ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Legend Part 1: Crown Prince Escape

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 : ศึกทุ่งดาราดอน

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 49


                     "เป็นไงบ้าง รอนานมั้ย"เสียงห้าวๆเต็มไปด้วยความห่วงใยถามขึ้น เมื่อประตูห้องยุทธการเปิดออก

                    "ไม่ครับ ข้าชอบมานั่งรอที่นี่มากกว่าอยู่บ้านอย่างน้อยก็ยังมีทิวทัศน์ดีๆให้ดู"

                    เด็กน้อยหน้าตาธรรมดาๆคนหน่งตอบกลับมาอย่างแจ่มใส
     
                    "นี่เจ้าหาว่าบ้านข้ามีทิวทัศน์ที่ไม่ดีอย่างนั้นรึ บ้านข้าเป็นถึงบ้านของแม่ทัพใหญ่ของนครไร้เทียนทานเชียวนะ"
     
                     "ท่านลุงคัง ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย ที่จริงข้าหมายความว่านานๆทีจะได้เข้ามาเยี่ยมชมในวังสักทีมันก็ไม่น่าพลาดไม่ใช่รึ" 

                      ท่านลุงของเด็กคนนี้คือฟู่เฉิงคัง มีผมสีดอกเลากับหนวดหรอมแหรมสีเดียวกัน และที่สำคัญเขาผู้นี้คือนายทัพใหญ่ของนครไร้เทียมทานแห่งนี้

                     "เอแต่พักนี้เจ้าก็เข้ามาในวังนี่กับข้าแทบทุกวันเลยนะ เจ้าติดใจอะไรรึ หรือว่าจะเป็นองค์หญิง องค์นั้นที่เจ้าจ้องตาเป็นมันทุกวัน"ฟู่เฉิงคังล้อมา

                    "ข้ามาดูวิวเฉยๆ"
     
                   ทันใดนั้นทั้งสองก็ได้ยินเสียงแตรรบดังมาจากทางลานหน้าวัง มันเป็นสัญญาณประชุมพล 
         
                  "ข้าไปก่อนล่ะ องค์พระมหาจักรพรรดิเรียกข้าแล้ว"ฟู่เฉิงคังพูดอย่างเร่งร้อนพลางวิ่งออกไป ณ ลานหน้าวัง

                                       ********************************************

                  ณ ทุ่งดารากอน
          
                   2 ชายยืนมองกองทัพของฝ่ายตรงข้ามที่ประดับธงรูปกระโหลกสีแดงเพลิงบนพื้นธงสีดำ หนึ่งคือยอดขุนพลดาบอัคคีซุน ดี อิสฮาล สวมเกราะดำถือดาบอัคคี 1 ใน 10 สุดยอดสาตรา ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลือดสีดำ อีกหนึ่งคือยอดขุนพลเวทย์หม่าสิ้งสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวขลิบทอง ถือคทาทองยอดคทาประดับด้วยลูกแก้วเวทย์สีทอง 1 ใน  10 สุดยอดสาตรา

                 "ท่านว่าข้าจะสามารถยันทัพนี้ไว้ได้นานพอที่ทัพมังกรจากนครไร้เทียมทานจะมาช่วยมั้ย"ซุน ดี อิสฮาลถาม

                 "ขอเพียงท่านนำคนของท่านมาป้องกันไม่ให้พวกนั้นเข้ามาในเขตเวทย์ของข้าได้สัก 2 ชั่วยามเท่านั้น ข้าอาจจะเรียกพายุดาวตกลงมาถล่มมันได้ ถ้าข้าทำได้ทัพมังกรต้องมาทันแน่ ถ้าข้าทำได้นะ"หม่าสิ้งตอบมา

                 "ข้าเชื่อว่าท่านทำได้ ไปกันเถอะ ข้าจะไปจัดทัพเตรียมรบ"ว่าแล้วซุน ดี อิสฮาล ก็เดินจากไปพลางตะโกนจัดรูปแบบแถวทหารอย่างเร่งรีบ

                  "พลหอกอยู่ข้าง พลธนูอยู่ข้างหลัง ล้อมธงนี่ไว้ ทหารม้าซุ่มไว้เตรียม กระหนาบข้าง"พูดจบเขาก็ขึ้นม้าแล้วควบเหยาะๆไปข้างหน้ากองหอกแล้วชูดาบอัคคีขึ้น
     
                 "ข้ารู้ทุกคนกลัว ข้าเองก็กลัว กลัวที่จะต้องตาย กลัวที่จะพ่ายแพ้ แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น พวกมันต้องลงนรกก่อนเรา "เขาตะโกนแล้วลดดาบลงก่อนจะควบม้าเดินตรวจแถวพลางตะโกนให้กำลังทหารเหล่าราวกับเป็นญาติสนิทกันกระนั้น

                 ห่างออกไปทางด้านหลัง...... 
                 หม่าสิ้งก็เริ่มวางเขตเวทย์แล้วร่ายเวทย์ เขาทำได้เท่านี้ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของเพื่อนเขาว่าจะป้องกันเขาได้นานพอหรือไม่เท่านั้นเอง 

                    ไม่นานกองหน้าของฝ่ายตรงข้ามก็ปรากฎอยู่ในสายตา พวกเขาประจักษ์แก่สายตาแล้ว พวกนั้นมีกองกำลังมากกว่าพวกเขาหลายเท่านัก!!! 

                    "ตั้งรับให้ดี ไม่มีใครฝ่ากองหอกที่แข็งแกร่งที่สุดของเราไปได้ กองธนูยิง"ซุน ดี อิสฮาลตะโกนให้กำลังใจและสั่งการไปในตัว

                   ผ่านไปแล้ว1ชั่วยาม

                   กองทหารศตรูยังคงทลวงเข้ามาเรื่อยๆ แถวกองหอกเริ่มบางลง ลูกธนูหมดแล้ว ทหารก็เหนื่อยล้า 

                   "กองม้าบุก"

                   เสียงโห่ลั่นมาจากเนินเขาข้างๆ กองทหารม้าแห่งนครไร้เทียมทานบุกเข้ามาแล้ว ขณะเดียวกันปรากฎเสียงคำรามลั่นของมังกร

                   ฉับพลันนั้นเอง สิ่งมีชีวิตหนึ่งพุ่งดิ่งลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วพลางส่งเปลวเพลิงนรกจากปากลงใส่แถวกองทหารม้าของนครไร้เทียมทาน ทุกที่ที่เพลิงนั่นไปถึงเหล่าทหารก็ถูกเผากลายเป็นขี้เถ้า นี่หรือคือเดชของมังกรดำจากหุบเขาเดวิลโรดอันห่างไกล
       
                   ซุน ดี อิส ฮาลกระโดดพรวดขึ้นไปกลางอากาศ แล้วเขาก็ตวัดดาบอัคคีเป็นเพลงดาบ 8เคล็ดพิชิตมารบั่นหัวมังกรตัวแล้วตัวเล่า เนื่องด้วยพลังปราณที่ฝึกมาหลายสิบปีทำให้การสังหารมังกรพวกนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก เลือดมังกรสีม่วงคล้ำเปรอะเปื้อนเต็มตัวเขาแต่ไม่ว่าเขาจะฆ่าพวกมันไปเท่าใด พวกมันก็ไม่ประหวั่นต่อความตายที่รออยู่ ต่างพุ่งเข้าหมายสังหารศัตรูของมันเท่านั้น
     
                     การรบบนทุ่งก็รบพุ่งกันอย่างดุเดือด เหล่าทหารนครไร้เทียมทานก็ต่อต้านรักษาแนวรบไว้เต็มกำลัง พวกที่หอกหลุดมือไปแล้วก็ชักดาบสำรองออกมาต่อสู้ฟาดฟัน กองหอกก็ผสานกำลังกันตั้งรับไว้ กองธนูที่ลูกธนูหมดไปแล้วก็ถอยลงไปขุดหลุมขวากไว้ยังแนวหลังรอจังหวะให้กองหอกล่อทหารฝั่งตรงข้ามมา
       
                     สถานการณ์ทางทหารนครไร้เทียมทานเริ่มเลวร้ายลงไปเป็นอันดับ เนื่องจากมีกองทัพสตรองค์อาร์ม (พวกยักษ์ผิวแดง พวกนี้ออกจะโง่มากๆ)หนุนเนื่องลงมาทางปีกซ้ายของกองทัพและพวกคนเถื่อนดวงตาแดง ผิวดำรุกมาทางปีกขวา
       
                     ในขณะที่สถานการณ์ฝ่ายนครไร้เทียมทานและความหวังเริ่มคลอนแคลน ก็ปรากฏพายุดาวตกลงมาจากฟากฟ้าพุ่งใส่กองทหารอีกฝ่าย พุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว ซุน ดี อิสฮาลก็ตะโกนขึ้นอย่าปิติยินดี
      
                    "เจ้าทำได้ หม่าสิ้ง เรารอดแล้ว"
       
                    สิ้นเสียงเขาปรากฏเสียงสีแดงเพลิงแวบกลืนท้องฟ้าไป ท้องฟ้าเต็มไปด้วยสีแดงเพลิงนั่นนานหลายนาทีแสงนั่นก็ค่อยๆจางหายไปพร้อมกับฝูงดาวตกฝูงนั้น
        
                    หม่าสิ้งยืนตะลึงอ้าปากค้าง ฝูงดาวตกนั่นเขาใช้เวลาเรียกถึง 2ชั่วยาม มันกลับถูกพลังเวทย์ของใครที่ไหนก็ไม่รู้มาดูดกลืนหายวับไปกับตา!!!

                    พริบตานั้นลำแสงสีแดงพุ่งแหวกอากาศเข้าหาหม่าสิ้ง เขาตวัดคทารับอย่างรวดเร็วพลางร่ายคาถาโล่เวทย์ขึ้นมาคุ้มกันกายจากลำแสงแบบเดียวกันอีกหลายแสง การปะทะกันทำให้เกิดฝุ่นคลุ้งไปทั่ว เมื่อฝุนจางลงปรากฏร่างชายผอมเกร็งในเสื้อคลุมยาวสีดำเย็บลายกระโหลกแดงขลิบทอง

                   "เก่งนี่ สมกับเป็นจอมเวทย์ 1 ใน 8 ขุนพลของนครไร้เทียมทาน"ร่างนั้นกล่าว

                   "แกเป็นใคร!?!"หม่าสิ้งชี้คทาเข้าหาร่างนั้นแล้วกระชากเสียงถาม

                   "ทำไมข้าจะต้องตอบเจ้าด้วย ถ้าข้าบอกชื่อข้ากับเจ้าจะทำให้เจ้าตายตาหลับรึไง"ว่าพลางร่างนั้นก็ชี้คทาออกมาแล้วยิงลำแสงสีแดงเข้าใส่หม่าสิ้ง
                 
                    คราวนี้หม่าสิ้งเริ่มตั้งหลักได้แล้วจึงสามารถกระโดดหลบได้อย่างคล่องแคล่ว

                  "ทีข้าบ้างล่ะ"ว่าแล้วหม่าสิ้งก็ยิงแสงสีฟ้าหลายแสงเข้าหาร่างลึกลับนั้น

                 ร่างนั้นยกแขนขึ้นแล้วกางมือออกมารับลำแสงเหล่านั้น
             
                 "แกคิดหรือว่าจะชนะข้าได้จริงๆ"

                  "พลังเวทย์ขนาดนี้ต้องเป็นอตาคารีแน่" หม่าสิ้ง

                 "ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ หม่าสิ้ง" อตาคารีพูด

                 "ตั้งแต่แกทรยศอาจารย์น่ะรึ" หม่าสิ้งกล่าวพลางเริ่มวางขอบข่ายเวทย์ของตน

                 "ข้าแค่ค้นพบวิธีในการก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเท่านั้น และท่านจอมมารก็ให้ข้าไปทดสอบพลังที่ท่านให้ข้า ก็เท่านั้นเอง" อตาคารีกล่าวฉุนๆพลางร่ายคาถาอัดกระแทก

                  หม่าสิ้งเอาคทาปัดคาถานั้นออกไปแล้วถอยเข้าเขตเวทย์ของตน "ใบไม้กำบัง!" เขาร่าย

                 "ตาหัวกะโหลก!!!" อตาคารีร่าย

                  ร่างของหม่าสิ้งหายไปแล้วด้วยผลของคาถาใบไม้กำบัง ตาของอตาคารีปิดสนิทแต่หูกระดิกเป็นครั้งคราว และแล้วเวทย์ของหม่าสิ้งในคาถาหายตัวชุดแรกก็พุ่งเข้ามา ฉับพลันนั้นตาของอตาคารีก็เปิดขึ้น ตาดำของมันหายไปแล้ว!!! อตาคารีม้วนตัวกลิ้งกลางอากาศหลบคาถาในทันทีพลางร่ายคาถา "หอกหัวกะโหลก"  หอกสีดำจำนวนหนึ่งพุ่งเข้าใส่อากาศว่างเปล่าข้างขวาของตัวเขา มันพุ่งไปได้สักพักหนึ่งแล้วเกิดเสียงผ้าขาด มันฉีกปลายเสื้อคลุมด้านหนึ่งของหม่าสิ้งออกมา

                   "หลบได้งั้นรึ เอานี่ไปอีก" อตาคารีพูดลอดไรฟันออกมา พลางร่ายคาถา "ลมกะโหลกช่วงชิงวิญญาณ"

                  "มหาเวทย์จอมเทพออกศึก" เสียงร่ายเวทย์ดังมาจากทางที่คาถาของอตาคารีพุ่งไป

                 ทั้งสองต่างถูกเวทย์ของกันและกัน กระเด็นไปไกลหลายวา หม่าสิ้งเกิดแผลรูปหัวกะโหลกเลือดสาดกระเด็นไปทั่ว อตาคารีถูกอัดซี่โครงหักหลายซี่ กะดูกแขนขวาแตกละเอียดเพราะยกขึ้นมาบัง

                 ผ่านไปนานสองนานอตาคารีก็ชันเข่าลุกขึ้น ใช้แขนข้างที่ปกติลลูบคลำทั่วร่างกาย

               "ไม่น่าเชื่อเลยนะ นี่แกยังรอดอยู่อีก ท่าทางข้าจะต้องไปฝึกมาใหม่นะ เพราะข้าทลายกะโหลกหนาๆของแกไม่ได้" หม่าสิ้งกล่าวพลางชันเข่าขึ้นปาดเลือดออกจากปาก ก่อนยืนขึ้นมาใหม่อย่างภาคภูมิ

              "มา! เรามาดวลกันอีกรอบนึง" อตาคารีท้า

             "คราวที่แล้วข้าเป็นคนบุก คราวนี้ข้าขอเป็นคนรับบ้างล่ะ คราวนี้แกไม่รอดแน่!" หม่าสิ้งตั้งท่ารับแล้วกล่าวขึ้น

              "อย่าทำเป็นเก่งไปหน่อยเลย แกก็รู้นี่นาว่า... เวทย์ของข้าทำลายอวัยวะภายในของเจ้าแหลกเกือบหมดแล้ว ถ้าเจ้ายอมสวามิภักดิ์กับท่านจอมมาร ท่านอาจจะช่วยรักษาเจ้าให้ก็ได้" อตาคารียิ้มอย่างเยือกเย็น

             "หึ! ไม่ต้องพูดมากน่า เข้ามาเลย" พูดจบหม่าสิ้งก็แค่นเสียงหัวเราะ

            "จอมมารคำราม" อตาคารีตะโกนร่ายคาถา แล้วปักคทาลงพื้น

            หัวกะโหลกโปร่งแสงจำนวนมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากพื้นดินรอบๆตัวของอตาคารี มันม้วนวนเป็นเกลียวรอบตัวเขาก่อนพุ่งเข้าหาหม่าสิ้งอย่างรวดเร็ว

            "เกราะเทพรักษา" หม่าร่ายทันควันเมื่อกะโหลกเหล่านั้นพุ่งเข้าหาเขา 

            โล่ทองขนาดมหึมากันหม่าสิ้งไว้จากกะโหลกจำนวนมหาศาลเหล่านั้น แต่กระนั้นแรงปะทะก็ทำให้เขาถึงกับทรุดลงไปนอนกับพื้น แต่เขาก็ยังอุตส่าห์แข็งใจร่ายคาถาออกมาอีกโดยไม่รอช้า  "ดาบศักสิทธิ์จงปรากฏแก่ข้า ดาบทลายมาร!!!"

              ดาบสีทองพุ่งออกจากปลายคทาเสียบทะลุร่างของอตาคารี แล้วตัวดาบก็ค่อยๆเลือนหายไป ทิ้งไว้เพียงแต่รอยดาบเป็นทางยาวบนลำตัวของอตาคารี

             "ทำแสบมากนักนะแก........." อตาคารีกล่าวผ่านไรฟัน แต่ทว่าหม่าสิ้งไม่ได้ยินเสียแล้ว เขาสิ้นใจไปพร้อมกับดึงอำนาจส่วนหนึ่งของอตาคารีไปด้วย

              ยังไม่ทันที่อตาคารีจะหายตัวจากไป ทหารอารักขาแม่ทัพและตัวแม่ทัพซุน ดี อิสฮาลเองก็พุ่งเข้ามา 

            "ลาก่อนซุน ดี อิสฮาล" อตาคารีกล่าวพลางดีดนิ้วแล้วกลายเป็นควันสีดำหายไป

            "แกอตาคารี บ้าชะมัดปล่อยให้ไอ้บ้านี่เข้ามาได้ไงนะ" ซุน ดี อิสฮาลสบถอย่างฉุนเฉียวแล้วช้อนศีรษะหม่าสิ้งขึ้นมา แล้วเริ่มเรียกชื่อของเขาซ้ำๆ

           "แกไอ้ชั่วอตาคารี ทุกคนตามข้ามา.........ไปล้างแค้นกัน" ซุน ดี อิสฮาลกล่าวผ่านฟันที่ขบแน่นแล้วคว้าอาวุธคู่กายแล้ววิ่งลงไปสู่สมรภูมิเบื้องล่าง

            ข่าวการเสียชีวิตถูกส่งต่อกันไปในหมู่ทหารของทัพนครไร้เทียมทานอย่างรวดเร็ว กระแสความแค้นเป็นกำลังใจให้นายทหารต่างสู้กันขาดใจ ยิ่งถ้าซุน ดี อิสฮาลขี่ม้าไปในทิศใดแนวรบนครไร้เทียมทานก็จักยิ่งแข็งแกร่งตั้งรับอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่ซุน ดี อิสฮาลดึงทหารส่วนใหญ่ไว้ไกลจากการสู้รบรอเวลาที่ข้าศึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า......

                    กำลังธนูของนครไร้เทียมทานยิงมังกรดำร่วงลงมาหลายตัวแล้วเช่นกัน แต่แลกมาด้วยทหารหลายร้อยที่ถูกไฟนรกจากเหล่ามังกรฆ่าตาย แม้เหล่าทหารจะเคียดแค้นซักเท่าใดก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของซุน ดี อิสฮาลที่ว่าห้ามทหารทุกนายออกพ้นแนวป้องกัน ให้ช่วยกันป้องกันมิให้ข้าศึกทลวงเข้ามาได้ 















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×