ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 # The Other....?
City Of The Living Dead
เมืองศพคืนชีพ
Chapter 4 # The Other .?
28 October 1982
9 A.M.
“......” แมนดี้นั่งซึมหลังจากที่ตำรวจออกไป เธอตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะขอลาหยุดเพื่อตัดเรื่องบ้าๆนี่ออกจากหัวให้หมดเสียก่อน
“แมนดี้...” ไอว่า แม่ของเธอที่เพิ่งเก็บผ้าเสร็จมองเธอแบบเข้าใจ ก่อนจะลูบหัวเธอเบาๆอย่างเอ็นดู “ก็ในเมื่อหนูไม่รู้ ทำไมจะต้องมานั่งเครียดด้วยล่ะ กลัวว่าตำรวจเขาจะพาหนูไปสอบปากคำอย่างนั้นหรือ”
“แม่คะ...”แมนดี้พูดทั้งน้ำตาที่ซึมออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง “ที่จริงแล้ว หนูรู้ค่ะ”
“มะ...แมนดี้ ทำไมลูก.....”
“หนูไม่กล้าบอกความจริงกับตำรวจ หนูกลัว หนูไม่อยากเข้าไปพัวพันกับเรื่องเมื่อวาน มันคือฝันร้ายสุดๆ เด็กพวกนั้นพูดจาหยาบคายใส่หนู แต่แล้ว มันก็เกิดเรื่องสยองขึ้นกับพวกเขา” เธอหยุด ก่อนจะเริ่มพูดต่อ “ ตั้งแต่ที่ข่าวในวิทยุรายงานเมื่อเช้า มัน... มันอำมหิตเกินไป” เธอกลั้นน้ำตาที่ซึมออกมาไม่ให้ไหลไปมากกว่านี้ ก่อนจะควบคุมสติอารมณ์ให้กลับไปอย่างเดิม
“จะให้แม่โทรไปบอกเขาไหม ว่าเรามีเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องนี้” ไอว่ามองแมนดี้ด้วยสายตาหดหู่
“ขึ้นอยู่กับแม่ค่ะ แต่หนูไม่อยากยุ่งอีกแล้ว”
ไอว่า ที่กำลังจะยกหูโทรศัพท์ วางมันลงเพราะเห็นแก่ลูกสาวเธอ เธอก้าวไปเปิดหน้าตาบานเลื่อนก่อนจะสูดลมข้างนอกช้าๆ เพื่อบรรเทาอารมณ์ตึงเครียดต่างๆ แววตาที่เบื่อหน่ายเมื่อเห็นลูกสาวเศร้านั้น เหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างไกล เธอสังเกตเห็นฝูงอีกาฝูงใหญ่บินผ่านน่านฟ้ากลางเมืองเช้านี้ “แปลกจัง... ฝูงอีกา” เธออุทานเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนความสนใจไปที่อื่น
“ฝูงอีกาหรอคะ แม่” แมนดี้ถาม เมื่อแม่เธอหันกลับมา
“อื้ม จ้ะ... ก็แค่ฝูงอีกาฝูงใหญ่น่ะ ไม่มีอะไรมากหรอก”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก !
เสียงเคาะประตูแลลน่าสงสัยดังขึ้นอีกครั้ง ไอว่าและแมนดี้หันควับพร้อมกันไปทางประตูด้วยสีหน้าหวาดระแวง “ไม่ต้องห่วงแมนดี้ แม่ไม่บอกพวกตำรวจแน่ ว่าหนูรู้” ไอว่าพูดเบาๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู อย่าง ช้าๆ .... ....
แอ๊ด~
“หวัดดีครับ แมนดี้ อยู่ไหมครับ” เฟร็ดดี้ เพื่อนของแมนดี้ ยืนอยู่หน้าประตู หนุ่มอายุ 21 ปี รูปร่างสูง ผมบลอนด์ยาวประบ่า มีหนวดเคราเล็กน้อย มองไอว่าแบบตะหงิดๆ เพราะเธอเปิดประตุด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนัก (คงเป็นเพราะกัวตำรวจล่ะ - * -)
......................................................................................................................................................
“เรื่องนี้ เราจะเก็บเป็นความลับดีไหม หรือปล่อยออกไปเลย” มาลาไจน์มองสภาพศพตำรวจหนุ่ม ก่อนจะหันไปถามผู้หมวด
“เฮ้อ...” ผู้หมวดหยิบไฟแช็กแล้วจุดบุหรี่สูบอย่างเซ็งๆ พลางกระทืบรองเท้าบู้ตส้นเหล็กเข้าที่ศพของซอมบี้สาวอย่างคั่งแค้น จนศพของมันตายซ้ำตายซ้อน “นี่คุณ สมองทึบรึยังไง ขืนพวกเราปล่อยข่าวคนกินคนออกไป มีหวังพวกผมได้หลุดออกจากงานราชการ และสำนักข่าวก็ได้เด้งคุณออกด้วยนะ”
“แล้วเราจะทำไงดีคะ” จอดี้ ฟอสต้า ถาม
“เคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อย แล้วสรุปข่าวไปซะว่าคือการฆาตกรรมหมู่” ผู้หมวดยกนิ้วชี้ให้จอดี้ ขณะที่เธอดูเหมือนจะแย้งต่อ “รายงานข่าวไปว่า มีฆาตกรกลุ่มหนึ่งที่ชอบฆ่าแหวกใส้คนด้วยกันเองคล้ายลัทธิ Cannibalism ฆ่านาย ราปิ ที่ผ่านมาเมื่อวาน ส่วนเรื่องวันนี้เธอก็ยกสาเหตุเดียวกันขึ้นมาอ้างก็แล้วกัน” ผู้หมวดพูด ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อย
“จริงสิ จอดี้... ข่าวที่ออกไปเมื่อเช้านั่น แก้ไปด้วยว่าเป็นพวก Cannibalism ส่วนที่ถ่ายทอดสดออกไปแล้วนั้นเธอก็รับผิดชอบเองก็แล้วกัน อยากไม่คุมนังวีโด ให้ดีเอง ดันทะลึ่งไปสัมภาษณ์ผีดิบซะได้” ผู้หมวดย้ำอีกครั้ง โดยมาลาไจน์ไม่เถียง
“เดี๋ยวค่ะ คุณผู้หมวด!” จอดี้เรียกอีกครั้ง
“อะไร”
“แล้ว ที่พวกนักข่าวได้พูดออกไปเมื่อเช้าเกี่ยวกับการโจมตีของคนที่ดูคล้ายผีดิบล่ะคะ”
“บอกไปซะว่าเป็น Cannibalism ไม่มีสมองคิดเองรึไง ก็บอกแล้วไงว่า ถ้ามีปัญหาอะไรแก้ไม่ได้ ให้อ้าง Cannibalism อย่างเดียว!” ผู้หมวดพูด ก่อนจะเข้าไปในรถ
“เดี๋ยวค่ะ!” จอดี้เรียก
“นี่คุณ จะเอาอะไรกับผมอีก”
“ผู้หมวดชื่ออะไรคะ” จอดี้ถาม
“ฉันชื่อ Billy” เขาตอบก่อนจะหันกลับไป
“ชื่อ บิลลี่ หรอ....” จอดี้ยืนอึ้ง ก่อนทตำรวจที่เหลือจะโทรเรียกหน่วย เก็บศพมา เธอยืนอึ้งไปตรงนั้นจนมาลาไจน์ต้องมาฉุดตัว เพื่อฟื้นคืนสติ แล้วพาเธอกลับ
ขณะเดินทางกลับ มาลาไจน์หนัมาคุยกับจอดี้แกมสงสัย “นี่เธอคงช็อกมากกับเรื่องพวกนี้ล่ะสิ ทำใจเถ๊อะ! อีตาผู้หมวดติงต๊องนั่นก็พูดจาไม่รู้เรื่อง จะอ้าง Cannibalism อย่างเดียวเลย หมัน่ใส้จริ๊ง!”
“ไม่หรอกมั้ง เขาพูดจาดีออก” จอดี้พูดแกมยิ้ม
“โห ดูที่มันพูดกับเธอแต่ละประโยค ดีมากเลยนะ” มาลาไจน์บ่นๆๆ ขณะที่จอดี้ยิ้มที่มุมปาก
“อีกไม่นานก็ถึงแล้วล่ะ เตรียมตัวแก้ข่าวให้ดีล่ะ”Kelly ที่นั่งรถมาด้วยกันหันมาพูดกับทั้งสอง
“อื้อ” ทั้งสองตอบพร้อมกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
..........................................................................................................................................................................
“นี่แหละ คือความจริงทั้งหมด” แมนดี้เปิดใจเล่าให้เฟรดดี้ฟังหมดเปลือก ในเรื่องเมื่อวานนี้และเรื่องเมื่อเช้า
“โอ...โห......” เฟร็ดดี้อ้าปากค้างกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันยากเกินที่จะบรรยายจริงๆ โอกาสมี 1 ใน ล้าน แท้ๆ ที่จะเจอะกับเหตุฆาตกรรมโดยบังเอิญแบบนี้ “โห... เหลือเชื่อจริงๆ สุดยอดเลยแมนดี้”
“เธอคิดว่าฉันควรให้เบาะแสกับตำรวจดีไหม”
“ควรให้นะ ฉันคิดว่ามันจำเป็นมากๆ บางครั้ง คนเราก็ควรให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ตำรวจ”“มันยังดีกว่าที่เราเก็บเงียบอมพะงำแล้วปล่อยให้ปิดคดีไปโดยปริยาย” เฟร็ดดี้บอกกับแมนดี้
“เธอคิดอย่างนั้นหรือ..” แมนดี้หรุบตาลงต่ำ ก่อนจะตัดสินใจบางอย่าง
“เอ้อ ฉันลืมบอกไป เมื่อวานเพื่อนของเจ้า แบรด ก็หายไปตัวด้วยล่ะ จุดเกิดเหตุอยู่แถวๆชานเมือง เท็กซัส เหมือนกันเลย”
“จริงหรือ”
“อื้มๆ ว่ากันว่าเจ้าสองคนนี้เพี้ยนๆ มันชื่อ ดิโมนก้า กับอะไรเนี่ยแหละ ไปทำอะไรกันก็ไม่รู้สองคน”
“???” แมนดี้มองเฟร็ดแบบงงๆ แล้วส่งสายตาถามว่า สองคนนั้นไปทำอะไร ?
“สงสัยไปสวีทรักป่าเดียวกันกันมั้ง 555+” เฟร็ดพูดติดตลกเพื่อมให้สถานการณ์ไม่ตึงเครียดไป
“555+ สงสัยจะใช่” แมนดี้ตอบแกมหัวเราะเบาๆ
“วันนี้เธอลางานนี่ ออกไปเที่ยวกันหน่อยไหม”
“ไปสิจ้ะ” แมนดี้ตอบ ก่อนแม้เธอจะยิ้มแล้วส่งสายตาว่า ไปเถอะจ้ะ
.
.............................................................................................................................................
.............................................................................................................................................
อีก 20 กิโล พวกมันจะออกมาข้างนอก.......
...........................
....................................
อะไรจะออกมานะรึ........
เดี๋ยวก็ได้รู้.....
To Be Continued. . .
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น