ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพราะพรหมลิขิต…เรื่องร้ายจึงกลายเป็นเรื่องรัก

    ลำดับตอนที่ #3 : แค้นนี้ต้องชำระ

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 55


    3

    แค้นนี้ต้องชำระ

    เช้าวันนี้ฉันกับผู้กองมาทำงานปกติ ผู้กองวิ่งมาหาฉันเหมือนกับมีอะไรเกิดขึ้น ฉันยิ่งใจไม่ดีอยู่ แต่สรุปว่ามันคือข่าวดีข่าวหนึ่ง

           ตอนนี้มีสายรายงานมาว่า ทางกลุ่มสืบสวนสอบสวนได้เบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายที่ยิงพ่อคุณมาแล้วนะ

           “จริงหรอ แล้วเค้าว่าไงบ้างฉันถามเพราะอยากรู้

           เค้ากำลังออกหมายจับ และหาว่าใครเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง

           “คราวนี้ฉันก็จะได้รู้สักทีนะ ว่าใครที่มันทำร้ายพ่อของฉันฉันกำหมัดแน่น

           “แต่เรื่องนี้คุณต้องเงียบไว้ก่อนนะ เพราะทางกลุ่มสืบสวนกำลังสอบปากคำจากพยานบุคคลและพยานหลักฐานที่เหลืออยู่ผู้กองเตือนฉัน

    ตั้งแต่ฉันข่าวจากปากผู้กอง ผู้กองวัชระก็ช่วยๆฉันสืบเรื่องนี้อยู่ ฉันกับเค้าได้ช่วยกันรวบรวมหลักฐานและได้รู้แน่ชัดแล้วว่า นายณัฐวัฒน์ นักธุกิจกลุ่มเดียวกับพ่อ เป็นคนบงการเรื่องนี้ ยิ่งรู้แล้วฉันก็ยิ่งแค้น ฉันมีแผนการหนึ่งซึ่งเป็นแผนการที่จะจัดการล้างแค้นให้กับพ่อของฉัน ฉันจะปลอมตัวเข้าไปเป็นทำงานให้กับ

    นายณัฐวัฒน์  แล้วฉันก็จะฆ่ามันด้วยมือของฉันเอง โดยเรื่องนี้ ฉันจะไม่ปริปากบอกให้ใครรู้เลย ยกเว้นแม่ของฉัน ที่สำคัญ คือ ฉันไม่ได้บอกให้ผู้กองวัชระรู้เลย

    วันนี้ฉันต้องเริ่มแผนการที่ฉันวางไว้ ฉันตัดสินใจเข้าไปในโกดังเก็บของของณัฐวัฒน์ แล้วความบังเอิญมันก็เกิดขึ้น ตอนนี้มีคนบุกเข้ามาในโกดัง และกำลังเปิดศึกอยู่กับลูกนายณัฐวัฒน์ ไอเดียใหม่ของฉันก็เกิดขึ้น ฉันได้โอกาส เข้าไปช่วยสมุนของนายณัฐวัฒน์จัดการพวกที่มันบุกเข้ามาในโกดังจนราบคาบ

    หลังจากที่จัดการพวกนั้นเรียบร้อยแล้ว พวกมันก็คงจะสงสัยฉันว่าเป็นใครมาจากไหน

                เธอเป็นใคร มาจากที่ไหนลูกน้องคนหนึ่งของนายณัฐวัฒน์ถามฉัน

                ฉันก็เดินมาเรื่อยๆแถวนี้อ่ะ เผื่อจะมีงานอะไรให้ฉันทำแก้เซ็งบ้างฉันแกล้งพูดแบบลอยหน้าลอยตา

                เธอนี่ ฝีไม้ลายมือ ไม่เบาทีเดียวเลยนะ

                “แค่นี้ เบาะๆน่า มากกว่านี้ฉันก็ทำมาแล้ว ฉันแกล้งพูดอีกครั้งเพื่อ

    หว่านล้อมพวกมัน

                สนใจมาทำงานกับนายฉันไหมล่ะพวกมันยื่นข้อเสนอให้ฉัน

                จิงหรอ สนใจสิ ฉันทำเป็นสนใจ

    หลังจากนั้นพวกมันก็พาฉันไปที่ห้องของนาย ณัฐวัฒน์ แล้วฉันก็เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของฆาตรกรที่มันฆ่าพ่อฉัน จริงๆแล้วฉันอยากจะฆ่ามันให้ตายตอนนั้นเลย แต่ติดอยู่ตรงที่ว่า ตอนนี้ลูกสมุนที่เป็นเกราะกำบังมันอยู่มีนับร้อยคน แต่ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างฉันคงจะสู้ลูกสมุนผู้ชายนับร้อยไม่ได้ ฉันก็เลยตัดสินใจร่วมงานกับพวกมันก่อน

                “นายครับ ผมมีลูกสมุนคนใหม่มาให้นายครับ

                “ไหน พามาดูตัวก่อนสินายณัฐวัฒน์อยากรู้ว่าเป็นใคร

                สวัสดีค่ะฉันฝืนใจยกมือไหว้มัน

                ผู้หญิงหรอ ฝีไม้ลายมือจะมีมากแค่ไหนเนี่ยนายณัฐวัฒน์พูดราวกับดูถูกผู้หญิง มันช่างเลวได้ใจจริงๆ

                ไม่เบาเลยครับนาย ปราบลูกสมุนของคู่อรินายได้ราบคาบเลยครับ  หากไม่มีเธอมาช่วย เมื่อกี๊พวกเราก็คงไม่เหลือ

                “งั้นฉันรับเธอเข้าทำงาน วันนี้เริ่มงานได้เลย

                “ขอบคุณค่ะ ==”

    แผนการของฉันสำเร็จไปหนึ่งขั้น และทำงานผ่านไปไม่กี่วันฉันได้แสดงฝีมือให้เขาดูมากมาย ฉันสามารถอ่านเกมของคู่อริที่จะมาทำร้ายเขาได้หมด ฉันสงสัยจริง ว่าทำไมนายคนนี้ถึงได้มีคู่อริเยอะขนาดนี้  อีกอย่างนายคนนี้เป็นคนที่รวยมากเทียบได้กับผู้มีอิทธิพลในละแวกนี้เลยทีเดียว จนนายณัฐวัฒน์เลื่อนตำแหน่งให้ฉันเป็นมือขวาของเขา ไปไหนมาไหนเขาก็จะพาฉันกับลูกสมุนอีกหนึ่งคนไปด้วยตลอด ฉันก็จะใช้เวลานี้ที่สืบสาวราวเรื่องพ่อของฉัน และก็สาเหตุต่างๆที่เป็นไปได้

    ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของพ่อฉันอย่างเดียวที่ เรื่องอื่นๆที่มันอยู่เบื้องหลัง เป็นคนบงการอยู่เยอะแยะมากมาย ที่สำคัญ คือ เรื่องยาเสพติด

                วันนี้นายณัฐวัฒน์ชวนฉันไปงานเลี้ยงสังสรรค์กลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน ฉันไปพร้อมกับลูกสมุนอีกหนึ่งคน สงสัยมันกลัวจะมีคนปองร้ายมั้ง

    งานเลี้ยงของวันนี้จัดขึ้นที่ลานเบียร์หรูๆแห่งหนึ่งซึ่งฉันไม่เคยมา ฉันนั่งจนเกิดอาการปวดฉี่ขึ้นมา เลยบอกกับสมุนว่าจะไปเข้าห้องน้ำหน่อย เดี๋ยวกลับมา

    ระหว่างที่ฉันเดินไปห้องน้ำนั้น บังเอิญโลกกลม ฉันเดินชนกับผู้กองวัชระ ซึ่งฉันไม่คิดว่าฉันจะมาเจอเค้าที่นี่ ฉันพยายามเดินหนีเค้า แต่เค้าจับแขนฉันไว้แน่น

                นี่คุณ ปล่อยฉันนะ

                  ผมไม่ปล่อยคุณ คุณมาทำอะไรที่นี่ คุณหายไปไหนมาหลายวัน ผมโทรติดต่อคุณก็ไม่ได้ คุณรู้ไหมว่าผมเป็นห่วงคุณมากแค่ไหนผู้กองซักซะแบบว่าL

                ผู้กองวัชระ ฉันต้องไปก่อนนะ ไว้ฉันจะเล่าให้คุณฟังนะ ฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้จริงๆฉันขอร้องผู้กองวัชระ เพื่อให้แผนของฉันราบลื่นไปด้วยดี

                ไม่ ผมจะไม่ปล่อยคุณเด็ดขาด ถ้าคุณไม่ยอมบอกผมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ผู้กองพยายามเค้นความจริงออกมา ฉันก็เลยตัดสินใจเล่าความจริงที่ปิดบังมานานให้กับผู้กองวัชระฟัง เค้าโกรธมากที่ฉันทำอะไรแล้วไม่เคยปรึกษาเค้า

                ทำไมคุณทำอะไรบ้าๆแบบนี้ คุณรู้ไหมว่ามันอันตรายมากๆเลย นายณัฐวัฒน์ไม่เคยไว้ชีวิตลูกน้องที่คิดทรยศหักหลังมัน ทำไมคุณไม่ปรึกษาผมก่อนผู้กองพูดแบบผิดหวัง          

                ใช่สิ ฉันมันบ้า ฉันมันงี่เง่า ฉันมันโง่ฉันเริ่มน้ำตาคลอ

                ผมไม่ได้หมายถึงว่าคุณโง่ แต่คุณทำอะไรทำไมคุณไม่คิดให้ดีก่อนผู้กองเสียงเบาลง

                แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง มันฆ่าพ่อฉันนะ ฉันขอร้องนะผู้กองวัชระ ขอให้ฉันได้แก้แค้นให้พ่อของฉันนะฉันขอร้องผู้กองวัชระ

                      แต่สายรายงานผมมาว่า พวกมันเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่นะ ตอนนี้ทางกองปราบปรามฯกำลังสืบอยู่ ผู้กองพยายามเตือนฉันอีกครั้ง

                ฉันสัญญานะ ว่าฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ฉันจะทำหน้าที่เป็นแค่มือขวาของมัน ได้โอกาสเมื่อไหร่ แล้วฉันจะฆ่ามันทันที ถึงแม้ฉันจะได้ชื่อ

     ว่าเป็นฆาตรกร ฉันก็ยอม ถ้าฉันได้ล้างแค้นให้กับพ่อของฉัน

                “แต่ถ้าคุณฆ่ามัน คุณก็ต้องติดคุกติดตาราง อนาคตแห่งหน้าที่การงานของคุณที่จะก้าวหน้ามันจะมืดดับนะฉันนิ่งและเงียบไปครู่หนึ่ง

                ฉันขอร้องนะคุณ เรื่องนี้ถือว่าคุณช่วยฉันได้ไหม

    ผู้กองก็นิ่งและเงียบไปเหมือนฉันคราวก่อน เหมือนกับคิดอะไรอยู่บางอย่าง

                ถ้าคุณจะทำ ผมก็ห้ามคุณไม่ได้หรอก  เพราะว่าพ่อของใครใครก็รัก มันเป็นธรรมดาที่คนเราจะต้องแค้น แต่ผมขอให้คุณระวังตัวให้มากเลยนะ ผมเห็น

    แล้วว่ามันไม่ปลอดภัยจริงๆผู้กองพูดประมานว่า น้ำเชี่ยว อย่าเอาเรือไปขวาง

                ขอบใจคุณมากเลยนะ ผู้กองวัชระ เรื่องนี้ฉันจะเก็บเป็นความลับ เพื่อนมิให้ทางราชการรู้ ฉันสัญญา

    หลังจากนั้นฉันก็พยายามตัดใจเดินออกมาจากที่นั่นด้วยความเจ็บปวด ฉันรู้ว่าเขาเป็นห่วงฉัน เขาหวังดีกับฉัน แต่ฉันจำเป็นที่จะต้องทำ

               เปี๊ยกณัฐวัฒน์เรียกลูกสมุนให้ไปพบเค้า หลังจากที่กลับมาจากงานเลี้ยง

                “ครับนาย นายมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ

                “ฉันมีงานให้แกทำ

                “ว่ามาเลยครับนายเปี๊ยกถาม

                  “ฉันจะให้โอกาส แกไปจัดการเก็บไอ้นักธุรกิจที่เพื่อนแกเก็บผิดตัว

    อีกครั้งหนึ่ง  ฉันแอบฟังอยู่ข้างประตู แล้วฉันก็เริ่มจะสงสัยในคำพูดของนายณัฐวัฒน์ที่พูดประมานว่าฆ่าผิดคน

                นายหมายถึง คนที่หนีไปได้ตอนที่ไอปิงมันยิงผิดตัวนั่นหรอครับ

                “ใช่ ตอนนี้มันยังไม่ตาย มันเคยหนีออกนอกประเทศไปครั้งหนึ่ง มันคงจะคิดว่าตำรวจคงจะจับตัวบงการได้แล้ว มันก็เลยกลับมา ตอนนี้มีสายของฉันรายงานเข้ามาว่า มันหลบอยู่ที่บ้านของมัน แต่ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ มันจะไปสัมมนากลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน ซึ่งฉันก็ต้องไปร่วมงานนี้ด้วย แกไปจัดการกับมันซะ

                “ได้ครับนาย เปี๊ยกรับปาก

    เปี๊ยกเดินออกมาแล้วทำหน้าหนักใจ ราวกับว่าไม่อยากทำงานชิ้นนี้

                “เปี๊ยก มีอะไรรึเปล่าฉันสงสัย

                งานที่นายสั่งให้ทำครั้งนี้ ไม่ใช่เบาะๆเหมือนครั้งก่อนๆ

                “ทำไมหรอ

                “ก็นักธุรกิจคนนี้เค้าเป็นคู่แข่งของนาย เวลาเค้าไปไหนมาไหนก็จะมีลูกน้องที่มีฝีมืออันดับหนึ่งเป็นเกราะป้องกันตลอด วันนั้นนายสั่งให้ไอปิงไปเก็บ

    แต่  มันดันเก็บผิดตัว ไปยิงคนที่เป็นนักธุรกิจด้วยกันเสียชีวิต ตำรวจกำลังตามสืบสวนอยู่ ไอปิงตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพียงแต่มันไม่ซัดทอดว่าใครเป็นคนบงการ

                “แล้วเหตุวันนั้นเกิดขึ้นที่ไหนหรอ

                “หน้าซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งหน่ะ มันบอกว่า ลูกเมียเค้าร้องไห้กันเหมือนจะขาดใจ

           คำพูดของเปี๊ยกทำให้ฉันรู้ทันทีว่า นายณัฐวัฒน์ไม่ได้สั่งฆ่าพ่อฉัน แต่สั่งฆ่าคุณลุงนักธุรกิจที่เป็นเพื่อนกับคุณพ่อ ซึ่งนั่งรถมาด้วยกับกับครอบครัวของฉัน ฉันนั่งคิดต่อไปว่าฉันจะทำยังไงให้นายณัฐวัฒน์มันได้รับผลกรรมที่มันทำไว้ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจทำก็ตาม

    oN�l<83����=TH style='font-size:16.0pt;font-family:"Cordia New"'>         ค่ะคุณพ่อ ว่าไงค่ะ อยู่ที่ไหนแล้วฉันถามด้วยความตื่นเต้น เพราะจะได้กลับบ้านสักที

     

               พ่อรออยู่ที่หน้ากองปราบปรามฯ แล้ว ลูกลงมาเลยนะพ่อมาถึงแล้ว

                ค่ะ เดี๋ยวแตมจะลงไปค่ะฉันวางสายแล้วรีบลงไป โดยมีอีตาผู้กองศิวาลงมาส่งด้วย

    ในที่สุดเวลาที่ฉันรอคอยก็มาถึง เมื่อฉันเห็นพ่อ แม่ น้องชาย ฉันดีใจมากที่ได้พบพวกเค้า 3 คน ฉันรู้สึกคิดถึงเค้า ตลอดเวลาที่ฉันมาอยู่ที่กองปราบปรามฯ ฉันได้ติดต่อกับพวกเค้าน้อยครั้งมาก

    ฉันกลับบ้านอย่างมีความสุข แล้วฉันก็คิดว่าสิ่งที่ฉันได้รับกลับมานั้น มันคุ้มค่ากับที่ฉันหวังไว้ คุ้มค่ากับที่ฉันรอคอย อีกอย่างฉันร็สึกได้ว่าตอนนี้กำลังมีคนๆนึงที่ทำให้ฉันได้รู้จักคำว่า รักอีกด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×