตัวเอง" คำสรรพนามจาก "ผม" และ "คุณ" กลายเป็น"เธอ" กับ "ฉัน"
"คุณกำลังจะบอกว่ารู้จักตัวฉันดีกว่าตัวฉันเองงั้นเหรอ"
"ไม่ใช่หน้าที่ของฉันที่จะต้องมาตอบคำถามเหล่านี้ บอกแล้วไง อีกไม่นาน...ทุกอย่างก็จะปรากฏ" กล่าวจบเศษใบไม้มหาศาลก็ปลิวมากับสายลมกรรโชก...ทั้งๆ ที่ไม่มีต้นไม้สักต้น!!!
และเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เศษใบไม้หายไปหมดแล้ว...บุรุษนามอลัน แบล็คเบิร์นก็หายไป...
ความคิดเห็น